-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 273 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

สิ่งแวดล้อม




หน้า: 2/2



คณะเกษตร กำแพงแสน กับ
เทคนิคการผลิตใบและผลมะกรูดเชิงการค้า


มะกรูด จัดเป็นไม้พุ่มยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ขนาดทรงพุ่มกว้าง 2-3 เมตร สูง 4-5
เมตร ใบเมื่อโตเต็มที่มีลักษณะเป็น 2 ส่วน คือส่วนแผ่นใบและส่วนก้านใบที่มีปีกที่ขยายออก
จนมีขนาดเกือบเท่ากับแผ่นใบ ทำให้มองดูคล้ายกับมีใบ 2 ใบ ต่อเชื่อมกันอยู่ ผลมีรูปร่างแบบ
ผลสาลี่ มีจุก เปลือกผลมีลักษณะขรุขระเป็นลูกคลื่น ทั้งส่วนใบ ดอก และผล จะมีต่อมน้ำมัน
จำนวนมากที่ให้น้ำมันหอมระเหยอยู่หลายชนิด จัดเป็นพืชท้องถิ่นที่ขึ้นตามธรรมชาติในพื้นที่
ของอินเดีย พม่า ศรีลังกา ไทย คาบสมุทรมลายู และฟิลิปปินส์ เป็นต้น มะกรูด มีชื่อเรียกอื่นๆ
ในประเทศไทยอีกจำนวนมากของแต่ละพื้นที่ เช่น มะขุน มะขูด มะขู ส้มกรูด ส้มมั่วผี ฯลฯ

ด้วยเมนูอาหาร "ต้มยำกุ้ง" ได้พัฒนาจนกระทั่งกลายเป็นเมนูระดับนานาชาติแล้วนั้น ทำให้
ความต้องการของชุดต้มยำ ซึ่งมีใบมะกรูดเป็นส่วนประกอบหลักที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบ
ที่มีคุณภาพ ทั้งขนาด สี และปราศจากศัตรูพืชเข้าทำลายเพิ่มสูงมากขึ้น นอกจากนี้ ส่วนของผล
มะกรูดได้มีการนำมาใช้สกัดน้ำมันหอมระเหยเพื่อใช้ในเครื่องสำอางก็มีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต้น
มะกรูดที่ปลูกตามธรรมชาติหรือตามสวนทั่วไปมักมีการออกดอกเป็นฤดูกาล ทำให้ผลผลิตที่เก็บ
เกี่ยวได้จึงเป็นผลพลอยได้มากกว่าการผลิตเพื่อเอาส่วนของผลโดยตรง


เทคนิคการผลิตใบมะกรูดเชิงการค้า :
รศ.ดร.รวี เสรฐภักดี ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต
กำแพงแสน นครปฐม ได้บอกว่า การผลิตใบมะกรูดเชิงการค้า จึงมุ่งเน้นเฉพาะการเจริญเติบโต
ด้านกิ่งใบเป็นหลัก การตัดแต่งเป็นการกระตุ้นให้มีการผลิตและยังส่งเสริมในด้านการเจริญเติบ
โตทางกิ่งใบ รวมทั้งระยะปลูกและจำนวนต้นที่ปลูกจะต้องมีความเหมาะสม ซึ่งมีขั้นตอนต่างๆ
ดังนี้


1. พื้นที่ สภาพพื้นที่ต้องมีการระบายน้ำดี น้ำไม่ท่วมขัง มีระดับ pH 5.5-7.0 ดินมี
อินทรีย์วัตถุสูง หรือปรับแต่งได้ด้วยการใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยพืชสดได้ ควรมีการไถพรวน
ก่อนเพื่อช่วยไม่ให้ดินแน่นแข็งเกินไป


2. การเตรียมแปลงปลูกและระยะปลูก เนื่องจากระยะปลูกมีความสัมพันธ์กับการเตรียมแปลง
และจำนวนต้นปลูก ความกว้างของแปลง 1 เมตร ยกระดับความสูงของแปลง ประมาณ 20-
25 เซนติเมตร ความห่างระหว่างจุดกึ่งกลางของแปลง 1.5 เมตร ระยะห่างระหว่างต้น 50
เซนติเมตร ปลูกแบบสลับฟันปลา การใช้ระยะปลูกที่ห่างกว่านี้ไม่มีความจำเป็น เนื่องจากการ
ผลิตใบมะกรูดต้องอาศัยกรรมวิธีในการตัดแต่ง ซึ่งเท่ากับเป็นการควบคุมขนาดพุ่มต้นพร้อมกัน
ด้วย


3. กิ่งพันธุ์ สามารถใช้ต้นพันธุ์ที่ขยายพันธุ์จากการเพาะเมล็ด กิ่งปักชำ หรือกิ่งตอนก็ได้ กิ่งที่
ได้จากการเพาะเมล็ดมีการเติบโตที่ช้ากว่าในช่วงระยะแรก อย่างไรก็ตาม ต้นพันธุ์ที่จะนำมาใช้
ปลูกจะต้องปลอดจากโรคแคงเกอร์ส้ม ซึ่งโรคนี้เป็นสาเหตุของข้อจำกัดหลักที่ทำให้ไม่สามารถ
ส่งใบมะกรูดไปยังกลุ่มประเทศของสหภาพยุโรปและอีกหลายประเทศได้ หากแพร่ระบาดเข้าไป
ในแปลงปลูกแล้ว ก็ยากที่จะกำจัดได้ ดังนั้น จึงควรป้องกันมิให้โรคนี้เข้าไปตั้งแต่เริ่มแรกกับต้น
พันธุ์ที่ใช้ปลูก โดยใช้วิธีการคัดเลือกกิ่ง และตัดแต่งกิ่ง/ใบ ส่วนที่เป็นโรคออกแล้วนำไปเผาไฟ
จากนั้นนำไปแช่ในสารปฏิชีวนะ สเตรปโตมัยซิน ความเข้มข้น 500 ppm เป็นเวลา 2
ชั่วโมง ก่อนนำไปปลูก


4. อายุที่เริ่มให้ผลผลิต สามารถเริ่มตัดแต่งกิ่งเพื่อจำหน่ายได้หลังจากปลูกประมาณ 4-6
เดือน หากมีการดูแลรักษาที่ดีแล้ว ก็จะสามารถอยู่ได้หลายปี


ต้นทุนในการผลิตมะกรูดเพื่อตัดใบภาคเกษตรกร :
ปัจจุบัน มีเกษตรกรปลูกมะกรูดในระบบชิด คือใช้ระยะปลูก 2x2 เมตร พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้
400 ต้น ราคากิ่งพันธุ์มะกรูดเสียบยอด ราคาต้นละ 25 บาท พื้นที่ 1 ไร่ คิดเป็นค่ากิ่งพันธุ์
10,000 บาท เมื่อคิดรวมค่าปุ๋ย ค่าสารปราบศัตรูพืช ค่าระบบน้ำ และค่าจัดการอื่นๆ อีก
ประมาณไร่ละ 5,000 บาท รวมเป็นเงินลงทุนในปีแรกประมาณ 15,000 บาท ต่อไร่ ต้น
มะกรูดจะเริ่มตัดใบขายได้ในเชิงพาณิชย์เมื่อต้นมีอายุเข้าปีที่ 3 และจะตัดขายได้ปีละ 4 รุ่น
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วในข้างต้น ต้นมะกรูดที่มีการดูแลรักษาที่ดีพอประมาณจะมีอายุได้ยืน
ยาวกว่า 10 ปี


เทคนิคและเทคโนโลยีในการผลิตใบมะกรูดในแปลงปลูกมะกรูด :
อาจารย์รวี บอกว่า เทคนิคสำคัญในการจัดการในแปลงปลูกมะกรูดมีดังนี้ จะใช้ผ้าพลาสติคคลุม
แปลงปลูกหรือใช้ฟางข้าวคลุมแปลง เพื่อป้องกันวัชพืชและช่วยรักษาความชื้นด้วย หากมีการใช้
ผ้าพลาสติคคลุมแปลงแล้ว ระบบการให้น้ำจำเป็นต้องใช้เป็นแบบน้ำหยดที่มีการให้ปุ๋ยไปกับน้ำ
พร้อมกันด้วย สำหรับแปลงปลูกที่ไม่ได้มีการใช้ผ้าพลาสติคแล้ว ก็สามารถเลือกใช้การให้น้ำ
ระบบต่างๆ ที่มีอยู่ตามความเหมาะสมได้ การให้ปุ๋ย ผลจากการตัดใบมะกรูดนั้นเป็นการนำเอาแร่
ธาตุอาหารออกไปจากดินอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นที่จะต้องให้ปุ๋ยชดเชยกลับคืนให้กับต้นดังเดิม
ระดับของปริมาณธาตุอาหาร N-P-K ควรมีสัดส่วนประมาณ 5:1:3 หรือ 5:1:4 หรือ
ใกล้เคียงกัน ส่วนธาตุอื่นๆ ก็จำเป็นต้องเสริมให้ไปเป็นระยะด้วย การป้องกันกำจัดศัตรูพืช นอก
จากโรคแคงเกอร์แล้ว มักไม่พบโรคอื่นๆ ที่มีความรุนแรงแต่อย่างใด การเก็บเกี่ยวใบมะกรูดเมื่อ
ปลูกไป ประมาณ 4-6 เดือน จะเริ่มตัดแต่งกิ่งโดยตัดให้อยู่ในระดับความสูง 60-80
เซนติเมตร จากผิวดิน กำจัดกิ่งที่อยู่ในแนวนอนออกไป ภายหลังการตัดแต่ง ตาจะเริ่มผลิ ผล
จากการศึกษา การผลิตใบมะกรูดควรปฏิบัติดังนี้


1. กิ่งควรอยู่ในแนวตั้งฉากหรือเกือบตั้งฉาก จะให้จำนวนกิ่ง จำนวนใบต่อกิ่งและขนาดใบที่
ใหญ่

2. ระดับของการตัดแต่ง ไม่ควรตัดแต่งเกินครึ่งหนึ่งของความยาวกิ่ง หากตัดเหลือตอกิ่งมีผล
ทำให้การผลิตตายืดเวลาออกไป

3. ขนาดของกิ่งที่เหมาะสม ควรเป็นกิ่งที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 1 เซนติเมตร


มะกรูดที่ปลูกในบ้านเราแบ่งออกได้เป็น 2 สายพันธุ์หลัก :
สายพันธุ์มะกรูดที่ปลูกอยู่ในบ้านเราในขณะนี้จะแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์หลัก คือสายพันธุ์ที่ให้
ผลมะกรูดดกตลอดปี ผิวผลค่อนข้างเรียบ และผลมีขนาดเล็ก อีกสายพันธุ์หนึ่งเป็นพันธุ์ผลใหญ่
และติดผลเป็นพวง ลักษณะของผลมีตะปุ่มตะป่ำคล้ายหูด และมีใบขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสายพันธุ์
ที่เหมาะที่จะปลูกเพื่อผลิตใบและผลขายส่งโรงงานแปรรูปน้ำมันหอมระเหย เครื่องอุปโภคหลาย
ชนิด อาทิ สบู่ ยาสีฟัน น้ำยาล้างจาน เครื่องสำอาง ฯลฯ ล้วนแต่มีส่วนผสมของน้ำมันหอม
ระเหยจากใบและผลมะกรูด ยังมีข้อมูลบริษัทบางแห่งมีการนำเอาใบมะกรูดไปตากแห้งและบด
ให้ละเอียดปั้นเป็นลูกกลอนเพื่อส่งออก บ้างก็นำเอาไปเป็นส่วนผสมในอาหารไก่เพื่อช่วยต้าน
ทานโรค ในทางการแพทย์แผนไทยมีการใช้มะกรูดเป็นยาหรือส่วนผสมของยาต่างๆ อาทิ น้ำใน
ผลมะกรูดแก้อาหารท้องอืด ช่วยให้เจริญอาหาร น้ำมะกรูดใช้ดองยาเพื่อใช้ฟอกเลือด และบำรุง
โลหิตในสตรี ส่วนของเนื้อนำมาใช้เป็นยาแก้อาการปวดศีรษะ ส่วนของใบมะกรูดใช้เป็นยาขับ
ลมในลำไส้แก้อาการจุกเสียด
หลายคนคิดเพียงว่า "มะกรูด" เป็นไม้ยืนต้นสวนครัวเพื่อนำใบ
และผลมาใช้ประกอบเพื่อเป็นเครื่องแกงชนิดต่างๆ หรือใช้ปรุงแต่งรสชาติของอาหารเท่านั้น
ปัจจุบันมีเกษตรกรปลูกมะกรูดเพื่อผลิตใบและผลส่งขายโรงงานผลิตน้ำมันหอมระเหย สร้างราย
ได้ดีไม่แพ้เกษตรกรรมประเภทอื่น ส่งเสริมให้เกษตรกรได้ขยายพื้นที่การปลูกมะกรูดเพียงครอบ
ครัวละ 1-3 ไร่เท่านั้น ผลิตใบขายได้กิโลกรัมละ 7 บาท (ขายใบพร้อมกิ่ง โดยตัดที่ความ
ยาว 50 เซนติเมตร-1 เมตร)


เทคนิคการผลิตผลมะกรูดเชิงการค้า :
ถึงแม้ว่าส่วนของผลมะกรูดมีส่วนประกอบที่ไม่ชวนให้บริโภค เนื่องจากมีรสเปรี้ยว รสขมและขื่น
แล้ว ยังมีสารน้ำมันที่ก่อให้เกิดอาการเผ็ดร้อนด้วย อย่างไรก็ตาม จากการที่ส่วนใบและผิวผลมี
ปริมาณน้ำมันหอมระเหยที่สูงนี่เอง จึงได้มีการนำทั้งสองส่วนนี้มาใช้ทั้งในรูปที่เป็นเครื่องเทศ
และสมุนไพรมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ยุคโบราณเป็นต้นมา โดยใช้ในการประกอบอาหารและ
สรรพคุณช่วยขับลมในกระเพาะ แก้ไอ เจ็บคอ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังใช้เป็นเครื่องสำอาง ทำ
แชมพูแก้รังแคแล้วยังมีคุณสมบัติออกฤทธิ์เป็นสารฆ่าแมลงกำจัดเหาบนศีรษะได้ หรือใช้เป็น
สารดับกลิ่นในห้องน้ำเหล่านี้ เป็นต้น


สำหรับการผลิตผลมะกรูดนั้นจำเป็นต้องใช้หลักการในด้านสรีรวิทยาของการออกดอก จึงมีผล
ตรงข้ามกับการผลิตใบโดยสิ้นเชิง มีขั้นตอนที่ควรปฏิบัติในหลายส่วนที่ใกล้เคียงกัน เช่น การ
เตรียมพื้นที่ ต้นพันธุ์ และระบบน้ำ เป็นต้น สำหรับส่วนที่ต่างกันนั้นมีด้านต่างๆ ดังนี้


1. ระยะปลูก ระยะห่างระหว่างต้นต้องไม่น้อยกว่า 1 เมตร ในแถวเดี่ยว โดยอาจใช้ระยะ
1x1.5 เมตร (ปลูกได้ 1,067 ต้น ต่อไร่) หรือระยะ 1.5x2 เมตร (ปลูกได้ 533
ต้น ต่อไร่) กิ่งที่ตัดแต่งออกอาจใช้เพื่อการผลิตใบได้บ้าง เหตุผลที่ต้องใช้ระยะปลูกที่ห่างกว่า
เพราะกิ่งที่จะออกดอกได้ดีต้องเป็นกิ่งในแนวมุมกว้าง หรือเกือบขนานกับพื้น


2. การบังคับการออกดอก หากปลูกให้ออกดอกตามธรรมชาติแล้ว ก็จะได้ดอกในช่วงฤดู
หนาว อายุผลยังไม่ทราบแน่นอน แต่คาดว่าจะใกล้เคียงกับมะนาว คือจากดอกบานถึงเก็บเกี่ยว
ได้ประมาณ 4 เดือนครึ่ง อย่างไรก็ตาม จากผลการทดลองใช้สารชะลอการเจริญเติบโตพา
โคลบิวทราโซล ร่วมกับการตัดปลายยอดพบว่าสามารถชักนำให้ต้นมะกรูดมีการออกดอกได้ดี
มาก โดยต้นมะกรูดเริ่มออกดอกภายหลังการตัดยอด ประมาณ 90 วัน และมีดอกมากที่สุดใน
ช่วงระหว่าง 100-120 วัน


จากผลการศึกษาทั้งในด้านการผลิตใบและการผลิตผลมะกรูดที่ผ่านมานั้น ควรจะแยกแปลงปลูก
ออกจากกัน ทั้งนี้ เพราะสรีรวิทยาของสองส่วนนี้มีความแตกต่างกัน ซึ่งส่งผลถึงระยะปลูก การ
จัดการด้านการปฏิบัติที่แตกต่างกันออกไปด้วย


หนังสือ "อาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม เล่ม 4" พิมพ์ 4 สี แจกฟรี พร้อมกับ "ไม้ผล
แปลกและหายาก" รวม 124 หน้า เกษตรกรและผู้สนใจเขียนจดหมายสอดแสตมป์ มูลค่า
รวม 50 บาท (ระบุชื่อหนังสือ) ส่งมาขอได้ที่ ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร เลขที่
2/395 ถนนศรีมาลา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร 66000 โทร. (056)
613-021, (056) 650-145 และ (081) 886-7398



ที่มา  :  เทคโนโลยีชาวบ้าน





มะกรูดบนตอมะนาว
เป็นผู้ ยึดอาชีพขยายพันธุ์ไม้จำหน่ายโดยเฉพาะมะกรูดบนต้นตอมะนาวพวงเพราะมะนาวพวง ปักชำได้ง่าย มีระบบราก และการเจริญเติบโตที่เร็ว หากิ่งพันธุ์ได้ไม่ยากนัก ส่วนใหญ่จะหาตามบ้านของเพื่อนเกษตรกร เพราะต้องการให้ไปช่วยตัดแต่งกิ่ง จะมีก็กิ่งพันธุ์มะกรูดที่หาซื้อจากต้นที่สมบูรณ์ สาเหตุที่มีผู้สนใจปลูกมะกรูดเพื่อตัดใบจำหน่ายนั้น เพราะตลาดของใบมะกรูดมีอนาคตที่มั่นคง ผลผลิตที่ได้คุ้มค่า คือ ปลูกในระยะชิด 2 X 2 เมตร ไร่ละ 400 ต้น หลังปลูก 9 เดือน ผลผลิตไม่เกิน 100 กิโลกรัม จะสามารถตัดใบได้ 3 เดือนต่อครั้ง ตัดครั้งที่ 6 ขึ้น ไป ผลผลิตประมาณ 1,000 กิโลกรัม/ไร่ ซึ่งถ้าอายุ 3-4 ปีขึ้นไปจะสามารถตัดใบจำหน่ายได้ต้นละประมาณ 100 บาท ในส่วนของราคาประมาณ 8 บาท/กิโลกรัม การดำเนินการจัดทำกิ่งพันธุ์มะกรูดบนกิ่งพันธุ์มะนาวพวง


****************************************************************************************

        








หน้าก่อน หน้าก่อน (1/2)


สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-05-16 (4899 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©