-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 6 มี.ค. * ผักอินทรีย์ไม่ตกขอบ
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 6 มี.ค. * ผักอินทรีย์ไม่ตกขอบ
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 6 มี.ค. * ผักอินทรีย์ไม่ตกขอบ

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 05/03/2023 5:42 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 6 มี.ค. * ผักอินทรีย์ไม่ตกขอบ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร 6 มี.ค.

***********************************************************************
สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง ที่เคารพ
กองทัพบก เพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม “.. ? ..”
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย-ยา-ไฟฟ้า-เวลา-ค่าแรง-ค่าที่-อารมย์-เทคนิค-เทคโนฯ-โอกาส-ตลาด-ต้นทุน
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ
เช่นเคย รายการเรา....
*** 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว-สายตรง ที่ (081) 913-4986, ....
*** FB วีระ ใจหนักแน่น, ....
*** อินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิม ดอทคอม .... เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า
ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

รายการวิทยุ :
*** AM 594 ปตอ. เวลา 0815-0900 จันทร์-ศุกร์ คลื่นนี้ครอบคลุมพื้นที่ 40+ จังหวัด ***

งานสัญจรปกติตามวงรอบ :
* วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน ....... ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สองของเดือน ..... ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามของเดือน ..... ไปวัดท่าตำหนัก เพชรเกษม แยกนครชัยศรี นครปฐม,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สี่ของเดือน ........ ไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปา ถ.วงแหวนตะวันตก
* เดือนที่มี 5 เสาร์ เสาร์ที่ 5 ของเดือน ... ไปวัดทุ่งสะเดา แปลงยาว ฉะเชิงเทรา
** ถึงจุดนี้ เกษตรกรอยากให้งานสัญจรไปลง ที่ไหนก็ได้ ติดต่อมา พูดคุยกันในรายละเอียด

*** วันนี้วันจันทร์ ทุกวันจันทร์ เฉพาะวันจันทร์ สมช.สีสันชีวิตไทย “คุณล่า” (081) 944-8494 ไปที่ตลาดนัด
วัดอมรญาติ ดำเนินสะดวก ราชบุรี พร้อมกับ ระเบิดเถิดเทิง. ไบโออิ. ไทเป. ยูเรก้า. ยาน็อค. กับหนังสือหัวใจเกษตรไทย มินิ ไปจำหน่าย....
*** แจกหนังสือไม้ผลแนวหน้า *** แจกกับดักแมลงวันทอง....
*** ด้วยประสบการณ์ร่วม 20 ปี พบเห็นทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวมามากมาย ใครสนใจใคร่รู้ก็ไปคุยกัน แล้วจะรู้ว่า อ้อออ เป็นอย่างนี้นี่เอง....


*** งานสีสันสัญจรวันเสาร์ เสาร์นี้วันที่ 11 มี.ค. ลุงคิม กับ อ.ณัฐ (086) 983-1966 สมุนไพรสำหรับคน ไปวัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี, ....
*** งานนี้ แจก ! แจก ! แจก ! หนังสือไม้ผลแนวหน้า กับดักแมลงวันทอง แจก ! แจก ! แจก ! ....


***********************************************************************

***********************************************************************

จาก : 09 418x 829x
ข้อความ : ผักอินทรีย์ไม่ตกขอบ

จาก : 08 281x 017x
ข้อความ : ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี คืออาหารของพืช ใช้รวมกันทั้งสองอย่าง

จาก : 09 723x 261x
ข้อความ : ชอบ สโลแกน ภูมิปัญญาชาวบ้าน มาตรฐานโรงงาน มีหลักวิชการรองรับ


MOTIVATION แรงบันดาลใจ :

พลิกชีวิตปลดหนี้ 100 ล้าน ด้วยเกษตรอินทรีย์ไร่สุมิตธา

สำหรับการทำเกษตรในพื้นที่ขนาดใหญ่มักใช้ระบบการปลูกและดูแลด้วยสารเคมี นอกจากนี้ยังนิยมปลูกพืชระบบเชิงเดี่ยวจึงทำให้เกษตรกรมีความเสี่ยงต่อโรคระบาด ขณะที่กำไรส่วนมากมักตกอยู่กับร้านจำหน่ายสารเคมีเพื่อการเกษตร แต่วันนี้รายการตะวันรุ่งจะพาไปพบกับเจ้าของไร่สุมิตธาเกษตรออร์แกนิค ผู้ปลดหนี้กว่า 100 ล้านด้วยการทำเกษตรแบบอินทรีย์

คุณสมนึก ศรีสังข์สุข เจ้าของไร่สุมิตธาเกษตรออร์แกนิค เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะมาเป็นไร่สุมิตธานั้นตนเองได้ ทำสวนส้มมาก่อนซึ่งเน้นการใช้สารเคมีเพื่อดูแลส้ม 700 กว่าไร่ จนกระทั่งปี พ.ศ.2545 ที่เกิดปัญหาโรคระบาดในพื้นที่แถบรังสิตอย่างรุนแรงจนทำให้ตนเองเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ทำให้เป็นหนี้จำนวนมาก จนถึงขนาดธนาคารจะเข้ามายึดที่ดินและทรัพย์สิน แต่ก็สามารถเอาตัวรอดมาได้

หลังจากนั้นจึงมานั่งคิดว่าหากยังทำการเกษตรที่เน้นใช้สารเคมีอย่างเดิมก็อาจเจอปัญหาแบบเดิม ในขณะที่การลุงทุนก็สูงจึงทำให้กำไรส่วนใหญ่เป็นของร้านขายสารเคมีทางการเกษตร

จากจุดนั้นจึงหันมาทำเกษตรแบบอินทรีย์โดยเริ่มแรกด้วยการทำเกษตรแบบปลอดภัย จนกระทั่งได้ใบรับรองมาตรฐานจึงทำเป็นรูปแบบเกษตรอินทรีย์แบบเต็มตัวเรียกว่าล้มลุกคลุกคลานแต่ก็ผ่านมาได้เป็น 10 ปี โดยมีแนวคิดว่าทำเกษตรกรรมต้องไม่เป็นหนี้ จึงเลือกที่จะขยายพื้นที่เกษตรตามที่มีกำไรเท่านั้น

คุณสมนึก กล่าวต่อไปว่า สำหรับการปลูกพืชในไร่ก็จะเน้นพืชที่ตัวเองและคนส่วนมากชอบกิน เช่น กล้วย มะพร้าว ทุเรียน เงาะ มะม่วง และพืชชนิดอื่นๆ โดยการปลูกส่วนใหญ่จะต้องคอยเช็คราคาในท้องตลาดด้วยว่ามีราคาที่ดีหรือไม่ โดยที่ผ่านมาพบว่าคู่ค้าส่วนใหญ่ให้ผลตอบรับที่ดี อีกทั้งยังได้อานิสงส์จากนโยบายรัฐบาลที่ให้การช่วยเหลือเกษตรกรที่ทำเกษตรแบบอินทรีย์

สำหรับ พืชที่เป็นสินค้าหลักของไร่สุมิตธาจะเป็นประเภทข้าว เช่น ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ โดยมีตลาดรองรับเป็นห้างสรรพสินค้าเดอะมอล์ลและบริษัทอำพลฟู้ดส์ที่จะรับสินค้าไปผลิตเป็นน้ำข้าวกล้อง

“สำหรับการขอมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากกรมวิชาการเกษตรนั้นจะมีรายละเอียดปลีกย่อยมาก แม้กระทั่งแหล่งน้ำก็ต้องเป็นของตัวเองเพื่อป้องกันการปนเปื้อนสารเคมี หรือแม้แต่การทำปุ๋ยคอกเองก็ต้องทำจากมูลสัตว์ที่เลี้ยงแบบอินทรีย์ จึงทำให้วัตถุดิบที่นำมาทำปุ๋ยส่วนใหญ่เป็นของที่อยู่ในไร่ตัวเองจึงทำให้ไม่ต้องเสียเงินซื้อ ส่วนการวางผังไร่ก็จะกำหนดให้ไม่ใช่ลักษณะการปลูกพืชเชิงเดี่ยว แต่เป็นแบบเกษตรผสมผสานในลักษณะแปลงใหญ่ เช่น การปลูกข้าวแปลงใหญ่แล้วมีไร่กล้วยคั่นกลาง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดปัญหาการเกิดโรคระบาดไม่ให้แพร่กระจายจนทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง ส่วนการออกแบบพื้นที่ในไร่หากเป็นไร่ผลไม้ก็จะเว้นช่องระหว่างกลางให้มีขนาดใหญ่เพื่อให้สะดวกต่อการขนย้าย ในขณะที่การให้น้ำก็จะเป็นแบบสปริงเกอร์ซึ่งช่วยลดจำนวนแรงงานได้มาก” เจ้าของไร่สุมิตธาเกษตรออร์แกนิค กล่าว

คุณสมนึก กล่าวทิ้งท้ายว่า ส่วนความช่วยเหลือจากภาครัฐต่อเกษตรกรที่ปลูกพืชด้วยระบบอินทรีย์ก็อยู่ในลักษณะการพาไปออกบู๊ทขายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ดีเพราะทำให้เราเจอลูกค้าโดยตรง ซึ่งเปรียบเสมือนการให้คันเบ็ดไปหาปลา ไม่ใช่รอให้รัฐบาลหาปลามาป้อนเพียงอย่างเดียว เพราะ เกษตรกรไม่ได้ต้องการนโยบายประเภทประกันราคา แต่ต้องการให้รัฐบาลหาตลาดเพื่อรองรับสินค้าเกษตรให้เพื่อประคองให้เกษตรกรยืนขึ้นได้ด้วยตัวเอง ซึ่งแนวทางนี้ถือว่าเป็นการช่วยให้เกษตรกรให้อยู่ได้แบบยั่งยืน
http://www.baanrakdin.com



คนถามใหม่ คำถามเก่า คำตอบเดิม :

จาก :
(082) 473-19xx
ข้อความ : ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี คืออาหารของพืช ต้องใช้ทั้งสองอย่าง อย่างไหนมีธาตุอาหารตัวไหนครับ

จาก : (098) 447-12xx
ข้อความ : สัจจะธรรม ปุ๋ยน้ำชีวภาพสูตรกล้อมแกล้มซุปเปอร์ ส่วนผสมอาหารพืชมากมายมหาศาล ขอบคุณความรู้ที่ให้

จาก : (062) 937-12xx
ข้อความ : เรียนคุณตาผู้พัน ขอข้อมูลวิชาการธาตุอาหารพืชในส่วนผสมปุ๋ยน้ำสูตรกล้อมแกล้ม เอาไปเขียนรายงานค่ะ ขอบพระคุณตาอย่างสูงค่ะ

ตอบ :

* หลักการและเหตุผล :

- สิ่งมีชีวิต (มนุษย์ สัตว์ จุลินทรีย์) ใช้พัฒนาร่างกายเรียกว่า "อาหาร" แต่สิ่งมีชีวิต (พืช) ใช้พัฒนาร่างกายเรียกว่า "ปุ๋ย" ทั้งๆที่ "เนื้อใน" คือตัวเดียวกัน

- พืชอายุสั้น ฤดูกาลเดียว ขนาดเล็ก ใช้สารอาหาร (ปุ๋ย) น้อยกว่าพืชอายุยืนนาน ให้ผลผลิตปีละครั้ง ต้นขนาดใหญ่ .... พริกมะเขือ เทียบกับ มะม่วงทุเรียน พืชกินผลเหมือนกัน แต่ในความเหมือนมีความต่าง และความในความต่างก็มีความเหมือน

- สารอาหารประเภท “เคมีชีวะ” ในน้ำหมักระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล เสริม/เติม/เพิ่ม/บวก ด้วยฮอร์โมนเขียว ตามความเหมาะสม ..“?”.. เครื่องหมาย “?” หมายถึง ประเภท/ชนิด พืช, ปัจจัยพื้นฐาน

หมายเหตุ :
- น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง สูตรปกติธรรมดา เฉกเช่นเดียวกับน้ำหมักทั่วๆไป คือ โครงสร้างทางโมเลกุลขนาดใหญ่ หรือโมเลกุลสายยาว ไม่สามารถผ่านปากใบพืชได้ ต้องให้ทางรากผ่านดินแล้วให้จุลินทรีย์ย่อยสลายก่อนระบบรากจึงจะดูดซึมไปใช้ได้....

- น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล ต่างจากน้ำหมักทั่วๆไป กล่าวคือ ได้ผ่านกระบวนการปรับโครงสร้างทางโมเลกุล จากโมเลกุลขนาดใหญ่ให้เป็นโมเลกุลขนาดเล็ก หรือโมเลกุลสายสั้น สามารถผ่านปากใบได้ และเมื่อให้ทางรากผ่านดินก็ไม่ต้องพึ่งพาหรือเข้ากระบวนการย่อยสลายจากจุลินทรีย์ก่อนระบบรากจึงจะดูดซึมไปใช้ได้

- ความต่างระหว่างน้ำหมักระเบิดเถิดเทิง กับ น้ำหมักทั่วๆไป คือ วัสดุส่วนผสมที่นำมาทำ และวิธีการทำ กล่าวคือ วัสดุส่วนผสมน้ำหมักระเบิดเถิดเทิง ได้แก่ กุ้งหอยปูปลาทะเลบดละเอียด. เลือด. ไขกระดูก. นม. ขี้ค้างคาว. น้ำมะพร้าว. หมักนานข้าม 2-3 ปี +ปุ๋ยเคมี ธาตุหลักตามพืช แม็กเนเซียม. สังกะสี. ธาตุรองธาตุเสริม. บี 1. ฮิวมิค. อะมิโน. .... น้ำหมักสูตรทั่วๆไปจากแต่ละสำนักส่งเสริม ใช้วัสดุส่วนผสมอะไร วิธีการทำๆอย่างไร ก็ว่ากันไป....

** ฮอร์โมนเขียว : ส่วนที่มาจากพืช จากสัตว์ จากอาหารที่คนกิน อันนี้เป็นฮอร์โมนอินทรีย์แท้ๆ บางครั้งอาจใช้ฮอร์โมนวิทยาศาสตร์ร่วมหรือแทนได้....

** จับหลักหัวใจเกษตร : ไม่มีพืชใดในโลกนี้ไม่ต้องการปุ๋ย อยู่แต่ว่า ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมี มากหรือน้อย.... ไม่มีพืชใดในโลกนี้ที่ไม่มีศัตรูพืช เพราะฉะนั้นต้องใช้สารกำจัดศตรูพืช จะเป็นสารเคมียาฆ่าแมลง หรือสารสมุนไพร อย่างเดียวเดี่ยวๆ หรือ 2 อย่างผสมกัน

** สมการเกษตร : สมการปุ๋ยเคมี, สมการปุ๋ยอินทรีย์, สมการสารเคมี, สมการสารสมุนไพร,... หลักการพื้นฐานคือ ของถูก + ใช้ผิด = ไม่ได้ผล ต้อง ของถูก + ใช้ถูก = ได้ผล เท่านั้น

** ยุคนี้ เทคโนโลยีเครื่องทุ่นแรง : “สปริงเกอร์/หม้อปุ๋ย” จะเป็นตัวช่วยที่ดีมาก งานทุกอย่าง ยกเว้นเก็บเกี่ยวผลผลิตเท่านั้น สปริงเกอร์/หม้อปุ๋ย ช่วยได้ .... ประหยัดเวลา ประหยัดแรงงาน ประสิทธิภาพประสิทธิผลของเนื้องาน เครดิตความน่าเชื่อถือ .... พื้นที่ 10 ไร่ สปริงเกอร์/หม้อปุ๋ย ทำงานปล่อย ปุ๋ย+ยา ไปพร้อมกันเลย แรงงานคนเดียว ใช้เวลาชั่วโมงเดียว ทำทุกวันๆยังได้เลย คิดดูซิ ได้ผลงานปานนี้ยังไม่เอาอีกเหรอ....

ผักอินทรีย์ PURE-PURE ไม่ตกขอบ :
หลักการและเหตุผล :

ปุ๋ย - ธาตุอาหาร - สารอาหาร ทั้ง 3 คำนี้คือ สิ่งเดียวกัน หมายถึงสิ่งที่พืชใช้เพื่อการดำรงชีวิต ประกอบด้วย ธาตุหลัก. ธาตุรอง. ธาตุเสริม. ฮอร์โมน. วิตามิน. และอื่นๆ......แบ่งประเภทหรือชนิดได้เป็น 2 คือ อินทรีย์ (ธรรมชาติ) กับ สังเคราะห์ (เคมี)

การจะ "รับ" หรือ "ปฏิเสธ" อย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียวระหว่าง อินทรีย์ กับ เคมี นั้นสามารถทำได้ แต่เมื่อต้องการให้พืชมีพัฒนาการที่ดี เกรด เอ. จัมโบ้ จึงจำเป็นต้องให้และต้องให้ในปริมาณที่ พอเพียง/ถูกต้อง ด้วย

กรณีที่เราต้องการปฏิเสธ "ปุ๋ยเคมี" อย่างเด็ดขาด ก็ต้องใช้ "ปุ๋ยอินทรีย์" แทน และการแทนก็จะต้องแทนอย่าง เหมาะสมถูกต้องตรงตามความต้องการของพืช อย่างแท้จริงด้วย มิเช่นนั้น พืชหรือผักที่ปลูกก็จะไม่เจริญเติบโต แคระแกร็น ไม่มีคุณภาพ อย่าว่าแต่ขายไม่ออกเลย บางมีเจ้าของคนปลูกยังไม่อยากกินด้วยซ้ำ

เข้าประเด็น....ผักอินทรีย์แท้ๆ ล้านเปอร์เซ็นต์ :
เตรียมดิน :

- ไถดิน ขี้ไถขนาดใหญ่ ตากแดดจัด 15 แดด ถ้าฝนตกให้ไถใหม่เริ่มนับ 1 ตากแดดใหม่
- ตากแดดดินครบกำหนดแล้ว ใส่อินทรีย์ขี้วัวขี้ไก่แกลบเก่า. รำละเอียด. ผสมเข้ากันแล้วหว่านทั่วแปลง
- หว่านอินทรีย์วัตถุแล้วไถพรวน ปรับสันแปลงให้เป็นหลังเต่า
- ปรับสันแปลงแล้วคลุมหน้าแปลงด้วยฟางหนาๆ
- คลุมหน้าแปลงแล้ว รดด้วย "น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง" รอบที่ 1
- รดด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง รอบที่ 1 แล้วทิ้งไว้ 7-10 วัน
- รดด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง รอบที่ 2 ก่อนลงกล้า 1-2 วัน
- โครงสร้างดินชื้นสม่ำเสมอแต่ต้องไม่อุ้มน้ำ (ชื้น-ชุ่ม-โชก-แฉะ-แช่....แยกให้ออก ทำให้ได้)

หมายเหตุ :
- ระยะเวลาจากรอบที่ 1 ถึงรอบที่ 2 เป็นการบ่มดิน เพื่อให้เวลาแก่จุลินทรีย์เข้าทำการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุและปรับสภาพดิน

- น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิงมีส่วนผสม "ปลาทะเล. กากน้ำตาล. เลือด. ขี้ค้างคาว. ไขกระดูก. นม. น้ำมะพร้าว." หมักนานข้าม 1-2-3 ปี ส่วนผสมทุกอย่างเป็น "อินทรีย์" แท้ๆ

- ปุ๋ยอินทรีย์แห้งหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง (ส่วนผสมของน้ำหมักระเบิดเถิดเทิง + อินทรีย์วัตถุ) หมักนานข้ามปี ดีที่สุด

- ในน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง ที่แนะนำให้ใช้นี้ไม่มี ธาตุหลัก-ธาตุรอง-ธาตุเสริม-ฮอร์โมน ซึ่งเป็น "เคมี" เพราะไม่ได้ใส่

เตรียมเมล็ดพันธุ์ :
- แช่เมล็ด (ทั้ง 2 ผัก) ในไคโตซาน (ในยูเรก้ามีไคโตซาน) 3-6 ชม.
- เมล็ดแช่ไคโตซานแล้วนำขึ้นผึ่งลมให้แห้ง เมื่อแห้งแล้วนำไปหว่านในแปลงเพาะกล้าได้เลย
- เมล็ดผักชีแช่ไคโตซาน.แล้ว ห่อด้วยผ้าชื้น นำแช่ในตู้เย็น (ช่องเย็นธรรมดา) 36-48 ชม. ระหว่างนี้ให้แหวกห่อผ้าออกดู ถ้าเมล็ดเริ่มแทงรากออกมาแล้วให้นำลงปลูกในแปลงจริงได้เลย หรือจะเพาะในแปลงเพาะกล้าก่อนก็ได้

เกษตรอินทรีย์ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี :
หลักการและเหตุผล :

- สารอาหารสำหรับพืช คือ “ปุ๋ย” มี 2 อย่าง คือ ปุ๋ยอินทรีย์ กับ ปุ๋ยเคมี
- เมื่อคิดจะไม่ใช้สารอาหารจากปุ๋ยเคมีก็ต้องใช้สารอาหารจากแหล่งอื่นแทน ทั้งชนิดและปริมาณ ที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของต้นผัก ในกรณีที่จะได้เกรด เอ. จัมโบ้ ซูพรีม พรีเมียม

- ในอินทรีย์วัตถุก็มีสารอาหารพืช มีทั้ง ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม ฮอร์โมน วิตามิน มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของ อินทรีย์วัตถุ วิธีทำ และวิธีการใช้

- จากสารอาหารที่เกิดเองตามธรรมชาติ สามารถนำมา เสริม/เติม/เพิ่ม/บวก/ปรับ ให้เป็น “ซุปเปอร์” ตามความต้องการได้ด้วยวิธีการแบบธรรมชาติๆ โดยไม่ส่งผลเสียใดๆต่อพืช

- เกี่ยวกับอาหารพืชประกอบด้วย .... ธาตุหลัก/ธาตุรอง/ธาตุเสริม/ฮอร์โมนวิตามิน .... ประเภทให้ ทางใบ-ทางราก .... ชนิด น้ำ/เม็ด/เกร็ด/ผง .... สถานะทางวิทยาศาสตร์ เคมีชีวะ และเคมีสังเคราะห์

- เคมีชีวะ คือ ธาตุอาหารพืชที่เกิดเองตามธรรมชาติ มีชื่อเรียกและมีคุณสมบัติเป็นธาตุอาหารชัดเจน เกิดเองตามธรรมชาติ

สูตรทำฮอร์โมนเขียว (อินทรีย์เพียวๆ) : (ในหนังสือ “หัวใจเกษตรไท มินิ” ) .... 25. ฮอร์โมนสมส่วน 26. ฮอร์โมนเขียว 27. ฮอร์โมนบำรุงราก 28. ฮอร์โมนเร่งรากกิ่งตอน 29. ฮอร์โมนนมหมักชีวภาพ 30. ฮอร์โมนหอย 31. ฮอร์โมนไส้เดือนปลาหอย 32. ฮอร์โมนนมสด 33. ฮอร์โมนน้ำนึ่งปลา 34. ฮอร์โมนแบลนด์ 35. ฮอร์โมนเอ็มลิโพกระทิงแดง

สารอาหารกลุ่มฮอร์โมนแต่ละสูตรมีคุณสมบัติดีเฉพาะตัว ทุกสูตรมีประโยชน์ต่อพืชทั้งนั้น ถ้าเอาหลายๆสูตรมารวมกันสร้างเป็นสูตรใหม่ขึ้นมา กับทั้งจากฮอร์โมนเขียวธรรมดาๆ ปรับเป็นฮอร์โมนเขียวโมเลกุลเดี่ยว ทุกสูตรเป็นสูตรของเราเอง.


อ้างอิง : หนังสือหัวใจเกษตรไท มินิ :
น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง เวอร์ชั่นล่าสุด (ปฏิเสธ/ไม่ปฏิเสธ ปุ๋ยเคมี) :

* เดิม ... น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง “อินทรีย์ ไม่ปุ๋ยเคมี ไม่ปรับโมเลกุล” ให้ทางราก
* เดิม ... น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง “อินทรีย์ ปุ๋ยเคมี ไม่ปรับโมเลกุล" ให้ทางราก

* ใหม่ ... น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง “อินทรีย์ ไม่ปุ๋ยเคมี ปรับโมเลกุล” (ฟาจีก้า) ให้ทางใบทางราก
* ใหม่ ... น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง “อินทรีย์ ปุ๋ยเคมี ปรับโมเลกุล " (โอไฮโอ) ให้ทางใบทางราก

เศษอาหารจากในครัว ที่ปรุงกินได้แล้วเหลือในจานในหม้อ กับที่ไม่ได้ปรุงกิน เปลือก เนื้อ เมล็ด ฯลฯ ใส่ทั้งหมดลงเครื่องบดโมลิเน็กซ์ บดจนละเอียดเป็นน้ำวุ้น เอามาละลายน้ำ ปล่อยไปกับน้ำในแปลงผักไฮโดรโปรนิกส์ (ระบบน้ำวน เหมือนบ้านเรา) ผักโตได้เหมือนใช้สารอาหารจากปุ๋ยเคมี ตรวจสอบพบที่รากมีสารอาหารที่บดแล้วใส่ลงไปในน้ำเกาะอยู่ แสดงว่า ระบบรากดูดซับสารอาหารนี้ไปพัฒนาต้นได้

หมายเหตุ 1 :
ดร.โช (เกาหลี....คนนี้เป็น ดร.กิติมศักดิ์จากทั่วโลก ยกเว้นจากประเทศตัวเอง) ใช้น้ำคั้นผักให้กับผักกินใบชนิดเดียวกัน พบว่าผักมีขนาดใหญ่กว่าธรรมชาติ 2-3 เท่า

แนวคิด คือ :
- นำผักนั้นมาคั้นเอาน้ำแล้วให้พืชชนิดเดียวกัน น้ำคั้นผักนี้ผ่านกระบวนการอ๊อกซิเดชั่นมาเรียบร้อยแล้ว จึงไม่ต้องออกซิเดชั่นอีก พืชต้นนั้นนำไปใช้ได้เลย เหมือน FAST FOOD

- สารอาหารตัวนี้ ต้นพืชรับได้ทั้งทางราก และทางใบ
- น้ำคั้นผักนี้มีสถานะภาพเป็น “ฮอร์โมน” ซึ่งไม่สู้แสงแดด (อุลตร้า ไวโอเร็ต) จึงต้องให้แก่พืชตอนไม่มีแสงแดด หรือให้ตอนค่ำจึงจะได้ผลสูงสุด

(ปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (OXIDATION) คือ ปฏิกิริยาที่อะตอมหรือโมเลกุลเกิดการสูญเสียหรือให้อิเล็กตรอน กับโมเลกุลหรืออะตอมอื่นเพื่อสร้างความเสถียรให้กับโมเลกุล โดยปฏิกิริยาออกซิเดชั่นจะเกิดควบคู่กับปฏิกิริยารีดักชั่น (REDUCTION) เสมอ..

HTTP://AMPROHEALTH.COM/MAGAZINE/OXIDATION/)

หมายเหตุ 2
สารคดีเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิกส์ รายงานว่า น้ำเดือด 100 องศา ซ. นาน 4 ชม. ต่อด้วยปล่อยให้ร้อนไอกรุ่นๆอีก 2 ชม. ทำให้โมเลกุลในอินทรีย์วัตถุ (เศษซากมนุษย์ สัตว์ พืช) ขนาดใหญ่สายยาวเดิม เปลี่ยนรูปเป็นโมเลกุลขนาดเล็ก หรือโมเลกุลเดี่ยวสายสั้น .... รูปทางเคมีนี้ ร่างกาย (มนุษย์ สัตว์ พืช จุลินทรีย์) สามารถนำไปใช้เลย โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการออกซิเดชั่น เช่น น้ำเต้าหู้ น้ำนึ่งปลาก้นหม้อนึ่ง น้ำต้มก้นหม้อก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ

หมายเหตุ 3 :
- จาก “เศษอาหารบด-น้ำคั้นผัก-น้ำต้มเดือด” ธรรมดาๆ อย่างเดียวเดี่ยวๆ หรือหลายอย่างรวมกันแล้ว เสริม/เติม/เพิ่ม/บวก สารอาหารสังเคราะห์ เช่น ปุ๋ยเคมี ฮอร์โมน หรืออื่นๆ จาก เศษอาหารบด-น้ำคั้นผัก-น้ำต้มเดือด ธรรมดาๆ ก็จะพัฒนาเป็น “ซุปเปอร์” ขึ้นมาทันที....

- ฮอร์โมนเขียว คือ ฮอร์โมนชีวะ ฮอร์โมนธรรมชาติ ทำกับมือจากโรงงานไต้ถุนบ้าน ทำแบบ “ภูมิปัญญาพื้นบ้าน มาตรฐานโรงงาน มีหลักวิชาการรองรับ” เพราะฉะนั้น ทำทีใช้ที ใช้ใหม่ๆ จะได้ผลดีกว่าทำนานเก็บนาน ....

- รายการสูตรฮอร์โมนในหนังสือหัวใจเกษตรไท : ฮอร์โมนสมส่วน ฮอร์โมนเขียว ฮอร์โมนบำรุงราก ฮอร์โมนเร่งรากกิ่งตอน ฮอร์โมนน้ำนึ่งปลา ฮอร์โมนแบลนด์ ฮอร์โมนลิโพ/เอ็ม/กระทิงแดง ฮอร์โมนนมหมักชีวภาพ ฮอร์โมนหอย ฮอร์โมนไส้เดือน/ปลา/หอย ฮอร์โมนนมสด จากคุณภาพสรรพคุณระดับธรรมดาๆ เสริม/เติม/เพิ่ม/บวก ให้เป็น “ซุปเปอร์” ดีมั้ย

ฮอร์โมนเขียว :
วัสดุ ส่วนผสม และวิธีทำ :

เลือกผักสวนครัวกินใบ อายุสั้น ฤดูกาลเดียว เช่น ผักกาด ผักคะน้า ต้นที่สมบูรณ์ แข็งแรง โตเร็ว อัตราโตประมาณ 50% ไม่มีโรคแมลง และไม่มีการใช้สารเคมียาฆ่าแมลง หรือสารสมุนไพรทุกประเภท เก็บตอนเช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ถอนขึ้นมาทั้งต้น (ใบ+ราก) สลัดดินติดรากทิ้ง ไม่ต้องล้างน้ำ นำเข้าเครื่องปั่นแบบแยกกากแยกน้ำ (จุ๊ยเซอร์) น้ำคั้นผักที่ได้ เรียกว่า “ฮอร์โมนเขียว” พร้อมใช้ เก็บในภาชนะทึบแสง รักษาอุณหภูมิโดยการเก็บในตู้เย็นช่องแช่เย็นธรรมดา

วิธีใช้ :
ตกค่ำพระอาทิตย์สิ้นแสงแล้ว นำ “ฮอร์โมนเขียว” พร้อมใช้ 500 ซีซี. ผสมน้ำ (พีเอช 6.0) จำนวน 100 ล. นำไปรดให้แก่ผักประเภทที่นำมาคั้นน้ำนั้น (น้ำคั้นผักอะไรให้ผักชนิดเดียวกัน) ทุก 3-5 วัน จะช่วยบำรุงให้ผักนั้นโตเร็ว สมบูรณ์ แข็งแรง คุณภาพดี

สำหรับผักกินยอด กินใบ :
ใช้ "น้ำคั้นผักกินใบทั้งต้น + น้ำคั้นยอดผักกิน เด็ดด้วยมือ + น้ำคั้นหัวไชเท้า + น้ำมะพร้าวอ่อน" อัตรา ส่วน 1 : 1 : 1 : 5 ไม่ใช้กากน้ำตาลหรือกลูโคส เพราะในน้ำมะพร้าวอ่อนมีกลูโคสอยู่แล้ว

หมายเหตุ :
- ทำฮอร์โมนเขียว ซุปเปอร์.โดย "น้ำคั้นผัก + น้ำคั้นหัวไชเท้า+ น้ำมะพร้าวแก่" อัตราส่วน 10 : 10 : 1 แล้วใช้อัตราเดิมและวิธีเดิม

- ผักสวนครัว แปลงเล็ก ปลูกกินในบ้าน สามารถปรับสูตรหรืออัตราส่วนได้ ตามความถนัด หรือเท่าที่มี

แหล่งธาตุอาหารจากพืช : ผักสด. หมากเม่า (อะมิโน 25 ชนิด), กวาวเครือขาว (เอ็นเอเอ.), เหง้าตำลึง (พาโคลบิวทาโซล), น้ำมะพร้าวอ่อน (จิ๊บเบอเรลลิน), น้ำมะพร้าวแก่ (เอสโตรเจน, ไซโตไคนิน, ไคโซซาน, ฟอสเฟต, แม็กเนเซียม, แคลเซียม, กลูโคส), เกสรดอกตูม (ฟอสเฟต), ข้าวโพดหวาน (เร่งราก), หัวไชเท้า (ไซโตไคนิน. ไคโตซาน), เมล็ดงอก (จิ๊บเบอเรลลิน), หน่อไม้ไผ่ (ไซโตไคนินน. ไคโตซาน), หน่อไม้ฝรั่ง (ไซโตไคนิน. ไคโตซาน), มะเขือเทศสุก (แมงกานิส), จาวมะพร้าว (จิ๊บเบอเรลลิน. ไซโตไคนิน. เอสโตรเจน. โปรตีน), น้ำเต้าหู้ (อะมิโนโปรตีน), ข้าวน้ำนม (ไคโตซาน), แปะก๊วย (ฟลาโวนอยด์), สาโท (น้ำตาล, แอลกอฮอร์), เบียร์สด (น้ำตาล, แอลกอฮอร์)

แหล่งธาตุอาหารจากสัตว์ : นมสดจากฟาร์ม, นมเหลือง, น้ำนึ่งปลา, น้ำหอยเผา (ไซโตไคนิน. ไคโตซาน), หอย 2 ฝา (สังกะสี. แม็กเน
เซียม. โซเดียม.), เลือด (อะมิโนโปรตีน. ไซโตไคนิน), น้ำเชื้อ (เอสโตรเจน), น้ำล้างปลา (ไนโตรเจน), ไส้เดือน (ไซโตไคนิน. ไคโตซาน), ขี้เพี้ย (มูลสัตว์ตั้งท้อง เอสโตรเจน)

แหล่งธาตุอาหารพืช
กากน้ำตาล 100 เปอร์เซ็นต์ :

ประกอบด้วยธาตุอาหารพืช ดังนี้ น้ำ 20.65, ซูโครส 36.60, ริคิวซิงซูการ์ 13.00, น้ำตาลหมักเชื้อ 50.10, เถ้าฟอสเฟต 15.00. ยางและแป้ง 3.43. ขี้ผึ้งหรือไข 0.38, ไนโตรเจน 0.95 ซิลิก้า 0.46, ฟอสเฟต 0.12 , โปแตสเซียม 4.19, และแคลเซียม 1.12

เพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับมูลสุกร โดย สุกัญญา จัตตุพรพงษ์. อุทัย คันโธ. และ ปฏิมา อู๋สูงเนิน. ศูนย์ค้นคว้าและพัฒนาวิชาการอาหารสัตว์ สถาบันสุวรรณวาจกกสิกิจฯมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ การพัฒนาของเสียจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์เป็นปุ๋ยอินทรีย์แบบต่าง ๆ สำหรับพืชเศรษฐกิจในจังหวัดนครปฐม

การนำของเสียจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์มาใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์สามารถเพิ่มผลิตและคุณภาพของพืชได้

เนื่องจากของเสียเหล่านี้มีธาตุอาหารต่าง ๆ ในปริมาณมาก ทั้งธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และจุลธาตุอาหารต่าง ๆ ได้แก่ ธาตุ ไนโตรเจน. ฟอสฟอรัส. โพแทสเซียม. แคลเซียม. แมกนีเซียม. ซัลเฟอร์. เหล็ก. ทองแดง. สังกะสี. แมงกานีส. โซเดียม. ฯ ซึ่งมีการเสริมในอาหารสุกรยุคใหม่ในระดับสูง แต่สัตว์ไม่สามารถย่อยและดูดซึมใช้ประโยชน์ได้หมด จึงมีเหลือขับถ่ายออกมาในมูลสัตว์ ซึ่งธาตุอาหารเหล่านี้จะมีประโยชน์ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงได้มาก พืชสร้างคลอโรฟิลล์มากขึ้น ทำให้ใบพืชมีสีเขียวขึ้น ส่งผลให้พืชสร้างผลิตผลเต็มที่ ต้นพืชแข็งแรงไม่เป็นโรคง่าย อายุการเก็บเกี่ยวยาวนานขึ้น สามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ การเกษตรจังหวัดนครปฐมจะเป็นเกษตรอินทรีย์มากขึ้น ในขณะเดียวกันผู้เลี้ยงสัตว์จะไม่มีปัญหาจากของเสียในฟาร์ม แต่กลับจะมีรายได้จากการขายมูลสัตว์และของเสียเพื่อใช้เป็นปุ๋ยอีกด้วย

จากการศึกษาปริมาณธาตุอาหารพืชที่มีอยู่ในมูลสัตว์ชนิดต่างๆ พบว่า มูลสุกรและกากตะกอนของมูลสุกรจากบ่อหมักก๊าซชีวภาพ รวมทั้งมูลไก่ไข่มีปริมาณธาตุไนโตรเจน. ฟอสฟอรัส. แคลเซียม. แมกนีเซียม. เหล็ก. ทองแดง. แมงกานีส. และสังกะสี. มากกว่ามูลโค ขณะที่มูลโคมีปริมาณธาตุ โพแทสเซียม. และโซเดียม. มากกว่ามูลสุกร อย่างไรก็ตามปริมาณธาตุอาหารเหล่านี้อาจมีความผันแปรไปตามชนิดของวัตถุดิบ อาหารรวมทั้งแร่ธาตุที่เสริมลงในอาหารที่ใช้เลี้ยงสัตว์นอกจากนี้ยังมีส่วนของน้ำล้างคอก จากบ่อพักน้ำเสียหรือในระบบบำบัด ซึ่งน้ำส่วนนี้มีธาตุอาหารพืชชนิดต่างๆ สามารถนำไปใช้เป็นปุ๋ยน้ำที่ให้ทางดินหรือฉีดพ่นทางใบได้เช่นกัน

รูปแบบของการใช้ของเสียในฟาร์มเลี้ยงสัตว์เป็นปุ๋ยกับพืชชนิดต่างๆ
1..... มูลสัตว์แห้งใส่ในแปลงปลูกพืชโดยตรง
2..... ปุ๋ยหมักมูลสัตว์ชนิดต่างๆ
3..... ทำน้ำสกัดมูลสุกร โดยใช้มูลสุกรแห้งแชน้ำอัตราส่วน 1 : 10 แช่ไว้ 24 ชั่วโมง นำน้ำสกัดส่วนใสเจือจางด้วยน้ำ 1 ต่อ 10-20 ใช้รดรอบๆ ต้นพืชและฉีดพ่นทางใบ

4..... น้ำล้างคอก/น้ำทิ้งจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ใช้เครื่องดูดขึ้น ไปเจือจางกับน้ำตามความเหมาะสมแล้วฉีดพ่นในแปลงปลูกพืช

ภายหลังจากได้เผยแพร่ข้อมูล มีเกษตรกรในจังหวัดนครปฐมที่เข้าร่วมโครงการและได้รับปุ๋ยปุ๋ยมูลสัตว์ชนิดต่าง ๆ ไปทดลองใช้ในแปลงปลูกพืชของตนเอง จำนวน 369 ราย เกษตรกรเกือบทั้งหมดให้การตอบรับเป็นอย่างดี มีความสนใจและต้องการใช้ของเสียในฟาร์มเลี้ยงสัตว์เป็นปุ๋ยให้กับพืชชนิดต่างๆ เนื่องจากภายหลังจากพืชได้รับปุ๋ย ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพดี และได้น้ำหนัก ข้าวได้ผลผลิตมากกว่า 1,000 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนผัก ใบตั้งและ เขียวขึ้น ได้น้ำหนัก ผลผลิตมากขึ้นเท่าตัวเช่นเดียวกับไม้ดอก ไม้ผลมีรสหวานและผลใหญ่ ส่วนอ้อยมีการแตกกอดี ลำใหญ่ขึ้น ซึ่งคุณภาพ ผลผลิตที่ดีขึ้นเป็นที่ต้องการมากของตลาด

ปริมาณธาตุอาหารทั้งหมดในมูลสุกร (เปอร์เซ็นต์) :
- ไนโตรเจน 2.69% : เพิ่มการเจริญของกิ่ง ก้าน ใบ ทำให้ใบพืชมีสีเขียวเข้มขึ้น และป้องกันการร่วงของใบ กิ่ง ผล

- ฟอสฟอรัส 3.24% : เร่งการเจริญของดอก ผล และราก เพิ่มการดูดน้ำ และช่วยการงอกของเมล็ด
- โพแทสเซียม 1.12% : ช่วยให้ลำต้นแข็งแรง ผลใหญ่ รวงโต และเกี่ยวข้องกับการสร้างแป้งและโปรตีน

- แคลเซียม 3.85% : ช่วยการงอกของเมล็ด สร้างเซลล์ใหม่ในส่วนของยอดและราก ยืดเวลาการเก็บและความคงความสดของผลที่เก็บเกี่ยวแล้วได้นานขึ้น

- แมกนีเซียม 1.18% : ช่วยในการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ ,แป้ง และช่วยการงอกของเมล็ด
- ซัลเฟอร์ 0.19% : เป็นองค์ประกอบของกรดอะมิโน โปรตีน ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างสารสีเขียวในพืช และทำให้พืชผักมีรสดีขึ้น

- โซเดียม 0.27% : - เหล็ก 0.44% : เกี่ยวข้องกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแส'สังเคราะห์คลอโรฟิลล์

ปริมาณธาตุอาหารทั้งหมด (มก./กก.)
- ทองแดง 611.07 : เกี่ยวข้องกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง กิจกรรมของเอนไซม์ มีผลต่อการสร้างผลและเมล็ด
- แมงกานีส 1030.13 : ช่วยการยืดตัวของราก ทำให้รากแข็งแรงเป็นโรคได้ยาก และช่วยการสังเคราะห์ด้วยแสง
- สังกะสี 975.75 : มีบทบาทสำคัญในการปฏิสนธิและการพัฒนาของเมล็ด

ที่มา http://www.rdi.ku.ac.th/kufair50/animal/10_animal/10_animal.html#author


-------------------------------------------------------------------------------------------


.



กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©