kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11623
|
ตอบ: 13/07/2023 7:39 am ชื่อกระทู้: |
|
|
.
.
ทำน้ำหมักชีวภาพ สูตรระเบิดเถิดเทิง ....
1. จำกันได้หรือไม่ นี่คือสภาพปลา ที่หมักไว้ในวัน 25/03/2011 ภาพอาจมัวไปนิด ภาพถัดไปดีกว่า
เสริม :
การทำน้ำหมักชีวภาพจากปลาที่ไร่กล้อมแกล้ม ไม่ใส่จุลินทรีย์จากแหล่งภายนอกใดๆทั้งสิ้น แต่ใช้จุลินทรีย์จากน้ำหมักถังเก่าที่หมักนานข้ามปีมาแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากเห็นชัดแล้วว่าจุลินทรีย์ให้ถังเก่ามีประสิทธิภาพในการย่อยสลายปลาทะเลโดยเฉพาะ กรณีนี้เรีนยกว่า "ต่อเชื้อหรือขยายเชื้อ" จุลินทรีย์นั่นเอง.......(ลุงคิม)
2. เห็นกันชัดๆไปเลย เหลือแต่ก้าง สุดยอดผลงานของจุลินทรีย์ตัวจิ๋ว และสารโบมาเลนในสับปะรด
เสริม :
แม้ว่าเนื้อปลาจะเยื่อยยุ่ยละลายหายไปหมดจนเหลือแต่ก้างแล้ว ก็ยังคงหมักต่อจนครบกำหนด 3 เดือน จึงจะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 (เติมน้ำมะพร้าว) ทั้งเพื่อให้เวลาแก่จุลินทรีย์ในการย่อยสลายโปรตีนจากเนื้อปลาให้ได้ธาตุหลัก ขั้นตอนนี้ถ้าได้ พีเอช 3.5 จะดีมากๆ...........(ลุงคิม)
3.
เสริม :
วันนั้นสายมากแล้วเข้าไปในโรงปุ๋ย กวาดสายตาสำรวจถังหมักระเบิดเถิดขนาด 200 ล.จำนวนทั้ง 80 ถังด้วย ความเคยชิน พลันเหลือบไปเห็นถังหนึ่งมีแมลงวันตัวเขื่อง 2-3 ตัวกำลังตอมน้ำหมักในถังอยู่อย่างสนุกสนานตาม ประสาแมลงวัน เห็นถังหนึ่งแล้วสำรวจถังอื่นๆบ้างว่าจะมีแมลงวันบ้างไหม ปรากฏว่า "ไม่มี" คงมีเฉพาะถังนี้
ถังเดียวเท่านั้น
เข้าไปดูใกล้ๆ ใช้ไม้พายคนปากถัง พอให้ส่วนผสมที่ปากถังจมลง ก็เริ่มสัมผัสกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ เป็นกลิ่น เพิ่งเกิดใหม่ๆ ยังไม่ถึงขั้นกลิ่นเหม็นเน่า แล้วก็พบหนอนตัวขนาดก้านไม้ขีด 4-5 ตัวกำลังคลานยั้วเยี้ยอยู่ที่ ปากถัง ตัดสินใจใช้ไม้พายยาวคนให้ถึงก้นถัง ก็พบว่ามีหนอนตัวเล็กๆ เพิ่งเกิดใหม่เต็มไปหมด มันคือหนอน แมลงวัน ที่เกิดจากไข่แม่แมลงวันที่ลอบเข้ามาวางไว้เมื่อราว 2-3 วันที่แล้ว
สั่งการให้เติมกากน้ำตาลลงไป 2-3 ล. กับน้ำส้มสายชูชนิด 99.9% จำนวน 100 ซีซี. คนเคล้าให้เข้ากันดี ระหว่างก้นถังกับปากถัง แล้วทิ้งไว้ประมาณ 4-6 ชม.กลิ่นไม่พึงประสงค์หายสนิทกลายเป็นกลิ่นปกติ ต่อมา อีก 24 ชม. หนอนตัวเล็กๆ ตายเกลี้ยง ต่ออีก 24 ชม.เจ้าหนอนตัวโตก็ตายตาม ก็แค่นี้เอง...(ลุงคิม)
4.
น้ำมะพร้าวเพียวๆ โควต้าอาทิตย์ละ 300 ล......
1. นี่คือ น้ำมะพร้าว ที่ลุงนำมาสำหรับใส่ลงไปในถังน้ำหมัก ระเบิดเถิดเทิง
2. ต้น กำลังเติมน้ำมะพร้าวลงไปในถังน้ำหมักระเบิดเถิดเทิง ที่ตอนนี้ผ่านมา 1 เดือนแล้ว และปริมาตรของน้ำหมักได้ลดลงไปประมาณ 1 ฝ่ามือ นั่นก็เพราะเกิดจากการระเหยของน้ำมะพร้าวในถังนั่นเอง อ๊ะๆๆๆ แต่ สารอาหารในน้ำมะพร้าวยังอยู่นะจ๊ะ !!!!
3. ฟองอากาศที่เกิดจากจุลินทรีย์จำพวกที่ต้องการอากาศครับ :
4. นี่คือ พวกฟังไจที่ตายแล้ว จะอยู่ผิวด้านบนของน้ำหมักระเบิดเถิดเทิงในถัง พวกเราจะต้องทำการคนให้มันลงไปข้างล่าง เพื่อให้เป็นอาหารของจุลินทรีย์ต่อไปครับ
เสริม :
ตารางวิเคราะห์ส่วนประกอบของน้ำมะพร้าว
Analysis of Mature Coconut Water Total solids% 5.4, Reducing sugars % 0.2, Minerals % 0.5, Protein % 0.1, Fat % 0.1,
Acidity mg % 60.0, pH 5.2, Potassium mg% 247.0, Sodium mg% 48.0, Calcium mg% 40.0, Magnesium mg % 15.0, Phosphorous mg% 6.3, Iron mg% 79.0, Copper mg% 26.0........Source : Satyavati Krishnankutty (1987)
ตารางวิเคราะห์ส่วนประกอบของกรดอะมิโนในน้ำมะพร้าว
Amino Acid Composition of Coconut Water (% of total protein)
Alanine 2.41} Arginine 10.75, Aspartic acid 3.60, Cystine 0.97-1.17, Glutamic acid 9.76-14.5, Histidine 1.95-2.05,
Leucine 1.95-4.18, Lysine 1.95-4.57, Proline 1.21-4.12, Phenylalanine 1.23, Serine 0.59-0.91, Tyrosine 2.83-3.00...........Source: Pradera et al, (1942)
เอกสารอ้างอิง :
นพมณี โทปุญญานนท์. 2545. การขยายพันธุ์พืชโดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ. ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้, เชียงใหม่. 162 หน้า.
สถาบันวิจัยและฝึกอบรมการเกษตรลำปาง. 2540. เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสูตรการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชเบื้องต้น.
สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล, ลำปาง. 45 หน้า อภิชาติ ชิดบุรี. 2545.
เอกสารประกอบการสอนวิชา การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช (บรรยาย).
สถาบันวิจัยและฝึกอบรมการเกษตร ลำปาง
สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล, ลำปาง. 283 หน้า
หมายเหตุ : น้ำมะพร้าวเป็นสารอินทรีย์ที่พืชสามารถนำไปใช้ได้ทันที นอกจากนี้น้ำมะพร้าวยังเป็นแหล่งพลังงานของจุลินทรีย์ในกระบวนการหมักอีกด้วย...............(ลุงคิม)
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=0ba0055e36357e99
มะพร้าวมีลำต้นสูง ต้องผ่านการกลั่นกรองตามชั้นต่างๆ ของลำต้นมะพร้าวกว่าจะถึงลูกมะพร้าวที่อยู่ข้างบน น้ำมะพร้าวที่ได้มาจึงบริสุทธิ์มากแคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โปรแตสเซียม ฯลฯ
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=4aa4c1b50801f6a6
วันนั้นสายมากแล้วเข้าไปในโรงปุ๋ย กวาดสายตาสำรวจถังหมักระเบิดเถิดขนาด 200 ล.จำนวนทั้ง 80 ถังด้วยความเคยชิน พลันเหลือบไปเห็นถังหนึ่งมีแมลงวันตัวเขื่อง 2-3 ตัวกำลังตอมน้ำหมักในถังอยู่อย่างสนุกสนานตามประสาแมลงวัน เห็นถังหนึ่งแล้วสำรวจถังอื่นๆบ้างว่าจะมีแมลงวันบ้างไหม ปรากฏว่า "ไม่มี" คงมีเฉพาะถังนี้ถังเดียวเท่านั้น
เข้าไปดูใกล้ๆ ใช้ไม้พายคนปากถัง พอให้ส่วนผสมที่ปากถังจมลง ก็เริ่มสัมผัสกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ เป็นกลิ่นเพิ่งเกิดใหม่ๆ ยังไม่ถึงขั้นกลิ่นเหม็นเน่า แล้วก็พบหนอนตัวขนาดก้านไม้ขีด 4-5 ตัวกำลังคลานยั้วเยี้ยอยู่ที่ปากถัง ตัดสินใจใช้ไม้พายยาวคนให้ถึงก้นถัง ก็พบว่ามีหนอนตัวเล็กๆ เพิ่งเกิดใหม่เต็มไปหมด มันคือหนอนแมลงวัน ที่เกิดจากไข่แม่แมลงวันที่ลอบเข้ามาวางไว้เมื่อราว 2-3 วันที่แล้ว
สั่งการให้เติมกากน้ำตาลลงไป 2-3 ล. กับน้ำส้มสายชูชนิด 99.9% จำนวน 100 ซีซี. คนเคล้าให้เข้ากันดีระหว่างก้นถังกับปากถัง แล้วทิ้งไว้ประมาณ 4-6 ชม.กลิ่นไม่พึงประสงค์หายสนิทกลายเป็นกลิ่นปกติ ต่อมาอีก 24 ชม. หนอนตัวเล็กๆ ตายเกลี้ยง ต่ออีก 24 ชม.เจ้าหนอนตัวโตก็ตายตาม ก็แค่นี้เอง.....(ลุงคิม)
จากระเบิดเถิดเทิง ปรับโมเลกุล ต่อยอด/ขยายผล เป็น โอไฮโอ. ฟาจีก้า.
5.
. |
|