หน้า: 1/2
ความรู้เบื้องต้นเรื่องการผลิตเอนไซม์
ขั้นตอนการผลิตเอนไซม์สำหรับคน
ขั้นตอนในการหมักเอนไซม์สำหรับคนนั้น เราจะใช้ผลไม้ที่มีอยู่มากมายในประเทศซึ่งมีตลอดทั้งปี เราจะปฏิบัติดังนี้
1. จัดเตรียมอุปกรณ์ ซึ่งประกอบไปด้วย น้ำผึ้ง, ผลไม้ที่ต้องการ,น้ำสะอาด, ถ้วยตวง และภาชนะที่มีฝาปิดสนิท
2. นำผลไม้มาทำความสะอาด แล้วนำใส่ภาชนะในอัตราส่วน ผลไม้ 3 ส่วน ตามด้วยน้ำผึ้ง 1 ส่วน และน้ำ 10 ส่วน โดยเหลือพื้นที่ของขวด 1/5 ส่วน เพื่อให้มีพื้นที่ในการหมุนเวียนของอากาศในขวด
3. ปิดฝาแล้วทำประวัติติดข้างภาชนะดังนี้
- ชนิดของผลไม้
- วัน/เดือน/ปี ที่ผลิต
แล้วนำเก็บในห้องที่มีอากาศถ่ายเทและมีแสงแดดส่องน้อยที่สุด เก็บนาน 3 เดือน หมั่นเปิดจุกคลายอากาศออกแล้วปิดทันทีในช่วงสัปดาห์แรก
4. เมื่อได้ระยะเวลา 3 เดือนแล้วเกิดน้ำใสลอยตัว ให้ดูดออกด้วยสายยาง แล้วนำมาขยายต่ออีกทุก ๆ 3 เดือน เป็นเวลา 3 ปี ในอัตราส่วน น้ำใส 1 ส่วนต่อน้ำผึ้ง 1 ส่วน น้ำ 10 ส่วน
การขยายหัวเชื้อเอนไซม์สำหรับคน
ในการขยายหัวเชื้อเอนไซม์สำหรับคนนั้น เอนไซม์ที่ใช้ควรมีอายุการหมักที่นาน ๆ ประมาณ 1 ปีขึ้นไป เมื่อนำมาขยายแล้วประสิทธิภาพจะไม่ลดลง แต่จะเป็นการขยายปริมาณให้มากขึ้นและประหยัดเวลาในการหมักมากขึ้น มีขั้นตอนดังนี้
1. นำหัวเชื้อเอนไซม์สำหรับคน 1 ส่วน ต่อน้ำผึ้ง 1 ส่วน และน้ำ 10 ส่วน นำมาผสมใส่ในภาชนะ (ถ้าใช้น้ำผึ้งที่มีความชื้น 20% สามารถทานได้ แต่ถ้าเราใช้น้ำผึ้งธรรมดาจะต้องหมักไว้ 3 เดือนจึงจะนำมาทานได้ )
2. ถ้าเราไม่ทาน เมื่อทิ้งไว้จนครบ 3 เดือน เราสามารถนำมาขยายในอัตราส่วนเท่าเดิมได้อีก คือ "น้ำเอนไซม์ 1 ส่วน + น้ำผึ้ง 1 ส่วน + น้ำ 10 ส่วน" ทำให้ประหยัดเวลาในการหมัก และได้ปริมาณเอนไซม์เพิ่มขึ้น
การขยายเอนไซม์สำหรับพืชและสัตว์
ขั้นตอนในการหมักเอนไซม์สำหรับพืชและสัตว์นั้น คล้ายกับการหมักสำหรับคน แต่แตกต่างกันที่อินทรีย์วัตถุและน้ำตาล ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1. นำอินทรีย์วัตถุที่ต้องการหมักที่หาได้ในครัวเรือนและรอบบริเวณบ้าน จัดเตรียมภาชนะที่มีฝาปิด เช่น โอ่ง ถัง, เครื่องมือตวงวัด เช่น เครื่องชั่ง ถ้วยตวง และน้ำ
2. นำอินทรีย์วัตถุที่จัดเตรียมไว้แล้วใส่ลงในภาชนะ ในอัตราส่วน
อินทรีย์วัตถุ 3 ส่วน +น้ำตาลแดง/กากน้ำตาลสลายพิษ 1 ส่วน +น้ำ 10 ส่วน
ผสมในภาชนะ
หมายเหตุ
อินทรีย์วัตถุสดจากในครัว ยกเว้นกระดาษ,พลาสติก. กระป๋องโลหะ และขวดต่างๆ ห้ามนำไปใส่ ให้แยกทิ้งต่างหาก
3. ตั้งภาชนะไว้ในที่ร่ม และมีฝาปิดให้มิดชิด ใช้ระยะเวลาการหมัก 3 เดือนขึ้นไป ยิ่งนานยิ่งดีในการใช้
4. หากพบว่ามีหนอน แสดงว่า อินทรีย์วัตถุที่หมักไว้ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต แต่จะสังเกตว่าแมลงวันในครัวท่านหายไป ทั้งๆ ที่มีภาชนะหมักอยู่ในบ้าน
5. สังเกตว่าน้ำที่ได้จากการหมักเป็นระยะเวลา 3 เดือน จะต้องมีสีน้ำตาลเหลือง มีกลิ่นน้ำส้มฉุน คือลักษณะที่ถูกต้อง ถ้ามีสีดำหรือมีกลิ่นเหม็น ให้เติมน้ำตาลแดงและน้ำจนท่วมอินทรีย์วัตถุ และกดอินทรีย์วัตถุที่ลอยให้จมน้ำ
6. ถ้าภาชนะที่ใช้หมักเต็มก่อนเวลา ให้ปิดฝาทิ้งไว้แล้วเริ่มภาชนะใหม่ต่อไป แต่ต้องคอยตรวจดูภาชนะเก่าทุก ๆ 15 วัน (ในกรณีที่ต้องเติมน้ำตาลทรายแดงเพิ่ม)
7. เมื่อครบกำหนด 3 เดือนแล้ว ให้ตักอินทรีย์วัตถุที่เป็นกากออกไปเทรอบโคนต้นไม้ กระถางหรือเขตที่ต้องการโอโซนระเหย เช่น บริเวณรั้ว เมื่อรดน้ำทุกวันจะมีไอโอโซนระเหยออกมาตลอด
ขั้นตอนการขยายเอนไซม์สำหรับพืชและสัตว์
การใช้เอนไซม์สำหรับเกษตรนั้นต้องใช้ในปริมาณจำนวนมากและค่อนข้างบ่อย การขยายเอนไซม์จะทำให้ปริมาณในการใช้เพียงพอต่อความต้องการ อีกทั้งจะประหยัดเวลาอุปกรณ์และพื้นที่ในการหมัก ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก มีดังนี้
1. นำหัวเชื้อเอนไซม์อายุ 1 ปี อัตราส่วน 1 ส่วนต่อน้ำตาลแดงหรือซูโครส 1 ส่วน ต่อน้ำ 10 ส่วน บรรจุลงในภาชนะ แล้วทำให้เข้ากันโดยการเขย่าหรือคน
2. ถ้าหัวเชื้อที่มีอายุนานตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป เมื่อเรานำมาขยาย สามารถนำมาใช้ได้เลย แต่ถ้าต้องการเก็บไว้ให้นานขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นก็ได้
ขั้นตอนการสลายพิษกากน้ำตาล
การสลายพิษกากน้ำตาลหรือโมลาส เป็นการสลายคุณสมบัติส่วนประกอบบางตัวของกากน้ำตาล ซึ่งจะทำให้ดินเกิดการจับตัวแข็ง จนน้ำไม่สามารถซึมผ่านลงดินได้ ทำให้พืชไม่สามารถดูดซึมน้ำ อาหารและดินไม่สามารถคายความชื้นได้ ทำให้พืชขาดน้ำหรือเป็นโรครากเน่า, โรคโคนเน่า ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่ยังประสบปัญหาดังกล่าว
ส่วนผสม
- กากน้ำตาลหรือโมลาส 1 กิโลกรัม
- เอนไซม์สำหรับพืช 1 ลิตร(ถ้าหมักด้วยผลไม้รสเปรี้ยวจะดี เช่น มะนาว, สัปปะรด ฯลฯ ที่มีอายุมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป )
- น้ำ 1 ลิตร
วิธีผสม
- นำกากน้ำตาล เอนไซม์ และน้ำในอัตราส่วน 1:1:1 ผสมในภาชนะให้เข้ากัน
- นำส่วนผสมที่ได้ใส่ภาชนะปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ประมาณ 3 เดือนขึ้นไป ยิ่งอายุการหมักนานยิ่งดี จนน้ำที่ได้มีลักษณะใส ไม่ข้นเหมือนตอนแรก
วิธีใช้
- น้ำที่ได้ในขั้นตอนนี้เรียกว่า “ซูโครส” ใช้ผสมกับอินทรีย์วัตถุและน้ำแทนการใช้น้ำตาลแดง ช่วยลดต้นทุนในการผลิตเอนไซม์ ในอัตราส่วนอินทรีย์วัตถุ 3 ส่วน ซูโครส 1 ส่วน และน้ำ 10 ส่วน
- นำมาขยายเอนไซม์ ในอัตราส่วนน้ำเอนไซม์ 1 ส่วน ซูโครส 1 ส่วน และน้ำ 10 ส่วนการสลายพิษกากน้ำตาลหรือโมลาสมีความสำคัญต่อการใช้ทำเอนไซม์สำหรับเกษตรกร ซึ่งผลของกากน้ำตาลจะเกิดขึ้นในช่วงระยะ 2-3 ปี หลังจากการใช้กากน้ำตาล ในระยะแรกต้นไม้จะเริ่มใบเล็กลง แกร็น ผลของผลผลิตลดลงและมีขนาดเล็กลง ต้นไม้มีลักษณะคล้ายขาดน้ำ ไม่ว่าจะรดน้ำเพิ่มขึ้นก็ตาม ระยะต่อมาใบเหลืองและร่วง ต่อมาก็ยืนต้นตาย
ฮอร์โมนเร่ง ราก, ใบ, ดอก, ผล สำหรับพืช
วัสดุ
กล้วยสุก, มะละกอสุก, ฟักทอง, น้ำตาลทรายแดง อย่างละ 1 กก.
วิธีทำ
1. หั่นกล้วย มะละกอ ฟักทองเป็นชิ้น ยาวประมาณชิ้นละ 2 ซม.
2. เคล้ากับน้ำตาลทรายแดง (หรือน้ำอ้อย)ให้เข้ากัน เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ให้เหลือพื้นที่ว่าง 1/3 ของภาชนะ
3. หมักทิ้งไว้ 10-15 วัน ก็เอาน้ำมาผสมน้ำรดต้นไม้แต่ถ้าทิ้งไว้ 3 เดือนขึ้นไป ยิ่งดี
รดต้นไม้ อัตราส่วน น้ำหมัก 1 ส่วนผสมน้ำ 1000 ส่วน รดเช้า-เย็น
- กากที่เหลือเอาไปทำปุ๋ย แต่ต้องใส่น้ำหรือผสมกับดิน ทำให้เจือจางก่อนอย่าใส่โดยตรงจะทำให้ต้นไม้ตายได้
- หรือจะเติมน้ำตาลทรายแดง(น้ำอ้อย) 1 กก.ต่อน้ำ 10 ลิตร หมักไว้อีก 2-3 เดือน เป็นเอนไซม์ซักผ้า ล้างห้องน้ำได้
- น้ำหมักชีวภาพถ้าหมักจากพืชชนิดใด ถ้าเอาไปรดตัวของมันเอง จะให้ผลผลิตมากเป็นหลายเท่า เช่น ถ้าหมักจากมะเขือเทศ ก็เอาน้ำหมักจากมะเขือเทศไปรดต้นมะเขือเทศ ลูกมะเขือเทศจะดกมาก
หมายเหตุ ภาชนะที่ใช้หมัก ควรเป็นถังพลาสติกมีฝาปิด หรือไหดินเผาเคลือบ ไม่ควรใช้ภาชนะอะลูมิเนียม หรือโลหะสเตนเลส
สูตรดับกลิ่นในห้องน้ำ
วัสดุ
มะกรูด, มะนาว หรือผลไม้ที่มีกลิ่นหอม ตระกูลส้ม 3 กก. น้ำตาลทรายแดง 1 กก.+ น้ำ 10 ลิตร
ใช้วิธีการเดียวกันกับการหมักเอนไซม์สำหรับพืช,สัตว์ เมื่อได้ 3 เดือน นำน้ำนั้นมาใช้ดับกลิ่นในห้องน้ำ ใส่โถส้วม ผสมน้ำหมัก 30 ซีซี ต่อน้ำ 1 ลิตร ราดบริเวณที่มีกลิ่นเหม็น
ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติศูนย์เรียนรู้ชุมชนการทำเอนไซม์เพื่อชีวิตและสิ่งแวดล้อมวัดดอยเกิ้ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน –58110-Tel. 053-681535, 01-8857626, 01-4821660 ประโยชน์สูง ประหยัดสุด ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน
http://www.kruharn.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=360108&Ntype=2