-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 487 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

แก้วมังกร




หน้า: 3/5

  



ขั้นตอนการปฏิบัติบำรุงต่อแก้วมังกร  

     

1. เรียกกิ่งอ่อน 
ทางใบ :   
- ให้น้ำ 100  ล. + 25-5-5 (200 กรัม) หรือ 46-0-0 (200กรัม) สูตรใดสูตรหนึ่ง + จิ๊บเบอเรลลิน 10 กรัม + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. ฉีดพ่นพอเปียกใบ ทุก 5-7 วัน
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน                 
ทางราก :               
- ให้น้ำหมักชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง + 25-7-7 (½ กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม./เดือน
- ให้น้ำปกติ  ทุก 2-3 วัน                  

หมายเหตุ :                 
- เริ่มปฏิบัติหลังจากตัดแต่งกิ่ง                        
- แก้วมังกรเรียกใบอ่อน (ยอด) ชุดเดียวก็พอ                
- ขั้นตอนการเรียกิ่งอ่อนชุดใหม่นี้สำคัญมาก  กล่าวคือ  ถ้ากิ่งอ่อนชุดใหม่ในต้น (หลัก) เดียวกันออกไม่พร้อมกันทั้งต้น  จะทำให้การออกดอกไม่พร้อมกัน หรือออกไม่เป็นชุด  หรือออกแบบทยอยเป็นชุดเล็กชุดน้อย  ส่งผลให้ยากต่อการบำรุงเป็นอย่างมาก  แนวทางแก้ไข คือ  ต้องบำรุงเตรียมต้นตั้งแต่ก่อนตัดแต่งกิ่งให้สมบูรณ์จริงๆไว้ล่วงหน้าเท่านั้น               
- หลังจากให้ทางใบไปแล้ว 5-7 วัน ถ้าต้นใดแตกกิ่งอ่อนดีน้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ให้ฉีดพ่นซ้ำรอบสองด้วยอัตราและวิธีการเดิม  เพราะถ้าต้นแตกกิ่งอ่อนไม่พร้อมกันทั่วทั้งต้นจะส่งผลเสียหลายอย่างตั้งแต่การเร่งกิ่งอ่อนเป็นกิ่งแก่  การสะสมอาหารเพื่อการออก  การปรับ ซี/เอ็น เรโช.  การเปิดตาดอก  ซึ่งจะออกดอกไม่พร้อมกันทั่วทั้งต้น และเมื่อดอกออกไม่พร้อมกันก็กลายเป็นผลไม่พร้อมกัน ทำให้ยุ่งยากต่อการปฏิบัติบำรุงตามขั้นตอนอย่างมาก......แก้ไขโดยต้องบำรุงเรียกกิ่งอ่อนให้ออกมาเป็นชุดเดียวพร้อมกันทั้งต้นให้ได้               
- เมื่อใบอ่อน (ยอด) ยาวประมาณ 30-50 ซม.ให้เข้าสู่ขั้นตอนเร่งใบอ่อนให้เป็นใบแก่
       

2. เร่งกิ่งอ่อนเป็นใบแก่ 
ทางใบ  :               
- ให้น้ำ 100 ล. + 0-21-74 (200 กรัม) หรือ 0-39-39 (200 กรัม) สูตรใดสูตรหนึ่ง)+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+ ฮอร์โมนไข่ 50 ซีซี.+ แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.ฉีดพ่นพอเปียกใบ  2 รอบ  ห่างกันรอบละ 5-7 วัน
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน                
ทางราก  :                
- ให้  8-24-24 (1/2-1 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม.               
- ให้น้ำปกติ  ทุก 2-3 วัน               

หมายเหตุ :               
-  เริ่มปฏิบัติเมื่อกิ่งที่ต้องการให้ออกดอกยาวประมาณ 30 ซม.               
- ขั้นตอนการเร่งกิ่งอ่อนเป็นกิ่งแก่ในแก้วมังกรไม่จำเป็นนัก การปฏิบัติต้องระวังเพราะอาจจะทำให้กิ่งนั้นกลายเป็นกิ่งสั้นแต่แก่จัด แม้ออกดอกติดผลได้แต่ได้จำนวนดอกและผลไม่มาก
- สารอาหารในกลุ่มเร่งใบอ่อนเป็นใบแก่ซึ่งมีฟอสฟอรัส.และโปแตสเซียม. นอกจากช่วยเร่งใบให้เป็นใบแก่แล้วยังช่วยเสริมประสิทธิภาพขั้นตอนสะสมอาหารเพื่อการออกดอกได้ด้วย
- กิ่งหางหนูเรียวเล็กยาวหรือกิ่งปกติแต่ค่อนข้างยาว ถ้าต้องการให้กิ่งนั้นแก่และไม่ยาวต่อไปอีกให้เด็ดปลาย 2-3 ข้อทิ้งไป  กิ่งนั้นจะไม่เจริญทางยาวแต่เจริญทางข้างจนกลายเป็นกิ่งใหญ่ได้
             

3. สะสมอาหารเพื่อการออกดอก                  
ทางใบ  :               
สูตร 1
               
- ให้น้ำ 100 ล. + 0-42-56 (200 กรัม) + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100  ซีซี. + แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร  250  ซีซี.                  
สูตร 2                  
- ให้น้ำ 100 ล. + ฮอร์โมนไข่  50 ซีซี.+ แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร  250 ซีซี. ในรอบ 7 วันให้สูตร 1 สลับกับสูตร 2 อย่างละครั้ง  ฉีดพ่นพอเปียกใบติดต่อกันอย่างน้อย 1 เดือน
ทางราก  :               
- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง + 8-24-24 หรือ 9-26-26 (½-1 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม./เดือน
- ให้น้ำปกติ  ทุก 2-3 วัน                  

หมายเหตุ  :               
- เริ่มปฏิบัติเมื่อกิ่งที่ต้องการให้ออกดอกติดผลยาวประมาณ 50-80 ซม.               
- ปริมาณการให้  8-24-24  หรือ 9-26-26  มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณการติดผลรุ่นที่ผ่านมา ถ้ารุ่นที่ผ่านมาติดผลดกมากให้ใส่ตามอัตรากำหนดหรือใส่มากขึ้น ถ้ารุ่นที่ผ่านมาติดผลน้อยหรือไม่ติดเลยให้ใส่ต่ำกว่าอัตรากำหนดหรือใส่ปานกลาง                 
- แนวทางบำรุงให้ต้นได้สะสมอาหารเพื่อการออกดอกไว้มากที่สุดควรเตรียมแผนใช้เวลาบำรุง 2-2 เดือนครึ่ง 
- ปริมาณสารอาหารเพื่อการสะสมตาดอกที่ต้นได้รับจำนวน 3 ใน 4 ส่วน ไปจากดินที่ผ่านการเตรียมมาอย่างดี ส่วนการให้ทางใบเป็นเพียงเสริมเท่านั้น                       

4. ปรับ ซี/เอ็น เรโช                 
ทางใบ  :               
สูตร 1
               
- ให้น้ำ 100 ล.+ 0-42-56(200 กรัม)+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+ แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.
สูตร 2                
ให้น้ำ 100  ล. + ฮอร์โมนไข่  50 ซีซี.+ แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. ในรอบ 7 วันให้สูตร 1 สลับกับสูตร 2 อย่างละครั้ง ฉีดพ่นพอเปียกใบไม่ให้ตกลงพื้น
ทางราก :               
- เปิดหน้าดินโคนต้นให้แสงแดดส่องถึง               
- งดให้น้ำเด็ดขาด   สวนยกร่องน้ำหล่อจะต้องสูบน้ำออกให้หมด               

หมายเหตุ  :               
- เริ่มปฏิบัติเมื่อได้สะสมอาหารจนต้นมีความสมบูรณ์เต็มที่และสภาพอากาศเอื้ออำนวย               
- ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงขั้นต่อไป คือ ปรับ ซี/เอ็น เรโช. ให้ทบทวนความทรงจำเมื่อครั้งเรียกกิ่งอ่อนแล้วกิ่งอ่อนออกมาพร้อมกันเป็นชุดเดียวทั่วทั้งต้นหรือไม่ ถ้ากิ่งอ่อนออกมาพร้อมกันดีทั่วทั้งต้นให้ปรับ ซี/เอ็น เรโช.ต่อไปได้เลย  แต่ถ้ากิ่งอ่อนออกมาไม่พร้อมกันเป็นชุดเดียวทั่วทั้งต้นและค่อนข้างต่างรุ่นกันมากก็ให้บำรุงสะสมอาหารเพื่อการออกดอกต่อไปอีก 2-3 รอบ เพื่อรอให้กิ่งอ่อนชุดหลังสะสมอาหารจนอั้นตาดอกดีเท่ากับกิ่งอ่อนชุดแรกจากนั้นจึงลงมือปรับ ซี/เอ็น เรโช.  ทั้งนี้วัตถุประสงค์เพื่อทำให้มีดอกออกมาพร้อมกันเป็นชุดเดียวกันทั่วทั้งต้นนั่นเอง
- จากประสบการณ์ตรงพบว่าการปรับ ซี/เอ็น เรโช ด้วยวิธีงดน้ำและเปิดหน้าดินโคนต้นนั้นไม่ใช่สิ่งจำเป็น  เพราะแก้วมังกรเป็นพืชอวบน้ำ  แม้จะงดน้ำอย่างไรใบหรือกิ่งก็ไม่สลด  ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเน้นที่การบำรุง  “สะสมอาหารเพื่อการออกดอก”  เป็นหลัก               
- ต้นที่มีอาการอั้นตาดอกดีจนพอใจแล้วไม่ต้องฉีดพ่นกลูโคสหรือนมสัตว์สดเพิ่มอีก  แต่ถ้าต้นมีอาการอั้นตาดอกไม่ดีหรือยังไม่น่าพอใจ  แนะนำให้ฉีดพ่นกลูโคสหรือนมสัตว์ทางใบอีกซ้ำอีก 1 รอบ  โดยเว้นระยะเวลาให้ห่างจากที่เคยให้เมื่อช่วงสะสมอาหารไม่น้อยกว่า 20-30 วัน
- มาตรการเสริมด้วยให้แสงไฟขนาด 60-100 วัตต์ช่วงหลังพระอาทิตย์สิ้นแสงวันละ 2-3 ชม.และก่อนพระอาทิตย์ขึ้นอีก 1-2 ชม.ติดต่อกัน 1-2 สัปดาห์จะช่วยให้เกิดการสะสมเพิ่ม ซี.และลด เอ็น.ได้มาก

5. สำรวจความพร้อมของต้น                  
- ก้านใหญ่   สีเปลือกเขียวเข้ม  ปลายก้านโค้งมนด้วน               
- ตุ่มตาใต้หนามนูนยาวชี้เข้าหากลางกิ่งทั้งสองด้านของกิ่ง               
- สีหนามเป็นสีน้ำตาลไหม้หรือดำคล้ำ   แข็ง  เมื่อใช้ปลายนิ้วสะกิดเบาจะหลุดร่วง
- ตรวจตาด้วยการสุ่มดึงหนามใดหนามหนึ่งขึ้นมาดู  ถ้าเนื้อใต้หนามเป็นสีเหลืองแสดงว่าอั้นตาดอกดี  แต่ถ้ายังเป็นสีเขียวอยู่แสดงว่าอั้นตาดอกไม่ดี               

หมายเหตุ               
เริ่มปฏิบัติพร้อมๆกันกับการปรับ ซี/เอ็น เรโช       

6. เปิดตาดอก                     
ทางใบ :               
วิธีที่ 1
               
- ในรอบ 7 วันให้น้ำ 100 ล. + 0-42-56 (200 กรัม) + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี. + สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.  1 รอบกับให้น้ำ 100 ล. + ฮอร์โมนไข่ 100 ซีซี. + สาหร่ายทะเล 50 กรัม + สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. อีก 1 รอบ  ฉีดพ่นพอเปียกใบ  อย่าให้ลงถึงพื้น
วิธีที่ 2               
- ใช้ฮอร์โมนเปิดตาดอกแก้วมังกรโดยเฉพาะ โดยใช้ปลายเล็บขูดผิวเปลือกบริเวณตุ่มตา (ใต้หนาม) ออกก่อนแล้วใช้ปลายพู่กันจุ่มฮอร์โมนเข้มข้นทาหรือป้ายบนผิวเปลือกที่ขูดนั้น ฮอร์โมนจะซึมผ่านเข้าสู่ภายในได้ดีขึ้น ใช้ฮอร์โมนป้ายตาอั้นตาดอกเต็มที่แล้ว 2-3 ตา/กิ่ง แต่ละตาห่างกัน 2-3 ข้อ
                
ทางราก  :               
- ยังคงเปิดหน้าดินโคนต้น               
- ยังคงงดน้ำ               

หมายเหตุ :               
- เริ่มปฏิบัติหลังจากต้นมีอาการอั้นตาดอกเต็มที่และสภาพอากาศพร้อม                
- แก้วมังกรตอบสนองต่อปุ๋ยน้ำชีวภาพและฮอร์โมนธรรมชาติ (ทำเอง) ดีมาก การใช้เพียงฮอร์โมนไข่ที่มีสาหร่ายทะเลเป็นส่วนผสมอยู่ด้วยเปิดตาดอกก็สามารถออกดอกได้ ถ้าต้นได้รับการสะสมอาหารเพื่อการออกดอกและปรับ ซี/เอ็น เรโช.มาดี               
- ถ้าดอกออกมาไม่มากพอ ระหว่างที่ดอกชุดแรกยังเป็นดอกตูมอยู่นั้น ให้เปิดตาดอกซ้ำอีก 1-2 รอบด้วยสูตรเดิม หรือจนกระทั่งดอกชุดแรกบานแล้วจึงยุติการเปิดตาดอกซ้ำ     

7. บำรุงดอก                 
ทางใบ :               
- ให้น้ำ 100 ล.+ 15-45-15(200 กรัม)+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+ เอ็นเอเอ. 100 ซีซี.+ ฮอร์โมนไข่ 50 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. ฉีดพ่นพอเปียกใบ ทุก 5-7 วัน
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน               
ทางราก :               
- ยังคงเปิดหน้าดินโคนต้น               
- ให้ 8-24-24 (1/2 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม.                   
- ให้น้ำเล็กน้อยพอต้นรู้ตัว  ทุก 2-3 วัน               

หมายเหตุ :               
- เริ่มปฏิบัติเมื่อดอกขนาดเท่าปลายตะเกียบหรือเมล็ดถั่วเขียว               
- ดอกแก้วมังกรบานและต้องการผสมเกสรช่วงกลางคืน (19.00-21.00) โดยลมพัด  ถ้าไม่มีลมพัดช่วยส่งละอองเกสรตัวผู้ก็ต้องช่วยผสมด้วยมือ  โดยเด็ดดอกแก้วมังกรจากต้นอื่นไปแหย่ใส่ให้กับอีกดอกหนึ่ง  โดยให้ละอองเกสรตัวผู้ของดอกที่เด็ดมาสัมผัสกับเกสรตัวเมียของต้นที่เก็บดอกไว้  หรือเก็บเกสรตัวผู้ใส่กล่องพ่นเกสร (ใช้ผสมเกสรทุเรียน-สละ) ฉีดพ่นใส่ดอกที่กำลังบานก็ได้ ผลที่เกิดจากดอกที่ได้รับการช่วยผสมด้วยมือจะเป็นสมบูรณ์และขนาดใหญ่เสมอ               
- ดอกแก้วมังกรบานพร้อมผสมแล้วมีฝนตกชุก  ผลที่เกิดมาจะเล็กหรือแคระแกร็น
- ช่วงดอกตั้งแต่เริ่มแทงออกมาให้เห็นหรือระยะดอกตูม บำรุงด้วยฮอร์โมนเอ็นเอเอ. 1 รอบ จะช่วยบำรุงเกสรทั้งตัวผู้และตัวเมียให้สมบูรณ์พร้อมรับผสม แต่ต้องใช้ด้วยระมัดระวังเพราะถ้าให้เข้มข้นเกินไปจะเกิดความเสียหายต่อดอกและถ้าให้อ่อนเกินไปก็จะไม่ได้ผล               
- ช่วงดอกเริ่มแทงออกมาใหม่ๆให้แคลเซียม โบรอน.  1 รอบ  จะช่วยให้ดอกสมบูรณ์ผสมติดดี
- ช่วงดอกตูมควรฉีดพ่นสารสัดสมุนไพรบ่อยขึ้น เพื่อป้องกันโรคและแมลงจนถึงช่วงดอกบาน
- ช่วงดอกบานงดการฉีดพ่นทางใบ เพราะอาจทำให้เกสรเปียกชื้นจนผสมไม่ติดได้
- ระยะดอกบานถ้าตรงกับช่วงฝนชุกเกสรจะเปียกชื้นทำให้ผสมไม่ติด แก้ไขโดยกะระยะให้ดอกออกมาแล้วไม่ตรงกับช่วงฝนชุกเท่านั้น แต่ถ้าดอกออกมาตรงกับช่วงแล้งอากาศร้อนมากเกสรจะฝ่อทำให้ผสมไม่ติดได้เช่นกัน แก้ไขโดยการสร้างความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศและที่พื้นดิน ทั้งในแปลงปลูกและรอบๆแปลงปลูก.......มาตรการบำรุงต้นและดอกให้สมบูรณ์อย่างแท้จริงอยู่เสมอตั้งแต่เริ่มต้นจะช่วยลดความสูญเสียได้เป็นอย่างมาก 
- เพื่อความมั่นใจในเปอร์เซ็นต์หรือประสิทธิภาพของฮอร์โมน เอ็นเอเอ. แนะนำให้ใช้ฮอร์โมน เอ็นเอเอ.วิทยาศาสตร์แทนฮอร์โมน เอ็นเอเอ.ทำเองจะได้ผลกว่า                  
- ฉีดพ่นสารอาหารเพื่อบำรุงดอกด้วยเครื่องมือฉีดพ่นที่มีแรงลมพ่นเบาที่สุดตามความเหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อส่วนต่างๆของดอก  ฉีดพ่นที่ช่อดอกโดยตรงพอเปียกหรือฉีดพ่นให้ทั่งทรงพุ่มพอเปียกใบก็ได้
- บำรุงดอกช่วงฝนชุกให้เน้น  “สังกะสี และ แคลเซียม โบรอน”  โดยให้เมื่อดอกออกมาแล้วหรือให้แบบสะสมล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงเปิดตาดอก  ให้เดี่ยวๆหรือผสมรวมไปกับธาตุอาหารอื่นๆก็ได้
      

8. บำรุงผลเล็ก - ผลกลาง                       
ทางใบ :               
- ในรอบ 7 วันให้น้ำ 100 ล.+ 21-7-14(200 กรัม) + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี. + ไคโตซาน 100 ซีซี.+ แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. ทุก 5-7 วัน ฉีดพ่นพอเปียกใบ
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน                 
ทางราก :               
- นำปุ๋ยหมัก  ปุ๋ยอินทรีย์  กลับเข้าคลุมโคนต้นอย่างเดิม               
- ใส่ยิบซั่มธรรมชาติ 10 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการใส่เมื่อช่วงเตรียมดิน                
- ใส่น้ำหมักชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง + 21-7-14 (½-1 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม.
- ให้น้ำปกติ  ทุก 2-3 วัน               

หมายเหตุ :               
- เริ่มปฏิบัติหลังจากกลีบดอกร่วงหรือระยะ 1 สัปดาห์แรก               
- เนื่องจากอายุการเจริญเติบโตของผลแก้วมังกรมีระยะสั้นมาก  ตั้งแต่ผสมติดถึงเก็บเกี่ยวเพียง 1 เดือนหรือ 4 สัปดาห์เท่านั้น  การใส่ปุ๋ยทางรากสูตร 21-7-14  แบบแบ่งใส่ 2-3 ครั้งๆละ 1 กำมือ/สัปดาห์จะได้ผลกว่าการใส่ครั้งเดียว               
- ถ้าติดผลดกมากควรให้แม็กเนเซียม.  ฮอร์โมน เอ็นเอ.  ฮอร์โมนไข่. 1-2 รอบ โดยแบ่งให้ตลอดช่วงผลขนาดกลางจะช่วยให้ต้นไม่โทรมเนื่องจากแบกภาระเลี้ยงผลจำนวนมากบนต้น
- ให้จิ๊บเบอเรลลิน 100 กรัม/น้ำ 100 ล. ฉีดพ่น 1 รอบ สามารถแก้อาการผลแตกได้ระดับหนึ่ง  แต่หากได้ใช้สลับครั้งกับแคลเซียม โบรอน.จะแก้อาการผลแตกได้แน่นอนยิ่งขึ้น 
- ให้ทางใบด้วย ธาตุรอง/ธาตุเสริม  1-2  รอบ โดยแบ่งให้ตลอดช่วงผลกลางจะช่วยบำรุงขยายขนาดผลให้ใหญ่และเนื้อแน่นขึ้นแต่เมล็ดมีขนาดเท่าเดิม                       

9. บำรุงผลแก่ก่อนเก็บเกี่ยว               
ทางใบ :               
- ให้น้ำ 100 ล. + 0-21-74  หรือ  0-0-50 สูตรใดสูตรหนึ่ง (200 กรัม) + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี. + แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี  หรือ  น้ำ 100 ล. + มูลค้างคาวสกัด 100 ซีซี.+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. 1-2 รอบ  ห่างกันรอบละ 5-7 วัน ก่อนเก็บเกี่ยว ฉีดพ่นพอเปียกใบ
-  ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน                   
ทางราก  :               
- เปิดหน้าดินโคนต้น               
- ให้ 13-13-21 หรือ 8-24-24 สูตรใดสูตรหนึ่ง (1/2-1 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม.
- งดน้ำ               

หมายเหตุ :               
- เริ่มปฏิบัติก่อนเก็บเกี่ยว 7-10 วัน               
- ระยะเวลาในการบำรุงผลแก่ก่อนเก็บเกี่ยวเพียง 1 สัปดาห์  ให้ 2 รอบห่างกันรอบละ 3-5 วัน  จะช่วยให้สีจัดรสดี  เนื้อแห้งกรอบ               
- ผลแก่แล้วสามารถยืดอายุการเก็บเกี่ยวได้ 7-10 วัน  โดยที่ผลแก่จัดมีสีแดงเต็มผลแล้วถ้ายังไม่เก็บเกี่ยว ผลจะเป็นสีชมพูอมแดง (ไม่แดงจัดเหมือนครั้งแรก) แต่คุณภาพภายในผลยังดีเหมือนเดิมหรือดีขึ้นกว่าเดิม
- การบำรุงผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวโดยให้ทางรากด้วย 8-24-24 เหมาะสำหรับต้นที่มีผลหลายรุ่นซึ่งหลังจากเก็บเกี่ยวผลแก่รุ่นแรกไปแล้วจะช่วยบำรุงผลชุดหลังต่อ นอกจากนี้ยังทำให้ต้นไม่โทรมเหมาะสำหรับการเตรียมความพร้อมต้นต่อการปฏิบัติบำรุงรุ่นปีต่อไปอีกด้วย 

 



การบังคับแก้วมังกรให้ออกก่อนฤดูกาล


-  เดือน  ก.ค.- ส.ค.     ตัดแต่งกิ่ง  เรียกใบอ่อน
-  เดือน  ก.ย.- ต.ค.     สะสมอาหารเพื่อการออกดอก
-  เดือน  พ.ย.- ธ.ค.     สะสมอาหารเพื่อการออกดอกพร้อมกับให้แสง ไฟขนาด 100
                       วัตต์ 1 หลอด/4 ต้น ช่วง เวลา 18.00-21.00 น.
                       และ 05.00-06.00 น.ทุกวัน  ตลอด  1 เดือน
-  เดือน ม.ค.            เปิดตาดอก
-  เดือน ก.พ.            บำรุงผล                        

หมายเหตุ  :                       
- การให้แสงไฟวันละ 2-4 ชม.หลังพระอาทิตย์สิ้นแสง ช่วงอากาศหนาว (พ.ย.-ธ.ค.) ต้องใช้ระยะเวลานาน 20-25 วันขึ้นไป  แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าแล้งใช้ระยะเวลาให้ประมาณ 15-20 วัน  ซึ่งดอกที่ออกมาจะดกกว่าช่วงอากาศปกติที่ไม่มีการให้แสงไฟ....ในฤดูกาลปกติถ้ามีการให้แสงไฟก็จะช่วยให้ออกดอกดีและดกกว่าการไม่ให้แสงไฟ                       
- การบังคับให้ออกนอกฤดูจะสำเร็จได้ ต้นต้องได้รับการบำรุงอย่างดี มีการจัดการปัจจัยพื้นฐานด้านการเกษตร (ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค) อย่างถูกต้องสม่ำเสมอจนต้นสมบูรณ์เต็มที่ และไม่ควรปล่อยให้ออกดอกติดผลในฤดูกาลมาก่อน    




หน้าก่อน หน้าก่อน (2/5) - หน้าถัดไป (4/5) หน้าถัดไป


Content ©