-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 114 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

ไม้ดอก-ไม้ประดับ




หน้า: 2/2


 
กุหลาบเปอร์ฟูมดีไลท์ หอมที่สุด

"นายเกษตร"

         
ผู้อ่าน จำนวนมากขอให้แนะนำกุหลาบพันธุ์ที่มีดอกสวยงาม และดอกมีกลิ่นหอมแรงบ้างเนื่องจากต้องการนำไปมอบให้คนที่เป็นพิเศษ และเป็นที่รักนับถือ ไม่ต้องการใช้ดอกไม้ประดิษฐ์ หรือดอกไม้ปลอม ผู้รับจะได้รู้ถึงสื่อความหมายเมื่อได้รับมอบแล้ว ซึ่ง ในหมู่ กุหลาบเท่าที่เคยแนะนำในคอลัมน์ไปนั้น "กุหลาบเปอร์ฟูมดีไลท์" จัดได้ว่า เป็นกุหลาบที่มีดอกสวยงาม และ ดอกมีกลิ่นหอมแรงเป็นอันดับหนึ่ง โดยกลิ่นของดอกจะหอมเป็นกลิ่นกุหลาบอย่างแท้จริง ใครได้พบเห็นและได้สูดดมกลิ่นหอมแล้วจะชื่นชอบและหลงใหลในเสน่ห์ทันที
         
กุหลาบเปอร์ฟูมดีไลท์ อยู่ในวงศ์ ROSACEAE มีถิ่นกำเนิดจากประเทศในแถบยุโรป ถูกนำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์ขายในประเทศไทยนานกว่า 40-50 ปีแล้ว มีความโดดเด่นคือ ดอกมีขนาดใหญ่ สีสันของดอกสวยงาม และดอกมีกลิ่นหอมแรงเหมือนสูดดมกลิ่นหอมจากหัวน้ำหอม จึง ถูกตั้งชื่อว่า "เปอร์ฟูมดีไลท์" ดังกล่าว โดยผู้ขายเล่าด้วยว่า ผู้ปลูกในประเทศไทยนิยมปลูกเพื่อเก็บเอาดอกปักแจกัน "บูชา ร.5" จะเข้าลักษณะทุกอย่างและดีมาก
         
กุหลาบเปอร์ฟูมดีไลท์ เป็นไม้พุ่ม สูง 1-2 เมตร ต้นและกิ่งก้านมีหนาม ใบประกอบออกสลับ ใบย่อย 5-7 ใบ ใบเป็นรูปไข่ ปลายแหลม โคนมน ขอบจักเป็นฟันเลื่อย หูใบแนบติดก้านใบ ใบอ่อนเป็นสีเขียวปนน้ำตาลแดง เวลาแตกยอดอ่อนเยอะๆจะน่าชมยิ่ง
         
ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยวๆ ที่ปลายกิ่ง ฐานรองดอกเป็นรูปถ้วย มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบดอกเรียงซ้อนกันหลายชั้น แต่ละชั้นจะมีกลีบดอก 5-6 กลีบ กลีบชั้นนอกจะมีขนาดใหญ่กว่าชั้นในที่อยู่ถัดไปตามลำดับ กลีบดอกเป็นสีชมพูเข้ม มีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียจำนวนมาก ดอกมีกลิ่นหอมแรงเป็นกลิ่นกุหลาบ เป็น เอกลักษณ์เฉพาะตัว ดอกออกตลอดปี ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง ตอนกิ่ง ติดตา และหน่อ มีต้นขาย ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 2 แผง "ป้าแอ๊ด-คุณขวัญ" ราคาสอบถามกันเอง เหมาะจะปลูกประดับ หรือมอบผู้เป็นพิเศษหรือผู้เป็นที่รักนับถือมีสื่อความหมายดีมาก
         
ครับ ผู้อ่านไทยรัฐคือผู้มีพระคุณ และเป็นผู้ยิ่งใหญ่เสมอสำหรับเรา "นายเกษตร" ขอขอบคุณแฟนพันธุ์แท้ที่ส่ง ส.ค.ส.ไปอวยพรให้มากมาย ก็ขอให้พรเหล่านั้นสะท้อนกลับทุกคนเช่นกัน สิ่งไหนไม่ดีในปีเก่า ทบทวนให้ถ่องแท้และตัดทิ้งไป เพื่อการก้าวเดินอย่างมั่นคงต่อไปในปีใหม่ ขอให้ทุกคนสุขภาพดี สติปัญญาเฉียบแหลม ใช้จ่ายเงินแบบรู้คุณค่า และมีความสุขมากๆ พบกันอีกครั้ง ปีหน้า ปี 2553 ครับ.

             

ที่มา  :  ไทยรัฐ





องอาจ ตัณฑวณิช ชมรมการจัดการทรัพยากรเกษตร ongart04@yahoo.com โทร. (081) 909-8117

กุหลาบมอญ กุหลาบในตำนาน

ถ้าเราพูดถึง ดอกกุหลาบ เรามักจะนึกถึง กุหลาบสีแดง สีชมพู หลากสีสัน มีดอกขนาดใหญ่ ก้านยาว เอาไว้ปักแจกันหรือทำเป็นช่อดอกไม้ ซึ่งกุหลาบเหล่านี้จะปลูกได้เฉพาะในแถบที่มีอากาศค่อนข้างเย็น เช่น จังหวัดในภาคเหนือของเรา กุหลาบชนิดนี้ชาวบ้านทั่วไปไม่ค่อยได้สัมผัสเท่าไหร่นัก จะฮือฮามากก็ช่วงวาเลนไทน์ปีละครั้ง หรือช่วงงานรับปริญญา งานแต่งงาน งานมงคลทั่วไป สรุปแล้วจะใช้ก็ตอนมีงาน แต่มีกุหลาบอีกชนิดหนึ่งที่ถูกมองข้ามไป กุหลาบชนิดนี้ใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป โดยท่านที่เป็นพุทธศาสนิกชนและนักคณิตศาสตร์ผู้นิยมเลข ในช่วงวันโกนวันพระและช่วงก่อนวันที่ 1 และก่อนวันที่ 16 ของทุกเดือนจะใช้มากเป็นพิเศษ กุหลาบชนิดนี้คือ กุหลาบมอญ ที่ใช้สำหรับร้อยพวงมาลัยดอกมะลิบ้าง ดอกรักบ้าง

ตำนานกุหลาบมอญ
เขาเล่าว่า กุหลาบมอญ เป็นกุหลาบพันธุ์พื้นเมืองของหงสาวดีโน้น สมัยก่อนโน้นหงสาวดีเป็นเมืองของชาวมอญ ไม่ใช่ชาวพม่า เมืองหงสาวดีถูกพม่ายึดสมัยบุเรงนองนี่เอง ตอนกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งแรก สมเด็จพระนเรศวรถูกนำไปเป็นตัวประกันที่ฝั่งพม่า เมื่อสมเด็จพระนเรศวรเสด็จกลับมาจากเมืองหงสาวดี และได้ทรงหลั่งน้ำทักษิโณทก ตัดความสัมพันธ์กับเมืองหงสาวดี ไม่ขอเป็นเมืองขึ้นใคร (ไชโย) เป็นการประกาศอิสรภาพและได้ทรงนำต้นกุหลาบกลับมา จึงเรียกขานนามกุหลาบชนิดนี้ว่า "กุหลาบมอญ" ตามชื่อถิ่นของชนชาติเดิม ในสมัยรัตนโกสินทร์ เปลี่ยนคำเรียกหาเป็น ยี่สุ่น ปัจจุบัน กรุงเทพมหานครของเราเป็นเมืองขึ้นของนักการเมืองแบบสมบัติผลัดกันกิน ถ้าเราประชาชนจะหลั่งน้ำตา ตัดความสัมพันธ์กับนักการเมือง และไม่ขอเป็นเมืองขึ้นของพรรคการเมืองใดๆ เราจะได้อิสรภาพคืนมาไหม นี่ว่าจะโทร.ไปแสดงความคิดเห็น แนะนำนายกฯ บ้าง ก็โทร.ไม่ทัน พอดีเงินหมดเสียก่อน ไม่ได้เติม

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์
เมื่อเรามีข้อมูลทางประวัติศาสตร์และไสยศาสตร์แล้ว ก็ขอนำเสนอข้อมูลทางวิทยาศาสตร์บ้าง ประเดี๋ยวศาสนิกชนจะหาว่างมงาย กุหลาบมอญ มีชื่อสามัญว่า Damask rose, Summer Damask rose กุหลาบมอญเป็นไม้พุ่ม ลำต้นสูงได้ถึง 2.5 เมตร มีหนามมากและขนแข็งแรง

ใบประกอบแบบขนนกปลายคลี่ ร่วงง่าย หูใบมักมีขอบจักแนบกับก้านใบประกอบ มีใบย่อย 3-7 ใบ สีเขียวอมเทา รูปไข่ถึงรูปรี ปลายแหลมหรือป้าน โคนนม ขอบจัก ใต้ใบมีขนเล็กน้อย ช่อดอกแบบช่อเชิงหลั่น ออกที่ปลายยอด ดอกอยู่รวมเป็นกระจุก 3-5 ดอก มีกลิ่นหอม เป็นไม้พุ่มผลัดใบ ลำต้นตั้งตรง ต้องการแสงแดดอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เจริญเติบโตได้ดีในที่โล่งแจ้ง กระแสลมไม่แรง ชอบน้ำ แต่ไม่ชอบน้ำขัง ดินที่ปลูกต้องระบายน้ำได้ดี จะให้ดอกได้ดีเมื่ออากาศร้อนตอนกลางวันและกลางคืนอากาศเย็น

ประโยชน์ของกุหลาบ
นอกจากนำดอกกุหลาบไปใช้ในการร้อยพวงมาลัยที่เห็นขายกันทั่วไปแล้ว ยังใช้ในการร้อยพวงอุบะดอกไม้ในงานมงคลหรือในงานพิธีต่างๆ โดยใช้กลีบมาร้อยเป็นพวง สำหรับที่ใช้ในงานด้านอาหารก็มี เช่น การแต่งหน้าขนมตะโก้ หรือใช้โรยบนท่อนอ้อยควั่น เพิ่มความสวยงามของอาหารให้ดูน่ากินยิ่งขึ้น หรือบางตำราบอกเรื่อง ชากุหลาบ ว่านำกลีบกุหลาบมาตากแห้งแล้วนำมาชงในน้ำเดือด ก็จะได้ชากุหลาบสีสดสวย อันมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ แก้อ่อนเพลีย บำรุงหัวใจ แต่ชากุหลาบจะมีรสฝาด ท่านให้แก้โดยเติมมะนาวหรือเกลือเพื่อให้รสหายเฝื่อน แต่ที่สำคัญคือ อย่าใช้กุหลาบที่ซื้อมาจากตลาดในการทำชาก็แล้วกัน เพราะเราจะได้ชิม "ชากุหลาบรสคาร์โบซันแฟน" หรือ "ชากุหลาบรสอะบาแมกติน" ซึ่งเป็นยาฆ่าแมลงยอดนิยมแน่นอน ดอกกุหลาบแห้งที่นำมาทำใบชา ผู้นิยมอาหารเพื่อสุขภาพชอบจะดื่มกัน เขาขายกันถึงกิโลกรัมละ 1,200 บาท ทีเดียว ถ้าเป็นดอกสด ก็นำมาทำน้ำหอมดอกกุหลาบ แต่งกลิ่นยา เครื่องสำอาง หรือนำไปเข้าตำรับยาหอมบำรุงหัวใจ ซึ่งเป็นตำราที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และทำน้ำมันหอมระเหย แต่ถ้าจะให้แน่ ต้องเมนูเด็ดวันนี้คือ ยำดอกกุหลาบ สูตรของบริษัทจำหน่ายผงชูรส

สูตรเมนูเด็ดขอแนะนำ คือ ยำดอกกุหลาบ
เครื่องปรุงดังนี้
กุ้งชีแฮ้ 300 กรัม
เนื้อไก่ 200 กรัม
กลีบกุหลาบมอญ 1 กรัม
แตงร้าน 2 กรัม
น้ำมะนาว 2 กรัม
น้ำตาลทราย 2 กรัม
น้ำปลา 1 กรัม
พริกชี้ฟ้า เขียว เหลือง แดง ตามชอบ
ใบสะระแหน่ เล็กน้อย
ผงชูรส มากน้อยตามแต่ใจต้องการ

วีธีทำ

1. ต้มกุ้งทั้งเปลือกแล้วปอก ผ่าครึ่ง เนื้อไก่ต้มสุก หั่นหรือฉีก
2. ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล และเกลือ เพื่อเป็นน้ำปรุงรส พริกผ่าครึ่ง เอาเม็ดออก หั่นเป็นชิ้นเล็กยาว (ถ้าชอบเผ็ดให้เติมพริกขี้หนูบุบ) กุ้งตัดเป็นท่อน ขนาด 1 นิ้ว แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ กลีบกุหลาบล้างน้ำให้สะอาด แล้วใส่กระชอนเพื่อให้สะเด็ดน้ำ
3. ใส่แตงร้านลงในจานผสม พร้อมกับเนื้อกุ้ง ไก่ ราดน้ำยำคลุกให้เข้ากัน ใส่กลีบกุหลาบ ใบสะระแหน่ พริกชี้ฟ้าคลุกให้เข้ากันอีกครั้ง
ลองทำกันดู ถ้าอร่อยแล้วบอกด้วย

กุหลาบมอญ ปลูกอย่างไร
อารัมภบทมานานโข จะขอเข้าเรื่องเกษตรกรแข็งขันของเรา คือ คุณชำนาญ สุดวิเวก กับศรีภรรยา ผู้ปลูกต้นกุหลาบมอญเพื่อตัดดอกที่ ตำบลแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ของเรา พี่ชำนาญบอกเราว่า เดิมปลูกกุยช่ายมาสิบกว่าปี ตอนนี้ไม่สามารถปลูกได้แล้ว เนื่องจากปลูกซ้ำที่มานาน ตอนหลังกุยช่ายไม่ค่อยได้ผล เสียหายเยอะ จึงหันมาปลูกกุหลาบมอญตัดดอก ในพื้นที่แถบนั้นเป็นที่ลุ่ม การทำการเกษตรจึงต้องยกร่องขึ้นมา พื้นที่จะสูญเสียไปพอสมควร แต่ก็ได้น้ำและความสะดวกในการใช้มาทดแทน คันที่ยกสูงขึ้นจากน้ำเกือบเมตร ตามขอบร่องมีวัชพืชคลุมเหมือนกำมะหยี่เป็นการรักษาความชื้นได้เป็นอย่างดี

เมื่อเตรียมแปลงปลูกโดยการใช้แรงคนแล้ว ก็มีการคลุกเคล้ากับปุ๋ยมูลสัตว์ ก็นำต้นพันธุ์ที่ซื้อมาจากแถวดำเนินสะดวก ในราคาต้นละ 4.50 บาท ลงปลูก ก้นหลุมไม่ต้องรองอะไร เพราะแต่งหน้าดินแล้ว ร่องปลูกที่ดันขึ้นมาหน้ากว้าง 2 เมตร ปลูกได้ 4 ต้น ส่วนความยาวก็ไม่จำกัด แล้วแต่สะดวกในแหล่งที่มีน้ำบริบูรณ์ดีหลายอย่าง เพราะจะปลูกต้นกล้าไม้ได้ทุกหน้าเนื่องจากมีน้ำรดเหลือเฟือในกรณีที่ปลูกใหม่เมื่อปลูกแล้วจะต้องรดน้ำให้ชุ่ม วันละ 2 ครั้ง เพื่อไม่ให้ต้นกล้าชะงัก เนื่องจากขาดความชื้น เมื่อเห็นว่าต้นตั้งตัวได้ ก็จะลดจำนวนครั้งที่รดน้ำลงเหลือครั้งเดียว เพื่อให้ความชุ่มชื้นต่อต้นควรนำฟางมาปิดบริเวณใต้โคนต้น แต่อย่าให้ชิดโคนเกินไป จำนวนต้นต่อไร่จะมากหรือน้อยอยู่ที่เจ้าของสวน เพราะถ้าใช้ต้นพันธุ์มากโดยการปลูกถี่เราก็จะได้ผลผลิตมาก แต่ก็ต้องใช้ทุนในการซื้อต้นพันธุ์มากกว่าปกติ รวมถึงปุ๋ยและยา การเอาใจใส่ที่เพิ่มขึ้น

ระหว่างนี้จะใส่ปุ๋ย สูตร 25-7-7 เพื่อเร่งต้นให้เจริญเติบโต พอเริ่มติดดอกก็ให้ปุ๋ยตัวหลังและตัวกลางสูง เพื่อเร่งดอกใส่ในจำนวนที่ไม่มาก แต่ใส่ให้บ่อย ประมาณเดือนที่ 3 ก็จะเริ่มเก็บดอกได้ แต่ปริมาณยังไม่มาก ต้นจะค่อยๆ สูงขึ้น เราจะได้ดอกที่มากขึ้น ดอกกุหลาบจะดกในฤดูฝน ศัตรูพืชที่สำคัญเป็นเพลี้ยไฟไรแดง หนอนกุหลาบ ใช้ยากำจัดแมลงที่ใช้ปราบศัตรูพืชโดยทั่วไป โดยหมั่นตรวจสอบดูแปลงปลูกให้สม่ำเสมอ เราจะสามารถควบคุมโรคได้ดี

การตลาด
ทุกวันจะมีการเก็บดอกกุหลาบ โดยวิธีการเด็ดไม่ต้องใช้กรรไกรหรือมีด แล้วนำมาคัดแบ่งเกรดเป็น บานใหญ่ ตูมใหญ่ ตูมเล็ก ราคาลดหลั่นลงมาไม่แน่นอน ราคาขายที่ชาวสวนได้แค่ จำนวน 100 ดอก ต่อ 30 บาท ก็พอใจแล้ว ในฤดูที่ดอกมีจำนวนมากราคาก็จะต่ำกว่านี้ เช่นกันจะได้ราคาสูงก็ต่อเมื่อจำนวนดอกมีจำนวนน้อย เหมือนสินค้าเกษตรทั่วไป พอตกเย็นก็จะนำไปส่งคนรวบรวมดอกกุหลาบในพื้นที่เพื่อรับไปส่งที่ปากคลองตลาดต่อไป

กุหลาบมอญ เป็นกุหลาบพันธุ์ที่ปลูกง่าย ดูแลรักษาไม่ยาก เป็นกุหลาบที่เหมาะกับอากาศร้อน แต่จำเป็นต้องมีน้ำรดให้เพียงพอ ระมัดระวังเรื่องโคนเน่าในหน้าฝน หมั่นตัดแต่งพุ่มกุหลาบเพื่อให้แตกกิ่งก้านสำหรับผลิดอก การยกร่องและมีคูน้ำล้อมรอบ ทำให้มีปัญหาเรื่องแมลงรบกวนน้อยและยังมีการใช้เรือรดน้ำซึ่งสะดวก ใช้เวลาไม่มาก ส่วนในภูมิประเทศที่แตกต่างก็ควรปรับเปลี่ยนไปตามสภาพ


ที่มา :  เทคโนโลยีชาวบ้าน  info.matichon.co.th/techno/










หน้าก่อน หน้าก่อน (1/2)


สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-05-10 (7884 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©