เลี้ยงหมูพันธุ์ 10 ปี...มีรายได้เดือนละแสน
เดิมที สมพงษ์ เอี่ยมเมือง เกษตรกรวัย 50 ปี จากหมู่ 6 ต.สระกระโจม อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี เคยทิ้งครอบครัวเร่ร่อนไปขายแรงงานในต่างถิ่น มีรายได้เพียงวันละ 70-80 บาทเท่านั้น แต่หลังจากตัดสินใจเลี้ยงหมูพันธุ์ในโครงการส่งเสริมเกษตรกรรายย่อยของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เมื่อ 10 ปีก่อน ทำให้วันนี้เธอมีรายได้เดือนละเกือบ 1 แสนบาท
สมพงษ์บอกว่า เป็นคนมีความรู้น้อย เรียนจบแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จึงหนีไม่พ้นที่จะต้องประกอบอาชีพรับจ้าง มีรายได้ไม่แน่นอน เพียงวันละ 70-80 บาทเท่านั้น ทำทุกอย่างที่มีคนจ้าง ทั้งทำนา ทำไร่ มีรายได้พออยู่ไปวันๆ ที่สำคัญต้องตะลอนไปตามแต่เขาจะจ้างในถิ่นอื่น ไม่เคยอยู่บ้านพร้อมหน้ากับครอบครัว พออายุมากมองว่า ควรหาอาชีพที่ทำอยู่กับบ้านได้ ไม่ต้องเร่ร่อนไปไหนอีก จึงตัดสินใจเลี้ยงหมูพันธุ์ในโครงการส่งเสริมเกษตรกรรายย่อยของซีพีเอฟ ปักหลักเลี้ยงหมูที่บ้านเกิดที่หมู่ 6 ต.สระกระโจม อ.ดอนเจดีย์เมื่อ 10 ปีก่อน
"ดิฉันเห็นว่าเหนื่อยมากแล้ว จึงตัดสินใจกู้เงินก้อนใหญ่ที่สุดในชีวิตกว่า 5 แสนบาท เพื่อลงทุนสร้างโรงเรือนเลี้ยงสุกรแม่พันธุ์จำนวน 120 ตัว โดยรูปแบบโรงเรือนขณะนั้นยังเป็นแบบเปิดโล่ง ต่อมาได้ปรับปรุงโรงเรือนเป็นระบบปิดปรับอากาศด้วยการระเหยของน้ำ หรืออีแว้ป (Evap) พอมาทำโรงเรือนแบบอีแว้ปทำให้เห็นความแตกต่างของผลผลิตได้อย่างชัดเจน เพราะการเลี้ยงในระบบปิดสามารถปรับอากาศให้เหมาะสมกับความต้องการของแม่สุกรได้เป็นอย่างดี เมื่อแม่สุกรอยู่สบายจึงกินอาหารได้ดี ไม่เครียด มีสุขภาพแข็งแรง จึงให้ผลผลิตดีตามไปด้วย ส่งผลให้เงินที่กู้ไป สามารถคืนได้ทั้งหมดภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี" สมพงษ์กล่าว
หลังจากที่สมพงษ์เห็นว่าอาชีพนี้ทำให้มีรายได้ที่แน่นอนและมั่นคง จึงตัดสินใจอีกครั้งได้กู้เงินก้อนใหม่เพิ่มอีก 4 แสนบาท เพื่อขยายการเลี้ยงหมูพันธุ์จนปัจจุบันมีแม่หมูพันธุ์รวม 220 ตัว มีรายได้เฉลี่ยเดือนละเกือบ 1 แสนบาท โดยซีพีเอฟเป็นผู้ซื้อลูกหมูทั้งหมด
ด้าน สุริยะ ชูตระกูล ผู้แทนซีพีเอฟ บอกว่า ผู้ที่ร่วมโครงการกับซีพีเอฟ นอกจากซีพีเอฟเน้นการสร้างงานสร้างอาชีพและถ่ายทอดเทคโนโลยีทันสมัย รวมทั้งความรู้และวิทยาการสมัยใหม่แก่เกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรมีอาชีพมีรายได้อย่างมั่นคงแล้ว บริษัทยังเน้นนโยบายในการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและใส่ใจต่อชุมชนรอบๆ โครงการ ด้วยการให้เกษตรกรบำบัดของเสียภายในฟาร์มด้วยระบบไบโอแก๊ส แบบ เอ็มซี-ยูเอเอสบี (MC-UASB) ขนาด 150 ลูกบาศก์เมตร เพื่อแก๊ส และผลิตกระแสไฟฟ้า ทำให้สมพงษ์ฟาร์มลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าลงถึง 50%
นับเป็นเกษตรกรที่ประสบผลสำเร็จอีกรายหนึ่ง จากเดิมที่รับจ้างมีรายได้แทบไม่พอใช้ในแต่ละวัน แต่พอหันมาเลี้ยงหมูพันธุ์ในโครงการของซีพีเอฟ ทำให้มีรายได้เรือนแสนบาทต่อเดือน
ที่มา : คม ชัด ลึก
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.