-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรวิทยุ 16 MAR *สารสมุนไพร (26), กล้วยหอม
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรวิทยุ 16 MAR *สารสมุนไพร (26), กล้วยหอม
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรวิทยุ 16 MAR *สารสมุนไพร (26), กล้วยหอม

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 17/03/2016 1:38 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรวิทยุ 16 MAR *สารสมุนไพร (26), กล้วยหอม ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 16 MAR

AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...

* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

http://kasate.site88.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1
* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

http://www.mysuccessagro.com
* บ.มายซัคเซส อะโกร---ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
7) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

----------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)

มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......

-----------------------------------------------------------




** สารสมุนไพร สูตรเย้ยฟ้าท้าดิน :
หลักการและเหตุผล (เพื่อความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจ และก้าวไปสู่การเป็นนักวิจัยชาวบ้าน

งานวิจัย : สมุนไพร ป้องกัน/กำจัด เพลี้ยกระโดดนาข้าว

เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลเป็นศัตรูข้าวอันดับหนึ่งของประเทศไทยในปัจจุบัน เมื่อปี พ.ศ. 2533-2534 เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลได้ระบาดอย่างหนัก ทำความเสียหายให้กับนาข้าวในแถบจังหวัดภาคกลาง ทำให้เกษตรกรบางรายถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัว สาเหตุสำคัญที่ทำให้เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาด คือ เกษตรกรใช้พันธุ์ข้าวที่ให้ผลผลิตมาก แต่ความต้านทานต่ำ และใช้สารเคมีกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ซึ่งสารเคมีนี้มีผลกระทบกับตัวห้ำที่เป็นศัตรูตามธรรมชาติของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล จึงทำให้เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลไม่มีศัตรูตามธรรมชาติถ่วงสมดุล

ทางคณะผู้จัดทำจึงมีความคิดที่จะช่วยเหลือเกษตรกรที่เดือดร้อนซึ่งเราพบว่า สารสกัดจากสะเดามีผลทำให้กระบวนการสร้างสารไคติน ซึ่งเป็นสารประกอบสำคัญของเปลือกห่อหุ้มตัวแมลงผิดปกติ จึงนำสารที่สกัดจากสะเดามาทำการทดลองกับเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ผลในการใช้ ลดปริ มาณเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลไม่เป็นที่น่าพอใจ

จึงนำสารสมุนไพรชนิดอื่น ได้แก่ ข่า ตะไคร้ และกระเพา มาผสมกันโดยใช้สะดาเป็นสารหลักซึ่งปรากฏว่าสมุนไพรสูตรผสมระหว่าง สะเดา + ข่า + ตะไคร้ + กระเพา ในอัตราส่วนสารชนิดละ 25 กรัม รวมเป็นสาร 100 กรัม ต่อน้ำ 2 ลิตร มีประสิทธิภาพในการลดปริมาณเพลี้ยกระโดดสีน้ำ ตาลได้ถึง 96% โดยไม่มีผลกระทบต่อตัวน้ำและสิ่งแวดล้อม

หลังจากนั้น ได้นำสมุนไพรสูตรนี้ไปทดลองจริงในนาที่มีการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำ ตาลโดยใช้สาร 20 ลิตรต่อพื้นที่ 1 ไร่ โดยฉีดสารสมุนไพรทุก 3 วัน เป็นจำนวน 3 ครั้ง ปรากฏว่าได้ผลผลิตดีกว่านาใกล้เคียงถึง 82%

http://www.vcharkarn.com/project/595
-----------------------------------------------------------------------

สารสมุนไพร (26)

สูตร 100. สมุนไพรไล่แมลงวันทอง :

ใช้ “กระเทียม. สะเดา. มะกรูด. แตงไทย. ข่าดง. พญางวงช้าง. ลำดวน. ละหุ่ง. พระตะบะ. เอ็นหลวง. มหากำลัง.” อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน 1 กก. บดหรือโขลกพอแหลก แช่น้ำ 20 ล. นาน 24 ชม. ได้ “หัวเชื้อเข้มข้น” พร้อมใช้งาน .... ใช้ “หัวเชื้อ 20 ซีซี./น้ำ 20 ล.” ฉีดพ่นให้เปียกโชกทั้งใต้ใบบนใบ เน้นที่ผลแก่มากๆ ช่วงสายๆ แสงแดดเริ่มส่องดี ฉีดพ่นวันเว้นวันช่วงที่ระบาดไม่มากนัก หรือฉีดพ่นวันละ 2 รอบช่วงที่ระบาดอย่างหนัก
ศัตรูพืชเป้าหมาย :
ช่วย “ไล่” แมลงวันทองให้หนีไป

สูตร 101. หนอนตายหยาก กำจัดปลวก :
ใช้ “หนอนตายหยาก 1 กก. ใส่น้ำ 10 ล.” ต้มเคี่ยวให้เหลือ 1 ล. ได้ “หัวเชื้อเข้มข้น” ใช้งานได้เลย
ศัตรูพืชเป้าหมาย :
ใช้ฉีดพ่นใส่รัง มด/ปลวก ช่วยกำจัดและขับไล่ให้หนีไป

สูตร 102. พริก กำจัด หนอน/เพลี้ย /ไร กล้วยไม้ :
ใช้ “พริกสดเผ็ดจัด 1 กก.” บดละเอียด ผสมน้ำ 10 ล. กรองกากออก ได้ “หัวเชื้อเข้มข้น” พร้อมใช้งาน .... ใช้ “หัวเชื้อ 100-200 ซีซี. /น้ำ 100 ล.” ฉีดพ่นตอนใกล้ค่ำ
ศัตรูพืชเป้าหมาย :
ช่วยกำจัด หนอน. เพลี้ย. ไร. ในกล้วยไม้ และไม้ดอก

-----------------------------------------------


จาก :
(087) 165-34xx
ข้อความ : เรียนคุณลุงผู้พัน THE OLD SOLDIERS NEVER DIE ดิฉันอยู่ชัยนาท วันนี้สู้ภัยแล้งโดยปลูกกล้วยหอมแล้ว เริ่มจาก 5 ไร่ เดือนหน้าจะลงอีก 10 ไร่ ไม่ห่วงเรื่องน้ำ เพราะได้บาดาลแล้ว น้ำไหลแรงดีมาก คุณลุงผู้พันเคยพูดเรื่อง จีนส่งเสริมกล้วยหอมที่เชียงราย อยากให้เอาเรื่องนี้เล่าให้ฟังอีก หรือกล้วยหอมที่อื่นก็ได้ .... ขอบคุณค่ะ
ตอบ :
คำว่า THE OLD SOLDIERS NEVER DIE แปลว่า ทหารแก่ไม่เคยตาย เป็นคำพูดของนายพลแม็คอาเธอร์ ตอนที่ถูกประธานาธิบดีทรูแมน ปลดออกจากตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารสหรัฐ ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังสหประชาชาติ เนื่องจากนายพลแม็คอาเธอร์ พยายามที่จะเอาระเบิดปรมาณูไปทิ้งที่ประเทศจีนให้ได้ เพราะจีนสนับสนุนเกาหลีเหนือ จุดมุ่งหมายเพื่อเอาชนะสงครามเกาหลี โดยไม่สนใจคำท้วงติงของฝ่ายการเมือง และสหประชาชาติ ภารกิจนี้ถ้ายุติสงครามเกาหลีลงได้อย่างที่นายพลแม็คอาเธอร์คาดหวัง แต่ก็อาจก่อให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้นได้ เนื่องจากจะเป็นการดึงรัสเซียให้เข้าร่วมสงคราม
-------------------------------------------------------------

กรอบในการคิด :

“อยู่ชัยนาท” .... จังหวัดไหนๆก็เหมือนกัน ไม่เว้นแม้แต่ภาคไต้ บอกแล้ว ปี58แล้งอนุบาล ปี59แล้งประถม ปี60แล้งมัธยม ปี61
แล้งอนุปริญญา ปี62แล้งปริญญาตรี.... ตราบใดที่เขื่อนใหญ่ๆ ยังมีน้ำไม่เต็มเขื่อน นั่นแหละแล้งแน่ .... คิดง่ายๆ หน้าฝน ฝนมา ถามว่า ฝน
ตกครั้งละหรือปีละกี่ครั้ง นับจำนวนครั้งได้ ฝนตกลงมาที น้ำฝนไหลจากที่ดอนมาอยู่ในที่ลุ่ม แล้วที่ดอนจะเป็นยังไง

“ไม่ห่วงเรื่องน้ำ เพราะได้บาดาลแล้ว น้ำไหลแรงดีมาก”
.... แปลงนี้ไม่สงสัย เพราะเป็นสัจจะธรรมอยู่แล้ว แต่ที่สงสัยอย่างมากๆก็คือ แปลงข้างเคียง เจาะบาดาลได้แต่ไม่เจาะ เจาะบาดาลไม่ได้ก็ไม่ใช้วิธีอื่น ที่แน่ๆ ต้องปฏิบัติการทุกรูปแบบเพื่อให้ได้ “น้ำ” มาใช้งาน ไม่งั้น ปีนี้ปีหน้าปีต่อๆไป จะอยู่ยังไง

“วันนี้สู้ภัยโดยปลูกกล้วยหอมแล้ว”
.... ใช้น้ำน้อย น้อยกว่าข้าว ทำแล้วขาย ขายแล้วได้กำไรมากกว่าข้าว คนที่ไม่ได้ปลูกกล้วยหอม ก็น่าจะมองพืชอื่นบ้างก็น่าจะดี

“เริ่มจาก 5 ไร่ เดือนหน้าจะลงอีก 10 ไร่”
.... จาก 10 ไร่เพิ่มเป็น 20 ไร่ก็ได้ ถ้ามีที่ อย่าลืม พื้นที่ใหญ่มาก ผลผลิตมาก ตลาดรองรับไหวไหม กับแบ่งเป็นโซนๆ แก่เก็บเกี่ยวได้ทีละโซน จะดีกว่ามั้ย

“จีนส่งเสริมกล้วยหอมที่เชียงราย”
.... นั่นแหละ เกษตรแปลงใหญ่ เกษตรในฝันของรัฐบาล คสช. รวมเนื้อที่ได้หลายพันไร่ โดยผู้รับซื้อจากจีน ไม่ใช่ส่งเสริมเกษตรกรไทยทำฝ่ายเดียว ยังลงทุนเช่าที่ดินปลูกเองอีกด้วย งานนี้ ข้อตกลงที่สำคัญที่สุด คือ “ห้ามสารเคมียาฆ่าแมลง” อย่างเด็ดขาด จะไหวมั้ย ?

“อยากให้เล่าเรื่องกล้วยหอมที่อื่น”
.... O.K. จัดให้ กล้วยหอมที่อื่นก็มี กล้วยหอมอิสาน กล้วยหอมปทุทธานี กล้วยหอมลพบุรี แม้แต่กล้วยหอมเพชรบุรี นี่แหละ การตลาดนำการผลิต ปลูกแล้วได้ผลผลิตแล้วขายที่ไหน คนรับซื้อชื่ออะไร เบอร์โทรอะไร เรื่องทำนองนี้ ในโลก ไอที. อินเตอร์เน็ต มีให้รับรู้มากกมาย อยู่แต่ว่า สนใจมั้ย เท่านั้นแหละ.... อย่าง “ดาวอินคา” เอามาทำอะไรกินยังไม่รู้ สำมะหาอะไรกับแหล่งรับซื้ออยู่ที่ไหน คนรับซื้อชื่ออะไร เบอร์โทรอะไร วันนี้คนจะปลูก (เน้นย้ำ....จะปลูก) รู้จักแต่คนขาย เมล็ดพันธุ์/ต้นพันธุ์ เท่านั้น
----------------------------------------------

"กล้วยหอมทอง" บูมสุดขีด ราคาพุ่ง100% "หนองเสือ" เมืองปทุมอันดับ 1 ป้อนโมเดิร์นเทรด-เซเว่นฯ
ตลาดกล้วยหอมทองโตก้าวกระโดด ดีมานด์ตลาด ในประเทศ-ส่งออก รับซื้อไม่อั้น ดันราคาพุ่งกระฉูด 100% ผลิตไม่พอขาย


พื้นที่อำเภอ "หนองเสือ" ปทุมธานี แหล่งปลูกใหญ่สุด ป้อนผล ผลิตเข้าโมเดิร์นเทรด-เซเว่นฯ รายได้สะพัด 1,000 ล้านบาท เกษตรกรอู้ฟู่รับทรัพย์ กล้วยหอมเครือละ 200 บาท ช่วงเทศกาลสารทจีน ปลายเดือนสิงหา ราคาสูงเท่าตัว

กระแสการบริโภคกล้วยหอมทองเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด หลังจากมีการนำมาแบ่งหวีขายในแพ็กเกจจิ้งที่สวยงาม (เน้นย้ำ .... แพ็กเกจจิ้ง บรรจุภัณฑ์ ที่สวยงาม) โดยการวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น และในห้างโมเดิร์นเทรด ไม่ว่าจะเป็นแม็คโคร บิ๊กซี เทสโก้ โลตัส เป็นต้น ซึ่งเป็นการกระจายสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ประกอบกับสามารถนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตขนม เบเกอรี่ เค้ก ไอศกรีม น้ำปั่น รวมทั้งกระแสรักสุขภาพมาแรง ทำให้ความนิยมบริ โภคกล้วยหอมขยายตัวอย่างกว้างขวางในเวลานี้

ปัจจุบันแหล่งปลูกกล้วยหอมทองขนาดใหญ่ที่ป้อนเข้าสู่โมเดิร์นเทรด ได้แก่ อ.หนองเสือ ปทุมธานี, อ.วังน้อย อยุธยา, อ.ท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ก็มาเอาพันธุ์จาก อ.หนองเสือ ปุมธานี ไปปลูก โดยในปีนี้ถือเป็นช่วงขาขึ้นของกล้วยหอม ราคาขายตอนนี้อยู่ที่เครือละ 130-200 บาท (เครือละ 5-6 หวี) ขึ้นอยู่กับขนาดของกล้วยหอม หากเป็นช่วงตรุษจีนหรือสารทจีน ราคาจะพุ่งขึ้นไปถึงเครือละ 250 บาท

ปัจจุบันช่องทางการจัดจำหน่ายมี 2 รูปแบบ คือ พ่อค้าแม่ค้าเข้ามารับซื้อแล้วส่งกล้วยเข้าตลาดไท และตลาดสี่มุมเมือง และส่งขายให้กับโมเดิร์นเทรด ซึ่งโมเดิร์นเทรดจะต้องการลูกขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่มาก หวีละประมาณ 2.2 กก. ส่วนตลาดสี่มุมเมืองจะเป็นกล้วยขนาดใหญ่ซึ่งมีราคาสูงกว่า โดยจะขายในราคาเข่งละ 500-600 บาท (เข่งละ 7 หวี) ส่วนกล้วยขนาดเล็กนิยมนำไปทำเค้กกล้วยหอม ซึ่งตลาดยังมีความต้องการอีกมาก ปัจจุบันเกษตรกรผลิตไม่พอขาย

ปัจจุบันเทสโก้ โลตัส และบิ๊ก ซี เข้ามาติดต่อขอซื้อเป็นจำนวนมาก หรือบริษัทใหญ่ๆ มาทำเองก็มี โดยจะเช่าที่ปลูกประมาณ 2 พันไร่ แต่ปีนี้มีปัญหาที่ไม่คาดคิด คือ ภัยแล้ง ทำให้ลูกเล็ก ซึ่งปกติอำเภอหนองเสือ เป็นโซนที่มีน้ำอุดมสมบูรณ์ ทั้งจากชลประทานเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นพื้นที่ที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย

"การปลูกกล้วยหอมส่วนใหญ่จะใช้วิธีเซ้ง พ่อค้าจะให้ทุนเกษตรกรมาก่อน เพราะกล้วยหอมใช้ทุนสูง เช่น ปลูก 10 ไร่จำนวน 3,000 ต้น ต้องลงทุนประมาณ 1.2 แสนบาท หักต้นทุนและค่าปุ๋ยแล้ว จะได้กำไรประมาณ 3 แสนบาท หากชาวนาจะเปลี่ยนมาปลูกกล้วยก็ทำได้ แต่ปัญหาใหญ่ คือลงทุนสูง ต้องมีความรู้ในการดูแล และที่สำคัญมีความเสี่ยงสูงจากปัญหาลมแรง"

ราคากล้วยหอมทองพุ่ง 100%

ด้านนายสุริยา ธรรมธารา สมาชิก อบต.บึงกาสาม อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นเจ้าของสวนและผู้ค้ากล้วยหอมรายใหญ่ในจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า ปัจจุบันในหนองเสือจะมีพ่อค้ากล้วยหอมรายใหญ่ประมาณ 5-6 ราย ซึ่งตอนนี้ตนมีลูกสวนป้อนผลผลิตให้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ไร่ จึงมีผลผลิตหมุนเวียนส่งเข้าตลาดทุกวันประมาณวันละ 1 หมื่นหวี โดยส่งวัตถุดิบกล้วยหวีขนาดกลางให้กับแม็คโคร และบริษัท เอ-เบสท์ จำกัด ส่วนตลาดสี่มุมเมือง จะต้องการทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก

ทั้งนี้ มีโมเดิร์นเทรด หลายรายมาติดต่อให้ส่งกล้วยหอมไปจำหน่าย ล่าสุดได้เริ่มส่งให้กับบริษัท เอ-เบสท์ จำกัด ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายหนึ่งที่ส่งเข้าจำหน่ายในเซเว่นอีเลฟเว่น ส่วนการส่งออกนั้นค่อนข้างยาก โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่น รัสเซียมีมาตรฐานสูง ต้องปลอดสารเคมี และมีเงื่อนไขรายละเอียดมาก อย่างไรก็ตาม เฉพาะตลาดในประเทศก็ยังผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ

"อำเภอหนองเสือตอนนี้ กล้วยหอม คือ สินค้าเกษตรที่สร้างรายได้มากที่สุด มูลค่าตลาดรวมแล้วน่าจะแตะระดับพันล้านบาท ส่วนหนึ่งเพราะมีการขายเข้าโมเดิร์นเทรด ทั้งแม็คโคร บิ๊กซี เทสโก้ โลตัส มีสาขาทั่วประเทศ ทำให้คนเข้าถึงกล้วยหอมมากขึ้น ยิ่งตอนหลังในเซเว่นอีเลฟเว่นมีขายเป็นลูก ๆทำให้ช่องทางขายยิ่งมากขึ้น ที่สำคัญรายได้นี้ทำให้ชาวสวนอยู่ได้ กล้วยหอมถึงได้บูมมาก"

อย่างไรก็ตาม การปลูกกล้วยก็มีความเสี่ยงคือ ลมแรงพัดมาจะเสียหายหมด และล่าสุดเป็นครั้งแรกที่เจอภัยแล้ง หลายสวนแทบไม่รอด ทำให้ผลผลิตหายไป 30% หน่อกล้วยก็ขาดแคลน ช่วงนี้หากใครมีหน่อกล้วย 1-2 แสนหน่อ สามารถขายได้ในราคา 1-3 บาท

นายมานะ บุญสร้าง หัวหน้าฝ่ายการตลาด สหกรณ์การเกษตรท่ายาง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปีนี้ราคากล้วยหอมทองปรับตัวสูงขึ้น 100% เมื่อเทียบกับปี 2557 เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดค่อนข้างน้อยจากปัญหาภัยแล้ง และดีมานด์ผู้บริโภคทั้งในประ เทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กล้วยหอมทองเป็นผลไม้ที่สามารถปลูกได้เกือบทุกพื้นที่ของไทย ใช้เวลาราว 9 เดือนก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ส่วนใหญ่จะปลูกมากในพื้นที่ภาคกลาง โดยข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรระบุว่า ในปี 2556 ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทั้งประเทศ 86,270 ไร่ มีผลผลิตรวม 234,220 ตัน ใช้บริโภคภายในประเทศ 232,689 ตัน ส่งออกต่างประเทศ 1,531 ตัน มูลค่าการส่งออกกว่า 46.07 ล้านบาท

แหล่งเพาะปลูกกล้วยหอมที่สำคัญส่วนใหญ่อยู่บริเวณภาคกลาง โดย 5 จังหวัดที่มีพื้นที่เพาะปลูกกล้วยหอมมากที่สุด 5 อันดับแรกในปี 2556 คือ ปทุมธานี 14,170.5 ไร่ เพชรบุรี 8,956 ไร่ ชุมพร 8,507 ไร่ สระบุรี 3,997 ไร่ และหนองคาย 3,254 ไร่

ทั้งนี้ จังหวัด "ปทุมธานี" ถือเป็นแหล่งปลูกกล้วยหอมที่ใหญ่ที่สุดของไทย โดยในปี 2556 มีพื้นที่ปลูกกล้วยหอม 14,170.5 ไร่โดยมีข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ที่ดินเป็นดินเหนียว มีระบบชลประทานทั่วถึง ทำให้เหมาะกับการปลูกกล้วยหอม หรือพืชชนิดอื่น ๆ อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับตลาดค้าส่งผักผลไม้ขนาดใหญ่ทั้งตลาดไท ตลาดสี่มุมเมืองการขนส่งจึงสะดวกสบาย ผลผลิตเสียหายน้อย

ขณะเดียวกัน การปลูกกล้วยในปทุมธานีก็มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยตั้งแต่ปี 2553-2556 เป็นต้นมา พื้นที่เพาะปลูกกล้วยหอมในปทุมธานีเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 95 รวมทั้งจำนวนเกษตรกรที่หันมาปลูกกล้วยหอมเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 40 โดยปลูกมากที่สุดในอำเภอ "หนองเสือ" จำนวน 14,170.5 ไร่ ในปี 2556 และมีเกษตรกรจำนวน 701 ราย

ผลผลิตกล้วยหอมทองจากจังหวัดปทุมธานีจะป้อนเข้าสู่ตลาดในประเทศทั้งตลาค้าส่ง โม เดิร์นเทรด ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อที่มีความต้องการจำนวนมากทั้งยังส่งออกไปต่าง ประเทศ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นที่เข้ามาจับจอง ขอซื้อกันถึงในสวนจนผลิตไม่ทัน

"เฉลิมชัย เณรเถื่อน" เจ้าของฟาร์มกล้วยหอม วัน บานาน่า และผู้จัดจำหน่ายกล้วยหอมในเทสโก้ โลตัส บอกกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า พื้นที่ปลูกกล้วยหอมของวัน บานาน่า ส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี บริเวณคลอง 9 คลอง 10 และที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรี อยุธยา รวมทั้งหมดประมาณ 1,700 ไร่ มีผลผลิตราว 150 ตันต่อเดือน ซึ่งผลผลิตทั้งหมดจะส่งเข้าศูนย์กระจายสินค้าเพื่อวางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรด โดยปัจจุบันความนิยมบริโภคกล้วยหอมเพิ่มขึ้นมาก จนผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ

พยายามปลูกให้ได้เดือนละ 100 ไร่เพื่อให้มีผลผลิตตลอดทั้งปี และมีการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรเข้ามาเป็นคู่สัญญาส่งผลผลิตให้มากขึ้น และเมื่อใกล้ช่วงสารทจีนจะเพิ่มพื้นที่ปลูกเป็น 300-400 ไร่ เพราะความต้องการในช่วงดังกล่าวเพิ่มขึ้นหลายเท่า และอนาคตตลาดกล้วยหอมทองจะดีขึ้นเรื่อย ๆ เพราะราคามีแนวโน้มที่ดีอีกทั้งขณะนี้ผู้คนยังนิยมรับประทานกล้วยมากขึ้นจากเทรนด์สุขภาพที่มาแรง"

"เฉลิมชัย" ยังบอกอีกว่า ขณะนี้ตลาดต่างประเทศก็ยังมีความต้องการสูง โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสวนกล้วยหอมของวัน บานาน่า ที่ปทุมธานี มีบริษัทญี่ปุ่น 3 รายที่เข้ามาติดต่อให้ส่งผลผลิตให้ แต่เนื่องจากยังติดเงื่อนไขที่จะต้องปลูกแบบอินทรีย์ ปลอดสารเคมี ซึ่งปลูกค่อนข้างลำบากจึงอยู่ระหว่างการพิจารณา

ขณะที่ลพบุรีที่แม้จะมีพื้นที่ปลูกไม่มากนัก แต่กล้วยหอมจากที่นี่มีรสชาติดี เนื้อแน่น เหนียวอร่อยเป็นพิเศษ ทำให้มีความต้องการสูง มีวางขายในตลาดไทเพียงแห่งเดียวเท่านั้น โดยปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกกล้วยหอม 2,795 ไร่ อยู่ในบริเวณอำเภอเมือง 695 ไร่ และอำเภอบ้านหมี่ 2,100 ไร่ เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว 22,500 กก. และยังไม่มีการส่งออกไปยังต่างประเทศ

ตลาดกล้วยหอมจึงไม่ใช่ตลาดเล็กๆ กล้วยๆ เพราะแม้จะปลูกได้ทุกที่ทั่วไทย แต่ก็ยังไม่พอขาย


ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat
----------------------------------------------------

อีสาน...แหล่งผลิตกล้วยหอมทองส่งญี่ปุ่น…แห่งใหม่
พื้นที่ปลูกกว่า 1,000 ไร่ ในพื้นที่ปลูก 7 จังหวัด

หากพูดถึงภาคอีสานเชื่อว่าทุกคนนึกถึงภาพทุ่งรวงทองของนาข้าวที่ยึดครองพื้นที่ในภาคอีสานมาอย่างยาวนาน หรือวันนี้หลายคนอาจนึกถึงสวนยางพาราที่กำลังเป็นพืชเศรษฐกิจมาแรงของพื้นที่ภาคอีสาน ใครจะไปคิดว่าวันนี้ภาคอีสานจะกลายเป็นแหล่งผลิตกล้วยหอม ทองส่งญี่ปุ่นแห่งใหม่ที่กำลังขยายการผลิตอย่างรุดหน้าด้วยเครือข่ายการผลิตที่กระจายออกไปมากถึง 7 จังหวัดในภาคอีสาน ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างฐานการผลิตที่จะทำให้อีสานกลายเป็นแหล่งผลิตกล้วยหอมทองแห่งใหม่แหล่งใหญ่ของประเทศในอนาคตอันใกล้นี้

จุดเริ่มต้นของการปลูกกล้วยหอมทองสู่การขยายเครือข่ายกว่า 7 จังหวัด

คุณจักรินทร์ โพธิ์เพิ่ม ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกล้วยหอมทอง จ.อุดรธานี เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการปลูกกล้วยหอมทองในภาคอีสานที่เสมือนเป็นพืชแปลกถิ่นเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วว่า คุณพ่อของเขาเริ่มต้นนำกล้วยหอมทองมาปลูกที่อุดรธานีเมื่อปี 2537 เพื่อเป็นพืชสร้างรายได้หลังวัยเกษียณที่บ้านเกิด ตอนนั้นคุณจักรินทร์ยังทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ จากพื้นที่ปลูกกล้วยครั้งแรก 3 ไร่ ก็ขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และขยายสู่แปลงอื่นๆของเพื่อนบ้าน หลังจากที่เห็นกล้วยหอมเป็นพืชสร้างรายได้ดีกว่าการทำนา และจากกล้วยที่ปลูกเพื่อส่งขายตลาดในหมู่บ้านก็ขยายเป็นตลาดในอำเภอ ในจังหวัดและขยายสู่จังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสาน โดยเฉพาะตลาดริมทางที่ บ้านเดื่อ จ.หนองคาย ซึ่งสร้างชื่อเสียงของกล้วยหอมทองให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ยอดการขายกล้วยหอมทองผ่านตลาดริมทางนี้สูงจนทำให้มีการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นมากเนื่องจากเป็นจุดผ่านของนักท่องเที่ยวปริมาณมาก

จนกระทั่งปี 2552 ทางสำนักงานเกษตรได้เข้ามาส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนขึ้น และในปีนี้เองที่กล้วยหอมทองจากแหล่งผลิตที่นี่ได้มีโอกาสโกอินเตอร์ไปยังประเทศโดยผ่าน บริษัท แพน แปซิฟิค จำกัด ผู้รับซื้อกล้วยหอมทองส่งญี่ปุ่นรายใหญ่ของบ้านเรา วันนี้ตลาดขยายเพิ่มไปอีก 2 ประเทศ คือ จีนและเกาหลี

วันนี้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนขยายเครือข่ายไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อร่วมกันผลิตกล้วยหอมทองส่งญี่ปุ่นไปพร้อมกับขยายตลาดในประเทศด้วย ปัจจุบันมีสมาชิกร่วม 100 คน จากครั้งแรก 5 จังหวัด นั่นคือ อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู เลย สกลนคร ตอนนี้ขยายเพิ่มอีก 2 จังหวัด นั่นคือ ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ โดยจะมีการวางแผนการปลูกให้กับสมาชิก โดยในแต่ละจุดของการปลูกจะต้องมีพื้นที่ปลูกกล้วยรวมกันอยู่ที่ 5,000-10,000 หน่อ หรือประมาณ 15-25 ไร่ (350-400 หน่อต่อไร่) เป็นอย่างน้อย เพื่อให้มีปริมาณกล้วยเพียงพอสำหรับการเก็บเกี่ยวและขนส่งใน 1 ตู้คอนเทรนเนอร์ ซึ่งก็จะมีปริมาณ 3-5 ตันในการเก็บเกี่ยวต่อครั้ง

ความได้เปรียบ-เสียเปรียบของการผลิตกล้วยในภาคอีสาน

คุณจักรินทร์กล่าวว่า พื้นที่อีสานได้เปรียบตรงที่เป็นพื้นที่ใหม่ในการปลูกกล้วย การสะสมของโรค-แมลงยังน้อย ระบบนิเวศน์และสภาพแวดล้อมยังสมบูรณ์ ขณะที่ในพื้นที่ที่กล้วยมานานการเจริญเติบโตจะสู้พื้นที่ใหม่ไม่ได้ กล้วยปลูกซ้ำที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค การให้ผลผลิตก็ไม่ค่อยดี อีสานได้เปรียบในเรื่องของการจัดการที่ง่าย ต้นทุนค่าปุ๋ยและสารเคมีน้อยกว่าเขตอื่น แต่พื้นที่เขตอีสานก็เสียเปรียบตรงที่หาพื้นที่ยากเนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่แห้งแล้ง การลงทุนในเรื่องของระบบน้ำก็อาจจะสูงกว่าพื้นที่อื่น การวางแผนการผลิตต้องสัมพันธ์กับพื้นที่ อย่างพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำจะให้ปลูกช่วง เม.ย.-มิ.ย. พื้นที่ไม่มีแหล่งน้ำให้ปลูกช่วง ต.ค.-ม.ค. ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพื้นที่ไม่มีแหล่งน้ำ ทำให้ผลผลิตส่วนใหญ่จะออกมากในช่วงเดือน ส.ค.-พ.ย. ส่วนช่วงอื่นก็จะมีผลผลิตประปรายตลอดทั้งปี ซึ่งก่อนปลูกจะมีเจ้าหน้าที่ไปสำรวจพื้นที่ให้ก่อนปลูกทุกครั้ง

ตลาดและการรับซื้อ

ในส่วนของตลาดคุณจักรินทร์บอกว่า ที่นี่เน้นตลาดต่างประเทศเป็นหลัก โดยมีปริมาณผลผลิตประมาณ 10 ตัน/สัปดาห์ การแพ็คกิ้งและการขนส่งตอนนี้จะใช้วิธีนำคอนเทรนเนอร์เข้าไปในพื้นที่แปลงกล้วยที่เก็บเกี่ยว เพื่อสะดวกในการขนส่ง การเก็บเกี่ยวก็จะตัดกล้วยจากแปลงมาแขวนที่จุดแพ็คซึ่งทำโรงแพ็คแบบง่ายๆ จากนั้นตัดเป็นหวี ตรวจเช็คคุณภาพ น้ำหนักกล้วยต่อผลต้องไม่ต่ำกว่า 110 กรัม ถ้า 1 หวี มี 10 ลูก น้ำหนักต่อหวีก็ต้อง 1 กก.1 ขีด เป็นต้น จากนั้นก็จะนำมาล้างทำความสะอาด เป่าให้แห้ง ตรวจเช็คแมลงและสิ่งสกปรกอีกรอบก่อนจะบรรจุลงกล่องโดยรองบับเบิ้ลในกล่องก่อน และมีการติดบาร์โค้ท 1 บาร์โค้ทต่อกล้วย 3 ลูกเพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้เมื่อกล้วยมีปัญหา ในส่วนของราคารับซื้อทางกลุ่มจะประกันราคารับซื้อให้กับสมาชิกที่ 15 บาท/กก. ส่วนกล้วยที่ตกเกรดหรือกล้วยหวีเล็กที่อยู่บริเวณหัวและท้ายหวีก็จะขายตลาดในประเทศและนำไปแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า

ในส่วนของต้นทุนการผลิตประเมินไว้ที่ 22,000-25,000 บาทต่อไร่ โดย 1 ไร่ ปลูกกล้วยได้ 350-400 ต้น เท่ากับว่า 1 ไร่ จะได้กล้วย 350-400 เครือ น้ำหนักกล้วยต่อเครือ 10-15 กก. ราคารับซื้อ 15 บาท/กก. หรือถ้าคิดเป็นเครือก็ประมาณเครือละ 180-200 บาท รายได้ต่อไร่ก็จะอยู่ที่ 50,000-60,000 บาท นับเป็นรายได้ที่น่าจูงใจอย่างมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่เกษตรกรให้ความสนใจในการขยายพื้นที่ปลูกกันมาก แต่ข้อจำกัดของพื้นที่ภาคอีสานก็คือเรื่องของแหล่งน้ำอย่างที่บอกจึงทำให้การขยายพื้นที่จึงจำกัดอยู่

การดูแลสวนกล้วย

การปลูกกล้วยที่นี่จะใช้ระยะปลูก 2x2 เมตร 1 ไร่ ปลูกได้ 350-400 หน่อ หน่อที่นำมาปลูกต้องเป็นหน่อจากต้นที่มีอายุอายุ 1 ปีขึ้นไปจึงจะเป็นหน่อที่สมบูรณ์ ราคาหน่อกล้วยที่ขาย 8-10 บาท/หน่อ การให้น้ำที่นี่มีทั้งปล่อยไปตามร่องและใช้น้ำหยด โดยลงทุนค่าน้ำหยดไร่ละ 3,000 บาท สามารถควบคุมการให้น้ำได้ ควบคุมความชื้นได้ การให้ปุ๋ยจะให้ครั้งแรกช่วงรองพื้นก่อนปลูกครั้งหนึ่ง เมื่อกล้วยอายุ 1 เดือนเริ่มให้ 15-15-15 อัตรา 100-150 กรัม/ต้น อายุ 3-4 เดือน ให้สูตรเดิม อัตรา 200-300 กรัม/ต้น อายุ 5 เดือน ให้ 20-15-20 อัตรา 200-300 กรัม/ต้น

เมื่อกล้วยอายุ 4 เดือนจะแต่งหน่อที่แตกออกมารอบต้นออก หลังจากนั้นจะคอยแต่งหน่อทุก 10-15 วันครั้ง ส่วนใบกล้วยคุณจักรินทร์บอกว่าถ้าจะให้ดีควรเก็บใบไว้ให้มากที่สุด ตัดแต่งเฉพาะใบที่เสื่อมสภาพ หมดอายุออก โดยจะไว้ใบต่อต้นประมาณ 10 ใบ ซึ่งถือว่าดีที่สุด

กล้วยอายุ 6 เดือนจะเริ่มออกปลี หลังจากกล้วยแทงสุดปลีแล้วจะตัดปลีออก และหลังตัดปลีเกิน 15 วัน จะหุ้มเครือด้วยถุงพลาสติกสีฟ้า (เอธีลีนโพลีน)แบบเปิดด้านล่าง โดยหุ้มทั้งเครือ และหุ้มทุกเครือ เพื่อให้ผิวกล้วยสวย และป้องกันแมลงทำลาย ส่วนการตัดใบธง ตัดเมื่อใบธงเริ่มหักก่อนที่จะเสียดสีกับผิวกล้วย

หลังตัดปลีประมาณ 60-70 วันก็จะสามารถเก็บเกี่ยวได้ ถ้านับอายุตั้งแต่เริ่มปลูกก็ประมาณ 9-10 เดือนหรือประมาณ 1 ปี การปลูกกล้วยเพื่อส่งออกจะไม่มีการใช้สารเคมีหรือหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีให้มากที่สุด ประกอบกับที่นี่เป็นพื้นที่ใหม่จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค-แมลง ก็ไม่ค่อยมีการใช้สารเคมีกันอยู่แล้ว

วันนี้กล้วยหอมทองในอีสานกลายเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ที่สร้างรายได้ที่ดีให้กับเกษตรกรในพื้นที่ และได้รับความสนใจอย่างมากจากเกษตรกร เนื่องจากผลตอบแทนสูงกว่าพืชเดิมที่ชาวบ้านปลูกกันมานานจนกลายเป็นวิถีชีวิต

ข้อมูล คุณจักรินทร์ โพธิ์เพิ่ม 159 ม.2 ต.บ้านโคก อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี โทร. 08 -4952 -2789
Rakkaset Nungruethail รักษ์เกษตร
http://www.vigotech.co.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=539819933&Ntype=8
-----------------------------------------------------

กล้วยหอม ส่งออก :

..... เรื่องแปลงกล้วยหอมส่งออกที่ อ.ท่ายาง อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ทุกบ่อยๆ เจ้าหน้าที่บริษัททั้งไทยและญี่ปุ่นจะออกเยี่ยมเยียนสมาชิกถึงไต้ถุนบ้านทุกบ้าน คิดผ่านๆ ก็ว่าดี ที่เจ้าหน้าที่เป็นห่วงเป็นใยสมาชิก แต่เมื่อคิดลึกๆ แล้วจะรู้ว่า เขาออกสำรวจความประพฤติของสมาชิกว่ามีใครแอบใช้ "สารเคมี-ยาฆ่าแมลง" บ้างต่างหาก ทันที่พบขวด หรือกล่อง หรือซองสารเคมี เขาไม่พูด ไม่ต่อว่าใดๆ ทั้งสิ้น แต่เขาจะบันทึกชื่อคุณไว้ เอาชื่อคุณขึ้น "บัญชีดำ - ไม่รับซื้อผลผลิต" ทันที ไม่รับไปนานเลยเชียวแหละ .... สารเคมี-ยาฆ่าแมลง ทุกชนิด ทุกยี่ห้อ แม้แต่เมด อิน แจแปน. ก็ไม่ยินยอมให้ใช้ .... หรือใช้แล้วทิ้งระยะเวลาจนสารเคมีเสื่อมฤทธิ์ก็ไม่อนุญาต .... ปัจจุบันสมาชิก 99.99 เศษ 44 ส่วน 100 เลิกใช้ "สารเคมี-ยาฆ่าแมลง" เด็ดขาดแล้วสามารถรักษากล้วยหอมได้ ส่วนสมาชิกที่ไม่ "ยอมรับ/พัฒนา" ตัวเองในการใช้สารสมุนไพรแล้วแอบไปใช้ "สารเคมี-ยาฆ่าแมลง" ก็ถูกระงับซื้อไป อันนี้ช่วยไม่ได้

.... ลุงเชื้อฯ อยู่บ้านลาด เพชรบุรี ทำกล้วยหอมแล้วใช้ "ยูเรก้า" ปรากฏว่าได้ขนาดผลใหญ่เกินไซซ์ที่ญี่ปุ่นต้องการ ขายส่งให้สหกรณ์ไม่ได้ ลุงเชื้อฯ ไม่วอรี่ เมื่อขายส่งไปญี่ปุ่นไม่ได้ก็ขายส่งให้ห้างในเมืองไทย นอกจากไม่พอส่งแล้วยังได้ราคาดีกว่าส่งญี่ปุ่นอีกด้วย .... ธรรมชาติกล้วยหอม ช่วงที่ผลในเครือ 3 ใน 4 ของทั้งเครือเริ่มแก่ ใบจะเริ่มเหี่ยวเหลืองเนื่องจากหมดอายุขัย คราวนี้ลองคิดดู เมื่อใบเริ่มเหี่ยว อายุขัยก็คือ เริ่มหยุดการสังเคราะห์อาหาร แล้วผลในเครืออีก 1 ใน 4 (ปลายเครือ) ที่ยังแก่ไม่จัดจะได้รับสารอาหารจากที่ไหน .... แนวทาง แก้ไข คือ ให้ "แม็กเนเซียม + สังกะสี + แคลเซียม โบรอน + สาหร่ายทะเล + เอ็นเอเอ + บี-1" เพื่อบำรุงให้ใบยังคงเขียว (มีคลอโรฟิลด์) แล้วสังเคราะห์สารอาหารต่อไปจนกระทั่งผลหวีสุดท้ายปลายเครือแก่จัด มีคุณภาพได้

.... การห่อผล (ห่อทั้งเครือ) ด้วยถุงขนาดใหญ่ ภายในถุงอากาศผ่านสะดวก นอกจากจะช่วยให้สีผิวสวยแล้ว ยังช่วยให้คุณภาพดีอีกด้วย... เทคนิคการใช้ใบตอง 3-4 ใบห่อเครือ โดยตัดมาทั้งก้าน มัดส่วนก้านใบกับเครือส่วนโคน แล้วจัดระเบียบให้ส่วนใบปิดบังผลบนเครือไว้ มัดปลายใบห่อเครือที่ปลายเครือ มัดกลางใบห่อเครือที่กลางเครือให้มั่นคง เมื่อใบตองที่ห่อหุ้มเครือเริ่มแห้งจะเกิดช่องให้อากาศผ่านสะดวกเอง

------------------------------------------------------------



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©