ถาม-ตอบปัญหาเกษตร 26 JUL **นา 11 ไร่ ใส่ขี้วัวเท่าไหร่ ?

[kimzagass]

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 26 JUL

AM 594 เวลา 08.10-09.00 & 20.05-20.30 ทุกวัน และ FM 91.0 (07.00-08.00 / วันอาทิตย์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธันเดอร์แคล, เอ็ม.แคล--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณอรุณ” (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.

7) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)


มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
.... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .........
.... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .........

-----------------------------------------------------------


จาก : (087) 068-4837xx
ข้อความ : อยู่สุพรรณบุรี สองคนตายาย ลูกทุกคนทำงานอยู่ กทม. ออกจากงานมาแล้ว อยากทำนา ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ นา 11 ไร่ ต้องใส่ขี้วัวนมเท่าไร หรือใส่อย่างอื่นดีว่า ...ขอบคุณค่ะ
ตอบ :
- สองคนตายาย ใช้สมองอย่าใช้กำลัง ปลูกข้าวเป้าหมายขายราคาสูงๆ ทำนาข้าวแบบประณีต ขายเป็นข้าวปลูก สีเป็นข้าวกล้อง สีเป็นข้าวกล้องงอก สายส่ง/ขายปลีก จำหน่าย BIPRODUCT เช่น จมูกข้าว น้ำมันรำ นอกจากทำเองจากนาของตัวเอง ชักชวนชาวบ้านร่วมด้วย แบบเกษตรพันธะสัญญาหรือรวมกลุ่มกันทำ ให้เป็นธุรกิจใหญ่ๆ ไปเลย เผลอๆ ลูกอาจจะมาช่วยบริหารด้วยก็ได้ ถ้ารายได้ดี เป็นอาชีพอิสระ

- งานนี้ขอให้เริ่มนับ 1 จาก ปลูกข้าวตามใจข้าวด้วยเทคโนโลยีสำหรับข้าว ทั้งเทคโนโลยีชาวบ้าน และเทคโนโลยีวิชาการ แม่นสูตรแม่นหลักการ ผลผลิตที่ได้อยู่ในกรอบวัตถุประสงค์ "ผลผลิตเพิ่ม (คุณภาพ/ปริมาณ) ต้นทุนลด อนาคตดี" จากข้าวไรซ์เบอร์รี่ เป็นข้าวสีดำอื่นๆ หรือชนิดราคาแพงๆ พันธุ์อะไรก็ได้ที่ตลาดต้องการ ได้มาแล้วสีเป็นข้าวกล้องพร้อมหุง ขายส่งขายปลีก และ/หรือ สร้างผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง ทำได้แน่ถ้า คิดเป็น/วางแผนเป็น/ทำเป็น/ขายเป็น .... ไปให้ถึงเป้าหมายสูงสุดนับถึงแสนถึงล้าน คือ “ส่งออก” เอาเงินตราเข้าประเทศ

- ถามว่า “ต้องใส่ขี้วัวนมเท่าไหร่ ?” ใจคอจะเอาตัวเลขเป๊ะๆ เลยให้ได้ บอกแล้วไง ในธรรมชาติไม่มีตัวเลข ไม่มีสูตรสำเร็จ สรรพสิ่งในโลกมีทั้งเด่นและด้อย ในขี้วัวย่อมมีทั้งด้อยและเด่นในตัวเดียวกัน อะไรเด่นหรือมีในขี้วัวนมจงเอามา อะไรด้อยหรือไม่มีในขี้วัวนมก็เอาตัวอื่นมาแทน นี่คือการผสมผสาน

- ต่อคำถามนี้ประเด็นอยู่ที่ “ขี้วัวนม” จะใส่มากใส่น้อย ก็ได้แต่สารอาหารในขี้วัวเท่านั้น ในขี้วัวหรือขี้สัตว์อะไร มีสารอาหารอะไรให้ดูจาก อาหารที่สัตว์นั้นกินกับดูระบบการย่อยอาหารของสัตว์นั้น นั่นคือ แม้แต่ขี้วัว-วัวไล่ทุ่งวัวนม ขี้ไก่-ไก่ฟาร์มไก่บ้านเลี้ยงปล่อย แม้แต่ไก่ซึ่งเป็นสัตว์ปีกก็ยังมีนกกระทา ค้างคาว เข้ามาเกี่ยวด้วยอีก ในขี้สัตว์ทุกชนิดมีความเหมือนบนความต่างและมีความต่างบนความเหมือนอย่างชัดเจน ธรรมชาติ คือ ความหลากหลาย กรณีปุ๋ยคอกที่จะให้แก่พืชจึงควรยึดความหลากหลายเป็นหลัก ใช้มูลสัตว์หลายๆ อย่างผสมกัน ด้วยอัตราส่วนที่เหมาะสม จึงจะถือว่าถูกต้องที่สุด ความถูกต้องวัดที่พืชไม่ใช่วัดที่คน

- แนวคิดวันนี้ คือ มีอะไรที่ดีกว่าขี้วัวนมหรือไม่ ? สิ่งนั้นคืออะไร ? ต้นทุนเท่าไหร่ ?
- การจะตัดสินใจ ใช้อะไร ใส่อะไร ในนาข้าวนั้น ควรคิด ต้นทุน-ประโยชน์-อนาคต ว่าคุ้มกันหรือไม่


@@ ข้อมูลจากนักวิชาการ ระดับมหาวิทยาลัย :
- เมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ขณะที่รายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม ส่งเสริมเกษตรแบบอินทรีย์ ทั้งพูดวิทยุที่นี่และวิทยุที่อื่น, ตระเวนไปสอนเกษตรกรทั่วประเทศ, ทำเป็นเอกสารแจก, เขียนเป็นหนังสือวารสาร พ็อคเก็ตบุ๊ค, ทำสวนเกษตรเพื่อพิสูจน์, กระทั่งอินเตอร์ เน็ตไปทั่วโลก เผยแพร่ชนิดถึงลูกถึงคน บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง โดยยึดธรรมชาติเป็นหลักนั้น ก็มีนักวิชาการ “เคมีบ้าเลือด” บอกว่า ....

นาข้าว 1 ไร่ ต้องใช้ปุ๋ยอินทรีย์ 3 ตัน หรือ 3,000 กก. จึงจะได้ปริมาณสารอาหารเท่ากับปุ๋ยเคมี 1 กส. แบบนี้ชาวนาจะเอาปุ๋ยอินทรีย์จำนวนมากขนาดนี้มาจากไหน ถ้าทำนา 10ไร่ 20ไร่ หรือ 100ไร่ ยิ่งไม่มีโอกาสทำได้เลย เพราะต้นทุน ค่าปุ๋ยอินทรีย์, ค่าขนขนส่ง, ค่าขนย้าย, ค่างแรง, ค่าเวลา สูงมากๆ เช่น นาไร่ 11 ไร่ต้องใช้ปุ๋ยอินทรีย์ 3ตัน x 11ไร่ = 33 ตัน (เน้นย้ำ .... 33 ตัน หรือ 33,000 กก.) ชาวนาจะหาวัสดุครบสูตรทำปุ๋ยอินทรีย์มาจากไหน, ใช้เครื่องมืออะไรทำ ? ใช้พื้นไหนทำกอง, ใช้ระยะเวลาในการทำกี่เดือน, ใช้แรงงานกี่คน, ค่าขนย้ายจากกองไปแปลงนา, กับอีกหลาย “ค่าใช้ จ่าย” ที่จำเป็น แถมบอกอีกว่า ปุ๋ยอินทรีย์มีสารอาหารน้อยเทียบไม่ได้กับปุ๋ยเคมี ซึ่งปุ๋ยเคมี มีสารอาหารมากกว่า ขนส่ง ขนย้าย ใช้งาน ง่ายกว่าและเร็วกว่า .... ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้คือ “ความจริง ที่ไม่อาจปฏิเสธ” ผลรับคือ ชาวนาไม่ทำปุ๋ยอินทรีย์ เพราะยังไงๆ ก็ไม่คุ้มทุน นั่นคือ ผลงานที่สมควร “สาปแช่ง” ของนักวิชาการเคมีบ้าเลือด....


– ข้อมูลจากนักวิชาเกิน คิม ซา กัสส์ :
* นาข้าว 1 ไร่ได้ข้าว 1 เกวียน จะได้ฟาง 1,200 กก. และในฟาง 1,200 กก. จะได้ปุ๋ยครบทุกตัว 16 กก. (ข้อมูล : จุฬาลงกรณ์ฯ) .... ไถกลบฟาง 3 รุ่นติดต่อกัน หรือรุ่นเว้นรุ่น ก็จะได้ฟางมากกว่า 3 ตัน อยู่ในนา ไม่ต้องขนย้าย

* ในปุ๋ยอินทรีย์ขี้วัวมีแต่กากหญ้าเปล่าๆ ไม่มีสารอาหาร เพราะสารอาหารในฟางถูกกระเพาะวัวย่อยสลายไปใช้งานหมดแล้ว

* ในขี้วัวมีเมล็ดวัชพืช แม้จะเป็นวัวนมก็ยังมีเมล็ดวัชพืช เพียงแต่น้อยหน่อยเท่านั้น ไม่ช้าไม่นานเมล็ดวัชพืชเพียงเมล็ดเดียวนั้น จะขยายแพร่พันธุ์ออกไปจนเต็มนา

* ฟางในนายังไม่ถูกกระเพาะวัวย่อยสลาย สารอาหารที่พึงมีจึงยังอยู่ครบถ้วน เมื่อถูกย่อยสลายจึงยังมีสารอาหารอยู่เช่นเดิม (ข้าว 1 เกวียนมีฟาง 1 ตัน ได้สารอาหารครบ 14 ตัว 16 กก.) นี่คือ ฟางที่ย่อยสลายเองในแปลงนาจึงดีกว่าฟางไม่ถูกย่อยสลายในกระเพาะวัว

* ไม่ต้องขนฟางขึ้นมาทำปุ๋ยอินทรีย์แบบในกอง แต่ให้ทำปุ๋ยอินทรีย์แบบหมักในดิน ในแปลงนานั้นเลย สิ่งที่ได้ชัดเจขนที่สุด คือ "ปุ๋ยพืชสด" ตามหลักวิชาการเป๊ะๆ


*** การปฏิบัติ : ใส่น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (ซื้อ/ทำเอง ตามอัทธยาศรัย) +ยิบซั่ม +กระดูกป่น +ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย ทับฟางให้ทั่วแปลง แล้วไถกลบลงดิน (ทำเทือก) .... ได้รับสารอาหารประเภทอินทรีย์, สารอาหารประเภทเคมี, จุลินทรีย์, สารอาหารสำหรับจุลินทรีย์ประจำถิ่น. สารปรับปรังบำรุงดิน, .... บ่มดินทิ้งไว้ 20-30 วัน ได้สารอาหารทุกอย่างที่พร้อมให้ต้นข้าวเอาไปกินได้, ได้สภาพโครงสร้างดินดีขึ้น, ใส่ปุ๋ยเคมีน้อยลงเพราะไม่เกิดการสูญเสียเนื่องจากถูกดินตรึงไว้, ดินดีมีสารอาหารครบ ทำให้ต้นสมบูรณ์ แข็งแรง ให้ผลผลิตดี โรคแมลงน้อย


* จากฟางธรรมดาๆ เสริม/เติม/เพิ่ม/บวก สิ่งที่เป็นประโยชน์ (สารอาหาร) ต่อต้นข้าว กลายเป็น “ฟางซุปเปอร์” แบบนี้ง่ายกว่าไหม ?

* การ ใส่/ปฏิบัติ แต่ละอย่างลงไปในดิน หรือให้ทางใบ แก่ต้นข้าว จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องยึดถือต้นข้าวเป็นหลัก นั่นคือ ปลูกข้าวบำรุงข้าวตามใจข้าว ไม่ใช่ปลูกข้าวบำรุงข้าวตามใจคน


@@ สัจจะธรรมการเกษตร :
- ข้าวไรซ์เบอร์รี่คือข้าว ข้าวคือข้าว ข้าวต้องปลูกบนดิน ดินดีได้แล้วกว่าครึ่ง ดินไม่ดีเสียแล้วกว่าครึ่ง .... ดินดี คือ ดินที่มีอินทรีย์วัตถุ จุลินทรีย์ น้ำ และอากาศ .... อินทรีย์ วัตถุหลายๆ อย่าง จุลินทรีย์หลายๆ ชนิด

- ขึ้นชื่อว่าข้าว หรือพืชทุกนิดที่ปลูกบนดิน ย่อมต้องอาศัย “6 ปัจจัยพื้นฐาน .... ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค” เหมือนกัน

- ข้อมูลด้านการเพาะปลูกพืช จากสำนักการศึกษาการเกษตร จากนักวิชาการการเกษตร จากงานวิจัยด้านพืชทุกชิ้น ทั่วโลก เป็นที่ยืนยันแล้วว่า การเกษตรด้านพืชที่ดีและเหมาะสมที่สุด คือ การเกษตรแบบ อินทรีย์-เคมี ผสมผสาน ในรูปแบบ อินทรีย์นำ เคมีเสริม หรือ เคมีนำ อินทรีย์เสริม ตามความเหมาะสมของพืชแต่ละชนิด หรือแต่ละปัจจัยที่แตกต่าง

**** งานนี้ ยากหรือง่าย อยู่ที่ “ใจ” .... ที่อ้างว่า ยุ่งยาก เสียเวลา ก็จงเผาปุ๋ยทิ้ง เผาตัวบำรุงดินทิ้ง ต่อไป ****


เปรียบเทียบ "ข้อดี/ข้อด้อย" ของปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ :
ข้อดีของปุ๋ยอินทรีย์ :
1. ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินให้ดีขึ้น ทำให้ดินมีคุณสมบัติทางฟิสิกส์ดี เช่น มีความโปร่งร่วนซุย มีความสามารถในการอุ้มน้ำและธาตุอาหารพืชได้ดี

2. สามารถอยู่ในดินได้นาน และค่อยๆ ปลดปล่อยธาตุอาหารอย่างช้าๆ
3. ส่งเสริมให้จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อการบำรุงดิน สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. เมื่อใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมี จะส่งเสริมให้ปุ๋ยเคมีเป็นประโยชน์แก่พืชมากขึ้น

ข้อด้อยของปุ๋ยอินทรีย์
1. มีปริมาณธาตุอาหารพืชต่อน้ำหนักปุ๋ยต่ำ ต้องใช้ปริมาณมาก
2. ใช้เวลานานในการปลดปล่อยธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ให้แก่พืช
3. ราคาต่อน้ำหนักของธาตุอาหารพืชมีราคาสูง
4. มีจำนวนจำกัด ไม่สามารถหาซื้อในปริมาณมากๆ ได้

ข้อดีของปุ๋ยเคมี
1. มีปริมาณธาตุอาหารพืชต่อน้ำหนักปุ๋ยสูง ใช้ปริมาณเล็กน้อยก็เพียงพอ
2. ปลดปล่อยธาตุอาหารให้แก่พืชได้เร็ว
3. ราคาต่อน้ำหนักของธาตุอาหารพืชมีราคาต่ำ สะดวกต่อการขนส่ง และเก็บรักษา
4. หาซื้อง่าย เพราะเป็นผลิตผลที่ผลิตได้จากโรงงาน สามารถผลิตได้จำนวน

ข้อด้อยของปุ๋ยเคมี
1. ไม่มีคุณสมบัติในการปรับปรุงคุณสมบัติทางฟิสิกส์ของดิน คือ ไม่ช่วยทำให้ดินโปร่ง
2. ปุ๋ยเคมีบางชนิด เช่น ปุ๋ยแอมโมเนีย ถ้าใช้ในปริมาณมากและติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้ดินเป็นกรดมากขึ้น ต้องแก้โดยการใส่ปูนขาว

3. การใช้ปุ๋ยเคมีต้องระมัดระวัง เพราะปุ๋ยเคมีทุกชนิดมีความเค็ม ถ้าใส่มาก หรือใส่ติดโคนต้นพืชจะเป็นอันตรายต่อต้นพืช และการงอกของเมล็ด

4. ผู้ใช้ปุ๋ยเคมีจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเรื่องปุ๋ยพอสมควร จึงจะใช้อย่างได้ผลตอบ แทนคุ้มค่า


@@ เกษตรานุสติ :
* เปรียบเทียบต้นทุนนาข้าว "อินทรีย์เคมี V.S. เคมี" เนื้อที่ 20 ไร่
- อินทรีย์นำ เคมีเสริม (ได้ปุ๋ย 14 ตัว +จุลินทรีย์) ......... 17,950
- เคมี (ยูเรีย 1 กส./16-20-0 = ได้ปุ๋ย 2 ตัว) .......... 32,000 ผลต่าง 14,050
- เคมี (ยูเรีย 2 กส./16-20-0 = ได้ปุ๋ย 2 ตัว) .......... 48,000 ผลต่าง 30,050


นาข้าว 1 ไร่ ได้ข้าวเปลือก 80 ถัง (800 กก.)
ข้าวเปลือก 800 กก. สีเป็นข้าวกล้องพร้อมหุงได้ 500 กก.
ข้าวกล้องพร้อมหุง 500 กก. ขายส่ง กก.ละ 50 บาท เป็นเงิน 25.000
ข้าวกล้องพร้อมหุง 500 กก. ขายปลีก กก.ละ 80 บาท เป็นเงิน 40,000

ทำนาข้าวประณีต อินทรีย์นำ เคมีเสริม .... คิดเป็น-ทำเป็น-ขายเป็น 10 ไร่ ก็พอ

---------------------------------------------------------



.