เกมส์พนันนาข้าว..........(239)

[somboonyang]

เกมส์พนันนาข้าว


แปลงนาริมถนนทางเข้าไร่กล้อมแกล้ม ปกติชั่วนาตาปีเห็นทำนาหว่านอยู่แล้ว แต่ปีนี้เห็นต้นข้าวในแปลงขึ้นถี่เบียดติดกันกว่านาหว่านปกติ หะแรกก็คิดว่า นี่มันแปลงตกกล้าสำหรับทำนาดำนี่นา จึงให้สงสัย สงสัย ที่นี่ เจ้านี้ ทำนาหว่าน ต้องหว่านข้าวถี่ขนาดนี้เชียวหรือ

วันเวลาผ่านไปความจริงจึงปรากฏ เจ้าของหญิงสาวสวย แต่ไม่หมวบอึ๋ม อายุอาราม 50 หยกๆ 60 หย่อนๆ เจ้าของแปลงนาข้างบ้าน เริ่มถอนกล้า มัดรวม รวมกอง รู้ทันทีว่า เขากำลังจะเอากล้าข้าวไปดำในแปลงจริง.....กระนั้นก็ยังไห้สงสัย สงสัย เอ๊ะ นาข้าวชาวบ้านย่านนี้ ไม่เคยเห็นใครดำนาด้วยมือ แล้วแปลงที่ทำนาดำก็ดำด้วยเครื่องดำนากันทั้งนั้น


บ่น ... ตามประสาคนแก่ :
ความที่อยู่บ้านเขาช่อง เขาสามสิบหาบ ท่ามะกา กาญจนบุรี มานานหลายปีดีดัก จนน่าจะ (เน้นย้ำ.....น่าจะ) เป็นลูกบ้านคนหนึ่งไปแล้ว กับความที่ชีวิต จิต วิญญาน เลือด และเนื้อ เมื่อครั้งรับราชการในฝ่ายกิจการพลเรือน ทำให้ผูกพันกับชาวบ้าน ต้องเข้าหาแล้วให้อะไรๆแก่ชาวบ้านอยู่เสมอ ...... กับชาวบ้านเขาช่อง ก็อยากทำเยี่ยงนั้น มีบ้างที่มีชาวบ้านบางคนเข้ามาหา จึงถือโอกาสทำ ทำทุกครั้ง ให้กับให้ ให้ทุกครั้ง แต่จำนวนครั้งน้อยมากๆ ที่มีชาวบ้านเข้ามาหาเมื่อเทียบกับห้วงเวลา.....ร้อยวันพันเดือน (ไม่ใช่ ปี) เกษตรกรจากทั่วสารทิศ ทั่วประเทศ เวียดนามเคยมา อเมริกาเคยมา มาเรียนรู้ที่ไร่กล้อมแกล้ม ครั้งหนึ่งเคยจัดงานในไร่แล้วผู้คนมามากจนรถจอดยาวจากหน้าไร่ไปถึงถนนใหญ่หน้าวัด แม้แต่ทุกวันนี้ อาจจะประมาณเฉลี่ยอาทิตย์ละ 2 ราย มีเกษตรมาที่ไร่กล้อมแกล้ม แต่ งานนี้มีแต่ เกษตรกรชาวบ้านเขาช่อง บ้านอยู่ข้างไร่กล้อมแกล้มแท้ๆ แปลงเกษตรติดรั้วไร่กล้อมแกล้ม ไม่เคยมา ไม่เคยรู้ แม้แต่รายเดียวว่า ผู้คนที่มา เขามาทำอะไรกัน เคยมีเสียงเข้าหูเหมือนกันนะว่า "สวนนี้เขามีเพื่อนเยอะนะ" ..... ผู้นำชุมชน นายก อตบ.-กำนัน ทุกคนเคยมาที่ไร่กล้อมแกล้ม ได้รู้ได้เห็น แต่ไม่นำพาเอาไปเผยแพร่ .... อธิบดีกรมวิชาการเกษตรหรือกรมส่งเสริมการเกษตร จำไม่ได้ จำได้แต่เป็นคนที่เคยลงสมัคร สว.กาญจนบุรี แล้วโดนใบแดงข้อหาแจกกล่้าไผ่ในงานเกษตร กับเกษตรอำเภอ เกษตรตำบล จนท.เกษตรอีกหลายคน เคยมานั่งกินข้าวเที่ยงที่ศาลากลางน้ำไร่กล้อมแกล้ม วันเดียวกันนั้นที่ไร่กล้อมแกล้มจัดงานเกษตรสัญจร มีการออกบู๊ธขายของ มีคนมาเยอะแยะ คณะที่มากินข้าวเสร็จ ขณะเดินกลับต้องผ่านบริเวณงาน เดินฝ่าฝูงคน ไม่ยักกะถามซักคำว่า "นี่งานอะไร...."





1.
ทุกครั้งที่ผ่านนาแปลงนี้ เห็นก็คือเห็น แต่ไม่รู้ว่าเจ้าของจะทำนาแบบไหน กระทั่งบ่ายวันนั้นได้เจอะเจอเจ้าของพอดี กำลังก้มหน้าก้มตาถอนกล้า จึงจอดรถแล้วทักทาย

ลุงคิม : (ยิ้มปากกว้างนำร่อง) ถอนกล้าจะไปดำที่ไหนน่ะ ?
เจ้าของ : (ยิ้มกว้างตอบรับ) นาแปลงโน้นนนนน

ลุงคิม : (เหลียวมองรอบๆ นาข้าวย่านนี้หว่านหมดแล้ว...เสียงตอบยาว "โน้นนนน" แสดงว่าไกล) ทำคนเดียวเหรอ ?
เจ้าของ : คนเดียว ไม่อยากจ้าง เดี๋ยวไปจ้างเอาตอนดำ

ลุงคิม : ข้าวพันธุ์อะไรน่ะ ?
เจ้าของ : พิษณุโลก

ลุงคิม : ทำนากี่ไร่ละ ?
เจ้าของ : นาดำ 5 ไร่ กับนาหว่าน 5 ไร่

ลุงคิม : ทำเทือกเรียบร้อยแล้วเหรอ ?
เจ้าของ : เรียบร้อยแล้ว แปลงนาหว่านก็หว่านแล้ว แต่นาดำว่าจะไปดำวันหลัง

ลุงคิม : หว่านยูเรีย หว่านปุ๋ยอะไรหรือยัง ทั้งสองแปลงน่ะ ?
เจ้าของ : ยังไม่ได้หว่าน ปีนี้ว่าจะไม่ใส่เพราะทุนน้อย




2.
แม้จะได้พูดคุยเพียงแค่นี้ก็พอสรุปแล้วรุกสู่เป้าประสงค์ได้เลย.....รู้ ประวัติดินนา .... รู้ หลักนิยมในการทำนา .... รู้ ทัศนคติต่อเรา

ลุงคิม : (มองหน้า โปรยยิ้ม) ถามจริง รู้จักลุงคิมไหม ?
เจ้าของ : รู้ซี่ แถวนี้ใครๆก็รู้จักกันทั้งนั้นแหละ เป็นผู้พันมาทำสวนเกษตร

ลุงคิม : เอาละ แล้วรู้เรื่องปุ๋ยลุงคิมไหม ?
เจ้าของ : รู้ .... ยัยนางแม่ค้ากับข้าวปากทาง บอกว่า เคยเอาปุ๋ยลุงคิมไปใส่ ได้ข้าวเกือบเกวียน ต้นทุนไม่กี่ร้อยบาท รุ่นต่อมาเอาปุ๋ยที่เซลล์มาเร่ขายถึงบ้าน จ่ายไปตั้งหลายพัน ได้ข้าวน้อยกว่าปุ๋ยลุงคิมซะอีก คราวนี้เขาไม่กล้าไปหาลุงคิมอีก เพราะกลัวลุงคิมด่า

ลุงคิม : (หัวเราะ) เรื่องนี้ฉันรู้แล้ว นาใครก็นาใคร ว่าแต่ว่า แกจะเอาไหม ปุ๋ยลุงคิม ฟรีด้วย....?
เจ้าของ : (ยิ้มกว้าง เหมือนได้โอกาส) เอาซี่ ว่าแต่ว่าแพงไหมล่ะ ?


ลุงคิม : ฟรีคร้าบ นา 10 ไร่ให้ฟรียันเกี่ยวเลย....แต่มีข้อแม้ ต้องขยันฉีดทุกอาทิตย์ นะ ถ้าไม่ขยัน ฉันจะคิดเงิน เกี่ยวข้าวแล้วเอามาจ่าย ตกลงไหม ?
เจ้าของ : เรื่องขยันฉีดนี่สบาย เพราะฉันมีคนรับจ้างฉีดประจำอยู่แล้ว

ลุงคิม : เรื่องคนรับจ้างฉีดนี่ก็สำคัญนะ เราต้องสั่งมัน ไม่ใช่ให้มันมาสั่งเรา
เจ้าของ : ไม่ต้องกลัว เพราะคนที่รับจ้างฉีดให้ มันก็รู้จักผู้พัน


ลุงคิม : งั้นตกลง อีก 3 วัน ฉันจะมา แกพาฉันไปรู้จักนา แล้วจะเอาปุ๋ยไปด้วยเลย.....อย่าผิดนัดนะ
เจ้าของ : (ยกมือไหว้) ขอบคุณค่ะ



3.
ประวัติดิน : ไถกลบฟางรุ่นนี้เป็นครังที่ 2, รุ่นที่แล้วใส่ 16-16-8 อัตรา 1 กส./ไร่, ใช้ยาฆ่ายาคุมวัชพืช 1 ครั้ง หลังข้าวยืนต้นได้, ไม่ใช้ยาฆ่าหอยเชอร์รี่, ใช้สารเคมีกำจัดเพลี้ยไฟ 1 ครั้ง,

ข้อมูลดินปัจจุบัน : ไถกลบฟางพร้อมย่ำเทือก 1 รอบ, ยังไม่ได้ใส่ปุ๋ยเคมีใดๆ, ยังไม่ได้ใช้ยาฆ่ายาคุมหญ้า,

ข้อมูลน้ำ : สามารถควบคุมน้ำได้ ตามต้องการตั้งแต่เริ่มต้นถึงเกี่ยว

ข้อมูลผลผลิต : ข้าวพันธุ์พิษณุโลก (ไม่ทราบหมายเลข), รุ่นที่แล้วทำนาหว่าน ได้ผลผลิต 75 ถัง/ไร่, ข้าวลีบ-ความชื้น-ข้าวปน-วัสดุเจือปน ค่อนข้างสูง

แรงงาน : จ้างแรงงาน (เจ้าประจำ) ทุกอย่างทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นถึงเกี่ยว เพราะตัวคนเดียว สามี 1 ลูกสาว 3 (ลูกเขย 3 ) ไม่มีใครมาช่วย

แผนการรุ่นนี้ :
- ขั้นตอนเตรียมเทือกไม่ได้ใช้น้ำหมักชีวภาพ จึงต้องใช้สูตร "เลยตามเลย/ไหนไหนก็ไหนไหน" ให้ระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 ครั้งที่ 1 (ไม่ +เพิ่มปุ๋ยเคมี) หลังดำ 7 วัน อัตรา 3 ล./ไร่.....ให้ครั้งที่ 2 ระยะข้าวแตกกอด้วยระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (3 ล.) +18-8-8 (10 กก.)/ไร่

- บำรุงระยะกล้าสูตร "เร่งการแตกกอ" ด้วย น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + ไบโออิ 100 ซีซี. + ยูเรก้า 100 ซีซี. + 18-38-12 (1 กก.) + 46-0-0 จี.เกรด (1 กก.) + สมุนไพร (เผ็ด-ขม) 2 ล. โดยให้ครั้งแรก เมื่ออายุข้าว 20 วัน, ให้ครั้งที่สองเมื่ออายุข้าว 30 วัน, ให้ครั้งที่สามเมื่ออายุข้าว 40 วัน แต่ละครั้งสำหรับเนื้อที่ 5-7 ไร่

- ระยะนี้ให้ติดตามและสังเกตุการ "เข้ามาหรืออาจจะเข้ามา" มาของศัตรูพืช




4.
ดำกล้าด้วยมือ ระยะห่างระหว่างกอมากกว่าฝ่ามือเล็กน้อยแต่ไม่ถึงคืบมือ สำหรับข้าวพันธุ์พิษณุโลกกับการบำรุงแบบเดิมๆแล้วถือว่า O.K. เพราะข้าวสายพันธุ์นี้แตกกอน้อย (1 กอได้ 5-6 ลำ) แต่หากบำรุงแนวใหม่แบบ อินทรีย์นำ-เคมีเสริม-ตามความเหมาะสมของข้าวสายพันธุ์พิษณุโลก อย่างสม่ำเสมอ เมื่อให้สูตร "เร่งการแตกกอ" แล้ว ต้นข้าวจะแตกกอเกิดหน่อใหม่มากกว่ามาตรฐานสายพันธุ์ จนเป็นเหตุให้ข้าวแต่ละกอเบียดกัน จนเป็นเหตุให้ ได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ, โรคแมลงมาก, ต้นอ่อนแอ, คุณภาพผลผลิตต่ำ

หมายเหตุ :
- นาหว่าน (มือ/เครื่องพ่น) ต้นข้าวขึ้นเบียดกันมาก ไม่แตกกอ ลำต้นโตขนาดหลอดดูยาคูลท์
- นาดำ/หยอดเมล็ด (ดำมือ/รถดำนา/เครื่องหยอด) ระยะห่างระหว่างต้น 20 x 20 ซม. (พันธุ์แตกกอน้อย) หรือ 30 x 30 ซม. (พันธุ์แตกกอมาก) ลำต้นโตขนาดหลอดดูเฉาก๊วย
- ต้นข้าวลำโตขนาดหลอดดูดเฉาก๊วย การเจริญเติบโต คุณภาพผลผลิต และปลอดโรคแมลง ดีกว่าต้นข้าวลำโตขนาดหลอดดูดยาคูล์ท
- ข้าวต้นแรกที่เกิดจากเมล็ด หว่าน/ดำ จะมีขนาดลำต้นตามธรรมชาติสายพันธุ์ แต่ต้นที่เกิดจากหน่อ (แตกกอ) จะมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือใหญ่กว่าต้นแรก เมื่อนาหว่านที่กอข้าวขึ้นห่างๆ การแตกกอดี ย่อมได้ข้าวต้นใหม่ดีกว่าต้นแรก นั่นหมายถึงคุณภาพผลผลิต และอื่นๆในทางที่ดีตามมาอีกด้วย.......ในทางกลับกัน ข้าวนาหว่านที่กอข้าวขึ้นเบียดกันมากๆ จนไม่อาจแตกกอได้ จึงไม่มีข้าวต้นใหม่ นอกจากจะไม่ได้ผลผลิตที่ดีแล้ว ยังมีปัญหาสร้างความเสียหายอื่นตามมาอีกหลายปัญหาด้วย


ความเคยชินของชาวนา :
พื้นที่ 1 ตร.ม. นาหว่าน 100 เมล็ดข้าว ไม่แตกกอได้ 100 ต้นข้าว ได้ข้าว 100 รวง
พื้นที่ 1 ตร.ม. นาดำ/หยอด 10 เมล็ดข้าว แตกกอแล้วได้ 100 ต้นข้าว ได้ข้าว 100 รวง

สัจจธรรมแห่งธรรมชาติของต้นข้าว :
ความต่างระหว่าง "นาหว่าน 100 เมล็ด V.S. นาดำ/หยอด 10 เมล็ด" ที่เห็นชัด
- ความสิ้นเปลืองเมล็ดพันธุ์
- ขนาดลำต้น
- เปอร์เซ็นต์แสงแดดที่ได้รับ
- ความชื้นในแปลง
- คุณภาพผลผลิต
- ต้นทุน
- ฯลฯ



5.
ขี้เทือกลึกครึ่งหน้าแข้ง.....สอบถามเจ้าของนา

ลุงคิม : ถามหน่อย ขี้เทือกลึกครึ่งแข้งกับขี้เมือกลึกแค่ตาตุ่ม อย่างไรไหนดีกว่ากัน ?
เจ้าของ : (หัวเราะเบาๆ) ครึ่งหน้าแข้งก็ต้องดีกว่าน่ะซีคะ

ลุงคิม : ถามอีก รู้ไหม ใส่ปุ๋ยเคมีมากๆ ดินแข็ง ดินเสีย โรคมาก ต้นทุนสูง ?
เจ้าของ : ก็เพราะรู้นี่แหละ รุ่นนี้ถึงไม่ใส่ยูเรียไงล่ะ

ลุงคิม : (มองหน้า จ้องตา) รู้มาจากไหน ?
เจ้าของ : ก็รู้มาจากลุงคิมนี่แหละ ฉันฟังวิทยุทุกวัน




6.
เด็กหนุ่มรับจ้าง (สูบน้ำ-ทำเทือก-ฉีด) เจ้าประจำ ผสมปุ๋ยในถัง 20 ล.แบบสพาย สูตรที่ให้สำหรับน้ำ 200 ล.เมื่อจะผสมก่อนใช้ต้อง "หารสิบ" ทำให้ดูเหมือนเนื้อปุ๋ยน้อย น้อยมากๆเมื่อเทียบกับปุ๋ยยี่ห้ออื่น

ท่าทางคล่องงาน ไม่ปริปากแม้จะรู้สึกว่าปุ๋ยน้อยไปหน่อย เวลาคุยกันมันเรียกลุงคิมว่า "ผู้พัน" ก็แสดงว่ารู้จักเรา ..... มิน่า จึงไม่เถียง ไม่แย้ง ไม่สอนเจ้าของนา




7.
บอกเด็กหนุ่มคนฉีดว่า ...... งานนี้ฉีดลงดินนะ ปรับหัวฉีดให้เม็ดใหญ่ๆ ฉีดปื้ดๆ ๆๆ ลงดินลงน้ำไปเลย โดนใบไม่เป็นไร

บอกเจ้าของนาว่า....งวดหน้าใช้ถัง 200 ล. ผสมครั้งเดียว แล้วปั๊มจากถังฉีดลงแปลงไปเลย ใช้เครื่องฉีดกำลังแรงๆ เดินบนคันนาแล้วฉีดกวาด ซ้าย-ขวา จากคันนาถึงกลางแปลงได้ ไม่ต้องลุยเทือก ไม่ต้องเสียเวลาด้วย.....เจ้าของพูดหน้าตาเฉย เครื่องฉีดแบบนั้นที่บ้านก็มี แต่มันเสีย ยังไม่ได้ซ่อม




8.
บน-ล่าง สบูต้นข้างนา นี่แหละสมุนไพรกำจัดหนอน งานนี้สั่งให้เตรียมสมุนไพร ขม-เผ็ด ไว้ให้พร้่อม ทุกครั้งที่จะฉีดพ่นทางใบให้ +สมุนไพรต้มตัวนี้ลงไปด้วย จะได้ไม่เสียเวลา แล้วก็ "กันก่อนแก้" ได้ด้วย



9.
เจ้าของนามองหน้า โปรยยิ้มหวาน (เห็นแล้วอยากอ้วก ว่ะ) ตอบกลับ "ยังไม่ได้ทำเลย ไงๆก็ต้องไปเอาที่ไร่กล้อมแกล้มนั่นแหละ...."

งาน "เลยตามเลย-ไหนไหนก็ไหนไหน" นี่แหละของแท้......ไม่ได้ตอบรับแต่ทวงสัญญา "ตั้งใจฉีดอาทิตย์ละครั้งให้ได้ ถ้าขยัน ถ้าทนนาข้างๆหาว่าบ้่าได้ งานนี้เอาไปฟรีเลย แต่ถ้าผิดสัญญา คิดเงิน เกี่ยวข้าวแล้วเอามาจ่าย ..... O.K. ?"

ตกลงค่ะ.....

.

[kimzagass]

1.
"ดำซ่อม" ระยะห่างฝ่ามือกว่าๆ เล็กกว่าคืบมือนิดหน่อย เจ้าของนายัง บอกว่า "ห่าง" แล้วว่าคนรับจ้างบางคนขี้เกียจดำซะห่าง เลยต้องมาดำซ่อมเอง กะเอาระยะแค่ฝ่ามือเดียวให้ได้ ทั้งๆที่บอก บอก แล้วก็บอกว่า นี่มันถี่เกินแล้วนะ รอเวลาแตกกอออกมาเถอะจะเบียดกันเอง ไม่ต้องดำซ่อมให้เสียเวลาหรอก




2.
ด้วยความเคยชินของชาวนา จนดูไม่ออกว่าระยะห่างระหว่างกอแรกๆมันหลอกตา วันนี้ดูโหลงเหลงๆ แต่พอโตขึ้นมานั่นแหละจะเห็นเอง....หนังเพิ่มเริ่มฉาย ลิเกเพิ่งออกแขก รู้แล้วเหรอว่ามันจะจบยังไง....

เหมือนต้นข้าวเขียวด้วยยูเรีย ให้วันนี้ วันรุ่งขึ้นเขียวเลย เขียวทันตาเห็น แต่หารู้ไม่ว่า นั่นมันเขียวลวงตา ก็แค่ 3 วันผ่านไปเท่านั้นแหละ ต้นข้าวหายเขียวกลับมาเหลืองอย่างเก่าแล้ว ชาวนาไม่รู้หรอกว่า ยูเรียน่ะทำมาจากอากาศ ใส่ลงไปในดินจะอยู่ได้แค่ 3 วัน จากนั้นมันจะระเหิดหายไปในอากาศ ถ้าไม่เชื่อ ลองๆเอายูเรียไปวางกลางแดดซี่ ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นแหละ ละลายเป็นน้ำเลย เรื่องนี้คนขายยูเรียไม่พูด คนซื้อยูเรียก็ไม่เคยถาม พอกันไหมล่ะ

พอยูเรียหมดฤทธิ์ ต้นข้าวกลับมาเหลืองอย่างเก่า ชาวนาบอกว่า อ่อนยูเรีย-อ่อนยูเรีย ว่าแล้วก็ใส่ยูเรียลงไปอีก.....บางคนถึงกับบอกว่า "ข้าว ไม่ใส่ยูเรีย ไม่ได้แดกหร็อก...." เอากะพ่อซี่....




3.
ลูกลูก นศ.สจล. ไปไร่กล้อมแกล้ม ภารกิจ "ดาวเรือง" ตามนัด ได้โอกาสพาไปแปลงนาด้วย ไปให้เห็นของจริง เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง สำหรับเจ้าของนา คือ คำแนะนำ แต่สำหรับลูกลูก นศ. คือ คำสอน




4.
ปลูกข้าว ตามใจข้าว ไม่ใช่ตามใจคน.....
ปลูกข้าว รู้นิสัย รู้ธรรมชาติ ของต้นข้าวแล้วต้องรู้ นิสัยคน รู้ธรรมชาติ ของคนด้วย....




5.
แผ่นกระดาษกล่องแม่โขงที่ถือ คือ "สูตร" ข้าวระยะแตกกอใส่อะไรเท่าไหร่ ข้าวระยะน้ำนมใส่อะไรเท่าไหร่ งวดหน้าจะเอาสูตร "หยุดความสูง" ระยะแตกกอตั้งท้อง (ต้นกลม) มาให้อีก

ต้องใช้วิธีเขียน เขียนตัวโตๆ ให้เอาไปอ่าน จะใช้งานทีก็อ่านที ใส่ตามที่เขียนบอกนั่น .... เพราะรู้ว่า บอกด้วยวาจา ร้อยครั้งพันครั้งก็จำไม่ได้

บอกว่า เอาไปอัดกรอบพลาสติก ติดไว้หน้าห้องน้ำ ปิดทอง จุดธูป ไหว้ทุกวันที่มี ร.เรือ จันทร์-อังคาร-ศุกร์-เสาร์ ไหว้ดีๆ ตั้งใจๆ ถ้าไม่ดีไม่ตั้งใจเดี๋ยวจุก ..... ยังถามอีก วันอาทิตย์ วันพุธ วันพฤหัส ไม่ไหว้เหรอ..... ก็เลยตอบไปว่า วันอาทริตย์ วันพรุธ วันพรึหัส ก็ไหว้ได้.....




6.
เรียนรู้เรื่องเกษตร เห็นกับตา จับกับมือ กินกับปาก ให้มันชัดเจน ถึงขนาด ก.ทำกับมือ มึงอย่าเถียง....




7.
สอนนักสอนหนา ก่อนทำอะไรให้วางแผนก่อน หัวข้อแรกของแผน คือ "ปัญหา" หัวข้อสุดท้าย คือ ตัวเลข "กำไร".....ต้นทุน - ราคาขาย = กำไร

ทำนาได้ข้าวเปลือกแล้ว ขายให้โรงสี ............................. ได้เท่าไหร่ ?
ทำนาได้ข้าวเปลือกแล้ว จำนอง ธ.ก.ส. ........................... ได้เท่าไหร่ ?
ทำนาได้ข้าวเปลือกแล้ว ขายเป็นข้าวปลูก.......................... ได้เท่าไหร่ ?
ทำนาได้ข้าวเปลือกแล้ว ขายเป็นข้าวสาร .......................... ได้เท่าไหร่ ?




........ ติดตามตอนต่อไป ต่อๆ และต่อๆ ไปจนถึงเกี่ยวโน่นแหละ......




.