-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 560 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

ข่าวเกษตร





เคนซิงตัน ไพรด์


จริงอยู่การปลูกมะม่วงของ ชาวสวนมะม่วงไทยในเชิงพาณิชย์ปัจจุบันนี้ แทบทั้งหมดจะปลูกพันธุ์น้ำดอกไม้สีทองเนื่องจากผลิตเพื่อการส่งออกเกือบทั้งหมด โดยมีการส่งไปขายในรูปแบบของผลสด, แช่แข็ง,ดายฟรีซ ฯลฯ
   
เป็นที่สังเกตว่าพื้นที่ผลิตมะม่วง น้ำดอกไม้สีทองเพื่อการส่งออกหลัก ๆ จะอยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา, นครราชสีมา, ประจวบคีรีขันธ์, อุดรธานี, พิจิตร ฯลฯ ยังมีการขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มเติมขึ้นอีกมากโดยเกษตรกรไม่มีการตรวจสอบเรื่องการตลาดในอนาคตให้ดีเสียก่อน ในขณะที่มีเกษตรกรบางรายปลูกมะม่วงหลายสายพันธุ์สุดท้ายได้เปลี่ยนยอดเป็นมะม่วงพันธุ์อาร์ทูอีทูทั้งสวน เพราะมีพ่อค้ามารับซื้อเพื่อการส่งออกทั้งหมดและได้ราคาดีไม่แพ้มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง อีกทั้งมีราคาดีตลอดฤดูกาลแม้จะเป็นช่วงที่มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองมีราคาตกต่ำในช่วงที่ผลผลิต ออกสู่ตลาดมาก ๆ
   
หลายคนยังไม่ทราบว่ามะม่วงพันธุ์อาร์ทูอีทูเป็นมะม่วงของประเทศออสเตร เลียที่ปลูกและให้ผลผลิตได้ในประเทศไทย แต่เป็นสายพันธุ์ที่บังคับให้ออก นอกฤดูได้ยากกว่าพันธุ์น้ำดอกไม้สีทองแม้จะมีการใช้สาร ราด เพื่อบังคับก็ตาม แต่มีจุดเด่นตรงที่ ถ้าออกดอกแล้วช่อดอกใหญ่และดอกสมบูรณ์เพศทำให้ มีการติดผลได้ง่าย มาก
   
หรืออาจจะกล่าว ง่าย ๆ ว่าถ้าออกดอกแล้ว โอกาสติดผลมีสูงมาก ในขณะที่พื้นที่ปลูกมะม่วงในประเทศออสเตรเลียเองจะมีการปลูกมะม่วงหลัก ๆ อยู่ 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์เคนซิงตัน ไพรด์และพันธุ์อาร์ทูอีทู ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าคนออสเตรเลียนิยมบริโภคมะม่วงพันธุ์เคนซิง ตัน ไพรด์ มากที่สุด ผลผลิตมะม่วงสายพันธุ์นี้มีผลผลิตเฉลี่ยประมาณปีละ 1.65 ล้านกิโลกรัม มีผลผลิตในแต่ละปีมากกว่ามะม่วงอาร์ทูอีทูที่ปลูกในออสเตรเลียหลายเท่าคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จักมะม่วงสายพันธุ์นี้ทั้งที่จัดเป็นมะม่วงที่มีเนื้อละเอียดและรสชาติอร่อย ไม่มีกลิ่น  ขี้ไต้และสามารถปลูกให้ผลผลิตดีในประเทศไทย
   
ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนพิจิตร ซึ่งได้ยอด พันธุ์มาจากประเทศออสเตรเลีย ที่ผ่านมาได้มีการบังคับให้มะม่วงเคนซิงตัน ไพรด์ออกดอกและติดผลนอกฤดู ผลปรากฏว่าเป็นพันธุ์ที่ตอบสนองดีเหมือนกับมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองและให้ผลผลิตดกมาก   มีน้ำหนักผลเฉลี่ย 300 กรัมต่อผล
   
ในอนาคตมะม่วงพันธุ์เคนซิงตัน ไพรด์ ซึ่งเป็นสายพันธุ์มะม่วงที่ปลูกมากที่สุดในออสเตรเลียจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการส่งออกมะม่วงไทยเพราะตอบสนอง ต่อการบังคับให้ออกนอกฤดู.

ทวีศักดิ์  ชัยเรืองยศ


ที่มา  ;  เดลินิวส์









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-05-05 (1437 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©