| ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป | 
	
	
		| ผู้ส่ง | ข้อความ | 
	
		| sugasza หนาวดึ่ง
 
  
  
 เข้าร่วมเมื่อ: 11/12/2010
 ตอบ: 15
 
 
 | 
			
				|  ตอบ: 07/03/2011 4:20 pm    ชื่อกระทู้: แช่ท่อนพันธ์สำปะหลัง..... |   |  
				| 
 |  
				| การแช่ท่อนพันธ์ที่ถูกต้องเขาแช่กันยังไงหรือครับ ระหว่างแช่เฉพาะบริเวณที่ตัด หรือ แช่ท่อนพันธ์ทั้งท่อนเลย
 
 แถวบ้านผม คนที่แช่ท่อนพันธ์แทนที่จะได้รากมากขึ้น กลับตายยกไร่  หลังจากที่คุยๆกับผู้ปลูกเขาบอกว่า  หลังจากแช่ท่อนพันธ์ ท่อนพันธ์จะเกิดการรัดตัว  บริเวณรากมีรากเกิดมากขึ้นจริง  แต่บริเวณตาตายเรียบ  ส่วนอีกคนบอกว่าหลังจากแช่ท่อนพันธ์แล้วลองเอามาเปรียบเทียบดู ก็ไม่เห็นจะได้น้ำหนักมากขึ้นแต่อย่างใด กลับทำให้ท่อนพันธ์มีโอกาศตายมากขึ้นอีก  เขาเลยไม่แนะนำให้จุ่มท้อนพันธ์ครับ
 
 ขอบความคิดเห็นด้วยครับ  เพราะเห็นเขาใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง มีใครเป็นแบบนี้บ้างครับ
 
 ขอบคุณครับ
 |  | 
	
		| กลับไปข้างบน |  | 
	
		|  | 
	
		| kimzagass หาวด้า
 
  
  
 เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
 ตอบ: 11811
 
 
 | 
			
				|  ตอบ: 07/03/2011 5:09 pm    ชื่อกระทู้: |   |  
				| 
 |  
				| อ่านเรื่องสำปะหลังให้มากๆ  ยกกระทู้สำปะหลังมาให้ใกล้แล้ว  อ่านในกระทู้ก่อนแล้วตามไปอ่านที่  "หน้าแรก-พืชไร่-สำปะหลัง"  ต่ออีก 
 http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1214#15147
 
 http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1668#15145
 
 http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1577#15144
 
 http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=1347
 
 อ่านมากๆ อ่านหลายๆรอบ ยิ่งอ่านยิ่งรู้  รู้เรื่องสำปะหลังและรู้ตัวเอง  ท้ายสุด ยิ่งอ่านจะยิ่งรู้ตัวเองว่าไม่รู้อะไรมาก่อนเลย.....คนไม่รู้ย่อมตกเป็นเหยื่อคนฉลาด
 
 ลุงคิมอ่านหนังสือเฉลี่ยวันละ 3 ชม. ทุกวัน ตอด 20 ปีที่ผ่านมา....เดี๋ยวนี้ แก่ขนาดนี้ บางวันท่องเน็ต อ่าน-อ่าน-และอ่าน ตั้งแต่ ตี.5 ถึง 5 ทุ่ม
 
 "วิชาการ + ประสบการณ์ + จินตนาการ + แรงบันดาลใจ + แรงจูงใจ + ใจตัวเอง"  คือ ชัยชนะอย่างยั่งยืน
 
 รู้เรื่อง .....สำปะหลัง ให้กระจ่าง แต่อย่างเดียว.....แต่ให้เชี่ยว ชาญเถิด จะเกิดผล
 
 ที่บอกว่า  "แช่ท่อนพันธุ์-แช่ท่อนพันธุ์"  น่ะ  แช่ในอะไร  ในน้ำเปล่า.  ในปุ๋ย.  ในฮอร์โมน.  ก็ไม่บอก  แล้วจะรู้ไหมเนี่ยยยยย
 
 อาการรากเน่า ไม่ลงหัว  เกิดจากการแช่ท่อนพันธุ์แน่หรือ ?  มีสาเหตุอื่นอีกไหม ?
 ถ้าแช่ในสารอาหาร ไม่น่าจะเกิดปัญหาที่ว่า  ครั้นจะว่า  มันดูดสารอาหารมากเกินไปก็เเป็นไปไม่ได้  เพราะถึงยังไงๆ มันก็ดูดเข้าไปแค่เต็มหรือแค่อิ่ม  อิ่มแล้วเต็มแล้วมันคงไม่ดูดเข้าไปอีกหรอก  เว้นเสียแต่สารตัวนั้นเข้มข้นเกิน จนเกิดอาการท็อกซิกแก่พืชได้  เหมือนเด็กกินยาผู้ใหญ่  และสุดท้าย  แช่สารผิดประเภท เหมือนกินยาผิด.....ตัยยยยยย
 
 อันที่จริง  ธรรมชาติสรีระวิทยาของพืช ทุกส่วนของพืชสามารถดูดน้ำได้ทั้งนั้น เพียงแต่ว่าส่วนไหนจะดูดได้มาก ได้น้อยกว่ากันเท่านั้น.....เคยเห็นไหม ?  กุหลาบตัดมาทั้งก้าน ตัดมาแล้วเอาโคนก้านจุ่มในน้ำละลายสี ปรากฏว่า ก้านกุหลาบดูดน้ำสีเข้าไป แล้วส่งไปให้ดอก จนกลีบดอกเปลี่ยนสีจากสีเดิมเป็นสีตามน้ำละลายสีได้
 
 ท่อนพันธุ์สำปะหลังก็เหมือนกัน   มันก็สามารถดูดน้ำเข้าไปไว้ในตัวมันได้.....คราวนี้มาพิจารณาซิ  จาก  "น้ำ"  แทนที่จะเป็นน้ำเปล่าๆ ทำให้เป็น  "น้ำ + สารอาหาร"  จะดีกว่าไหม ?
 
 อันที่จริงสารอาหาร ก็คือ สารอาหาร  ที่นักส่งเสริมเชิงพานิชเรียกว่า  "ปุ๋ย"  นั่นแหละ ประกอบด้วย  "ธาตุหลัก - ธาตุรอง - ธาตุเสริม - ฮอร์โมน และ อื่นๆ"  ทุกตัวมีประโยชน์ต่อสำปะหลังในการเจริญเติบโตทั้งสิ้น  เพียงแต่ตัวไหนช่วยให้ส่วนไหนเจริญเติบโตกว่าส่วนไหน  หรือตัวไหนมีความจำเป็นต้องใช้มากกว่าตัวไหนเท่านั้น
 
 ตามหลักวิชาการที่รู้มา  การแช่ท่อนพันธุ์สำปะหลังเพื่อให้ท่อนพันธุ์ได้สะสมสารอาหารไว้ตั้งแต่ก่อนปลูก (ก่อนเกิด....เหมือนเด็กอยู่ในท้องแม่)) ดังนี้....
 
 - แช่ใน "สังกะสี"  สารอาหารตัวนี้ช่วยสร้างแป้ง
 - แช่ใน "บี-1 หรือ เอ็นเอเอ. อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้ง 2 อย่าง"  สารอาหาร 2 ตัวนี้ช่วยสร้างราก
 - แช่ใน  "ไคโตซาน"  สารไคติเนสในไคโตซานช่วยกำจัดเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับท่อนพันธุ์
 
 หมายเหตุ :
 ถ้าไม่รู้จะแช่ในอะไรดี  ก็ขอให้แข่ใน  ธาตุรอง/ธาตุเสริม  ที่มีสารอาหารครบทุกตัวก็ได้  เรียกว่า  "เหมาจ่าย"  ไปเลยก็ได้
 
 
 ลุงคิมครับผม
 
 ปล.
 ย้อนไปถามคนที่บอกมาว่าแช่ซิ ว่า  "แช่ในอะไร"   เอาชื่อสารที่แช่มาให้ชัดเจน ไม่ใช่ว่าแช่ในเหล้าขาว หรือเหล้าแดง  หรือสาโท. ไอ้เป้. กระเช่.......
 
 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 20/11/2024 9:02 am, แก้ไขทั้งหมด 2 ครั้ง
 |  | 
	
		| กลับไปข้างบน |  | 
	
		|  | 
	
		| kimzagass หาวด้า
 
  
  
 เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
 ตอบ: 11811
 
 
 | 
			
				|  ตอบ: 07/03/2011 7:24 pm    ชื่อกระทู้: |   |  
				| 
 |  
				| กำจัดเพลี้ยแป้งสีชมพูก่อนปลูกมันสำปะหลัง 
 
 
   
 
 เพลี้ยแป้งสีชมพูมันสำปะหลังค่อนข้างจะกำจัดยากกว่าเพลี้ยแป้งธรรมดา  เพื่อยับยั้งการระบาดมิให้กระจายออกอย่างกว้างขวาง  จึงได้มีการศึกษาการใช้สารเคมีโดยการวิจัยของกลุ่มกีฏและสัตววิทยา กรมวิชาการเกษตร
 
 นายสุเทพ สหายา นักกีฏวิทยาชำนาญการพิเศษ กลุ่มกีฏและสัตววิทยา ซึ่งได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการป้องกันกำจัดเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังมา ตั้งแต่ต้น กล่าวว่า กลุ่มวิจัยกีฏและสัตววิทยาก็ได้ทำศึกษาวิจัยการแช่ท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง ด้วยสารเคมีก่อนปลูก โดยศึกษาการแช่ท่อนพันธุ์ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน  กลุ่มกีฏและสัตววิทยา กรมวิชาการเกษตรได้แนะนำให้ใช้สารเคมีสำหรับแช่ท่อนพันธุ์ คือ
 
 1. ไทอะมีโทแซม 25 เปอร์เซ็นต์ ดับเบิ้ลยู จี 4 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
 2.  อิมิดาคลอพริด 70 เปอร์เซ็นต์ ดับเบิ้ลยู จี 4  กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
 3. ไดโนทีฟูแรม 10 เปอร์เซ็นต์ ดับเบิ้ลยู พี 40 กรัมต่อน้ำ  20 ลิตร
 
 อย่างใดอย่างหนึ่งนาน 5-10 นาที หลังจากแช่แล้วนำไปปลูก ได้ทดสอบแล้ว จะสามารถป้องกันกำจัดเพลี้ยแป้งได้อย่างน้อยประมาณ 1 เดือน
 
 นายสุเทพ แนะนำวิธีการแช่ท่อนพันธุ์มันสำปะหลังด้วยสารเคมีที่ได้ผลที่สุดคือ ตัดท่อนพันธุ์มันสำปะหลังพร้อมปลูก แล้วนำไปแช่สารเคมีที่แนะนำไปแล้วข้างต้นประมาณ 5-10 นาที สารเคมีจะถูกดูดซึมเข้าไปในเซลล์พืชได้มากที่สุดและไม่ทำให้พืชเกิดอาการเป็นพิษ
 
 จากการทดลองแช่ท่อนพันธุ์มันสำปะหลังในแนวนอนจะต้องใช้เวลา  15  นาที สารเคมีจึงจะซึมเข้าได้หมด ขณะเดียวกันได้ทดลองแช่ท่อนพันธุ์ในแนวตั้ง ปรากฏว่าใช้เวลาแช่ 24 ชั่วโมง พบว่าสารเคมียังซึมไม่ถึงยอด ซึ่งเราจะศึกษาเพิ่มเติมต่อไปว่าการแช่ในแนวตั้งนานแค่ไหน สารเคมีจึงจะมีประสิทธิภาพในการกำจัดเพลี้ยแป้งได้
 
 ดังนั้นในช่วงนี้ขอให้เกษตรกรแช่ท่อนพันธุ์ที่ตัดแล้วพร้อมปลูกหรือแช่ท่อนพันธุ์ในแนวนอนไปก่อน
 
 โดยปกติแล้วเกษตรกรมักจะทำการแช่ท่อนพันธุ์มันสำปะหลังด้วยฮอร์โมนเร่งราก หรือฮอร์โมนที่มีสารอาหารต่าง ๆ ก่อนปลูกอยู่แล้ว หากเกษตรกรจะเพิ่มสารเคมีป้องกันเพลี้ยแป้งโดยยอมเสียเวลาแช่ไปอีกสักหน่อย ก็จะได้ประโยชน์ทั้งสองอย่าง ซึ่งนอกจากเพลี้ยแป้งที่ติดมากับท่อนพันธุ์จะตายแล้ว เพลี้ยแป้งก็ไม่สามารถทำลายต้นมันสำปะหลังที่งอกออกมาอย่างน้อยประมาณ 1 เดือน[img]
 
 นายสุเทพ กล่าวต่อไปว่าหลังจากที่นำท่อนพันธุ์ที่แช่สารเคมีไปปลูก เมื่อต้นมันสำปะหลังงอก   ได้ปล่อยเพลี้ยแป้งไปที่ต้นมันทุกสัปดาห์ และเฝ้าดูว่าวิธีไหนที่เพลี้ยแป้งมีชีวิตอยู่รอด เมื่อเปรียบเทียบกับต้นมันสำปะหลังที่ปลูกโดยแช่น้ำเปล่า พบว่าวิธีที่แช่ท่อนพันธุ์ด้วยสารเคมีได้ผลดีที่สุด คือหลังจากที่ปลูกไปแล้วระยะเวลาการทำลายของเพลี้ยแป้งจะช้าลง  เพลี้ยแป้งไม่สามารถบินไปได้เนื่องจากไม่มีปีก โอกาสที่จะระบาดก็คือลมพัดมาติดมากับคนและสัตว์เลี้ยงหรือมดพามาเท่านั้น
 
 มีข้อมูลจากมูลนิธิมันสำปะหลังแห่งประเทศไทย รายงานว่าได้ทำการทดลองแช่ท่อนพันธุ์มันสำปะหลังด้วยสารไทอะมีโทแซม 4 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร โดยผสมอยู่ในอัตรา 200 ลิตร สามารถแช่ท่อนพันธุ์ปลูกได้ถึง 40 ไร่ ต้นทุนอยู่ที่ไร่ละ 5 บาท มูลนิธิได้รายงานด้วยว่า จากการทดลองปลูกไปแล้ว 6 เดือน ยังไม่พบการระบาดของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังที่แช่ท่อนพันธุ์ด้วยสารเคมีเลย แต่ในแปลงที่ไม่ได้แช่ท่อนพันธุ์ได้มีการพ่นสารเคมีไปแล้ว 3 ครั้ง
 
 อย่างไรก็ตามในระยะนี้ขอให้เกษตรกรหลีกเลี่ยงการปลูกมันสำปะหลังไปก่อน เพราะอยู่ในช่วงหน้าแล้ง และยังอยู่ในช่วงของการระบาดของเพลี้ยแป้ง การปลูกในช่วงที่เหมาะสมคือ ควรปลูกในช่วงต้นฤดูฝนประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคม ของฤดูปลูกปี 2553
 
 สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มกีฏและสัตววิทยา สำนักวิจัยและพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร โทร. 0-2579-5583, 0-2579-7542.
 ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 25 มกราคม 2553
 http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=339&contentID=44587
 
 
 
 http://www.phtnet.org/news53/view-news.asp?nID=39
 |  | 
	
		| กลับไปข้างบน |  | 
	
		|  | 
	
		| Redmountain สาวดอง
 
  
  
 เข้าร่วมเมื่อ: 14/12/2010
 ตอบ: 23
 
 
 | 
			
				|  ตอบ: 09/03/2011 4:40 pm    ชื่อกระทู้: |   |  
				| 
 |  
				| ผมเคยแช่ในน้ำผสม น้ำหมักขี้หมู สมุนไพร น้ำส้มควันถ่าน มาแล้วหลายกระบวนท่า แบบ ๑.๑) แช่แนวตั้งปลิ่มๆน้ำ ทั้งคืน
 แบบ ๑.๒) แช่แนวตั้งปลิ่มๆน้ำ ๑ ชั่วโมง
 แบบ ๒) แช่แนวตั้งแบบซ้อนทับกัน ทั้งคืน
 แบบ ๓) แช่แนวนอน (ลอยน้ำ) ๓๐ นาที
 
 พบว่า
 แบบ ๑.๑) ต้นเปื่อยบ้าง ฟองน้ำชุ่ม
 แบบ ๑.๒) ใ้ช้เวลานานกว่า ๑ ชม. กว่าฟองน้ำในท่อนจะชุ่ม
 แบบ ๒) ต้นเปื่อยแบบลาโลกเลย เอาไปปักก็ไม่งอก
 แบบ ๓) ฟองน้ำในต้นชุ่มเร็ว ไม่มีปัญหาหลังการปัก
 
 คราวนี้จะทดลองป้ายปูนแดงที่ปลายด้านบน เพื่อช่วยเก็บความชื้นในฟองน้ำครับ
 
 เอ้ออีกอย่างนึง เวลาตัดท่อนพันธุ์ จะมีท่อนพันธุ์ที่มีน้ำหนัก กับที่ดูเบาๆ
 แบบมีน้ำหนักดูดน้ำชุ่มดีกว่า แบบไ่ม่มีน้ำหนักครับ
 |  | 
	
		| กลับไปข้างบน |  | 
	
		|  | 
	
		|  |