-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 23 ส.ค. * ข้าวพร้อมหุง พันธุ์อะไรดี
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 24 ส.ค. * นาข้าวล้มตอซัง
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 24 ส.ค. * นาข้าวล้มตอซัง

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11633

ตอบตอบ: 23/08/2022 4:58 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 24 ส.ค. * นาข้าวล้มตอซัง ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 24 ส.ค.

***********************************************************
สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง ที่เคารพ
กองทัพบก เพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม “.. ? ..”
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ

เช่นเคย รายการเรา....
*** 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว-สายตรง ที่ (081) 913-4986, ....
*** FB วีระ ใจหนักแน่น, ....
*** อินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิม ดอทคอม .... เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า
ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

รายการวิทยุ :
*** AM 594 ปตอ. เวลา 0815-0900 จันทร์-ศุกร์ คลื่นนี้ครอบคลุมพื้นที่ 40+ จังหวัด ***

งานสัญจรปกติตามวงรอบ :
* วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน ..... ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สองของเดือน ... ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามของเดือน ... ไปวัดท่าตำหนัก เพชรเกษม แยกนครชัยศรี นครปฐม,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สี่ของเดือน ...... ไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปา ถ.วงแหวนตะวันตก
* เดือนที่มี 5 เสาร์ เสาร์ที่ 5 ของเดือน . ไปวัดทุ่งสะเดา แปลงยาว ฉะเชิงเทรา

** ถึงจุดนี้ เกษตรกรอยากให้งานสัญจรไปลง ที่ไหนก็ได้ ติดต่อมา พูดคุยกันในรายละเอียด

- งานสีสันสัญจรวันเสาร์ วันที่ 27 ส.ค.. ลุงคิม กับ อ.ณัฐ (086) 983-1966 สมุนไพรสำหรับคน ไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ ถ.กาญจนาภิเศก วงแหวนตะวันตก.... งานนี้ ซื้อหนังสือหัวใจเกษตรไท มินิ 1 เล่ม แถม ไม้ผลแนวหน้า 1 เล่ม....


****************************************************************
****************************************************************

จาก : (085) 11793xx
ข้อความ :
1. หลานเรียนเทคนิคเกษตร บอกว่า นาข้าวปลูกครั้งเดียว เกี่ยวได้ 3 รอบ.....
2. เกี่ยวแล้วย่ำตอ แล้วเลี้ยงตอให้แตกหน่อใหม่จากราก ไม่แตกหน่อใหม่จากตอ ....
3. หลานไม่บอกวิธีบำรุงหน่อที่แตกใหม่ แต่ผมจะบำรุงตามแบบลุงครับ ....
4. ขอสูตรเทคนิคบำรุงหน่อที่แตกใหม่ครับ....

บ่น :
ว่ามั้ย....
* นี่คือ เทคนิค-เทคโนโลยี การผลิต .... เทคนิค คือ วิธีการ .... เทคโนโลยี คือ หลักวิชาการ
* ปรัชญา 10 ล้อ .... พื้นที่เท่าเดิม-ต้นทุนเท่าเดิม-ระยะเวลาเท่าเดิม-แรงงานเท่าเดิม แต่ ทำแบบใหม่ เอาเทคนิคเทคโนมาจับมาใช้ = ได้มากกว่า

* ทำแบบเดิม ทำตามคนที่ล้มเหลว สถานการณ์ชีวิตคงไม่มีอะไรดีขึ้น
* รัฐช่วย + ตัวเองช่วย + ข้างบ้านช่วย + ธรรมชาติช่วย + ลุงคิมช่วย = ได้ 5 เด้ง
* ต้นตอที่แท้จริงของปัญหาอยู่ที่ “ใจ” เพราะใจไม่รับ สิ่งใหม่-วิธีใหม่ ที่ถูกต้องตามธรรมชาติของพืช คือ ปลูกพืชตามใจพืช ไม่ใช่ตามใจคน คนที่ว่าก็ไม่ใช่ตัวเอง กลับเป็นคนอื่น



คนถามใหม่ คำถามเก่า คำตอบเดิม :

จาก :
(082) 177-23xx
ข้อความ : ลุงคิมมีข้อมูลเรื่องต้นทุนนาย่ำตอซังไหมคะ ....ขอบคุณค่ะ

จาก : (064) 893-15xx
ข้อความ : เห็นด้วย นาข้าวใส่ปุ๋ยไร่ละ 2 สอบ 100 โล ต้นข้าวได้ปุ๋ยแค่ 2 ตัว เม็ดลีบ ท้องไข่ ไม่ใส ไม่แกร่ง ความชื้นสูง ได้ข้าวน้อย ถูกตัดราคา ให้ลุงสู้ต่อไป .... หนุ่มโรงงาน ลูกชาวนา

จาก : (089) 053-10 xx
ข้อความ : ผมทำนาตามสูตรของลุงคิม ผลผลิตดีขึ้นกว่าเดิม อีก 3 วันจะเกี่ยวข้าวนาดำ ขอให้ลุงคิมแนะนำการล้มตอซัง เพื่อลดต้นทุนหน่อยครับ ท้ายนี้ขอให้ลุงคิม....(ข้อความไม่ครบ)

ตอบ :

ข้อดีของการปลูกข้าวแบบล้มตอซัง :

1. ลดต้นทุนการผลิต ค่าเตรียมดิน ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าสารเคมีควบคุมและกำจัดวัชพืช ฯลฯ ไร่ละประมาณ 900 บาท

2. ย่นระยะเวลาการปลูกข้าวให้เร็วขึ้น 10-15 วัน (ไม่เสียเวลาเตรียมดินและหว่านข้าว)
3. เป็นการรักษาสภาวะแวดล้อม เพราะลดการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชและหอยเชอรี่
4. ลดปัญหาการเผาฟางข้าว โดยนำมาใช้ประโยชน์ในการคลุมแปลงนาเพื่อรักษาความชื้นในดิน

นาข้าวล้มตอซัง :
หลักการและเหตุผล :

- ข้าว คือ พืชตระกูลหญ้า ลักษณะการขยายพันธุ์อย่างหนึ่งระหว่างต้นข้าวกับต้นต้นหญ้าที่เหมือนกัน คือ หลังจากลำต้นถูกตัดไปจนเหลือแต่ตอแล้ว ยังสามารถแตกหน่อใหม่จากข้อที่ตอแล้วเจริญเติบโตจนออกดอกติดผลได้ โดยผลผลิตที่ได้ยังมีคุณภาพและปริมาณไม่ต่างจากต้นข้าวหรือต้นหญ้าปลูกใหม่แต่อย่างใด ..... นั่นคือ ปลูก 1 ครั้ง เกี่ยวได้ 3 รอบ

ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำนาข้าวแบบล้มตอซังที่เห็นได้ชัด คือ ลดต้นทุนค่าไถ ทำเทือก หมักฟาง หว่าน/ดำ เมล็ดพันธุ์ และอื่นๆ ที่ต้องเตรียมการก่อนลงมือหว่านดำ

แนวทางปฏิบัติ :
1. หลังจากเกี่ยวข้าวด้วยมือหรือรถเกี่ยวเสร็จ ให้สำรวจหน้าดินว่ายังมีความชื้นเพียงพอต่อการที่จะทำนาแบบล้มตอซังต่อไปหรือไม่ กล่าว คือ ดินต้องมีความชื้นระดับนำขึ้นมาปั้นเป็นลูกยางหนังสติ๊กได้พอดีๆ ไม่อ่อนเละหรือแข็งเกินไปจนปั้นเป็นลูกกลมๆไม่ได้

วัตถุประสงค์ของการสำรวจความชื้นหน้าดิน ก็เพื่อจะได้อาศัยความชื้นนี้ส่งเสริมให้เกิดการแตกยอดใหม่จากตอซังนั่นเอง

2. ผลสำรวจความชื้นน้าดิน ถ้ายังมีระดับความชื้นตามต้องการแล้ว ให้ลงมือเกลี่ยเศษฟางที่รถเกี่ยวพ่นออกมา ทั้งส่วนที่กองทับอยู่บนตอซังและบริเวณอื่นๆ หรือกรณีเกี่ยวด้วยมือก็ให้เกลี่ยตอซังที่ล้มทับกันให้แผ่กระจายออกเสมอกันทั่วทั้งแปลง

วัตถุประสงค์ของการเกลี่ยฟาง ก็เพื่อให้มีฟางปกคลุมหน้าดินหนาเสมอกันเท่ากันทั้งแปลงนั่นเอง

3. ดัดแปลงยางนอกรถบรรทุก 10 ล้อ จำนวน 6-8 วง นำมาต่อกันทางข้างเกิดเป็นหน้ากว้าง แล้วเชื่อมต่อเข้าด้วยกันโดยมีเพลาเป็นแกนกลาง เรียกว่า ล้อย่ำตอซัง เมื่อจะใช้งานก็ให้ใช้รถไถเดินตามลากล้อย่ำตอซังนี้วิ่งทับไปบนฟาง วิ่งทับทั้งส่วนที่ยังเป็นตอซังตั้งอยู่ และเศษฟางที่เกลี่ยแผ่กระ จาย ออกไป...กรณีรถที่ลากล้อย่ำตอซังควรเป็นรถไถเดินตามหรือรถไถนั่งขับขนาดเล็กเท่านั้นเพราะจะได้น้ำหนักที่พอดีต่อการย่ำตอ ไม่ควรใช้รถไถใหญ่เพราะจะทำให้ตอซังช้ำเสียหายมากเกินไป

วัตถุประสงค์ของการใช้รถย่ำน้ำหนักเบา ก็เพื่อรักษาข้อของลำต้นส่วนที่เป็นตอที่อยู่ต่ำกว่าระดับผิวดินไม่ให้แตกช้ำมาก เพราะต้องการให้เกิดการแตกยอดใหม่ออกมาจากข้อใต้ผิวดินมากกว่า แต่ส่วนของลำต้นที่อยู่เหนือผิวดินต้องให้แตกช้ำจนไม่สามารถแตกยอดใหม่ได้

ยอดที่แตกออกมาจากข้อของลำต้นส่วนที่อยู่เหนือผิวดิน จะเป็นยอดที่ไม่มีคุณภาพ แต่ยอดที่แตกออกมาจากข้อของลำต้นส่วนที่อยู่ใต้ผิวดินจะเป็นยอดที่มีคุณภาพดี จำนวนรอบในการย่ำกำหนดตายตัวไม่ได้ ทั้งนี้ให้สังเกตลักษณะตอหลังจากย่ำไปแล้วว่าแตกช้ำเฉพาะส่วนที่อยู่เหนือผิวดินแต่ส่วนที่อยู่ใต้ผิวดินยังดีอยู่ นอกจากนี้ระดับความชื้นหน้าดิน (อ่อน/แข็ง) กับน้ำหนักของล้อย่ำตอซังและน้ำหนักรถลากก็มีส่วนทำให้ตอเหนือผิวดินกับตอใต้ผิวดินแตกช้ำมากหรือน้อยอีกด้วย

4. หลังจากย่ำฟางและตอซังแล้ว ถ้าหน้าดินมีความชื้นพอดีก็ให้ปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นแต่ถ้าหน้าดินมีความชื้นน้อยถึงน้อยมากจำเป็นต้องฉีดพ่นน้ำเปล่าบ้างเพื่อเพิ่มความชื้น ซึ่งขั้นตอนฉีดพ่นน้ำนี้ จะต้องพิจารณาความเหมาะสมว่าคุ้มค่าต้นทุนหรือทำได้หรือไม่และเพียงใด

- แปลงนาที่เนื้อดินมีอินทรีย์วัตถุและสารปรับปรุงบำรุงดินสะสมมานาน แม้หน้าดินจะแห้งถึงระดับรถเกี่ยวเข้าทำงานได้สะดวกดีนั้น เนื้อดินด้านล่างลึกจะยังคงมีความชุ่มชื้นอยู่ถึงระดับช่วยให้ตอซังแตกยอดใหม่ได้

- ฟางที่เกลี่ยดี นอกจากจะช่วยป้องกันแสงแดดจัดเผาหน้าดินจนแห้งแล้ว ยังช่วยรักษาความชื้นให้แก่หน้าดินและจุลินทรีย์อีกด้วย

5. หลังจาก ย่ำตอ-ปล่อยทิ้งไว้ หรือ ย่ำตอ-ฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชื้น แล้ว จะมียอดใหม่แตกออกมาจากข้อของตอใต้ผิวดินแล้วแทงทะลุเศษฟางขึ้นมาให้เห็น ให้รอจนระทั่งยอดแตกใหม่เจริญเติบโตเป็นต้นกล้าข้าวได้ใบใหม่ 2-3 ใบ ก็ให้ปล่อยน้ำเข้า พร้อมกับควบคุมระดับน้ำให้พอเปียกหน้าดินหรือท่วมคอต้นกล้าใหม่

- แปลงนาที่ผ่านการ “เตรียมแปลง” โดยปรับหน้าดินราบเสมอกันดี น้ำที่ปล่อยเข้าไปจะเสมอกันทั้งแปลง ส่งผลให้ต้นข้าวทั้งที่แตกใหม่และเป็นต้นโตแล้วได้รับน้ำเท่ากันทั่วทั้งแปลง ซึ่งต่างจากแปลงที่บางส่วนดอน (สูง) บางส่วนลุ่ม (ต่ำ) จึงทำให้ระดับน้ำลึกไม่เท่ากัน สุดท้ายก็ส่งผลให้ต้นข้าวเจริญเติบโตไม่เท่ากันอีกด้วย

- ต้นข้าวที่งอกขึ้นมาใหม่จะมีทั้งต้นที่งอกขึ้นมาจากข้อของตอ ต้นที่งอกขึ้นมาจากเมล็ดข้าวร่วง และเมล็ดที่หลุดออกมาจากรถเกี่ยว ซึ่งแหล่งกำเนิดของต้นข้าวเหล่านี้ไม่มีผลต่อคุณภาพและปริมาณในอนาคตแต่อย่างใด

บางบริเวณอาจจะไม่มีหน่อหรือยอดต้นข้าวแตกใหม่จากข้อของตอใต้ดิน เนื่องจากส่วนตอใต้ผิวดินบริเวณนั้น ถูกย่ำทำลายโดยล้อสายพานรถเกี่ยวช้ำเสียหายจนไม่อาจงอกใหม่ได้นั่นเอง

วิธีแก้ไข คือ ให้ขุดแซะต้นกล้าที่งอกจากตอบริเวณที่หนาแน่นกว่าบริเวณอื่น ขุดแซะพอให้มีดินหุ้มรากติดมาบ้างเล็กน้อยแล้วนำมาปลูกซ่อมลงในบริเวณที่ตอถูกทำลายจนไม่มีหน่อหรือยอดใหม่

- ต้นข้าวที่เกิดจากเมล็ดโดยการหว่านหรือดำ อัตราการแตกกอจะต่างกัน เช่น ข้าวพันธุ์สุพรรณ-1 มีอัตราการแตกหน่อดีมาก ส่วนข้าวพันธุ์ชัยนาท-1 และปทุมธานี-1 มีอัตราการแตกหน่อพอใช้ได้ หรือดีน้อยกว่าสุพรรณ-1 ในขณะที่การทำนาข้าวแบบล้มตอซังซึ่งจะมีต้นใหม่งอกออกมาจากข้อของตอซังนั้นการแตกกอก็ต่างกันอีก กล่าวคือ ข้าวพันธุ์สุพรรณ-1 อัตราการแตกกอไม่ค่อยดี ข้าวพันธุ์ ชัยนาท-1 แตกกอดีพอ ประมาณ และข้าวพันธุ์ปทุมธานี-1 อัตราการแตกกอไม่ดี

- ขั้นตอนปล่อยน้ำเข้าแปลงเพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าวเกิดใหม่ หลังจากปล่อยน้ำเข้าจนได้ระดับที่เหมาะสมแล้วใส่ "ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 5 ล.+ 16-8-8 (5 กก.) /1 ไร่” โดยการฉีดพ่นให้ทั่วแปลง

6. หลังจากต้นกล้าที่แตกออกมาจากข้อของตอใต้ผิวดิน ต้นกล้าปลูกซ่อม และต้นกล้าจากเมล็ดข้าวร่วง เจริญเติบโตขึ้นมาได้แล้วก็ให้เข้าสู่ขั้นตอนการปฏิบัติบำรุงต่อต้นข้าวด้วยวิธี ทำนาข้าวแบบประณีตต่อไปจนกระทั่งถึงเก็บเกี่ยว

คนถามใหม่ คำถามเก่า คำตอบเดิม :

จาก :
(084) 776-9881
ข้อความ : (คัดย่อ) รายงานผล นาข้าวล้มตอซัง 15 ไร่ ได้ 15 เกวียน ขายได้ 200,000 ลงทุน 20,000 ใช้น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า, ทุกตัว ไม่ +เพิ่มปุ๋ยเคมีเลย มาอย่างไรใช้อย่างนั้น....พนม สุพรรณบุรี

ตอบ :

พนม :
สวัสดีครับ ลุงผู้พัน ผมพนมครับ
ลุงคิม : เออ พนม นาข้าวล้มตอซังเป็นไงบ้างวะ ?

พนม : เกี่ยวแล้วครับ ข้าว กข.41 นาหว่าน เกี่ยววันนี้ 15 ไร่ได้ 15 เกวียน เอาไปขายที่โรงสีได้ 200,000 ครับ
ลุงคิม : ต้นทุนล่ะ ?

พนม : โอ้โฮลุงผู้พัน ไม่น่าเชื่อ 15 ไร่ ลงทุนไม่ถึง 20,000 เท่านั้นเอง
ลุงคิม : ทำไมต้นทุนมันต่ำนักวะ ?

พนม : จริงครับลุงผู้พัน ย่ำตอซังรุ่นนี้ ค่าไถไม่มี ค่าย่ำเทือกไม่มี ค่าเมล็ดพันธุ์ไม่มี ค่าหว่านไม่มี มีอย่างเดียวค่าย่ำตอเท่านั้น อันนี้ก็คือค่าย่ำเทือกตัวเดียวกัน แต่ย่ำตอรถมันวิ่งได้เร็วกว่าย่ำเทือก น้ำมันเลยใช้น้อยกว่าครับ
ลุงคิม : อืมมม พนม ช่วยเล่าวิธีย่ำตอหน่อยซีว่า มีขั้นอะไร ยังไงบ้าง ?

พนม : คืองี้ครับลุงผู้พัน .... ก่อนเกี่ยว 5-7 วัน เอาน้ำเข้า กะว่าน้ำเต็มแปลงทั่วกันทั้งแปลงดีแล้ว ไขน้ำออกให้เหลือติดหน้าดินพอเจ๊าะแจ๊ะ ที่เอาน้ำใส่ก่อนเกี่ยวก็เพื่อให้ดินมันชุ่มน้ำน่ะครับ....

ตอนเกี่ยว เราก็เลือกรถเกี่ยวที่มันกระจายเศษฟางได้ด้วย อันนี้เราจะได้ไม่ต้องมาเกลี่ยฟางอีก เพราะตรงไหนถ้าเศษฟางหนามากๆ การแตกกอใหม่ตรงนั้นจะไม่ดี ....

พอรถเกี่ยวเสร็จ กระทงต่อกระทง เราลงมือย่ำตามรถเกี่ยวเลย อย่าทิ้งไว้ข้ามวันข้ามคืน ...

รถย่ำผมใช้อีขลุบหรือลูกทุบแบบฟันเหล็กดีกว่าฟันไม้ เพราะจะทำให้ตอฉีกแตกเละดีกว่า คือเราอย่าให้หน่อใหม่แตกจากข้อที่ต้น แต่ให้แตกขึ้นมาจากรากไต้ดิน กับอีกอย่างหนึ่ง ใช้อีขลุบย่ำดีกว่าใช้ล้อยางรถ เพราะล้อยางทำใด้แค่ตอล้ม ลำต้นที่เป็นตอไม่ฉีกขาด ถ้าตอยังเป็นลำอยู่จะแตกหน่อใหม่ที่ข้อ หน่อแบบนี้ไม่ดี แต่ถ้าตอฉีกแตกแล้ว เมื่อหน่อใหม่แทงจากข้อไม่ได้ก็จะแทงจากรากขึ้นมาเอง หน่อจากรากนี้ดีครับ

ลุงคิม : แล้วน้ำเข้า ใส่ระเบิดเถิดเทิงตอนไหน ?
พนม : ครับลุงผู้พัน ไม่น่าเชื่อครับ หลังย่ำเสร็จแค่ 2-3 วันเท่านั้นแหละ แหวกซังข้าวดู เห็นหน่อแทงใหม่เต็มปื้ดเลย จากข้าวแค่กอเดียวแตกหน่อใหม่เป็นสิบๆ ที่มันแตกหน่อใหม่ขึ้นมาได้เพราะน้ำในดินที่เคยใส่ไว้ตั้งแต่ก่อนเกี่ยวนั่นแหละครับ อันนี้เราต้องให้มีน้ำในดินแค่ชื้นนิดๆ เท่านั้น แค่เดินแล้วรู้สึกนุ่มเท้าก็พอ แต่ถ้าดินชุ่มมากเขาจะไม่ค่อยงอก ....

ปล่อยไว้อีก 7-10-15 วัน หน่อข้าวแทงพ้นเศษฟางขึ้นมาให้เห็นแล้ว โอ้โฮ ลุงผู้พัน หน่อข้าวขึ้นใหม่แน่นกว่าหว่านครั้งแรกซะอีก ถึงตอนนี้เราก็เริ่มเอาน้ำเข้า เข้าพอปริ่มๆตอ แล้วให้รถฉีดน้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 ไร่ละ 2 ล. อย่างที่ลุงผู้พันบอก ปรับหัวฉีดให้เม็ดน้ำใหญ่ๆ แล้วฉีดอัดลงหน้าดินไปเลย เท่านั้นแหละครับ

ลุงคิม : รถฉีด .... ไหนเล่าเรื่องรถฉีดที่ว่าให้ฟังหน่อยซิ รูปร่างหน้าตามันเป็นยังไง ?
พนม : เป็นรถฉีดพ่นไทยประดิฐษ์ธรรมดาๆนี่แหละครับ คนนั่งขับ มีเครื่องยนต์ทั่วๆไป บนรถบันทุกน้ำผสมปุ๋ยได้ครั้งละ 350 ลิตร มีแขนติดหัวพ่นยื่นออกด้านข้าง ปรับความยาวแขนพ่นได้ข้างละ 5 เมตร ด้านหน้าล้อจะมีครีบแหวกต้นข้าวให้ล้อวิ่งไป ล้อจะได้ไม่ทับต้นข้าว ถึงจะทับต้นข้าวล้มบ้าง แค่คืนเดียวต้นข้าวก็ตั้งคืนอย่างเก่าได้แล้ว ฉีดได้ตั้งแต่ระยะข้าวเล็กถึงระยะข้าวใหญ่ใกล้เกี่ยวเลยแหละครับ ค่าจ้างก็ไร่ละ 60 บาท วันนึงทำงานได้เป็นร้อยๆไร่ ประหยัดกว่า ได้เนื้องานดีกว่า คนเดินฉีดเยอะเลยครับ

ลุงคิม : สุดยอดว่ะ .... เอาละ ถึงขั้นตอนหน่อใหม่เริ่มโตแล้ว เริ่มบำรุงยังไง ?
พนม : ผมก็เอาไบโออิ กับยูเรก้า นี่แหละครับ น้ำ 200 ล. ใส่ไบโออิ 100 ซีซี. ยูเรก้า 100 ซีซี. เท่านี้แหละครับ

ลุงคิม : ปุ๋ยสูตรเร่งแตกกอ 18-38-12 ไม่ได้ใส่เหรอ ?
พนม : ไม่ได้ใส่ครับลุงผู้พัน ผมเอาแค่นี้จริงๆ มันก็แตกกอดีนี่ครับ ข้าวแน่นยิ่งกว่าหว่านครั้งแรกซะอีกแน่ะครับ

ลุงคิม : อืมมมว่ะ ถ้าแบบนี้เอาไบโออิอย่างเดียวเดี่ยวๆก็พอ จะได้ไม่เปลือง เอาวะ เกินดีกว่าขาด ยังไงๆก็ดีกว่าอั้ยลิตรละ 3,000 ลิตรละ 10,000 มั้ง
พนม : แน่นอนครับลุงผู้พัน ผมสั่งซื้อจากคาราวานชาตรี แค่อย่างละแกลลอน ทั้งรุ่นยังใช้ไม่หมดเลย คนแถวบ้านผมบอกไม่เชื่อ ใส่ปุ๋ยแค่นี้มันโตได้ยังไง ปุ๋ยทางดินก็ไม่ได้หว่านใหม่ๆ ก็มีแต่คนแนะนำให้ใส่ยูเรีย ใส่ 16-2-0 ผมก็ไม่ใส่ ถึงไม่ได้ใส่ข้าวก็โตปกติ เผลอๆ โตดีกว่าของคนที่บอกให้ใส่ด้วย สุดท้ายข้าวออกมา ของผมขายแล้วเหลือกำไรมากกว่า คนที่เคยบอกวันนี้เงียบไปเลย

ลุงคิม : บำรุงระยะอื่นล่ะ ?
พนม : ก็นั่นแหละครับ ช่วงตั้งท้องผมให้ไทเป น้ำ 200 ล. ใส่ไทเปแค่ 200 ซีซี. ไม่ใส่ 0-52-34 หยุดสูง ไม่ใส่ยูเรียเป็นสารลมเบ่ง ข้าวก็ออกรวงดีครับ

ลุงคิม : ระยะน้ำนมล่ะ ?
พนม : ผมก็เอา น้ำ 200 ล. ใส่ไบโออิ 100 ซีซี. ใส่ยูเรก้า 100 ซีซี. ให้ไปแค่ 2-3 รอบมั้ง ข้าวก็ดีนึ่ครับ ไม่มีข้าวลีบ ไม่เป็นท้องไข่ โรงสีบอกเมล็ดแกร่งดีด้วย

ลุงคิม : เอาวะพนม ลูกกับเมียเป็นไง หน้าบานเลยไหม ?
พนม : สุดยอดครับลุงผู้พัน แต่อย่างว่าแหละครับ เบื่อสอนพวกหัวรั้นครับ

ลุงคิม : เฮ่ยยยย เบื่อไม่ได้ วันนี้เขายังไม่รับก็ปล่อยไปก่อน วันไหนเขาหันมาหาเรา ช่วยสอนเขาด้วยก็แล้วกัน โดยเฉพาะสอนเรื่องต้นทุนที่จ่ายๆออกไป
พนม : ครับลุงผู้พัน

ลุงคิม : แล้วนารุ่นหน้าวางแผนยังไง ?
พนม : ครับ รุ่นนี้พอเกี่ยว เสร็จ ผมไถพลิกกลบฟางฝังกลบลงไปก่อนเลย ตอนนี้น้ำท่วมเริ่มมาแล้ว กะปล่อยให้น้ำท่วมหมักฟางซักพัก น้ำลงก็จะย่ำเทือกเลย ไม่ต้องไถ กะเอาอย่างที่ลุงผู้พันเคยบอก ใส่ระเบิดเถิดเทิงแล้วย่ำเทือกเลยน่ะครับ

ลุงคิม : อืมมม งวดหน้าอาจจะต้องเพิ่ม 16-8-8 ซักหน่อยนะ
พนม : ครับ ตอนทำเทือกว่าจะยังไม่เพิ่ม แต่จะรอดูตอนแตกกอต้นกลมก่อน ถ้าต้นสมบูรณ์ดีก็ไม่ต้องเพิ่ม ยังไงๆก็ยังทันไม่ใช่เหรอครับลุงผู้พัน ?

ลุงคิม : ใช่ ถูกต้อง ถึงตอนนั้นต้นมันจะฟ้องออกมาเองว่าปุ๋ยพอหรือไม่พอ
พนม : ครับลุงผู้พัน

ลุงคิม : O.K. พนม วันนี้แค่นี้ก่อนวะ น้ำลดเริ่มลงนาค่อยว่ากันอีกที
พนม : ครับลุงผู้พัน ขอบคุณลุงผู้พันที่สุดเลยครับ

----------------------------------------------------------------------------------
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=1707&page=1
นาข้าวล้มตอซัง.....

-------------------------------------------------------------------------------------


.



กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©