-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 558 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

นาข้าว







รักษาโรคไหม้ข้าวแบบปลอดสารพิษ  

            
ผมได้รับจดหมาย จากเกษตรกรท่านหนึ่ง....ก็คงจะอึดอัดใจกับ โครงการประกันรายได้ ของปี 2552 นี้ ซึ่ง เจ้าหน้าที่เกษตร (ของหน่วยงานรัฐ) กับเกษตรกรมีความเข้าใจไม่ตรงกัน ว่าการประกันรายได้นั้นเกษตรกรต้องขายผลิตผล หรือไม่ต้องขายก็ยังให้ช่วยเหลือ
         
จากนั้นก็ร่ายยาวมาเป็นข้อๆว่า...ใน การประกันราคาข้าวนาปีนั้น ผู้ปลูกข้าวไร่จะเข้าร่วมโครงการนี้ได้หรือไม่ เพราะบางจังหวัดบอกว่าข้าวไร่ ก็มีสิทธิด้วย อะไรเทือกนั้น
         
ผู้ปลูกข้าวไว้บริโภคเองภายในครัวเรือน ไม่ได้ขายผลผลิตจะได้รับเงินชดเชยช่วยเหลือด้วยหรือไม่ และคำจำกัดความที่ว่า ประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกพืช หมายถึงว่า ต้องทำเพื่อขายเท่านั้น หรือว่าผู้ปลูกพืชชนิดนั้นๆทางรัฐก็ช่วยเหลือทุกคน...ก็เป็นคำถามที่วนไปวนมา ผมเองก็ตอบไม่ได้ เนื่องจากมิได้เป็นผู้กำหนดหรือนำไปปฏิบัติ คงจะส่งต่อให้กับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรว่า....ระดับ และ ขั้นตอนไหนจึงจะได้รับการดูแลจากรัฐ
         
พูดถึง ข้าวนาปี ผมได้รับข้อมูลจากจังหวัดพะเยา ก็คงจะใกล้กับพื้นที่ของจดหมายที่นำลง ในเบื้องต้น คุณราเชนทร์ สุวรรณหิตาทร เกษตรจังหวัดฯบอกว่า...ช่วงระยะนี้สภาพภูมิอากาศในพื้นที่อยู่กับปลายฝนต้นหนาว ทำให้ กลางคืนมีอุณหภูมิต่ำ และมีความชื้นในอากาศค่อนข้างสูง...เอื้อต่อการแพร่ระบาดของเชื้อราโรคไหม้
         
ซึ่ง....อาการของโรคไหม้ข้าวนี้จะมีแผลช้ำสีน้ำตาลดำ ใบจะหลุดออกจากกาบ หากระบาดในช่วงข้าวแตกรวงจะส่งผลให้เมล็ดข้าวลีบ แต่ถ้าในช่วงใกล้เก็บเกี่ยวก็จะทำให้คอรวงเปราะหักพับหล่นเสียหาย....โรคนี้ถือว่าร้ายพอสมควร เนื่องจากสามารถเข้าทำลายต้นข้าวไปในทุกช่วงระยะการเจริญเติบโต 
         
ทั่วโลกได้มีการแก้ไขด้วยการนำหินแร่ภูเขาไฟเติมลงไปในนาข้าว ต้นข้าวจะดูดเอาซิลิคอนขึ้นไปสะสมกับผนังเซลล์ในรูปของควอร์ท โอปอและซิลิเกต ซึ่งจะสร้างภูมิคุ้มกันให้ ในระดับหนึ่ง อาจถึง 70-80 เปอร์เซ็นต์....ทำให้ยากต่อการทำลายของเชื้อรา
         
นอกจากนี้ ยังสามารถแก้ไขได้ด้วยระบบชีววิธี คือ ใช้เชื้อจุลินทรีย์ ที่ถูกเลือกสรรมาจากโตบาซิลลัส ซับธิลิส มาใช้โดยการนำเอาบีเอสพลายแก้ว ประมาณ 5 กรัม หมักกับ น้ำมะพร้าวอ่อน หนึ่งผล ทิ้งไว้ 1 ถึง 2 วัน (48 ชั่วโมง)...
         
แล้ว....นำมา ผสมน้ำ 1 ปี๊บ (20 ลิตร) ฉีดพ่นให้ทั่วแปลงทั้งใต้ใบบนใบ ก็จะทำให้การรักษาโรคไหม้ของข้าวมีประสิทธิภาพ ให้เกิดประสิทธิผลอย่างสมบูรณ์ที่สุด
         
เกษตรกรรายใดกำลังจะประสบปัญหาภัยในนาข้าว หรืออยากได้ความรู้เพิ่มเติม ติดต่อสอบถามได้ที่ กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต สำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยา โทร. 0-5488-7050 Fax 0-5488-7051 เวลาราชการ.

         

     
ที่มา  :  ไทยรัฐ









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-06-06 (1457 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©