kimzagass หาวด้า
  
  
  เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11812
 
  | 
		
			
				 ตอบ: 30/10/2020 5:54 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 30 OCT...... * ฟางซุปเปอร์ | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				.
 
.
 
 
 
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 30 OCT..  
 
AM 594 เวลา  08.15-09.00 (จันทร์-ศุกร์)    
 
 
*****************************************************************
 
  สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง  ที่เคารพ                                                                                                                                                                  	
 
กองทัพบก  เพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม ...  	
 
 
ผลิตรายการโดย....                             
 
กองกิจการพลเรือน   หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ   กองทัพบก                                                                                                                         	
 
 
 จุดยืนรายการ ....                                                                                                                                                                                            	
 
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม .. ? ..                                                                                                                                           	
 
* ปัจจัยพื้นฐาน  ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค                                                                                                                	
 
* หัวใจเกษตร  ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน		                                                                                                                        	
 
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ   พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ	 	                                                                                                                            	 
 
 
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ                                                                                                                                   
 
  	
 
 ผู้สนับสนุนรายการ ....
 
***  ยิบซั่มธรรมชาติ  เฟอร์มิกซ์,   ธันเดอร์พลัส   ธันเดอร์แคล.... ออร์เดอร์จาก   ออสเตรเลีย   แคนนาดา   อเมริกา  +Mg. Zn. เคมี, .... ออร์เดอร์จากเกาหลี  ให้ +Cu เคมี  อย่างละ 5% .... ยิบซั่มเพื่อการเกษตรที่ทั่วโลกยอมรับ  คือ  ยิบซั่มจากประเทศไทย  นี่แหละ   
 
  	
 
*** ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์  คุณภาพผลผลิต (ยอด-ใบ-ดอก-ผล-เมล็ด-เนื้อ-ต้น-ราก) จะดกดี  สีสวยสด  รสจัดจ้านได้    ด้วยธาตุรอง/ธาตุเสริม .... 
 
  	
 
*** แม็กเนเซียม.   สังกะสี.   สาหร่ายทะเล.   แคลเซียม โบรอน.   ส่วนผสมเอาไปทำเอง .... 	
 
*** กลิ่นล่อดักแมลงวันทอง,   กาวเหนียวดักแมลงศัตรูพืช.... คิดง่ายๆ  ถ้าแมลงศัตรูพืชไม่มาที่กับดัก  เขาก็จะไปที่ต้นพืช  ว่ามั้ย .....   (089) 144-1112   
 
  	
 
เช่นเคย รายการเรา 
 
*** 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว-สายตรง ที่ (081) 913-4986, .... 
 
*** FB วีระ ใจหนักแน่น, .... 
 
*** อินเตอร์เน็ต  เกษตรลุงคิม ดอทคอม .... เว้บนี้  ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า   
 
 
ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย  นักรบไม่ว่ากัน THANK  YOU .... 
 
 
 
........................................................................................................  
 
........................................................................................................ 
 
   
 
งานสัญจรปกติตามวงรอบ :  
 
* วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน   ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์  สุพรรณบุรี,  
 
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สองของเดือน ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,   
 
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามของเดือน ไปวัดท่าตำหนัก เพชรเกษม(ขาล่อง) แยกนครชัยศรี นครปฐม,  
 
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สี่ของเดือน ไปที่วัดส้มเกลี้ยง  ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์  ถ.วงแหวนตะวันตก
 
   
 
** ถึงจุดนี้  เกษตรกรที่ไหนอยากให้งานสัญจรไปลงที่นั่น  ที่ไหนก็ได้  ติดต่อมา พูดคุยกันในรายละเอียด                                              
 
 
************************************************************
 
************************************************************
 
 
 
  	เก็บตกงานสัญจร 24  ต.ค.  วัดส้มเกลี้ยง  ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ (5) ....ฟางซุปเปอร์   :    
 
 
  	CASE นี้  วันนี้มี สมช.ผู้ชายมาคนเดียว ซื้อ รบ.เถิดเทิง 75 ล.  ยิงคำถามเดียวกัน น้ำเสียงในคำถามบนใบหน้าแววตาบ่งชัด  ต้องการคำตอบเดียว  นั่นคืองานนี้  งดไตเติ้ล-ตัดวิชาการ....ไม่ถามชื่อ-ไม่ถามที่อยู่-ไม่ถามประวัติ-ไม่ชี้นำ-ไม่ปลุกระดม-ไม่พูดยาว-ไม่ถามย้อน-ไม่ยกตัวอย่าง-ฯลฯ      	
 
 
สมช. : 	ลุงคิม  อย่าหาว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลย  ของสูตรทำฟางให้เป็นฟางซุปเปอร์ด้วยเถอะ
 
 ลุงคิม : ไม่หาว่าอย่างโน้นอย่างนี้หรอก  แต่จะว่าอย่างทำๆนี่แหละ
 
 
สมช. : ไม่ว่าค่ะลุง
 
 ลุงคิม : ทำนา  นาข้าวอยู่จังหวัดไหน ทำกี่ไร่ ? ระบบน้ำดีไหม ?
 
 
สมช. : อยู่ปทุมธานี  นา 40 ไร่  น้ำดีทุกปีค่ะ
 
 ลุงคิม :  ทุกครั้งทุกรุ่นที่ปลูกข้าวมา  เคยไถกลบฟางไหม ?
 
 
สมช. ไม่เคยเลยลุง  เผาทิ้งทุกรุ่น
 
 ลุงคิม : แล้วรุ่นนี้คิดยังไง  ถึงจะไม่เผา แล้วทำฟางซุปเปอร์ซะอีก  ชางบ้านเขาจะไม่หัวเราะเยาะเอาเหรอ
 
 
สมช. : คงไม่หรอกค่ะลุง  เกษตรตำบลเขามาแนะนำให้ทำนาแบบไม่เผาฟาง  แต่ให้ไถกลบลงไปเลย  ฟางเปื่อยแล้วจะกลายเป็นปุ๋ยเอง  ฉันได้เยินลุงพูด  ทำอะไรๆ ให้มันเหนือกว่าที่ทำ  ทำเป็นซุปเปอร์  เลยคิดว่า  ฟางตัวนี้ก็น่าจะทำเป็นฟางซุปเปอร์ได้
 
 ลุงคิม : ก็ประมาณนั้นแหละนะ  ทีนี้อั้ยคำว่า ซุปเปอร์-ซุปเปอร์  เนี่ย  หมายถึง  จากฟางที่เป็นเศษซากพืช  ซึ่งก็เหมือนกับเศษซากพืชทั่วๆไป  ในซากพืชมีธาตุอาหารหรือที่เราเรียกว่าปุ๋ย  มีธาตุอะไร ?  มีเท่าไหร่ ?  ว่าแล้วเราใส่  ธาตุอาหารตัวนั้นเพิ่มเข้าไปอีก  จากฟางธรรมดาๆ  เลยกลายเป็น  ฟางซุปเปอร์  ไงล่ะ  
 
 
สมช. : แล้วเราต้องทำยังไงบ้างล่ะลุง ?
 
 ลุงคิม : คำถามนี้ดีมากๆ  คิดไงเนี่ย....
 
 
สมช. : อยากรู้นี่คะ
 
  	ลุงคิม : 
 
 
 
  	หมายเหตุ :
 
             * ยูเรียต่อต้น....ทำให้ต้นข้าวเขียวอ่อน  เขียวไม่ทน  ใบบาง  ใบอ่อน  ต้นสูง  ต้นล้ม  ต้นหลวม  ผนังเซลล์อ่อนแอ  โรคมาก .... ฉายา ยูเรียล่อเพลี้ยกระโดด
 
 
              * ยูเรียต่อเมล็ด .... เมล็ดไม่แกร่ง เมล็ดไม่ใส  เมล็ดลีบมาก  เป็นท้องไข่มาก  ข้าวป่นมาก  น้ำหนักไม่ดี  ทำพันธุ์ไม่ดี  ถูกตัดราคา
 
 
              * ยูเรียต่อสารอาหาร....ความเข้มข้น (เปอร์เซ็นต์) ของสารอาหารในเมล็ดข้าวน้อยกว่าที่ระบุในงานวิจัย เพราะต้นข้าวได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน
 
 	
 
- ใส่ปุ๋ยเคมีแก่ต้นข้าวให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด 2 ช่วงเท่านั้น คือ ช่วงทำเทือก (เตรียมดิน) กับช่วงตั้งท้อง-แต่งตัว การใส่ปุ๋ยในช่วงอื่นๆ จะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ
 
         	
 
- ใส่ปุ๋ยแต่งหน้า หรือใส่ปุ๋ยทันทีหลังปักดำ (นาดำ) หรือเมล็ดพันธุ์เริ่มงอก (นาหว่าน) ไม่เกิดประโยชน์ เพราะต้นกล้ายังไม่พร้อมรับและยังไม่มีความจำเป็นต้องให้ ทั้งนี้ระยะที่ต้นกล้างอกใหม่ๆ จะใช้สารอาหารที่มีอยู่ในเมล็ดตัวเอง (แป้งโปรตีน  ไขมัน  วิตามิน ฯลฯ) เป็นหลัก
 
  	
 
- ใส่ปุ๋ยเคมีที่มีอัตราส่วนไนโตรเจน.สูง ฟอสฟอรัส. และโปแตสเซียม.ต่ำ เช่น 30-10-10  หรือ 16-8-8 หรือ 25-7-7 หรือ 46-0-0 + 16-16-16 อัตรา 1:1  จะช่วยให้ต้นข้าวแตกหน่อดีกว่าใส่ไนโตรเจน. เดี่ยวๆ 
 
 	
 
  - นาข้าวที่ได้ 100 ถัง จะมีฟางประมาณ 1,200 กก. ....ปริมาณฟาง 1 ตัน จะให้สารอาหารพืชประกอบด้วย  ไนโตรเจน 6. 0 กก.   ฟอสฟอรัส 1.4 กก.   โปแตสเซียม 17.0 กก .   แคลเซียม 1.2 กก.  แม็กเนเซียม 1.3  กก.    ซิลิก้า 50.0 กก.  (อ้างอิง : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)       
 
           
 
ถ้าได้ไถกลบเศษซากต้นถั่วเหลือง (เมล็ดพันธุ์ 12 กก./ไร่) ลงไปอีกก็จะได้ ไนโตรเจน 45 กก.  เมื่อรวมฟางกับต้นถั่วเหลืองแล้วจะทำให้ได้ปุ๋ยสำหรับต้นข้าวมากมาย
 
 
           ดินที่สภาพโครงสร้างดีตามมาตรฐานกรมพัฒนาที่ดินระบุว่า เมื่อใส่ปุ๋ยเคมีลงไปแต่ละครั้งต้นพืชได้นำไปใช้จริงเพียง 4 ส่วน แล้วเหลือตกค้างอยู่ในดิน 6 ส่วนเสมอ  ดังนั้นการใส่ปุ๋ยเคมี 1-2 รุ่นแล้วเว้น 1 รุ่น   ก็จะยังคงมีปุ๋ยเคมีเหลือตกค้างจากการใส่แต่ละรุ่นที่ผ่านมาบำรุงต้นข้าวรุ่นปัจจุบันได้อย่างเพียงพอ
 
 
            มาตรการบำรุงดินโดยปรับปรุงบำรุงดินด้วยอินทรีย์วัตถุ สารปรับปรุงบำรุงดินและจุลินทรีย์อย่าง สม่ำเสมอ-ต่อเนื่อง-รุ่นต่อรุ่น-หลายๆรุ่น-หลายๆปี ทำให้เกิดการสะสมอยู่ในเนื้อดิน  ซึ่งจะส่งผลให้สภาพโครงสร้างของดิน ดีขึ้น ดีขึ้น และดีขึ้นตามลำดับ
 
 
-----------------------------------------------------------------------------------------
 
 
 
   	จาก : (068) 187-62xx
 
   	ข้อความ : ขอเรื่อง วิธีไม่เผาฟางและประโยชน์ของฟางข้าวในนา จะเอาไปเขียนรายงานส่งครูค่ะ ขอข้อมูลที่คุณตาผู้พันเขียนขึ้นมาเองค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ.... สุณิสา บางปลาม้า สุพรรณบุรี
 
 
    	บ่น :
 
 	- ข้อมูลเรื่องนี้อยู่ในอินเตอร์เน็ตเกษตรลุงคิมดอทคอม ลุงคิมไม่ได้เขียนเองแต่เอาข้อมูลจากสารพัดแหล่งมา REWRITE ใหม่เท่านั้นแหละ กรณีหนูสุณิสาฯ ก็เหมือนกัน อย่า COPY ทั้งดุ้น แต่ให้อ่าน อ่าน อ่าน ทำความเข้าใจ แล้วเขียนขึ้นมาใหม่ด้วยสำนวนลีลาของตัวเอง
 
 
 	- ยังมีอีกหลากหลายมากมายเรื่องนาข้าว เริ่มจากฟาง แล้วขยายผลไปมิติอื่นที่เกี่ยวข้องกับข้าวอีกก็จะดีไม่น้อย .... รู้มากๆ ไม่ใช่รู้มาก .... รู้เรื่องข้าวรู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล....
 
 
 	- เมื่อรู้ว่าฟางข้าวมีประโยชน์แล้ว สิ่งที่ควร (เน้นย้ำ....ควร) ตามมา คือ เทคโนโลยีเครื่องทุ่นแรง จากฟางธรรมดาแปรรูปเป็นฟางซุปเปอร์ใช้ได้กับทุกกิจจกรรมที่จำเป็นต่อมนุษย์
 
 
 	- รถแทร็คเตอร์อเมริกา ด้านหน้าติดตั้งถังบรรจุ ปุ๋ยอินทรีย์/ปุ๋ยเคมี, กลางรถติดตั้งผานสามไถดิน ไถดะ, ท้ายรถติดตั้งผานเจ็ดไถพวนดิน ไถแปร, ทุกอย่างทำงานพร้อมกันเมื่อรถแทร็คเตอร์เริ่มดิน
 
 
- กับอีกหลากหลาย เทคนิค-เทคโนโลยี ที่ภาคเกษตรไทยปฏิเสธ  
 
 
 	ตอบ :
 
 	หลากหลายวิธีไม่เผาฟาง
 
  	หลักการและเหตุผล :
 
     	ฟาง คือ อินทรีย์วัตถุประเภทเศษซากพืชที่มีราคาประหยัดที่สุด และมีประโยชน์ต่อต้นข้าวมากที่สุด กล่าวคือ ฟางคือต้นข้าว ในต้นข้าวย่อมมีสารอาหารที่ต้นข้าวต้องใช้พัฒนาตัวเอง เมื่อฟางถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ สารอาหารที่เคยมีในฟางก็จะออกมากลายเป็นสารอาหารพืชสำหรับข้าวต้นใหม่ นอกจากเป็นสารอาหารพืชแล้ว ฟางยังมีคุณสมบัติที่ดีต่อการเจริญเติบโตของต้นข้าวอีกหลายประการ อาทิ เป็นแหล่งอาหารจุลินทรีย์ ทำให้ดินโปร่งร่วนซุย น้ำและอากาศผ่านสะดวก ช่วยซับหรืออุ้มน้ำไว้ใต้ดินโคนต้น เป็นต้น
 
 
 	ต้นข้าวในแปลงปลูกที่ดินมีความความชื้นสูง (ดินแฉะ) จะเจริญเติบโต แตกกอ สมบูรณ์แข็งแรง มีภูมิต้านทานสูงและให้ผลผลิตดีกว่าต้นข้าวในแปลงปลูกที่ดินมีน้ำขังท่วม
 
 
   	มาตรการทำให้ดินมีความชื้นสูง มีน้ำใต้ผิวดินมากๆ ทั้งๆ ที่หน้าดินแห้งจนแตกระแหงก็คือ การให้มีอินทรีย์วัตถุ (เศษซากพืช เศษซากสัตว์ และจุลินทรีย์)อยู่ในเนื้อดินมากๆ ถึงอัตราส่วน 1:1 สะสมต่อเนื่องติดต่อกันมานานหลายๆปี
 
 
 	แนวทางปฏิบัติ :
 
 	หลังจากรถเกี่ยวข้าวออกไปแล้ว ให้ดำเนินการส่งฟาง และ/หรือ เศษซากพืช-อินทรีย์วัตถุอื่นๆ ลงไปอยู่ใต้ผิวดิน ผสมคลุกกับเนื้อดินให้เข้ากันดี ตามขั้นตอน หรือ ลัดขั้นตอนก็ได้ ดังนี้
 
 
  	1. ตากฟาง-ไม่ตากฟาง :
 
 	วัตถุประสงค์คือ ต้องการให้ฟางแห้ง เพื่อให้จุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายทำให้ฟางเปื่อยได้เร็วขึ้น อันที่จริงนั้น จุลินทรีย์สามารถย่อยสลายได้ทั้งฟางสดและฟางแห้ง เพียงแต่การย่อยสลายฟางแห้งทำได้ง่ายและเร็วกว่าฟางสดเท่านั้นเอง ดังนั้น การตากฟางหรือไม่ตากก่อนไถกลบจึงไม่ต่างกันนัก ก็ให้พิจารณาตามความเหมาะสม
 
 
 	2. เกลี่ยฟาง-ไม่เกลี่ยฟาง :
 
 	วัตถุประสงค์คือ ต้องการให้ฟางกระจายตัวเท่าๆกันทั่วแปลง และแห้งเร็วๆ เมื่อไถกลบลงไปในดินแล้วเนื้อดินผสมกับฟางสม่ำเสมอกันซึ่งจะส่งผลให้ดินมีคุณภาพเท่าๆกันทั้งแปลงนั่นเอง.......ล้อรถเกี่ยวข้าวเป็นสายพานตีนตะขาบ ขณะที่รถเกี่ยววิ่งไปนั้น ตอซังที่ถูกสายพานตีนตะขาบเหยียบย่ำจะแบนราบแนบติดพื้น ส่วนตอซังที่อยู่บริเวณใต้ท้องรถเกี่ยวจะไม่ถูกเหยียบย่ำ ยังคงเป็นตอตั้งตรงเหมือนเดิม นอกจากนี้เศษฟางที่รถเกี่ยวพ่นออกมา ซึ่งรถเกี่ยวข้าวบางรุ่นพ่นเศษฟางให้ฟุ้งแผ่กระจายไปทั่วได้ แต่รถเกี่ยวบางรุ่นพ่นเศษฟางตรงๆลงทับบนตอซังกลายเป็นกองเศษฟาง กรณีนี้ ถ้าต้องการให้ฟางแผ่กระจายก็ให้ใช้ไม้เขี่ยฟางที่เป็นกองออก แต่ถ้าไม่ต้องการให้ฟางแผ่กระจายก็ไม่จำเป็นต้องเขี่ยออก เพราะช่วงที่รถไถผานโรตารี่เข้าทำเทือกนั้น ผานโรตารี่ก็จะช่วยกระจายฟางไปในตัวเองได้แต่อาจจะไม่กระจายดีกับการเกลี่ยก่อนเท่านั้น
 
 
 	3. ย่ำฟาง-ไม่ย่ำฟาง :
 
 	วัตถุประสงค์คือ ทำให้ฟาง ฉีก-ขาด-ช้ำ เพื่อเป็นช่องทางให้จุลินทรีย์ผ่านเข้าไปง่ายๆแล้วย่อยสลายฟาง ปฏิบัติโดยการใช้รถไถเดินตามล้อเหล็กวิ่งย่ำไปบนเศษฟางให้ทั่วแปลง วิ่งย่ำซ้ำหลายๆรอบ ฟางที่ถูกล้อเหล็กย่ำจะ ฉีก-ขาด-ช้ำ เกิดเป็นบาดแผลช่วยให้จุลินทรีย์ย่อยสลายฟางให้เปื่อยยุ่ยได้เร็วกว่าฟางที่ยังคงเป็นชิ้นๆอยู่
 
 
 	4.หมักฟาง :
 
 	วัตถุประสงค์ เพื่อให้ฟางเปื่อยยุ่ยโดยเร็ว ไม่ว่าฟางในแปลงนาจะตากแห้งแล้วหรือยังสด เกลี่ยกระจายแล้วหรือยังเป็นกลุ่มกอง ย่ำให้เป็นแผลช้ำแล้วหรือยังเป็นชิ้นเดิมๆ ทุกสภาพของฟางไม่อาจรอดพ้นฝีมือของจุลินทรีย์ไปได้ เริ่มด้วยการปล่อยน้ำเข้าแปลงพร้อมกับใส่จุลินทรีย์ 2-5 ล./ไร่ รักษาระดับน้ำให้ลึกราว 20-30 ซม. ทิ้งไว้ราว 10-20 วัน น้ำจะเปลี่ยนสีเป็นสีชาอ่อนๆ สภาพของฟางเริ่มเปื่อยยุ่ย เมื่อเดินย่ำลงไปจะมีฟองเกิดขึ้น ให้สังเกตฟอง ถ้ามีกลิ่นเหม็นแสดงว่าจุลินทรีย์เป็นพิษให้ ระบายน้ำออกทั้งหมดแล้วเติมน้ำใหม่ พร้อมกับจุลินทรีย์ชุดใหม่เข้าไปแทน แล้วเริ่มหมักใหม่อีกรอบ....ถ้าฟองนั้นไม่มีกลิ่นเหม็นแสดงว่าจุลินทรีย์ดี ให้หมักต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าฟางจะเปื่อยยุ่ยได้ที่ตามต้องการแล้วจึงลงมือทำเทือก
 
  	
 
ถ้าหมักฟางยังไม่ได้ที่หรือยังมีกลิ่นเหม็น (แก๊ส) จะมีผลต่อต้นข้าวระยะกล้า (ต้นเหลืองโทรม) เรียกว่า เมาตอซัง กรณีนี้แก้ไขโดยระบายน้ำเก่าออกพร้อมๆกับส่งน้ำใหม่เข้าไปแทนที่หรือใช้น้ำดีไล่น้ำเสีย จากนั้นบำรุงต้นกล้าด้วยฮอร์โมนทางด่วน 2-3 รอบ ห่างกันรอบละ 3-5 วัน
 
 
  	5. ไถกลบฟาง :
 
 	วัตถุประสงค์คือ การส่งฟางลงไปคลุกเคล้ากับเนื้อดินจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วให้จุลินทรีย์ย่อยสลายจนเปื่อยยุ่ยกลายเป็นปุ๋ยฟางที่อยู่ในแปลงนานั้นจะตากหรือไม่ตาก เกลี่ยหรือไม่เกลี่ย ย่ำหรือไม่ย่ำ หมักหรือยังไม่หมัก สามารถไถกลบลงดินได้ทั้งสิ้น เพียงแต่แบบไหนจะยากง่ายกว่ากัน ด้วยเครื่องมือต่างๆ ดังนี้
 
 
  	- ไถด้วยรถไถจอบหมุนโรตารี่ เป็นรถไถขนาดกลางนั่งขับ ขณะไถมักมีฟางพันผาน แก้ไขโดยการเดินหน้าสลับกับถอยหลังเพื่อสลัดฟาง หรือยกผานขึ้น ใส่เกียร์ถอยหลังแล้วเร่งเครื่องแรงๆ ผานจะหมุนฟรีแล้วสลัดฟางออกเองได้
 
 
  	- ไถด้วยรถไถเดินตาม (ควายเหล็ก) ผานเดี่ยว (ผานหัวหมู) ขณะไถมักมีฟางพันผาน แก้ไขโดยต่อใบผานให้ยาวขึ้น 10-12 นิ้ว หรือมากกว่า เพื่อส่งขี้ไถและฟางให้ตกห่างจากผานมากๆ
 
 
  	- ย่ำด้วยลูกทุบ (อีขลุบ) ลากด้วยควายเหล็ก ลูกทุบจะย่ำฟางให้ยุบลงแนบกับเนื้อดินบริเวณผิวหน้าดินเท่านั้นไม่ได้ลงไปคลุกหรือจมลงไปในเนื้อดิน เมื่อหว่านเมล็ดข้าวลงไป เมล็ดพันธุ์ส่วนหนึ่งจะติดค้างอยู่บนหญ้าที่หน้าดิน ช่วงที่เมล็ดเริ่มงอก ระบบรากยังแทงไม่ทะลุกองหญ้าลงไปถึงเนื้อดินด้านล่างได้ ครั้นเมื่อปล่อยน้ำเข้าแปลง ฟางจะลอยขึ้นพร้อมกับยกต้นกล้าข้าวให้ลอยตามขึ้นมาด้วย กรณีนี้แก้ไขโดย ปล่อยให้รากต้นข้าวเจริญยาวลงไปถึงเนื้อดินล่างดีแล้วจึงปล่อยน้ำเข้า หรือนำเส้นฟางออกเหลือแต่เหง้ากับรากต้นข้าวแล้วย่ำ....วิธีการหมักฟางนานๆจนเปื่อยยุ่ยดี แล้วย่ำด้วยอีขลุบหลายรอบ ให้มากรอบที่สุดเท่าที่จะมากได้ ฟางที่เปื่อยยุ่ยแล้วถูกย่ำด้วยล้อเหล็กจนแหลกละเอียดจะคลุกเคล้าผสมกับเนื้อดินบริเวณผิวหน้าดิน กรณีนี้แม้ต้นกล้าข้าวจะงอกบนเศษฟางเปื่อย เมื่อปล่อยน้ำเข้าก็จะไม่ยกต้นกล้าข้าวให้ลอยตามขึ้นมา นาข้าวที่ผ่านการไถกลบฟางมา 2-3 รุ่น จนขี้เทือกลึกระดับครึ่งหน้าแข้งแล้ว การทำนารุ่นใหม่ไม่จำเป็นต้องไถอีก แต่ให้ปล่อยน้ำเข้าเพื่อหมักฟางหรือล่อให้วัชพืชขึ้นจากนั้นหมักทิ้งไว้ 10-15 วัน จนแน่ใจว่าฟางเปื่อยยุ่ย ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าและเมล็ดวัช พืชงอกขึ้นมาจนหมดแล้วก็ให้ลงมือย่ำด้วย อีขลุบหรือลูกทุบ ได้เลย ทั้งนี้ลูกทุบหรืออีขลุบจะช่วยคลุกเคล้าเนื้อดินกับฟางและวัชพืชให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันได้ ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดต้นทุนค่าไถลงได้
 
 
  	6.ไม่ไถ :
 
 	หลังจากรถเกี่ยวเสร็จสิ้นภารกิจ ในแปลงมีตอซังและเศษฟาง แนวทางการทำเทือกโดยไม่ต้องไถ ไม่ว่าจะเป็นการไถด้วยรถไถใหญ่ผานจาน 3 หรือผาน 7 รถไถเดินตามผานจานเดี่ยวหรือคู่ รถไถโรตารี่สามารถทำได้โดยจัดการกับตอซังและเศษฟาง ตากฟางหรือไม่ตาก เกลี่ยหรือไม่เกลี่ยก็ได้ แล้วเริ่มด้วยการสูบน้ำเข้าให้ลึกประมาณ 30 ซม. ใส่จุลินทรีย์หน่อกล้วยหรือกากน้ำตาล 5-10 ล./ไร่ สาดให้ ทั่วแปลง ทิ้งไว้ 7-10 วัน จนน้ำเปลี่ยนสีเป็นสีชาอ่อนๆ จากนั้นให้ลงมือย่ำด้วย อีขลุบ หรือ ลูกทุบ ได้เลย ย่ำหลายๆรอบจนกว่าตอซังและเศษฟางรวมทั้งเศษซากต้นวัชพืชแหลกละเอียดลงไปคลุกกับเนื้อดิน เสร็จแล้วทิ้งไว้อีก 7-10 วัน ก็ให้ลงมือย่ำรอบสองด้วยวิธีการเดิม แล้วทิ้งไว้อีก 7-10 วัน ตรียมการย่ำต่อรอบสามเป็นรอบสุดท้าย ก่อนลงมือย่ำรอบสามให้ใส่อินทรีย์วัตถุ และ ปุ๋ย สำหรับนาข้าวตาม ปกติ เสร็จแล้วให้ลงมือปลูก (ดำหรือหว่าน) ข้าวได้เลย ถ้าเป็นนาข้าวที่เตรียมแปลงแบบไม่เผาฟางหรือไถกลบฟางครั้งแรก จะพบว่าชี้เทือกลึกเหนือกว่าตาตุ่มอย่างชัดเจนซึ่งถือว่าเพียงต่อการเพาะปลูกข้าวแล้วทั้งดำและหว่าน....หากเป็นนาที่เคยไม่เผาฟางแต่ไถกลบมาหลายรุ่นแล้ว การย่ำเพียงรอบแรกรอบเดียวก็จะได้ขี้เทือกลึกถึงระดับครึ่งหน้าแข้ง
 
 
  	 ประโยชน์ที่ได้จากการย่ำเทือกหลายๆ รอบที่เห็นชัดที่สุด คือ นอกจากได้กำจัดวัชพืชโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีกำจัดวัชพืชแล้วยังได้ปุ๋ยอินทรีย์จากเศษซากพืชอีกด้วย
 
 
  	หมายเหตุ :
 
 	- ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือแบบใด ที่ด้านหน้ารถดัดแปลงให้มีตะแกงสำหรับตั้งถังขนาดจุ 20-50 ล. เจาะรูก้นถัง 2-3 รู มีก๊อกปรับอัตราการไหลช้า/เร็วได้ ในถังใส่ปุ๋ยน้ำชีวภาพหรือจุลินทรีย์น้ำ แล้วปล่อยให้ไหลออกมช้าๆ ขณะที่รถไถวิ่งไปนั้นก็จะปล่อยปุ๋ยน้ำชีวภาพหรือจุลินทรีย์หยดลงพื้นที่ด้านหน้า แล้วถูกผานด้านหลังไถผสมลงไปคลุกผสมกับเนื้อดินเอง
 
 
 	- การทำนาแบบไถกลบฟางลงดินรุ่นแรก หมักฟางนานๆจนเปื่อยยุ่ยดี แล้วย่ำซ้ำหลายๆรอบ จะทำให้ได้ ขี้เทือก ลึก 20-30 ซม.(ครึ่งหน้าแข้ง) ในขณะที่การทำเทือกแบบเผาฟางก่อนนั้นจะได้ขี้เทือกลึกน้อยกว่ามาก
 
 
 	- นาข้าวแบบไถกลบฟาง จากรุ่นแรกที่ไถกลบนั้นจะมีฟางลงไปอยู่ในเนื้อดินราว 1 ตัน ต่อมารุ่นที่ 2 ก็จะมีฟางชุดใหม่ลงไปสมทบอีก 1 ตัน หรือทำนาข้าวจะได้ฟางรุ่นละ 1 ตัน และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแบบรุ่นต่อรุ่น ทั้งนี้เนื่องจากฟางรุ่นแรกๆ แม้จะเปื่อยยุ่ยดีแล้วแต่ก็ยังคงมีเศษซากหลงเหลืออยู่ ยิ่งมีเศษซากฟางอยู่ในดินมากเท่าใดยิ่งทำให้ได้ขี้เทือกลึกมากเท่านั้น
 
 
 	
 
จากประสบการณ์ตรงพบว่า การทำเทือกแบบไถกลบฟางสี่รุ่นติดต่อกัน ปรากฏว่าได้ขี้เทือกลึกถึงหัวเข่าซึ่งถือว่ามากเกินไป ผลเสียคือ เดินเข้าไปสำรวจแปลงได้ยาก ก่อนเกี่ยวซึ่งต้องงดน้ำ 7-10 วันเพื่อให้หน้าดินแห้งทำไม่ได้ และทำให้รถเกี่ยวเข้าทำงานไม่ได้อีกด้วย
 
 	
 
แนวแก้ไข คือ ไถกลบฟาง 2 รุ่นติดต่อกันไปก่อน เมื่อจะทำนารุ่น 3 ให้นำฟางออกเหลือแต่เหง้ากับรากในดินก็พอ ต่อมาเมื่อจะทำนารุ่น 4 ก็ให้วิเคราะห์ปริมาณเศษซากฟางในดินก่อนว่า สมควรนำฟางของนารุ่น 3 ออก แล้วเหลือแต่เหง้ากับราก หรือต้องไถกลบฟางรุ่นใหม่เติมลงไปอีก ทั้งนี้ความ ลึกของขี้เทือกจะเป็นตัวชี้บอก ประเด็นสำคัญก็คือ จะต้อง ไม่เผา อย่างเด็ดขาด.ตามเกณฑ์ของการเตรียมดินปลูกข้าว ควรมีอินทรีย์วัตถุประเภทเศษซากพืช 2-3 ตัน/ไร่/รุ่น
 
 	
 
- ฟางข้าวในนาข้าว คือ อินทรีย์วัตถุหรือปุ๋ยพืชสดที่มีราคาต่ำที่สุดและมีประโยชน์มากที่สุด ฟางข้าวเป็นทั้งแหล่งสารปรับปรุงบำรุงดิน บำรุงจุลินทรีย์ และเป็นแหล่งสารอาหารสำหรับต้นข้าวทั้งรุ่นปัจจุบัน รุ่นหน้า และรุ่นต่อๆไป นอกจากฟางแล้วควรจัดหาแหล่งเศษซากพืชอื่นๆเสริมเพื่อเพิ่มปริมาณอินทรีย์วัตถุให้มากขึ้น จากฟางตัวเดียว  ฟางธรรมดาๆ  ก็กลายเป็น  ฟางซุปเปอร์  นั่นเอง
 
 	
 
เกษตรกรชาวนาและชาวไร่ของสหรัฐอเมริกา หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตในนาหรือในไร่แล้วไม่มีการเผาทิ้งหรือนำออก แต่ใช้วิธีการไถกลบด้วยรถไถกลบขนาดใหญ่ ซึ่งขณะไถกลบนั้นก็จะเติมอินทรีย์วัตถุสารปรับปรุงบำรุงดิน จุลินทรีย์ และสารอาหารอื่นๆไปพร้อมๆกัน เพื่อประหยัดเวลา แรงงาน และให้เกิดความหลากหลายตามธรรมชาติ
 
 
                                                        
 
-----------------------------------------------------------   
 
 
 
.
 
  
 
  
 
  
 
   | 
			 
		  |