-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 535 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

นาข้าว




หน้า: 2/2

                         

           
ขั้นตอนการบำรุงต้นข้าวแบบประณีต
                

      
1. ระยะกล้า
               
          ทางใบ :                 
        - ให้น้ำ 100 ล.+ ฮอร์โมนน้ำดำ 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 200 ซีซี. 1 รอบ.....ให้น้ำ 100 ล.+ 25-5-5 หรือ 30-10-10 (200 กรัม)+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 200 ซีซี. 2-3 รอบ และให้แคล
เซียม โบรอน 1 ครั้ง โดยฉีดพ่นพอเปียกใบ                  
       - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน 
       - ระยะเวลาให้ปุ๋ยทางใบ แต่ละครั้งห่างกัน 5-7 วัน
       - ให้แคลเซียม โบรอน ตัวสุดท้ายก่อนต้นกล้าเข้าสู่ระยะแตกกอ
                       
         ทางราก :               
       - ควบคุมปริมาณน้ำพอแฉะหน้าดินให้เสมอกันทั่วทั้งแปลง
       - ไม่จำเป็นต้องให้ปุ๋ยเคมี เพราะช่วงนี้ต้นข้าวจะได้รับอาหารต่างๆ ที่มีอยู่ในดินซึ่งให้ไว้ก่อนตั้งแต่ช่วงทำเทือกแล้ว                             

         หมายเหตุ :                               
       - เริ่มบำรุงเมื่อต้นข้าวอายุได้ 20-30 วัน                 
       - การให้ 46-0-0 แก่ต้นข้าวจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี เพราะนอกจากจะทำให้ต้นอวบอ้วนใบเขียวตองอ่อน ใบบางและเล็กแล้ว ยังล่อให้เพลี้ยและแมลงอื่นๆเข้ามากัดกินใบข้าวอีกด้วย
       - หลังหว่าน/ดำ 3 วัน ช่วงนี้รากกำลังเจริญยาวยังเกาะยึดเนื้อดินไม่แน่น ควรงดให้น้ำหรือปล่อยน้ำเข้านา ปล่อยให้ต้นกล้าใช้น้ำจากเทือก (เตรียมเทือกดี)ไปเรื่อยๆจนกระทั่งหน้าดินเริ่มตึงผิวจึงปล่อยน้ำเข้า ถ้าเตรียมเทือกดีต้นกล้าข้าวสามารถเจริญเติบโตดีต่อเนื่องสมบูรณ์ แข็งแรง  (เขียวเข้ม) ดีกว่าต้นกล้าที่มีน้ำขังหล่อหน้าดินตลอดเวลา แม้ว่าหน้าดินแห้งจนแตกตะโก้แล้วก็ยังเจริญเติบโตต่อเนื่องได้                
        
         ช่วงหลังปักดำ 3 วันนี้ ถ้ามีฝนตก เม็ดน้ำฝนจะกระแทกต้นกล้าจนล้มได้ ก็ให้รีบปักดำซ่อมต้นที่เสียหายนั้น               
      - ช่วงอายุ  1 เดือนหลังปักดำ อาจจะพิจาณาถอนแยกต้นกล้าจากกอที่มี 2-3 ต้นมาปลูกซ่อมแทนบางกอที่เสียหายได้ ต้นข้าวที่อายุช่วงนี้ยังสามารถเจริญเติบโตทันกันแล้วให้ผลผลิตเป็นรุ่นเดียวกันได้
      - เทคนิคการถอนต้นกล้าจากกอแม่ให้มีดินหุ้มรากติดมาด้วย เมื่อนำไปปักดำใหม่รากจะไม่ชะงักการเจริญเติบโตหรือเจริญเติบโตต่อได้เลย               
       - ปักดำซ่อมแทนต้นที่ตายหรือเสียหายด้วยกรณีอื่นๆ        

       2. ระยะแตกกอ
               
          ทางใบ :               
        - ให้น้ำ 100 ล.+ ฮอร์โมนน้ำดำ 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 200 ซีซี.ทุก 5-7 วัน โดยฉีดพ่นพอเปียกใบ
        - ให้น้ำ 100 ล.+ แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 200 ซีซี. 1 ครั้ง เมื่อเริ่มเข้าสู่ระยะแตกกอ                   
        - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน
          ทางราก :               
        - ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง (เน้น..มูลค้างคาวหมัก)5 ล.+ 16-8-8 (5 กก.)/ไร่ โดยผสมน้ำแล้วฉีดลงพื้นให้กระจายทั่วแปลง               
        - ควบคุมปริมาณน้ำพอแฉะหน้าดินให้เสมอกันทั่วทั้งแปลง
        - สำรวจลักษณะต้น เช่น ปริมาณแตกกอ ขนาดลำต้น ความสูงต่ำของต้น ขนาดของใบ สี และอื่นๆของต้นที่แตกต่างจากต้นอื่นๆส่วนใหญ่ทั้งแปลง พบแล้วให้ถอนทิ้งเพราะนั่นคือต้นข้าวปน
                

          หมายเหตุ :               
        - เริ่มบำรุงเมื่อต้นข้าวเริ่มแตกกอ...เป็นการใส่ปุ๋ยเคมีครั้งที่ 2 (ครั้งแรกใส่เมื่อตอนทำเทือก)
        - ให้ทางใบด้วยฮอร์โมน เอ็นเอเอ.หรือ ไซโตคินนิน. เดี่ยวๆอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างๆละเท่ากัน 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน โดยฉีดพ่นให้เปียกโชกทั่วทั้งต้นลงถึงพื้นดิน จะช่วยส่งเสริมให้ต้นข้าวแตกกอได้จำนวนลำมากขึ้น
        - การใส่  “ฮิวมิค แอซิด และ ฮอร์โมนบำรุงราก” ไว้ก่อนล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงเตรียมเทือก เมื่อต้นข้าวโตถึงระยะแตกกอก็จะแตกกอดีมาก ถ้าไม่ได้ใส่ไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงเตรียมเทือกก็ให้มาใส่ในช่วงตกกล้าก็ได้ หรือถ้าไม่ได้ใส่ไว้ล่วงหน้าทั้งช่วงเตรียมเทือกและช่วงตกกล้าก็ขอให้มาใส่ช่วงแตกกอแทนโดยฉีดพ่นลงดินโดยตรงโชกๆก็ได้เหมือนกัน
        - การให้สารอาหารต่างๆโดยการฉีดพ่นให้โชกจนเปียกใบแล้วลงไปถึงพื้นกระจายทั่วแปลง จะช่วยให้ได้ประสิทธิภาพของสารอาหารที่ให้เหนือกว่าการฉีดพ่นทางใบอย่างเดียว 
        - ต้นข้าวในน้ำน้อยพอเฉอะแฉะหน้าดินจะแตกกอดีกว่าต้นข้าวน้ำขังค้างหน้าดิน
      

         3. ระยะตั้งท้อง  (แต่งตัว)
               
           ทางใบ :               
         - ในรอบ 7 วัน ให้น้ำ 100 ล.+ 0-42-56 (200 กรัม)+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 กรัม + สารสกัดสมุนไพร 200 ซีซี. 1 รอบกับให้น้ำ 100 ล.+ ฮอร์โมนไข่ 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 200 ซีซี. อีก 2 รอบ โดยการฉีดพ่นพอเปียกใบ
         - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก  2-3 วัน                   
           ทางราก :               
         - ควบคุมปริมาณน้ำพอแฉะหน้าดินให้เสมอกันทั่วทั้งแปลง
         - สำรวจแปลง พิจารณารูปร่างลักษณะของต้นข้าว ต้นที่แตกกอมาก/น้อย ต้นที่โต/เล็ก ขนาดต้นสูง/ต่ำ รูปร่างอวบอ้วน/ผอมเรียว ที่ผิดเพี้ยนไปจากต้นข้าวส่วนใหญ่ทั้งแปลง ตรวจพบแล้วให้ถอนทิ้งเพื่อป้องกันข้าวปน               

           หมายเหตุ :               
        -  เริ่มบำรุงเมื่อต้นข้างถึงระยะตั้งท้องหรือแต่งตัว               
        - การให้ 0-42-56  นอกจากช่วยสะสมแป้งและน้ำตาลเหมือนอาการอั้นตาดอกในไม้ผลแล้วยังช่วยให้ส่วนลำต้นต้นไม่สูงอีกด้วย.....ลำต้นไม่ขยายขนาดทางสูงแต่จะขายขนาดทางข้าง ทำให้ลำต้นใหญ่ขึ้นแล้วส่งผลให้ต้นไม่ล้ม
        - อาจพิจารณาให้ทางใบด้วยแคลเซียม โบรอน 1-2 รอบ  ห่างกันรอบละ 5-7 วัน จะส่งผลให้ต้นได้สะสมแคลเซียมไว้ล่วงหน้าซึ่งจะส่งให้ได้ผลผลิตที่ดียิ่งขึ้นเมื่อถึงระยะน้ำนม 
     
          
     

       4. ระยะออกรวง               
          ทางใบ :                   
        - ในรอบ 7 วัน ให้น้ำ 100 ล.+ 0-42-56(200 กรัม)+ เอ็นเอเอ.100 ซีซี + สารสกัดสมุนไพร 200 ซีซี. 1 รอบกับให้น้ำ 100 ล.+ ฮอร์โมนไข่ 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 200 ซีซี. อีก 1 รอบ โดยการฉีดพ่นพอเปียกใบ
        - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน
          ทางราก :                 
        - ควบคุมปริมาณน้ำพอแฉะหน้าดินให้เสมอกันทั่วทั้งแปลง
        - สำรวจแปลงสังเกตต้นที่ออกดอกเร็ว/ช้า ช่อดอกยาว/สั้น ขนาดดอกเล็ก/ใหญ่  ดอกพัฒนาเร็ว/ช้า และลักษณะอื่นๆของดอกในบางต้นที่ผิดเพี้ยนไปจากดอกของต้นอื่นส่วนใหญ่ทั้งแปลง พบแล้วให้ถอนทิ้งเพื่อป้องกันข้าวปน               

          หมายเหตุ :               
        - เริ่มบำรุงเมื่อช่อดอก (หางแย้) โผล่พ้นกาบขึ้นมาได้ประมาณ 1-2 ซม.
        - นอกจาก 0-42-56 แล้วยังสามารถใช้ 10-45-10 แทนได้
        - ให้ เอ็นเอเอ.เดี่ยวๆ  ทางใบ 2 รอบ  ห่างกันรอบละ 5-7 วัน เพื่อบำรุงทั้งเกสรตัวผู้และตัวเมียให้สมบูรณ์ ผสมติดดี ซึ่งจะส่งผลให้เกสรผสมติดแล้วพัฒนาเป็นผล (เมล็ดข้าว)ได้มากขึ้น
        - การให้  “46-0-0(200 กรัม)/น้ำ 100 ล.” หรือ “46-0-0(200 กรัม)+ ฮอร์โมนไข่100 ซีซี.+ น้ำ 100 ล.” หรือ “46-0-0(400 กรัม)+ แม็กเนเซียม 200 กรัม + สังกะสี 20 กรัม +ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 กรัม”  ฉีดพ่นพอเปียกใบ 1 รอบ จะช่วยให้ดอกออก (พุ่ง) ดีขึ้น ประสิทธิภาพเท่าหรือเหนือกว่าสารลมเบ่งที่จำหน่ายในท้องตลาด
        - ช่วงออกดอกให้สำรวจแปลง ถ้าดอกออกพร้อมกันทั้งแปลงดีให้ฉีดพ่น 2 รอบ แต่ถ้าดอกออกไม่พร้อมกันก็ให้ฉีดพ่น 3 รอบ ทั้งนี้ปุ๋ยทางใบสูตรเปิดตาดอกหรือกระตุ้นการออกดอกนอกจากจะช่วยให้ต้นข้าวออกดอกดีแล้วยังช่วยบำรุงดอกให้สมบูรณ์ แข็งแรงและ โตเร็วทันกันได้อีกด้วย
         

        5. ระยะน้ำนม
               
            ทางใบ :               
          - ในรอบ 7-10 วัน ให้น้ำ 100 ล.+ ปุ๋ยทางใบสูตรบำรุงผล 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 200 ซีซี. 2 รอบ  สลับครั้งกับให้น้ำ 100 ล.+ ฮอร์โมนน้ำดำ 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 200 ซีซี. อีก 2 รอบ โดยการฉีดพ่นพอเปียกใบ ให้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงระยะพลับพลึง
          - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน                
            ทางราก :               
          - ควบคุมปริมาณน้ำพอแฉะหน้าดินให้เสมอกันทั่วทั้งแปลง
          - ขั้นตอนนี้ถ้าได้ใส่ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 5 ล.+ 21-7-14(5 กก.)/ไร่ จะช่วยบำรุงเมล็ดข้าวให้มีขนาดใหญ่ เมล็ดเต็ม ใสแกร่ง ไม่เป็นท้องปลาซิว น้ำหนักดี
          - สำรวจแปลงสังเกตการออกรวงของต้นข้าว รวงสั้น/ยาว เมล็ดเล็ก/ใหญ่/ยาว/สั้น/กลม  สีของเปลือกหุ้มเมล็ดที่มีลักษณะผิดเพี้ยนไปจากต้นข้าวส่วนใหญ่ทั้งแปลง ตรวจพบแล้วให้ถอนทิ้งเพื่อป้องกันข้าวปน
                 

            หมายเหตุ :               
          - เริ่มบำรุงเมื่อเมล็ดเริ่มขึ้นรูป หรือเมื่อบีบเมล็ดแล้วมีน้ำในเมล็ด (สีขาวนวลหรือขาวอมเหลืองเหมือนนมสด)               
          - ช่วงเมล็ดเริ่มๆ เป็นน้ำนม ให้ “แคลเซียม โบรอน + ไคตินไคโตซาน” 1 รอบ  จะช่วยบำรุงให้เมล็ดข้าวสมบูรณ์ขึ้น มากกว่าที่ไม่ได้ให้อย่างเห็นได้ชัด
                
          - ตลอดระยะน้ำนม การให้ทางใบด้วยแม็กเนเซียม.จะช่วยให้ใบข้าวเขียวสดถึงวันเกี่ยว....การให้สังกะสี.จะช่วยสร้างแป้ง....และการให้แคลเซียม โบรอน.จะช่วยคุณภาพเมล็ดข้าวดี...เมื่อให้รวมครบทุกตัวแล้วจะช่วยให้เมล็ดข้าวเปอร์เซ็นต์แป้งสูง
เมล็ดแกร่งเปอร์เซ็นต์ข้าวหักน้อย ไม่เป็นท้องปลาซิว เมล็ดใสน้ำหนักดี กลิ่นดี
          - ต้นข้าวที่มีความสมบูรณ์เนื่องจากได้รับสารอาหารครบสูตร (ธาตุหลัก-ธาตุรอง-ธาตุเสริม-ฮอร์โมน และ อื่นๆ)สม่ำเสมอตรงตามระยะพัฒนาการในแต่ละระยะ ลำต้นจะยังคงตั้งตรงในขณะที่รวงจะโค้งโน้มลง
          - ธาตุอาหารที่ช่วยบำรุงให้เมล็ดเต็ม แกร่ง ใส ไม่เป็นท้องปลาซิว น้ำหนักดีเปอร์เซ็นต์แป้งสูงคือ “ธาตุรอง/ธาตุเสริม/ฮอร์โมน” ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ชาวนาจะต้องให้อย่างสม่ำเสมอให้ได้ ทั้งการใส่เตรียมไว้ในดินล่วงหน้า (ช่วงเตรียมเทือก)และให้ทางใบภายหลังเมื่อต้นข้าวโตแล้ว               
          - ต้นข้าวที่เมล็ดเป็นน้ำนมแล้ว ถ้าให้ทางใบด้วย 14-7-21 เมล็ดจะหยุดขยายขนาดแล้วกลายเป็นเมล็ดแก่ (พลับพลึง-เมล็ดแกร่งใส)พร้อมเกี่ยวทันที กรณีนี้เหมาะสำหรับการบำรุงเพื่อเร่งให้เมล็ดแก่ทันเก็บเกี่ยวตามกำหนด ณ เวลาที่ต้องการหรือเกี่ยวก่อนครบอายุ
         

        6. ระยะก่อนเกี่ยว (พลับพลึง)
               
            ทางใบ :               
         -  ในรอบ 10 วัน ให้น้ำ 100 ล.+ 0-21-74(200 กรัม)หรือ มูลค้างคาวสกัด 100 ซีซี.(อย่างใดอย่างหนึ่ง)+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 กรัม + สาร
สกัดสมุนไพร 200 ซีซี. 1 รอบกับให้น้ำ 100 ล.+ นมสด 100-200 ซีซี.+ สาร
สกัดสมุนไพร 200 ซีซี. อีก 1 รอบ  ฉีดพ่นพอเปียกใบ 1 รอบ ก่อนเกี่ยว 10 วัน
         - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน                 
           ทางราก :                 
         - ควบคุมปริมาณน้ำพอแฉะหน้าดินให้เสมอกันทั่วทั้งแปลง
         - สำรวจแปลงสำรวจลักษณะต้นข้าว สังเกตอาการโค้งงอลงของรวง โค้งลงต่ำมาก/น้อย ขนาดและรูปร่างของรวง ขนาดเมล็ดเล็ก/ใหญ่/ยาว/สั้น/กลม/แบน สีเปลือกหุ้มเมล็ด ความแก่/อ่อน และอื่นๆ ที่ผิดเพี้ยนไปจากลักษณะของเมล็ดข้าวส่วนใหญ่ในแปลงแปลง ตรวจพบแล้วถอนทิ้งเพื่อป้องกันข้าวปน
         - งดน้ำเด็ดขาดก่อนลงมือเกี่ยว 7-15 วัน                  

           หมายเหตุ
:
         - ช่วงปลายรวงเริ่มก้มหรือปลายโค้งลงเนื่องจากน้ำหนักของรวงนั้น ใบธงจะเริ่มเหี่ยวเหลืองเนื่องจากใกล้หมดอายุขัย เมื่อใบเริ่มเหลืองนั่นหมายความว่าใบเริ่มเลิกการสังเคราะห์อาหารแล้ว ในขณะที่เมล็ดส่วนปลายรวงยังเป็นน้ำนมอยู่ จึงทำให้เมล็ดส่วนปลายรวงไม่ได้รับสารอาหาร งผลให้เป็น "เมล็ดลีบ" กรณีนี้แก้ไขด้วยการให้ "แม็กเนเซียม + สังกะสี + แคลเซียม โบรอน" 1-2 รอบ โดยแบ่งให้ตลอดระยะน้ำนม
         - การให้มูลค้างคาวสกัดจะทำให้ขั้ว (ระแง้คอรวง)เหนียว เครื่องนวดข้าวในรถเกี่ยวจะสลัดเมล็ดข้าวออกจากรวงไม่ได้หรือสลัดออกมาไม่หมด เมล็ดข้าวส่วนนี้จะปลิวไปกับเศษฟาง  เพราะฉะนั้นการให้มูลค้างคาวสกัดจะต้องให้ด้วยความระมัดระวัง อย่าให้มากเกินอัตราที่ต้นข้าวสามารถรับได้ หรือหากเห็นว่าเมล็ดแกร่งใสดีแล้วก็ไม่ต้องให้มูลค้างคาวสกัดก็ได้
         - การให้นมสด 1 รอบ นอกจากช่วยลดความชื้นในเมล็ดข้าวหลังเก็บเกี่ยวได้ดีแล้ว  ยังช่วยลดปริมาณไนเตรทในเมล็ดข้าวได้อีกด้วย               
         - ลักษณะต้นข้าวระยะพลับพลึงที่สมบูรณ์แข็งแรง ลำต้นจะยังคงสีเขียวอยู่ ใบบางส่วนยังเป็นสีเขียวแต่บางส่วนเริ่มเหลือง รวงข้าวยังไม่แห้งสนิทหรือสีออกเขียวเล็กน้อย
         - ต้นข้าวที่สมบูรณ์แข็งแรง เนื่องจากได้รับ  “ธาตุรอง/ธาตุเสริม” ถูกต้อง และสม่ำเสมอ ลำต้นจะแข็งแรงตั้งตรงไม่ล้ม และรวงข้าวระยะพลับพลึงจะโค้งลงไม่มากนัก หรือ โค้งลงน้อยกว่าต้นที่ไม่สมบูรณ์ การที่ต้นไม่ล้มและรวงโค้งลงไม่มากนี้จะช่วยให้รถเกี่ยวทำงานได้ง่าย เปอร์เซ็นต์ความสูญเสียเมล็ดข้าวก็น้อยด้วย
         - ต้นข้าวระยะพลับพลึง (ก่อนเกี่ยว)แต่ใบยังเขียวหรือเขียวอมเหลือง บ่งบอกถึงความสมบูรณ์สูงของต้น ซึ่งจะส่งให้เมล็ดข้าวคุณภาพดี
         - ให้น้ำ 100 ล.+ น้ำคั้นใบเตยสด 250-300 ซีซี.+ กลูโคสน้ำ 100 ซีซี. ฉีนทางใบ ก่อนเกี่ยว 5-7 วัน จะช่วยบำรุงให้ข้าวมีกลิ่นหอมดีขึ้น
         - การให้ "แม็กเนเซียม + สังกะสี"  ตั้งแต่ช่วงระยะกล้า 1-2 รอบ กับให้ช่วงระยะน้ำนม 2 รอบ....แม็กเนเซียมจะช่วยบำรุงให้ใบข้าวเขียวถึงวันเกี่ยว และสังกะสีจะช่วยสร้างแป้ง ทำให้ต้นสมบูรณ์ เมล็ดเต็ม ใส แกร่ง แข็ง
         - ก่อนเกี่ยว 15 วัน ให้ "14-7-21 + ธาตุรอง/ธาตุเสริม + แคล
เซียม โบรอน" 2 รอบ  ห่างกันรอบละ 5-7 วัน และให้รอบสุดท้ายก่อนลงมือเกี่ยว 5-7 วัน นอกจากช่วยปรับปรุงคุณภาพเมล็ดข้าวแล้วยังช่วยลดความชื้น ณ วันเกี่ยวได้อีกด้วย
  


          
สรุปขั้นตอนทำนาข้าวอย่างประณีต 
                                                                           
           ขั้นตอนที่  1           เตรียมแปลง 
           ขั้นตอนที่  2           เตรียมเทือก
           ขั้นตอนที่  3           เตรียมเมล็ดพันธุ์ 
           ขั้นตอนที่  4           เตรียมเพาะกล้า
           ขั้นตอนที่  5           บำรุงระยะกล้า
           ขั้นตอนที่  6           บำรุงระยะแตกกอ
           ขั้นตอนที่  7           บำรุงระยะตั้งท้อง (แต่งตัว) 
           ขั้นตอนที่  8           บำรุงระยะออกดอก
           ขั้นตอนที่  9           บำรุงระยะน้ำนม
           ขั้นตอนที่  10          บำรุงระยะก่อนเกี่ยว (พลับพลึง) 




       ....แปลง-เทือก-พันธุ์...กล้า-กอ-ท้อง...ดอก-นม-เกี่ยว ....
 









หน้าก่อน หน้าก่อน (1/2)


สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-05-10 (12650 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©