kimzagass หาวด้า
  
  
  เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11812
 
  | 
		
			
				 ตอบ: 19/04/2014 8:52 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร 19 APR *รกหมูฮอร์โมน-โปรตีน, แครอท | 
				     | 
			 
			
				
  | 
			 
			
				ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 19 APR 
 
    
 
AM 594 เวลา 08.10-09.00 & 20.05-20.30 ทุกวัน และ FM  91.0  (07.00-08.00 / วันอาทิตย์)   
 
 
********************************************************************   
 
 
สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ 
 
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม 
 
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
 
                                       
 
@@ สนับสนุนรายการโดย ... 
 
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช  (02) 322-9175-6 
 
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์  (089) 144-1112
 
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย,   กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์,  
 
กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,   สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต,    
 
ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่   (081) 910-5034 
 
 
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์)  เป็นผู้ดำเนินรายการครับ 
 
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986
 
 
--------------------------------------------------------------------------------------------------------- 
 
 
  ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง,  ไบโออิ,  ไทเป,  ยูเรก้า. (อินทรีย์  เคมี) 
 
 
1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย  (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง  สี่แยกบางแพ  ราชบุรี   
 
2 )คุณชาตรี (081) 841-9874  ทรัพย์ทวีการเกษตร  ชัฎป่าหวาย  สวนผึ้ง  ราชบุรี  (ส่งทาง ปณ.)
 
 
3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์  (089) 821-8273   ต.จรเข้เผือก   ด่านมะขามเตี้ย   กาญจนบุรี  (ส่งทาง ปณ.)
 
4) คุณล่า (081) 944-8494   ทุกวันจันทร์   ตลาดนัดวัดอมรญาติ  ดำเนินสดวก  ราชบุรี  
 
 
5) คุณประเสริฐ (080) 110-4645  บ.เขาดิน  หนองแขม   เดิมบางนางบวช  สุพรรณบุรี  
 
6) คุณอรุณ  (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง   ตลาด อตก. 
 
 
7) คุณพรพรรณ  (089) 814-7944  พลชัยเกษตรชีวภาพ  ตลาดนัดธนบุรี  ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา  
 
8 ) คุณน้ำส้ม (085) 055-7706  ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล  พุทธมณฑลสาย 4  (ส่งทาง ปณ.)
 
 
------------------------------------------------------------------------------------------------------- 
 
 
 
    จาก :  (089) 723-37xx
 
  ข้อความ :  ผู้พันบอกว่า  ในรกหมูมีฮอร์โมนบำรุงพืชจริง  แต่การเอารกหมูมาหมักชีวภาพจะไม่ได้ฮอร์โมน  ได้แต่โปรตีนธรรมดาเท่านั้น  แต่เราเอาน้ำหมักฮอร์โมนรกหมูให้กับพืชแล้ว  ทำให้พืชโตได้  แสดงว่า  โปรตีนก็ทำให้พืชโตได้เหมือนฮอร์โมน  ขอให้ผู้พันเฉลยปริศนาธรรมชาติข้อนี้ด้วย...
 
ขอบคุณครับ  
 
  ตอบ  :  
 
**  คำถามเดิม  คำตอบเดิม....คนถามใหม่   
 
 
จาก : (087) 293-40xx 
 
 ข้อความ : ถามลุงคิมว่า รกหมูมีฮอร์โมนพืชตัวไหน ในจำนวนทุกตัวที่ลุงคิมสอน ผมถามคนที่มาสอน บอกว่าเป็นฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต แต่ไม่บอกว่าเร่งโตทางต้น ดอก ใบ หรือผล ถามลุงคิมแน่นอนกว่า .... ขอบคุณครับ 
 
 ตอบ : 
 
- ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ระหว่าง ฮอร์โมน.  ปุ๋ย.  จุลินทรีย์.  ยา.   ที่เกี่ยวกับพืชหรือมนุษย์และสัตว์ก็สุดแท้  เป็น  คนละตัว-คนละชื่อคนละคุณลักษณะคนละประโยชน์-คนละธรรมชาติสภาพแวดล้อม  อย่างน้อย ฮอร์โมน-ปุ๋ย-ยา  เป็นสิ่งไม่มีชีวิต (เกิด-กิน-แก่เจ็บ-ตาย-ขยายพันธุ์ไม่ได้)  จุลินทรีย์เป็นสิ่งมีชีวิต  (เกิด-กิน-แก่-เจ็บ-ตาย-ขายพันธุ์ ได้)  ประเภทสัตว์เซลล์เดียว .... แม้ว่า ปุ๋ย-ฮอร์โมน-จุลินทรีย์-ยา  จะเป็นคนละตัวกัน คนละหน้าที่  แต่ไปด้วยกัน หรือใช้งานร่วมกันในบางสถานการณ์ได้ 
 
  	
 
- ฮอร์โมน แบ่งเป็นกลุ่มๆ ได้แก่  ออกซิน,  ไซโตไคนิน,  จิบเบอเรลลิน,  เอทธิลีน,  พาโคลบิวทาโซล ฯลฯ ....   	
 
- ปุ๋ย ได้แก่ ไนโตรเจน,  ฟอสฟอรัส,  โปรแตสเซียม. ฯลฯ 
 
- จุลินทรีย์ ได้แก่  คีโตเมียม,  ไรโซเบียม,  ไมโครไรซ่า,  แอ็คติโนมัยซิส,  บาซิลลัสส์ ฯลฯ หรือแบ่งเป็นกลุ่ม ได้แก่ รา,  แบคทีเรีย,  ไวรัส,  ยิสต์ 
 
  	
 
- ยา ได้แก่ อะแซดิแร็คติน (สะเดา),  ราติโนน (หนอนตายหยาก),  แค็ปไซซิน (พริก), ฯลฯ 
 
  	
 
(.... แล้วใครพามั่ว เหมาจ่ายเป็นตัวเดียวกันไปทั้งหมด....) 
 
  	
 
- โดยโครงสร้างทางเคมีแล้ว  ในรกหมูมีฮอร์โมนจริง  เป็นฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต (PLANT GROWTH HOMONE)  เพื่อการหล่อเลี้ยงชีวิตลูกหมู  อันที่จริงลูกหมูขณะอยู่ในรกได้รับสารอาหารจากแม่ผ่านทางสายรกมากกว่า   เหมือนสายรกคนตอนที่เป็นทารกอยู่ในครรภ์แม่นั่นแหละ .... นอกจากในรกจะมีฮอร์โมนแล้ว  ยังมีโปรตีนอีกด้วย  เพราะสรีระทุกส่วนของมนุษย์และสัตว์มีโปรตีนเป็นองค์ประกอบหลัก 
 
  	
 
- กรรมวิธีในการสกัดหรือเอาฮอร์โมน  โปรตีน  และอื่นๆ  ในรกสัตว์ออกมาใช้ประโยชน์นั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อน  ต้องอาศัยกรรมวิธี หรือวิธีการที่ถูกต้อง 
 
  	
 
** ฮอร์โมนมีขนาดโมเลกุลเล็กมาก  ขบวนการย่อยสลายให้ได้โมเลกุลขนาดเล็กนั้น  ต้องใช้เทคโนโลยีเป็นการเฉพาะ  โดยอุปการณ์เครื่องพิเศษ  หรือจุลินทรีย์เฉพาะกลุ่ม เท่านั้น 
 
  	
 
 กระบวนการผลิตฮอร์โมนด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์พิเศษ  ต้องอยู่ในความร้อนได้ไม่เกิน 35 องศา ซี. หากเกินกว่านี้จะเสื่อม 
 
  	
 
 กระบวนการย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ต้องใช้กรรมวิธีที่เหมาะสม  และระยะ เวลานานข้ามปี 
 
- สารอาหารพืชที่ได้จากการหมักแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน  ที่เรียกว่า  น้ำหมักชีวภาพ  นั้น นอกจากชนิดของสารอาหาร  (หลัก/รอง/เสริม/ฮอร์โมน/จุลินทรีย์) ที่ได้ต้องมาจากวัสดุส่วนผสมที่นำมาทำ  และกระบวนการหมักที่ถูกต้องเหมาะสมอีกด้วย ซึ่งจะได้สารอาหารพืชที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่  สารอาหารนี้ไม่สามารถผ่านปากใบพืชได้  แต่จากการที่พืชรับสารอาหารได้ 2 ทาง คือ ทางใบกับทางราก   การให้สารอาหารประเภทน้ำหมักชีวภาพที่โครงสร้างโมเลกุลขนาดใหญ่ผ่านปากใบไม่ได้  แต่น้ำหมักส่วนหนึ่งตกลงดิน  พืชจึงได้รับโดยทางรากนั่นเอง 
 
 	
 
 สรุป : 
 
- ในฮอร์โมนรกหมูที่เรียกกัน ไม่มีฮอร์โมน แต่มีโปรตีนโมเลกุลขนาดใหญ่เท่านั้น เพราะ ฉะนั้น น่าจะเรียกว่า  โปรตีนรกหมู  จึงจะถูกต้องกว่า 
 
  	
 
 จาก  โปรตีนรกหมู ธรรมดาๆ  หาก เสริม/เติม/เพิ่ม/บวก  สารอาหารที่จำเป็นลงไปก็สามารถเรียกว่า  โปรตีนรกหมู ซุปเปอร์ ได้ 
 
  	
 
- ไม่มีรกหมู  ใช้ นมกล่อง, น้ำมะพร้าว, แม้แต่น้ำล้างเขียงปลา สดๆแทน น่าจะดีกว่าด้วย 
 
  	
 
 หมายเหตุ : 
 
- ในธรรมชาติไม่มีตัวเลขและสูตรสำเร็จ  ยังมีเรื่องราวในธรรมชาติอีกมากมายมหาศาลที่มนุษย์ยังไม่รู้  เมื่อไม่มีข้อมูลทางวิชาการรองรับ  ก็ให้ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านแทน   อะไรที่มาจากธรรมชาติแล้วให้คืนกลับไปยังธรรมชาติ  ถือว่าดีทั้งนั้น  ขอแต่ อย่าเร่ง อย่ารีบ อย่าใจร้อน แต่ถือหลัก  ให้น้อย บ่อยครั้ง  เข้าไว้   ธรรมชาติจะค่อยๆปรับตัวเอง  เมื่อทุกอย่างเข้าร่องเข้ารอยแล้วก็จะดีเอง 
 
  	
 
- วิชาการเกษตร ไม่มีภาษาไทย เอาง่ายๆ มายังไงเรียกยังงั้น เรียกคนเดียวรู้คนเดียวก็ได้ 
 
 	- ความรู้เรียนทันกันหมด ไม่มีใครแก่เกินเรียน 
 
  	- ความรู้สูงเท่าเดิม เราต้องขึ้นไปหา 
 
 	- เรียนในสถานศึกษา เรียนในแปลง ไม่ต่างกัน .... ครู คือ คนในกระจก 
 
  	- เรียนด้วยตัวเอง .... ฟัง คิด ถาม เขียน อ่าน ดู ทำ เปรียบเทียบ ฟันธง 
 
 	- มีสติในการ คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ 
 
  	- เปิดใจ รับรู้อย่างมีเหตุมีผล 
 
 	
 
- ศึกษาปรัชญาการเกษตร .... ทำตามคนที่ล้มเหลว-ทำตามคนที่สำเร็จ-ทำแบบเดิม-ทำแบบใหม่
 
 
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=4139
 
 
 
--------------------------------------------------------------  
 
 
 จาก :  (084) 771-50xx
 
 ข้อความ  : ลุงคิมครับ  เดือนก่อนผมไปคุยกับเกษตรอำเภอที่บ้านผม  ผมถามว่าจะปลูกแครอทอินทรีย์  กับแครอทเคมี  อย่างไหนดีกว่ากัน  เกษตรบอกว่า  ดีทั้งคู่  ขอให้ขายแล้วได้กำไรก็แล้วกัน  ผมจึงขอสูตรการปลูกแครอท  สูตรของเกษตร  กับสูตรของลุงคิม  ผมจะเอาทั้ง 2  สูตรมาปรับใช้...ขอบคุณครับ  ปากช่อง   
 
  ตอบ : 
 
- ผู้ให้คำตอบดีที่สุด คือ  "คนรับซื้อ"  เพราะการตลาดนำการผลิต  ผลิตออกมาแล้วตลาดไม่รับซื้อจะมีประโยชน์อะไร
 
 
- เกษตรอินทรีย์ง่าย  ง่ายจนไม่น่าเชื่อแต่เกษตรกรไม่เชื่อเอง เพราะปิดกั้นตัวเอง 
 
- เกษตรเคมียาก แต่เกษตรกรไม่เคยคิด  ทั้งๆที่ไม่มีความรู้วิชาการ ใช้แล้วไม่ได้ผลก็ยังไม่คิด เพราะยึดติด  
 
- เกษตรอินทรีย์  ต้นทุนต่ำมากๆ  แต่ราคาซื้อขายในตลาดสูงมาก เพราะคนกินยอมรับ 
 
- เกษตรเคมี  ต้นทุนสูงมากๆ  แต่ราคาซื้อขายในตลาดต่ำ  เพราะคนกินรังเกียจ  
 
 
 
@@  แครอท (สูตรเกษตร)  :
 
1.พันธุ์  :   พันธุ์แครอทที่นิยมปลูก ได้แก่ พันธุ์หงส์แดง,  Newkurada,  Imperator,  Nantes .  	
 
   	
 
2. การเพาะกล้า  :   โดยการขุด หรือไถดินตากประมาณ 7 วัน  กำจัดวัชพืชออกให้หมด   ใส่ปูนขาว  และปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15   อัตรา 30 กก.ต่อไร่   คลุกเคล้าให้เข้ากัน    ทำการยกร่องแบบร่องผักแล้วทำแนว   แถวห่างกัน 10 เซนติเมตร  โรยเม็ลดบางๆตามแนว   เกลี่ยดินกลบบางๆ  ใช้ฟางข้าวคลุม   รดน้ำให้ชุ่ม เช้า-เย็น จนกว่าต้นกล้าจะงอก 
 
 	
 
3. การเตรียมดิน  :   การปลูกแครอท  มีการเตรียมดินโดยการไถดินตากประมาณ 7 วัน  เก็บวัชพืชออกให้หมด  ทำกาารพรวนดิน หรือตีดินด้วยรถแทรคเตอร์   โดยใส่ปูนขาว   ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมัก  ระยะปลูก (ต้น x แถว) ประมาณ 10 x 15 เซนติเมตร   หรือทำการหว่านเมล็ดพันธุ์แครอทลงในแปลงปลูกเลย  แล้วใช้วิธีถอนแยกต้นกล้าที่แน่นให้ได้ระยะประมาณ 10 x 15 เซนติเมตรก็ได้  ทำการรดน้ำเช้า-เย็น   จนกว่าต้นแครอทจะติดดี   จึงพิจารณาเว้นวันในการรดน้ำ 
 
  	
 
5. การให้น้ำ  :  เนื่องจากระยะแรกของการปลูกแครอทน้ำมีส่วนสำคัญโดยต้องรักษาความชื้นให้เพียงพอ   เพื่อกระตุ้นการงอกของราก   และการเจริญเติบโต  แต่ควรลดลงเมื่อเกิดแง่งหรือหัวจะทำให้มีการแตกของหัว 
 
   	
 
6. การใส่ปุ๋ย  :  เมื่ออายุได้ 30 วัน   ควรใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21  หรือ 12-12-17  อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ ....  ถ้าแครอทเฝือใบ  คือใบงาม  แต่หัวมีขนาดเล็ก  ให้หักก้านใบ   โดยสวมรองรองเท้าเหยียบยอดและก้านใบของเครอทให้ล้มลง   เพื่อลดการลำเลียงอาหารไปเลี้ยงใบระยะที่แครอทกำลังจะลงหัว
 
 	
 
7. การเก็บเกี่ยว  :   แครอทจะสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุประมาณ 80-100 วัน   หรือดูที่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 3.9 นิ้ว   ตัดใบให้เหลือความยาว 10 เซนติเมตร   ล้างให้สะอาด ผึ่งลมให้แห้ง   บรรจุถุงหรือเข่งรอการจำหน่ายต่อไป   โดยเฉลี่ยผลผลิตที่ได้ประมาณ  2,000-2,500 กิโลกรัมต่อไร่ 
 
  	
 
 8. โรคของแครอท :   เช่น  โรครากเน่าของแครอท   และโรคราแป้ง   ป้องกันกำจัดโดยการเตรียมดินก่อนปลูก   โดยใส่ปูนขาว ประมาณ 200-300 กิโลกรัมต่อไร่   และฉีดพ่นด้วยสารเคมี เทอราคลอ 75  หรือ เบนเลท   ตัวใดตัวหนึ่งตามอาการของโรค 
 
  	
 
 9. แมลง  :   พบหนอนในดินเข้าทำลายรากแครอททำให้ชะงักการเจริญเติบโต  ป้องกันกำจัดโดยการ  พ่นด้วยสารเคมี เช่น พาราไธออน หรือคลอเดน  
 
  	
 
ที่มา  :  กรมวิชาการเกษตร  
 
 
 
 
 
 @@  แครอท (สูตรลุงคิม) :  
 
**เตรียมดิน เตรียมแปลง :  
 
-  ทำสันแปลงสูงๆ มีช่องทางระบายน้ำจากสันแปลงลงตีนแปลงดีๆ ใส่ยิบซั่ม,   ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย,   กระดูกป่น,  ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ   ทำให้ดินโปร่งให้ได้  บ่มดินทิ้งไว้ 20-30 วัน เพื่อให้เวลาจุลินทรีย์ปรับสภาพดิน เตรียมสารอาหารพร้อมแล้วจึงค่อยปลูก   ใช้ฟางแห้งคลุมหน้าแปลงหนาๆ,  ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (1-2 ล.) /ไร่ /เดือน,   ให้น้ำสม่ำเสมอ พอหน้าดินชื้น, อย่าให้น้ำขังค้างเด็ดขาด 
 
 	
 
 ** เตรียมเมล็ดพันธุ์ : 
 
- แช่เมล็ดพันธุ์ใน  น้ำอุ่น + ไบโออิ (สังกะสี) + ยูเรก้า (ไคโตซาน) + แคลเซียม โบรอน (โบรอน)  นาน  6 ชม.  นำขึ้นหุ่มชื้น  24 ชม.  เริ่มมีตุ่มรากโผล่ขึ้นมานำไปเพาะ 
 
  	
 
 ** เตรียมกล้า :  
 
-  เพาะกล้าในกระบะเพาะ  หยอดเมล็ดช่องละ 1 เมล็ด  
 
- บำรุงจนกล้าโตได้ 2-3 ใบจึงย้ายลงปลูกในแปลงจริง .... ให้แคลเซียม โบรอน ก่อนย้ายกล้า 3-5 วัน  จะช่วยให้ต้นกล้าแข็งแรงดี    
 
  	
 
 ** บำรุงระยะกล้า :  
 
-  ให้ไบโออิ  ทุก  5-7 วัน  
 
- ฉีดพ่นสารสมุนไพรบ่อยๆ  
 
  	
 
 ** บำรุงระยะลงหัว :  
 
- ให้ไบโออิ 5-10-40  ทุก 5-7 วัน  ถึงเก็บเกี่ยว  
 
- ฉีดพ่นสารสมุนไพรบ่อยๆ
 
  	
 
 หมายเหตุ :  
 
-  แยกให้ออกระหว่าง  อินทรีย์ กับ เคมี  ว่า  อย่างไหนมีความจำเป็นหรือไม่จำเป็นอย่างไรต่อพืช  เพราะต่างก็เป็นสารอาหาร (ปุ๋ย) สำหรับพืชเหมือนๆกัน
 
  	
 
-  แยกให้ออกระหว่าง  สารเคมี กับ ปุ๋ยเคมี เพราะมีคำว่า  เคมี  เหมือนกัน ว่า  ต่างกันอย่างไร ?  	
 
  แยกให้ออกระหว่าง  อินทรีย์ตกขอบ กับ  เคมีบ้าเลือด  ว่า เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ?  
 
 
--------------------------------------------------------------  
 
 
  
 
 
   
 
 
. | 
			 
		  |