เสียงหนึ่งจากพวกเรา....

[kimzagass]

.
.
Re: คุณคิดว่าเว็บนี้เป็นอย่างไร? (คะแนน: 1)
โดย Lambo เมื่อ Monday 09 Nov 09@ 15:06:36 ICT
(ข้อมูลผู้ใช้ | ส่งข้อมูลออกไป)
(IP: 124.120.11.190)

ความจริงผมติดตามผลงานของตาคิมมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยพระเจ้าฟีล่อโก๊ะ (2545) ชอบฟังแกพูด เพราะปากแกจัดดี และได้เนื้อหาสาระ

ตั้งแต่ติดตามรายการต่างๆ มา ยังไม่เคยมีรายการไหนให้ข้อมูลเท่ารายการของตาคิม

ขอสนับสนุนให้ทำรายการอย่างนี้ต่อไป เพื่อชาวบ้านจะได้ลืมตาอ้าปากและดวงตาเห็นธรรม

กรุณาอย่าท้อแท้เป็นอันขาด ลูกผู้ฃายชาติทหาร แต่อย่าเป็นพวกเดียวกับพวกทำรัฐประหาร (คมช) เพราะมันทำเพื่อต้องการเข้าสู่อำนาจ ใช่เป่า

ขอให้คุณคิมอดทนเพื่อเกษตรกรต่อไปครับ


นับถือยิ่ง



.

[kimzagass]

ปุจฉา - วิสัชนา

ข้อความในกระทู้นี้ COPY มาจากเมนู "ความคิดเห็นต่อเว้บนี้" เห็นชัดว่านี่คือ "แฟนประจำรายการวิทยุ" สังเกตุจากคำพูด "ฟีล่อโก๊ะ - โก๊ะล่อฝง" ที่เคยพูดบ่อยๆในรายการวิทยุ


เรื่องของเรื่อง มีอยู่ว่า....

ว่างๆ ลุงคิมก็ท่องไปในโลกอินเตอร์เน็ต พบเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับเว้บเราก็เลย COPY มาลงไห้ บางครั้ง (เน้นย้ำ....บางครั้ง) มีการเติมเพิ่มส่วนที่เป็นประสบการณ์ตรงต่อท้ายให้ อย่างที่เห็นๆ

ลุงคิมเพิ่งเข้ามาสัมผัสกับอินเตอร์เน็ตจริงๆ เพียงปีกว่าๆ เท่านั้น แล้วก็เพิ่งจะท่องโลกอินเตอร์เน็ตเป็น (พอเป็น... SNECK ๆ FISH ๆ) หลังจากที่เห็นตัวอย่างจากพวกเราที่ท่องไปในโลกอินเตอร์เน็ตแล้วนำข้อมูลนั้นมานำเสนอนี่เอง.....ลุงคิมก็เลยเอาบ้าง ไงล่ะ

แล้ววันนี้ คนที่เคยท่องไปในโลกอินเตอร์เน็ตแล้วเก็บข้อมูลต่างๆ ล้วนน่าสนใจทั้งนั้นน่ะมาลงไว้ในเว้นนี้น่ะ เลิกท่องโลกอินเตอร์เน็ตแล้วเหรอ จึงเหลือแต่ลุงคิมคนเดียว

อย่างที่ว่านั่นแหละ ลุงคิมมีอายุอินเตอร์เน็ตเพียงปีกว่าๆ ผิดกับพวกเราหลายคนที่อายุอินเตอร์เน็ตนานนับ 10 ปี กันทั้งนั้น.....ลุงคิมเชื่อ (100 เปอร์เซ็นต์) ว่า ทุกคนคงเคยรู้จักหรือรับทราบกับข้อมูลทั้งหลายที่ลุงคิม COPY มาก่อนแล้วอย่างแน่นอน แบบนี้ ลุงคิมมิกลายเป็น "เอามะพร้าวมาขายสวน - สอนหนังสือสังฆราช" หรอกรึ

จากที่เชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ว่า ทุกคนได้รู้เรื่องราวข้อมูลเหล่านั้นจากโลกอินเตอร์เน็ตแล้ว แต่พอมาสังเกตุ "ตัวเลข" ที่มีคนเข้ามาอานก็เห็นว่า "ไม่ใช่น้อย" ยิ่งทำให้สงสัยหนัก ในเมื่อเคยรับรู้ข้อมูลเรื่องราวเหล่านี้แล้ว แล้วทำไมยังตามมาอ่านที่นี่อีกล่ะ หรือว่าไม่ได้ท่องโลกอินเตอร์เน็ตอย่างที่ลุงคิมเชื่อ..... ถึงตรงนี้ กลับยิ่งสงสัยตัวเองหนักเข้าไปอีก สงสัยอะไรน่ะ

ขอความคิดเห็นจากพวกเรานิดนึง การที่ลุงคิม COPY เรื่องราวต่างๆ มาลงไว้ให้อ่านกันเนี่ย ยังพอมีประโยชน์ไหม ออกจะ "รกรุงรัง" หรือเปล่า หรือว่าควร "ปรับ" อย่างไร หรือไม่

ขอเสียงหน่อยนะ
ลุงคิมครับผม

[Biot_11]

ผมว่าเว็ปนี้ดีนะครับ ให้ความรู้เรื่องการเกษตรดีทีเดียว ถึงแม้ว่าลุงคิมจะไม่ใช่นักวิชาการ หรืออาจารย์ภาควิชาเกษตรในมหาวิทยาลัย แต่ลุงคิมก็รู้ลึก รู้จริง ในด้านการเกษตร (ทั้งๆ ที่เป็นทหาร) เท่าที่ได้พูดคุยกับเฮียอ๊อดนะครับ (เพราะบ้านใกล้กัน)

การที่ลุงคิมตั้งกระทู้มาแบบนี้กำลังท้อหรือปล่าวครับ ที่บางช่วงเว็ปอาจจะดูเงียบเหงาไปบ้าง อยากจะบอกว่า บางทีการที่เว็ปเงียบเหงาอาจจะเป็นเพราะคนที่เคยไปเรียนรู้ที่ไร่กล้อมแกล้มมาก็นำกลับมาบอกต่อกับเพื่อนบ้านก็ได้ เช่น ผมอยู่ใกล้กับเฮียอ๊อด ก็จะเข้าไปขอความรู้บ้างข อคำปรึกษาบ้าง ซึ่งเฮียแกก็ใจดีแบ่งฮอร์โมนน้ำดำมาให้ทดลองใช้ดู นำไปใช้กับมะนาวบ้าง ผักที่ปลูกไว้กินเองบ้าง รู้สึกว่าเยี่ยมครับ (ตอนนี้รองบในการผลิตปุ๋ยอยู่นะครับ งบหมด)

ขอให้ลุงคิมสู้นะครับอย่าท้อแท้ ยังมีเกษตรกรอีกจำนวนมาก ที่อยากขอความรู้จากลุงคิม อยากให้ฮึกเหิมเหมือนจ่าเพียร (พ.ต.อ สมเพียร แก้วสมญา) วีรบุรุษแห่งบันนังสตา.นะครับ

ส่วนลุงคิมคงเป็นวีรบุรุษแห่งไร่กล้อมแกล้ม เมืองกาญฯ ละมั้ง

[mixfeed]

ผมสนับสนุนด้วยครับ ผมได้ความรู้ในการปลูกพืชหลายๆ ชนิดแบบละเอียดยิบจากเว็ปแห่งนี้ครับ

ลุงคิมบอกเล่าแบบไม่ปิดบัง แถมมีประสบการณ์ตรงมาถ่ายทอดด้วย บางครั้งมีหยิกแกมหยอก พอให้มันส์ในอารมณ์ แถมมีปุจฉา เพื่อเพิ่มพูนแนวคิดให้กว้างเพิ่มขึ้น แถมลุงแกเป็นห่วงสมาชิกที่เข้ามาเว็ปนี้ตลอด

ขอบคุณลุงคิมจริงๆ ครับ

[kimzagass]

TO K.BIOT-11

ยังไม่ท้อครับ ตรงกันข้ามกลับ "กำลังสนุก" วันนี้ทุกคนในบ้านบอกว่า "พ่อติดเน็ต - คุณตาติดเน็ต - คุณลุงติดเน็ต" กันทั้งบ้านแล้ว

ในชีวิตเกิดมาไม่เคยท้อ "เหนื่อย-ยาก-ปัญหา" มากแค่ไหนก็ทน ทำไปจนสำเร็จตามที่ตั้งใจ

ในชีวิตเกิดมาไม่เคยล้มเหลว เพราะ "เลิก" ก่อนยังไงล่ะ

เว้บนี้ก็เหมือนกัน "ตั้งใจ" ไว้แต่แรกแล้วว่า ข้อมูลในหัวข้อเมนูหลักเต็มครบเมื่อใด เว้บนี้
"ปิด" หรือไม่ก็ "เลิก" ไม่ได้ตั้งเป้าประสงค์ว่าจะต้องประสบความสำเร็จอย่างนั้นอย่างนี้ หรือใดๆ ทั้งสิ้น....คำตอบสุดท้ายที่ให้แก่ตัวเอง คือ ก...ทำมากับมือ


ยังไม่ได้ออกความคิดเห็นเรื่อง COPY ข้อมูลนะ
ลุงคิมครับผม

[ott_club]

มันเหมือนกับเข้าไปในกระแสเลือดแล้วครับ ยากที่จะเอาออก ซึ่งทุกเช้า,บ่าย,ดึกต้องคอยเปิดอินเทอเน็ต เพื่อเช็คความเคลื่อนไหว
บางวันเงียบเหงาก็ออกอาการเซ็งๆ บ้าง ก็เท่านี้แหละครับ

ผมอยากให้ลงวัน เวลา สถานีที่ลุงจัดรายการไว้ในเว้ปไซด์ด้วยครับ เพราะยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าลุงจัดรายการวิทยุด้วย

[kimzagass]

วีรบุรุษ คือ คนที่ตายไล้ว.....

สถานการณ์ คือ ผู้สร้างวีรบุรุษ.....

คนสามารถเป็นวีรบุรุษได้ภายในข้ามคืน ด้วย 3 ปัจจัย
1..... มีสถานการณ์เกิดขึ้น
2..... มีโอกาสได้แก้สถานการณ์ และ (สำคัญที่สุด)
3..... มีคนพูดถึง

พล.ต.อ.สมเพียรฯ ไม่ใช่คนแรก และจะไม่ใช่คนสุดท้ายด้วย
คนที่เคย "เจ็บ" กว่านี้ยังมีอีกมาก เพียงแต่ไม่เข้า "เงื่อนไข 3 ปัจจัย" เท่านั้น


วันใดคุณหัวเราะ สังคมจะหัวเราะกับคุณ - วันใดคุณร้องไห้ สังคมจะปล่อยให้คุณร้องไห้คนเดียว

ลุงคิมครับผม

[poompooy]

ลุงคิมสอนธรรมะด้วยเหรอครับ
ผมอยากให้เอา files จัดวิทยุมาลงให้ download ด้วยครับ
เพราะว่าไม่มีโอกาสได้ฟังเลยครับ เพราะทำงานอยู่
net ก็ใช้มือถือครับ ไปดูที่ you tube กว่าจะได้ดูแต่ละไฟล์ช้ามากๆ
ดียังพอเข้า web ได้

[kimzagass]

ถึงไม่ได้สอนทุกเรื่องก็เหมือนสอนทุกเรื่อง เพราะทุกเรื่องมันเกี่ยวพันกันอยู่แล้ว วิเคราะห์ดีๆ ซิ ธรรมะ. ตรรกะ. สังคม. จิตวิทยา. คณิตศาสตร์. เศรษฐสาตร์. บัญชี. การตลาด. รัฐศาสตร์. การเมือง. วิศวะ. แพทย์. เคมี. ฟิสิกส์. ชีวะ. ฯลฯ ทุกหัวข้อวิชาเกี่ยวข้องกันทั้งนั้น ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ไม่ประเด็นใดก็ประเด็นหนึ่ง เหมือนสายโซ่ที่ต้องมีหลายห่วง ถ้าห่วงใดห่วงหนึ่งหายไปก็ไม่ใช่โซ่ หรือเป็นโซ่ไม่สมบูรณ์ใช้งานไม่ได้....ว่าไหม

เหมือนเรียนหนังสือในโรงเรียน ชั้นไหนก็แล้วแต่ ทุกวิชาเกี่ยวพันกันทั้งนั้น เว้นเสียแต่ดูไม่ออก วิเคราะห์ไม่เป็น ยกตัวอย่าง วิชาวาดขียนก็เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ได้ หรือวิชาพละศึกษาก็เกี่ยวกับฟิสิกพลศาสตร์ได้.....มองออกไหมว่ามันเกี่ยวพันกันตรงไหน

นับประสาอะไรกับเกษตร เรื่องพืชอย่างเดียว ยังไม่รวมประมง. สัตว์เลี้ยง. เห็ด. ในพืชก็ต้องมี "ปัจจัยพื้นฐาน" รวม 6 ปัจจัยเกี่ยวพันกันอยู่....มองให้ครบทุก "มิติ" หรืออ่าน LINE ให้ทะลุปรุโปร่งแล้วจะเข้าใจได้เอง เข้าใจจนพูดปากเปล่า 3 วัน 7 คืน ไม่หยุดได้นั่นแหละ

เรื่องรายการวิทยุก็เคยมีสมาชิกที่เป็น นศ.สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เคยไปฝึกงานที่ไร่กล้อมแกล้ม รับอาสาบันทึกเสียงแล้วนำลงในเว้บนี้ แรกๆ ก็ O.K. ไฟแรง แต่ตอนนี้เลิกราไปแล้วคงไฟมอด.......ลองค้นหาในกระทู้เก่าก็ได้

เคยมีคนถามว่าลุงคิมทำไมไม่บันทึกเสียงเอง ตอบสั้นๆ คำเดียวไม่ต้องแปล "ขี้เกียจ" ครับ แม้แต่เว้บนี้ยังขี้เกียจเลยคุณ บอกแล้วไง อีกไม่นานก็เลิก


ยกมือขึ้นบ๊ายบาย เป็นความหมายว่าอ้ายลาก่อน
ลุงคิมครับผม

[kritsadalampang]

สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่านและลุงคิม

ผมอยากจะยกธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตอบปัญหาของลุงคิมที่ตั้งกระทู้นี้ครับเพราะผมคิดว่าการที่ลุงคิมได้มีความต้องการหาคำตอบจากการกระทำที่ลุงคิมตั้งใจและเจตนาทำในสิ่งที่ลุงคิมมั่นใจว่าดี ผมคิดว่าธรรมะข้อนี้ตอบโจทย์ลุงคิมได้ตรงเที่ยงแท้ไม่มีลำเอียงเป็นคำสอนที่องค์พระบรมครูท่านสอนด้วยความตั้งใจที่ดีให้แก่ทุกๆคนโดยไม่มีอกุศลใดๆแอบแฝงมันผ่านมาตั้ง 2500 กว่าปีแต่ก็ยังไม่ล้าหลัง

อานิสงส์การเจริญพรหมวิหาร ๔
พรหมวิหาร แปลว่า ธรรมเป็นที่อยู่ของพรหม คำว่า พรหม หมายถึงประเสริฐ เป็นอันได้ความว่า คุณธรรม ๔ อย่างนี้ เป็นคุณธรรมที่ทำผู้ประพฤติปฏิบัติให้เป็นผู้ประเสริฐ คือ เป็นมนุษย์ประพฤติธรรม ๔ ประการนี้ ก็เป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐโดยคุณธรรม ถ้าตายจากมนุษย์ก็เป็นเทวดาผู้ประเสริฐโดยบุญญาธิการ คือไปเกิดบนชั้นพรหม นอกจากความประเสริฐโดยธรรมในสมัยที่เป็นมนุษย์แล้วท่านว่าคุณธรรม ๔ ประการนี้ ยังให้อานิสงส์เป็นความสุขแก่ผู้ปฏิบัติถึง ๑๑ ประการ ตามที่ท่านกล่าวไว้ในวิสุทธิมรรค ดังต่อไปนี้

๑. สุขัง สุปฏิ นอนหลับเป็นสุข เหมือนนอนหลับในสมาบัติ
๒. ตื่นขึ้นมาก็มีความสุข มีอารมณ์แช่มชื่นหรรษา ไม่มีความขุ่นมัวในใจ
๓. นอนฝันก็ฝันเป็นมงคล มิฝันเห็นสิ่งลามก
๔. เป็นที่รักของมนุษย์ เทวดา พรหม และภูตผีทั้งปวง
๕. เทวดาและพรหม จะรักษาให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง
๖. จะไม่มีอันตรายจากเพลิง ไม่มีอันตรายจากสรรพาวุธและยาพิษ
๗. จิตจะตั้งมั่นในอารมณ์สมาธิเป็นปกติ สมาธิที่ได้ไว้แล้วจะไม่เสื่อม จะเจริญรุดหน้ายิ่งขึ้น
๘. มีดวงหน้าผุดผ่องเป็นปกติ
๙. เมื่อจะตาย จะมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ สติมิฟั่นเฟือน
๑๐. ถ้ามิได้บรรลุมรรคผลในชาตินี้ เพราะทรงพรหมวิหาร ๔ นี้ผลแห่งการเจริญพรหมวิหาร ๔ นี้ก็จะส่งผลให้ไปเกิดในพรหมโลก
๑๑. มีอารมณ์แจ่มใส จิตใจปลอดโปร่ง ทรงสมาบัติวิปัสสนา และทรงศีลบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นปกติ
รวมอานิสงส์การทรงพรหมวิหาร ๔ มี ๑๑ ประการด้วยกัน ต่อนี้ไปจะได้นำหัวข้อพรหมวิหาร ๔ มากล่าวไว้เพื่อศึกษา

หัวข้อพรหมวิหาร ๔
๑. เมตตา ความรัก อันเนื่องด้วยความปรารถนาดี ไม่มีอารมณ์เนื่องด้วยกิเลสที่นับเนื่องในกามารมณ์ร่วมในความรู้สึก
๒. กรุณา ความสงสารปรานี มีความประสงค์จะสงเคราะห์ให้พ้นทุกข์
๓. มุทิตา ความมีจิตชื่นบาน พลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี คือ ไม่มีจิตริษยาเจือปน
๔. อุเบกขา มีอารมณ์เป็นกลางวางเฉย ไม่เอียงซ้ายเอียงขวา คือทรงความเป็นธรรม


คำอธิบายในพรหมวิหาร ๔ นี้ ไม่น่าจะต้องอธิบายมาก เพราะเป็นธรรมประจำใจ ชินหูเป็นปกติแล้ว จะขอย้ำเพื่อความแน่ใจไว้สักเล็กน้อย ตามธรรมเนียม ของนักเขียน จะไม่เขียนเลยก็จะเสียธรรมเนียม

๑. เมตตา แปลว่า ความรัก หมายถึง ความรักที่มุ่งเพื่อปรารถนาดี แต่ต้องไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ จะเป็นผลตอบแทนทางกำลังใจหรือวัตถุก็ตาม จึงจะตรงกับคำว่าเมตตาในที่นี้ ถ้าทำไปแล้วหวังผลตอบแทนบุญคุณด้วยการแสดงออกของผู้รับเมตตา หรือหวังตอบแทนด้วยวัตถุ ความต้องการอย่างนั้นถ้าปรากฏในความรู้สึก เป็นเมตตาที่เจือด้วยอารมณ์กิเลส ไม่ตรงต่อเมตตาในพรหมวิหารนี้
ลักษณะของเมตตา ควรสร้างความรู้สึกคุมอารมณ์ไว้ตลอดวันว่า เราจะหวังสร้างความเมตตาสงเคราะห์ เพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่มีในโลกนี้ทั้งมวล เราจะไม่ สร้างความสะเทือนใจ ความลำบากกายให้เกิดขึ้นแก่คนและสัตว์ เพราะความสุขความทุกข์ของคนและสัตว์ทั้งมวล เราถือเป็นภาระของเราที่จะต้องสงเคราะห์หรือสบับสนุน ความทุกข์มีขึ้น เราจะมีทุกข์เสมอด้วยเขา ถ้าเขามีสุข เราจะสบายใจกับเขาด้วย มีความรู้สึกรักคนและสัตว์ทั่วโลกเสมอด้วยรักตนเอง

๒. กรุณา แปลตามศัพท์ว่า ความสงสาร หมายถึงความปรานี ปรารถนาให้เขาพ้นทุกข์ ความสงสารปรานีนี้ก็มีอาการไม่หวังผลตอบแทนเช่นเดียวกับเมตตา มุ่งหน้าสงเคราะห์คนและสัตว์ที่มีความทุกข์อยู่ให้หมดทุกข์ตามกำลังกาย กำลังปัญญา กำลังทรัพย์เท่าที่จะทำได้
ลักษณะกรุณา ก็คือการสงเคราะห์ในการให้ ปันด้วยวัตถุตามกำลังที่พอจะช่วยได้ ถ้าวัตถุของเรามีไม่พอ ก็พยายามแสวงหามาสงเคราะห์โดยธรรม คือ หามาโดยชอบธรรม ทั้งนี้หมายความว่า ถ้าผู้ที่จะสงเคราะห์ขัดข้องทางวัตถุ ถ้าตนเองแสวงหามาได้ไม่พอเหมาะพอดี ก็แนะนำให้ผู้หวังสงเคราะห์ไปหาใครคนใดคนหนึ่งที่คิดว่าเขาจะสงเคราะห์ เป็นการชี้ช่องบอกทาง ถ้าเขาขัดข้องด้วยวิชา ก็สงเคราะห์บอกกล่าวให้รู้ตามความรู้ ถ้าตนเองรู้ไม่ถึงก็แนะนำให้ไปหาผู้ที่เราคิดว่ามีความรู้พอบอกได้

๓. มุทิตา แปลตามศัพท์ว่า มีจิตอ่อนโยน หมายถึงจิตที่ไม่มีความอิจฉาริษยาเจือปน มีอารมณ์แจ่มใสแช่มชื่นตลอดกาลเวลา เห็นใครได้ดีก็ผ่องใสชื่นอกชื่นใจ มีอาการคล้ายกับตนพลอยได้ด้วย ทั้งนี้อารมณ์ของท่านมีมุทิตาประจำใจนั้นคิดอยู่เสมอว่า ถ้าคนทั้งโลกมีโชคดีด้วยทรัพย์และมีความเฉลียวฉลาดเหมือนกันทุกคนแล้ว โลกนี้จะเต็มไปด้วยความสุขและเยือกเย็น ปราศจากภยันตรายทั้งมวล คิดยินดีให้ชาวโลกทั้งมวลเป็นผู้มีโชคดีตลอดวันและคืน อารมณ์พลอยยินดีนี้ต้องไม่เนื่องเพื่อผลตอบแทน ถ้าหวังการตอบแทนแม้แต่เพียงคำว่าขอบใจ อย่างนี้เป็นมุทิตาที่อิงกิเลส ไม่ตรงต่อมุทิตาในพรหมวิหารนี้ ความแสดงออกถึงความยินดีในพรหมวิหาร ไม่หวังผลตอบแทนด้วยกรณีใด ๆ ทั้งสิ้น

๔. อุเบกขา แปลว่า ความวางเฉย ไม่ใช่เฉยตลอดกาลใครจะเป็นอย่างไรก็เฉย ความวางเฉยในพรหมวิหารนี้หมายถึงเฉยโดยธรรม คือ ทรงความยุติธรรม ไม่ลำเอียงต่อผู้ใดผู้หนึ่งที่จะต้องได้รับทุกข์หรือรับสุข พร้อมกันนั้นก็มีอารมณ์ประกอบด้วยความเมตตาปราณี พร้อมที่สงเคราะห์ในเมื่อมีโอกาส

นี้คือคำตอบที่ตรงกับการที่ลุงคิมต้องการทราบโดยไม่มีการที่จะลำเอียงใดๆ จาก....

นาย กฤษฎา ลำปาง
ขอบคุณครับผม

[ingdoy]

สวัสดีค่ะลุงคิม

ที่ลุงคิมถามว่า ลุงคิม copy เรื่องราวต่าง ๆ มาให้อ่านเกิดประโยชน์หรือไม่ ออกจะรกรุงรังหรือเปล่า

...ประโยชน์นี่มีแน่นอนค่ะ บางคนก็อาจจะอ่านแบบผ่าน ๆ เพราะไม่ได้ปลูกต้นไม้ชนิดนั้น

...การหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต บางครั้งจะมีการเซิสหาในสิ่งที่สนใจ ซึ่งจริง ๆ แล้ว หนูเลี้ยงกล้วยไม้ ก็จะสนใจแต่เรื่องกล้วยไม้ แต่...ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ ล้วนมีความเกี่ยวเนื่องกัน ... พอมาอ่านเวปของลุงคิม ก็เลยสนใจ เพราะลุงคิมมีสูตรปุ๋ยที่ดูแล้วนำไปปรับใช้กับกล้วยไม้ได้ และที่ดีที่สุดคือ มีการอธิบายว่า ในปุ๋ยตัวนั้นมีอะไรบ้าง และเมื่อตั้งใจที่จะศึกษาจริง ๆ อือม์ มันไปด้วยกันได้
ทำให้ทุกวันนี้ หัดทำปุ๋ยไว้ใช้เอง และศึกษาเรื่องธาตุอาหาร ฮอร์โมนพืชต่าง ๆ ทำให้เกิดความมั่นใจขึ้น ว่า ทุกวันนี้เราเอาอะไรให้ต้นไม้ของเรากิน กินแล้วได้อะไร เป็นเรื่องที่ทำแล้วสนุก มีอะไรให้ศึกษามากมาย

...ทุกวันนี้เวลาเข้าเวปลุงคิม ส่วนใหญ่จะหาอ่านเกี่ยวกับธาตุอาหาร และประสบการณ์ตรงต่าง ๆ เพื่อนำไปปรับใช้กับกล้วยไม้ค่ะ บางทีก็เข้ามาอ่านนานมาก อ่านวนไปเวียนมา และสุดท้ายก็พิมพ์เอาไปอ่านเป็นหนังสือธรรมะก่อนนอนซะเลย

...การตอบในกระทู้ บางคนไม่มีประสบการณ์ในการใช้อินเตอร์เน็ต เป็นเรื่องยากที่จะพิมพ์คำตอบหรือพิมพ์คำถาม บางคนก็ถนัดอ่านอย่างเดียว ไม่ถนัดในการแสดงความคิดเห็น เพราะยังไม่มีความมั่นใจในพื้นฐานความรู้ของตัวเองบ้าง ขอลุงคิมอย่าเพิ่งท้อเลยค่ะ ระยะเวลานานไปก็อาจจะมีความสนิทสนมในการที่จะแสดงความคิดเห็นออกมากันบ้าง...อย่างพิมพ์ความคิดเห็นในกระทู้นี้ ใช้เวลาร่วม ๆ ชั่วโมงเหมือนกันค่ะ เพราะการพิมพ์เป็นตัวอักษร เป็นข้อความ ต้องคิดก่อนว่าสมควรหรือเปล่า ไม่ถูกไม่ต้อง ไม่สมควรก็ลบ พิมพ์ใหม่ ไม่เหมือนกับคำพูด บางทียกหูคุยกันกริ๊งเดียวก็จบ

ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ลุงคิมทำต่อไปค่ะ

อิงดอย..

[kimzagass]

TO K.INGDOY.....

1.... แว่วๆว่าคุณมีเว้บส่วนตัวด้วย ถ้าไม่ขัดข้องบอกหน่อยซี่ บอกตรงนี้ที่นี่แหละ แบบคลิกไปได้เลยน่ะ เชื่อว่าหลายคนคงสนใจเหมือนลุงคิม

2.... อย่างที่บอกนั่นแหละ ลุงคิมเพิ่งสัมผัสกับอินเตอร์เน็ต อายุแค่ปีกว่าๆ เอง แล้วก็เพิ่งท่องโลกอินเตอร์เน็ตเป็นเมื่อไม่กี่เดือนมานี้เอง..... คนที่เขาเล่นอินเตอร์เน็ตมาแล้วหลาย 10 ปี คงเคยท่องโลกอินเตอร์เน็ตมาแล้วทั้งนั้น ไม่งั้นจะมีอินเตอร์เน็ตไว้ทำไม จริงไหม

ลุงคิม (จิว แป๊ะ ทง) ท่องไปในโลกอินเคตอร์เน็ต แล้ว COPY อะไรต่อมิอะไรที่ตัวเองคิด (คิดเอง ถามเอง) ว่าน่าสนใจมาลงไว้ โดยลืมคิดไปว่า เรื่องราวพวกนั้นเก่าแล้วสำหรับคนอื่นๆ นี่แหละที่เรียกว่า "มะพร้าวขายสวน - สอนหนังสือสังฆราช" ละ หรือก็ "รกรุงรัง" เปล่าๆ

3.... เห็นมีสมาชิกบางคนบอก ชอบและสนใจ "สูตร" กับ "ประสบการณ์ตรง" ที่ลุงคิมเคยสัมผัสมากับมือ อันนี้ก็ O.K. จะทะยอยเล่าสู่ฟัง (อ่าน) ใจเย็นหน่อยก็แล้วกัน เพราะงานเขียนต้องมีอารมย์ ไม่งั้นเขียนไม่ออก

4.... ขอคำตอบ COPY อะไรต่อมิอะไรมาลงให้ ดี/ไม่ดี อย่างไร ?

ลุงคิมครับผม

[ingdoy]

4.... ขอคำตอบ COPY อะไรต่อมิอะไรมาลงให้ ดี/ไม่ดี อย่างไร ?

ตอบว่า "ดีค่ะ" เพราะ ....

1. เวปจะไม่ตาย ในที่นี้คือ สมาชิกเปิดเข้ามา มีข้อมูลหรือเนื้อหา ที่เพิ่งมาลงใหม่ (ดูจากวันที่) ถึงจะเป็นเรื่องเก่า แต่การเอามาลงใหม่ ก็เหมือนกับเป็นเรื่องใหม่ อ่านแล้วอาจจะคุ้น แต่ก็ดีไม่ใช่หรือ คนเราลืมง่าย ยิ่งเรื่องที่ต้องอ่านแล้วทำความเข้าใจ บางทีก็คร้านที่จะอ่าน ก็ต้องตอก ต้องย้ำ กันไว้ค่ะ

2. สมาชิกยังอุ่นใจว่าลุงคิมยังอยู่ แต่ก็ต้องเข้าใจว่างานเขียนต้องมีอารมย์ ข้อนี้เข้าใจจริง ๆ ค่ะ เพราะหนูก็เป็นช่าง ที่ต้องทำงานเกี่ยวกับการแต่งรูป อารมย์ศิลปินก็ต้องมีบ้าง

3. ได้ช่วยสำหรับคนที่หาข้อมูลไม่เป็น อันนี้เป็นเหมือนกันน๊ะค๊ะ สำหรับคนที่ไม่รู้จะหาข้อมูลอะไร มาจากตรงไหน ไม่รู้จะพิมพ์คำว่าอะไรลงในกูเกิลเพื่อหาข้อมูล (ก็ลูกมันสอนมาให้เข้ามาที่นี่ที่เดียว เปิดไปไหนก็ไม่เป็น ) แบบนี้ก็มีน๊ะค๊ะ


...สำหรับเวปของ "indoyorchid" ส่วนมากก็มีแต่รูปกล้วยไม้ที่เลี้ยงไว้ และมีจำหน่ายบ้างก็นิดหน่อย ตามประสามือสมัครเล่น มีทดลองทำปุ๋ยด้วยค่ะ อยากให้ลุงคิมไปติชมไว้เหมือนกันค่ะ
เพราะ ทำตามวัตถุดิบที่หาได้ และผสมผสานเอาค่ะ

http://www.212cafe.com/freewebboard/list3.php?user=ingdoyorchid