หน้า: 1/3
มันเทศ
1.พันธุ์ ได้แแก่
1.1 พันธุ์โอกุด เถาเลื้อยยาวพอควร ใบเป็นแฉก เนื้อในสีเหลืองอ่อนนิยมมากในบ้านเรา
1.2 พันธุ์ไทจุง เถาไม่เลื้อยมากนัก ลำต้นลักษณะคล้ายทรงพุ่ม ใบเป็นแฉก หัวรูปร่างคล้ายรูปไข่ เนื้อในมีสีเหลีองต้มหรือนึ่งจะไม่เละ
1.3 พันธุ์ห้วยสีทน 1 เถาว์เลื้อยยาว ใบกว้างพอประมาณ เนื้อในสีแดงรสหวาน
2. การเตรียมดิน ควรไถดินลึกไม่ตํ่ากว่า 25-30 เซนติเมตรตากดิน 7-10 วันใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้วประมาณ 1.5-2 ตันต ่อไร่พรวนดินหรือย่อยดินคลุกเคล้าให้เข้ากันและควรใส่ปูนขาวเพื่อ ปรับสภาพดินด้วย ทำการยกร่องแบบร่องปลูกข้าวโพดหวานเพื่อจะปลูกบนสันร่อง
3. การปลูก ใช้ระยะปลูกระหว่างต้น 30-50 เซนติเมตรระหว่างแถว 100 เซนติเมตรขุดหลุมบนสันร่องตามระยะปลูกใช้ท่อนพันธุ์วางทำมุมกับพื้นประมาณ 40-60 องศา ลึกลงไปในดินประมาณ 8-10 เซนติเมตรกลบดินด้วยดินผสมหรือดินละเอียดรดนํ้าให้ช่ม
4. การให้นํ้า ระยะแรกที่ปลูกต้องให้นํ้าจนกว่าจะติดหรือเจริญเติบโตดีแล้วสามารถงดการให้นํ้าได้
เพราะมันเทศเป็นพืชทนแล้งได้ดีและคารงดการไห้นํ้าก่อนการเก็บเกี่ยวประมาณ 3-4 สัปดาห์เพื่อสะดวกในการขุดหัว
5. การใส่ปุ๋ย ครั้งแรกใส่รองก้นหลุมใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 10-10-20 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ครั้งที่ 2 เมื่อต้นมันอายุได้ประมาณ 15 วัน และครั้งที่ 3 เมื่อมันอายุได้ 30 วันอัตรา 50-100 กิโลกรัมต่อไร่ตามความอุดมสมบูรณ์ของดินแล้วพรวนดินกลบโคน
7. การเก็บเกี่ยว อายุการเก็บเกี่ยวหัวมันเทศประมาณ 90-150 วันแล้วแต่พันธุ์ที่ปลูกสังเกตุจากผิวต้นบริเวณโคนต้นมันเทศจะแตกแยกออกเป็นรอยหรือทดลองขุดดูสัก 2-3 ต้นใช้มีดตัดหัวมันเทศถ้าแก่เต็มที่รอยตัดจะมียางไหลซึมออกมาและแห้งไปอย่งรวดเร็ว การขุดต้องระมัดระวังอย่าให้บอบชํ้าหรือมีรอยแผล นำหัวที่ขุดมาไปผึ่งลมให้ดินที่ติดมาแห้งและหลุดร่วงไป ทำความสะอาด คัดขนาดบรรจุถุงรอการจำหน่าย
8. โรค โรคใบจุด โรคหัวเน่าควรฉีดพ่นด้วย มาเน็บ หรือรอยตัดที่หัวหรือแผลทาด้วยนํ้าปูนใสหรือบอร์โดมิกซ์เจอร์
9. แมลง ไดแก่ ด้วงงวงมันเทศ หนอนชอนใบมันเทศควรฉีด พ่นด้วยคาร์โบซัลแฟนหรือใช้รองก้นหลุม ด้วยคาร์โบซัลแฟน หรือคาร์โบฟูรานและฉีดพ่นด้วย อะบาเม็กติน
ที่มา : กรมวิชาการเกษตร
********************************************************************************************************
มันเทศ
ลักษณะทางธรรมชาติ
* เป็นพืชตระกูลเถามีหัวเป็นแหล่งสะสมอาหาร อายุสั้นฤดูกาลเดียวแต่ขยายพันธุ์เป็นปลูกได้
หลายรุ่น ปลูกได้ทุกพื้นที่ ทุกภาค และทุกฤดูกาล เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย มี
อินทรีย์วัตถุมากๆ ระบายน้ำดี ต้องการน้ำสม่ำเสมอแต่ค่อนข้างน้อย ไม่ทนต่อสภาพน้ำท่วมขัง
ค้างนาน
* ปลูกเดี่ยวๆเป็นพืชเศรษฐกิจหลักในแปลงที่เตรียมไว้เฉพาะ รุ่นแรกปลูกช่วงเดือน พ.ค.
(ต้นฝน)จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ช่วงเดือน ส.ค. รุ่นสองปลูกช่วงเดือน ก.ย.(ปลายฝน)จะเก็บเกี่ยว
ผลผลิตได้ช่วงเดือน ก.ย.- พ.ย. ซึ่งรุ่นนี้จะได้ผลผลิตน้อยกว่ารุ่นแรกเนื่องจากได้น้ำ (ฝน)น้อย
กว่า หากแก้ด้วยการให้น้ำสม่ำเสมอก็สามารถเพิ่มผลผลิตได้
* ปลูกเป็นพืชที่สองหลังนาข้าว โดยหลังจากเกี่ยวข้าวแล้วนำฟางออกเหลือแต่ตอซังกับราก
ต้นข้าวในดิน ใส่อินทรีย์วัตถุและสารปรับปรุงบำรุงดิน ไถกลบคลุกเคล้าให้เข้ากันดี ทำแปลงแล้ว
ลงมือปลูกได้เลย การปลูกมันเทศเป็นพืชที่สองในนาข้าว ควรปลูกข้าวประเภทพันธุ์เบาหรือจัดช่วงระยะ
เวลาระหว่างข้าวกับมันเทศให้เหมาะสม
* อายุการผลิต 90-150 วัน ขึ้นอยู่กับชนิดของสายพันธุ์ ตั้งแต่เริ่มปลูกถึงเก็บเกี่ยว
* มีดอกออกตามข้อใบ เป็นดอกสมบูรณ์เพศผสมตัวเองหรือต่างดอกต่างต้นได้ ดอกสามารถ
เจริญพัฒนาเป็นผลจนมีเมล็ด แล้วนำไปขยายพันธุ์ได้ แต่การขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดจะกลายพันธุ์และให้
ผลผลิตช้าจึงไม่นิยม
* ระยะต้นเล็กต้องการน้ำมากเพื่อสร้างยอด ช่วงเริ่มลงหัวต้องการสม่ำเสมอน้ำพอหน้าดินชื้น
* ต้นหรือเถาโตขึ้นเลื้อยไปกับพื้น ถ้าข้อสัมผัสหน้าดินจะมีรากแทงออกมาแล้วพัฒนาเป็นหัว
ได้ ซึ่งมันเทศ 1 เถาสามารถเกิดหัวได้ถึง 50 หัว/1 ต้นหรือเถา ไม่ควรปล่อยให้เกิดหัวตาม
ข้อเพราจะทำให้หัวที่โคนเถาด้อยคุณภาพ เมื่อเถาเจริญยาวก็ให้ยกเถาขึ้นพ้นพื้น...จากลักษณะ
ทางธรรมชาติเช่นนี้ หากเจตนาให้ข้อสัมผัสดิน มีรากแล้วเกิดหัวขึ้นมาอีก โดยจัดระเบียบให้แต่
ละข้อห่างกัน 4-5 ใบเลี้ยง แล้วปฏิบัติบำรุงให้เต็มที่อย่างแท้จริง ทั้งทางราก-ทางใบ ทั้งราก
โคนเถาและรากจากข้อที่เกิดใหม่ ก็จะช่วยให้ได้ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น
สายพันธุ์
พันธุ์เบา :
กัวเตมาลา. พม-02. นส-25. โนนาด. ซีไอ 590-33. ซีไอ 438-3. อายุ
ตั้งแต่เริ่มปลูกถึงเก็บเกี่ยว 90 วัน
พันธุ์กลาง :
ห้วยสีทน. ไทจุง. หัวโตแดง. หัวโตขาว. แม่โจ้. โนริน 03, 04. โอกุด. ร้อย
เอ็ด-7. เอไอเอส 057-4. พีไอเอส 094. ทีไอส 8250. อายุตั้งแต่เริ่มปลูกถึงเก็บเกี่ยว
120 วัน
พันธุ์หนัก :
แซนเทนเนียล. แอล-89. โรส แซนเทนเนียล. อายุตั้งแต่เริ่มปลูกถึงเก็บเกี่ยว 150 วัน
พันธุ์แนะนำ :
ทีไอเอส-8250 ผิวหัวสีน้ำตาล เนื้อเหลืองละเอียดเหนียว เปอร์เซ็นต์แป้งสูง อายุตั้งแต่
เริ่มปลูกเก็บเกี่ยว 4 เดือน ให้ผลผลิตสูงทั้งหน้าแล้งหน้าฝน 4,500-7,500 กก./ไร่
เอไอเอส-057-4 ผิวหัวสีแดง เนื้อสีส้ม อายุเก็บเกี่ยว 4 เดือน ให้ผลผลิตสูงทั้ง
หน้าแล้งหน้าฝน 4,000-6,500 กก./ไร่ เปอร์เซ็นต์แป้งสูงโนริน-03 ผิวหัวสีแดง เนื้อ
เหลือง อายุเก็บเกี่ยว 4 เดือน ให้ผลผลิตสูงทั้งหน้าแล้งหน้าฝน 4,000-6,000 กก./ไร่ อายุ
เก็บเกี่ยว 4 เดือน ผิวหัวสีแดง เนื้อเหลืองละเอียด รสหวาน
นิโกร ผิวหัวสีแดง เนื้อขาวอมม่วงเหนียวละเอียด ให้ผลผลิตสูงทั้งหน้าแล้งหน้าฝน
3,000-6,000 กก./ไร่ อายุตั้งแต่เริ่มปลูกถึงเก็บเกี่ยว 4 เดือน
ร้อยเอ็ด-7 ผิวหัวสีแดง เนื้อขาวอมม่วง อายุตั้งแต่เริ่มปลูกเก็บเกี่ยว 4 เดือน ให้
ผลผลิตสูงทั้งหน้าแล้งและหน้าฝน 4,000-5,000 กก./ไร่
พีไอเอส-094 ผิวหัวสีแดง เนื้อเหลือง อายุตั้งแต่เริ่มปลูกถึงเก็บเกี่ยว 4 เดือน
ให้ผลผลิตสูงทั้งหน้าแล้งหน้าฝน 4,000-6,500 กก./ไร่
ซีไอ-590-33 ผิวหัวสีส้ม เนื้อสีส้ม อายุตั้งแต่เริ่มปลุกถึงเก็บเกี่ยว 4 เดือน ให้ผล
ผลิตสูงทั้งหน้าฝนหน้าแล้ง 4,000-6,500 กก/ไร่
พม-03-2 ผิวหัวสีส้ม เนื้อสีส้ม อายุตั้งแต่เริ่มปลูกถึงเก็บเกี่ยว 4 เดือน ให้ผลผลิต
สูงทั้งหน้าแล้งหน้าฝน 4,500-6,500 กก./ไร่
ห้วยสีทน ผิวหัวสีส้ม เนื้อสีส้มแน่นนิ่มไม่ร่วน ลงหัวเร็ว ทนแล้ง ให้ผลผลิตสูง
ทั้งหน้าฝนหน้าแล้ง 3,000-4,000 กก./ไร่ นิยมปลูกมากที่สุด
ขยายพันธุ์
- เพาะเมล็ด : ไม่นิยมเพราะกลายพันธุ์และให้ผลผลิตช้า
- ปักเถา : นำเถามาตัดเป็นท่อน ยาวท่อนละ 20-40 ซม. แต่ละท่อนมีตาติด
อยู่ 4-5 ตา ฝังท่อนเถาลงดินให้ด้านปลายโผล่พ้นพื้นด้านเดียวหรือให้ด้านปลายโผล่พื้นพื้นทั้งสอง
ด้านก็ได้ ปลายที่โผล่มีตาซึ่งยอดใหม่จะแตกออกมาจากตาที่โผล่พ้นพื้นนี้ ตาละ 1 ต้นหรือเถา
- ปักยอด : ใช้ส่วนยอดยาว 25-45 ซม. (ไม่ต้องตัดยอดทิ้ง) อวบอ้วนสมบูรณ์
ปักดำลงดินให้มิด 1-2 ข้อ ให้ยอดชี้ไปทางทิศเดียวกันทั้งแปลง เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดเพราะโตเร็ว
ให้ผลผลิตสูง
- ปักชำ : ตัดเถาแก่หรือกลางอ่อนกลางแก่เป็นท่อน (ไม่มียอด) ยาว 2-3 ข้อ
ปักลงดินมิดข้อ 1-2 ข้อ วิธีนี้จะให้ผลผลิตช้ากว่าวิธีปักยอด
- หัวพันธุ์ : ขุดหัวที่มีเถางอกออกมา เฉือนหัวเป็นชิ้นๆ แต่ละชิ้นมีเถาติดอยู่
ด้วย นำไปปลูกได้เลย วิธีนี้โตเร็วและให้ผลผลิตดี แต่ไม่นิยมเพราะค่อนข้างยุ่งยาก
หมายเหตุ :
- ชิ้นส่วนของมันเทศที่จะใช้ทำพันธุ์ทุกวิธี หลังจากแยกออกมาจากต้นแม่มาใหม่ให้นำลงแช่
ใน “น้ำ + สังกะสี คีเลต + ธาตุรอง/ธาตุเสริม + จุลินทรีย์หน่อกล้วย” นาน 12-24
ชม. ครบกำหนดแล้วนำขึ้นผึ่งลม ทิ้งไว้ 36-48 ชม. จึงนำลงปลูกในแปลงจริง จะช่วยให้
แตกยอดใหม่และยืนต้นได้เร็วขึ้น
- หลังจากปลูกลงแปลงจริงไปแล้ว 15 วัน ถ้ายอดไหนไม่งอกหรือไม่แตกยอดใหม่ให้ปลูก
ซ่อมทันที เพื่อให้ต้นโตทันรุ่นแรก
เตรียมดิน อินทรีย์วัตถุ และแปลงปลูก
1.ไถดินเปล่าให้ขี้ไถขนาดใหญ่ ทิ้งตากแดดจัด 15-20 แดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคและกำจัด
เหง้าวัชพืช
2.ใส่อินทรีย์วัตถุ ปุ๋ยคอก (มูลวัวเนื้อ/นม + มูลไก่ไข่/เนื้อ + มูลค้างคาว) หมักข้ามปี.
ยิบซั่มธรรมชาติ. กระดูกป่น. เศษพืชบดป่น. หว่านทั่วแปลงปลูกแล้วไถพรวนอินทรียวัตถุคลุกเคล้า
ลงดินให้ทั่วถึง
3.ไถยกร่องลูกฟูก สันร่องกว้าง 1-1.20 ม. โค้งหลังเต่า สูงจากพื้นระดับ 30-50
ซม. ร่องทางเดินระหว่างสันแปลงกว้าง 1 ม. ลึก 20-30 ซม.จากพื้นระดับ
4.คลุมหน้าแปลงด้วยฟางหรือหญ้าแห้งหนาๆ
5.บ่มดินโดยรดด้วย น้ำ + จุลินทรีย์หน่อกล้วยหรือปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง (เน้น...
เลือด. มูลค้างคาว) ทุก 5-7วัน ติดต่อกันนาน 1 เดือน เพื่อให้เวลาแก่จุลินทรีย์ปรับสภาพ
ดิน กำจัดเชื้อโรค และย่อยสลายอินทรีย์วัตถุให้เป็นฮิวมิค แอซิด
6.ลงมือปลูกต้นกล้าที่เพาะไว้ล่วงหน้าแล้วโดยปลูกที่ริมสันลูกฟูกเป็น 2 แถวคู่ตรงกันหรือ
สลับฟันปลาก็ได้
หมายเหตุ :
- ดัดแปลงร่องทางเดินข้างสันลูกฟูกสำหรับปล่อยน้ำ (น้ำเปล่าหรือน้ำสารอาหาร) จากลาดสูง
ไปหาลาดต่ำเข้าไปหล่อในร่องได้ 1-2 เดือน/ครั้งจะดีมาก
- ติดตั้งระบบสปริงเกอร์เหนือยอด 30-50 ซม.สำหรับให้น้ำเปล่า น้ำสารอาหาร หรือ
สารสกัดสมุนไพรนอกจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของเนื้องานแล้วยังช่วยประหยัดทั้งเวลา
และแรงงานอีกด้วย
เตรียมสารอาหารเสริม
- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิงสูตรพืชกินหัวหรือจุลินทรีย์ 1-2 เดือน/ครั้ง
- ให้ฮอร์โมนบำรุงพืชกินหัว (มูลสัตว์ปีกสกัด)1-2 เดือน/ครั้ง หลังจากเริ่มลงหัวแล้ว
- ให้ฮอร์โมนน้ำสูตรบำรุงช่วงลงหัว 1-2 รอบ โดยแบ่งให้ตั้งแต่เริ่มลงหัวถึงเก็บเกี่ยว
หมายเหตุ :
- ฮอร์โมนธรรมชาติและฮอร์โมนวิทยาศาสตร์จะให้ประสิทธิภาพเต็มร้อยก็ต่อเมื่อ ต้นมีสภาพ
ความสมบูรณ์สูง
ระยะปลูก
ระยะห่างระหว่างต้น 25-30 ซม. ระยะห่างระหว่างแถว 1-1.20 ม. เป็นแถวคู่ตรง
กันหรือสลับฟันปลาตามความเหมาะสม
ขั้นตอนการปฏิบัติบำรุงต่อมันเทศ
1.ระยะต้นเล็ก
ทางใบ :
- ให้น้ำ 100 ล.+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร ทุก 5-7 วัน
ฉีดพ่นพอเปียกใบ ช่วงเช้าแดดจัด
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 3-5 วัน
ทางราก :
- ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 25-7-7(1-2 กก.)ไร่ ละลายน้ำแล้วปล่อยไปกับ
สปริงเกอร์หรือใส่ถังแบบสพายฉีดลงโคนต้น ทุก 15-20 วัน
- ให้น้ำพอหน้าดินชื้น ทุก 5-7 วัน
- ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 1-2 ครั้ง จะช่วยให้ต้นโตเร็ว สมบูรณ์
หมายเหตุ :
- เริ่มให้เมื่ออายุต้นได้ 1 เดือนหลังปลูกหรือมีใบแตกใหม่ 2-3 ใบ
- เมื่อเถาเริ่มเลื้อยให้สำรวจเถาทุก 1 เดือนครึ่ง - 2 เดือน ถ้าพบว่าส่วนข้อเริ่มมีรากแทง
ลงดินก็ให้ยกหรือถอนขึ้นพร้อมกับจัดระเบียบให้แต่ละเถาเลื้อยอยู่ในเขตกลางแปลงและไม่ทับซ้อนจน
บังแสงแดดกับเถาค้างเคียง
- ก่อนถึงอายุเริ่มลงหัว 1-2 สัปดาห์ ถ้าต้นหรือเถามีใบมาก หรืองามใบ หรือเฝือใบ
ให้งดน้ำหรือลดปริมาณน้ำลง จะช่วยให้ต้นหยุดเจริญทางเถาแล้วเตรียมลงหัว
2.ระยะลงหัว
ทางใบ :
- ให้น้ำ 100 ล.+ 5-10-40(400 กรัม)+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+ สังกะสี
คีเลต 50 กรัม + แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. ทุก 10-15
ฉีดพ่นพอเปียกใบ
- ให้ฮอร์โมนน้ำดำ 1-2 รอบ โดยแบ่งให้ตลอดช่วงลงหัวถึงก่อนเก็บเกี่ยว
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
ทางราก :
- ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 5-10-40(1-2 กก.)/ไร่ 2 รอบ ห่างกันรอบละ
1 เดือน ด้วยการละลายน้ำผ่านไปกับสปริงเกอร์หรือใส่ถังสพายฉีดโคนต้น
- ให้น้ำพอหน้าดินชื้น ทุก 15-20 วัน
หมายเหตุ :
- เริ่มให้เมื่ออายุต้น 4 เดือนหลังปลูกหรือเริ่มลงหัว
3.ระยะก่อนเก็บเกี่ยว
ทางใบ :
- ให้น้ำ 100 ล.+ สังกะสี คีเลต 50 กรัม + สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. ฉีดพ่นพอ
เปียกใบ 1-2 รอบ ห่างกันรอยละ 5-7 วัน ให้ครั้งสุดท้ายก่อนเก็บเกี่ยว 7-10 วัน
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร 2-3 วัน
ทางราก :
- ให้ 5-10-40(1-2 กก.)/ไร่ ละลายน้ำผ่านไปกับสปริงเกอร์หรือใส่ถังสพายฉีดโคน
ต้น หรือให้น้ำ 100 ล.+ มูลค้างคาวหมักข้ามปี 100-200 ซีซี. 1 รอบ ก่อนเก็บเกี่ยว 15-
20 วัน
- ให้ปุ๋ยแล้วงดน้ำเด็ดขาดจนถึงวันเก็บเกี่ยว
หมายเหตุ :
- เมื่อหัวแก่เต็มที่ เถาจะเริ่มโทรมอย่างเห็นได้ชัด ระยะนี้หากต้นได้รับน้ำอีกจะแตกราก
พร้อมเจริญเติบโตต่อจนเกิดหัวใหม่อีกได้
- สุ่มขุดหัวขึ้นมาเฉือนเปลือกดู ถ้ามียางไหลน้อยและแห้งเร็วแสดงว่าหัวแก่จัดแล้ว
- สำรวจผิวหน้าดินโคนต้น ถ้าพบว่ามีรอยแตกแยกยกสูงขึ้นเพราะถูกหัวมันเทศดันขึ้น
แสดงว่าหัวแก่จัดแล้ว
- ก่อนลงมือเก็บเกี่ยวงดน้ำ 10-15 วัน
มันเทศสีม่วงในถุงพลาสติก
เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าในปัจจุบันนี้การปลูกมันเทศในประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงพันธุ์ ได้มีการนำพันธุ์มันเทศจากต่างประเทศมาปลูกในเชิงพาณิชย์กันมากขึ้น อาทิ มันเทศเนื้อสีส้มจากประเทศ ออสเตรเลีย, เนื้อสีม่วงและเนื้อสีเหลืองจากญี่ปุ่น เป็นต้น โดยแต่ละสายพันธุ์ล้วนมีคุณค่าทางอาหารแตกต่างกันที่สำคัญเป็นมันเทศที่มีรสชาติอร่อย อย่างกรณีของมันเหลืองญี่ปุ่นในอดีตมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศและนำมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคคนไทยในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 100 บาท
จากการปลูกมันเทศในแปลงที่มีการเตรียมดินและระบบน้ำที่ดี ได้มีการประยุกต์ วิธีการปลูกในรูปแบบใหม่เพื่อส่งเสริมให้คนไทยปลูกเพื่อการบริโภคในครัวเรือนหรือปลูกเพื่อเป็นรายได้เสริมด้วยการนำมาปลูกในถุงพลาสติกดำ, กระสอบปุ๋ยเก่า, ตะกร้าพลาสติก, ยาง รถยนต์เก่า ฯลฯ ใช้เวลาปลูกเพียง 4-5 เดือนเท่านั้น สามารถขุดหัวมา บริโภคหรือจำหน่ายได้ สำหรับวัสดุและอุปกรณ์ที่จะแนะนำก็คือ ถุงพลาสติกดำ (ถุงชำต้นไม้) ขนาด 13x25 นิ้ว วัสดุปลูกที่สำคัญคือ ดินร่วน, ทรายหยาบ, แกลบดิบและปุ๋ยคอกเก่า ในอัตราส่วน 1:1:1:1 ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน นำวัสดุปลูกใส่ลงในถุงให้เต็มและอัดให้แน่น นำถุงพลาสติกไปวางไว้บริเวณกลางแจ้งรดน้ำให้ชุ่ม นำยอดมันเทศสีม่วงที่เตรียมไว้ (ตัดยอดให้มีความยาว 30-50 เซนติเมตร) ใช้ไม้แหลมแทงดินในถุงให้เป็นรูให้รูเฉียงประมาณ 45 องศา โดยประมาณ
นำยอดปลูกลงไปให้มีความลึกประมาณ 2-3 ข้อ กดดินให้แน่นพอประมาณ ช่วง 7 วันแรก หลังจากที่ปักยอดมันเทศลงไปควรจะรดน้ำเป็นประจำทุกเช้า (ระวังอย่าปล่อยให้ถุงแห้ง) หลังจาก 7-10 วัน จะพบว่ายอดมัน ที่ปักชำลงไปเริ่มแทงรากออกมา ให้เว้นการให้น้ำให้ห่างขึ้นเป็น 3-5 วันต่อครั้ง เมื่อต้นมันเทศมีอายุต้นได้ 45 วัน และพบว่าต้นมันเทศไม่มีอาการเหี่ยวไม่จำเป็นจะต้องให้น้ำ จะให้ ก็ต่อเมื่อมีการใส่ปุ๋ย เนื่องจากการให้น้ำ บ่อย ๆ จะทำให้ต้นมันเทศมีอาการบ้าใบและไม่ลงหัว
การปลูกมันเทศในถุงพลาสติกและมีความต้องการให้มีการลงหัวและรสชาติที่ดีจำเป็นต้องมีการใส่ปุ๋ยเคมีบ้างเพื่อปรับปรุงคุณภาพ โดยเฉพาะเมื่อต้นมันเทศมีอายุ ครบ 2 เดือน เป็นช่วงของการลงหัวควรจะใส่ปุ๋ยเคมีที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น สูตร 13-13-21 หรือ สูตร 0-0-60 ฯลฯ ในการ เก็บเกี่ยวผลผลิตมันเทศเนื้อสีม่วงอายุต้นจะต้องเฉลี่ยอยู่ในระหว่าง 120-150 วัน
ปัจจุบันมันเทศเนื้อสีม่วงจัดเป็นสุดยอดมันเทศอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ตลาดมีความต้องการมากเนื่องจากเป็นมันเทศที่มีปริมาณสารแอนโทไซยานินสูงมาก ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์.
ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ
ที่มา : เทคโนโลยีชาวบ้าน