-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-พริกซุปเปอร์ฮอต
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - พริกซุปเปอร์ฮอต
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

พริกซุปเปอร์ฮอต

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 16/03/2010 6:35 pm    ชื่อกระทู้: พริกซุปเปอร์ฮอต ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ภาวิณี สุดาปัน Email: sudapun101@hotmail.com

พริกขี้หนูลูกผสม ซุปเปอร์ฮ็อต และเพชรดำ
เกษตรกรศรีสะเกษ ปลูกแล้วได้เงิน


"เกษตรกร" คำนี้ ใครเป็นคนให้คำจำกัดความไว้ ผู้เขียนก็มิทราบ หากจะทราบก็เพียงแต่ว่า
เกษตรกรหมายรวมถึงผู้ที่ทำการเกษตรทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ ชาวประมง
ป่าไม้ หรือเลี้ยงสัตว์

เกษตรกรกับเกษตรกรรมเป็นของคู่กัน ความสำคัญนั้นยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด เพราะอาหารทุกชนิด ข้าว
ทุกมื้อที่เรากินล้วนมาจากผลผลิตที่ได้จากการเกษตรทั้งนั้น หากรู้จักกิน รู้จักใช้ อย่างพอเพียง ก็
จะไม่เดือดร้อน ตัวอย่างมีให้เห็น ดังเช่น เกษตรกรจะกินทุกอย่างที่ปลูก และปลูกทุกอย่างที่กิน
พืชผักสวนครัวรั้วกินได้มีไว้ประจำบ้านดีนักแล จะหยิบจับใช้สอยก็สะดวกนำมาเป็นเครื่องปรุง
อาหารโดยมิต้องซื้อหา แถมโรคภัยไม่มาเยือนด้วย เพราะกินผักปลอดสารที่ปลูกเองกับมือ

หากจะพูดถึงพืชผักสวนครัวที่นำมาเป็นเครื่องปรุงอาหาร ตามวัฒนธรรมไทยแล้วคงจะขาดพริก ขิง
ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียมใบมะกรูด ไปมิได้ โดยเฉพาะพริกหากขาดแล้วอาหารคงมีหน้าตาจืดชืด
สีสันไม่น่ากินเป็นแน่ ยิ่งคนที่ชอบกินอาหารรสจัด หากขาดเครื่องปรุงชนิดนี้แล้ว ชีวิตก็เปรียบ
เสมือนขาดอะไรไปสักอย่าง อาหารที่คนนิยมบริโภคมักมีรสจัดจ้าน เผ็ดบ้าง เปรี้ยวบ้างตามแต่คน
ชอบ ต้นพริกก็เช่นกัน หากขาดการดูแลบำรุงรักษา ต้นก็เหี่ยวเฉาตายในที่สุด ตอนต้นเรื่องผู้เขียน
บอกไว้ว่า เกษตรกรกับเกษตรกรรมต้องมาคู่กัน เพราะฉะนั้นพริกกับเจ้าของสวนก็ต้องพึ่งพิงอิง
อาศัยกัน พริกสร้างเงินให้กับเจ้าของ ส่วนเจ้าของจะคอยเฝ้าดูแลทะนุถนอมต้นพริกเป็นอย่างดี
เพื่อให้ต้นงามและผลดก มีคุณภาพ เป็นที่ต้องการของตลาด

สำหรับปักษ์นี้มีเรื่องพริกมาเล่าสู่กันฟัง ผู้เขียนมีโอกาสได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่จังหวัดสุรินทร์
และเดินทางต่อไปทำบุญที่จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีการปลูกพืชไร่กันมาก ขึ้นชื่อใน
เรื่องหอม กระเทียม พริกก็เป็นพืชอีกหนึ่งชนิดที่ปลูกกันมาก เรียกว่าเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ
จึงนำเรื่องราวของพริกขี้หนูสวนลูกผสมมาบอกต่อ อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าสนใจ แต่มากด้วยคุณ
ค่า และสามารถนำไปทำเป็นอาชีพได้

คุณสาย คำสี อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ที่ 7 ตำบลโพนเขวา อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ เจ้าของ
สวนพริก จำนวน 5 ไร่ มีที่นาอีก 30 ไร่ เล้าหมูอีก 1 เล้า ฝูงเป็ดจำนวนหนึ่ง และไก่จำนวนไม่กี่
ตัว โรงสีข้าว 1 แห่ง ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมาย

หากจะย้อนความถึงเรื่องเก่าเมื่อครั้งเยาว์วัย คุณสายไม่ได้เป็นคนร่ำรวยเงินทองแม้แต่น้อย หากแต่
เป็นคนยากจน ไม่มีอันจะกินด้วยซ้ำ แต่ด้วยความขยันจึงสามารถฟันฝ่าอุปสรรคมาจนถึงทุกวันนี้
ได้ ด้วยสายเลือดเกษตรกร บวกกับความขยันจนมีวันนี้ คุณสายมีภรรยาชื่อ คุณอ่อนจันทร์ มีลูก
ด้วยกัน 3 คน ชาย 1 หญิง 2 คนโตเป็นผู้หญิง ทำงานที่สถานีอนามัยในหมู่บ้าน คนรองเป็นผู้ชาย
ทำงานเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ส่วนคนเล็กกำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ทุกคนในครอบครัวล้วน
ขยันขันแข็ง โดยเฉพาะคุณสาย ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบชีวิตอีกหลายชีวิต ทำ
นา ทำไร่พริก สามารถเลี้ยงดูครอบครัวมาด้วยดี

เจ้าของสวนพริกเล่าให้ฟังว่า "ผมทำไร่พริกมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปีแล้ว แรกๆ จะปลูกพริกใน
ช่วงว่างเว้นจากการทำนา แต่ปัจจุบันนี้สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี พันธุ์พริกที่ปลูกแต่ก่อนก็เป็น
พันธุ์พื้นเมืองธรรมดา แต่ปัจจุบันนี้พันธุ์ที่ปลูกจะเป็น ของ บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด คือพันธุ์
ซุปเปอร์ฮ็อตกับเพชรดำ ทราบข่าวจากการฟังรายการวิทยุ และดู ทีวี จึงรู้จักพริกพันธุ์นี้ ก็เลยไป
ซื้อพันธุ์มาปลูก ผมไม่ได้ไปศึกษาตำรับตำราวิชาการมาจากไหนหรอก ใช้ประสบการณ์ส่วนตัวของ
ตนเองนี้แหละ ทั้งเรื่องการปลูก การดูแลรักษา การให้น้ำ ให้ปุ๋ย การเก็บเกี่ยวผลผลิต ผมทำเอง
ทั้งสิ้น"

พริกพันธุ์ซุปเปอร์ฮ็อตกับเพชรดำ เป็นต้นพริกที่มีลักษณะแข็งแรง ทนทานโรค ใบเป็นทรงพุ่ม
เหมาะสำหรับปลูกตลอดฤดูกาล แม้กระทั่งในฤดูฝน ต้นแตกแขนงปานกลาง ต้นสูง 70-80
เซนติเมตร ติดผลดก ผลชูเหนือทรงพุ่ม ผลดิบสีเขียวเข้ม ผลสุกสีแดงสด ผลยาว 5-7
เซนติเมตร อายุเก็บเกี่ยว 70-80 วัน หลังย้ายกล้า ท่านผู้อ่านสามารถสังเกตเห็นได้จากรูปภาพว่า
มีผลดกจริงๆ

เทคนิคและวิธีการปลูก ดูแลรักษาต้นพริกของสวนแห่งนี้ เป็นเทคโนโลยีแบบบ้านๆ ที่ไม่ได้อิง
หลักวิชาการแต่อย่างใด อาศัยความรู้และประสบการณ์ล้วนๆ ของผู้ปลูกเอง

คุณสาย เล่าให้ฟังว่า เมื่อแรกเริ่มก่อนการเพาะปลูก คุณสายจะนำฝุ่น (ภาษาราชการ เรียก ปุ๋ยขี้
วัว) ไปใส่ให้ทั่วแปลงปลูก จากนั้นก็ใช้รถไถ (ควายเหล็ก) ไถกลบแปลง แล้วยกร่องแปลงปลูก
ระยะที่ใช้ปลูก กว้างประมาณ 80 เซนติเมตร ห่าง 40 เซนติเมตร แบ่งพื้นที่ไว้ด้านข้างเพื่อตีร่อง
แปลงปลูกด้วย เมื่อทำแปลงเสร็จ ขั้นต่อไปก็เริ่มดำเนินการปลูกต้นกล้า แต่ก่อนที่จะนำต้นพริกมา
ปลูกต้องเพาะกล้าก่อน โดยนำเมล็ดพันธุ์ที่ซื้อนำมาเพาะบนแปลง ขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 5
เมตร (พริก 1 กระป๋อง เพาะได้ 5 แปลง) ต้นกล้าใช้เวลาในการเติบโต อยู่ในช่วงระหว่าง 25-30
วัน ถ้าจะให้เหมาะ อย่าให้ต้นกล้ามีอายุมากกว่า 30 วัน เพราะพริกจะอยู่ในช่วงการเจริญเติบโต
แตกกิ่งแรก หากเคลื่อนย้ายต้นกล้าในช่วงนี้จะทำให้การเจริญเติบโตหยุดชะงัก พริกจะขยายกิ่ง
ยาก เมื่อปลูกต้นกล้าได้อายุ 1 สัปดาห์ ถ้าฝนไม่ตกสามารถใส่ปุ๋ยบำรุงดินได้ ใส่ปุ๋ยเม็ดโดยจะใส่
ตรงกลางร่องแปลงปลูกระหว่างต้น ห้ามใส่ลงโคนรากโดยตรง เพราะจะทำให้รากเกิดเชื้อรา เน่า
ตายได้ง่าย หยอดปุ๋ยเสร็จกลบด้วยฝุ่น (เศษวัชพืช ขี้วัว) เพื่อไม่ให้ปุ๋ยกระจายไปที่อื่น

เรื่องดูแล เจ้าของเฝ้าระวังเรื่องโรคใบหงิกใบงอ ตัวบุ้งก็เป็นตัวการสำคัญที่ต้องเฝ้าระวัง หมั่นถอน
วัชพืชอยู่เป็นประจำ ส่วนการให้น้ำ คุณสายจะรดน้ำวันเว้นวัน สาเหตุที่รดน้ำวันเว้นวันเพราะไม่มีแรง
งาน ใช้แรงงานในครอบครัวก็เลยรดน้ำวันละแปลงสลับกัน ถ้าหากติดสปริงเกลอร์จะทำให้สิ้น
เปลืองต้นทุนการผลิต อีกอย่างถ้าให้น้ำมากๆ จะทำให้น้ำท่วมรากเน่าได้ พริกเป็นพืชที่มีอายุการ
เก็บเกี่ยวสั้น ปลูกได้เพียง 1 ปี ก็ถอนต้นแล้วปลูกใหม่ได้ ช่วงที่ถอนต้นจะอยู่ในช่วงเดือนเมษายน
ถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี (ถอนต้นเพื่อเป็นการพักดิน) เมื่อถอนต้นแล้วก็สามารถปลูกพืชชนิด
ใหม่ได้ พืชที่ตนปลูกก็จะเป็น มะเขือเทศ ถั่วฝักยาว และมะเขือ ปลูกหมุนเวียนกันไป ทำให้ตนมี
รายได้ตลอดเวลา และดินไม่เสื่อมคุณภาพ

การเก็บเกี่ยวผลผลิต ช่วงนี้เป็นช่วงที่เกษตรกรภูมิใจเป็นที่สุด เพราะกว่าจะมาถึงฤดูกาลนี้ ก็ใช้
เวลาเกือบ 4 เดือน ช่วงการเก็บเกี่ยวตนจะจ้างแรงงานชาวบ้านในแถบละแวกนี้ ต้นพริกปลูกรุ่น
หนึ่งเก็บได้ จำนวน 10 ครั้ง ระยะเวลาก็ประมาณ 1 ปีพอดี ภาพถ่ายที่นำมาแสดงให้เห็นนี้จะเป็น
พริก รุ่นที่ 5 แล้ว แต่ผลก็ยังสมบูรณ์ ดกเต็มต้น สวยงามเหมือนเดิม ช่วงการเก็บเกี่ยวผ่านไป 1
สัปดาห์ ก็สามารถออกดอกและให้ผลใหม่ได้ รุ่นนี้ต้นพริกเริ่มแก่วันอังคาร สามารถเก็บผลผลิต
ได้ และพริกจะเริ่มแก่อีกทีในวันพฤหัสบดี เก็บได้เลย แต่ไม่ได้เก็บเสร็จในทีเดียว เพราะบางผลก็
แก่ บางผลก็อ่อน จะต้องคอยสังเกตอยู่เสมอๆ แต่ละรุ่นเก็บพริกได้ประมาณ 500-600 กิโลกรัม
จากทั้งหมด 5 ไร่

ส่วนเรื่องการตลาดนั้น หากจะพูดถึงเรื่องพ่อค้าคนกลางก็อดสงสารเกษตรกรชาวสวนชาวไร่ของ
เราไม่ได้ เพราะราคาออกจากสวนไม่กี่บาท พ่อค้าคนกลางรับซื้อ แต่ผู้บริโภคซื้อกินราคาก็แพงน่า
ดู อย่างช่วงนี้พริกราคากิโลกรัมละ 20 บาท เพราะเป็นช่วงที่พริกราคาตก แต่ถ้าหากช่วงที่ราคาแพง
ก็จะอยู่ที่ กิโลกรัมละ 60-80 บาท เกษตรกรที่สนใจปลูกอย่าเพิ่งถอดใจ เพราะพริกก็มีช่วงราคา
ขึ้นราคาลงเหมือนสินค้าเกษตรทั่วไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้คุณสายขาดทุนแต่อย่างใด ช่วงปี พ.ศ.
2551 พริกราคาสูงมาก คุณสายปลูกและขายได้เงินไม่ต่ำกว่า 400,000 บาท ต่อปี แต่ปีที่แล้ว
(2552) ปลูกและขายได้เพียง 50,000-60,000 บาท ต่อปี สวนพริกของคุณสายมีพ่อค้าคน
กลางมารับซื้ออีกทอดหนึ่ง มีลูกค้าที่ขายพริก 3-4 ราย

สำหรับการลงทุน คุณสายไม่ได้ลงทุนค่าใช้จ่ายอะไรมาก เพราะมีที่ดินเป็นของตนเอง จะจ้างเพียง
รถไถไถยกแปลงในช่วงแรก และจ้างแรงงานช่วงเก็บเกี่ยวเท่านั้น ส่วนอื่นคุณสายจะทำเองทั้งหมด
และครอบครัวจะมาช่วยบ้าง ถ้าใครสนใจสามารถมาดูได้ที่สวนพริกของคุณสายตามที่อยู่ดังกล่าว
หรือติดต่อได้ที่ โทร. (080) 474-3846 เป็นเบอร์โทร.ของผู้ช่วยผู้ใหญ่ลัว (ลูกชาย) ถ้าโทร.
มาหาตอนกลางวันจะไม่ได้คุยกัน แต่สามารถฝากข้อความไว้ได้ แต่ถ้าโทร.มาช่วงเย็นกลับจาก
สวนก็สามารถพูดคุยกันได้

เกษตรกรรายนี้ ยินดีให้คำแนะนำ หรือหากจะให้ไปสอนก็ได้ แต่ต้องไม่ไกลจากแปลงปลูกของ
ตน เพราะไม่มีคนดูแลแทน จึงไม่สามารถเดินทางไกลๆ ได้ แต่ถ้าใกล้ๆ สามารถไปดูให้ได้

นอกจากทำสวนพริกแล้ว คุณสายยังมีการบริหารจัดการที่ดินได้อย่างยั่งยืน เรียกว่าทุกตารางนิ้วไม่
มีพื้นที่ว่างเหลืออยู่เลย ปลูกข้าวนาปี ปลูกมะม่วงตามคันรอบแปลง สามารถขายได้ ปลูกมะเขือ
มะเขือเทศ ตามขอบแปลงพริก เลี้ยงหมูขายลูก ขายแม่ (ไม่ต้องซื้อหัวอาหาร เพราะคุณสายมีโรง
สีข้าว และรำข้าวก็นำมาจากโรงสีตนเอง) เลี้ยงไก่ไว้ขายไข่ กินเนื้อก็ได้ เลี้ยงเป็ดไว้ขายไข่ ขาย
3 ฟอง 10 บาท (คุณสายยังให้ไข่เป็ดผู้เขียนมาจำนวนหนึ่งด้วย) และเลี้ยงวัวเนื้อฝูงหนึ่ง เอาไว้
ขายยามจำเป็น เหมือนมีกระปุกออมสินกระปุกใหญ่อยู่ในบ้าน ส่วนเรื่องการใช้จ่ายก็มิได้ฟุ่มเฟือย
พอมีพอกิน ใช้ชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง เท่านี้ก็มีความสุข


ที่มา : เทคโนโลยีชาวบ้าน


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 21/03/2010 4:04 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
mixfeed
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 04/08/2009
ตอบ: 29

ตอบตอบ: 16/03/2010 8:17 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เมื่อลุงคิมนำเรื่องพริกมาลง ก็ได้เวลาอันเป็นมงคลที่จะสอบถามในเรื่องการปลูกพริก เช่น

การเตรียมดิน. การบำรุงต้นขณะยังเล็ก. การบำรุงระยะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิต. การบำรุงให้เก็บ
ผลผลิตได้นาน. การทำให้พริกติดผลดก. การป้องกันโรคใบหงิก. หนอนเจาะผลพริก.
โรคผลเน่า. โรครากเน่า.

ตอนนี้ผมเริ่มเพาะพริกไว้แล้ว อีกประมาณ 20 กว่าวันก็สามารถนำลงปลูกได้แล้วครับ



ขอขอบพระคุณมากครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 16/03/2010 9:37 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

วันนี้ (16 มี.ค.) ว่างทั้งวัน เปิดเน็ตเห็นไม่มีคำถามเลยถือโอกาสท่องโลกเน็ตแล่นๆ บัดดลเกิด
ปิ๊งไอเดียร์ น่าจะก๊อปเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับเว้บของเรามาลงไว้ในเว้บเราบ้าง แต่ไม่ใช่ "โจร
ปล้นความคิด" นะ เพราะทุกเรื่องระบุเจ้าของเดิมครบ วัตถุประสงค์ก็คือ บริการพวกเราที่ไม่ได้
ท่องโลกอินเตอร์เน็ต ฝึกฝนพวกเราให้เป็นนักอ่าน สร้างประกายไอเดียร์ให้บางคนเอาต่อยอด

ชื่อที่หัวจั่วในกระทู้ที่ว่า "ประสบการณ์ตรง" น่ะ ตั้งใจจะใส่เติมเพิ่มให้ทีหลัง เป็นข้อมูลที่คน
เขียนเดิมท่านไม่ได้เขียนไว้ แต่เป็นข้อมูลที่ลุงคิมเคยสัมผัสมาแล้ว ผสมผสานกับแนวความคิด
ใหม่แบบ "คิดนอกกรอบ" กับถ้ามีคนส่งคำถามมาก็จะร่ายให้ฟัง (อ่าน) ประมาณนั้น ..... อันนี้
ขอบอกก่อนนะว่า ขึ้นอยู่กับอารมย์ด้วย ถ้าอารมย์บ่จอยละก็ ลุงไม่เขียนซะดื้อๆ งั้นแหละ

อย่างเรื่อง "พริก" ที่ถามมานี้ ถือว่า O.K. .....พริกบนต้นคือพริกสด พริกในครกคือน้ำพริก




ตอบ :

1. การเตรียมดิน+ เตรียมแปลง ..... ใส่อินทรีย์วัตถุ (ขี้วัว+ขี้ไก่ 1:1 ยิบซั่ม กระดูกป่น เศษ
พืชแห้ง) อัตราส่วน 1:4 ของเนื้อดิน คลุกเคล้าให้เข้ากันดี ยกแปลงสูง 50-75 ซม. สันแปลง
สูงๆจะช่วยต้นอายุยืนนาน จำนวนรอบเก็บเกี่ยวมากขึ้น

หมายเหตุ :
- ใส่ยิบซั่มมากๆหน่อย เพราะแคลเซียมในยิบซั่มจะช่วยบำรุงเนื้อพริกให้คุณภาพดี น้ำหนักดี ป้อง
กันโรคกุ้งแห้งเทียม. กับกำมะถันในยิบซั่มจะช่วยให้สีจัด รสจัด กลิ่นดี
- การยกแปลงสูงๆ ทำให้น้ำไม่ขังค้าง เมื่อน้ำไม่ขังค้างดินก็ไม่เป็นกรด เมื่อดินไม่เป็นกรดก็ไม่
เกิดโรครากเน่าโคนเน่า
- ยกแปลงเสร็จ บ่มดินนาน 1 เดือน ระหว่างบ่มดินรดด้วย "ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-
10" ให้ 2 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 15 วัน เป็นการเตรียมสารอาหารไว้ล่วงหน้า เมื่อปลูกลงไปแล้ว
ไม่ต้องใส่ปุ๋ยเคมีแม้แต่เม็ดเดียว

2.การบำรุงต้นขณะยังเล็ก.....ให้ "ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10" ทุก 15 วัน โดยฉีด
พ่นลงโคนต้น

3.การบำรุงระยะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิต..... ใน 1 เดือน ให้ทางใบด้วย "ยูเรก้า + ฮม.ไข่" 2
รอบ กับให้ "ปุ๋ยน้ำดำ 1 รอบ" แต่ละรอบห่างกัน 7-10 วัน.... หาโอกาสให้ "แคลเซียม
โบรอน" เดือนละ 1 ครั้ง.....ให้ "ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24" ทางดิน เดือนละ 1 ครั้ง

หมายเหตุ :
- ทุกครั้งที่ให้ปุ๋ยทางใบขอให้ +สารสกัดสมุนตไพรสูตรรวมมิตร ร่วมไปด้วยเพื่อประหยัดเวลา
- ให้สารสกัดสมุนไพรเดี่ยวๆ ทุก 2-3 วัน

4.การบำรุงให้เก็บผลผลิตได้นาน.....บำรุงตามข้อ.3 ประจำๆ สม่ำเสมอ ต้นจะไม่โทรม หรือ
โทรมช้ากว่าอายุขัยปกติ ตราบใดที่ต้นไม่โทรม ต้นก็จะออกดอกติดผลให้เก็บเกี่ยวได้เรื่อยๆ นั่น
คือ จำนวนรอบเก็บมากขึ้นนั่นเอง.....ปุ๋ยที่ช่วยให้ต้นไม่โทรม หรือโทรมช้า คือ แม็กเนเซียม.
กับสังกะสี. ไม่ใช่ เอ็น. พี. เค.

5.การทำให้พริกติดผลดก.....ฮม.ไข่ ช่วยให้ออกดอกดี ดอกออกมาแล้วบำรุงถูกต้อง ดอก
ทุกดอกพัฒนาเป็นผลได้ นั่นคิอ ผลดก

6.การป้องกันโรคใบหงิก.....ใบหงิกเกิดจากเพลี้ยไฟ ไรแดง ให้ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพรสูตรรวม
มิตรตอนเที่ยง (เน้นย้ำ....ตอนเที่ยงเท่านั้น) เพราะศัตรูพืชตัวนี้มาตอนเที่ยง

7.หนอนเจาะผลพริก...... ฉีดพ่นสารสกัดสมสุนไพรสูตรรวมมิตรบ่อยๆ วันต่อวัน วันเว้นวัน

8.โรคผลเน่า..... เรียกว่า "กุ้งแห้ง" มี 2 ชนิด....กุ้งแห้งเทียม. เกิดจากขาดแคลเซียม. อันนี้
ยิบซั่มในดินกับแคลเซียม โบรอน.ทางใบช่วยใด้....กุ้มแห้งแท้. เกิดจากเชื้อแอนแทร็คโนส. อัน
นี้สารสกัดสมุนไพรช่วยได้

9.โรครากเน่า.....เกิดจากดินเป็นกรด แก้โดยอย่าให้ดินเป็นกรด



ลุงคิมครับผม

ปล.
- ไม่ต้องใส่ปุ๋ยเม็ดทางดินทุกสูตร เพราะ "ยูเรก้า. ฮม.ไข่. ปุ๋ยน้ำดำ. แคลเซียม โบรอน."
ทุกตัวที่ให้ทางใบกับ "ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง" ที่ให้ทางดิน มีปุ๋ยอย่างเพียงพอแล้ว
- ทางเลือก คือ "ทำเอง" หรือ "ซื้อ" เท่านั้นแหละ
- ใช้ "ยูเรก้า" ให้ระวัง เพราะพริกขี้หนูหอมจะกลายเป็นพริกขี้หนูยอดสน....พริกขี้หนูยอดสนจะ
กลายเป็นพริกชี้ฟ้า....พริกชี้ฟ้าจะกลายเป็นพริกหยวก....พริกหยวกจะกลายเป็นพริกยักษ์....ขนาด
จะใหญ่เกินจนตลาดไม่เอานะ
- พริกไม่ถูกกับยาฆ่าหญ้าทุกชนิด เพราะฉนั้นห้ามใช้เด็ดขาด
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
mixfeed
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 04/08/2009
ตอบ: 29

ตอบตอบ: 17/03/2010 9:05 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ไชโย ไชโย ไชโย

วันนี้ลุงคิมยังอารมย์ดีอยู่ ช่วยตอบปัญหาเรื่องการปลูกพริกแล้ว ขอบพระคุณมากครับ

ตอนนี้คงต้องเริ่มเตรียมดินแล้วครับ เพราะต้องบ่มดินประมาณ 1 เดือน ขาดอะไรคงต้องวิ่งเข้า
บางแพ หาของมาแก้ขัดก่อน ส่วนเรื่องทำเองค่อยว่าทีหลัง ตอนนี้ขอซื้อไปก่อนครับ

ขอบพระคุณลุงคิมอีกครั้งครับ ........ ลุยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ลุยปลูกโลด
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©