-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร 19 APR *รกหมูฮอร์โมน-โปรตีน, แครอท
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร 19 APR *รกหมูฮอร์โมน-โปรตีน, แครอท
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร 19 APR *รกหมูฮอร์โมน-โปรตีน, แครอท

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 19/04/2014 8:52 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร 19 APR *รกหมูฮอร์โมน-โปรตีน, แครอท ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 19 APR

AM 594 เวลา 08.10-09.00 & 20.05-20.30 ทุกวัน และ FM 91.0 (07.00-08.00 / วันอาทิตย์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์,
กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต, สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต,
ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2 )“คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณอรุณ” (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.

7) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

-------------------------------------------------------------------------------------------------------



จาก : (089) 723-37xx
ข้อความ : ผู้พันบอกว่า ในรกหมูมีฮอร์โมนบำรุงพืชจริง แต่การเอารกหมูมาหมักชีวภาพจะไม่ได้ฮอร์โมน ได้แต่โปรตีนธรรมดาเท่านั้น แต่เราเอาน้ำหมักฮอร์โมนรกหมูให้กับพืชแล้ว ทำให้พืชโตได้ แสดงว่า โปรตีนก็ทำให้พืชโตได้เหมือนฮอร์โมน ขอให้ผู้พันเฉลยปริศนาธรรมชาติข้อนี้ด้วย...
ขอบคุณครับ
ตอบ :
** คำถามเดิม คำตอบเดิม....คนถามใหม่

จาก :
(087) 293-40xx
ข้อความ : ถามลุงคิมว่า รกหมูมีฮอร์โมนพืชตัวไหน ในจำนวนทุกตัวที่ลุงคิมสอน ผมถามคนที่มาสอน บอกว่าเป็นฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต แต่ไม่บอกว่าเร่งโตทางต้น ดอก ใบ หรือผล ถามลุงคิมแน่นอนกว่า .... ขอบคุณครับ
ตอบ :
- ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ระหว่าง ฮอร์โมน. ปุ๋ย. จุลินทรีย์. ยา. ที่เกี่ยวกับพืชหรือมนุษย์และสัตว์ก็สุดแท้ เป็น คนละตัว-คนละชื่อ–คนละคุณลักษณะ–คนละประโยชน์-คนละธรรมชาติสภาพแวดล้อม อย่างน้อย ฮอร์โมน-ปุ๋ย-ยา เป็นสิ่งไม่มีชีวิต (เกิด-กิน-แก่เจ็บ-ตาย-ขยายพันธุ์ไม่ได้) จุลินทรีย์เป็นสิ่งมีชีวิต (เกิด-กิน-แก่-เจ็บ-ตาย-ขายพันธุ์ ได้) ประเภทสัตว์เซลล์เดียว .... แม้ว่า ปุ๋ย-ฮอร์โมน-จุลินทรีย์-ยา จะเป็นคนละตัวกัน คนละหน้าที่ แต่ไปด้วยกัน หรือใช้งานร่วมกันในบางสถานการณ์ได้

- ฮอร์โมน แบ่งเป็นกลุ่มๆ ได้แก่ ออกซิน, ไซโตไคนิน, จิบเบอเรลลิน, เอทธิลีน, พาโคลบิวทาโซล ฯลฯ ....
- ปุ๋ย ได้แก่ ไนโตรเจน, ฟอสฟอรัส, โปรแตสเซียม. ฯลฯ
- จุลินทรีย์ ได้แก่ คีโตเมียม, ไรโซเบียม, ไมโครไรซ่า, แอ็คติโนมัยซิส, บาซิลลัสส์ ฯลฯ หรือแบ่งเป็นกลุ่ม ได้แก่ รา, แบคทีเรีย, ไวรัส, ยิสต์

- ยา ได้แก่ อะแซดิแร็คติน (สะเดา), ราติโนน (หนอนตายหยาก), แค็ปไซซิน (พริก), ฯลฯ

(.... แล้วใครพามั่ว เหมาจ่ายเป็นตัวเดียวกันไปทั้งหมด....)

- โดยโครงสร้างทางเคมีแล้ว ในรกหมูมีฮอร์โมนจริง เป็นฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต (PLANT GROWTH HOMONE) เพื่อการหล่อเลี้ยงชีวิตลูกหมู อันที่จริงลูกหมูขณะอยู่ในรกได้รับสารอาหารจากแม่ผ่านทางสายรกมากกว่า เหมือนสายรกคนตอนที่เป็นทารกอยู่ในครรภ์แม่นั่นแหละ .... นอกจากในรกจะมีฮอร์โมนแล้ว ยังมีโปรตีนอีกด้วย เพราะสรีระทุกส่วนของมนุษย์และสัตว์มีโปรตีนเป็นองค์ประกอบหลัก

- กรรมวิธีในการสกัดหรือเอาฮอร์โมน โปรตีน และอื่นๆ ในรกสัตว์ออกมาใช้ประโยชน์นั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องอาศัยกรรมวิธี หรือวิธีการที่ถูกต้อง

** ฮอร์โมนมีขนาดโมเลกุลเล็กมาก ขบวนการย่อยสลายให้ได้โมเลกุลขนาดเล็กนั้น ต้องใช้เทคโนโลยีเป็นการเฉพาะ โดยอุปการณ์เครื่องพิเศษ หรือจุลินทรีย์เฉพาะกลุ่ม เท่านั้น

– กระบวนการผลิตฮอร์โมนด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์พิเศษ ต้องอยู่ในความร้อนได้ไม่เกิน 35 องศา ซี. หากเกินกว่านี้จะเสื่อม

– กระบวนการย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ต้องใช้กรรมวิธีที่เหมาะสม และระยะ เวลานานข้ามปี
- สารอาหารพืชที่ได้จากการหมักแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน ที่เรียกว่า “น้ำหมักชีวภาพ” นั้น นอกจากชนิดของสารอาหาร (หลัก/รอง/เสริม/ฮอร์โมน/จุลินทรีย์) ที่ได้ต้องมาจากวัสดุส่วนผสมที่นำมาทำ และกระบวนการหมักที่ถูกต้องเหมาะสมอีกด้วย ซึ่งจะได้สารอาหารพืชที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ สารอาหารนี้ไม่สามารถผ่านปากใบพืชได้ แต่จากการที่พืชรับสารอาหารได้ 2 ทาง คือ ทางใบกับทางราก การให้สารอาหารประเภทน้ำหมักชีวภาพที่โครงสร้างโมเลกุลขนาดใหญ่ผ่านปากใบไม่ได้ แต่น้ำหมักส่วนหนึ่งตกลงดิน พืชจึงได้รับโดยทางรากนั่นเอง

สรุป :
- ในฮอร์โมนรกหมูที่เรียกกัน ไม่มีฮอร์โมน แต่มีโปรตีนโมเลกุลขนาดใหญ่เท่านั้น เพราะ ฉะนั้น น่าจะเรียกว่า “โปรตีนรกหมู” จึงจะถูกต้องกว่า

– จาก “โปรตีนรกหมู” ธรรมดาๆ หาก เสริม/เติม/เพิ่ม/บวก สารอาหารที่จำเป็นลงไปก็สามารถเรียกว่า “โปรตีนรกหมู ซุปเปอร์” ได้

- ไม่มีรกหมู ใช้ “นมกล่อง, น้ำมะพร้าว, แม้แต่น้ำล้างเขียงปลา” สดๆแทน น่าจะดีกว่าด้วย

หมายเหตุ :
- ในธรรมชาติไม่มีตัวเลขและสูตรสำเร็จ ยังมีเรื่องราวในธรรมชาติอีกมากมายมหาศาลที่มนุษย์ยังไม่รู้ เมื่อไม่มีข้อมูลทางวิชาการรองรับ ก็ให้ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านแทน อะไรที่มาจากธรรมชาติแล้วให้คืนกลับไปยังธรรมชาติ ถือว่าดีทั้งนั้น ขอแต่ อย่าเร่ง อย่ารีบ อย่าใจร้อน แต่ถือหลัก “ให้น้อย บ่อยครั้ง” เข้าไว้ ธรรมชาติจะค่อยๆปรับตัวเอง เมื่อทุกอย่างเข้าร่องเข้ารอยแล้วก็จะดีเอง

- วิชาการเกษตร ไม่มีภาษาไทย เอาง่ายๆ มายังไงเรียกยังงั้น เรียกคนเดียวรู้คนเดียวก็ได้
- ความรู้เรียนทันกันหมด ไม่มีใครแก่เกินเรียน
- ความรู้สูงเท่าเดิม เราต้องขึ้นไปหา
- เรียนในสถานศึกษา เรียนในแปลง ไม่ต่างกัน .... ครู คือ คนในกระจก
- เรียนด้วยตัวเอง .... ฟัง คิด ถาม เขียน อ่าน ดู ทำ เปรียบเทียบ ฟันธง
- มีสติในการ คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ
- เปิดใจ รับรู้อย่างมีเหตุมีผล

- ศึกษาปรัชญาการเกษตร .... ทำตามคนที่ล้มเหลว-ทำตามคนที่สำเร็จ-ทำแบบเดิม-ทำแบบใหม่

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=4139

--------------------------------------------------------------

จาก : (084) 771-50xx
ข้อความ : ลุงคิมครับ เดือนก่อนผมไปคุยกับเกษตรอำเภอที่บ้านผม ผมถามว่าจะปลูกแครอทอินทรีย์ กับแครอทเคมี อย่างไหนดีกว่ากัน เกษตรบอกว่า ดีทั้งคู่ ขอให้ขายแล้วได้กำไรก็แล้วกัน ผมจึงขอสูตรการปลูกแครอท สูตรของเกษตร กับสูตรของลุงคิม ผมจะเอาทั้ง 2 สูตรมาปรับใช้...ขอบคุณครับ ปากช่อง
ตอบ :
- ผู้ให้คำตอบดีที่สุด คือ "คนรับซื้อ" เพราะการตลาดนำการผลิต ผลิตออกมาแล้วตลาดไม่รับซื้อจะมีประโยชน์อะไร

- เกษตรอินทรีย์ง่าย ง่ายจนไม่น่าเชื่อแต่เกษตรกรไม่เชื่อเอง เพราะปิดกั้นตัวเอง
- เกษตรเคมียาก แต่เกษตรกรไม่เคยคิด ทั้งๆที่ไม่มีความรู้วิชาการ ใช้แล้วไม่ได้ผลก็ยังไม่คิด เพราะยึดติด
- เกษตรอินทรีย์ ต้นทุนต่ำมากๆ แต่ราคาซื้อขายในตลาดสูงมาก เพราะคนกินยอมรับ
- เกษตรเคมี ต้นทุนสูงมากๆ แต่ราคาซื้อขายในตลาดต่ำ เพราะคนกินรังเกียจ


@@ แครอท (สูตรเกษตร) :
1.พันธุ์ :
พันธุ์แครอทที่นิยมปลูก ได้แก่ พันธุ์หงส์แดง, Newkurada, Imperator, Nantes .

2. การเพาะกล้า : โดยการขุด หรือไถดินตากประมาณ 7 วัน กำจัดวัชพืชออกให้หมด ใส่ปูนขาว และปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 30 กก.ต่อไร่ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ทำการยกร่องแบบร่องผักแล้วทำแนว แถวห่างกัน 10 เซนติเมตร โรยเม็ลดบางๆตามแนว เกลี่ยดินกลบบางๆ ใช้ฟางข้าวคลุม รดน้ำให้ชุ่ม เช้า-เย็น จนกว่าต้นกล้าจะงอก

3. การเตรียมดิน : การปลูกแครอท มีการเตรียมดินโดยการไถดินตากประมาณ 7 วัน เก็บวัชพืชออกให้หมด ทำกาารพรวนดิน หรือตีดินด้วยรถแทรคเตอร์ โดยใส่ปูนขาว ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมัก ระยะปลูก (ต้น x แถว) ประมาณ 10 x 15 เซนติเมตร หรือทำการหว่านเมล็ดพันธุ์แครอทลงในแปลงปลูกเลย แล้วใช้วิธีถอนแยกต้นกล้าที่แน่นให้ได้ระยะประมาณ 10 x 15 เซนติเมตรก็ได้ ทำการรดน้ำเช้า-เย็น จนกว่าต้นแครอทจะติดดี จึงพิจารณาเว้นวันในการรดน้ำ

5. การให้น้ำ : เนื่องจากระยะแรกของการปลูกแครอทน้ำมีส่วนสำคัญโดยต้องรักษาความชื้นให้เพียงพอ เพื่อกระตุ้นการงอกของราก และการเจริญเติบโต แต่ควรลดลงเมื่อเกิดแง่งหรือหัวจะทำให้มีการแตกของหัว

6. การใส่ปุ๋ย : เมื่ออายุได้ 30 วัน ควรใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 หรือ 12-12-17 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ .... ถ้าแครอทเฝือใบ คือใบงาม แต่หัวมีขนาดเล็ก ให้หักก้านใบ โดยสวมรองรองเท้าเหยียบยอดและก้านใบของเครอทให้ล้มลง เพื่อลดการลำเลียงอาหารไปเลี้ยงใบระยะที่แครอทกำลังจะลงหัว

7. การเก็บเกี่ยว : แครอทจะสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุประมาณ 80-100 วัน หรือดูที่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 3.9 นิ้ว ตัดใบให้เหลือความยาว 10 เซนติเมตร ล้างให้สะอาด ผึ่งลมให้แห้ง บรรจุถุงหรือเข่งรอการจำหน่ายต่อไป โดยเฉลี่ยผลผลิตที่ได้ประมาณ 2,000-2,500 กิโลกรัมต่อไร่

8. โรคของแครอท : เช่น โรครากเน่าของแครอท และโรคราแป้ง ป้องกันกำจัดโดยการเตรียมดินก่อนปลูก โดยใส่ปูนขาว ประมาณ 200-300 กิโลกรัมต่อไร่ และฉีดพ่นด้วยสารเคมี เทอราคลอ 75 หรือ เบนเลท ตัวใดตัวหนึ่งตามอาการของโรค

9. แมลง : พบหนอนในดินเข้าทำลายรากแครอททำให้ชะงักการเจริญเติบโต ป้องกันกำจัดโดยการ พ่นด้วยสารเคมี เช่น พาราไธออน หรือคลอเดน

ที่มา : กรมวิชาการเกษตร



@@ แครอท (สูตรลุงคิม) :
**เตรียมดิน เตรียมแปลง :

- ทำสันแปลงสูงๆ มีช่องทางระบายน้ำจากสันแปลงลงตีนแปลงดีๆ ใส่ยิบซั่ม, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ ทำให้ดินโปร่งให้ได้ บ่มดินทิ้งไว้ 20-30 วัน เพื่อให้เวลาจุลินทรีย์ปรับสภาพดิน เตรียมสารอาหารพร้อมแล้วจึงค่อยปลูก ใช้ฟางแห้งคลุมหน้าแปลงหนาๆ, ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (1-2 ล.) /ไร่ /เดือน, ให้น้ำสม่ำเสมอ พอหน้าดินชื้น, อย่าให้น้ำขังค้างเด็ดขาด

** เตรียมเมล็ดพันธุ์ :
- แช่เมล็ดพันธุ์ใน “น้ำอุ่น + ไบโออิ (สังกะสี) + ยูเรก้า (ไคโตซาน) + แคลเซียม โบรอน (โบรอน) นาน 6 ชม. นำขึ้นหุ่มชื้น 24 ชม. เริ่มมีตุ่มรากโผล่ขึ้นมานำไปเพาะ

** เตรียมกล้า :
- เพาะกล้าในกระบะเพาะ หยอดเมล็ดช่องละ 1 เมล็ด
- บำรุงจนกล้าโตได้ 2-3 ใบจึงย้ายลงปลูกในแปลงจริง .... ให้แคลเซียม โบรอน ก่อนย้ายกล้า 3-5 วัน จะช่วยให้ต้นกล้าแข็งแรงดี

** บำรุงระยะกล้า :
- ให้ไบโออิ ทุก 5-7 วัน
- ฉีดพ่นสารสมุนไพรบ่อยๆ

** บำรุงระยะลงหัว :
- ให้ไบโออิ 5-10-40 ทุก 5-7 วัน ถึงเก็บเกี่ยว
- ฉีดพ่นสารสมุนไพรบ่อยๆ

หมายเหตุ :
- แยกให้ออกระหว่าง “อินทรีย์ กับ เคมี” ว่า อย่างไหนมีความจำเป็นหรือไม่จำเป็นอย่างไรต่อพืช เพราะต่างก็เป็นสารอาหาร (ปุ๋ย) สำหรับพืชเหมือนๆกัน

- แยกให้ออกระหว่าง “สารเคมี กับ ปุ๋ยเคมี” เพราะมีคำว่า “เคมี” เหมือนกัน ว่า ต่างกันอย่างไร ?
– แยกให้ออกระหว่าง “อินทรีย์ตกขอบ กับ เคมีบ้าเลือด” ว่า เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ?

--------------------------------------------------------------





.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©