-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตทางวิทยุ 15 APR *สารสมุนไพร (46), แกวมังกร
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตทางวิทยุ 15 APR *สารสมุนไพร (46), แกวมังกร
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตทางวิทยุ 15 APR *สารสมุนไพร (46), แกวมังกร

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 15/04/2016 11:27 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตทางวิทยุ 15 APR *สารสมุนไพร (46), แกวมังกร ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตทางรายการวิทยุ 15 APR

AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...

* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

http://kasate.site88.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1
* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

http://www.mysuccessagro.com
* บ.มายซัคเซส อะโกร---ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
7) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

----------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)

มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......

------------------------------------------------------------------------





สารสมุนไพร (46)

การทำ .... สมุนไพรกำจัดแมลงศัตรูพืช ! !

มะละกอ :

การใช้มะละกอ ป้องกันกำจัดโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราสนิม โรคราแป้ง ส่วนของใบมะละกอมีสารออกฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อราสาเหตุของการเกิดโรคได้ดี เช่น ราสนิม ราแป้ง

การนำมาใช้ทางการเกษตร :

นำใบมะละกอมาหั่นให้ได้น้ำหนัก 1 กก. แล้วนำไปแช่ในน้ำสะอาด 1 ลิตร จากนั้นขยำชิ้นส่วนของใบมะกอกับน้ำ เพื่อคั้นเอาแค่น้ำที่ได้จากใบมะละกอ นำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วเติมน้ำสะอาดลงไปผสมกับน้ำคั้นที่ได้จากใบมะละกอ ให้ได้น้ำสารละลายทั้งหมด 4 ลิตร ก่อนนำไปใช้ให้ผสมกับน้ำสบู่ประมาณ 15 กรัม คนให้เข้ากันก่อนนำไปฉีดพ่นในแปลงพืชที่เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อรา
------------------------------------------------------------------------

มะเขือเทศ :
การใช้ใบมะเขือเทศ ป้องกันกำจัด ด้วงหมัดผัก ด้วงหน่อไม้ฝรั่ง หนอนใยผัก หนอนเจาะลำต้น หนอนผีเสื้อกะหล่ำ ไรแดง แมลงวัน แมลงสาบ

สารสกัดจากมะเขือเทศในแปลงพืชผลทางการเกษตร สามารถป้องกันไม่ให้แมลงมาวางไข่ ยับยั้งการกินอาหารของแมลงศัตรูพืชได้ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันกำจัดด้วงหมัดผัก ด้วงหน่อไม้ฝรั่ง หนอนเจาะลำต้น หนอนใยผัก หนอนผีเสื้อกะหล่ำ แมลงสาบ และ โรคเหี่ยวที่เกิดจากไรแดงได้

การนำมาใช้ทางการเกษตร :
วิธีที่ 1 :
ใช้ใบสดและลำต้นสดประมาณ 1 กิโลกรัม ทุบพอแตกแล้วนำไปแช่ในน้ำร้อน 1 ปี๊บ แช่ทิ้งไว้นาน 5 ชั่วโมง แล้วกรองเอาแต่น้ำไปฉีดพืชผัก

วิธีที่ 2 : ปลูกมะเขือเทศแซมระหว่างแถวของพืชปลูก หรือ แถวกะหล่ำปลี สามารถช่วยป้องกันการเข้าทำลายของผีเสื้อกลางคืนตัวเต็มวัยของหนอนผีเสื้อกะหล่ำได้ ทั้งยังเป็นการป้องกันไส้เดือนฝอยเข้าทำลายพืชปลูกได้ด้วย
-----------------------------------------------------------------------

มะกล่ำตาหนู :
ใช้มะกล่ำตาหนู ป้องกันกำจัด หนอนกระทู้ หนอนใยผัก หนอนกินใบทั่วไป เมล็ดมะกล่ำตาหนู จะมีพิษโดยตรงกับระบบทางเดินอาหารและระบบประสาททั้งคนและ สัตว์ เมื่อนำไปใช้ทางการเกษตรจึงสามารถป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชได้หลายชนิด

การนำมาใช้ทางการเกษตร :
นำเมล็ดมะกล่ำตาหนูมาบดให้ละเอียด แช่ในน้ำ 1 ลิตร แช่ทิ้งไว้ 1 คืน แล้วนำมากรองเอากากออก จากนั้นนำน้ำหมักเข้มข้นที่กรองได้ไปผสมเข้ากับน้ำสะอาดอีก 20 ลิตร แล้วนำไปฉีดพ่นกำจัดแมลงศัตรูพืชในแปลงผักต่อไป
-----------------------------------------------------------------------

สาบเสือ :
การใช้สาบเสือ ป้องกันกำจัด เพลี้ยกระโดด เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยหอย เพลี้ยไฟ หนอนกระทู้ หนอนใยผัก และ หนอนอื่นๆ

ใบของสาบเสือมีกลิ่นฉุน จึงสามารถนำมาใช้เป็นสารป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช เช่น เพลี้ยชนิดต่างๆ หนอนในแปลงผัก และใช้เป็นยาเบื่อปลาได้

การนำมาใช้ทางการเกษตร :
นำต้นสาบเสือและใบมาตากแห้ง หรือจะใช้ต้นและใบสดก็ได้เช่นกัน จากนั้นนำมาบดให้ละเอียด ผสมน้ำในอัตราส่วน สาบเสือแห้งบด 5 ขีด ต่อน้ำ 10 ลิตร (ถ้าใช้สดก็ใช้ในอัตราส่วน สาบเสือบด 1 กก. ต่อ น้ำ 10 ลิตร) แล้วคนให้เข้ากัน แช่ทิ้งไว้นาน 1 วัน แล้วนำมากรองด้วยผ้าขาวบางก่อนนำน้ำหมักที่ได้ไปใช้ ให้ผสมสารจับใบ เช่น สบู่ แชมพู หรือ ผงซักฟอก โดยใช้ในอัตรา ส่วน น้ำหมักสาบเสือ ครึ่งช้อนโต๊ะ ต่อ น้ำเปล่า 5 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่ว ทุกๆ 7 วัน ในช่วงเย็น
------------------------------------------------------------------------

ว่านน้ำ :
ใช้ว่านน้ำ กำจัด ด้วงหมัดผัก หนอนกระทู้ผัก แมลงวันทอง แมลงในโรงเก็บ ด้วงงวงช้าง ด้วงเจาะเมล็ดถั่ว มอดตัวป้อม มอดข้าวเปลือก

ในเหง้าของว่านน้ำจะมีน้ำมันหอมระเหยชนิด Calamol aldehyde ซึ่งเป็นพิษต่อระบบประสาทของแมลง โดยจะออกฤทธิ์เป็นยาฆ่าแมลง

ส่วนที่ใช้ : ราก เหง้า น้ำมันหอมระเหยจากต้น
สารเคมี : มีน้ำมันหอมระเหย (Calamus oil) 2-4% ในน้ำมันประกอบด้วย Sesquiterpene เช่น asarone, Betasalone (มี 70-80%) และตัวอื่นๆ ยังมี glucoside รสขมชื่อ acorin

การนำมาใช้ทางการเกษตร :
วิธีที่ 1 :
นำเหง้าของต้นว่านน้ำ มาบดละเอียด จำนวน 2 ขีด ผสมกัน้ำเปล่า 1 ปี๊บ แช่ทิ้งไว้ 1 วัน หรือ จะต้มนานประมาณ 40 นาที ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำไปฉีดพ่นฆ่าแมลง ก่อนนำไปใช้ให้ผสมสารจับใบเข้าไปเล็กน้อย ฉีดพ่นในแปลงพืช ทุก 2 วัน

วิธีที่ 2 : นำเหง้าว่านน้ำที่บด ละเอียด จำนวน ครึ่ง กิโลกรัม ผสมกับขมิ้นบด จำนวน ครึ่งกิโลกรัม เติมน้ำ 1 ปี๊บ แช่ทิ้งไว้นาน 2 วัน แล้วกรองเอาน้ำหมักที่ได้ ไปฉีดไล่แมลงวันในแปลงพืชผักและไม้ผล ทั้งยังเป็นการป้องกันหนอนกระทู้ผักเข้าทำลายพืชผักได้เป็นอย่างดี

วิธีที่ 3 :
นำเหง้าแห้งมาบดให้เป็นผง คลุกเคล้าให้เข้ากันกับเมล็ดพันธุ์พืชที่แห้งสนิท ในอัตรา ส่วน เมล็ดพันธุ์ 50 กิโลกรัม ต่อว่านน้ำ 1 กิโลกรัม สามารถป้องกันแมลงในโรงเก็บได้

วิธีที่ 4 : เป็นวิธีที่ใช้ในการป้องกันแมลงในโรงเก็บ ด้วยการใช้น้ำมันว่านน้ำ หรือชิ้นส่วนของเหง้า บดคลุกเคล้าให้เข้ากันกับเมล็ดพันธุ์พืช เช่น เมล็ดถั่วเขียว เมล็ดถั่วเหลือง ที่ต้องการเก็บไว้ทำพันธุ์ในฤดูกาลถัดไป วิธีนี้สามารถป้องกันแมลงศัตรูในโรงเก็บอย่างได้ผลดี
----------------------------------------------------------------------

จาก : (061) 782-46xx
ข้อความ : เดือนนี้มีแก้วมังกรในห้าง เป็นแก้วมังกรนอกฤดูไช่ไหม สังเกตุดูลูกไม่ค่อยใหญ่ ซื้อมากินรสออกเปรี้ยว ผมลงไว้ 4 ไร่ อายุ 4 ปี น้ำดีเพราะเจาะบาดาลของตัวเอง อยากให้ผู้พันพูดเรื่องแก้วมังกรบ้างครับ .... จาก ศรีสวัสดิ์
ตอบ :
- แก้วมังกรที่ออกเดือนนี้เป็นแก้วมังกรในฤดู ส่วนแก้วมังกรที่ออกหน้าหนาวเป็นแก้วมังกรนอกฤดู กับแก้วมังกรที่ออกช่วงตรุษจีนนั่นเป็นแก้วมังกรแจ๊คพ็อต

- แก้วมังการที่ได้รับการบำรุงตามแนว อินทรีย์นำ เคมีเสริม ตามความเหมาะสมของแก้วมังกร โดย....

* ทางใบ : โบโออิ (แม็กเนเซียม. สังกะสี.) แคลเซียม โบรอน, น้ำตาลทางด่วน
* ทางราก : ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์. (แคลเซียม. ซัลเฟอร์. แม็กเนเซียม. ซิงค์), ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง (กุ้งหอยปูปลาทะเล เลือด ไขกระดูก นม น้ำมะพร้าว ขี้ค้างคาว หมักข้ามปี)

.... ลูกใหญ่ ลูกเล็ก อยู่ที่การบำรุง เริ่มจากดินขึ้นถึงบนฟ้า (รากถึงยอด) ทำเต็มที่ได้ผลเต็มที่ ทำเต็มทีได้ผลเต็มที เต็มทีเต็มที่ ทำอย่างไร ? เมื่อไหร่ ? เท่าไหร่ ?

.... นอกจากได้ผลขนาดใหญ่แล้ว คุณภาพเนื้อกรอบ หอม รสหวานชัดเจน กว่าแก้วมังกรที่บำรุงแบบเดิมๆ ที่เคยทำกันมา

* อายุดอกตั้งแต่เริ่มแทงออกมาขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว ถึงดอกบาน 15 วัน
* อายุผลตั้งแต่ผสมติดหรือกลีบดอกร่วง ถึงเก็บเกี่ยว 30-40 วัน

* การใช้ฮอร์โมนจิ๊บเบอเรลลิน 1 ครั้ง ฉีดพ่นพอเปียกใบ (กิ่ง) ก่อนดอกบาน 11 วัน จะช่วยให้ผลมีน้ำหนัก ความหวาน ความแน่นเนื้อ ความหนาเปลือก สีเนื้อ สีเปลือก และกลีบผลมีคุณภาพดีขึ้น

* ช่วงผลโตประมาณขนาดเท่าไช่ไก่ บำรุงด้วย "จิ๊บเบอเรลลิน + ยูเรีย จี." (1-2 รอบ) ห่างกันรอบละ 3-5 วัน จะช่วยให้ผลโดเร็ว และคุณภาพดี

* เริ่มห่อผลเมื่ออายุผล 15 วัน หรือ 2 สัปดาห์หลังกลีบดอกร่วง

* ตรวจสอบอาการอั้นตาดอกด้วยการใช้ปลายเล็บขูดผิวเปลือกบริเวณตุ่มตา (ใต้หนาม) ดูเนื้อในไต้เปลือก ถ้าเนื้อในใต้หนามเป็นสีเหลืองอมน้ำตาลแสดงว่าอั้นตาดอกดี เมื่อเปิดตาดอกจะออกเป็นดอก แต่ถ้าเนื้อในใต้หนามเป็นเขียวแสดงว่ายังอั้นตาดอกไม่ดี เปิดตาดอกไม่ออก

* ห่อผลแก้วมังกรด้วยถุงใยสังเคราะห์จะช่วยรักษาผิว และสีเปลือกได้ดีกว่าถุงห่ออย่างอื่น

* อายุผลครบกำหนดเก็บเกี่ยวหรือ 30 วันหลังกลีบดอกร่วง สีเปลือกแดงดีแล้วสามารถปล่อยฝากต้นต่อไปได้อีก 15 วัน โดยสีเปลือกที่เคยแดงเข้มจะลดลงมาเป็นแดงอมชมพู แต่ขนาดผลจะใหญ่ขึ้น รสชาดและน้ำหนักดีขึ้นไปอีก

* ช่วงที่ผลกำลังพัฒนาแล้วมีฝนตกชุก ให้บำรุงด้วย "ธาตุรอง/ธาตุเสริม" ถี่ขึ้นระดับวันเว้นวันจนถึงเก็บเกี่ยวจะช่วยให้คุณภาพผลดี รสหวาน เนื้อแน่น เปลือกบาง แต่ถ้าบำรุงด้วยธาตุรอง/ธาตุเสริมไม่ถึงจะทำให้รสเปรี้ยวหรือจืดชืด เนื้อเหลว เปลือกหนา

* ช่วงผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวแล้วมีฝนตกชุก สีเปลือกจะไม่แดงแต่ยังคงเขียว ให้บำรุงด้วยธาตุรอง/ธาตุเสริมถี่ๆ ระดับวันเว้นวันต่อไป จนกระทั่งครบกำหนดวันเก็บซึ่งสีเปลือกยังเขียวอยู่เก็บมาแล้วปล่อยทิ้งให้ลืมต้น 2-3 วัน สีเปลือกจะเปลี่ยนจากเขียวเป็นแดงเอง ส่วนรส ชาดก็จะยังคงดีเหมือนเดิม

* ผลแก้วมังกรที่ได้รับ "ธาตุรอง/ธาตุเสริม" เต็มที่ เมื่อแกะผลด้วยมือ (ไม่ใช้มีดผ่า) เนื้อจะจับเหมือนวุ้นก้อนเล็กๆ รสชาติดีมาก
------------------------------------------------------------------------

ขั้นตอนการปฏิบัติบำรุงต่อแก้วมังกร
1. เรียกกิ่งอ่อน
ทางใบ :

- ให้ ไบโออิ (Mg Zn TE) + 30-10-10 + สารสกัดสมุนไพร ฉีดพ่นพอเปียกใบ ทุก 5-7 วัน
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
ทางราก :
- ใส่ยิยซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, หญ้าแห้งคลุมโคนต้นหนาๆ
- ให้น้ำหมักชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 +เพิ่ม 30-10-10 (1/2 กก.) /ต้น ละลายน้ำรดโคนต้น
- ให้น้ำปกติ ทุก 2-3 วัน
หมายเหตุ
- การเรียกิ่งอ่อนชุดใหม่นี้สำคัญมาก กล่าวคือ ถ้ากิ่งอ่อนชุดใหม่ในต้น (หลัก) เดียว กันออกไม่พร้อมกันทั้งต้น จะทำให้การออกดอกไม่พร้อมกัน หรือออกไม่เป็นชุด หรือออก แบบทยอยเป็นชุดเล็กชุดน้อย ส่งผลให้ยากต่อการบำรุงเป็นอย่างมาก แนวทางแก้ไข คือ ต้องบำรุงเตรียมต้นตั้งแต่ก่อนตัดแต่งกิ่งให้สมบูรณ์จริงๆ ไว้ล่วงหน้าเท่านั้น

- หลังจากให้ทางใบไปแล้ว 5-7 วัน ถ้าต้นใดแตกกิ่งอ่อนดีน้อยกว่า 50% ให้ฉีดพ่นซ้ำรอบสองด้วยอัตราและวิธีการเดิม เพราะถ้าต้นแตกกิ่งอ่อนไม่พร้อมกันทั่วทั้งต้นจะส่งผลเสียหลายอย่างตั้งแต่การเร่งกิ่งอ่อนเป็นกิ่งแก่ การสะสมอาหารเพื่อการออก การปรับ ซี/เอ็น เรโช. การเปิดตาดอก ซึ่งจะออกดอกไม่พร้อมกันทั่วทั้งต้น และเมื่อดอกออกไม่พร้อมกันก็กลายเป็นผลไม่พร้อมกัน ทำให้ยุ่งยากต่อการปฏิบัติบำรุงตามขั้นตอนอย่างมาก .... แก้ไขโดยต้องบำรุงเรียกกิ่งอ่อนให้ออกมาเป็นชุดเดียวพร้อมกันทั้งต้นให้ได้

- เมื่อใบอ่อน (ยอด) ยาวประมาณ 30-50 ซม.ให้เข้าสู่ขั้นตอนเร่งใบอ่อนให้เป็นใบแก่

2. เร่งกิ่งอ่อนเป็นใบแก่
ทางใบ :

- ให้ไบโออิ + 0-21-74 หรือ 0-39-39 (สูตรใดสูตรหนึ่ง) + สารสกัดสมุนไพร ฉีดพ่นพอเปียกใบ 2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
ทางราก :
- ให้น้ำหมักชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 (2 ล.) /ไร่ รดทั่วแปลงทุกตารางนิ้ว +เพิ่ม 8-24-24 (1/2 กก.) /ต้น ละลายน้ำรดโคนต้น
- ให้น้ำปกติ ทุก 2-3 วัน
หมายเหตุ :
- เริ่มปฏิบัติเมื่อกิ่งที่ต้องการให้ออกดอกยาวประมาณ 30 ซม.
- ขั้นตอนการเร่งกิ่งอ่อนเป็นกิ่งแก่ในแก้วมังกรไม่จำเป็นนัก การปฏิบัติต้องระวังเพราะอาจจะทำให้กิ่งนั้นกลายเป็นกิ่งสั้นแต่แก่จัด แม้ออกดอกติดผลได้แต่ได้จำนวนดอกและผลไม่มาก

- สารอาหารในกลุ่มเร่งใบอ่อนเป็นใบแก่ซึ่งมีฟอสฟอรัส. และโปแตสเซียม. นอกจากช่วยเร่งใบให้เป็นใบแก่แล้ว ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพขั้นตอนสะสมอาหารเพื่อการออกดอกได้ด้วย

- กิ่งหางหนูเรียวเล็กยาวหรือกิ่งปกติแต่ค่อนข้างยาว ถ้าต้องการให้กิ่งนั้นแก่และไม่ยาวต่อไปอีกให้เด็ดปลาย 2-3 ข้อทิ้งไป กิ่งนั้นจะไม่เจริญทางยาวแต่เจริญทางข้างจนกลาย เป็นกิ่งแก่

3. สะสมอาหารเพื่อการออกดอก
ทางใบ :

- ให้ไบโออิ 0-42-56 (2 รอบ) สลับด้วยแคลเซียม โบรอน + น้ำตาลทางด่วน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน ฉีดพ่นพอเปียกใบติดต่อกันอย่างน้อย 1 เดือน

ทางราก :

- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 (2 ล.) /ไร่ รดทั่วแปลงทุกตารางนิ้ว +เพิ่ม 8-24-24 (1/2-1 กก.) /ต้น ละลายน้ำรดโคนต้น
- ให้น้ำปกติ ทุก 2-3 วัน
หมายเหตุ :
- เริ่มปฏิบัติเมื่อกิ่งที่ต้องการให้ออกดอกติดผลยาวประมาณ 50-80 ซม.
- ปริมาณการให้ 8-24-24 มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณการติดผลรุ่นที่ผ่านมา ถ้ารุ่นที่ผ่านมาติดผลดกมากให้ใส่ตามอัตรากำหนดหรือใส่มากขึ้น ถ้ารุ่นที่ผ่านมาติดผลน้อยหรือไม่ติดเลยให้ใส่ต่ำกว่าอัตรากำหนดหรือใส่ปานกลาง

- แนวทางบำรุงให้ต้นได้สะสมอาหารเพื่อการออกดอกไว้มากที่สุดควรเตรียมแผนใช้เวลาบำรุง 2-2 เดือนครึ่ง
- ปริมาณสารอาหารเพื่อการสะสมตาดอกที่ต้นได้รับจำนวน 3 ใน 4 ส่วน ไปจากดินที่ผ่านการเตรียมมาอย่างดี ส่วนการให้ทางใบเป็นเพียงเสริมเท่านั้น

4. ปรับ ซี/เอ็น เรโช
ทางใบ :

- ให้ไบโออิ 0-42-56 (2 รอบ) สลับด้วย แคลเซียม โบรอน + น้ำตาลทางด่วน 1 รอบ ห่างหกันรอบละ 5-7 วัน ฉีดพ่นพอเปียกใบไม่ให้ตกลงพื้น
ทางราก :
- เปิดหน้าดินโคนต้นให้แสงแดดส่องถึง
- งดให้น้ำเด็ดขาด สวนยกร่องน้ำหล่อจะต้องสูบน้ำออกให้หมด
หมายเหตุ :
- เริ่มปฏิบัติเมื่อได้สะสมอาหารจนต้นมีความสมบูรณ์เต็มที่และสภาพอากาศเอื้ออำนวย
- ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงขั้นต่อไป คือ ปรับ ซี/เอ็น เรโช ให้ทบทวนความทรงจำเมื่อครั้งเรียกกิ่งอ่อนแล้วกิ่งอ่อนออกมาพร้อมกันเป็นชุดเดียวทั่วทั้งต้นหรือไม่ ถ้ากิ่งอ่อนออกมาพร้อมกันดีทั่วทั้งต้นให้ปรับ ซี/เอ็น เรโช ต่อไปได้เลย แต่ถ้ากิ่งอ่อนออกมาไม่พร้อมกันเป็นชุดเดียวทั่วทั้งต้นและค่อนข้างต่างรุ่นกันมากก็ให้บำรุงสะสมอาหารเพื่อการออกดอกต่อไปอีก 2-3 รอบ เพื่อรอให้กิ่งอ่อนชุดหลังสะสมอาหารจนอั้นตาดอกดีเท่ากับกิ่งอ่อนชุดแรกจากนั้นจึงลงมือปรับ ซี/เอ็น เรโช ทั้งนี้วัตถุประสงค์เพื่อทำให้มีดอกออกมาพร้อมกันเป็นชุดเดียวกันทั่วทั้งต้นนั่นเอง

- จากประสบการณ์ตรงพบว่าการปรับ ซี/เอ็น เรโช ด้วยวิธีงดน้ำและเปิดหน้าดินโคนต้นนั้นไม่ใช่สิ่งจำเป็น เพราะแก้วมังกรเป็นพืชอวบน้ำ แม้จะงดน้ำอย่างไรใบหรือกิ่งก็ไม่สลด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเน้นที่การบำรุง “สะสมอาหารเพื่อการออกดอก” เป็นหลัก

- ต้นที่มีอาการอั้นตาดอกดีจนพอใจแล้วไม่ต้องฉีดพ่นกลูโคสหรือนมสัตว์สดเพิ่มอีก แต่ถ้าต้นมีอาการอั้นตาดอกไม่ดีหรือยังไม่น่าพอใจ แนะนำให้ฉีดพ่นกลูโคสหรือนมสัตว์ทางใบอีกซ้ำอีก 1 รอบ โดยเว้นระยะเวลาให้ห่างจากที่เคยให้เมื่อช่วงสะสมอาหารไม่น้อยกว่า 20-30 วัน

- มาตรการเสริมด้วยให้แสงไฟขนาด 60-100 วัตต์ช่วงหลังพระอาทิตย์สิ้นแสงวันละ 2-3 ชม.และก่อนพระอาทิตย์ขึ้นอีก 1-2 ชม.ติดต่อกัน 1-2 สัปดาห์จะช่วยให้เกิดการสะสมเพิ่ม ซี. และลด เอ็น. ได้มาก

5. สำรวจความพร้อมของต้น

- ก้านใหญ่ สีเปลือกเขียวเข้ม ปลายก้านโค้งมนด้วน
- ตุ่มตาใต้หนามนูนยาวชี้เข้าหากลางกิ่งทั้งสองด้านของกิ่ง
- สีหนามเป็นสีน้ำตาลไหม้หรือดำคล้ำ แข็ง เมื่อใช้ปลายนิ้วสะกิดเบาจะหลุดร่วง
- ตรวจตาด้วยการสุ่มดึงหนามใดหนามหนึ่งขึ้นมาดู ถ้าเนื้อใต้หนามเป็นสีเหลืองแสดงว่าอั้นตาดอกดี แต่ถ้ายังเป็นสีเขียวอยู่แสดงว่าอั้นตาดอกไม่ดี
หมายเหตุ
เริ่มปฏิบัติพร้อมๆกันกับการปรับ ซี/เอ็น เรโช

6. เปิดตาดอก
ทางใบ :
วิธีที่ 1
ในไทเป + สารสกัดสมุนไพร ทุก 5-7 วัน ฉีดพ่นพอเปียกใบ อย่าให้ลงถึงพื้น
วิธีที่ 2 ใช้ฮอร์โมนเปิดตาดอกแก้วมังกรโดยเฉพาะ โดยใช้ปลายเล็บขูดผิวเปลือกบริเวณตุ่มตา (ใต้หนาม) ออกก่อนแล้วใช้ปลายพู่กันจุ่มฮอร์โมนเข้มข้นทาหรือป้ายบนผิวเปลือกที่ขูดนั้น ฮอร์โมนจะซึมผ่านเข้าสู่ภายในได้ดีขึ้น ใช้ฮอร์โมนป้ายตาอั้นตาดอกเต็มที่แล้ว 2-3 ตา/กิ่ง แต่ละตาห่างกัน 2-3 ข้อ
ทางราก :
- ยังคงเปิดหน้าดินโคนต้น
- ยังคงงดน้ำ
หมายเหตุ :
- เริ่มปฏิบัติหลังจากต้นมีอาการอั้นตาดอกเต็มที่และสภาพอากาศพร้อม
- แก้วมังกรตอบสนองต่อปุ๋ยน้ำชีวภาพและฮอร์โมนธรรมชาติ (ทำเอง) ดีมาก การใช้เพียงฮอร์โมนไข่ที่มีสาหร่ายทะเลเป็นส่วนผสมอยู่ด้วยเปิดตาดอกก็สามารถออกดอกได้ ถ้าต้นได้รับการสะสมอาหารเพื่อการออกดอกและปรับ ซี/เอ็น เรโช มาดี

- ถ้าดอกออกมาไม่มากพอ ระหว่างที่ดอกชุดแรกยังเป็นดอกตูมอยู่นั้น ให้เปิดตาดอกซ้ำอีก 1-2 รอบด้วยสูตรเดิม หรือจนกระทั่งดอกชุดแรกบานแล้วจึงยุติการเปิดตาดอกซ้ำ

7. บำรุงดอก
ทางใบ :

- ให้ไบโออิ 15-45-15 + เอ็นเอเอ. + สารสกัดสมุนไพร ฉีดพ่นพอเปียกใบ ทุก 5-7 วัน
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
ทางราก :
- ยังคงเปิดหน้าดินโคนต้น
- ให้ 8-24-24 (1/2 กก.) /ต้น
- ให้น้ำเล็กน้อยพอต้นรู้ตัว ทุก 2-3 วัน
หมายเหตุ :
- เริ่มปฏิบัติเมื่อดอกขนาดเท่าปลายตะเกียบหรือเมล็ดถั่วเขียว
- ดอกแก้วมังกรบานและต้องการผสมเกสรช่วงกลางคืน (19.00-21.00) โดยลมพัด ถ้าไม่มีลมพัดช่วยส่งละอองเกสรตัวผู้ก็ต้องช่วยผสมด้วยมือ โดยเด็ดดอกแก้วมังกรจากต้นอื่นไปแหย่ใส่ให้กับอีกดอกหนึ่ง โดยให้ละอองเกสรตัวผู้ของดอกที่เด็ดมาสัมผัสกับเกสรตัวเมียของต้นที่เก็บดอกไว้ หรือเก็บเกสรตัวผู้ใส่กล่องพ่นเกสร (ใช้ผสมเกสรทุเรียน-สละ) ฉีดพ่นใส่ดอกที่กำลังบานก็ได้ ผลที่เกิดจากดอกที่ได้รับการช่วยผสมด้วยมือจะเป็นสมบูรณ์และขนาดใหญ่เสมอ

- แมลงหากินกลางคืน ช่วยผสมเกสรได้ คือ “ชันโรง” และชันโรงไม่ทิ้งรังเหมือนผึ้ง (อยู่ที่เดิมตลอดไป) จึงควรอนุรักษ์ไว้ใช้งาน

- ดอกแก้วมังกรบานพร้อมผสมแล้วมีฝนตกชุก ผลที่เกิดมาจะเล็กหรือแคระแกร็น
- ช่วงดอกตั้งแต่เริ่มแทงออกมาให้เห็นหรือระยะดอกตูม บำรุงด้วยฮอร์โมน เอ็นเอเอ. 1 รอบ จะช่วยบำรุงเกสรทั้งตัวผู้และตัวเมียให้สมบูรณ์พร้อมรับผสม แต่ต้องใช้ด้วยระมัดระวังเพราะถ้าให้เข้มข้นเกินไปจะเกิดความเสียหายต่อดอกและถ้าให้อ่อนเกินไปก็จะไม่ได้ผล

- ช่วงดอกเริ่มแทงออกมาใหม่ๆให้แคลเซียม โบรอน. 1 รอบ จะช่วยให้ดอกสมบูรณ์ผสมติดดี
- ช่วงดอกตูมควรฉีดพ่นสารสัดสมุนไพรบ่อยขึ้น เพื่อป้องกันโรคและแมลงจนถึงช่วงดอกบาน
- ช่วงดอกบานงดการฉีดพ่นทางใบ เพราะอาจทำให้เกสรเปียกชื้นจนผสมไม่ติดได้

- ระยะดอกบานถ้าตรงกับช่วงฝนชุกเกสรจะเปียกชื้นทำให้ผสมไม่ติด แก้ไขโดยกะระยะให้ดอกออกมาแล้วไม่ตรงกับช่วงฝนชุกเท่านั้น แต่ถ้าดอกออกมาตรงกับช่วงแล้งอากาศร้อนมากเกสรจะฝ่อทำให้ผสมไม่ติดได้เช่นกัน แก้ไขโดยการสร้างความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศและที่พื้นดิน ทั้งในแปลงปลูกและรอบๆแปลงปลูก .... มาตรการบำรุงต้นและดอกให้สมบูรณ์อย่างแท้จริงอยู่เสมอตั้งแต่เริ่มต้นจะช่วยลดความสูญเสียได้เป็นอย่างมาก

- เพื่อความมั่นใจในเปอร์เซ็นต์หรือประสิทธิภาพของฮอร์โมน เอ็นเอเอ. แนะนำให้ใช้ฮอร์โมน เอ็นเอเอ.วิทยาศาสตร์แทนฮอร์โมน เอ็นเอเอ. ทำเองจะได้ผลกว่า

- ฉีดพ่นสารอาหารเพื่อบำรุงดอกด้วยเครื่องมือฉีดพ่นที่มีแรงลมพ่นเบาที่สุดตามความเหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อส่วนต่างๆของดอก ฉีดพ่นที่ช่อดอกโดยตรงพอเปียกหรือฉีดพ่นให้ทั่งทรงพุ่มพอเปียกใบก็ได้

- บำรุงดอกช่วงฝนชุกให้เน้น “สังกะสี และ แคลเซียม โบรอน” โดยให้เมื่อดอกออกมาแล้วหรือให้แบบสะสมล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงเปิดตาดอก ให้เดี่ยวๆหรือผสมรวมไปกับธาตุอาหารอื่นๆก็ได้

- แก้วมังกรปี ออกดอกติดผลช่วงหน้าฝน การบำรุงแบบเดิมๆ รสชาดจืดหรือเปรี้ยว แต่ถ้าบำรุงด้วยแนว อินทรีย์นำ เคมีเสริม เน้น แม็กเนเซียม. สังกะสี. แคลเซียม โบรอน. น้ำตาลทางด่วน. (ไบโออิ. ยูเรก้า.) ทั้งทางใบทางราก ทั้งช่วงมีผลบนต้นและไม่มีผลบนต้น นอกจากได้ไซส์ผลขนาดใหญ่กว่าแล้ว คุณภาพเนื้อกรอบแน่น รสชาดออกหวานชัดเจนกว่าด้วย

8. บำรุงผลเล็ก – ผลกลาง
ทางใบ :

- ให้ ไบโออิ + ยูเรก้า (2 รอบ) สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 5 วัน ฉีดพ่นพอเปียกใบ
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
ทางราก :
- นำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ กลับเข้าคลุมโคนต้นอย่างเดิม
- ใส่ยิบซั่มธรรมชาติ 10 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการใส่เมื่อช่วงเตรียมดิน
- ใส่น้ำหมักชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง 21-7-14 (2 ล.) /ไร่ รดทั่วแปลง ทุกตารางนิ้ว +เพิ่ม 21-7-14 (1/2-1 กก.)/ต้น ละลายน้ำรดโคนต้น
- ให้น้ำปกติ ทุก 2-3 วัน
หมายเหตุ :
- เริ่มปฏิบัติหลังจากกลีบดอกร่วงหรือระยะ 1 สัปดาห์แรก
- เนื่องจากอายุการเจริญเติบโตของผลแก้วมังกรมีระยะสั้นมาก ตั้งแต่ผสมติดถึงเก็บเกี่ยวเพียง 1 เดือนหรือ 4 สัปดาห์เท่านั้น การใส่ปุ๋ยทางรากสูตร 21-7-14 แบบแบ่งใส่ 2-3 ครั้งๆละ 1 กำมือ/สัปดาห์จะได้ผลกว่าการใส่ครั้งเดียว

- ถ้าติดผลดกมากควรให้แม็กเนเซียม. ฮอร์โมน เอ็นเอ. ฮอร์โมนไข่. 1-2 รอบ โดยแบ่งให้ตลอดช่วงผลขนาดกลางจะช่วยให้ต้นไม่โทรมเนื่องจากแบกภาระเลี้ยงผลจำนวนมากบนต้น

- ช่วงผลเล็ก หรือหลังผสมติดใหม่ๆ ให้จิ๊บเบอเรลลิน 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 3 วัน จะช่วยเสริมให้การบำรุงขยายขนาดผลช่วงผลกลางได้ผลดียิ่งขึ้น

- ให้ทางใบด้วย ธาตุรอง/ธาตุเสริม 1-2 รอบ โดยแบ่งให้ตลอดช่วงผลกลางจะช่วยบำรุงขยายขนาดผลให้ใหญ่และเนื้อแน่นขึ้นแต่เมล็ดมีขนาดเท่าเดิม

- ผลโต 50% ห่อผลด้วยถุงก๊อบแก๊บแบบทึบแสงหรือถุงใยสังเคราะห์ จะช่วยให้สีผิวสวย ป้องกันนกเจาะกินอีกด้วย

9. บำรุงผลแก่ก่อนเก็บเกี่ยว
ทางใบ :

- ให้ 0-21-74 (2 รอบ) สลับด้วย แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 3 วัน ให้ครั้งสุดท้ายก่อนเก็บเกี่ยว 3-5 วัน ฉีดพ่นพอเปียกใบ
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
ทางราก :
- เปิดหน้าดินโคนต้น
- ให้ 13-13-21 (1/2-1 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม.
- งดน้ำ
หมายเหตุ :
- เริ่มปฏิบัติก่อนเก็บเกี่ยว 7-10 วัน
- ระยะเวลาในการบำรุงผลแก่ก่อนเก็บเกี่ยวเพียง 1 สัปดาห์ ให้ 2 รอบห่างกันรอบละ 3-5 วัน จะช่วยให้สีจัดรสดี เนื้อแห้งกรอบ

- ผลแก่แล้วเรียกว่า "แดง 1" ยังไม่เก็บ แต่ปล่อยคาต้น บำรุงต่อไปอีก 7-10 วัน ผลจะกลับมาเป็นสีชมพูอมแดง (ไม่แดงจัดเหมือนใหม่ๆ) จากนั้นผลจะกลับแดงอีกครั้ง เรียกว่า "แดง 2" จึงลงมือเก็บ คุณภาพภายในผลจะดีขึ้นกว่าเดิม .... สรุป : อายุผล ถึงแดง 1 ถึงเก็บปกติ = 30 วัน, อายุผล แดง 1 ต่อแดง 2 = 40 วัน

- การบำรุงผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวโดยให้ทางรากด้วย 8-24-24 เหมาะสำหรับต้นที่มีผลหลายรุ่นซึ่งหลังจากเก็บเกี่ยวผลแก่รุ่นแรกไปแล้วจะช่วยบำรุงผลชุดหลังต่อ นอกจากนี้ยังทำให้ต้นไม่โทรมเหมาะสำหรับการเตรียมความพร้อมต้นต่อการปฏิบัติบำรุงรุ่นปีต่อไปอีกด้วย
-------------------------------------------------------------------------

การบังคับแก้วมังกรให้ออกก่อนฤดูกาล

- เดือน ก.ค.- ส.ค. ...... ตัดแต่งกิ่ง เรียกใบอ่อน
- เดือน ก.ย.- ต.ค. ...... สะสมอาหารเพื่อการออกดอก

- เดือน พ.ย.- ธ.ค. ...... สะสมอาหารเพื่อการออกดอกพร้อมกับให้แสง ไฟขนาด 100 วัตต์ 1 หลอด/4 ต้น ช่วงเวลา 18.00-21.00 น. และ 05.00-06.00 น.ทุกวัน ตลอด 1 เดือน

- เดือน ม.ค. .............. เปิดตาดอก
- เดือน ก.พ. .............. บำรุงผล

หมายเหตุ :

- การให้แสงไฟวันละ 2-4 ชม.หลังพระอาทิตย์สิ้นแสง ช่วงอากาศหนาว (พ.ย.- ธ.ค.) ต้องใช้ระยะเวลานาน 20-25 วันขึ้นไป แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าแล้งใช้ระยะเวลาให้ประมาณ 15-20 วัน ซึ่งดอกที่ออกมาจะดกกว่าช่วงอากาศปกติที่ไม่มีการให้แสงไฟ....ในฤดูกาลปกติถ้ามีการให้แสงไฟก็จะช่วยให้ออกดอกดีและดกกว่าการไม่ให้แสงไฟ

- การบังคับให้ออกนอกฤดูจะสำเร็จได้ ต้นต้องได้รับการบำรุงอย่างดี มีการจัดการปัจจัยพื้นฐานด้านการเกษตร (ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค) อย่างถูกต้องสม่ำเสมอจนต้นสมบูรณ์เต็มที่ และไม่ควรปล่อยให้ออกดอกติดผลในฤดูกาลมาก่อน

----------------------------------------------------------------------




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©