-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-งานสัญจร 1 พ.ค.วัดพยัคฆาราม ส.พ. [3] *ฝรั่ง ออกลูกทั้งปี
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - งานสัญจร 1 พ.ค.วัดพยัคฆาราม ส.พ. [2] *เผือก เผือก และเผือก
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

งานสัญจร 1 พ.ค.วัดพยัคฆาราม ส.พ. [2] *เผือก เผือก และเผือก

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 04/05/2021 5:34 am    ชื่อกระทู้: งานสัญจร 1 พ.ค.วัดพยัคฆาราม ส.พ. [2] *เผือก เผือก และเผือก ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 4 MAY ...
AM 594 เวลา 08.15-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

*****************************************************************
สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง ที่เคารพ
กองทัพบก เพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม ...

ผลิตรายการโดย....
กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม “.. ? ..”
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ

ผู้สนับสนุนรายการ ....
*** ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส ธันเดอร์แคล.... ออร์เดอร์จาก ออสเตรเลีย แคนนาดา อเมริกา +Mg. Zn. เคมี, .... ออร์เดอร์จากเกาหลี ให้ +Cu เคมี อย่างละ 5% .... ยิบซั่มเพื่อการเกษตรที่ทั่วโลกยอมรับ คือ ยิบซั่มจากประเทศไทย นี่แหละ

เช่นเคย รายการเรา
*** 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว-สายตรง ที่ (081) 913-4986, ....
*** FB วีระ ใจหนักแน่น, ....
*** อินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิม ดอทคอม .... เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า

ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

........................................................................................................
........................................................................................................


งานสัญจรปกติตามวงรอบ :
* วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สองของเดือน ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามของเดือน ไปวัดท่าตำหนัก เพชรเกษม(ขาล่อง) แยกนครชัยศรี นครปฐม,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สี่ของเดือน ไปที่วัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ ถ.วงแหวนตะวันตก

** ถึงจุดนี้ เกษตรกรที่ไหนอยากให้งานสัญจรไปลงที่นั่น ที่ไหนก็ได้ ติดต่อมา พูดคุยกันในรายละเอียด

- งานสีสันสัญจรปกติตามวงรอบ งวดนี้ เสาร์นี้ ตรงกับวันที่ 8 พ.ค. ลุงคิม กับ อ.ณัฐ สมุนไพรสำหรับคน (086) 983-1966 .... ไปวัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี


- งานสัญจรระยะนี้ต้องร่วมกันป้องกัน COVID หลีกเลี่ยงจับกลุ่ม คนมากๆ แนะนำ สมช. สั่งปุ๋ยลุงคิม สั่งยา อ.ณัฐ โทรติดต่อโดยตรงแล้วได้นัดหมายรับส่งของกัน รับของแล้วแยกกันเลย มีปัญหาอะไรโทรศัพท์คุยกันก็ได้....

************************************************************
***********************************************************

เก็บตกงานสัญจร 17 เม.ย. วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี [2] : เผือก เผือก และเผือก...

สมช. :
ลุงคิมคะ ประทับใจเกษตร 1 ไร่ 1 ปี ได้ 1 ครั้ง เกรด เอ. จัมโบ้. หนูสนใจเผือกหอมค่ะ
ลุงคิม : 1 ไร่ 1 ปี เอาคำถามนี้มาจากไหน ?

สมช. : ฟังวิทยุค่ะ
ลุงคิม : ฟังทุกวันไหม ?

สมช. : ทุกวันค่ะ
ลุงคิม : ฟังคือฟัง ฟังจบก็ลืม ไม่ใช่เหรอ ?

สมช. : มีบ้างค่ะ
ลุงคิม : วันนี้เริ่มต้นใหม่ ฟังแล้วอ่านด้วย ฟังพอให้รู้ว่ามีเรื่องนี้ แล้วตามไปอ่านในหนังสือ คราวนี้จำได้จนวันตายเลย

สมช. : ค่ะ
ลุงคิม : ถามหน่อย คำถามนี้เริ่มต้นมาจากอะไร ?

สมช. : คำถามเริ่มต้น.... 1 ไร่ 1 ไร่ ได้ 1 ครั้ง แต่ผลผลิตมากกว่าปกติธรรมดา
ลุงคิม : เคยทำเผือกมาก่อนไหม ?

สมช. : ไม่เคยค่ะ แต่ไปดูข้างบ้านที่เขาทำ ไปดูหลายๆครั้ง เห็นแล้วเอามาคิดอย่างที่ลุงบอก ทำแบบเขาได้แบบเขา ทุกอย่างที่เขาทำ มันไม่เหมือนที่ลุงพูดเลยค่ะ แล้วผลผลิตที่ได้ก็ตามแบบที่เขาทำ เราเลยมาคุยกัน ตกลงจะทำแบบลุงบอกค่ะ
ลุงคิม : อืมมม

สมช. : ดินย่านนี้ปลูกเผือกได้ เราเลยซื้อลูกซอหัวเผือกมาปลูกบ้าง
ลุงคิม : อืมมม แนวคิดนี้หลักการนี้กลุ่ม อ้อย สำปะหลัง 1 ปี 1 ไร่ ได้ 1 ครั้ง เหมือนกัน ก็น่าจะเอาแนวนี้ไปทำบ้างนะ...ว่ามั้ย ?

สมช. : ค่ะ
ลุงคิม : ยังไงๆ ขอบอกว่า เรื่องนี้ ยากหรือง่ายอยู่ที่ใจ ใจเอา-ได้ ใจไม่เอา-ก็ไม่ได้

สมช. : ค่ะ
ลุงคิม : ง่ายๆนะ เผือกให้น้ำยืนพื้น จากน้ำธรรมดาๆ เปล่าๆ ทำให้เป็นน้ำ +ปุ๋ย +ยา ด้วย ให้น้ำโชกๆ ผ่านใบลงพื้น ให้รากได้กินด้วย เดือนละ 2 ครั้ง หรือ 2 อาทิตย์ต่อครั้ง

สมช. : ค่ะ
ลุงคิม : ถึงจุดนี้จะทำได้ต้องใช้เครื่องมือ เครื่องมือให้น้ำ

สมช. : สปริงเกอร์เหรอคะ
ลุงคิม : ไม่เสมอไปหรอก เครื่องมือให้น้ำมีให้เลือกตั้งหลายอย่าง สพายเป้, ลากสายยาง, รถบรรทุกน้ำ รดน้ำเกาะกลางถนน อบต., อีต๊อกอีแต๋น ติดแท๊งน้ำ มีเครื่องสูบน้ำ, สรุปง่าย ทำยังไงก็ได้ ด้วยเครื่องมืออะไรก็ได้ ขอให้น้ำไปถึงต้นเผือกใบเผือกก็แล้วกัน ....

พูดถึงสปริงเกอร์ แปลงผัก ผักกาดผักคะน้าธรรมดา ที่ท่ามะกา ติดสปริงเกอร์แบบ ถอด-ประกอบ ได้ เตรียมแปลงเสร็จเขาติดตั้ง ก่อนเก็บเกี่ยวก็ถอดออก ติดตั้งแล้วก็ถอดออกอย่างนี้ทุกรุ่นๆ รุ่นละ 3 เดือนเท่านั้น เขายังทำ สปริงเกอร์เขาให้น้ำได้อย่างเดียวนะ ฉีดปุ๋ยฉีดยาต้องทำด้วยมือต่างหาก....

มาที่เผือกบ้าง แถมสำปะหลังด้วย พืช 2 ตัวนี้ อายุปลูกถึงเก็บเกี่ยว 1 ปีเต็มๆ เพราะฉะนั้น ติดตั้งแล้วใช้งานได้นานนับปีแบบนี้ ลุงว่า คุ้มเกินคุ้มนะ...

ที่บอกว่า สปริงเกอร์แพง สปริงเกอร์แพง เรื่องราคาค่าวัสดุ อันนี้มา คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ เป็นประเด็นๆไป ต้นทุนค่าวัสดุ พีวีซี. แพงกว่า พีอี. 10 เท่า ต้นทุนค่าแรงอันนี่ทำเองไม่ต้องจ้าง แปลงใหญ่แบ่งเป็นโซนๆ ทำทีละโซน...

จากต้นทุนราคา มาที่ประสิทธิภาพประสิทธิผลของเนื้องาน ลุงว่า สปริงเกอร์เหนือว่าทำด้วยมือหลายเท่านะ ว่ามั้ย....

แล้วของคุณมีเครื่องมือให้น้ำแบบไหนล่ะ

สมช. : ค่ะ เนื้อที่ 10 ไร่ อยู่ติดบ้าน แบ่งเป็นล็อค ล็อคละ 2 ไร่ มีถังน้ำ 200 ล. 2 ถังประจำล็อค อันนี้ถ้าไม่พอเพิ่มได้ ใช้ปั๊มน้ำหย่อนลงก้นถัง จากล็อคนี้ยกปั๊มย้ายไปล็อคถัดไปได้ ไม่ต้องยกถัง
ลุงคิม : ปั๊มแบบนี้ ใช้ไฟฟ้า น่าจะเป็นปั๊มไดโว่นะ .... ดี ปลูกเผือก บำรุงเผือก ตามใจเผือก เชื่อเถอะ เดิมเราทำเขา ทำได้เท่าไหร่ วางแผนทำใหม่ดีๆ งานนี้ต้องได้มากขึ้นแน่นอน

สมช. : ค่ะ
ลุงคิม : ถามหน่อย ปลูกเผือกแบบธรรมดาๆ ที่ทำตามๆกันมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า เทวดารดน้ำให้อย่างเดียว ปุ๋ยก็ให้แต่ทางรากทางดิน หนอนแมลงก็เอาแต่สารเคมียาฆ่าแมลง แต่ของคุณ เราให้น้ำ ให้ปุ๋ยทั้งทางใบทางราก หนอนแมลงก็สารสมุนไพร งานนี้ไม่กลัวชาวบ้านว่า แหวกม่านประเพณี ไม่กลัวเขาหาว่าบ้าหรอกเหรอ

สมช. : ไม่กลัวอยู่แล้วลุง ฉันว่านะ ถ้าเตรียมดินทำดินดี ปลูกลงไปแล้ว เดือนเดียวเดือนแรกก็เห็นผล สุดท้าย ผลผลิตที่ได้ ได้น้อยได้เท่าชาวบ้านไม่ว่า แต่ต้นทุนเราต่ำกว่า นี่คือคำตอบไม่ใช่หรือคะ
ลุงคิม : ช่ายยยย ใช่ยิ่งกว่าใช่ซะอีก เหลือแต่ ปุ๋ย. ยา. ซื้อหรือทำเองล่ะ

สมช. : ซื้อค่ะ ซื้อของลุง ถูกกว่าทำเองค่ะ
ลุงคิม : ....
ทุกคนเกิดมา เก่งเท่ากัน รู้เท่ากัน แต่ แพ้-ชนะ กัน ที่โอกาส :

การเกษตรยุคนี้ วันนี้ ทำแบบเดิมคงไม่มีอะไรดีไปกว่าเดิม เพราะสถานการณ์โลกทุกอย่างเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปในทางลบด้วย เกษตรด้านพืชเป็นเรื่องของธรรมชาติโดยแท้กับมนุษย์ยังไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติได้ เพราะฉะนั้นน่าจะถือหลัก อยู่ร่วมกับธรรมชาติ/แสวงประโยชน์จากธรรมชาติ ....

หลักการคือ ปลูกพืชปลูกเผือกมีเป้าหมาย ผลผลิตเพิ่ม (คุณภาพ ปริมาณ) ต้นทุนลด (ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง แรงงาน เนื้อที่ เวลา เทคนิค เทคโนฯ) อนาคตดี (พันธะสัญญา ส่งออก แปรรูป)

ปลูกพืชปลูกเผือกวันนี้หนีไม่พ้น “ปัจจัยพื้นฐาน ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล/สารอาหาร/สายพันธุ์/โรค” ลงมือทำ ทำวันนี้ ทำก่อนลงมือปลูก คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ ผลที่จะตามมา ระยะสั้น/ระยะปานกลาง/ระยะยาว เสร็จจากพืชนี้เปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นได้ ....

สร้าง/ทำ/เสริม/เติม/เพิ่ม/บวก-ทุกอย่าง/ทุกปัจจัย อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องจนกลายเป็น “ประวัติ”

เผือกหอมที่นิยมปลูกกันทั่วโลกจะมีอายุเก็บเกี่ยวประมาณ 6 เดือน หลังการปลูก


ข้อมูล : หนังสือหัวใจเกษตรไท"
* เตรียมดิน :

- ไถดิน ขี้ไถขนาดใหญ่ ตากแดดจัด 15-20 แดด ถ้าฝนตกให้ไถใหม่เริ่มนับ 1 ตากแดดใหม่
- ตากแดดดินครบกำหนด ใส่ยิบซั่ม ปุ๋ยอินทรีย์ ขี้วัวขี้ไก่แกลบเก่าแกลบดำ ผสมเข้ากัน หว่านทั่วแปลง แล้วไถพรวน คลุมหน้าแปลงด้วยฟางหนาๆ

- คลุมหน้าแปลงแล้วรดด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 แล้วทิ้งไว้ 20-30 วัน

(ไม่ต้องปุ๋ยเคมี รองพื้น-แต่งหน้า-กระแทก-กระทุ้ง เพราะในน้ำหมักระเบิดเถิดเทิงมีแล้วอนาคตยังมีทางใบ ทั้งปุ๋ยเคมีและฮอร์โมนธรรมชาติ ให้อีก ที่สำคัญ ดินดี =ได้แล้วกว่าครึ่ง.... ดินไม่ดี = เสียแล้วกว่าครึ่ง...)

หมายเหตุ :
- ระยะเวลาจากให้น้ำหมักฯ 20-30 วัน เป็นการบ่มดิน เพื่อให้เวลาแก่จุลินทรีย์เข้าทำการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุและปรับสภาพดิน

- น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิงมีส่วนผสม "ปลาทะเล. กากน้ำตาล. เลือด. ขี้ค้าง คาว. ไขกระดูก. นม. น้ำมะพร้าว." หมักนานข้าม 1-2-3 ปี จากส่วน ผสมทุกอย่างเป็น "อินทรีย์" แท้ๆ ....

เมื่อเติม 30-10-10, แม็กเนเซียม, สังกะสี, ธาตุรอง/ธาตุเสริม ลงไปเป็น “เคมี” นี่คือ อินทรีย์เคมี ผสมผสาน

- อย่ากังวลว่าไม่ได้ใส่ปุ๋ยเคมี รองพื้น-แต่งหน้า-กระทุ้ง-กระแทก แล้วต้นเผือกไม่โต สาเหตุที่ไม่โตไม่ใช่เพราะปุ๋ยน้อย แต่เป็นเพราะ “ดิน” ยังไม่พร้อมจริง ....

ตราบใดที่ดินไม่ดี ดินไม่สมบูรณ์ ดินไม่มีอินทรีย์วัตถุ ดินไม่มีจุลินทรีย์ ดินเป็นกรด ต่อให้ใส่ปุ๋ยไร่ละกระสอบ สองสามกระสอบ ใส่ไร่ละตันต้นแคนตาลูปก็ไม่โต ตรงกันข้าม จะเล็กลงๆ ๆๆ เพราะ “ปุ๋ยเป็นพิษ-ดินไม่กินปุ๋ย”

* บำรุง ระยะลงหัว :
ทางใบ :
สูตรหัวโต (ไบโออิ + 5-10-40 ) + สารสมุนไพร ทุก 10 วัน
ทางราก : ใส่ยิบซั่ม ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ 8-24-24 (5-10 กก./ไร่) ให้ครั้งเดียว
- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 5-10-40 (2 ล.) รดโคนต้น 15 วัน /ครั้ง
- ให้น้ำสม่ำเสมอพอหน้าดินชื้น

เทคนิคเฉพาะเผือก (ไม่ใช่เคล็ดลับ) :
- เริ่มลงหัวเมื่ออายุประมาณ 4 เดือน ระหว่างลงหัวควรบำรุงรักษาให้มีใบ 8-11 ใบ ใบใหญ่ ก้านใหญ่ และสูง 1.20-1.50 ม. จะได้หัวขนาดใหญ่ น้ำหนักดี คุณภาพดี .... นั่นหมาย ความว่า จะต้องบำรุง “ปุ๋ยถูกสูตร ใช้ถูกวิธี” ตั้งแต่ต้นเล็กๆ

- ก้านเผือกขนาดใหญ่ ตัดใบทิ้งส่งออก (ญี่ปุ่น ฮ่องกง) ได้ ก้านเล็กส่งออกไม่ได้
- เผือกหัวใหญ่ไซส์เกือบ 2 กก. รายได้เท่ากับนาข้าว 7 ไร่ เทียบกันรุ่นต่อรุ่น
- ปล่อยน้ำเข้าไปในร่องระหว่างแปลงปลูก 20-30 วัน/ครั้ง ก็ได้
- งดยาฆ่าหญ้าเด็ดขาด
- แม็กเนเซียม. สร้างคลอโรฟีลด์ ช่วยบำรุงก้านใหญ่ ใบใหญ่ ใบหนาเขียวเข้มถึงวันขุด
- สังกะสี. ช่วยสร้างแป้ง หัวจะใหญ่ น้ำหนักดี
- โรคตากบตาเสือในเผือก คือ เชื้อไฟธอปเทอร่า เกิดจากดินที่เป็นกรด เชื้อปลิวตามลมไปเกาะที่ต้นเผือก แก้ไขด้วยการบำรุงรักษาดินอย่าให้เป็นกรด .... ทั้งนี้ สารเคมีกำจัดโรคแมลง, ยาฆ่าหญ้า, ปุ๋ยเคมีเหลือตกค้างเนื่องจากต้นเอาไปกินไม่หมด คือ สาเหตุหลักที่ทำให้ดินเป็นกรด

- ป้องกันและกำจัดเชื้อราไฟธอปเทอร่า (ตากบตาเสือ) โดยอาศัยจุลินทรีย์ในน้ำหมัก ทั้งตั้งแต่เตรียมดิน และเผือกเริ่มโตแล้ว....ป้องกันและจำกำจัดเชื้อโรคบนต้นด้วยสารสมุนไพร ฉีดพ่นบ่อยๆ ฉีดพ่นพร้อมกับปุ๋ยทางใบ
บนต้น : ด้วยสารสมุนไพรเผ็ดจัด
บนพื้น : ด้วยการรักษาดินอย่าให้เป็นกรด

พันธุ์เผือก : เผือกเนื้อสีขาวหรือสีครีม : เผือกชนิดนี้เมื่อผ่าดูเนื้อในจะพบว่ามี สีขาว หรือสีขาวครีม ได้แก่เผือกพันธุ์ พจ.06, พจ.07, พจ.025, พจ.014, พันธุ์ศรีปาลาวี, และพันธุ์ศรีรัศมี ....

เนื้อสีขาวปนม่วง : เผือกชนิดนี้เมื่อผ่าหัวดูเนื้อ จะพบว่ามีสีขาวลายม่วงปะปนอยู่ ซึ่งจะมีสีม่วงมากหรือน้อยแตกต่างกันในแต่ละพันธุ์ได้แก่ เผือกหอมเชียงใหม่, พันธุ์ พจ.016, พจ.08, พจ.05, และพจ.

นอกจากนี้ ยังมีแยกตามจำนวนหัวขนาดใหญ่ต่อต้น คือ เป็นหัวใหญ่ 1 หรือมาก กว่า 1 หัว/ต้น แยกตามการแตกกอ เช่น แตกกอน้อย 3-10 ต้น แตกกอปานกลาง 10-20 ต้น และแตกกอมาก คือ มากกว่า 20 ต้นขึ้นไป

ขยายพันธุ์เผือก :
เพาะเมล็ด :
เป็นวิธีที่ง่ายแต่ใช้เวลานานกว่าจะย้ายปลูกลงแปลงได้ และในประเทศไทยเผือกแต่ละพันธุ์มีการออกดอกและติดเมล็ดน้อยเกษตรกรไม่นิยมขยายพันธุ์โดยวิธีการเพาะเมล็ด

เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ : เป็นวิธีการขยายพันธุ์เผือกที่ปลอดจากเชื้อที่ติดมากับต้นพันธุ์ได้เป็นปริมาณครั้งละมาก ๆ แต่ต้นทุนการผลิตสูงเกษตรกรยังไม่นิยมขยายพันธุ์โดยวิธีนี้

ใช้หน่อ : เป็นส่วนที่แตกออกมาเป็นต้นเผือกขนาดเล็กอยู่รอบๆ ต้นใหญ่ เมื่อแยกออก มาจากต้นใหญ่หรือต้นแม่แล้วสามารถนำไปลงแปลงได้โดยไม่ต้องเสียเวลาไปเพาะชำ

ใช้หัวพันธุ์ : หรือลูกซอหรือลูกเผือก ซึ่งเป็นหัวขนาดเล็กที่อยู่รอบ ๆ หัวเผือกขนาดใหญ่ วิธีนี้เป็นวิธีที่นิยมทั่วไปทั้งประเทศไทยและต่างประเทศ

แต่ในการปลูกในแต่ละครั้ง ควรเลือกเผือกที่มีขนาดปานกลางไม่เล็กหรือใหญ่เกิน ไป หัวพันธุ์ที่มีขนาดสม่ำเสมอจะทำให้เผือกที่ปลูกแต่ละต้นลงหัวในเวลาใกล้เคียงกัน เก็บเกี่ยวได้พร้อมกัน และที่สำคัญจะทำให้ไม่มีหัวขนาดเล็กและใหญ่แตกต่างกันมาก

การเก็บหัวพันธุ์เผือกหอม :
ใส่ภาชนะเปิด (ตะกร้าพลาสติก) วางไว้ในห้องเย็นอุณหภูมิ 7-10 องศา ซี. สามารถ รักษาคุณภาพหัวพันธุ์ได้นานที่สุด 3 เดือน คือ มีการเน่าเสีย 2 หลังจากนั้นมีการเน่าเสียเพิ่ม ขึ้นถึง 50 เมื่อเก็บรักษานาน 5 เดือน

หัวพันธุ์ที่นำมาเก็บไว้ในบ่อดินมีหลังคาคลุมไว้ และ หัวพันธุ์ที่เก็บไว้ในแกลบดำวางไว้ในสภาพห้องอุณหภูมิปกติ (25-28 องศา ซี.) สามารถรักษาคุณภาพของหัวพันธุ์ไว้ได้นานถึง 5 เดือน โดยมีเปอร์เซ็นต์การเน่าเสียของหัวพันธุ์ 20-22 หัว

** ปลูกเผือกในข้าว :
- ปลูกเผือกน้ำ ริมคันนารอบด้าน ระยะห่าง 80 ซม.
- บำรุงด้วยสูตรขยายขนาดหัว ได้ไซส์หัวละกว่า 1 กก. รับรองไม่พอขาย
หมายเหตุ :
- แบ่งพื้นที่เป็น 3 โซน โซนแรกขุดช่วงเผือกเริ่มแพง โซนที่สองขุดช่วงเผือกราคาแพงสูงสุดของปี โซนที่สามขุดช่วงเผือกเริ่มลงราคา ทั้งนี้ผู้ปลูกไม่อาจรู้ล่วงหน้าว่าจะราคาดีวันที่หรือเดือนไหน จึงต้อง +/- ระยะเวลาเอาไว้

- บำรุงแบบ อินทรีย์นำ เคมีเสริม ตามความเหมาะสมของเผือก .... ของดีจริงนอกจากได้ราคาดีแล้ว ยังมัดใจคนรับซื้อได้อีกต่างหาก

- จะดีไหม .... ทำคันนาใหญ่ๆ กว้าง 2-3 ม. แล้วใช้ปลูกพืชอื่นเสริมนาข้าว เพราะวันนี้ยืนยันแล้วว่า พื้นที่คันนาปลูกผัก สร้างเงินได้มากกว่าข้าว ทั้งๆที่ พื้นที่เท่ากัน .... นอกจากผักบนคันนาแล้ว บางคนยังปลูกเผือกน้ำริมคันนา นี่ก็สร้างเงินได้เหมือนกัน

ประสบการณ์ตรง :
- เผือกราคาดี ต้องไซด์หัวละ 2 กก.ขึ้นไป
- เผือก 1 ไร่ ไซด์หัวละ 2 กก.ขึ้น มีรายได้เท่ากับนาข้าว 7 ไร่
- เผือกส่งออกต้องเกรด น.น. 2 กก./หัว ขึ้นไปเท่านั้น
- เผือกต้องพรวนดินบ่อยๆ
- เผือกต้องหมั่นตัดแต่งตะเกียง
- เผือกไม่ถูกกับยาฆ่าหญ้าอย่างมากๆ
- เผือกบนดินที่เป็นกรด จะเกิดโรคตากบตาเสือ (แอนแทร็คโนส)
- เผือกหัวไซด์ขนาด 2 กก.ขึ้น ก้านใบจะขนาดใหญ่ยาว สามารถขาย (ส่งออก) ได้
- เผือกต้นโตสูง 1.50 ม.ขึ้นไป จะได้หัวขนาดใหญ่ 2 กก.ขึ้น เสมอ
- เผือกปลูกห่างได้จำนวนหัวน้อยแต่ขนาดใหญ่ ได้ราคาต่อหัวสูง ก้านขายได้
- เผือกปลูกชิดได้จำนวนหัวมากแต่ขนาดหัวเล็ก ราคาต่อหัวต่ำ ก้านขายไม่ได้

----------------------------------------------------------------------------------


.



กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©