ถาม-ตอบ ปัญหางานสัญจร.. *วัดอัมพวัน สองพี่น้อง ส.พ. 14 JUL

[kimzagass]

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร งานสีสันสัญจร....
*วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี 14 JUL
--------------------------------------------------------------------------------

ถือเป็นมิติใหม่แห่งงานส่งเสริมการเกษตร การส่งเสริมแบบนี้เป็นแบบ MOUTH TO MOUTH FACE TO FACE ภาษาไทยแบบแปลไทยเป็นไทย เรียกว่า “ใจถึงใจ” ประมาณนั้น

การได้พูดคุยกันแบบใจถึงใจ ทำให้บรรยากาศ ความรู้สึก ความตั้งใจ ความคิดใหม่ ความจำได้ ต่อเรื่องราวที่พูดคุยกันดีมากๆ

คำพูดบางคำ จากคนบางคน ในบางโอกาส เราได้ฟังแล้วเอามาปรับใช้ จะสามารถแก้ไขสถานการณ์ที่เลวร้ายให้กลายเป็นดีได้ (เซอร์ วิลส์ตั้น เชอร์ชิล รัฐบุรุษอังกฤษ)
-------------------------------------------------------------------------------

โปรด .... โปรดเถิดดวงใจ โปรดได้ฟังเพลงนี้ก่อน....

สาระเรื่อง "รูป" กับ "ข้อความ" สอดคล้องกันบ้าง ไม่สอดคล้องกันบ้าง ไม่ได้เจตนาหรือเจตนาก็ได้
อย่า SERIOUS .... THANK YOU
-------------------------------------------------------------------------------



1. นา 20 ไร่ คนเดียวทำ :
ถาม :
ได้ยินว่า เมื่องานสัญจรที่วัดเสือ ครั้งที่แล้ว สมช.ผู้หญิงโสดคนหนึ่ง เป็นพยาบาล ลาออกมาทำนาช่วยแม่ ในบ้านมีแม่คนเดียว ที่นา 40 ไร่ ฯลฯ ....

ของฉันที่ 20 ไร่ ลาออกจากงานบริษัท ทำนาข้าวช่วยพ่อแม่ ไม่มีความรู้ ไม่มีแรงงาน ไม่รู้จักตลาด ไม่มีประสบการณ์ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับนาข้าว ....

ตอบ :
* หาข้อมูลทางวิชาการเรื่อง “พืชตระกูลข้าว” จาก เอกสารตำราที่มี รายละเอียด/หัวข้อ/เรื่อง/ฯลฯ ว่าด้วย “ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค-ตลาด-ต้นทุน-แปรรูป-เทคโนโลยี-เครื่องทุ่นแรง-บริหารจัดการ-บรรจุภัณฑ์-ฯลฯ” ที่ เกี่ยวข้อง/เกี่ยวเนื่อง/เกี่ยวพัน/เกี่ยวก้อย ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ กับพืชตระกูลข้าวให้มากที่สุด

* หาข้อมูลทางประสบการณ์ตรงเรื่อง “การทำนาข้าว” จาก “พ่อแม่/ญาติ/เพื่อนบ้าน/ฯลฯ ที่เคยทำกับมือ ทั้งที่ “สำเร็จและล้มเหลว” ให้มากที่สุด แล้ว “คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ” อย่างเป็นเหตุเป็นผล ถึงสาเหตุและผลรับ

* หาข้อมูลเรื่อง “ต้นทุน” ทุกรายการที่ “ซื้อ/ทำเอง/เช่า/จ้าง” ต่อผล “ระยะสั้น ระยะปานกลาง ระยะยาว”
* หาข้อมูลเรื่อง “จ้างแรงงาน” ค่าใช้จ่ายแต่ละรายการจ้าง และรายละเอียดอื่นๆ
* หาข้อมูลเรื่อง “เครื่องทุ่นแรง” ประเภทเครื่องจักรกล เช่น รถไถ รถดำ รถหยอด เครื่องหยอด รถเกี่ยว เครื่องสี เครื่องแปรรูป ฯลฯ ในรูปแบบของการ ซื้อ/เช่า/จ้าง

* หาข้อมูลเรื่อง “การตลาด” ขายให้โรงสี ขายเป็นข้าวปลูก สีเป็นข้าวกล้อง ขาย ส่ง/ปลีก/พันธะสัญญา
* หาข้อมูลเรื่อง “การแปรรูป” ว่าด้วยเครื่องจักร ชนิด/ประเภท
* หาข้อมูลเรื่อง “การปฏิบัติ” ศึกษาส่วนที่จะเป็นปัญหาทุกประเด็นแล้วป้องกันล่วงหน้า วางแผนจัดตารางเวลางาน เปิดตำรา ทำตามโผ

* หาข้อมูลเรื่องประเภท “ไม่คาดคิด” หรือ "ปัญหาโลกแตก ปัญหาน้ำเน่า"....
* หาข้อมูลเรื่อง “ปชส.” โฆษณาในโซเชียล **

หมายเหตุ :
- บันทึกทุกเรื่องเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมนำมา “คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ” ซ้ำได้ทุกเมื่อ
- ปรึกษาผู้ร่วมงานในบ้านบ่อยๆ
- ปรึกษาบุคคลนอกบ้านบ่อยๆ เมื่อมีโอกาส
-----------------------------------------------------------------------------



2. นาข้าว BIOI 4 ครั้ง .... O.K. :
สมช. ผู้หญิง กำลังเลือกซื้อ ปุ๋ยส่วนผสมสำหรับทำเอง กับปุ๋ยสำเร็จพร้อมใช้สำหรับนาข้าว

ลุงคิมถาม : ถามจริง ฉีดปุ๋ยทางใบนาข้าว ระยะกล้า 4 รอบ, ระยะออกรวง 2 รอบ, ระยะน้ำนม 4 รอบ, ระยะพลับพลึง 2 รอบ รวม 1 รุ่นฉีดพ่นทางใบ 12 รอบ .... ทำไหวไหม ?
สมช.ตอบ : ไหวน่ะไหว อาทิตย์ละครั้ง ไม่ถี่ไม่ห่างเกินไปหรอก แต่ปัญหาคนรับจ้างฉีด อันนี้มันหาไม่ได้

ลุงคิมถาม : เท่าที่ได้ยินมา นาข้าว 1 รุ่นฉีดทางใบ 4 ครั้ง ระยะกล้า 1 ครั้ง, ระยะออกรวง 1 ครั้ง, ระยะน้ำนม 2 ครั้ง....ใช่ไหม ?
สมช.ตอบ : ใช่

ลุงคิมถาม : ถามจริง ข้าวที่ได้ ข้าวลีบ-เมล็ดไม่แกร่ง-เมล็ดไม่ใส-ท้องไข่-ข้าวป่น มีมากไหม ?
สมช.ตอบ : ไม่มีเลยลุง โรงสียอมรับ น้ำหนักดี ทำพันธุ์ก็ดีด้วย

ลุงคิมถาม : (คิดในใจ นี่คือผลจากแม็กเนเซียม. สังกะสี.) .... ยังงั้นนะ
สมช.ตอบ : จ้ะ
---------------------------------------------------------------------------

3. ฝรั่งไร้เมล็ด :
ถาม : ฝรั่งกิมจู คนขายกิ่งพันธ์บอกไร้เมล็ด ปลูกแล้วมีเมล็ด แก้ไขอย่างไร ?
ตอบ :
- คนขายโกหก เท่าที่มีข้อมูล ฝรั่งไร้เมล็ด ไร้ 100% จริงๆ มีพันธุ์เดียว คือ “สาลี่ทอง” เทานั้น
- กิมจูโดยพันธุวิทยาก็มีเมล็ด แต่น้อยกว่าพันธุ์อื่นที่มีเมล็ดเหมือนกัน
- การทำให้ฝรั่งไร้เมล็ด ระยะดอก-ผลเล็ก ให้ "จิ๊บเบอเรลลิน" 2-3 รอบ จะช่วยให้มีเมล็ดน้อยแต่เป็นเมล็ดขนาดเล็ก หรือไม่มีเลย ....

หรือใช้จิ๊บเบอเรลลิน 10 กรัม/น้ำ 1 ล. ป้ายที่ก้านเกสรตัวเมีย (ตัดก้านเกสรตัวผู้แล้ว) 1 ครั้ง เมื่อฝรั่งผลนั้นโตขึ้นจะไม่มีเมล็ดแต่รูปทรงผลอาจจะบิดเบี้ยว....

วิธีนี้ ทำกับดอกไหนจะได้แค่ดอกผลนั้นผลนั้นเท่านั้น ดอกที่ไม่ได้ทำก็จะไม่ได้....
-----------------------------------------------------------------------------


4. สปริงเกอร์ทุเรียน :
ถาม : ต้นทุเรียนสูงมาก ติดสปริงเกอร์ให้ทางใบอย่างไร ?
ตอบ :
- คำถามนี้ อธิบายพูดทางวิทยุ 1,000 ครั้ง ไม่เท่าดูของจริงกับตา 1 ครั้ง .... ดูผังติดสปริงเกอร์ เขียนบนโต๊ะ 100 ครั้ง ไม่เท่าดูของจริงกับตา 1 ครั้ง .... ดูของจริงกับตา ครึ่งครั้ง ไม่เท่าทำกับมือ 1 ครั้ง .... ทำกับมือสำเร็จ 100 ครั้ง ไม่เท่าทำล้มเหลว 1 ครั้ง .... ดูกับตา-จับกับมือ-ทำสำเร็จ-ทำไม่สำเร็จ มีผลทั้งนั้น

- ทุเรียน มะม่วง ไม้ผลยืนต้นเหมือนกัน .... มะม่วงปกติ ไม่ได้คุมขนาดทรงพุ่ม (สูง 10 ม.) ต้นสูงกว่าทุเรียนโป่งน้ำร้อน คุมทรงพุ่ม (สูง 5 ม.)

- กำลังจะบอกว่า “ความสูง-ความต่ำ-ความกว้าง-ความแคบ” ไม่มีปัญหา สปริงเกอร์ช่วยได้ทั้งนั้น สำคัญที่วางท่อระบบ “แรงดัน-แรงอัด-ขึงหัว-ขึงท้าย-น้ำวน” ให้ถูกต้องเท่านั้น

สปริงเกอร์ กะเหรี่ยงหน้ามืด :
- จากท่อตั้งมีหัวสปริงเกอร์ที่โคนต้น (ให้ทางราก) สูงเท่าที่ทำไว้ ประจำต้น ต่อความยาวให้สูงถึงยอด เหนือยอด หัวสปริงเกอร์ที่ยอดเมื่อพ่นน้ำออกมา ละอองน้ำก็จะสาดกระเซ็นทั่วต้น กระทบใบบนลงใบล่างกระทั่งถึงพื้น บางโอกาสลมหวน พัดละอองน้ำตลบลงไต้ใบได้ด้วย .... ต้นเดียวทำท่อตั้งมีหัวสปริงเกอร์ 1ท่อ 2ท่อ 3ท่อ 4ท่อ ขึ้นอยู่กับขนาดกว้างทรงพุ่ม

- กรณีทำพร้อมกันหลายต้น ให้แบ่งเป็นโซนๆ ท่อตั้งแต่ละต้นในโซนเดียวกันต้องสูงเท่าๆกัน ถ้าสูงไม่เท่ากัน ท่อตั้งของต้นที่ต่ำกว่าจะพ่นน้ำได้แรงกว่าท่อตั้งของต้นที่สูงกว่า

- ท่อตั้งความสูงมากๆ ให้ยึดกับกิ่ง ป้องกันโยกเยก
- จากท่อตั้งหัวสปริงเกอร์ที่โคนต้น (ให้ทางราก ต่อยาวสูงถึงยอดให้ทางใบแล้ว) นั้น ให้ทำทางแยก เตรียมทำท่อตั้งหัวสปริงเกอร์สำหรับให้ทางราก พร้อมกับติดวาวล์แยกระหว่างท่อตั้งให้ทางใบ (ยอด) กับท่องตั้งให้ทางราก

การใช้งาน :
- จะให้ทางใบ เปิดวาวล์แยกทางใบ ปิดวาวล์แยกทางราก ....
- จะให้ทางรากเปิดวาวล์แยกทางราก ปิดวาวล์แยกทางใบ....
- จะให้ทั้งทางใบทางรากพร้อมกัน ก็ให้เปิดวาวล์ทั้ง 2 ตัวพร้อมกัน ....
- ทำเยี่ยงนี้ ทีละต้นๆ ทุกต้นในโซนเดียวกันจนครบทุกต้น .... มะม่วง RKK ระยะชิด ห่างกันแค่ 3 ม. นั่นคือ เดินเปลี่ยนวาวล์ 3ก้าวก้ม 3ก้าวก้ม จะไม่หน้ามืดได้ไง...ว่ามั้ย

สปริงเกอร์ กะเหรี่ยงเจ้าพระยา :
- วางระบบ "ให้ทางราก" กับ "ให้ทางใบ" แยกกัน ทั้งๆที่อยู่โคนต้นเดียวกัน .... เรียกว่า "ระบบคู่"
- มีวาวล์แยกระหว่าง “ให้ทางใบ” กับ “ให้ทางราก” ที่หน้าโซน
- มีหม้อปุ๋ยหน้าโซน 1 หม้อ แต่มีวาวล์แยกสำหรับให้ทางใบทางราก
- วางท่อตั้งสูงถึงยอด สำหรับให้ทางใบ 1 ท่อตั้ง / 1 ต้น ต้นทรงพุ่ม ใหญ่-ใหญ่มาก อาจพิจารณาวางท่อตั้ง 2-3 ท่อตั้ง / 1 ต้น จนครบทุกต้นในโซนที่แบ่งไว้

- วางท่อตั้งสูงจากพื้น 1 ม. สำหรับให้ทางราก 1 ท่อตั้ง / 1 ต้น ต้นทรงพุ่ม ใหญ่-ใหญ่มาก อาจพิจารณาวางท่อตั้ง 2-3 ท่อตั้ง / 1 ต้น จนครบทุกต้นในโซนที่แบ่งไว้

- มะม่วง RKK จะให้ทางใบหรือทางราก ไม่ต้องเดินไปเปลี่ยนวาวล์ที่โคนต้น ทีละต้นๆ แต่ ยืน/นั่ง เปลี่ยนวาวล์ที่หน้าโซน จุดเดียว ครั้งเดียว หรือเปิดวาวล์แล้วเดินตัวเปล่า สำรวจการทำงานของหัวสปริงเกอร์ แต่ละหัว แต่ละจุด ก็ทำได้ .... นี่แหละเจ้าพระยา

การใช้งาน :
- จะให้ทางใบ เปิดวาวล์ให้ทางใบ-ปิดวาวล์ให้ทางราก ....
- จะให้ทางราก เปิดวาวล์ทางราก-ปิดวาวล์ทางใบ....
- จะให้ทั้งทางใบทางรากพร้อมกัน ก็ให้เปิดวาวล์ทั้ง 2 ตัวพร้อมกัน ....

ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล (RKK) :
-ไม้ผลยืนต้น ทุกสายพันธุ์ ระยะชิดพิเศษ แบ่งโซน ๆละ 50 ต้น (รวม 20 โซน, 1.000 ต้น)
- ใช้ปั๊มไฟฟ้า 3 แรงม้า
- ทำงานครั้งละ 1 โซน, แรงงาน 1 คน, เวลา 5 นาที (ทางใบ) 10 นาที (ทางราก)
- สรุปทำงานทั้งแปลง ครั้งละ 2 ชม. แรงงานคนเดิม
- หม้อปุ๋ยประจำหน้าโซนทุกโซน
- ใช้งานมาแล้ว 10 (+) ปี เชื่อว่ายังใช้ต่อได้อีก 10-20-30 ปี

เทคนิค พิเศษ/เฉพาะ :
-ให้ปุ๋ย อินทรีย์/เคมี ทางราก ไม้ผลยืนต้น ....
“อินทรีย์” ตามความเหมาะสม ....
“เคมี” อัตรา 1/2 กก.ต้นเล็ก, 1 กก.ต้นกลาง, 2 กก.ต้นใหญ่ ....
ทั้งปุ๋ยอินทรีย์เคมี หว่านด้วยมือ บริเวณทรงพุ่ม แล้วปล่อย "น้ำ+ปุ๋ยน้ำชีวภาพ" อัตราตามความเหมาะสม จากหม้อปุ๋ยหน้าโซนทับลงไป


https://kehakaset.com/articles_details.php?view_item=344
สปริงเกอร์ ฯ สวนทุเรียน

http://kaset.nakaintermedia.com/3607364036483619363736183609.html
“ทุเรียนระยะชิด” ตามสูตรของอาจารย์รวี
จัดการด้วยระบบระยะชิด & ขึ้นลูกฟูก ราคาเพิ่มเท่าตัว!!?

------------------------------------------------------------------------------



5. REUSE ท่อ PVC :
ถาม : REUSE ท่อ PVC ทำยังไง ?
ตอบ :
- พีวีซี.ต่อผิดแล้วตัดออก ไม่ทิ้งแต่ให้เอามาซ่อมแล้วใช้ใหม่ได้
- ใช้กาวทา พีวีซี.ของมันเองนั่นแหละทาตัวมันเอง ทางตรงส่วนที่ต้องการเอาออก ทาแล้วจุดไฟ ไฟจะทำให้ พีวีซี. ที่ติดอยู่อ่อนตัว กระทั่งเห็นว่าอ่อนได้ที่แล้วใช้ไขควงปากแบบ แงะงัดขึ้นก่อน จากนั้นใช้คีมปากจิ้งจก แซะแทงแล้วหมุนควง เศษ พีวีซี.ชิ้นนั้นก็จะออกมา

- ก็มีนะ บางคนบอกว่า ได้สูตรนี้สูตรเดียวคุ้มเกินคุ้ม เพราะที่บ้านมีเศษ พีวีซี.ที่ตัดทิ้งเป็นเข่งๆ เลย
- กับเคยมี ซาเล้งไปซื้อของเก่าทิ้งแล้วที่ RKK วันรุ่งขึ้นต้องเอามาคืน เพราะเอาไป REUSE ใช้ใหม่ไม่ได้เลย จึงคืนเงินให้ซาเล้งไป แล้วบอกให้เอาขยะตัวนั้นไปทิ้งให้ด้วย นี่แหละสูตร “ซาเล้งร้องไห้”
-------------------------------------------------------------------------------


6. รัฐศาสตร์ VS เกษตรศาสตร์. :
ถาม : ระหว่าง หัวใจเกษตรไท กับ หัวใจเกษตรไท มินิ มีอะไรต่างกันบ้าง ?
ตอบ :
- สัจจะธรรมการเรียน ถามว่า ที่เรียนน่ะสาขาไหน เรียนสาขาไหนก็มีความรู้สาขานั้น ถามอีกว่า ในสาขาที่เรียนนั้นมีเรื่องเกษตรไหม ถ้าไม่มีก็คือไม่มีความรู้เรื่องเกษตร .... ว่ามั้ย

- หรือ คุณจบปริญญา ตรีโทเอก สาขาไหนก็ไม่รู้ แล้วคุณรู้ทุกอย่าง ทุกเรื่อง ได้เลยเหรอ ?
- เชื่อไหม รู้ไหม ปริญญาน่ะเรียนเรื่องเดียวเท่านั้นแหละ
- ปุ๋ย/ฮอร์โมน ในหัวใจเกษตรไท มีแต่สูตรใหญ่ 100 ล. ในหัวใจเกษตรไท มินิ มีทั้งสูตรใหญ่ 100 ล. แล้วแถมสูตรเล็ก 10 ล.ด้วย

- เรื่องยา ยาฆ่าหญ้าชีวภาพในหัวใจเกษตรไทมี 2-3 สูตร แต่ในหัวใจเกษตรไท มินิ เพิ่มสูตรยาฆ่าหญ้าชีวภาพ 13 สูตร

- เรื่องไม้ผล ในหัวใจเกษตรไทมีหัวข้อ ธรรมชาติของสายพันธุ์ การปลูก การจัดแปลง แต่ในหัวใจเกษตรไท มินิ ไม่มี ข้ามไปวงรอบการบำรุงเลย
------------------------------------------------------------------------------

7. รัฐศาสตร์ VS เกษตรศาสตร์. :
ถาม : วันนี้ยังมีสูตรใหม่ที่ยังไม่ได้บอก ยังไม่ได้เขียนอีกไหม ?
ตอบ :
มี แต่ยังไม่บอก....เข็ด !
- เคยมี (ว่ะ) แม่งจบรัฐศาสตรด้วย .... ว่ามั้ย

หลักรัฐศาสตร์เนี่ย เขาจะไม่ขัดแย้งกับใคร แต่จะพยายามประสานผลประโยชน์เพื่อให้ตนได้รับรับประโยชน์สูงสุด....

รัฐศาสตร์ :
ปากพูดว่า YES แต่ในใจพูดว่า MAY BE บางที .....
ปากพูดว่า MAY BE แต่ในใจพูดว่า NO ไม่ ....
ปากพูดว่า NO แต่ในใจพูดว่า WAR สงครามลูกเดียว ....

วันนั้นลุงคิมกำลังสอน แม่งนั่งอยู่ที่โซฟา ท่าเหยียดขา ไขว้เท้า สองมือหนุนหัว ครึ่งนั่งครึ่งนอน ฟังลุงคิมสอน ไม่มีอาการเคารพซึ่งกันและกันเลย

รัฐศาสตร์ถาม : ที่สอนเนี่ย บอกหมดทุกสูตรหรือยัง ?
ลุงคิมตอบ : (ทันที) ยัง

รัฐศาสตร์ถาม : มีกั๊กเหรอ ?
ลุงคิมตอบ : (ทันที) มี

รัฐศาสตร์ถาม : กั๊กกี่สูตร
ลุงคิมตอบ : (ทันที)1 สูตร

รัฐศาสตร์ถาม : กั๊กไว้ทำไม
ลุงคิมตอบ: (ทันที) (ทันที)ไว้ดูน้ำใจคนไง

วันเวลาผ่านไปไวยิ่งกว่าโกหก ที่บ้าน (มัน ร้อนวิชา) เปิดสอนเกษตร มีผู้ฟังรายการวิทยุไปเรียนด้วย ผู้ฟังคนนี้ฟังรายการวิทยุมานาน ไม่รู้จักลุงคิมเป็นการส่วนตัว ไม่เคยไปที่ไร่กล้อมแกล้ม โทรมาเล่าให้ลุงคิมฟัง .... เขาพูดว่า “ลุงคิมไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวนี้เปอร์ใหญ่แล้ ผมจะแข่งกับลุงคิม....”

ความพูดนี้คำว่า “เปอร์” หมายถึง แคลเซียม โบรอน. จากธรรมดาๆ ....
เพิ่ม ธาตุรอง/ธาตุเสริม ลงเป็น แคลเซียม โบรอน.ซุปเปอร์ ....
เพิ่มอะมิโน.ลงไปอีกก็เป็นแคลเซียม โบรอน ซูปเปอร์ เปอร์ ....
เพิ่มกลูโคส.ลงไปอีกก็เป็น แคลเซียม โบรอน ซุปเปอร์ เปอร์ เปอร์ ไงล่ะ

ส่วน “แข่ง” กับลุงคิมน่ะ อันนี้ถ้ามีโอกาสฝากบอกเขาด้วยว่า เขาชนะแน่ เพราะลุงคิมไม่แข่งด้วย ถามว่า เขาชนะเขาได้อะไร แล้วลุงคิมแพ้ลุงคิมเสียอะไร....

นี่แหละ คนเรียนจบรัฐศาสตร์ละ ....

สมช. : นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เก่งด้วยกันจะเก่งทั้งคู่ กะเก่งกว่ากะเก่งคนเดียวจะไม่เก่ง
ลุงคิม : งั้นมั้ง .... ตกลง จะเอาสูตรใหม่ในสมองนี่ไหม ?

สมช. : เอา
ลุงคิม : ใจเย็นๆ แล้วจะจัดให้
-------------------------------------------------------------------------------



8. ต้นทุนนาข้าว 140 ไร่ :
ลุงคิม : เจ้านี้ อะไรเยอะแยะเลยน่ะ เอาไปใช้หรือเอาไปขาย ?
สมช. : เอาไปใช้ค่ะ

ลุงคิม : เอาไปใช้ นั่นมันสูตรนาข้าวทั้งนั้น ทำนากี่ไร่น่ะ ?
สมช. : 140 ไร่จ้ะ

ลุงคิม : 140 ไร่ .... เดี๋ยวๆ ๆๆ ขอคุยหน่อย
สมช. : (หัวเราะ)

ลุงคิม : 140 ไร่ขายได้เท่าไหร่ไม่อยากรู้ แต่อยากรู้ แต่ละรุ่นลงทุน ค่าปุ๋ย ค่ายา ไปเท่าไหร่ ?
สมช. : รุ่นนี้น่าจะประมาณซัก 4 แสน

ลุงคิม : อืมมม 4 แสนนี่ เป็นค่าปุ๋ยค่ายาเฉพาะที่นี่ หรือมีค่าปุ๋ยค่ายาที่อื่นอีก ?
สมช. : ที่นี่ที่เดียว ซื้อที่ชาตรีฯ นี่แหละ นี่รุ่นที่ 3 แล้ว

ลุงคิม : รุ่นนี้ รุ่นที่ 3 .... ถ้างั้น เมื่อก่อนนี้ก็ใช้ปุ๋ยจากร้านขายปุ๋ยใช่ไหม ?
สมช. : ใช่

ลุงคิม : งั้นถามหน่อย ซื้อปุ๋ยจากร้านตกรุ่นละเท่าไหร่ กับซื้อที่นี่ตกรุ่นละเท่าไหร่ ? บอกได้ไหม ?
สมช. : ได้....ซื้อปุ๋ยจากร้านตกรุ่นละ 5-6 แสน ซื้อที่ชาตรีฯ รุ่นละ 4 แสน

ลุงคิม : จริงๆนะ
สมช. : จริงซี่จะโกหกทำไม ซื้อรุ่นละ 3 งวด งวดนี้เป็นงวดสุดท้าย เตรียมเกี่ยว

ลุงคิม : ถามอีกหน่อย วันนี้มีหนี้เท่าไหร่ ?
สมช. : ไม่มีเลย แต่มีเงินฝาก

ลุงคิม : เมื่อก่อน ก่อนมาใช้ปุ๋ยชาตรี มีหนี้ไหม ?
สมช. : มี .... มีหนี้ 3 ล้าน เปลี่ยนวิธีทำนามาเป็นแบบชาตรีฯ 3 ปี 6 รุ่น ล้างหนี้ได้ แล้วเหลือเงินสดฝากธนาครอีก


ลุงคิม : (คิดในใจ ....)
นา 140 ไร่ ได้ข้าว 140 เกวียน ............…….……………...... ความจริง ได้มากกว่า
ขายเกวียนละประมาณ 10,000 บาท .............……………….... ความจริง ได้มากกว่า
นั่นคือ 140 x 10,000 = 1,400,000 .………….………....... ความจริง ได้มากกว่า

นา 140 ไร่ ลงทุน ค่าปุ๋ยชาตรี+ค่าปุ๋ยเสริมจากร้าน 400,000 .... ความจริง จ่ายน้อยกว่า
คิดแล้ว (400,000 หาร 140) ตกไร่ละไม่ถึง 3,000 ............. ความจริง จ่ายน้อยกว่า
นั่นคือ ได้กำไรเฉียดล้าน ต่อนา 1 รุ่น ............................... ความจริง ได้มากกว่า

ทำนาปีละ 2 รุ่น คือ 2 คูน = ? ..................................... ความจริง ได้มากกว่า

แง่คิดเรื่องปุ๋ย (คิดแต่ไม่พูด) :
*** คนเดียว “ซื้อ+ทำเอง” = ต้นทุนลด ขายได้เท่าเดิม นั่นคือ กำไรเพิ่ม
*** รวมกลุ่ม “ซื้อ+ทำเอง” = ต้นทุนลด ขายได้เท่าเดิม นั่นคือ กำไรจะเพิ่ม
*** ปุ๋ย ยา เทคโน (วิธีการ) โอกาส คือ หัวใจ ของหัวใจ ของการเกษตร ของชีวิต


นี่ปุ๋ยชาตรีฯ แกซื้อ 100% ถ้าทำเองบ้าง ต้นทุนมันลดแล้วกำไรจะเพิ่มไหม ?
สมช. : ก็ต้องลดซี่ลุง รุ่นนี้ฉันทำเองครึ่งนึง ซื้อใช้ครึ่งนึงแล้ว

ลุงคิม : แล้วข้าวที่ได้ ข้าวลีบ-เมล็ดไม่แกร่ง-เมล็ดไม่ใส-ไม่ท้องไข่-ไม่ข้าวป่น มีมากไหม ?
สมช. : แทบไม่มีเลยนะลุง โรงสียอมรับ

ลุงคิม : นี่ถ้าทำไบโออิสูตรใหม่ ฉีดทางใบน้อยครั้งลง แต่คุณภาพเหมือนเดิม หรืออาจจะดีกว่าเดิม ที่แน่ๆ ราคาถูกกว่าเดิม จะเอาไหม ?
สมช. : เอาซี่ลุง ออกเมื่อไหร่ล่ะ

ลุงคิม : ใจเย็นๆ นาข้าว 140 ไร่ ใช้ปุ๋ยร้านค้า 6 แสน, ใช้ปุ๋ยชาตรี 4 แสน, แล้วถ้าปุ๋ยตัวใหม่ออกมา ต้นทุนอยู่ที่ 2 แสน, สุดท้ายจริงๆ ปุ๋ยตัวใหม่ ทำเอง ต้นทุนเหลือแสนเดียว จะเกิดอะไรขึ้น
สมช. : ขอบคุณล่วงหน้าเลยค่ะ

ลุงคิม : ขออีกคำถามเดียว ทำนาแบบนี้ แฟนที่บ้าน ลูกๆหลานๆ เอาด้วยดีไหม ?
สมช. : ดีมากๆเลยลุง ทุกคนในบ้านฟังลุงพูดในวิทยุ วันนี้อ่านหนังสือเพิ่มเข้าไปอีก

ลุงคิม : ข้างบ้านเอาด้วยไหม ?
สมช. : ไม่เอาหรอกลุง หาว่าเราบ้าซะอีกแน่ะ

ลุงคิม : อือ ใช่ .... คนบ้าไม่มีหนี้ คนดีหนี้เต็มบ้าน ก็ว่าไป
สมช. : ใช่ลุง
-------------------------------------------------------------------------------


9. ราคาข้าว 12,000 :

ลุงคิม : ข้าวขายได้เกวียนละ 12,000 เฉยๆ (ว่ะ) .... ถามหน่อย ต้นทุนเท่าไหร่ ?
สมช. : 8,000 ครับลุง ....


ลุงคิม : บอกแล้วไง ตลาดน่ะเกษตรกรคุมไม่ได้หรอก ต้นทุนต่างหากที่เกษตรกรชาวนาคุมได้ ในเมื่อมีคนเขาทำได้ ต้นทุน 3,000 เกี่ยวข้าวแล้วขายได้ 12,000 เหมือนกัน ก็น่าจะลองทำตามวิธีนั้นบ้างนะ....
-------------------------------------------------------------------------------

10. หนอนกอนาข้าว :
สมช. : หนอนกอใช้อะไรกำจัดดี ?
ลุงคิม : สมุนไพรเบื่อเมา ประเภทยาน็อค หนอนตายหยาก หางไหล สะเดา ทำเข้มข้นสูตรต้ม 3 น้ำ ฉีดบ่อยๆ 2-3 รอบ ห่างรอบละวันเว้นวัน

สมช. : ทำแล้ว ไม่อยู่ ระบาดหนักเลย
ลุงคิม : เข้ามาแล้วถึงฉีดพ่นใช่ไหม ?

สมช. : ใช่ครับ
ลุงคิม : นี่แหละสมการยา ยาถูก ใช้ผิด ไม่ได้ผล .... ทำไมไม่กันก่อนแก้ ฉีดพ่นก่อนล่วงหน้า ก่อนที่ศัตรูพืชจะเข้ามา บอกแล้วไง ไม่มีพืชใดในโลกนี้ที่ไม่มีศัตรูพืช วันนี้ไม่มีเพราะยังไม่มา แล้วก็ไม่มีสารเคมีใดๆ ไม่มีสารสมุนไพรใดๆ ในโลกนี้ ทำให้พืชที่เสียหายแล้วฟื้นคืนดีอย่างเดิมได้ เสียแล้วเสียเลย ประมาณนั้น .... แบบนี้ถ้าฉีดดักล่วงหน้า หรือเข้ามาแล้วฉีดพ่นครั้งแรก +สารเคมีกำจัดหนอนกอด้วย (ตามสูตร ลด-ละ-เลิก สารเคมี) ครั้งหลังๆมาค่อยเอาสมุนไพรเดี่ยวๆ ก็ได้ ....

สูตร ลด-ละ-เลิก สารเคมี :
วันที่ 1 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่น สารเคมี (ครั้งที่ 1)+สารสมุนไพร (เลือกที่ตรงกับหนอนกอจริงๆ)
วันที่ 2, 3, 4 เว้น
วันที่ 5 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่นสารสมุนไพรเดี่ยวๆ
วันที่ 6, 7, 8 เว้น
วันที่ 9 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่นสารสมุนไพรเดี่ยวๆ
วันที่ 10, 11, 12 เว้น
วันที่ 13 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่น สารเคมี (ครั้งที่ 2)+สารสมุนไพร
วันที่ 14, 15, 16 เว้น
วันที่ 17 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่นสารสมุนไพรเดี่ยวๆ
วันที่ 18, 19, 20 เว้น
วันที่ 21 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่นสารสมุนไพรเดี่ยวๆ
วันที่ 22, 23, 24 เว้น
วันที่ 25 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่น สารเคมี (ครั้งที่ 3)+สารสมุนไพร
วันที่ 26, 27, 28 เว้น
วันที่ 29 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่นสารสมุนไพรเดี่ยวๆ
วันที่ 30, 31, 32 เว้น
วันที่ 33 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่นสารสมุนไพรเดี่ยวๆ
วันที่ 37, 38, 39 เว้น
วันที่ 40 (ในปฏิทิน) ฉีดพ่นสารสมุนไพรเดี่ยวๆ

* ใช้สารเคมี ครั้งที่ 1 ใช้เต็มอัตราในฉลาก
* ใช้สารเคมี ครั้งที่ 2 ใช้ครึ่งหนึ่งของครั้งแรก
* ใช้สารเคมี ครั้งที่ 3 ใช้ครึ่งหนึ่งของครั้ง 2
* ใช้สารเคมี 3 ครั้งแล้ว ถ้าเอาศัตรูพืชไม่อยู่ต้องพิจารณา สารเคมีและวิธีการใช้
* ใช้สารสมุนไพรเต็มอัตราการใช้ ทุกครั้งที่ใช้
* ให้ปุ๋ยทางใบร่วมด้วยเมื่อครบรอบการให้ปุ๋ย

ว่านะ เจอสารเคมี (ถูกต้อง) แค่รอบเดียว เจอสารสมุนไพร (ยาน็อค) 2-3 รอบ แถมปุ๋ยเสริมความสมบูรณ์สร้างภูมิต้านทานในต้นอีก ศัตรูพืชตัวไหนก็อยู่ไม่ได้ นี่เจอสารเคมี (ถูกต้องจริงๆ) ตั้ง 3 ครั้ง จะเหลือเรอะ หัวใจของงานจริงๆ คือ "ฉีดพ่นบ่อยๆ" เท่านั้น .... ถามจริง ได้ใช้ได้ทำอะไรบ้างไหม ?

สมช. : ไม่ได้ใช้ครับ
ลุงคิม : ที่จริง ถ้ามีหนอนกอเกิดขึ้น จะมีแมลงปอเข้ามาบินว่อนทั่วแปลงนาให้เห็นเลยนะ นั่นแหละสัญญาน
บอกเหตุ

สมช. : ใช่ครับแต่ไม่ได้ทำ
-----------------------------------------------------------------------------


11. แคลเซียม โบรอน ซุปเปอร์ :
ถาม : จะทำแคลเซียม โบรอน ซุปเปอร์. ใส่อะไรเพิ่มดีครับ ?
ตอบ : ถามพืช พืชอะไรต้องการอะไรเป็นกรณีพิเศษ หรือกรณีเฉพาะ ก็ใส่เพิ่มตัวนั้นลงไป

ถาม : มีตัวไหนมาตรฐาน ใช้กับทุกพืชได้ไหมครับ ?
ตอบ : ปรเภทยืนพื้นเลย คือ ธาตุรอง ธาตุเสริม กลูโคสน้ำตาลทางด่วน นี่แหละ
--------------------------------------------



12. บำรุงหน่อไม้ฝรั่ง :
ถาม : หน่อไม้ฝรั่งใช้ฮอร์โมนตัวไหน ?
ตอบ : ต้องการหน่อใหญ่ใช้ไคโตซาน .... ต้องการหน่อเล็ก เบบี้ อันนี้ไม่รู้
- หน่อไม้ฝรั่ง ที่โพธาราม เจ้าของทำงานชลประทาน เนื้อที่ 20 ไร่ สวนยกร่องน้ำหล่อ แล่นเรือปากเป็ด ใช้แรงงานพม่าวันละ 2 คน ทำงานกันทั้งวัน ทุกวัน เปลี่ยนมาติดสปริงเกอร์คราวนี้สบายมาก เข้าของทำเอง ใช้เวลาแค่ 2 ชม. แรงงานพม่าก็ให้ไปทำงานอย่างอื่น

* ประสิทธิภาพประสิทธิผล ของเนื้องาน :
- ประหยัดเวลา แรงงาน พลังงาน
- ประหยัดปุ๋ย ประหยัดร่างกาย (ไม่ สารเคมียาฆ่าแมลง)
- ต้นมีความสมบูรณ์สูง เป็นภูมิต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืชได้

* เครดิตความน่าเชื่อถือ :
- บริษัทรับซื้อยอมรับไม่ใช้สารเคมี เพราะใช้สารสมุนไพรได้บ่อยๆ ตามต้องการ
- คุณภาพผลผลิตสูง ความปลอดภัยจากการกินสูง
-------------------------------------------------------------------------------


13. อัตราใช้ปุ๋ยในหม้อปุ๋ยหน้าโซน :
ถาม : หม้อปุ๋ยหน้าโซนใส่ปุ๋ยครั้งละเท่าไร ?
ตอบ :
- เรื่องนี้ไม่มีมาตรฐานแต่มีหลักการ เพราะไม้แต่ละต้นแต่ละชนิดพันธุ์ต่างกัน
- ที่ RKK ไม้ผลยืนต้น 1 โซน 50 ต้น มีหม้อปุ๋ยประจำหน้าโซน 1 อัน
- ทดสอบอัตราการใช้ปุ๋ยสำหรับ 1 โซน โดยผสมปุ๋ยในเป้สะพาย 20 ล.ใส่ปุ๋ย 20 ซีซี. (อัตราใช้ปกติ) ฉีดพ่นเปียกโชก ไต้ใบบนใบ ปกติ ฉีดพ่นได้ 5 ต้น หรือ 1 โซน = 10 เป้ หรือ 1 โซน = 200 ซีซี. นั่นเอง .... ในขณะที่ขวดที่หม้อปุ๋ย 1 ขวดความจุประมาณ 1.5 ล. (1,500 ซีซี.)

- ว่าแล้วก็เติมปุ๋ยลงในหม้อปุ๋ย 200 ซีซี. สำหรับ 1 โซน (50 ต้น)

- กรณีปุ๋ยทางราก คำนวณจากการหว่านด้วยมือ 250 กรัม/ต้น (สมมุติ) เนื้อที่ 1 โซน 50 ต้น (250 กรัม x 50 ต้น) = 12.5 กก. .... ขั้นตอนต่อไปคือ ละลายปุ๋ย 12.5 กก.ในน้ำ ใส่ลงไปในหม้อปุ๋ย แล้วปล่อยไปตามปกติ เนื้อปุ๋ยทั้ง 12.5 กก.จะลงไปหาไม้เสมอเท่ากันทุกต้น
หมายเหตุ :
นี่คือ การใช้ ปุ๋ย/ยา ทางท่อ หรือไปกับระบบน้ำ
---------------------------------------------------------------------------


14. วิธีใช้หม้อปุ๋ยหน้าโซน :
ถาม : หม้อปุ๋ยหน้าโซนที่โชว์ แบบ 2 ขวดร่วมกัน กับแบบ 2 ขวดแยกกัน ใช้งานยังไง ?
ตอบ :
- แบบ 2 ขวด แม้จะทำโดยขวด 2 ใบ แต่ขวดทั้งสองเชื่อมต่อกันจึงเท่ากับ 1 ขวดนั่นเอง เนื้อปุ๋ยในขวดทั้งสองจึงไปมาหากันได้ แบบนี้สำหรับใช้งานใน 1 โซน ที่ใช้ปุ๋ยสูตรเดียวกัน

- แบบ 2 ขวดแยกกัน ระหว่างขวดทั้งสองมีวาวล์แยกของแต่ละขวด แบบนี้เหมาะสำหรับไม้ 2 โซน เมื่อจะให้ปุ๋ยโซนไหนก็เเปิดวาวล์ปล่อยจากขวดหนึ่งไปก่อน กับเมื่อจะให้ปุ๋ยกับอีกโซนหนึ่งก็เปิดวาวล์ปล่อยปุ๋ยขวดที่เหลือ

- แบบ 4 ขวดแยกกัน ระหว่างขวดทั้ง 4 มีวาวล์แยกของแต่ละขวด แบบนี้เหมาะสำหรับไม้ 4 โซน เมื่อจะให้ปุ๋ยโซนแรกก็เปิดวาวล์ปล่อยจากขวดแรกไปก่อน กับเมื่อจะให้ปุ๋ยกับอีกโซนที่ 2 ก็เปิดวาวล์ขวดที่ 2 .... หรือจะให้ปุ๋ยกับอีกโซนที่ 3 ก็เปิดวาวล์ขวดที่ 3 .... จะให้ปุ๋ยกับอีกโซนที่ 4 ก็เปิดวาวล์ขวดที่ 4 นั่นเอง

- แบบ 4ขวด 6ขวด 8ขวด 10ขวด แยกกัน ก็ทำได้ด้วยหลักการนี้ จะทำแบบเชื่อมต่อทุกขวดให้ถึงกันแล้วใช้งานเป็นขวดเดียว ด้วยปุ๋ยสูตรเดียวกัน หรือมีวาวล์แยกแต่ละขวดแล้วใช้งานทีละขวดก็ได้ ด้วยปุ๋ยสูตรละขวดๆ
-----------------------------------------------------------------------------


15. คัมภีร์เกษตร :
หนังสือคือ MEDIA ประเภทคงทนถาวร อยู่ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงตลอดชีวิต เนื้อหาสาระคงที่เคยยังไงก็ยังงั้น
เราว่ามันดีกว่า โซเชียล อินเตอร์เน็ต ซีดี แฟรชไดร์ เพราะนั่นต้องมีเครื่อง ตั้งอยู่ประจำที่ จะดูทีจะอ่านที ก็ต้องเปิดแล้วสไลด์เลื่อนหาข้อความ .... ผิดกับหนังสือ “นั่ง-นอน-เดิน” อ่านได้ทั้งนั้น อ่านในบ้าน อ่านในสวนไต้ต้นไม้ ในห้องน้ำ ทำได้ทั้งนั้น

ว่ามั้ย หนังสือเนี่ยเปรียบเสมือน “คัมภีร์-ตำนาน-ลายแทง” ส่งต่อถึงลูกหลานเหลนโหลนได้
ซื้อไปเล่มเดียว ระวังนะ คนยืมแล้วไม่คืน
ก็มี บางคนซื้อไป 2 เล่ม เล่มนึงเอาไว้อ่าน อีกเล่มนึงซื้อทองปิด เก็บไว้บนหิ้งบูชา
-----------------------------------------------------------------------------


16. ซื้อครึ่ง ทำเองครึ่ง :
วันนี้มาซื้อ ไบโออิ-ไทเป-ยูเรก้า แบบพร้อมใช้แล้วซื้อส่วนผสมไปทำเองด้วย กะว่า ทำเองครึ่งหนึ่ง ซื้อครึ่งหนึ่ง วิธีใช้ก็สลับครั้งกันระหว่างที่ทำเองกับที่ซื้อ

ขอยืนยันว่าได้ผล ที่ทำเองสลับครั้งใช้กับที่ซื้อ ใช้แล้วคุณภาพไม่ต่างกันแต่ต้นทุนต่ำกว่าครึ่งต่อครึ่ง

ที่คุณบอกมาน่ะ ลุงคิมเฉยๆ เพราะตามหลักวิชาการมันต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว แต่ที่สงสัยแล้วก็เป็นห่วงอย่างมากๆ ก็คือ "ข้างบ้าน" นั่นแหละ ไม่รู้เหมือนกันนะ ทำไมเขาถึงได้ยึดติดขนาดนั้น

สมช.คนหนึ่งไปที่ชมรมสาขาบางแพ ซื้อชุดทำแคลเซียม โบรอน ชุดใหญ่ทำได้ครั้งละ 20 ล. ซื้อไป 5 ชุด
ถามว่า : ทำสวนกี่ไร่เนี่ย ?
คำตอบ : 2 ไร่เอง

ถามว่า : อืมมม แล้วทำไมซื้อส่วนผสมไปเยอะจัง ?
คำตอบ : อ๋อออ ผมเอาไปทำขายครับ

ถามว่า : ทำขาย....ขายให้ใคร ? ขายที่ไหน ?
คำตอบ : ขายให้แปลงข้างบ้านนั่นแหละครับ เขาใช้แล้วได้ผลเลยยอมรับ

ถามว่า : ขาย....ขายลิตรละเท่าไหร่ ?
คำตอบ : ลิตรละร้อยเดียวครับ

ถามว่า : ยอด....ขายสิ่งที่ถูกต้อง ได้เงินได้บุญ
คำตอบ : ขอบคุณครับ
------------------------------------------------------------------------------


17. เลิกเชื่อสัมภะเวษี ผีจรจัด :
เซลล์ขายปุ๋ย ทั้งปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี ทางดิน ส่งถึงบ้าน ขายเครฯ เกี่ยวข้าวแล้วมาเก็บเงิน ราคาถูกกว่าซื้อจากร้าน

เกี่ยวข้าวแล้วเปอร์เซ็นต์ "ข้าวลีบ-เมล็ดไม่แกร่ง-ข้าวป่น-ท้องไข่-น้ำหนักไม่ดี" สูงมากเปรียบเทียบกับใช้ปุ๋ยลุงคิม ซื้อทุกอย่างราคาถูกกว่า เปอร์เซ็นต์ข้าวดีสูงกว่า

งานนี้ NO COMMENT เพราะไม่อยากซ้ำเติม แต่พูดว่า เมื่อรู้ว่าปุ๋ยสูตรลุงคิมดีกว่า แล้วทำไมไม่ทำเองล่ะ....
-----------------------------------------------------------------------------



18. หญ้า 99.99 ข้าว 00.01 :
ถาม : คุณลุงครับ นาข้าว หญ้า 99.99 ข้าว 0.01 ทำไงดีครับ
ตอบ : อ้าวววว กำจัดซี่
ทำเทือก-เตรียมสารอาหาร-กำจัดวัชพืช-บ่มดิน :
- ใส่ยิบซั่ม ปุ๋ยอินทรีย์ กระดูกป่น, หว่านทั่วแปลง
- ใส่น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (2 ล) +16-8-8 (5 หรือ 10 กก.) +น้ำ ตามความจำเป็นสำหรับเนื้อที่ 1 ไร่....ข้าวพันธุ์พื้นเมืองให้ 16-8-8 (5 กก.) ข้าวพันธุ์ลูกผสมให้ 16-8-8 (10 กก.) ละลายให้เข้ากินดี สาดทั่วแปลง

**** ดินต้องมาก่อน จากน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิงเดิมให้เป็นซุปเปอร์ ด้วยการ “เสริม/เติม/เพิ่ม/บวก” จุลินทรีย์หน่อกล้วย จุลินทรีย์จาวปลวก จุลินทรีย์ฟางเน่า น้ำละลายปุ๋ยคอก (วัว/ไก่/ค้างคาว) นม ฯลฯ มากน้อยตามความถนัด เป้าหมาย คือ เพิ่มจุลินทรีย์ เพื่ออาศัยจุลินทรีย์ ปรับสภาพดิน สร้างสารอาหาร กำจัดศัตรูพืชในดิน ให้พร้อมไว้ก่อนปลูกข้าว นั่นเอง .... ****

- เติมน้ำลึกเหนือตาตุ่ม ปล่อยทิ้งไว้ 7 วัน เพื่อล่อให้วัชพืชงอก
- ย่ำเทือกด้วยอีขลุบ หรือลูกทุบ ย่ำประณีต 3 รอบใน 1 กระทง ย่ำแล้วทิ้งไว้ 7-10 วัน .... สำรวจจำนวนวัชพืชที่ยังหลงเหลือ แล้วย่ำซ้ำรอบที่ 2 ย่ำประณีตเหมือนรอบที่ 1 ย่ำแล้วทิ้งไว้ 7-10 วัน .... สำรวจจำนวนวัชพืชที่ยังหลงเหลือแล้วย่ำซ้ำรอบที่ 3 ย่ำประณีต รอบที่ 1 ย่ำแล้วทำร่องระบายน้ำ เตรียม “ดำกล้า”

หมายเหตุ :
- ก่อนเริ่มย่ำรอบแรก ตรวจสอบว่าบรรดาวัชพืชทุกชนิด ทุกต้น งอกขึ้นมาแน่ นอนแล้ว ถ้ายังงอกไม่หมดให้ทิ้งระยะต่ออีก 3-5 วัน

- ก่อนย่ำแต่ละรอบสำรวจจำนวนต้นวัชพืชว่ามีกี่เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ หลังจากย่ำรอบต่อๆ มาแล้วแต่ละรอบๆ จะพบว่าจำนวนต้นวัช พืชลดลงตามลำดับ กระทั่งย่ำรอบ 3 ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย ถ้ามั่นใจว่าไม่มีต้นวัชพืชขึ้นอีกก็ให้ลงมือดำกล้าได้เลย แต่หากพบว่ายังมีวัชพืชบาง ส่วนหลงเหลืองอกขึ้นมาได้อีก ก็ให้พิจารณาย่ำซ้ำรอบ 4

- การย่ำเทือกแบบประณีต ขอให้ประณีตจริงๆ แม้ไม่ต้องไถก็จะได้ขี้เทือกลึกดีกว่าการไถก่อนแล้วย่ำเทือก กับกำจัดวัชพืชได้ผลแน่นอนกว่ายาฆ่ายาคุมหญ้า

- ระยะเวลาย่ำเทือก 3-4 รอบ ๆละ 7-10 วัน รวมใช้ระยะเวลาทั้ง สิ้น 1 เดือน เท่า กับเป็นการ “บ่มดิน” ซึ่งจะส่งให้สภาพดินดี พร้อมสำหรับต้นกล้าที่ดำลงไป

- การกำจัดวัชพืชแบบ “ย่ำประณีต” แล้วต่อด้วยการทำนาดำ สภาพที่ต้นข้างขึ้นห่างกัน ช่วยให้การเดินลงไปถอนด้วยมือ ทั้งต้นวัชพืชและต้นข้าวปน สามารถทำได้ง่าย ต้นวัชพืชที่ถูกถอนแล้วจะไม่มีอีก เท่ากับเป็นการกำจัดวัชพืชอย่างถาวรนั่นเอง

สรุปงานนี้ได้ :
1. ประหยัดค่าไถ
2. ประหยัดค่ายาฆ่ายาคุมหญ้า
3. ประหยัดค่าปุ๋ย
4. ได้ขี้เทือกลึกดี
5. ได้ดินดี
6. ดินดีต่อถึงอนาคตรุ่นหน้า รุ่นต่อๆไป
(อ้างอิง : หนังสือหัวใจเกษตรไท 1,000 หน้า)
-------------------------------------------------------------------------------


19. ไบโออิ นาข้าว 4 รอบ O.K. :
ได้ยินคุยเรื่องนาข้าว 20 ไร่ แล้วสั่งซื้อไบโออิแกลลอนเดียว .... สงสัยๆ ๆๆ จนต้องถาม

ถามว่า :ได้ยินคุยกันว่าทำนา 20 ไร่
คำตอบ : ครับ

ถามว่า : 20 ไร่.... ซื้อไบโออิ 5 ล.แกลลอนเดียว แสดงว่าที่เหลือทำเองใช่ไหม ?
คำตอบ : เปล่าครับ ใช้แค่นี้ครับ

ถามว่า : ใช้แค่นี้ 20ไร่ น่ะนะ .... อืมมม ไม่ใช่อยากขายมากๆหรอกนะ แต่อยากรู้ว่าปุ๋ยแค่นี้พอเหรอ ?
คำตอบ : พอครับ

ถามว่า : ถามหน่อย ทำยังไง ? ใช้ยังไง ?
คำตอบ : ก็ฉีดพ่นทางใบธรรมดาๆ นี่แหละครับ นาผมฉีดแค่ 4 ครั้ง

ถามว่า : 4 ครั้ง แล้วต้นข้าวอยู่ได้เหรอ ?
คำตอบ : อยู่ได้ครับ ระยะกล้าครั้งนึง ออกรวงครั้งนึง น้ำนมอีก 2 ครั้ง

ถามว่า : 4 ครั้ง เกี่ยวแล้วได้ดีไหม ?
คำตอบ : ดีครับ ดีกว่าแบบเดิมๆที่เคยใส่แต่ ยูเรีย 16-20-0 เดี๋ยวนี้ผมเปลี่ยนมาเป็น 46-0-0 ผสม 16-16-16 ไร่ละ 10 กิโล ละลายกับน้ำหมักระเบิด 30-10-10 สาดทั่วแปลงแล้วตีเทือก ผมทำนาดำ จ้างรถมาดำ พอต้นข้าว 20 วันก็เริ่มให้ไบโออิ

ถามว่า : อืมมม .... ช่ายยยย ....
คำตอบ : ต้นข้าวก็โตดีครับ เกี่ยวแล้ว “ข้าวลีบ/ข้าวป่น/ข้าวท้องไข่” น้อยมากๆ ผิดกับเมื่อก่อนที่ใช้ยูเรียลิบลับ

ถามว่า : เอาวะ กูว่าแล้วมั้ยล่ะ ต้นข้าวน่ะไม่เรื่องมากหรอ คนต่างหากที่เรื่องมาก เหลืออยู่แต่ว่า เมื่อไหร่จะทำเองเท่านั้นแหละ
คำตอบ : ซื้อถูกกว่าครับ นาแปลงเล็กๆ ไม่แปลงใหญ่ครับ
-----------------------------------------------------------------------------


20. แคลเซียม โบรอน ใช้เกิน :
สมช. : ลุงคิมครับ ผมขอรายงานผลการใช้แคลเซียม โบรอน. หน่อยครับ
ลุงคิม : เชิญ

สมช. : ผมใช้แคลเซียม โบรอน. ที่ซื้อมาจากตลาดลิตรละ 300 แล้วทดลองใช้ 20 ซีซี.น้ำ 20 ล., 40 ซีซี.น้ำ 20 ล., 80 ซีซี.น้ำ 20 ล. ให้ 2 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน แล้วมาใช้ของเราที่ทำกับมือบ้าง 20 ซีซี.น้ำ 20 ล., 40 ซีซี.น้ำ 20 ล., 80 ซีซี.น้ำ 20 ล. ให้ 2 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วันเหมือนกัน
ลุงคิม : แล้วผลเป็นไง ?

สมช. : แคลเซียม โบรอน.ที่ซื้อมาเฉย อัตราให้เท่าไหร่ก็เฉย แต่แคลเซียม โบรอน.ที่เราทำเอง ใช้ 20 ซีซี., 40 ซีซี.น้ำ 20 ล. O.K. ครับ แต่ถ้าใช้ 80 ซีซี.น้ำ 20 ล. ฝักแข็งโป๊กเลยครับ
ลุงคิม : ทดสอบกับพืชอะไร ?

สมช. : ถั่วฝักยาวครับ
ลุงคิม : อืมมมม

สมช. : แบบนี้ชัดเลยว่า แคลเซียม โบรอน.ที่ซื้อมา สงสัยจะเป็นแค่น้ำละลายสีน่ะครับ แต่ของเราแน่นอน เพราะให้มากเกินถึงได้เป็นอย่างนี้
ลุงคิม : (พยักหน้า มองหน้า สมช. ที่ร่วมฟังข้างๆ) เพราะฉะนั้น ต้องยึดหลัก "ให้น้อย แต่บ่อยครั้ง" ว่ามั้ย

สมช. : ครับ
ลุงคิม : น่าจะซื้อมาลองหลายๆยี่ห้อ แล้วมาเล่าสู่กันฟัง.... MAKE SURE ดี

สมช. : ครับ
-----------------------------------------------------------------------------


21. เกษตร ผสม-ผสาน-ผสม-ผเส-ปนเป-สะเปะ-สะปะ รวย :
สมช. : (ได้ฟัง สมช.ปรึกษาเรื่อง ฟักแซมมะเขือ พริก มาตลอด ช่วยยืนยัน) ฉันว่าทำได้นะลุง มะเขือกับพริกอยู่ไต้ค้างฟักเขียว ของฉันก็ทำอยู่
ลุงคิม : งั้นนะ

สมช. : ใช่ลุง ของฉันทำค้างฟัก ค้างถั่วฝักยาว เป็นแบบแผงทางตั้ง แผ่นเดียว เอาไม้ปักเป็นเสา ระยะห่างระหว่างเสา 3 ม. เอาตาข่ายขึงระหว่างเสาสำหรับให้เถาฟัก เถาถั่วเลื้อยขึ้นไป ค้างแบบนี้ไม่ต้องมีหลังคา ทำให้ยาวตามแนวแสงอาทิตย์ มันก็จะไม่ไปบังแสงแดดพืชอื่น
ลุงคิม : (มองหน้า สมช.คนปลูกฟักแซมมะเขือ พริก) แล้วพืชอื่นล่ะ

สมช. : ฉันน่ะทำเกษตรผสมผสานผสมผเสปนเปสะเปะสะปะ นึกจะปลูกอะไรตรงไหนก็ปลูก ปลูกทุกอย่างที่กินได้
ลุงคิม : อะไรบ้าง บอกชื่อซิ

สมช. : ประเภทเถาเลื้อยมี ฟักเขียว ถั่วฝักยาว ถั่วพู ประเภทต้นมีพริกขี้หนูหอม พริกขี้หนูยอดสน พริกชี้ฟ้าเขียว พริกชี้ฟ้าเหลือง มะเขือเปราะ มะเขือพวง มะเขือยาว ทุกอย่างที่กินได้นั่นแหละลุง
ลุงคิม : เนื้อที่กี่ไร่น่ะ ?

สมช. : 3 ไร่เองลุง
ลุงคิม : บำรุงยังไง ?

สมช. : ก็สูตรสหประชาชาติของลุง ซื้อจากลุงชาตรี เดือนครั้ง อย่างละลิตร ยาฆ่าแมลงยาเคมีฉันเลิกใช้มานานแล้ว ใช้สารสะเดา พริกแกง สาบเสือ สบู่ต้น ทุกอย่างที่ขึ้นรอบบ้านนั่นแหละลุง
ลุงคิม : สมุนไพร....อันนี้ต้องฉีดบ่อยๆนะ

สมช. : ทุกวัน วันละครั้ง ไปกับน้ำไปกับปุ๋ย
ลุงคิม : เอาเครื่องมืออะไรฉีดพ่น ?

สมช. : สปริงเกอร์ซี่ลุง ฉันน่ะ ลูกศิษย์ลุงตั้งแต่รุ่นแรกๆเลย
ลุงคิม : ยังงั้นเหรอ .... วันนี้รายได้ตรงนี้ซักเท่าไหร่ ?

สมช. : ทำกันสองคนผัวเมีย ไม่เคยจ้างแรงงาน บางส่วนส่งแม่ค้า บางส่วนเอาไปขายเองที่ตลาดนัดจร รายได้จริงๆ ก็ประมาณ 1,000 ถึง 3,000 ต่อวันแหละลุง
ลุงคิม : ต่อวัน ๆ ๆ ๆ
-------------------------------- ---------------------------------------------


22. ทำใช้ ทำขาย ทำแจก :
สมช. อยู่เชียงใหม่ ซื้อส่วนผสมทำแคลเซียม โบรอน เอาไปทำเอง ทำใช้ทำขาย ....
สั่งซื้อ ยูเรก้า, ไบโออิ, ไทเป พร้อมใช้ ....
สั่งซื้อทาง ปณ. จากชาตรีฯ ได้ไปแล้วเอาไปขายต่อ...

แคลเซียม โบรอน .... ลิตรละ 400
ยูเรก้า ................ ลิตรละ 1,400
ไบโออิ ................ ลิตรละ 800
ไทเป ................. ลิตรละ 800

ต้องขายแพง เพราะถ้าขายราคาถูกคนซื้อไม่เชื่อ ไม่ซื้อ ไม่ใช้
เอาวะ ขายสิ่งที่ถูกต้อง ได้เงิน ได้บุญ
โถ.... เกษตรไทย
------------------------------------------------------------------------------


23. ผักเสี้ยน โลละ 100. :
สมช. บอก มีคนให้เอาเมล็ดผักเสี้ยนฝาก

ถาม : ลุงชอบกินผักเสี้ยนดองเหรอ ?
ตอบ : ก็ไม่ปฏิเสธนะ.... 4 สาว คนหนึ่งขายพริกนรก คนหนึ่งขายปลาสลิดแดดเดียวทอด คนหนึ่งขายผักเสี้ยนดอง คนหนึ่งขายข้าวสวย หน้าโรงงานย่านพระปะแดง สมุทรปราการ ข้อตกลง ขายคนละ 100 ชิ้น ปรากฏว่า ขายหมดทุกวัน ....

นี่แหละ กะรวยด้วยกันแล้วจะรวย ถ้าคนเดียวขาย 4 อย่าง ลูกค้าเห็นแล้วไม่คึกคัก แต่ถ้าหลายคนขายบรรยากาศคึกคักดี ใครเห็นเป็นต้องเดินเข้ามาใกล้ๆไงล่ะ ....
-------------------------------------------------------------------------------


24. บำรุงสละ :
ถาม : ลุงคิมครับ ญาติกันอยู่จันทบุรีปลูกสละ ฝากถามบำรุงยังไงให้ลูกโต เนื้อดีครับ ?
ตอบ : ง่ายๆ แคลเซียม โบรอน. นี่แหละ เดิมทำอะไร ใช้อะไรอยู่ก็ว่าไป แต่เสริมด้วยแคลเซียม โบรอน. แล้วทุกอย่างจะดีเอง
--------------------------------------------------------------------------------

25. เกษตรไม่สอนทำปุ๋ย :
ถาม : ลุงครับ ทำไม่เกษตรไม่สอนทำปุ๋ยครับ
ตอบ : ทำไมไม่ไปถามตัวเกษตรเองล่ะ .... ถ้าลุงคิมเป็น จนท.เกษตร ก็จะถามย้อนว่า แล้วเกษตรกรสนใจทำปุ๋ยใช้เองบ้างไหม ? .... ปัญหาโลกแตกน่ะ
------------------------------------------------------------------------------





.

[kimzagass]

.
.