Aorrayong หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 30/07/2009 ตอบ: 869
|
ตอบ: 04/12/2009 10:16 pm ชื่อกระทู้: จะขายผักผลไม้ให้ อียู ได้อย่างไร? |
|
|
ที่มา http://www.nitipoom.com/th/article1.asp?idOpenSky=3392&ipagenum=
จะขายผักผลไม้ให้อียูได้อย่างไร ?
ศุกร์ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
ขณะนี้มีการสร้างพระมหาเจดีย์ชะเวดากองใน กรุงเหน่ปยี่ตอว์ เมือง หลวงใหม่ของพม่า ผมมีภาพไปเยือนเจดีย์ชะเวดากอง ทั้งองค์เก่าที่กรุงย่างกุ้ง และองค์ที่สร้างใหม่ในกรุงเหน่ปยี่ตอว์ ซึ่ง รมช.อลงกรณ์ พลบุตร กับนิติภูมิเป็นคณะแรกๆ ที่ไปเยือน และได้เข้าไปกราบนมัสการจนถึงด้านในของเจดีย์
ท่านผู้ใดสนใจ ขอเชิญชมรายการ World Beyond เดินทางสร้างชาติ ที่แพร่ภาพเวลา ๐๖.๐๐-๐๖.๓๐ น. ของเช้าวันเสาร์พรุ่งนี้ครับ
กลับ จากญี่ปุ่น นิติภูมิเดินทางไปพูดรับใช้หน่วยงานต่างๆ ทั้งที่จังหวัดเชียงใหม่ พิษณุโลก และพะเยา ผู้ฟังหลายท่านถามถึงการส่งพืชผักผลไม้สดไปขายยังตลาดสหภาพยุโรป ๒๗ ประเทศ
น่า เสียดายที่เกษตรกรไทยส่วนใหญ่ที่ผมไปบรรยายรับใช้นั้น ไม่ใคร่มีใครรู้ซึ้งถึงข้อปฏิบัติที่ถูกต้องในการจัดการระบบผลิตผลทางการ เกษตร ว่าการที่จะส่งสินค้าประเภทพืชผักผลไม้สดไทยไปขายในสหภาพยุโรป ท่านจะต้องทำตามข้อกำหนดของระบบการค้าในตลาดยุโรป ที่เรียกว่า EUREPGAP อย่างไรบ้าง?
ต้อง โทษกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ไม่ได้ใส่ใจอบรมให้ความรู้เรื่องนี้แก่เกษตรกรไทย นี่เป็นเรื่องสำคัญมากนะครับ เพราะการส่งออกพืชผักผลไม้สดทำรายได้เข้าประเทศไทยได้ปีละเป็นหมื่นล้านบาท เงินจำนวนนี้เป็นของคนไทยของแท้ ไม่ใช่เป็นรายได้จากการส่งออกรถยนต์ ที่คนไทยได้แต่ค่าแรงไม่กี่เปอร์เซนต์
เดี๋ยว นี้มีหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง เดินทางเข้ามาเช่าที่ดินในประเทศเพื่อนบ้านของไทย เพื่อปลูกพืชผักผลไม้ไปบริโภคเอง ส่วนที่เหลือก็นำออกไปจำหน่ายในตลาดโลก การปลูกพืชผักผลไม้ของบริษัทใหญ่เหล่านี้ มีการจัดการระบบผลิตทางการเกษตรที่ถูกต้องตามมาตรฐานของกลุ่มประเทศในสหภาพ ยุโรป เริ่มตั้งแต่การพิจารณาพื้นที่การปลูก การดูแล การจัดการในระหว่างการเก็บเกี่ยว จึงได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของตลาดยุโรป ฝรั่งมังค่าทั้งหลายมีความมั่นใจว่า บริโภคสินค้าจากบางบริษัทที่ไว้ใจได้จะมีความปลอดภัย กินแล้วไม่เป็นมะเร็ง แถมไม่กระทบสิ่งแวดล้อม
ประเทศ ที่จะมีความมั่งคั่งต่อไปในอนาคต ประชาชนของประเทศนั้นจะต้องมีความชำนาญในด้านพลังงานและการผลิตอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาหารที่มาจากผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร การที่บริษัทข้ามชาติที่เข้าไปปลูกพืชผักผลไม้ในประเทศเพื่อนบ้านของเรา สามารถเอาสินค้าไปขายในตลาดสำคัญของโลกได้ เป็นเพราะบริษัทพวกนั้น ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และข้อกำหนดของ EUREPGAP ที่ เกี่ยวดองหนองยุ่งทั้งทางด้านพันธุ์พืช การเก็บบันทึกและการตรวจสอบภายใน ประวัติของแปลงเพาะปลูกและการจัดการพื้นที่ การจัดดินและวัสดุปลูก การจัดการปุ๋ยและธาตุอาหาร ระบบการจัดการน้ำ การดูแลรักษาพืช การเก็บเกี่ยวหลังผลิต การดูแลหลังการเก็บเกี่ยว การจัดการขยะและมลพิษ สุขภาพของคนงานรวมทั้งความปลอดภัยและสวัสดิการ การจัดการสิ่งแวดล้อม แบบฟอร์มคำร้องเรียน การทวนสอบ ฯลฯ
จะ นำพืชผักผลไม้สดของไทยไปขายในประเทศไหน จะต้องพิสูจน์ให้ผู้ซื้อในประเทศนั้นได้มั่นใจว่า เกษตรกรของไทยได้ผลิตสินค้าตามกฎเกณฑ์และข้อกำหนดที่ได้วางไว้จริงๆ ไม่ใช่ทำเล่นๆ หรือทำหลอกๆ
ผู้ ฟังคำบรรยายหลายท่านถามว่า ประเทศผู้ซื้อจะรู้ได้ยังไงว่าเราผลิตผลิตผลการเกษตรอย่างไร ผมตอบท่านว่า ผู้บริโภคพวกจากชาติเหล่านั้นมั่นใจในคุณภาพของสินค้าโดยผ่านระบบ consultant หรือบริษัทที่ปรึกษา และจะต้องมี CB ซึ่งย่อมาจาก Certified Body หรือองค์กรรับรอง
โลกเราเข้าสู่ยุคแข่งขัน ถ้าเราจะดันสินค้าเกษตรของไทยให้แข่งขันได้ รัฐบาลจะต้องให้ความรู้คนหลายกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพ
กลุ่ม แรกเป็นเกษตรกร หรือผู้รวบรวมผลผลิตจากกลุ่มเกษตรกร กลุ่มที่สองเป็นผู้ส่งออก กลุ่มที่สามเป็นหน่วยงานรัฐ ข้าราชการของรัฐก็จะต้องเข้าใจเรื่องนี้โดยละเอียด นอกจากนั้น พวกองค์กรสาธารณะที่ทำหน้าที่เป็นองค์กรอิสระหนุนเกษตรกรเรื่องเทคโนโลยี เพื่อการผลิต หรือองค์กรที่ทำหน้าที่รับรอง ก็ต้องรู้เรื่องนี้ด้วย
นิติภูมิจะกลับมากระจายขยายข่าวเรื่องระบบควบคุมคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรของโลก และของไทยเป็นระยะๆ ต่อไป
ศุกร์เย็นนี้ ฐานะ ผ.อ. โครงการศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการเปลี่ยนโครงสร้างหน่วยงานที่กำกับดูแลและพัฒนาสหกรณ์ นิติภูมิจะนำกรรมการและที่ปรึกษาจำนวน ๓๒ คนไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ดูงานที่ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งชาติของสาธารณรัฐเกาหลี
คงมีเรื่องน่าสนใจกลับมารับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพละครับ
[27/11/2552] |
|