ส้มโอหลายรุ่น

[Aorrayong]

ส้มโอหลายรุ่น

มีแฟนรายการวิทยุของลุงคิม ชื่อคุณตี๋ อยู่จังหวัด....(ไม่แน่ใจ) ปลูกส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่ ในอดีต
ไม่ประสบความสำเร็จ

ระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เริ่มประสบความสำเร็จเพราะทำตามแนวทางอินทรีย์นำ-เคมีเสริม ตาม
ความเหมาะสม

คุณตี๋ใช้ไบโอไลท์ บำรุงและเตรียมความพร้อมของต้น เมื่อติดผลแล้วให้แคลเซียม-โบรอน +
ธาตุรอง-ธาตุเสริม 2-3 รอบ

คุณตี๋บอกว่าผลผลิตในแต่ละปีมีรสชาติดีมาก มีลูกค้าประจำ ผลผลิตไม่พอขาย

ปัญหาคือที่ผ่านมาในอดีตส้มโอจะให้ผลผลิตปีละรุ่น พอทำตามแนวทางของลุงคิม ผลผลิตออก
ปีละ 4 รุ่น ดังนี้

รุ่นแรก - เก็บเกี่ยวผลผลิตหมดแล้วช่วงวันตรุษจีนที่ผ่านมา
รุ่นที่ 2 - อีกประมาณ 3 อาทิตย์.... จะเริ่มเก็บเกี่ยว
รุ่นที่ 3 - อีกประมาณ 1 เดือน...... จะเริ่มเก็บเกี่ยว
รุ่นที่ 4 - อีกประมาณ 2 เดือน...... จะเริ่มเก็บเกี่ยว

ปริมาณผลผลิตแต่ละรุ่นเฉลี่ยเท่าๆกัน
การบำรุงที่คุณตี๋กังวลคือการเร่งหวาน(เพื่อความมั่นใจและความเคยชิน) เพราะเกรงว่าจะมีผล
กระทบต่อส้มโอรุ่นน้อง

รบกวนด้วยนะคะ...ลุงคิม

สงสัย...ทำไมไม่โทรถามเอง

[kimzagass]

อันที่จริง "ไบโอไรซ์" ก็คือ "ฮอร์โมนน้ำดำ หรือ ไบโออิ (อิ๊อิ๊)" นั่นเอง..... ชื่อ "ฮอร์โมนน้ำ
ดำ" มาจากสถานีวิจัยพืชสวนพลิ้ว จันทบุรี (ขอบคุณ) ลุงคิมนำมาต่อยอดขยายผลแล้วให้ชื่อ
ว่า "ไบโออิ" (ชื่อเล่น....อิ๊อิ๊) ทำเองขายเอง ขายตรงระหว่างผู้ผลิตกับผู้ซื้อ ไม่ต้องแบ่ง
เปอร์เซ็นต์ให้เอเย่นต์ กับส่งให้บริษัทแล้วเขาเอาตั้งชื่อใหม่ว่า "ไบโอไรซ์" ขายผ่านเอเย่นต์
เหมือนผลิตภัณท์ของบริษัททั่วไป

วันนี้เริ่มมองเห็นอะไรต่อมิอะไรบนแนวทางทำเกษตรแบบ "อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความ
เหมาะสม" ว่า ผลิตภัณท์ของเราน่ะ "ดีเกินไป" หรือ "ผิด" เพราะเมื่อใช้แล้วดีแต่มีปัญหา
เป้าหมายของลุงคิมในการสร้างผลิตภัณท์ คือ "ใหญ่ ใหญ่ แล้วก็ใหญ่" เท่านั้น พืชที่ใช้ไม่ได้
เพราะขัดวัตถุประสงค์อย่าง กระเจี๊ยบเขียว. ข้าวโพดฝักอ่อน. มะเขือเทศเชอรี่. พวกนี้ห้ามใช้
เด็ดขาด เพราะขนาดจะใหญ่เกินไซด์ที่ตลาดต้องการ..... แม้แต่ "ส้มโอ" ก็มีปัญหา เพราะ
ตลาดต้องการไซด์ 1.8-2.2 กก. แต่เมื่อใช้ผลิตภัณท์ของเราแล้วกลายเป็น 2.5-3.5 ขายไม่
ออก กระทั่ง "ทุเรียนหมอนทอง" ก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย เพราะตลาดต้องการทุเรียนสุกไซ
ด์ 2.5-3.5 กก. แต่นี่พี่แกกระโดดไปที่ 6-8-10 ถึง 12 กก. ต้องขายเป็นทุเรียนทอดกรอบเท่า
นั้น...... เร็วๆ นี้คงได้เห็น "นกกระจิบ" ในเมื่อตลาดต้องการไซด์แค่ 8-9 ขีด แล้วถ้าเขาโต
ไซด์ "นกกระจอกเทศ" ล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นกับตลาด

ไม้ผลทุกมะฯ พืชทุกชนิด ในประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่บนโซนภูมิศาสตร์โลกที่มีอัตรการเจริญเติบ
โตทางชีวภาพดีที่สุดในโลกเช่นนี้ เพียง "บำรุง" ให้ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของเขาเท่านั้น
ก็ได้ผลแล้ว นั่นคือ "บำรุงพืชตามใจพืช" ไม่ใช่ "บำรุงพืชตามใจคน" หรือ "อย่าบำรุงพืชตาม
ความรู้สึก" แบบ คิดเอง - ถามเอง - ตอบเอง ..... ทำตามประเพณี. ทำตามข้างบ้าน. ทำ
ตามโฆษณา. นอกจากไม่ได้ผลผลิตที่สมควรได้เล้ว ยังเป็นต้นทุนที่สูญเปล่าอีกด้วย

ส้มโอ "ขาวใหญ่" ของคุณตี๋ รุ่นแรกขายได้ช่วงตรุษจีน ผลจากการ "ขายได้" ก็แสดงว่าได้
คุณภาพ. ได้เกรด.แล้ว ใช่หรือไม่ ในเมื่อรุ่นแรกขายได้แล้วจะมีเหตุผลอะไรอีกที่ทำให้ รุ่น 2
รุ่น 3 รุ่น 4 หรือรุ่นต่อๆ ไปขายไม่ได้ล่ะ.....เคยตั้งข้อสังเกตุหรือพิสูจน์คุณภาพส้มโอรุ่นที่ขาย
ช่วงตรุษจีนได้นั้นหรือไม่ว่า คุณภาพเป็นอย่างไร ถ้ามัน O.K. รุ่นหลังๆ ก็ต้อง O.K. ด้วยนั่น
แหละ

ส้มโอก็เหมือนพืชตระกูลส้มอื่นๆ ที่ชอบ แม็กเนเซียม. สังกะสี. แคลเซียม โบรอน. เป็นพิเศษ
ถ้าขาดสารอาหารกลุ่มนี้หรือได้รับไม่เพียงพอจะทำให้ไม่ออกดอกติดผล ถึงติดผลก็ไม่ดี ไม่มี
คุณภาพ ในทางกลับกัน ถ้าเขาได้รับอย่างเพียงพอ สม่ำเสมอ คราวนี้แหละ ออกดอกติดผลไม่
เลิก เล่นออกกันไม่มีรุ่นเลย แถมคุณภาพดีด้วย ถึงขนาดดีเกินด้วยซ้ำไป

ประสบการณ์ตรงทำให้รู้ว่า "ธาตุรอง. ธาตเสริม. ฮอร์โมน. และอื่นๆ" คือกลุ่มสารอาหารที่ทำให้
คุณภาพของผลผลิตดี ความสมบูรณ์ต้นสูง ปริมาณผลผลิตมาก. ไม่ใช่ "เอ็น. พี. เค." ตาม
ที่เข้าใจ หรือตามความรู้สึก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ต้องการ เอ็น. พี. เค. เสียเลยโดยสิ้น
เชิง......ในเมื่อส่วนผสมของ "ไบโอไรซ์" (ไบโออิ-ฮอร์โมนน้ำดำ) มีแม็กเนเซียม. สังกะสี.
ฮอร์โมน. เป็นสารอาหารหลักแล้วเสริมด้วยสารอาหารกลุ่มอื่นจนครบตามที่ส้มโอต้องการและจำ
เป็นต้องใช้แล้ว จึงไม่น่าเป็นห่วงว่าคุณภาพจะไม่ดี รสชาติหวานได้ทั้งๆ ที่ไม่ได้ให้ปุ๋ยสูตร "เร่ง
หวาน" รสชาติส้มโอแบบ หวานนำ-อมเปรี้ยวเล็กน้อย ตัวกุ้งใหญ่ แห้งนอก ชุ่มใน ไม่มีกาก นี่
คือ "สุดยอด" ส้มโอแล้ว

อายุพัฒนาผลของส้มโอบนต้นราว 8 เดือน ถ้าจะจัดรุ่นจริงๆ ให้จัดระยะห่างระหว่างรุ่นต่อรุ่น ห่าง
กันรุ่นละ 4 เดือน โดยการเด็ดดอกที่ออกแทรกระหว่างรุ่นเร็วเกินไปทิ้ง หลังจากเด็ดดอกรุ่นแรก
ทิ้งไปแล้ว ไม่เกิน 2-3 เดือนก็จะมีดอกรุ่นใหม่ออกมาอีก ซึ่งดอกรุ่นใหม่นี้จะห่างจากรุ่นก่อน
หน้า 3-4 เดือนพอดี การจัดรุ่นแบบนี้จะทำให้ได้ผลผลิต 3 รุ่นต่อปี ซึ่งจะทำให้มีช่วงว่างระหว่าง
รุ่น "เร่งหวาน" รุ่นใกล้เก็บเกี่ยวก่อน 1-2 รอบได้โดยไม่กระทบการเทือนต่อพัฒนาการของผล
รุ่นหลัง

มาถึงขั้นนี้แล้วน่าจะสร้างประสบการณ์ตรงของตัวเองด้วยตัวเองนะ จากที่เคยใช้ "ไบโอไรซ์"
เพียงอย่างเดียวเดี่ยวๆ ลองหาโอกาสใช้ "ไบโอไรซ์ + ฮอร์โมนไข่" หรือ "ฮอร์โมนไข + ยูเร
ก้า" หรือ ไบโอไรซ์ + ยูเรก้า. หรือ "ไบโอไรซ์ + ฮอร์โมนไข่ + ยูเรก้า" ดูซิว่าสูตรไหนดี
กว่าหรือดีที่สุด..... นอกจากนี้การเสริมด้วย "สาหร่ายทะเล" หรือ แคลเซียม โบรอน" อย่างใด
อย่างหนึ่งอย่างเดียวเดี่ยวๆ หรือรวมกัน ให้บางช่วงตามความเหมาะสมแล้วดูผลงาน นี่ก็เป็นการ
สร้างประสบการณ์ตรงได้อีกทางหนึ่ง

ในเมื่อเทคนิคบำรุงส้มโอตามแนวทางนี้ดีอยู่แล้วจะไปกังวลอะไรกับการออกไม่เป็นรุ่น กับการที่
ทุกรุ่นให้ผลผลิตคุณภาพดีโดยมีตลาดเป็นผู้ชี้ขาด กับสภาพต้นไม่โทรมพร้อมที่จะให้ผลผลิตต่อ
ไปได้เรื่อยๆอยู่แล้วเช่นนี้ ....... คำตอบสุดท้ายก็คือ ทำต่อไป


ลุงคิมครับผม