kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11554
|
ตอบ: 26/06/2017 4:09 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
.
.
โรคใบไหม้
Seedling Blight
สาเหตุ :
เกิดจากเชื้อรา Curvularia eragostidis
ลักษณะอาการ :
พบอาการของโรคบนยอดที่ยังไม่คลี่หรือบนใบที่เริ่มคลี่ 2 ใบแรกในระยะแรกเกิดจุดเล็ก ๆ ลักษณะโปร่งใสกระจายอยู่ทั่วไปบนใบต่อมาแผลมีการพัฒนาเห็นชัดเจนขึ้นมื่อแผลเจริญ
เต็มที่มีรูปร่างกลมสีน้ำตาลดำบุ๋มตรงกลาง ขอบแผลนูนมีลักษณะเป็นมัน แผลมีวงสีเหลืองล้อมรอบ ต่อมาแผลขยายตัวใหญ่ขึ้นมีรูปร่างกลมรี ความยาวขาองแผลอาจถึง 7 - 8 มิลลิเมตร ถ้าหากโรคระบาดรุนแรงแผลจะรวมตัวกันทำให้ใบเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลมองดูคล้ายไฟไหม้ อาการใบแห้งจากโรคนี้จะเริ่มจากใบล่างขึ้นไปใบแห้ง ม้วนงอมีลักษณะกรอบ ต่อมาเกิดอาการ die back
การเจริญเติบโตของต้นกล้าชะงักและต้นกล้าสามารถฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ได้ แต่ก็ไม่เหมาะในการนำไปปลูก เนื่องจากมีการเจริญเติบโตช้ากว่าต้นกล้าปกติ ในกรณีที่โรครุนแรงทำให้ต้นกล้าถึงตายได้
การแพร่ระบาด :
สปอร์ของเชื้อราปลิวไปกับลมในอากาศ น้ำฝน และในระหว่างการให้น้ำต้นกล้าปาล์มน้ำมัน
การป้องกันกำจัด :
คอยสังเกตใบอ่อนของต้นกล้าซึ่งเป็นส่วนที่ง่ายต่อการเข้าทำลายของเชื้อรา เมื่อพบอาการของโรคบนใบควรตัดส่วนที่เป็นโรคออกทำลาย ถ้าเกิดอาการรุนแรงต้องนำต้นที่เป็นโรคออกจากแปลงเพื่อเป็นการกำจัดแหล่งของเชื้อสาเหตุในแปลงเพาะ
บำรุงรักษาให้ปุ๋ยแก่ต้นกล้าให้ต้นกล้าแข็งแรง
ใช้สารเคมี เบโนมิล หรือแคปแทน โดยใช้สารเคมี 56 กรัมต่อน้ำ 12.5 ลิตร
http://www.doa.go.th/palm/linkTechnical/Seedling%20Blight.html
----------------------------------------------------------------------------
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3879
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=5150
@@ สปริงเกอร์ :
* สวนไม้ผลขนาด 50 ไร่ ขนาดต้นสูงน้องๆ เสาไฟฟ้า ฉีดพ่นทางใบด้วยเครื่องฉีดพ่นแรงสูง สูงมากๆ เพื่อให้ทั่วทรงพุ่ม ทำงานทีละต้น ๆๆ ใช้เวลาต้นละ 10-15 นาที พื้นที่ 50 ไร่ ทำงาน 8 โมงเช้า ถึงบ่าย 4 โมง ทุกวันใน 1 อาทิตย์ คนทำงานทุกวันแต่ต้นไม้ได้รับปุ๋ยเคมีวันเดียว ไม่คิดให้ทางรากที่ต้องเดินหว่านปุ๋ยทีละต้นๆ ให้น้ำอีกต่างหาก
สวนไม้ผลแบบนี้ หากต้องการบำรุงแบบเต็มที่ เพื่อให้ได้ผลเต็มที่ หรือเพื่อให้ต้นได้สะสมความสมบูรณ์เต็มที่ จะต้องทำงานทุกวัน ตลอดทั้งปี ไหวเหรอ
* สวนไม้ผลขนาด 50 ไร่สวนเดียวกัน ติดระบบสปริงเกอร์ ใช้เครื่องยนต์ 10 แรงม้า แบ่งเป็นโซนได้โซนละ 10 ไร่ ทำงานโซนละ 10 นาที ใช้เวลาเพียง 50 นาที ตัดเวลาคนเดือน 1 ชม. เท่ากับใช้เวลาเพียง 2 ชม.ต่อการทำงาน 1 ครั้งเท่านั้น
@@ ประสิทธิภาพประสิทธิผลเนื้องาน :
- ให้ทางใบ ฉีดพ่น ปุ๋ย/ฮอร์โมน/ยาสมุนไพร/น้ำเปล่า ได้ตามวัน เวลา และระยะเวลาที่ต้องการ การให้ปุ๋ยทางใบที่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ต้องให้ตอนปากใบเปิด (10 โมงเช้า ถึงบ่าย) .... การฉีดพ่นสารสมุนไพร เช่น ฉีดพ่นตอนเช้ามืดก่อนสว่างเพื่อล้างน้ำค้าง, ฉีดพ่นตอนเที่ยงเพื่อกำจัดเพลี้ยไฟ ไรแดง, ฉีดพ่นตอนหลังค่ำเพื่อไล่แมลงแม่ผีเสื้อเข้ามาวางไข่ หรือป้องกันกำจัดแมลงปากกัดปากดูดที่มาตอนกลางคืน,
- ให้ทางราก น้ำเปล่า/น้ำหมักชีวภาพ/ปุ๋ย ตามวัน เวลา และระยะเวลาที่ต้องการ
- ติดตั้งระบบสปริงเกอร์ครั้งหนึ่ง อยู่นานใช้งานได้ 10-20-30 ปี
- การให้ปุ๋ยไปกับระบบสปริงเกอร์แบบนี้ อเมริกาทำมานานกว่า 50 ปีแล้ว เรียกว่า การให้ปุ๋ยทางท่อ หรือ การให้ปุ๋ยไปกับระบบน้ำ
@@ หม้อปุ๋ยหน้าโซน V.S. ถังปุ๋ยที่ปั๊ม :
- หม้อปุ๋ยหน้าโซน : ความจุเนื้อ ปุ๋ย/ฮอร์โมน/ยา สำหรับจำนวนต้นเฉพาะในโซน, สูตรเฉพาะไม้โซนนั้น, ไม่มีเนื้อปุ๋ยตกค้างในท่อ, ใช้แรงงานคนเดียว, ราคาแพง,
- ถังปุ๋ยที่ปั๊ม : ความจุเนื้อ ปุ๋ย/ฮอร์โมน/ยา สำหรับจำนวนต้นไม้ทั้งแปลงที่สปริงเกอร์ไปถึง, สูตรเดียวกันทั้งสวน, มีเนื้อปุ๋ยตกค้างในท่อ แปลงใหญ่มากตกค้างในท่อมาก, ใช้แรงงาน 2 คน, เนื้อปุ๋ยกัดลูกยางซีลปั๊ม, ราคาถูก,
---------------------------------------------------------------------
. |
|