-
++kasetloongkim.com++ Forums-posting-ต.ค. ถึงเวลาเตรียมต้น ก่อนเปิดตาดอก
หน้าแรก
สมัครสมาชิก
กระดานข่าว
ดาวน์โหลด
ติดต่อ
MySite.com :: ตอบกระทู้
คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว
ค้นหา
กลุ่มผู้ใช้งาน
ข้อมูลส่วนตัว
เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ
เข้าระบบ
MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก
->
ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ตอบกระทู้
ชื่อเรียก
ชื่อกระทู้
ส่วนของข้อความ
ไอคอนแสดงอารมณ์
ดูไอคอนแสดงอารมณ์อื่นๆ
สีตัวอักษร:
ปกติ
แดงเข้ม
แดง
ส้ม
น้ำตาล
เหลือง
เขียว
มะกอก
ฟ้า
น้ำเงิน
น้ำเงินเข้ม
คราม
ม่วง
ขาว
ดำ
ขนาดตัวอักษร:
จิ๋ว
เล็ก
ปกติ
ใหญ่
ยักษ์
ปิดคำสั่ง
ส่วนเพิ่มเติม
HTML
ใช้งานได้
BBCode
ใช้งานได้
รูปรอยยิ้ม
ใช้งานได้
ไม่ใช้งาน HTML ในการตอบนี้
ไม่ใช้งาน BBCode ในการตอบนี้
ไม่ใช้งานรูปรอยยิ้มในการตอบนี้
ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปยัง:
เลือกกระดาน
weBBoard
----------------
ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ทบทวนกระทู้
<table border="0" cellpadding="3" cellspacing="1" width="100%" class="forumline"> <tr> <th class="thCornerL" width="22%" height="26">ผู้ส่ง</th> <th class="thCornerR">ข้อความ</th> </tr> <tr> <td width="22%" align="left" valign="top" class="row1"><span class="name"><a name=""></a><b>kimzagass</b></span></td> <td class="row1" height="28" valign="top"><table width="100%" border="0" cellspacing="0" cellpadding="0"> <tr> <td width="100%"><img src="modules/Forums/templates/subSilver/images/icon_minipost.gif" width="12" height="9" alt="ตอบ" title="ตอบ" border="0" /><span class="postdetails">ตอบ: 23/09/2010 7:53 pm<span class="gen"> </span> ชื่อกระทู้: </span></td> </tr> <tr> <td colspan="2"><hr /></td> </tr> <tr> <td colspan="2"><span class="postbody"><span style="font-size: 18px; line-height: normal"><span style="font-weight: bold">ซี เอ็น เรโช (คาร์บอน : ไนโตรเจน, C : N ratio) เพื่อกำหนดการออกดอกติดผลของพืช </span></span> <br /> <br /> <br />มีสมาชิกของชมรมเกษตรปลอดสารพิษหลาย ๆ ท่านมีข้อสงสัยและสอบถามมากับทางผู้เขียนในเรื่องของการเปิดตาดอก การเร่งตาใบ ซึ่งผู้เขียนได้ตอบคำถามเหล่านั้นในเรื่องของ ซีเอ็น เรโช ซึ่งหลาย ๆ ท่านไม่เข้าใจว่า ซีเอ็น เรโช คืออะไร <br /> <br />วันนี้ผู้เขียนจึงขออธิบายให้กับสมาชิกรวมถึงเกษตรกรที่เข้ามาแวะเวียนเยี่ยมเยียนเว็บไซต์ของชมรมฯ ให้มีความเข้าใจในเรื่อง ซีเอ็น เรโช อย่างง่าย และนำไปปฏิบัติกับสวนของตัวเอง นำไปบังคับดอกและใบ รวมไปถึงการใช้ปุ๋ยอย่างถูกวิธี เพื่อให้ง่ายในการบังคับให้ติดดอกออกผล หรืออาจจะรวมไปถึงการบังคับผลผลิตออกนอกฤดูโดยไม่ต้องใช้สารที่หยุดกระบวนการไนโตรเจนเพื่อประโยชน์ในเรื่องของต้นทุนการผลิต และสภาพต้นของพืชที่ตนเองปลูกครับ <br /> <br />ความหมายของซีเอ็นเรโช C = ซี ย่อมาจากคาร์บอน (Carbon), N = เอ็น ย่อมาจากไนโตรเจน (Nitrogen) และ ratio = เรโช หมายถึง สัดส่วน รวมแล้ว คือ สัดส่วนของคาร์บอน ต่อ ไนโตรเจน ถ้าตัวเลขอยู่ใกล้กัน เรียกว่า ซีเอ็น เรโช แคบ ถ้าตัวเลขอยู่ห่างกันหรืออยู่ต่างกันมากกว่า เรียกว่า ซีเอ็น เรโช กว้าง เช่น 15:1 คือคาร์บอน 15 ส่วน ต่อ ไนโตรเจน 1 ส่วน ซี.หรือคาร์บอนได้มาจากค่าวิเคราะห์คาร์โบฮัยเดรทในพืช ซึ่งก็คือน้ำตาลและแป้ง ทั้งที่พืชสร้างขึ้นหรือได้รับจากการฉีดพ่นก็ตาม แต่มีอยู่ในต้นพืชแล้ว เอ็น. หรือไนโตรเจน ได้มาจากการวิเคราะห์หาไนโตรเจนรวมในพืช ไม่ว่าจะได้จากการดูดขึ้นมาจากดินหรือการฉีดพ่นให้ทางใบก็ตาม <br /> <br />ผลที่พืชจะได้รับและแสดงออก ซีเอ็น เรโช แคบ คือ เมื่อตัวเลขของคาร์บอน และ ไนโตรเจน อยู่ห่างกันไม่มาก ซึ่งสามารถทำให้เกิดสภาพเช่นนี้ได้โดยการใส่ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนโดยไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมี หรือฉีดพ่นทางใบที่มีปุ๋ยไนโตรเจนละลายอยู่ ปกติพืชจะได้รับไนโตรเจนที่ละลายน้ำได้ง่ายและรวดเร็วกว่าปุ๋ยอื่น ๆ ทั้งที่อยู่ในรูปของไนโตรเจน, แอมโมเนีย, ยูเรีย หรือที่ละลายน้ำอยู่ในรูปอื่นๆ ก็ตาม แล้วทำให้ค่าไนโตรเจนเพิ่มขึ้นทันที ในขณะที่คาร์บอน หรือ คาร์โบฮัยเดรท ในต้นพืชเท่าเดิม หรืออาจถูกใช้ไปบ้างเพื่อเป็นพลังงานในการดึงปุ๋ยเข้าสู่รากพืชมีผลให้ค่า ซีเอ็น เรโช แคบ อย่างรวดเร็ว ลักษณะดังกล่าวมีผลทำให้พืชเกิดการเจริญทางใบ คือ แตกยอดและใบอ่อนง่าย ทำให้ดอกออกยาก ทำให้คุณภาพผลผลิตใกล้แก่ต่ำลง ถ้าพืชยังไม่เริ่มขบวนการแก่ก็จะทำให้แก่ช้าออกไปซึ่งการแก่ช้าอาจจะเป็นผลดีสำหรับพืชผลไม้ที่รอราคา แต่เป็นผลเสียสำหรับพืชที่ต้องการขนาดของผล หากแก่ช้าผลก็ใหญ่เกินกว่าขนาดที่ตลาดต้องการ ซึ่งหาก ซีเอ็น เรโช แคบ อย่างต่อเนื่องแม้แต่ใบก็ยังแก่ช้าออกไปด้วย <br /> <br />ซีเอ็น เรโช กว้าง คือ เมื่อตัวเลขของคาร์บอนและไนโตรเจนอยู่ห่างกันกว่า ซึ่งการทำให้เกิดสภาพเช่นนี้กับพืชที่มีใบรุ่นใหม่สมบูรณ์และมากพอแล้ว โดยการหยุดให้ปุ๋ยไนโตรเจนทุกชนิดทั้งทางดินและทางใบ พืชก็ยังจะสังเคราะห์แสงสะสมอาหารมากขึ้นตามลำดับ โดยสร้างเด็กซ์โทรส (หรือกลูโคส) จากนั้นเปลี่ยนเป็นซูโครส (น้ำตาลทราย) ซึ่งเคลื่อนย้ายได้ง่ายกว่า แล้วเปลี่ยนเป็นแป้งหรือคาร์โบฮัยเดรทอื่นสะสมอยู่ในกิ่ง, ก้าน, ลำต้น, รากหรือหัว ในธรรมชาติเมื่อฝนหยุดตก งดการให้น้ำ น้ำในดินจะลดน้อยลงเรื่อย ๆ จนละลายไนโตรเจนออกมาได้น้อย และในที่สุดแทบจะไม่ได้ดูดไนโตรเจนเข้าลำต้นเลย แต่พืชยังคงสังเคราะห์แสงที่ใบทุกวันเมื่อมีแสงแดด ซีเอ็น เรโช จึงกว้างขึ้นเป็นลำดับ ใบพืชจึงมีบทบาทที่สำคัญมากเพราะทำหน้าที่เป็นโรงงานผลิตอาหารสะสมให้ต้นพืช ผลของการมีอาหารสะสมมาก ซีเอ็น เรโช กว้าง ทำให้พืชออกดอกได้ง่าย ผลอ่อนร่วงน้อย โตเร็ว ผลแก่มีคุณภาพดี เมื่อผลแก่แล้วก็สุกได้ง่าย (จากเอกสารแจกสมาชิก ของชมรมเกษตรปลอดสารพิษ) <br /> <br />จากที่กล่าวข้างต้น สมาชิกของชมรมฯ หลาย ๆ ท่านคงจะเริ่มเข้าใจความหมายของ ซีเอ็น เรโช กันบ้างแล้วนะครับ ซึ่งผู้เขียนได้เขียนเรื่องการบังคับมะนาวให้ออกดอกในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม เพื่อให้ผลผลิตออกมาในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งบทความดังกล่าวที่เขียน ๆ ไว้ก็อิงจาก ซีเอ็น เรโช นี่แหละครับ ซึ่งระบบดังกล่าวนี้ไม่ได้ใช้เฉพาะมะนาวนะครับ แต่รวมถึงพืชทุกชนิดที่ต้องการให้ออกดอก การบังคับดอกโดยไม่ให้พืชอดน้ำ บังคับกันที่ระบบ ซีเอ็น เรโช จะทำให้พืชที่เราปลูกไม่โทรมเมื่อมีดอกออกผลดกมาก การให้น้ำอย่างสม่ำเสมอจะทำให้พืชมีการเจริญเติบโตดี ดอกและผลที่ออกมาไม่หลุดร่วงง่ายเพราะปริมาณไนโตรเจนที่มากับน้ำฝนและไนโตรเจนในดินที่ตกค้างเมื่อทำละลายกับน้ำในช่วงที่ฝนตกหนัก <br /> <br />หากสมาชิกหรือเกษตรกรท่านใดมีปัญหาสงสัยในเรื่องของ ซีเอ็น เรโช และการบังคับการแตกใบ แตกดอกของพืชผักไม้ผลทุกชนิดก็สามารถสอบถามมาที่ผู้เขียนโดยตรงได้ที่โทร. 08-1646-0212 ยินดีให้คำแนะนำสำหรับสมาชิกหรือเกษตรกรทุกท่านครับ <br /> <br /> <br />เขียนและรายงานโดย นายสามารถ บุญจรัส (นักวิชาการ) <br />ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ <a href="http://www.thaigreenagro.com" target="_blank">www.thaigreenagro.com</a> <br />email : <a href="mailto:thaigreenagro@gmail.com">thaigreenagro@gmail.com</a> <br /><a href="http://www.thaigreenagro.com/aticle.aspx?id=6922" target="_blank">www.thaigreenagro.com/aticle.aspx?id=6922</a> -</span></td> </tr> </table></td> </tr> <tr> <td colspan="2" height="1" class="spaceRow"><img src="modules/Forums/templates/subSilver/images/spacer.gif" alt="" width="1" height="1" /></td> </tr> <tr> <td width="22%" align="left" valign="top" class="row2"><span class="name"><a name=""></a><b>kimzagass</b></span></td> <td class="row2" height="28" valign="top"><table width="100%" border="0" cellspacing="0" cellpadding="0"> <tr> <td width="100%"><img src="modules/Forums/templates/subSilver/images/icon_minipost.gif" width="12" height="9" alt="ตอบ" title="ตอบ" border="0" /><span class="postdetails">ตอบ: 23/09/2010 5:27 pm<span class="gen"> </span> ชื่อกระทู้: ต.ค. ถึงเวลาเตรียมต้น ก่อนเปิดตาดอก</span></td> </tr> <tr> <td colspan="2"><hr /></td> </tr> <tr> <td colspan="2"><span class="postbody">ไม้ผลยืนต้นที่นิสัยธรรมชาติออกดอกช่วงเดือน ธ.ค.- ม.ค. ซึ่งเป็นผลไม้ปี การที่จะทำให้ไม้ผลต้นนั้นออกดอกดี จำนวนมาก สมบูรณ์ พร้อมกันทั้งต้นได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการบำรุงอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องตาม 8 ขั้นตอน <br /> <br />.... 1 เรียกใบอ่อน <br />.... 2 สะสมตาดอก <br />.... 3 ปรับ ซี/เอ็น เรโช <br />.... 4 เปิดตาดอก <br />.... 5 บำรุงดอก <br />.... 6 บำรุงผลเล็ก <br />.... 7 บำรุงผลกลาง และ <br />.... 8 บำรุงผลแก่ <br /> <br />การบำรุงตามขั้นตอนทั้ง 8 ขั้นตอน จะได้ผลเต็มร้อยหรือไม่ขึ้นอยู่กับ <br />1.... ปัจจัยพื้นฐานเพื่อการเพาะปลูกเหมาะสมตรงตามสภาพต้นแต่ละต้น <br />2.... ประวัติการให้ผลผลิตในฤดูกาลผลิตที่ผ่านมา <br />3.... ลักษณะอาการตอบสนองของแต่ละต้นต่อการบำรุงแต่ละขั้นตอน <br /> <br />แม้วันเวลาที่ผ่านไปแล้วไม่อาจเรียกคืนกลับมาได้ กระทั่งถึงวันนี้ วันที่ 23 ก.ย. ปลายเดือน เมื่อนับวันก่อนถึงวันที่ไม้ผลปีต้องออกดอกจะพบว่า เหลือเวลาเพียง ต.ค. - พ.ย. รวม 2 เดือนเท่านั้น ด้วยระยะเวลาเพียง 2 เดือนเท่านี้ ไม้ผลต้นใดผ่านการบำรุงตามขั้นตอนมาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องย่อมได้เปรียบกว่าต้นที่ไม่ได้รับการบำรุงตามขั้นตอน แต่กระนั้นก็มิได้หมายความว่า ต้นที่ไม่ได้ผ่านการบำรุงตามขั้นตอนเลยแม้แต่ขั้นตอนเดียว หรือบำรุงบ้างแต่ไม่สม่ำเสมอแล้วจะหมดโอกาสออกดอกกับเขาไปเลย ก็หาไม่ <br /> <br />สัจจรรมแห่งธรรมชาติไม้ผลประการหนึ่ง คือ ต้นที่ผ่านการ "สะสมตาดอก" มาก่อนลงมือเปิดตาดอก ย่อมออกดอกได้ดีกว่าต้นที่ไม่ผ่านการ "สะสมตาดอก" <br /> <br />ทางออก : <br />- สำหรับไม้ผลต้นที่ <span style="color: red">ผ่าน </span> การบำรุงตามขั้นตอนจนต้นมีความ "สมบูรณ์สะสม" อย่างเพียงพอมาแล้ว ให้เข้าสู่ขั้นตอน "สะสมตาดอก" ได้เลย โดยไม่ต้องลังเล <br />- สำหรับไม้ผลต้นที่ <span style="color: red">ไม่ผ่าน </span>การบำรุงตามขั้นตอน สภาพต้นอาจจะมีความสมบูรณ์อยู่บ้าง ก็ให้เข้าสู่ขั้นตอน "สะสมตาดอก" ได้เช่นกัน ด้วยวิธี "เลยตามเลย" หรือ "ไหนๆก็ไหนๆ" <br /> <br />แนวทางปฏิบัติ : <br />ทางราก : <br />- ใส่ปุ๋ยคอก (ขี้วัว+ขี้ไก่), ยิบซั่ม, กระดูกป่น, เศษพืชแห้งคลุมหนาๆ <br />- ให้ "ปุ๋ยน้ำชีวภาพ 8-24-24 ต้น ต.ค. 1 ครั้ง กับต้น พ.ย. 1 ครั้ง <br />- ให้น้ำพอหน้าดืนชื้น <br />(หมายเหตุ : เพิ่ม 8-24-24 ในปุ๋ยน้ำชีวภาพโดย "น้ำ 200 ล.+ ปุ๋ยน้ำฯ 1-2 ล.+ 8-24-24 จำนวน 5 กก. .... สำหรับ 10 ต้น ขนาดทรงพุ่ม 5 ม. .... เท่ากับ 8-24-24 จำนวน ครึ่ง กก./ต้น/เดือน) <br /> <br />ทางใบ : <br />- ให้สูตร "สะสมตาดอก" ทุก 7 วัน <br />- ในช่วงระหว่าง 7 วัน ให้แทรกด้วย "แคลเซียม โบรอน + สาหร่ายทะเล + กลูโคส" 1 รอบ <br />- ในรอบ 1 เดือน ให้ "แม็กเนเซียม + สังกะสี + ฯลฯ" (ฮอร์โมนน้ำดำ) 1 รอบ <br />- ให้สารสกัดสมุนไพรร่วมด้วยทุกครั้งเมื่อมีการให้ทางใบ <br />(หมายเหตุ : ธาตุอาหารที่มีส่งเสริมการออกดอก คือ สังกะสี. โบรอน. .... อ้างอิง/ รศ.ดร.สุมิตรา ภู่วโรดม.) <br /> <br />คำแนะนำพิเศษ : <br />1. ให้สารอาหารทั้งทางใบและทางราก อย่างสม่ำเสมอ ตรงกำหนดระยะเวลาบำรุงอย่างแท้จริง <br />2. ระวังและควบคุมธาตุอาหารกลุ่ม N. คือ ไนโตรเจน.จากปุ๋ย และน้ำ ที่คนให้ ฝนตก น้ำใต้ดิน อย่าให้มากเกิน <br />3. ให้ธาตุอาหารกลุ่ม C. (P-K-Ca-Mg-S-Fe-Cu-Zn-Mn-Mo-B-Si-Na) ทั้งทางรากและทางใบ แบบถือโอกาส "ให้น้อยแต่บ่อยครั้ง" จะได้ผลสูงสุด <br /> <br /> <br />สงสัย + ไม่เข้าใจ + ไม่รู้ = ถาม <br />ลุงคิมครับผม <br /> <br />ปล. <br />อัตราส่วนระหว่าง C กับ N ในไม้ผลเมื่อเปิดตาดอก <br />- C มากกว่า N เมื่อเปิดตาดอก = ดอก <br />- C น้อยกว่า N เมื่อเปิดตาดอก = ใบ <br />- C เท่ากับ N เมื่อเปิดตาดอก = ดอกแซมใบ หรือใบล้วนๆ</span></td> </tr> </table></td> </tr> <tr> <td colspan="2" height="1" class="spaceRow"><img src="modules/Forums/templates/subSilver/images/spacer.gif" alt="" width="1" height="1" /></td> </tr> </table>
Powered by
phpBB
© 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©
Copyright @2015 by kasetloongkim.com All rights reserved
www.Stats.in.th
คำถามถามบ่อยของกระดานข่าว
ค้นหา
กลุ่มผู้ใช้งาน
ข้อมูลส่วนตัว
เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ
เข้าระบบ
