kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11623
|
ตอบ: 29/08/2014 11:37 am ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร 27 AUG **รูปแบบเลี้ยงปลาสลิด |
|
|
.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 27 AUG
AM 594 เวลา 08.10-09.00 & 20.05-20.30 ทุกวัน และ FM 91.0 (07.00-08.00 / วันอาทิตย์)
********************************************************************
สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธันเดอร์แคล, เอ็ม.แคล--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986
----------------------------------------------------------------------------------------------
ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ เคมี)
1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) คุณชาตรี (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)
3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) คุณล่า (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี
5) คุณประเสริฐ (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) คุณอรุณ (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.
7) คุณพรพรรณ (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) คุณน้ำส้ม (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :
** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม
** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)
มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
.... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .........
.... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .........
-----------------------------------------------------------
จาก : (089) 164-29xx
ข้อความ : ผู้พันครับ ผมทำบ่อปลาสลิด 4 บ่อ ขนาดบ่อละ 2 ไร่ เลี้ยงปลาสลิดได้บ่อ
ละ 2-3 หมื่น ผู้พันมีวิธีทำปลาสลิดที่เกิดมาแล้วให้เป็นตัวเมียทั้งหมดไหมครับ เพราะตัว
เมียราคาดีกว่าตัวผู้ .... ขอบคุณครับ
ตอบ :
ปลาสลิดตัวเมียรูปร่างป้อมสั้น ตัวผู้รูปร่างเรียวยาว ตัวเมียมีมันมากรสชาติจะอร่อยกว่า
ตัวผู้ และราคาแพงกว่าตัวผู้ .... ปกติทำปลานิลตัวผู้ให้เป็นหมัน เมื่อเป็นหมันก็จะไม่
สนใจเรื่องเพศ ตั้งหน้าตากินอาหารทำให้โตเร็ว
ปลาสลิดอร่อยที่สุด ทั่วประเทศยอมรับ คือ ปลาสลิดบางบ่อ สมุทรปราการ วันนี้หายไป
แล้วเหลือแต่ตำนานคำเล่าขานเท่านั้น เพราะบ่อปลาสลิดกลายเป็นโรงงานอุตสาหกรรม
บ่อขยะ น้ำเน่า ควันพิษ อากาศเสีย การเกษตรทุกอย่างพังทลาย สังคมคนเมืองที่
ฟอนเฟะ กับสังคมชนบทจังหวัดที่คนงานจากมาล่มสลาย นี่คือ ผลงงานของนักการ
เมือง ถ้าวันนี้นักการเมืองผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่ เห็นผลงานของตัวเองแล้ว เขาทำหน้ายัง
ไง .... ถ้าโรงงานอุตสาหกรรมเหล่านี้ไปอยู่ต่างจังหวัด พื้นที่แห้งแล้งทำการเกษตรไม่ได้
ลูกหลานที่นั่นก็จะทำอุตสาหกรรมแทนเกษตรกรรม ทำงานกะกลางวัน เช้ามาเย็นกลับ ทำ
งานกะกลางคืน ค่ำมาเช้ากลับ อยู่กับครอบครัว .... วันนี้มีอีกหลายนิคมอุตสาหกรรม
พยายามเกิด เกิดบนพื้นที่เกษตรรม อีหร็อบเดียวกันกับสมุทรปราการ อยุธยา กับอีก
หลายจังหวัด ....
เปลี่ยนเพศปลาสลิด โดยให้ลูกปลาอายุ 2 สัปดาห์ กินอาหารผสมฮอร์โมน 17 beta-
เอสตราไดออล 200 มก. ต่ออาหาร 1 กก. เป็นเวลา 60 วัน ได้ผลคือเป็นเพศเมีย
100% และไม่เป็นหมันเลย
http://pikul.lib.ku.ac.th/cgi-bin/agdb1.exe?
rec_id=051300&database=agdb1&search_type=link&table=mon
a&back_path=/agdb1/mona&lang=thai&format_name=TFMON
@@ เลี้ยงปลาสลิด :
* ในบ่อดิน :
บ่อที่จะใช้เลี้ยงปลาสลิด ต้องมีชานบ่อกว้างอย่างน้อย 1 เมตร สำหรับให้ปลาวางไข่ ผิดกับ
บ่อเลี้ยงปลาชนิดอื่น ๆ ซึ่งไม่ต้องมีชานบ่อ บ่อเลี้ยงปลาสลิดนี้ ขนาดเล็กที่สุดกว้าง
ประมาณ 10 ม. ยาว 20 ม. และลึก 1.50 ม. ถ้าอยู่ติดกับแม่น้ำลำคลอง มีทางระบาย
ถ่ายเทน้ำได้สะดวกด้วยแล้วนับว่าเป็นทำเลที่ดี
เตรียมเพาะตะไคร่น้ำ : ตะไคร่น้ำเป็นอาหารธรรมชาติที่จำเป็นสำหรับลูกปลาสลิดขนาด
เล็กและใหญ่ ดังนั้นในบ่อปลาควรให้มีอาหารธรรมชาติเกิดขึ้นอยู่เสมอ โดยการใช้ปุ๋ย
คอกโรยให้ทั่วบ่อในช่วงที่กำลังตากบ่ออยู่ ในอัตราส่วนปุ๋ยคอก 100 กก./เนื้อที่ 1 ไร่
แล้วไขน้ำเข้าบ่อสูงประมาณ 10-20 ซม. จากก้นบ่อ ทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วัน ตะไคร่
น้ำหรือที่เรียกว่าขี้แดดก็จะเกิดขึ้นในบ่อ จากนั้นจึงปล่อยน้ำเข้าบ่อตามระดับที่ต้องการถ้า
เป็นบ่อใหม่ ภายหลังที่ใส่ปุ๋ยและปล่อยน้ำเข้ามาแล้ว ควรนำเชื้อตะไคร่น้ำ ซึ่งหาได้จาก
น้ำที่มีสีเขียวจัดโดยทั่วไป มาใส่ลงในบ่อเพื่อเร่งให้เกิดตะไคร่น้ำเร็วขึ้น
ใส่พันธุ์ไม้น้ำ : ในบ่อปลาสลิดควรปลูกพันธุ์ไม้น้ำจำพวกผักบุ้ง แพงพวย และผัก
กระเฉด ทั้งนี้เพื่อให้เหมาะกับนิสัยและความเป็นอยู่ของปลาสลิด การปลูกพันธุ์ไม้น้ำดัง
กล่าว ควรจะปลูกตามบริเวณชานบ่อที่มีน้ำตื้นๆ พันธุ์ไม้น้ำเหล่านี้นอกจากจะเป็นอาหาร
ของปลาสลิดและให้ร่มเงาแล้ว ยังเป็นที่สำหรับปลาใช้วางไข่ในฤดูฝนอีกด้วย
ใส่ปุ๋ย : การใส่ปุ๋ยในบ่อก็เพื่อให้บ่อปลามีอาหารธรรมชาติพวกพืชน้ำ และไรน้ำเล็ก ๆ เกิด
ขึ้นอยู่เสมอ ปุ๋ยที่ใช้ได้แก่ ปุ๋ยคอก (มูลโค มูลกระบือ ที่ตากแห้ง) โรยตามริมบ่อในอัตรา
เนื้อที่ 160 ตร.ม. ต่อปุ๋ย 10 กก. หรืออาจใช้ปุ๋ยหมักกองไว้ที่ริมบ่อด้านใดด้านหนึ่ง ปุ๋ย
หมักนี้ใช้หญ้าสดที่ตายทิ้งกองอัดให้แน่น แล้วใส่ปุ๋ยคอกผสมลงไปด้วย เพื่อให้หญ้าสด
สลายตัวเร็วเข้า ปุ๋ยเหล่านี้จะเป็นอาหารของพวกพืชน้ำและไรน้ำ ทำให้เจริญเติบโตเพื่อเป็น
อาหารของปลาสลิดต่อไป
ปล่อยปลาลงเลี้ยง : เวลาที่เหมาะสมในการปล่อยปลาลงบ่อควรเป็นเวลาเช้าตรู่หรือเวลา
เย็น เพราะในเวลาดังกล่าวนั้นน้ำในบ่อมีอุณหภูมิไม่ร้อนจัด ทำให้ปลาที่ปล่อยลงไปใหม่
ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ง่าย อัตราส่วนของปลาที่ปล่อยลงเลี้ยงในเนื้อที่ผิวน้ำ 1 ตร.
ม. ควรใช้ปลาประมาณ 5-10 ตัว เป็นอย่างมาก
อาหารที่ปลาสลิดชอบกินก็คือ ตะไคร่น้ำ รำละเอียด หรือปลายข้าวโดยต้มปนกับผักบุ้งที่หั่น
แล้ว รวมทั้งแหนสด และปลวกตะไคร่น้ำและไรน้ำเป็นอาหารของลูกปลาในวัยอ่อนอายุ
ตั้งแต่ 7 วัน ถึง 1 เดือน เมื่อปลามีอายุได้ 21 วันแล้ว ควรลองให้รำข้าวอย่างละเอียด ต้ม
ปนกับผักบุ้งที่หั่นละเอียดหรือแหนสด และปลวกบ้าง เพราะลูกปลาบางตัวเจริญเติบโตเร็วจน
สามารถกินอาหารดังกล่าวได้
สำหรับผักบุ้งที่ใช้ต้มปนกับรำนั้น ควรใช้ผัก 1 ส่วน รำ 2 ส่วน โดยต้มผักให้เปื่อยเสีย
ก่อน แล้วจึงเอารำลงไปเคล้า ปั้นเป็นก้อน การให้อาหารควรให้เพียงวันละ 2 ครั้ง ในเวลา
เช้า โดยจัดวางบนแป้นใต้ระดับน้ำ 1 คืบ ควรกะปริมาณอาหารให้ปลากินหมดพอดีในวัน
หนึ่งๆ ถ้าอาหารเหลือข้ามวันจะเกิดการบูดเน่า ทำให้เน่าเสีย แต่การที่จะกำหนด
ปริมาณอาหารให้แน่นอนลงไปเป็นการยากที่จะคำนวณได้ เพราะปลาย่อมเจริญเติบโตขึ้น
ทุกวัน อาหารที่ให้แต่ละคราวจึงต้องคอยๆเพิ่มปริมาณให้มากขึ้นอยู่เสมอ เพื่อให้เพียงพอ
กับความต้องการของปลา
การให้อาหารแต่ละครั้ง ควรพยายามให้เป็นเวลา และควรให้อาหารในระหว่างที่อากาศยังไม่
ร้อนคือ ในช่วงเช้าและเย็น ก่อนวางอาหารบนแป้นไม้ ควรดีดน้ำให้สัญญาณเสียก่อน ปลา
จะได้เชื่องและมีความเคยชิน
* ในบ่อซีเมนต์ :
สำหรับบ่อเพาะเลี้ยง ใช้บ่อที่มีความสูงประมาณ 60 ซม. ความกว้างขึ้นอยู่กับขนาดของ
พื้นที่ ก้นบ่อเลี้ยงรองด้วยดินและมูลควาย หมักทิ้งไว้ประมาณ 10 วัน จากนั้นปล่อยน้ำ
เข้าประมาณ 40-50 ซม. (ครั้งแรกที่เริ่มเลี้ยง) พอบ่อเพาะเลี้ยงพร้อม ก็นำพ่อแม่พันธุ์
จำนวน 1 กก. มาปล่อยในบ่อ
ให้อาหารเม็ด วันละ 1 มื้อ (08.00-09.00 น.) เนื่องจากอาหารธรรมชาติภายในบ่อที่
สร้างระบบโดยการทำปุ๋ยหมักให้เกิดไรแดง พร้อมกับปลูกพรรณไม้น้ำเพื่อช่วยบำบัดน้ำและ
เป็นอาหารของปลาอีกทางหนึ่ง จะช่วยลดต้นทุนด้านอาหาร
การเลี้ยงปลาสลิดในบ่อปูนซีเมนต์ เป็นการเลี้ยงที่มีความเสี่ยงน้อย สามารถควบคุมได้ ทั้ง
อาหาร อัตราการรอดที่มีมากถึง 100% ที่สำคัญคือ ศัตรูธรรมชาติไม่สามารถเข้ามา
ทำลายได้ การจับจำหน่ายทำได้ง่าย เมื่อเลี้ยงไประยะหนึ่งปลาจะขยายพันธุ์ ทำให้
ประชากรในน้ำมีเพิ่มมากขึ้น หากปล่อยไว้จะทำให้น้ำเสีย ต้องควบคุมจำนวนประชากรให้
เหมาะสมกับขนาดบ่อเลี้ยง
การเลี้ยงปลาสลิด ต้องใช้ระยะเวลาเลี้ยงนานพอสมควรกว่าจะจับขายได้ ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่
ประมาณ 8-10 เดือน ทำให้ในระหว่างนั้นจะมีประชากรปลาที่เกิดใหม่ขึ้น หากปล่อย
เลี้ยงไว้ในบ่อจะทำให้น้ำเสียเร็วขึ้น ปลาใหญ่แย่งอาหารปลาเล็ก ดังนั้น พอปลาใหญ่วาง
ไข่และให้ลูกแล้ว ให้จับปลาใหญ่ขายไป และเพาะเลี้ยงปลาเล็กที่เกิดใหม่เป็นรุ่นต่อไปใน
บ่อเลี้ยงเดิม โดยที่ไม่ต้องล้างหรือทำความสะอาดบ่อใหม่ อาศัยการเติมน้ำในช่วงฤดูฝน ปี
ละ 1 ครั้ง เท่านั้น แต่ด้วยปริมาณลูกปลาที่เกิดมาแต่ละครั้งค่อนข้างเยอะ จะเลี้ยงในบ่อ
เดียวไม่ได้ จึงแยกไปเลี้ยงให้เหมาะสมกับขนาดบ่อที่เลี้ยง
* ในบ่อพลาสติก :
ทหาร พล.ร. 6 กรมหรือกองพันไหนจำไม่ได้ ที่อุบลราชธานี อำเภออะไรก็จำไม่ได้
อีก นั่นไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ กำลังพลทหารหน่วยนี้ได้รับคำแนะนำจาก
ผบ.พล.6 (พล.ต.พิเชษฐ์ วิสัยจร สมัยนั้น) ให้เลี้ยงปลานิลในบ่อพลาสติกหน้าบ้าน
พักทุกบ้าน บ่อขนาด กว้างยาวลึก 1.5 x 2 x .50 ม. หน้าบ้านทุกบ้าน แนวคิดนี้
คือ เปลี่ยนปลานิลมาเป็นปลาสลิด กับเปลี่ยนอาหารปลานิลมาเป็นอาหารปลาสลิด
* ในกระชัง :
ทำไม่ได้เพราะ กระชังอยู่ในน้ำไหล ในเมื่อปลาสลิดต้องกินตะไคร่น้ำ กินไรแดง น้ำไหล
จะพาตะไคร่ ไรแดง หายไปหมด เพราะฉะนั้น หากจะเลี้ยงปลาสลิดในกระชังจริงๆ ก็ต้อง
เลี้ยงด้วยอาหารสำเร็จรูป ซึ่งต้นทุนค่อนข้างสูง
ปรึกษา :
ไพไพศาลพันธุ์ปลา เลขที่ 17 ซอย สุวินทวงค์ 36 ถนนสุวินทวงค์ แขวงแสนแสบ
เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ 10510
โทร : 0-2347-3208 แฟกซ์ : 0-2347-3209 มือถือ 08-1934-7446
E-Mail :phaisarnpanpa@hotmail.com
----------------------------------------------------------
. |
|