ผลงานวิจัยแก้วมังกร
ด้านการใช้ปุ๋ยอินทรีย์
ปัจจุบันประเทศไทยมีการพัฒนาการผลิตในสาขาเกษตรกรรมได้ก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้เพียงพอกับความต้องการของประชากรที่สูงขึ้น ปุ๋ยจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเพิ่มผลผลิต และจากภาวะในปัจจุบัน ปุ๋ยเคมีมีราคาที่สูงขึ้นทำให้เกษตรกรมีต้นทุนการผลิตสูงขึ้น จึงมีการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์กันมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และมาตรฐานการส่งออกสินค้าเกษตร (GAP) จึงทำให้ความต้องการปุ๋ยอินทรีย์มีแนวโน้มเติบโตได้ดีตามการเติบโตของสินค้าเกษตรอินทรีย์ ผู้วิจัยจึงทำการศึกษาพฤติกรรมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการผลิตแก้วมังกร ซึ่งเป็นผลไม้ที่นิยมบริโภคและเพาะปลูกมากในปัจจุบัน
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปทางสังคม เศรษฐกิจ พฤติกรรมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อปุ๋ยอินทรีย์ของเกษตรกรที่ปลูกแก้วมังกรในจังหวัดนครปฐม ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านเศรษฐกิจสังคมกับพฤติกรรมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ โดยใช้วิธีวิจัยเชิงสำรวจ จากการสุ่มตัวอย่างเกษตรกรที่ปลูกแก้วมังกร และเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามจำนวน 40 ตัวอย่าง ซึ่งสรุปผลการศึกษาได้ดังนี้
ผลการศึกษาพบว่าเกษตรกรที่ปลูกแก้วมังกรเป็นเพศชาย มีอายุระหว่าง 51-60 ปี มีการศึกษาในระดับประถมศึกษา นับถือศาสนาพุทธ ประกอบอาชีพหลักเกษตรกรรม มีสมาชิกในครอบครัว 4-5 คน มีแรงงานในภาคการเกษตรครัวเรือนละ 2 คน และมีพื้นที่ถือครองเพื่อการเกษตรทั้งหมดเฉลี่ย 30.20 ไร่โดยส่วนใหญ่มีพื้นที่ปลูกแก้วมังกรมากกว่า 6ไร่ เกษตรกรสามารถผลิตแก้วมังกรเฉลี่ย 3537.50 กิโลกรัมต่อไร่ ราคาแก้วมังกรที่ขายได้ในปี 2552 อยู่ระหว่าง 11-15 บาทต่อกิโลกรัม มีรายได้จากการขายแก้วมังกรเฉลี่ย 347,780 บาท และมีรายจ่ายในการปลูกแก้วมังกรเฉลี่ย 155,100 บาท คิดเป็นต้นทุนในการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เฉลี่ย 20,350 บาทโดยเกษตรกรส่วนมากมีประสบการณ์มากกว่า 5 ปี ด้านพฤติกรรมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรมีความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์อยู่ในระดับดี แหล่งความรู้เกี่ยวกับปุ๋ยอินทรีย์เกษตรกรได้รับจากหน่วยงานภาคเอกชน รองลงมาคือเพื่อนบ้าน แรงจูงใจในการตัดสินใจซื้อ คือ ใช้แล้วทำให้คุณภาพของดินดีขึ้น และเป็นการลดต้นทุนในการผลิต แหล่งที่มาของปุ๋ยอินทรีย์ส่วนใหญ่เกษตรกรจะซื้อจากแหล่งผลิตอื่นและผลิตใช้เอง ชนิดของปุ๋ยอินทรีย์ที่นินมใช้ คือ ใช้ปุ๋ยคอกเพียงอย่างเดียวเป็นส่วนใหญ่ รองลงมาคือใช้ปุ๋ยหมัก รองลงมาคือใช้ปุ๋ยหมักร่วมกับปุ๋ยคอก ซึ่งการปลูกแก้วมังกรเกษตรกรส่วนใหญ่จะใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมี เพื่อเพิ่มผลผลิตและเร่งการเจริญเติบโต โดยช่วงเวลาที่ใส่ปุ๋ยอินทรีย์มากที่สุด คือ ช่วงของการเตรียมพื้นที่เพาะปลูก รองลงมาคือ ช่วงเจริญเติบโตก่อนออกดอก
2.1 การใช้ปุ๋ยคอก
ปุ๋ยที่นิยมใช้มากที่สุดคือมูลโครองลงมาคือมูลไก่ อัตราการใส่ปุ๋ยคอกต่อไร่ ใส่ 1 ตันต่อไร่ วีธีการใส่จะใส่เฉพาะหลุม ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใส่ปุ๋ยคอกเกษตรกรส่วนใหญ่นิยมใส่ขณะเตรียมพื้นที่เพาะปลูก ใส่ขณะปลูก และใส่หลังปลูก จำนวนครั้งที่ใส่ต่อหนึ่งฤดูการผลิตเกษตรกรจะใส่มากกว่า 4 ครั้ง ซึ่งเหตุผลที่เกษตรกรเลือกใช้ปุ๋ยคอกเพราะเห็นว่าปุ๋ยคอกราคาถูก รองลงมาคือหาได้ง่ายในท้องถิ่น ผลกระทบทางบวกของการใส่ปุ๋ยคอกคือ ทำให้คุณภาพดินดีขึ้น สิ่งแวดล้อมดีขึ้น ผลกระทบทางลบของการใช้ปุ๋ยคอกคือ สิ้นเปลืองแรงงาน รองลงมาเกิดการแพร่กระจายของวัชพืช
2.2 การใส่ปุ๋ยหมัก
วัสดุที่นิยมมาทำปุ๋ยหมักคือวัสดุที่เหลือจากไร่นา รองลงมาเป็นวัสดุที่เหลือจากโรงงานอุตสาหกรรม อัตราการใส่ปุ๋ยหมักจะใส่น้อยกว่า 1 ตันต่อไร่ โดยใส่รอบโคนต้น ช่วงเวลาที่ใส่จะใส่ขณะปลูกมากที่สุด ใส่1-2 ครั้ง ต่อหนึ่งฤดูการผลิต เหตุผลที่เกษตรกรเลือกใช้ปุ๋ยหมักคือ ราคาถูกรองลงมาคือหาได้ง่ายในท้องถิ่นและสามารถลดต้นทุนได้ ผลกระทบทางบวกในการใส่ปุ๋ยหมักเกษตรกรเห็นว่าใช้แล้วคุณภาพดินดีขึ้นรองลงมาทำให้ผลผลิตแก้วมังกรเพิ่มขึ้น ผลกระทบทางลบคือ สิ้นเปลืองแรงงานและทำให้เกิดโรคและแมลง
2.3 การใส่ปุ๋ยพืชสด
เกษตรกรจะใช้น้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับปุ๋ยชนิดอื่นซึ่งพืชที่เกษตรกรนิยมใช้ คือพืชตระกูลถั่ว โดยจะปลูกคลุมโคนต้นแก้วมังกรแล้วสับกลบ ช่วงเวลาที่ไถกลบคือปลูกหลังจากปลูกแก้วมังกรแล้วสับกลบ จำนวนครั้งที่ใส่ต่อหนึ่งฤดูการผลิตจะใส่เพียงครั้งเดียว สาเหตุที่เกษตรเลือกใช้ปุ๋ยพืชสดเพราะหาได้ง่ายในท้องถิ่นผลกระทบทางบวกคือคุณภาพดินดีขึ้นและผลผลิตเพิ่มขึ้น ผลกระทบทางลบคือสิ้นเปลืองแรงงานและทำให้เกิดโรคและแมลง
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อปุ๋ยอินทรีย์ แก่ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคาปัจจัยด้านการจัดจำหน่าย และปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด จากการศึกษาพบว่า ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์มีอิทธิพลอยู่ในระดับมาก ปัจจัยด้านราคามีอิทธิพลอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนปัจจัยด้านการจัดจำหน่ายมีอิทธิพลอยู่ในระดับมาก และปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาดมีอิทธิพลอยู่ในระดับปานกลาง
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจด้านผลิตภัณฑ์โดยพิจารณาในแต่ละรายการพบว่ารายการที่มีอิทธิพลมากสุดคือตรายี่ห้อสินค้าเป็นที่รู้จักแพร่หลายและคุณภาพของปุ๋ยอยู่ในระดับดี ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจด้านราคา พบว่ารายการที่มีอิทธิพลมากสุดคือราคาสินค้าสามารถต่อรองได้และระยะเวลาในการให้สินเชื่อ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจด้านการจัดจำหน่ายพบว่ารายการที่มีอิทธิพลมากสุดคือ สถานที่จัดจำหน่ายสินค้าอยู่ใกล้บ้านของเกษตรกรสามารถสั่งซื้อทางโทรศัพท์ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจด้านการส่งเสริมการตลาดพบว่ารายการที่มีอิทธิพลมากคือการจัดโปรโมชั่น(ลด แลก แจก แถม) และการโฆษณาหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นการโฆษณาทางวิทยุท้องถิ่นจากการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างเพศ อายุ พื้นที่ปลูกแก้วมังกร ราคาขายแก้วมังกร ชนิดของปุ๋ยอินทรีย์
ประสบการณ์ในการใช้ปุ๋ยกับพฤติกรรมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์(ปริมาณและความถี่) พบว่าพื้นที่ปลูกแก้วมังกร ชนิดของปุ๋ยอินทรีย์มีความสัมพันธ์กับปริมาณการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ แต่เพศ อายุ ราคาขายแก้วมังกรและประสบการณ์ในการใช้ปุ๋ยไม่มีความสัมพันธ์กับปริมาณการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ การทดสอบความสัมพันธ์ในด้านความถี่พบว่าราคาขายแก้วมังกรมีความสัมพันธ์กับความถี่ในการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ แต่เพศ อายุ พื้นที่ปลูกแก้วมังกร ชนิดของปุ๋ยอินทรีย์ ประสบการณ์ในการใช้ปุ๋ยไม่มีความสัมพันธ์กับความถี่ในการใช้ปุ๋ยอินทรีย์