ถาม-ตอบปัญหารายการวิทยุ 26 NOV *ปี 59-60-61 สู้ภัยแล้ง

[kimzagass]

.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 26 NOV

AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...

* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

http://kasate.site88.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1
* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

http://www.mysuccessagro.com
* บ.มายซัคเซส อะโกร---ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
7) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

----------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)


มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......

-----------------------------------------------------------


เมื่อวาน วันลอยกระทง 25 NOV อธิบดีกรมชลประทานให้ข่าวเรื่องภัยแล้งว่า จะแล้งไปถึง เม.ย. 59 พูดสั้นแค่นี้เหมือนกับว่า จะแล้งแค่นี้ยังงั้นแหละ น้ำที่มีในเขื่อนใหญ่ๆวันนี้เพียงพอสำหรับอุปโภคบริโภค อุปโภคบริโภคก็คือ น้ำกิน-น้ำใช้ แค่กินแค่ใช้สำหรับคนกับสัตว์เท่านั้น ไม่ได้หมายรวมไปถึงพืช โดยเฉพาะนาข้าว

พูดสั้นๆว่าแล้งแค่ เม.ย. 59 ทำยังกะว่า ถึง พ.ค. เริ่มหน้าฝนก็หมดภัยแล้งเอง นี่แหละ การทำงานแบบแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ใช่แก้ปัญหาระยะยาว หรือแก้ปัญหาแบบรอให้ปัญหาเข้ามาหา แทนที่จะแก้ปัญหาแบบป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิด

กรณีพืชน้ำน้อย ประเภทพืชไร่ หรือในภาชนะปลูก หรือพืชไฮโดรโปรนิกส์ อันนี้ใช้น้ำน้อยหรือใช้น้ำเท่าที่พืชนั้นกินจริงๆ ก็น่าจะทำได้ ทำได้หรือทำไม่ได้อยู่ที่ ชนิดพืช แบบการปลูก และปริมาณน้ำที่พึงมี เช่น มีน้ำในแทงค์ 5.000 ล. สำหรับผักในภาชนะปลูก 2,000 ต้น /รุ่น หรือผักไฮโดรโปรนิกส์ 2 ไร่ ใช้น้ำ 200 ล. /รุ่น) เท่านั้น

เทคโนโลยีการปลูกแบบนี้ ไม่รู้ต้องเรียน เรียนจากประสบการณ์ตรงของตัวเอง เริ่มจากแปลงเล็กๆ รุ่นสองรุ่น รอบสองรอบ เดี๋ยวก็รู้ เดี๋ยวก็เป็น รู้แล้วเป็นแล้วจะอยู่กับตัว เองไปตลอดชีวิต ถ่ายทอดให้ลูกหลานเหลนโหลนได้อีกต่างหาก

กรณีนาข้าว ข้าวไม่ได้ต้องการใช้น้ำมากเหมือนที่ทำๆกันอยู่ทุกวันนี้ ต้องใส่น้ำท่วมครึ่งหน้าแข้ง สูงท่วมต้นข้าวก็เอา เพาะรู้ว่า เดี๋ยวต้นข้าวก็สูงแซงน้ำขึ้นมาเอง หรือต้องเผื่อน้ำหมด เพราะบ้านเมืองเราไม่มี “ระบบ” (เน้นย้ำ...ระบบ) การบริหารน้ำ ที่จริงข้าวชอบการปลูกระบบ “เปียกสลับแห้ง” คือ น้ำแฉะอยู่ไต้ผิวดิน ลึกครึ่งศอกแขน ถึงหนึ่งศอกแขน แต่บนผิวดินตอนเปียกก็เปียกพอแฉะๆ เสร็จแล้วปล่อยให้แห้ง แห้งจนหน้าดินแตก ระแหง

วิธีการก็คือ ไถกลบฟาง ใส่อินทรีย์วัตถุ (ยิบซั่ม ตราคนกับควาย กระดูกป่น) ทำหน้าที่เสมือนฟองน้ำ ช่วยอุ้มน้ำซับน้ำไว้ไต้ดิน ฝนตกลงมาครึ่งหนึ่ง น้ำซึมลงดินแล้วอยู่ในดินนั้นได้นานนับเดือน แต่ถ้าไม่มีอินทรีย์วัตถุในดิน เนื้อดินแน่น ฝนตกลงมาน้ำก็ไหลบ่าไปที่อื่นหมด

ในดินมีอินทรีย์วัตถุ ยิบซั่ม ตราคนกับควาย กระดูกป่น เสริมด้วยน้ำหมักชีวภาพสูตรที่มีสารอาหาร (ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมีสูตรสำหรับข้าว) จุลินทรีย์ สารอาหารสำหรับจุลินทรีย์ประจำถิ่น น่าจะดีกว่าใส่ปุ๋ยเคมี 46-0-0, 16-20-0 เดี่ยวๆ มั้ง ข้าวภัยแล้ง

อธิบดีกรมชลประทานพูดแค่ เม.ย. ปี 59 คือปีหน้าเท่านั้น ต่อจากนั้นจนสิ้นปี 59 ต่อไปถึงปี 60, 61 หรือ 62 ด้วย ไม่ได้พูด จะมีน้ำเหรอ หรือจะเอาน้ำมาจากไหน .... ความจริงที่ทั้งคนระดับอธิบดี คนระดับหาเช้ากินค่ำ รวยที่สุดในโลก จนที่สุดในจักรวาล ไม่คิดไม่ยอมรับ คือ :

*** น้ำกินน้ำใช้ตัวหลัก คือ น้ำจากเขื่อน (EX : น้ำในเขื่อนเจ้าพระยาได้มาจาก ปิง-วัง-ยม-น่าน .... ปิง-วัง-ยม-น่าน ได้มาจากป่าต้นน้ำ วันนี้ป่าต้นน้ำกลายเป็นรีสอร์ต รีสอร์ต นอกจากทำให้น้ำไต้ดินลดปริมาณลงแล้วยังทำฝายแม้วถาวรกั้นน้ำไว้ใช้คนเดียวซะอีกแน่ะ)

*** น้ำในเขื่อนมาจาก น้ำไต้ดิน (ป่าต้นน้ำ) กับน้ำจากฟ้า (ฝนธรรมชาติ ฝนหลวง) น้ำเกลี้ยงเขื่อนขนาดนี้ จะให้มีน้ำเต็มเขื่อนอย่างเดิมหรือมีน้ำจนพอใช้ ต้องมีเหตุการณ์ “น้ำท่วม” เหมือนปี 54 เท่านั้น

ความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธ :
* ปี 58 แล้งแล้วเพราะ ฝนจากฟ้าน้อย ฝนหลวงทำแล้วได้แค่นั้น .... ลงท้าย 33เขื่อน ไม่มีน้ำ
* ปี 59 น้ำฝนจากฟ้าจะมีหรือไม่ ? ฝนหลวงจะทำได้เท่าไหร่ ? แต่น้ำในเขื่อนยังไม่มี .... ลงท้าย คือ แล้ง
* ปี 60 ถ้าปี 59 น้ำฝนจากฟ้าน้อย น้ำจากฝนหลวงน้อย ไม่มีน้ำเติมเขื่อน.... ลงท้าย คือ แล้ง
* ปี 61 ปี 62 น้ำฝนจากฟ้าน้อย น้ำจากฝนหลวงน้อย น้ำในเขื่อนน้อย รวมแล้วคือ "แล้ง" ดีๆนี่เอง ว่ามั้ย

**** สรุป : ปี 59-60-61-62 น้ำ "น้อย" แน่ๆ
------------------------------------------------------------------

ทางแก้เรื่องน้ำ :
* สร้างแหล่งผลิตน้ำส่วนตัว :
- เจาะบาดาลในบ้าน ในนา
- อีแต๋นบรรทุกน้ำ ถัง 200 ล.
- รถเข็นสาลี่บรรทุกน้ำ 10 ปี๊บ
- ท่อรับน้ำ (ฝังดิน/บนพื้น) จากแหล่งน้ำธรรมชาติ มาแหล่งกักเก็บน้ำส่วนตัว

* สร้างแหล่งกักเก็บน้ำส่วนตัว :
- แทงค์ไฟเบอร์ ขนาด 5,000 ลิตร ราคา 50,000 บาท
- แทงค์ไฟเบอร์ ขนาด 1,000 ลิตร ราคา 5,000 บาท
- ถังน้ำวงปูน รูปแบบ-ขนาด-ราคา-โสหุ้ย ตามพื้นที่
--------------------------------------------------------

ปลูกพืช ตามใจพืช :
* เพราะน้ำคืออาหารที่พืชกิน จากน้ำย้อนมาที่ดิน ดินคือที่กินที่อยู่ของต้นพืช เงินต้น ทุนค่าปุ๋ย เคมี เอามาซื้อปุ๋ยอินทรีย์ (ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์ 1 กส.+ ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย1 กส.+ กระดูกป่น 10 กก.+ ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ) หญ้าแห้งคลุมแปลงหนาๆ รดด้วยน้ำหมักชีวภาพ นอกจากจ่ายน้อยกว่าแล้ว ยังได้ประโยชน์ต่อพืชมากกว่าอีกด้วย

* ให้ปุ๋ยทางใบสูตรสหประชาชาติ (ไบโออิ+ไทเป+ยูเรก้า) + สารสมุนไพร ทุก 7 วัน

ปลูกขาย ตามใจตลาด :
- ทำนาแบบประณีต เปียกสลับแห้ง 2-5 ไร่ ขายข้าวปลูก หรือปลูกพืชไร่
- ผักอายุสั้น ราคาแพง พริกขี้หนูหอม พริกเหลือง มะเขือพวง
- ผักแจ๊คพ็อต ราคาแพง ผักชี (หน้าฝน), ผักเจ (ก่อน-ระหว่าง-หลัง)
- ไม้ดอกแจ๊คพ็อต ราคาแพง มะลิ (หน้าหนาว-วันแม่), กุหลาบ (วานเลนไทน์),

------------------------------------------------------------------------


.