kimzagass หาวด้า
  
  
  เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11812
 
  | 
		
			
				 ตอบ: 04/07/2015 7:31 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหารายการวิทยุ 5 JUL  *นาข้าว เปียกสลับแห้ง | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				.
 
.
 
   ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 5 JUL
 
 
AM 594 เวลา  06.30-07.00  (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)  
 
 
 
 ******************************************************************** 
 
  
 
สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ 
 
 กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม 
 
 ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก 
 
 
@@ สนับสนุนรายการโดย ... 
 
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6 
 
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112 
 
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, 
 
กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,  สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034 
 
 
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ 
 
 เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986 
 
 
---------------------------------------------------------------------------------------------- 
 
 
ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์  เคมี) 
 
 
1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี 
 
2) คุณชาตรี (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.) 
 
 
3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.) 
 
4) คุณล่า (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี 
 
 
5) คุณประเสริฐ (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี 
 
6) คุณอรุณ (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก. 
 
 
7) คุณพรพรรณ (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา 
 
8 ) คุณน้ำส้ม (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.) 
 
 
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
 
@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร : 
 
 
** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด, 
 
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม 
 
 
** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม) 
 
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน) 
 
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34) 
 
 
 
 
มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น 
 
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร ..... 
 
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......  
 
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน ....... 
 
 
----------------------------------------------------------- 
 
 
 
  จาก :   (094) 117-34 xx
 
 ข้อความ :    ลุงคิมครับ  ช่วงนี้เกษตรพูดถึงนาข้าว  เปียกสลับแห้ง  กันมาก  นาผมยังไม่ได้ทำ  กำลังรอฝนสิ้นเดือนนี้  อยากให้คุณลุงพูดเรื่องนาข้าวเปียกสลับแห้งให้ฟังบ้าง  คนอื่นพูดไม่ขลัง  สู้ผู้พันไม่ได้ครับ  .... ชาวนาตาคลี ขอบคุณครับ
 
 ตอบ : 
 
ทำนา เปียกสลับแห้ง แกล้งข้าว
 
หลักการและเหตุผล : 
 
- ก่อนอื่น ขอออกแขกก่อนว่า  วัฒนธรรมของเกษตรกรเราอย่างหนึ่งคือ  ให้อะไรแล้วรับไปแค่ครึ่งเดียว รับไปแล้วก็ทำแค่ครึ่งเดียวของที่ัรับไปอีก จึงพบว่า งานส่งเสริมมักประสบความสำเร็จแค่ครึ่งของครึ่งเดียวเท่านั้น .... 
 
 
ก็ให้น่าสงสัยเหมือนกันว่า แนวทางหรือขั้นตอนการปฏิบัติต่อนาข้าวแบบ  "เปียกสลับแห้ง"  ที่นำเสนอกันออกไปนั้น  คล้ายๆกับบอกความจริงแค่ครึ่งเดียว  อีกครึ่งที่ไม่ได้บอก ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า  เจตนาไม่บอก หรือผู้นำเสนอไม่รู้ .... 
 
 
   (หมายเหตุ : คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ 
 
.... เหมือนนาโยน เขาโยนกอข้าวให้ตกลงพื้นห่างกัน 20 x 20 ซม.เป๊ะๆ ทุกกอเลยเหรอ  ถ้ามันตกห่าง 10 ซม.x 1 ม.ล่ะ  มิเสียเนื้อที่เปล่าหรอกรึ แล้วเขาแก้ปัญหานี้กันอย่างไรหรือไม่ ดูเหมือนว่า วิธีการแก้ปัญหานี้ไม่มีใครนำเสนอเลย  แล้วไม่กลัวหรือว่า  ชาวนาซึ่งมักรับข้อมูลได้เพียงครึ่งเดียว แล้วเอาไปใช้ไปปฏิบัติแค่ครึ่งเดียวอีก....
 
 
.... แปลงนาโยนที่ "สาธิต" ใช้ชาวนา 20-30 คน ใส่เสื้อสีเดียวกันทั้งหมดได้ไง ช่วยกันโยน โยน โยน โยน โยนพร้อมๆกัน โยนครั้งละ 20-30 กอกล้า กอกล้าเลยไปกองกันชิดก้น ห่างกัน บางกอกองเอ๊าะเยาะ ซ้อนกันทับกัน ก็ยังดี เพราะนาหว่านเมล็ดพันธุ์กองทับกันแย่งกันงอก ยังโตได้  แต่กรณีเอาคนมา 20-30 คนน่ะ  ถ้าชาวนาจะทำนาโยนบ้าง เจ้าของนาจะเอาคนมาจากไหน...)
 
 
- เปียกแห้ง-แห้งเปียก หมายถึง  ผิวหน้าดิน มีน้ำคือเปียก ไม่มีน้ำคือแห้ง  ในการทำนาข้าวแบบ  เปียกสลับแห้ง  มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่ง  คือ  นาน้ำน้อย  
 
  	
 
- ต้นข้าวไม่ใช่พืชประเภทต้องการน้ำมาก ต้องมีน้ำขังค้างตลอดเวลาเหมือน  โสน  ธูปฤาษี  กก   แต่โดยธรรมชาติของต้นข้าวต้องการน้ำเพียงหล่อโคนต้น  ที่เรียกแบบชาวบ้านว่า  น้ำผิวดิน  หรือน้ำเจ๊าะแจ๊ะ หรือขังรอยตีนควาย  หรือน้ำแค่ตาตุ่ม เท่านั้น 
 
  	
 
- สัจจธรรมธรรมชาติ  ไม่มีพืชใดในโลกนี้ที่ไม่ต้องการน้ำ  ต้นข้าวก็เช่นกัน  เมื่อไม่มีน้ำบนผิวดินก็ให้มีที่ไต้ผิวดิน  ต้นข้าวที่มีน้ำอยู่ไต้ผิวดินลึก (ครึ่งหน้าแข้ง) แต่น้ำบนผิวดินตื้น (ตาตุ่ม)  จะเจริญเติบโตและพัฒนาการดีกว่าต้นข้าวที่มีน้ำไต้ดินตื้น (ตาตุ่ม) แต่น้ำบนผิวดินลึก (ครึ่งหน้าแข้ง หรือค่อนต้นข้าว)
 
  	
 
- การเจริญเติบโตของต้นข้าวที่  น้ำไต้ผิวดินลึกครึ่งหน้าแข้ง-น้ำบนผิวดินตื้นแค่ตาตุ่ม ที่เห็นชัด  ได้แก่  รากยาว (มากกว่าครึ่งความสูงของลำต้น),  รากจำนวนมาก,  รากสีขาวมากกว่ารากสีดำ,  ต้นแตกกอมาก,  ลำต้นที่แตกกอใหญ่ (เท่าหลอดดูดเฉาก๊วย),  ต้นไม่สูง (ต้นสั้นรวงยาว),  ต้นโตขึ้นไม่ล้ม,  รวงยาว,  เมล็ดมาก,  เมล็ดสมบูรณ์,  โรคแมลงน้อย 
 
  	
 
- การเจริญเติบโตของต้นข้าวที่  น้ำไต้ผิวดินตื้นแค่ตาตุ่ม-น้ำบนผิวดินลึกครึ่งหน้าแข้งหรือค่อนต้นข้าว  ที่เห็นชัด  ได้แก่  รากจำนวนน้อย,  รากสีดำมากกว่ารากสีขาว,  ต้นแตกกอน้อย, ลำต้นที่แตกกอเล็ก (เท่าหลอดดูดยาคูลท์), ต้นสูง (ต้นยาวรวงสั้น), ต้นโตขึ้นล้ม, รวงสั้น, เมล็ดน้อย. เมล็ดไม่สมบูรณ์,  โรคแมลงมาก 
 
  	
 
- ขี้เทือก คือ  ดิน+อินทรีย์วัตถุ+จุลินทรีย์  ลึกมาก=มีมาก  ลึกน้อย=มีน้อย  เทือกที่มีอินทรีย์วัตถุมากย่อม  รับและกักเก็บ  น้ำได้มากด้วย  ในทางกลับกัน ขี้เทือกตื้น คือ เทือกที่มีอินทรีย์วัตถุน้อย  เมื่อมีอินทรีย์วัตถุน้อยย่อม รับและกักเก็บ  น้ำได้น้อย  เป็นธรรมดา  
 
 
 
สรุป :  
 
- เปียกสลับแห้ง  แท้จริงคือ  บนผิวดินแห้งแต่ไต้ผิวดินมีน้ำ และต้องมีอย่างเพียงสำหรับพืชตระกูลข้าวด้วย หรือ "บนผิวดิน เปียกสลับแห้ง-แห้งสลับเปียก....ไต้ผิวดินต้อง เปียกตลอด" จนถึงก่อนเกี่ยว
 
  
 
- เทือกลึกครึ่งหน้าแข้ง  เมื่อน้ำบนผิวหน้าดินแห้งจนแตกระแหง  แต่ยังมีน้ำไต้ผิวดินหล่อเลี้ยงต้นข้าวได้นานนับเดือน 
 
- เทือกลึกครึ่งหน้าแข้ง  ระบบรากจะเจริญยาวหยั่งลงลึกเองตามธรรมชาติ
 
- จะทำนา  เปียกสลับแห้ง  ให้ได้ผลอย่างแท้จริง  นาแปลงนั้นต้องผ่านการทำนาไถกลบฟาง  ผ่านการกำจัดวัชพืชแบบล่อให้งอกแล้วย่ำทำลาย  และผ่านการย่ำเทือประณีตมาแล้ว 2-3 รุ่น 
 
     
 
@@ เตรียมดิน ทำเทือก : 
 
- หว่านยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์,  ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย,  กระดูกป่น,  น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (กุ้งหอยปูปลาทะเล เลือด ไขกระดูก นม ขี้ค้างคาว น้ำมะพร้าว แม็กเนเซียม สังกะสี ฮิวมิก ธาตุรอง ธาตุเสริม ธาตุหลัก .... 2 ล.) + 16-8-8 (10 กก.) + น้ำตามความหมาะสม  สำหรับเนื้อที่ 1 ไร่  คนให้ละลายเข้ากันดี   สาดทั่วแปลง  ปล่อยทิ้งไว้ 3-5 วัน  จึงปล่อยน้ำเข้าแปลง  
 
 
- เริ่มไถกลบฟาง  แล้วย่ำเทือกกำจัดวัชพืช
 
   
 
หมายเหตุ : 
 
- เศษซากฟาง  เศษซากวัชพืช  ยิบซั่ม  ปุ๋ยอินทรีย์  กระดูกป่น  ในเนื้อเทือกเปรียบ เสมือนฟองน้ำ  ช่วย  อุ้ม/ซับ/กัก/เก็บ  น้ำไว้ไต้ดินได้เป็นอย่างดี   ยิ่งมีมากยิ่งรับน้ำได้มาก  ยิ่งมีลึกยิ่งช่วยให้น้ำลงได้ดินได้ลึกมาก
 
  	
 
- เศษซากฟาง  เศษซากวัชพืช  ยิบซั่ม  ปุ๋ยอินทรีย์  กระดูกป่น  นอกจากจัดการเรื่องน้ำแล้ว  ยังเป็นสารอาหารแก่ต้นข้าวอีกด้วย
 
 	
 
- ตรวจสอบปริมาณน้ำหรือความลึกของน้ำไต้ผิวดินง่ายๆ โดย  ใช้ไม้ขนาดข้อมือ หรือหน้าแข้ง  ปลายแหลม  แทงลงดินลึก 30-50 ซม.  แล้วถอนไม้ขึ้น  เห็นน้ำในรูที่แทงก็รู้ได้ทันทีว่า  ระดับไต้ผิวดินอยู่ลึกหรือต่ำกว่าผิวดินแค่ไหน  ซึ่งหมายถึงปริมาณน้ำ  และอนาคตของการเจริญเติบโตของต้นข้าวด้วย
 
   
 
@@ ปลูกข้าว : 
 
- ทำนาดำ/นาหยอด ระยะห่าง 20 x 30 ซม.  ได้ผลดีกว่านาหว่าน
 
- ระดับน้ำ ณ วันดำ/หยอด  ไต้ผิวดินลงลึกได้เท่าที่เทือกลึก  ผิวดินลึก 5 ซม. หรือท่วมตาตุ่ม  หรือรอยตีนควาย  หรือเจ๊าะแจ๊ะหน้าดิน
 
    
 
@@ปฏิบัติการ  ให้น้ำ-งดน้ำ :
 
ให้น้ำครั้งแรก :  ต้นข้าวได้น้ำจากตอนทำเทือก แล้วปล่อยให้แห้งเอง 
 
 
 ให้น้ำครั้งที่สอง : ต้นข้าวอายุ 40 วัน แล้วปล่อยให้แห้งเอง  วัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ต้นข้าว แตกราก-แตกกอ ใหม่ให้มากที่สุด     
 
 
ให้น้ำครั้งครั้งที่สาม :  ข้าวอายุประมาณ  60 วัน  แล้วปล่อยให้แห้งเอง วัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้หน่อต้นข้าวที่เกิดใหม่  กระชับผนังเซลล์แข็งแรง   ต้านทานโรคแมลง  และสร้างผลผลิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เป็นการลดต้นทุนที่ดีที่สุด 
 
   
 
หมายเหตุ : 
 
- ระหว่างที่ต้นข้าวกำลังเจริญเติบโต  ถ้าไม่มีน้ำบนผิวดินแต่มีน้ำไต้ผิวดิน  ต้นข้าวก็จะเจริญเติบโตปกติ  หากน้ำบนผิวดินไม่มี และน้ำไต้ผิวดินก็ไม่มี  ก็คือ ต้นข้าวขาดน้ำ หรือพบกับสภาวะแห้งแล้งนั้นเอง
 
  	
 
- มาตรการให้หน้าดินแห้ง  หรือแตกระแหงได้มากน้อย หรือนานแค่ไหนนั้น  เจ้าของนาจะต้องรู้ว่า  อินทรีย์วัตถุ  อุ้มน้ำ หรือกักเก็บน้ำไต้ดินมีมากน้อยแค่ไหน  ถ้าอินทรีย์วัตถุอุ้มน้ำไต้ดินมีน้อย  ก็ต้องเพิ่มน้ำผิวดินตามความจำเป็น  
 
    
 
การบำรุงต้นข้าว (เหมือนนามีน้ำขัง ทุกประการ) :
 
ระยะกล้า :  ทางใบ .... ให้ไบโออิ (แม็กเนเซียม-สังกะสี)18-38-12  ครั้งแรก อายุกล้า 20 วัน,  ครั้งที่สอง อายุกล้า 30 วัน,  ครั้งที่สาม อายุกล้า 40 วัน,  +สารสมุนไพรด้วยทุกครั้ง เพื่อไม่เสียเที่ยว  
 
   
 
ระยะต้นกลม : ทางราก .... ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (2 ล.) +16-8-8 (10 กก.) ฉีดแหวกต้นข้าวลงพื้น .... ถอนแยกข้าวปนครั้งที่ 1
 
    
 
ระยะตั้งทอง : ทางใบ .... ให้ไทเป (13-0-46, 0-52-34) 2 รอบ  ห่างกันรอบละ 5-7 วัน  +สารสมุนไพรด้วยทุกครั้ง เพื่อไม่เสียเที่ยว  
 
   
 
ระยะออกรวง : ทางใบ .... ให้เอ็นเอเอ. 2 รอบ  ห่างกันรอบละ 5-7 วัน  +สารสมุนไพรด้วยทุกครั้ง เพื่อไม่เสียเที่ยว .... ถอนแยกข้าวปนครั้งที่ 1 
 
  
 
ระยะน้ำนม : ทางใบ .... ให้ ไบโออิ + ยูเรก้า (21-7-14 ไคโตซาน อะมิโนโปรตีน) 2 รอบ  ห่างกันรอบละ 5-7 วัน  +สารสมุนไพรด้วยทุกครั้ง เพื่อไม่เสียเที่ยว  .... ถอนแยกข้าวปนครั้งที่ 1
 
 
-------------------------------------------------------------
 
  
 
 สรุปเด็ดขาด :
 
นาข้าวเปียกสลับแห้ง "บนผิวดิน เปียกสลับแห้ง-แห้งสลับเปียก ตามระยะการเจริญเติบโต
 
ของต้นข้าว .... แต่ไต้ผิวดินต้อง มีน้ำเปียกตลอด" จนถึงก่อนเกี่ยว      
 
 
 
. | 
			 
		  |