-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 146 บุคคลทั่วไป และ 1 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

สิ่งแวดล้อม




หน้า: 3/5

        
           6.บำรุงดอก

             ทางใบ :
               
           
- ให้น้ำ 100 ล.+ 15-45-15 (400 กรัม)+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+ เอ็นเอเอ.100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. ฉีดพ่นพอเปียกใบ 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน
                
            - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพรช่วงค่ำ ทุก 2-3 วัน
             ทางราก :
               
            - ให้ 8-24-24 (½ กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม./เดือน
  
          - ยังคงเปิดหน้าดินโคนต้น 
               
            - ให้น้ำพอหน้าดินชื้น  
               
              หมายเหตุ :
               
            - ช่วงดอกตั้งแต่เริ่มแทงออกมาให้เห็นหรือระยะดอกตูม  บำรุงด้วยฮอร์โมน เอ็นเอเอ. 1-2 รอบ จะช่วยบำรุงเกสรทั้งตัวผู้และตัวเมียให้สมบูรณ์พร้อมรับผสม การให้ฮอร์โมน เอ็นเอเอ. ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังเพราะถ้าให้เข้มข้นเกินไปจะเกิดความเสียหายต่อดอกและถ้าให้อ่อนเกินไปก็จะไม่ได้ผล
               
           - ช่วงดอกเริ่มแทงออกมาใหม่ๆให้แคลเซียม โบรอน. 1 รอบ จะช่วยให้ดอกสมบูรณ์ผสมติดดี
               
           - ฉีดพ่นสารอาหารเพื่อบำรุงดอกด้วยเครื่องมือฉีดพ่นที่มีแรงลมพ่นเบาที่สุดตามความเหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อส่วนต่างๆของดอก  ฉีดพ่นที่ช่อดอกโดยตรงพอเปียกหรือฉีดพ่นให้ทั่งทรงพุ่มพอเปียกใบก็ได้
               
           - บำรุงดอกช่วงฝนชุกให้เน้น “ฮอร์โมนน้ำดำ และ แคลเซียม โบรอน” โดยให้เมื่อดอกออกมาแล้วหรือให้แบบสะสมล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงเปิดตาดอก ให้แบบเดี่ยวๆหรือผสมรวมไปกับธาตุอาหารอื่นๆก็ได้
               
           - ช่วงดอกตูมควรฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพรให้บ่อยขึ้น เพื่อป้องกันกำจัดโรคและแมลงจนถึงช่วงดอกบาน
               
           - ช่วงดอกบานควรงดการฉีดพ่นทางใบโดยเฉาะช่วงกลางวัน (08.00-12.00 น.) เพราะอาจทำให้เกสรเปียกจนผสมไม่ติดได้  หากจำเป็นต้องฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพรให้ฉีดพ่นช่วงหลังค่ำ
                 
           - ระยะดอกบานถ้าตรงกับช่วงฝนชุกเกสรจะเปียกชื้นทำให้ผสมไม่ติด แก้ไขโดยกะระยะเวลาบำรุงให้ดอกออกมาแล้วไม่ตรงกับช่วงฝนชุกเท่านั้น  แต่ถ้าดอกออกมาตรงกับช่วงแล้งอากาศร้อนมากเกสรจะฝ่อทำให้ผสมไม่ติดเช่นกัน แก้ไขโดยการสร้างความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศและที่พื้นดิน ทั้งในแปลงปลูกและรอบๆแปลงปลูก......มาตรการบำรุงต้นและดอกให้สมบูรณ์อย่างแท้จริงอยู่เสมอจะช่วยลดความสูญเสียได้เป็นอย่างมาก 
      

        7.บำรุงผลเล็ก
               
           ทางใบ :
               
         - ให้น้ำ 100 ล.+ 21-7-14(400 กรัม)+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี. + แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ ฮอร์โมนไข่ 25 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. ทุก 7-10 วัน  ฉีดพ่นพอเปียกใบ
               
         - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน
               
           ทางราก :
               
         - ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 25-7-7 (½-1 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม./เดือน
         - นำอินทรีย์วัตถุกลับเข้าคลุมโคนต้นพร้อมกับเสริมยิบซั่มธรรมชาติ อัตรา 1 ใน 10
ส่วนของครั้งที่ใส่เมื่อช่วงเตรียมดิน
               
         - ให้น้ำแบบค่อยๆเพิ่มปริมาณน้ำทีละน้อยๆของการให้น้ำ 3-4 รอบเพื่อให้ต้นรู้ตัว
           หมายเหตุ :
               
         - เริ่มบำรุงเมื่อผลเท่าเมล็ดถั่วเขียว หรือหลังกลีบดอกร่วง 
               
         - ช่วงผลเล็กเริ่มโชว์รูปทรงผลแล้วให้ “น้ำ 100 ล.+ จิ๊บเบอเรลลิน 10 กรัม”   ฉีดพ่น 1 รอบพอเปียกใบ   จะช่วยบำรุงผลไม่ให้เกิดอาการผลแตกผลร่วงช่วงผลแก่ก่อนเก็บเกี่ยวได้ดี
 
     

         8.บำรุงผลกลาง
               
            ทางใบ :                   
               
          - ให้น้ำ 100 ล.+ 21-7-14(400 กรัม)+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม(100 ซีซี.)+ ไคโตซาน 100 ซีซี.+ แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.
ทุก 7-10 วัน  ฉีดพ่นพอเปียกใบ
          - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน
               
            ทางราก :
               
          - ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 21-7-14 (½-1 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม./เดือน   
               
          - ให้น้ำปกติ  ทุก 2-3 วัน 
               
            หมายเหตุ :                  
                
        
  - วัตถุประสงค์เพื่อขยายขนาดผลและลดขนาดเมล็ด (หยุดเมล็ด-สร้างเนื้อ)
          - ถ้าต้นติดผลดกมากควรให้ฮอร์โมนน้ำดำ กับ แคลเซียม โบรอน. 1-2 รอบ ตลอดระยะผลกลางจะช่วยให้ต้นไม่โทรมเนื่องจากรับภาระเลี้ยงผลมาก 
    

        9.บำรุงผลแก่
               
           ทางใบ :
               
         - ให้น้ำ 100 ล.+ 0-0-50(400 กรัม)หรือ 0-21-74(400 กรัม)สูตรใดสูตรหนึ่ง + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วันก่อนเก็บเกี่ยว  ฉีดพ่นพอเปียกใบ
               
         - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน
               
           ทางราก :
               
         - ให้ 13-13-21 หรือ 8-24-24  สูตรใดสูตรหนึ่ง (½-1 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม.
         - ให้น้ำ 1 รอบเพื่อละลายปุ๋ยแล้วงดน้ำเด็ดขาด
               
           หมายเหตุ :
               
         - เริ่มให้ก่อนเก็บเกี่ยว 7-10 วัน 1-2 รอบห่างกันรอบละ 5-7 วัน
       
  - การให้ 13-13-21 เหมาะสำหรับต้นที่มีผลรุ่นเดียวกันทั้งต้น หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตหมด
ต้นแล้วต้องพักต้นทันทีโดยไม่ต้องทำการใดๆทั้งสิ้นนั้น  ทำให้ต้องพักต้นทั้งๆที่ต้นยังโทรมอยู่ กรณีนี้เมื่อถึงฤดูกาลใหม่ต้องเร่งบำรุงฟื้นฟูความสมบูรณ์ของต้น (เรียกใบอ่อน) กลับคืนมาโดยเร็วแล้วจึงเข้าสู่วงรอบการบำรุงใหม่ต่อไป......วิธีการทำให้ต้นไม่โทรมมากเกินไปก็คือ บำรุงให้ต้นสมบูรณ์อยู่เสมอโดยให้มีสารอาหารกินตลอด 24 ชม.ต่อเนื่องหลายๆปีนั่นเอง
  
       - การให้ 8-24-24 เหมาะสำหรับต้นที่มีผลหลายรุ่นในต้นเดียวกันหรือประเภททะวายทยอยออก แบบไม่มีรุ่นซึ่งหลังจากเก็บเกี่ยวผลแก่จัดไปแล้วต้นไม่โทรม  ใน 8-24-24 เป็นปุ๋ยประเภทสะสมอาหารเพื่อการออกดอก ซึ่งจะส่งผลให้กิ่งที่ยังไม่ออกดอกติดผลเกิดอาการอั้นแล้วออกดอกติดผลเป็นผลรุ่นใหม่ขึ้นมาอีกได้    
               


      
     ยืดอายุผลมะนาวในต้นให้แก่ช้าหรือเร่งให้แก่เร็ว
                

         หลักการและเหตุผล :
           
         อายุผลมะนาวตั้งแต่ผสมติดหรือกลีบดอกร่วงถึงเก็บเกี่ยวใช้ระยะเวลาทั้งสิ้นประมาณ 6 เดือน มะนาวที่ออกดอกเดือน ต.ค. จะได้ผลแก่เก็บเกี่ยวได้ในช่วงเดือน เม.ย. กล่าวคือ ถ้าออกดอกต้นเดือน ต.ค.ผลจะแก่เก็บเกี่ยวได้ช่วงต้นเดือน เม.ย......และถ้าดอกออกปลายเดือน ต.ค.ผลจะแก่เก็บเกี่ยวได้ช่วงปลายเดือน เม.ย. เช่นกัน ....ถ้าต้องการให้ผลมะนาวแก่เก็บเกี่ยวได้ตรงกับช่วงสงกรานต์พอดีก็จะต้องทำให้มะนาวออกดอกกลางเดือน ต.ค.ให้ได้เท่านั้น

         มะนาวที่ออกดอกก่อนเดือน ต.ค.(ประมาณ ต้น ก.ย.- กลาง ก.ย.....ไม่ควรออกก่อนมากนัก) ซึ่งต้องแก่เก็บเกี่ยวได้ก่อนเดือน เม.ย. นั้นสามารถยืดอายุผลให้แก่ช้าหรือให้แก่ในช่วงเดือน เม.ย.ได้ และมะนาวที่ออกดอกหลังเดือน ต.ค.(ประมาณ ต้น พ.ย.- กลาง พ.ย. ......ไม่ควรหลังมากนัก) ซึ่งต้องแก่เก็บเกี่ยวได้หลังช่วงเดือน เม.ย. แล้วนั้น สามารถเร่งให้ผลแก่เร็วขึ้นได้เช่นกัน ทั้งการเร่งให้ผลแก่เร็วและแก่ช้ากว่ากำหนดอายุจริงสามารถทำได้ดังนี้ 
  

          วิธีเร่งผลให้แก่ช้า    
            
          ทางใบ :
            
        - ให้น้ำ 100 ล.+ 21-7-14(400 กรัม)สลับกับ 46-0-0(400 กรัม)+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+ เอ็นเอเอ.25 ซีซี.+ ไคโตซาน 100 ซีซี.+ ฮอร์โมนไข่ 50 ซีซี. +แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.   โดยฉีดพ่นพอเปียกใบ  ทุก 7-10 วัน
        - ให้สารสกัดสมุนไพรทุก 2-3 วัน 
            
          ทางราก :
           
        - ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 21-7-14 (500 กรัม)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม./เดือน  
            
        - ให้น้ำปกติทุก 2-3 วัน
           
          หมายเหตุ :
           
        - เริ่มปฏิบัติเมื่อเมล็ดเริ่มเข้าไคล
           
        - สามารถยืดการแก่ของผลให้ช้าหรือนานกว่าอายุจริง 20-30 วัน
           
        - บำรุงมะนาวด้วยสูตรนี้อย่างสม่ำเสมอจะทำให้ผิวเห่อ  เปลือกหนา  น้ำน้อย  กลิ่นไม่มี  แต่ขนาดผลใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
           
        - การให้  “น้ำ 100 ล. + ยูเรีย 400 กรัม + กลูโคสหรือนมสัตว์สด 100 ซีซี.”  ด้วยการฉีดพ่นทางใบพอเปียกใบ ทุก 10-15 วัน จะทำให้ผลเขียว  เปลือกหนา ต่อมน้ำมันไม่เกิดและผลไม่แก่แม้อายุผลครบ 5-6 เดือนแล้วแต่จะขยายขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ
           
        - เมื่อถึงช่วงใกล้เก็บเกี่ยวตามต้องการหรือก่อนเก็บเกี่ยวจริง 10-20 วัน ให้บำรุงด้วยสูตร  “บำรุงผลแก่ก่อนเก็บเกี่ยว” ตามปกติ  2-3 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน อาการไม่พึงประสงค์ (ผลเขียว  เปลือกหนา  ต่อมน้ำมันไม่เกิด น้ำน้อย กลิ่นไม่หอม) ของผลมะนาวจะกลับกลายเป็นดี
 
           

          วิธีเร่งผลให้แก่เร็ว           
           
          ทางใบ :
           
        - ให้น้ำ 100 ล.+ มูลค้างคาวสกัด 100 ซีซี.หรือ 0-0-50(400 กรัม) หรือ0-21-74(400 กรัม) สูตรใดสูตรหนึ่ง + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.  ทุก 5-7 วัน 2-3 รอบ ฉีดพ่นพอเปียกใบ ช่วงเช้าแดดจัด
        - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน   
           
          ทางราก :
           
        - เปิดหน้าดินโคนต้นให้แดดส่องถึง  นำอินทรียวัตถุคลุมโคนต้นออกให้หมด
        - ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง +  8-24-24  หรือ  9-24-24 สูตรใดสูตรหนึ่ง (1/2-1 กก.) /ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม./เดือน   
             
        - ให้น้ำ 1 ครั้งเพื่อละลายปุ๋ยแล้วงดน้ำเด็ดขาด   
           
           หมายเหตุ :    
           
         - เริ่มบำรุงเมื่อผลแก่ได้ประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ของผลที่แก่ตามอายุจริง
         - สามารถเร่งให้ผลแก่เร็วกว่าอายุจริง 10-20 วัน  
           
         - ควรวางแผนบำรุงให้ผลแก่เร็วกว่าปกติตั้งแต่เริ่มติดผล  โดยการคำนวณอายุผลตั้งแต่ผสมติดถึงแก่เก็บเกี่ยวได้  แล้วบำรุงตั้งแต่ช่วงระยะผลขนาดกลางให้โตเร็วๆและมากๆด้วยสูตร  “หยุดเมล็ด - สร้างเนื้อ”  เตรียมรอไว้ล่วงหน้า
           
         - หลังจากเริ่มบำรุงด้วยสูตร “บำรุงผลแก่ก่อนเก็บเกี่ยว” แล้ว ขนาดของผลมะนาวจะไม่โตขึ้นอีกหรือหยุดการเจริญเติบโต  โครงสร้างภายในของผลจะเปลี่ยนเป็นผลแก่  แม้ว่าอายุผลจะน้อยกว่าความเป็นจริงแต่คุณภาพของผลไม่แตกต่างกันนัก
 




หน้าก่อน หน้าก่อน (2/5) - หน้าถัดไป (4/5) หน้าถัดไป


Content ©