 ตอบ: 03/10/2010 9:29 am ชื่อกระทู้: |
|||
ยกเลิก-ถอนคำพูด ตามข้อความข้างบนนี้ เนื่องจากข้อมูลผิดพลาด...แล้วให้ใช้ข้อมูลด้านล่างนี้แทน เพราะเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือกว่า.....ขอบคุณที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง มีความเข้าใจผิดกันว่า ลีลาวดี นั้นเป็นชื่อพระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นชื่อพระราชทานจาก สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ[1] ลุงคิมครับผม |
|||
| ตอบ: 03/10/2010 9:20 am ชื่อกระทู้: |
|
| ขณะที่ ทองกวาว ออกดอกจะทิ้งใบจนหมดต้น และมีดอกเต็มพรึบไปทั่วทั้งต้น คล้าย กับต้น ทองหลางด่าง หรือ ปาริชาต
"ตีความ" ข้อความนี้ที ว่าหมายความว่าอย่างไร....? เหมือน "ตีความีรัฐธรรมนูญ" นั่นแหละนะ ลุงคิมครับผม |
|
| ตอบ: 03/10/2010 8:48 am ชื่อกระทู้: |
|
| ต้นลั่นทมเขตแถว ๆ บ้านผม ไม่ค่อยมีคนปลูกสักเท่าไหร่ เพราะด้วยความเชื่อว่า...
เวลาเผาศพเสร็จ ก็จะเอาอัฐิส่วนหนึ่งเก็บไว้เพื่อประกอบพิธี... ส่วนอัฐิ (กระดูกคนที่เผาแล้ว)และอังคาร(เถ้าถ่านของศพที่เผาแล้ว)ส่วนที่เหลือก็จะนำไปฝัง แล้วเอาต้นลั่นทมไปปลูกตรงที่ฝังนั่นเลยเป็นสัญลักษณ์ไว้ ถ้าคนเดินผ่านก็จะรู้เลยว่า " ตรงนี้เป็นหลุมฝังกระดูกและเถ้าถ่าน" ปรือ...น่ากลัว ๆ ๆ...  บางคนกลัวถึงขนาดไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้ต้นไม้เลย... 
เรื่องดังกล่าวเป็นความเชื่อของท้องถิ่นนะครับ...นานา จิตฺตํ... |
|
| ตอบ: 03/10/2010 8:40 am ชื่อกระทู้: |
|
| ทองกวาวชื่อวิทยาศาสตร์ Butea monosperma (Lam.) Taub.
วงศ์ LEGUMINOSAE ชื่อท้องถิ่น จอมทอง (ภาคใต้) ทองธรรมชาติ ทองพรหมชาติ ทองต้น (ภาคกลาง) กวาว ก๋าว(ภาคเหนือ) จ้า(เขมร) จาน(ภาคอีสาน) ลักษณะของพืช พบขึ้นกระจายทั่วไปตามที่ราบลุ่มในป่าเบญจพรรณ ที่ราบลุ่มในป่าผลัดใบ ป่าหญ้าหรือป่าละเมาะที่แห้งแล้ง พบมากทางภาคเหนือ ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 80-300 เมตร มีลำต้นสูงประมาณ 8-15 เมตร ลำต้น ส่วนมากจะไม่ค่อยตรง คดงอ เท่านั้นยังไม่พอ การแตกกิ่งก็ยังไม่เป็นระเบียบเหมือนชาวบ้านเขา ผิวเปลือกสีน้ำตาลหรือสีเทาคล้ำ เป็นตุ่มหรือปม แตกระแหงเป็นร่องตื้นๆ เมื่อเฉือนเนื้อจะมียางสีแดง ใบ เป็นใบประกอบขนนก (pinnately compound leaf) 3 ใบย่อย(trifoliolate) ติดเรียงเวียนสลับแน่นบริเวณปลายกิ่ง ใบกลาง เป็นรูปมนกว้างเกือบกลม ปลายใบมน โคนใบสอบ โดยใบกลางจะมีก้านใบยาวและใหญ่ที่สุด ใบย่อยเป็นรูปไข่กลับ (obovate) ปลายใบมน โคนใบแหลมแผ่นใบหนา ลักษณะใบคล้ายรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนมีขนทั้งสองด้าน ใบอ่อนมีขนคล้ายไหม ใบแก่เหนียว ด้านบนเรียบ ด้านล่างมีขนเล็กน้อย ดอก ออกดอกเป็นช่อตามกิ่งเหนือรอยแผลใบและตามปลายกิ่ง ฐานรองดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย ดอกมีลักษณะเป็นดอกถั่วขนาดใหญ่ มีกลีบดอก 5 กลีบ ดอกมีสีเหลืองถึงแดงแสด ว่ากันว่าดอกสีแสดเหลืองจะหายากมาก ขณะที่ ทองกวาว ออกดอกจะทิ้งใบจนหมดต้น และมีดอกเต็มพรึบไปทั่วทั้งต้น คล้าย กับต้น ทองหลางด่าง หรือ ปาริชาต ออกช่วงระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม ผล มีลักษณะเป็นฝักแบน โค้งงอเล็กน้อย ฝักยาวประมาณ 10- 12 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2-3เซนติเมตร เปลือกนอกสีน้ำตาลอ่อน ภายในฝักมีเมล็ดแบน 1-2 เมล็ดอยู่ที่ปลายฝัก ส่วนที่ใช้เป็นยา เนื้อไม้ เมื่อแห้งจะมีน้ำหนักเบา และหดตัวมาก ใช้ทำกระดานกรุบ่อน้ำ เปลือก ใช้ทำเชือกและกระดาษ ดอก ให้สีแดงใช้ย้อมผ้า แก้ไข้ ขับปัสสาวะ หยอดตาแก้ตาแดง แก่น ทาแก้ปวดฟัน ใบ ตำพอกฝีและสิว ถอนพิษ แก้ปวด ท้องขึ้น ริดสีดวง เข้ายาบำรุงกำลัง ราก ประคบบริเวณที่เป็นตะคริว ขับพยาธิ เมล็ดใช้บำบัดพยาธิภายใน ยางแก้ท้องร่วง เมล็ด ใช้ขับพยาธิตัวกลมบดให้ละเอียด ผสมกับน้ำมะนาว ทาแก้คันและแสบร้อน การปลูก การปลูกนิยมปลูกลงในบริเวณกลางแจ้ง เนื่องจาก น้องทองกวาว ต้องการแสงแดดจัด และชอบดินร่วนซุย ถ้าปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านหรืออาคารควรให้มีระยะห่างที่เหมาะสม เพราะทองกวาวเป็นไม้ที่มีทรงพุ่มใหญ่พอสมควร อาจสร้างปัญหาให้กับผู้อยู่อาศัยได้ ขยายพันธุ์ ด้วยการตอนกิ่ง และเพาะเมล็ด โดยนำไปแช่น้ำเป็นเวลา 2 ชั่วโมง จากนั้นอีกประมาณ10 วันเมล็ดจึงจะงอก รสและสรรพคุณยาไทย ...มาถึงจุดไคลแม็กซ์ที่สาวๆรอคอย ก็คือ สรรพคุณในการเพิ่มขนาดเต้า ที่มี ดร.อุษา กลิ่นหอม นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ออกมาให้ข้อมูลว่า สารสกัดจากเปลือกของน้องทองกวาว ช่วยเพิ่มหน้าอกหน้าใจให้โตขึ้น 3-4 เท่าตัว จากการที่นำไปทดสอบกับหนูถีบจักร โดยพบว่าเปลือกมีฮอร์โมนคล้ายเอสโตรเจนที่ผู้หญิงมี แต่ทว่า...ของที่มีประโยชน์ก็ต้องโทษแฝงมาก็คือ มีผลข้างเคียงต่อตับ ลดจำนวนอสุจิและการตกไข่ ดังนั้น ด้วยวิจารณญาณแล้ว สตรีที่กำลังตั้งครรภ์จึงไม่ควรรับประทานส่วนต่างๆของต้นทองกวาวเลย ผมว่ารอให้นักวิจัยได้ทำการทดลองจนเป็นที่แน่นอนว่าไม่มีผลกระทบใดๆต่อร่างกายจะดีกว่า ที่จะเอามากินสุ่มสี่สุ่มห้า เอาเป็นว่า..ถ้าอยากเพิ่มอึ๋มละก็..อดใจรออีกสักนิด รับรองได้อึ๋มสมใจแน่นอนครับ ที่มา : http://www.samunpai.com/samunpai/show.php?cat=1&id=181 |
|
| ตอบ: 03/10/2010 8:29 am ชื่อกระทู้: |
|
ดอกจานหรือดอกทองกวาวครับ ออกดอกช่วงหน้าแล้งครับ...  |
|
| ตอบ: 03/10/2010 6:54 am ชื่อกระทู้: |
|
ที่มา : ภาพนี้มาจากเน็ตทั่วๆ ไปนี่แหละ ยังไม่ระบุเว้บที่มา เพราะจะเอามาถามพวกเรา ก่อนว่านี่ "ดอกอะไร" ต่อเมื่อมีคนตอบถูกแล้วจึงจะแจ้งเว้บที่มาภายหลัง.....O.K. ? ลุงคิมครับผม |
|
| ตอบ: 03/10/2010 6:32 am ชื่อกระทู้: |
|
| เรื่องชื่อ "ลั่นทม" ที่ว่าขอพระราชทานชื่อใหม่เป็น "ลีลาวดี" นั้น ทางเลขาสำนักพระราชวังเคยชี้แจงว่า ไม่ได้ขอพระราชทาน แล้วก็ไม่ได้พระราชทาน แต่อย่างใด ถ้างั้นก็แสดงว่า "มั่วนิ่ม" น่ะซี
อันที่จริงก็น่าจะขอพระราชทานขึ้นไปนะ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยเห็น "ทรงปฏิเสธ" หรือ "ทรงขัดข้อง" อะไรเลย ทรงเป็นยิ่งกว่า "พระ" ใครขอเป็นพระราชทานให้ทันที ไม่แน่ใจว่า "ลั่นทม" มีสมาคมเหมือนอย่าง "โป๊ยเซียน - บอน - กล้วยไม้ - ฯลฯ" ไหม เพราะถ้ามีสมาคมจะช่วยให้การควบคุมอะไรต่อมิอะไรที่เกี่ยวกับไม้ตัวนั้นง่ายแล้วก็เรียบร้อยขึ้น โดยเฉพาะการ "ตั้งชื่อ" หรือแม้แต่การขอพระราชทานชื่อ ลุงคิมครับผม |
|
| ตอบ: 02/10/2010 10:59 pm ชื่อกระทู้: |
|
| มีกะเขาเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ต้นสูงแค่ 1 เมตรเอง ลงไว้ที่ไร่ 2 ต้น เพราะสีดอกสวยและการออกดอก แปลกดีไม่เหมือนใคร
ต้นที่โรงเรียนวัดท่าตำหนัก เห็นว่ามีคนมาขอซื้อ ให้ราคาเป็นหมื่น แต่เขาไม่ขาย ตอนนี้เพาะต้นหว้าไว้ ได้ 2-3 ต้น มีความหมายดีเหมือนกันค่ะ |
|
| ตอบ: 02/10/2010 9:16 pm ชื่อกระทู้: |
|
| ขอยืนยันคำตอบคุณ thumsiri ด้วยจ้า เพราะที่บ้านปลูกไว้เหมือนกัน เมื่อ 6-7 ปีก่อนไปเจอต้นสาละลังกาที่ตลาดวัดดอนวาย นครปฐม เห็นดอกมันหอมดีก็เลยซื้อมาปลูกที่บริเวณบ้าน
ขนาดของดอกถ้าต้นที่ปลูกมีอายุหลายปีและมีความสมบรูณ์จะมีขนาดเท่าลูกมะพร้าว ตอนแรกก็ไม่กล้าซื้อมาปลูกเหมือนกัน แต่พอเห็นพ่อหลวงเปลี่ยนชื่อต้น "ลั่นทม" ที่คนไม่ค่อยนิยมเปลูกตามบ้านเป็น "ลีลาวดี" คนกลับแห่กันปลูกกันจนคนชำขายไม่ทัน ก็เลยซื้อมาปลูก นอกจากต้นสาละลังกาแล้วที่บ้านยังมีต้น "จันทร์กระพ้อ" และต้น "กันเกรา" ปลูกได้ประมาณ 5 ปี แต่ยังไม่ออกดอก ถ้าออกดอกแล้วโพสต์รูปเป็นจะนำมาโพสต์ให้พี่น้องใน kasetloongkim ได้ดูกัน ขอบคุณจ้า |
|
| ตอบ: 02/10/2010 7:48 pm ชื่อกระทู้: |
|
| "สาละ" หรือ "ลูกปืนใหญ่" ที่ ร.ร.วัดท่าตำหนัก กับอีกหลายๆที่ ก็ว่ารู้จักนะ
แต่พอมาเจอไอ้เจ้าตัวนี้เข้า โดยเฉพาะ "ฉากหลัง" เลยออกงงๆ เอ๊ะอะไรกันนี่ สาละเป็นไม้ต้นหนึ่ง ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประทับนั่งเสวยวิมุตติสุข 7 วัน หลังทรงตรัสรู้ ถือเป็นไม้มงคลอย่างสูง.... ขอบคุณ..สาละ ก็ สาละ ลุงคิมครับผม |
|
| ตอบ: 02/10/2010 4:01 pm ชื่อกระทู้: |
|
| ดอกของต้นลูกปืนใหญ่ครับ...บางที่ก็เรียกว่าต้นสาละศรีลังกา...เวลาออกลูกจะมีลูกใหญ่คล้ายลูกปืนใหญ่...
ต้นไม้ชนิดนี้ส่วนมากเจอปลูกอยู่ที่วัด เพราะเข้าใจว่าเป็นต้นสาละที่พระพุทธเจ้าพระนามว่าโคตมะประสูติและปรินิพพาน... ความจริงแล้วเป็นคนละต้นกันกับสาละอินเดียครับผม... |
|
| ตอบ: 02/10/2010 3:46 pm ชื่อกระทู้: |
|
| คำถามดี มี สาละ ดอกสวยดีนะ ต้น....ใช่ไหมจ๊ะ | |
| ตอบ: 02/10/2010 2:11 pm ชื่อกระทู้: |
|
| อยากทราบ คำตอบ ต้องไปที่ โรงเรียนวัดท่าตำหนัก ด้านหลัง เต้นท์ พี่ชาตรี คาราวาน สีสันชีวิตไทย ต้นสูงใหญ่กว่า 10 เมตร ยามออกดอก สะพรั่ง ดูแปลกตาดี ครับ | |
| ตอบ: 02/10/2010 11:38 am ชื่อกระทู้: ดอกอะไรเนี่ยยย.......(ภาค 2) |
|
ดอกอะไรครับ......ใครรู้ ช่วยบอกที....
http://www.2poto.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5-%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%8D.html www.2poto.com/สังขละบุรี-มนต์เสน่ห์เมืองกาญ.html - |
|