-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 411 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

ข่าวเกษตร









ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ

มะม่วงเคนซิงตัน ไพรด์ และ อาร์ทูอีทู ปลูกให้ผลผลิตมีคุณภาพดีในไทย

จริงอยู่การปลูกมะม่วงของชาวสวนมะม่วงไทยในเชิงพาณิชย์ปัจจุบันนี้ แทบทั้งหมดจะปลูกพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง เนื่องจากผลิตเพื่อการส่งออกเกือบทั้งหมด โดยมีการส่งไปขายในรูปแบบของผลสด แช่แข็ง ฟรีซดาย (เทคโนโลยีฟรีซดาย (Freeze-Drying) เป็นการนำมะม่วงสุกไปแช่แข็ง เพื่อให้รสชาติของมะม่วงทรงคุณค่าและใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุดและนำไปผ่านระบบ Freeze-Drying ทั่วโลก ต่างก็ยอมรับกันว่าเป็นเทคโนโลยีถนอมอาหารที่สามารถรักษาคุณค่าอาหารทั้งรสชาติและกลิ่นใกล้เคียงอาหารสุกมากที่สุด) ฯลฯ เป็นที่สังเกตว่าพื้นที่ผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเพื่อการส่งออกหลักๆ จะอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ อุดรธานี พิจิตร ฯลฯ ยังมีการขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มเติมขึ้นอีกมาก โดยเกษตรกรไม่มีการตรวจสอบเรื่องการตลาดในอนาคตให้ดีเสียก่อน ในขณะที่มีเกษตรกรบางราย อย่างกรณีของ คุณวารินทร์ ชิตะปัญญา เกษตรกรหัวหน้าจากอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ปลูกมะม่วงหลายสายพันธุ์ สุดท้าย ได้เปลี่ยนยอดเป็นมะม่วงพันธุ์อาร์ทูอีทู ทั้งสวน เพราะมีพ่อค้ามารับซื้อเพื่อการส่งออกทั้งหมดและได้ราคาดีไม่แพ้มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง อีกทั้งมีราคาดีตลอดฤดูกาลแม้จะเป็นช่วงที่มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองมีราคาตกต่ำในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากๆ

ประวัติความเป็นมามะม่วงพันธุ์ อาร์ทูอีทู เป็นมะม่วงที่มีขนาดผลใหญ่และสีสด ในปี พ.ศ. 2528 คุณเอียน บัลเล่ คุณรอส ไรท์ และ คุณปีเตอร์ บีล นักวิชาการมะม่วงจากประเทศออสเตรเลีย ได้คัดเลือกพันธุ์จากต้นอ่อนของมะม่วงสายพันธุ์ฟลอลิดาเค้นท์ และชื่อ "อาร์ทูอีทู" มาจากตำแหน่งของแถวและตำแหน่งของต้นที่ปลูก (เหมือนกับมะม่วงน้ำดอกไม้ เบอร์ 4 ของไทยมาจากชื่อตำแหน่งของแถว ซึ่ง อาจารย์สนั่น ขำเลิศ เป็นผู้คัดเลือก) อยู่ที่สถาบันวิจัยพืชสวนในเวน ประเทศออสเตรเลีย ปัจจุบัน อาร์ทูอีทู เป็นมะม่วงพันธุ์การค้าของประเทศออสเตรเลีย การจำหน่าย อาร์ทูอีทู มีขึ้นในปี พ.ศ. 2537 และเป็นที่ยอมรับในตลาดทั่วประเทศ และ อาร์ทูอีทู ยังเป็นมะม่วงที่มีการปลูกมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ (อันดับ 1 คือ พันธุ์เคนซิงตัน ไพรด์) และยังเป็นพันธุ์ที่มีอายุการเก็บรักษาหลังการเก็บเกี่ยวนาน และเป็นที่ต้องการของตลาดเพื่อการส่งออก

ลักษณะผลของมะม่วง อาร์ทูอีทู รูปทรงมีลักษณะทรงกลม-ไข่ มีน้ำหนักผลเฉลี่ย 600 กรัม-1 กิโลกรัม ความยาวของผลเฉลี่ย 107 มิลลิเมตร และความกว้างของผลเฉลี่ย 77 มิลลิเมตร สีผิวเขียวอมเหลือง และส้มอมแดง สีเนื้อเมื่อสุกมีสีเหลืองมะนาว ลักษณะผลของเนื้อ เสี้ยนน้อย เนื้อแข็ง รสชาติหวานปานกลาง (หวานน้อยกว่ามะม่วงน้ำดอกไม้) และไม่มีกลิ่นขี้ไต้

ลักษณะต้นของมะม่วง อาร์ทูอีทู เป็นไม้ยืนต้นที่มีความสูงปานกลางถึงสูงมาก ลักษณะเป็นทรงพุ่ม กิ่งเปราะ และหักง่าย หลังจากการเพาะปลูกต้นมะม่วง อาร์ทูอีทู จะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีแรก และจะเจริญเติบโตช้าเมื่อต้นมีอายุประมาณ 4-5 ปี ซึ่งต้นมะม่วงจะให้ผลผลิตในช่วงนี้ด้วย เมื่อ อาร์ทูอีทู มีอายุ 6 ปี อาจมีความสูงถึง 6 เมตร หรือมากกว่า และมีเส้นผ่านศูนย์กลางต้นประมาณ 5 เมตร ลักษณะของดอกมะม่วง อาร์ทูอีทู มีความยาวของช่อดอก 20-50 เซนติเมตร ความกว้างของช่อดอก 10-20 เซนติเมตร ความหนาแน่นของขนมีน้อยมากหรือไม่มีเลย สีของดอกมีสีแดงด้านๆ และมีเปอร์เซ็นต์ของดอกสมบูรณ์เพศเป็นจำนวนมาก ทำให้มีการติดผลได้ง่ายกว่ามะม่วงพันธุ์อื่น

การปลูกและการตัดแต่งกิ่งมะม่วง อาร์ทูอีทู ถึงแม้ว่า อาร์ทูอีทู จะเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ เราสามารถปลูก อาร์ทูอีทู ให้ระยะชิดกันมากกว่าระยะที่ใช้ปลูกพันธุ์เคนซิงตัน ไพรด์ ระยะปลูกที่เหมาะสมคือ 4-6x9 เมตร (ระยะระหว่างต้น 4-6 เมตร และระยะระหว่างแถว 9 เมตร) ปลูกได้ประมาณ 30 ต้น ต่อ 1 ไร่ เกษตรกรที่มีพื้นที่ไม่มากจะใช้ระยะปลูกระยะชิดขึ้น เป็น 4x7 เมตร พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ 60 ต้น ในการตัดแต่งกิ่งและจัดทรงพุ่มมะม่วง อาร์ทูอีทู เป็นพันธุ์มะม่วงที่โตเร็วมากในช่วง 2-3 ปีแรก ถ้าต้นไม่ได้รับการแต่งกิ่ง ต้นจะสูงมากและให้ผลน้อยลง ในช่วง 2 ปีแรกต้นมะม่วงต้องได้รับการแต่งกิ่ง 2-3 ครั้ง ต่อปี เพื่อให้กิ่งก้านอยู่ในรูปทรงที่ดี เพื่อจะรองรับน้ำหนักของผลผลิตในช่วงปีต่อๆ ไป เนื่องจาก อาร์ทูอีทู มีการเจริญเติบโตในแนวสูง การแต่งกิ่งเพื่อลดความสูงจึงมีความจำเป็นมากในช่วงปีแรกๆ ที่ต้นไม้เริ่มให้ผลผลิต ซึ่งปกติจะอยู่ในช่วงอายุ 5-6 ปี การเจริญเติบโตจะช้าลง และการแต่งกิ่งก็ยังต้องทำทุกปี

การเก็บเกี่ยว มะม่วงพันธุ์ อาร์ทูอีทู ผลแก่จะมีเนื้อแข็งและมีอายุหลังการเก็บเกี่ยวยาวนาน เพื่อให้ได้รสชาติที่หวาน การเก็บเกี่ยวควรเป็นในช่วงที่จมูกของผลมีลักษณะสีเหลือง ผลผลิตที่เก็บในช่วงนี้จะยังคงมีความแข็งแรงพอที่จะบรรจุใส่กล่องและส่งไปถึงยังตลาดในช่วงที่เหมาะสมแก่การรับประทาน เนื่องจาก อาร์ทูอีทู มีขนาดผลใหญ่ กล่องที่ใช้บรรจุ อาร์ทูอีทู จึงควรมีขนาดสูง (130 มิลลิเมตร) เพื่อป้องกันการกระแทก

หลายคนยังไม่ทราบว่า มะม่วงพันธุ์ อาร์ทูอีทู เป็นมะม่วงของประเทศออสเตรเลียที่ปลูกและให้ผลผลิตได้ในประเทศไทย แต่เป็นสายพันธุ์ที่บังคับให้ออกนอกฤดูได้ยากกว่าพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง แม้จะมีการใช้สารแพคโคลบิวทราโซล (เช่น แพนเทียม) ราดเพื่อบังคับก็ตาม แต่มีจุดเด่นตรงที่ถ้าออกดอกแล้วช่อดอกใหญ่และดอกสมบูรณ์เพศทำให้มีการติดผลได้ง่ายมาก หรืออาจจะกล่าวง่ายๆ ว่า ถ้าออกดอกแล้วโอกาสติดผลมีสูงมาก ในขณะที่พื้นที่ปลูกมะม่วงในประเทศออสเตรเลียเองจะมีการปลูกมะม่วงหลักๆ อยู่ 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์เคนซิงตัน ไพรด์ (Kensington Pride) และ พันธุ์ อาร์ทูอีทู ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าคนออสเตรเลียนิยมบริโภคมะม่วงพันธุ์เคนซิงตัน ไพรด์ มากที่สุด ผลผลิตมะม่วงสายพันธุ์นี้มีผลผลิตเฉลี่ย ประมาณปีละ 1.65 ล้านกิโลกรัม มีผลผลิตในแต่ละปีมากกว่ามะม่วง อาร์ทูอีทู ที่ปลูกในออสเตรเลียหลายเท่า คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จักมะม่วงสายพันธุ์นี้ ทั้งที่จัดเป็นมะม่วงที่มีเนื้อละเอียดและรสชาติอร่อย ไม่มีกลิ่นขี้ไต้และสามารถปลูกให้ผลผลิตดีในประเทศไทย

ทางชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร จังหวัดพิจิตร ได้มะม่วงพันธุ์เคนซิงตัน ไพรด์ จำนวน 2 ต้น จาก ดร.วสันต์ ผ่องสมบูรณ์ ศูนย์วิจัยพืชสวนพิจิตร ซึ่งได้ยอดพันธุ์มาจากประเทศออสเตรเลีย เมื่อครั้งไปทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก ที่ประเทศออสเตรเลีย ในช่วงปีที่ พ.ศ. 2552 ที่ผ่านมาได้มีการทดลองราดสารแพคโคลบิวทราโซลเพื่อบังคับให้มะม่วงเคนซิงตัน ไพรด์ ออกดอกและติดผลนอกฤดู โดยใช้สารแพนเทียม 10% อัตรา 10 กรัม ต่อความกว้างของทรงพุ่มมะม่วง 1 เมตร เช่น ต้นมะม่วงเคนซิงตัน ไพรด์ อายุต้น 4 ปี มีความกว้างของทรงพุ่ม 4 เมตร ให้ใช้สารแพนเทียม 10% อัตรา 40 กรัม ผสมน้ำ 5-20 ลิตร ราดบริเวณโคนต้นมะม่วง หลังจากนั้น ให้มีการใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 8-24-24 และฉีดพ่นทางใบด้วยปุ๋ย 0-52-354 ดูแลรักษาเหมือนกับมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง เมื่อถึงเวลาจะให้ต้นออกดอก ให้กระตุ้นด้วยสารไทโอยูเรียและโพแทสเซียมไนเตรต ผลปรากฏว่าเป็นพันธุ์ที่ตอบสนองดีเหมือนกับมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองและให้ผลผลิตดกมาก มีน้ำหนักผลเฉลี่ย 300 กรัม ต่อผล ในอนาคตมะม่วงพันธุ์เคนซิงตัน ไพรด์ ซึ่งเป็นสายพันธุ์มะม่วงที่ปลูกมากที่สุดในออสเตรเลียจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการส่งออกมะม่วงไทย เพราะตอบสนองต่อการใช้สารแพคโควบิวทราโซลในการบังคับให้ออกนอกฤดู

การตลาดมะม่วงอาร์ทูอีทูและเคนซิงตัน ไพรด์ ปัจจุบัน อาร์ทูอีทู เป็นมะม่วงที่มีความต้องการในตลาดค่อนข้างสูงในประเทศไทย โดยปกติแล้ว อาร์ทูอีทู มีราคาสูงกว่ามะม่วงสายพันธุ์อื่น เนื่องจากสีที่สวยสะดุดตา อายุหลังการเก็บเกี่ยวที่ยาวนาน เนื่องจากมีเปลือกหนา และคุณภาพโดยรวม ทำให้มะม่วงสายพันธุ์นี้เหมาะสำหรับการส่งออก อาร์ทูอีทู ได้ถูกส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น หลังจากใช้กระบวนการอบไอน้ำ เพื่อกำจัดแมลงวันทอง สำหรับประเทศไทยสวนวารินทร์ ซึ่งมี คุณวารินทร์ ชิตะปัญญา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ได้ผลิตมะม่วง อาร์ทูอีทู เพื่อการส่งออกมานาน 3-4 ปีแล้ว ผลปรากฏว่าตลาดส่งออกหลักอยู่ที่สาธารณรัฐประชาชนจีนและรัสเซีย โดยขายผลผลิต เกรด เอ ที่มีขนาดผลมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า ผลละ 800 กรัม ได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 50 บาท ราคาดีตลอดฤดูกาล ถึงแม้ผลผลิตจะออกสู่ตลาดช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองราคาตกต่ำ แต่มะม่วง อาร์ทูอีทู ยังขายได้ราคากิโลกรัมละ 50 บาท มะม่วงเคนซิงตัน ไพรด์ นับเป็นมะม่วงออสเตรเลียที่เป็นพืชใหม่และเริ่มได้รับความสนใจจากเกษตรกรไทยมากขึ้น เป็นมะม่วงที่มีรสชาติใกล้เคียงกับ อาร์ทูอีทู เนื้อละเอียด เนียน ไม่มีกลิ่นขี้ไต้ ที่สำคัญออกดอกและติดผลได้ง่ายกว่า

แมลงศัตรูพืชและโรค ผลมะม่วง อาร์ทูอีทู และเคนซิงตัน ไพรด์ จะมีความทนต่อโรคแอนแทรกโนสได้ดีกว่ามะม่วงน้ำดอกไม้ แต่ อาร์ทูอีทู จะอ่อนแอต่อเชื้อแบคทีเรียจุดดำ แมลงศัตรูพืชที่จะพบในการปลูกมะม่วง อาร์ทูอีทู และเคนซิงตัน ไพรด์ ในประเทศไทยเหมือนกับมะม่วงพันธุ์ไทยทั่วไป อาทิ ช่วงแตกใบอ่อนจะพบการทำลายของเพลี้ยไฟ และด้วงงวงกรีดใบ และในระยะออกดอกติดผลจะต้องระวังการระบาดทำลายของเพลี้ยไฟ และระยะผลแก่ระวังเรื่องแมลงวันทอง



หนังสือ "รวมกลยุทธ์ผลิตมะม่วงเงินล้าน เล่ม 2" พิมพ์ 4 สี มีแจกฟรี พร้อมกับหนังสือ "การผลิตมะม่วงเงินล้าน เล่ม 1" และ "การผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเพื่อการส่งออก" และ "มะม่วงพันธุ์ต่างประเทศเพื่อการส่งออก" รวม 4 เล่ม จำนวน 336 หน้า เกษตรกรและผู้สนใจ เขียนจดหมายสอดแสตมป์ 100 บาท (ระบุชื่อหนังสือ) ส่งมาขอได้ที่ ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร เลขที่ 2/395 ถนนศรีมาลา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร 66000 โทร. (056) 613-021, (056) 650-145 และ (081) 886-7398


ที่มา  :  เทคโนโลยีชาวบ้าน









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-05-05 (1354 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©