MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร รายการวิทยุ 23 JUN... ไผ่นอกฤดู, สะตอไม่มีดอก, ดินเป็นกรด, ความชื้นดิน, หอยเชอร์รี่ ปุ๋ยซากสัต์, ข้าวญี่ปุ่น
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป
ผู้ส่ง
ข้อความ
kimzagass หาวด้า เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11553
ตอบ: 23/06/2013 11:30 am ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร รายการวิทยุ 23 JUN... ไผ่นอกฤดู, สะตอไม่ม
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 23 JUN
วิทยุ ปตอ. AM 594 เวลา 08.15 & 20.05 ทุกวัน
********************************************************************
สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
... สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ก่อนเริ่มรายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ เคมี)
1) ชมรม (ใหญ่) ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี (089) 814-3204
2 )คุณชาตรี (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี [b](ส่งทาง ปณ.)
3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (สั่งทาง ปณ.)
4) คุณล่า (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี
5) คุณประเสริฐ (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) คุณอรุณ ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.
7) คุณพรพรรณ (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) คุณน้ำส้ม (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)
------------------------------------------------------------------------------------------
จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : เขียวใหญ่กับเขียวเสวย พันธุ์เดียวกันหรือไม่....?
ตอบ :
- คนละพันธุ์กัน รูปทรง รสชาด ต่างกันชัดเจน เคยมีทางคนบอกว่า เขียวใหญ่ กับ เจ้าพระยา คือตัวเดียวกัน อันนี้ไม่มีหลักฐานยืนยัน แล้วก็ยังไม่เคยชิมลิ้มรส กับไม่เคยเห็นเจ้าพระยาด้วย
------------------------------------------------------------
จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ทำไผ่กิมจูให้นอกฤดู ทำยังไง......?
ตอบ :
- ไผ่ทุกชนิด แทงหน่อได้ตลอดปี ไม่มีฤดูกาล สังเกตุไผ่ริมห้วยมีน้ำไหลผ่านตลอดปี ถึงช่วงหน้าแล้งนอกจากไม่ผลัดใบแล้ว ยังแทงหน่อใหม่ได้ด้วย นอกจากสังเกตุน้ำในห้วยแล้ว น้ำฝนที่มาจากฟ้าก็คือน้ำ ทำให้ไผ่แทงหน่อได้เหมือนกัน นั่นคือ ตราบใดที่มีน้ำบริบูรณ์ไผ่จะแทงหน่อเอง .... หน้าฝนได้น้ำจากเทวดา หน้าแล้งก็ให้ได้น้ำจากคน ไผ่ก็จะแทงหน่อเอง
- ปลาย ต.ค. คือ ปลายฝนต้นหนาว เริ่มเข้าสู่หน้าแล้ง แนวทางปฎิบัติคือ ทำหน้าแล้งให้เป็นหน้าน้ำ โดยให้น้ำแก่ไผ่ลงไป ให้มากๆ เหมือนหน้าฝน ให้สม่ำเสมอ ประมาณ ก.พ.-มี.ค. ไปก็จะแทงหน่อขึ้นมาเอง .... ธรรมชาติของหน้าฝน นอกจากน้ำที่มองเห็นได้บนพื้นดินแล้วยังมีน้ำที่มองไม่เห็นในอากาศ คือ ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศอีกด้วย เมื่อคิดจะทำทำหน้าแล้งให้เป็นหน้าฝนเหมือนอย่างธรรมชาติจริงๆ ก็ต้องให้มีน้่ำทั้งบนพื้นดินและน้ำในอากาศ เครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับงานนี้ คือ สปริงเกอร์ ส่งหัวสปริงเกอร์ขึ้นสูงๆ พ่นน้ำในอากาศ น้ำจะสร้างความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศแล้วตกลงพื้นเป็นการให้น้ำทางดินไปในตัวด้วย .... การพึ่งพาธรรมชาติโดยปลูกพืชคลุมหน้าดิน การปลูกพืชอวบน้ำ เช่น กล้วย แซมแทรกระหว่างกอไผ่ นอกได้ความชื้นแล้วยังไม้ผลผลิตอีกด้วย
- ปรับปรุงดินให้รับและกักเก็บความชี้นไว้ได้นานๆ โดยใส่ยิบซั่ม. ปุ๋ยอินทรีย์. กระดูกป่น. ขี้ไก่. ใบไม้แห้ง (ใบไผ่) คลุมโคนต้นหนาๆ ให้น้ำหนักชีวภาพสูตรไหนก็ได้ ใส่ปุ๋ยสูตร 5-10-40 ให้น้ำมากๆ สม่ำเสมอ .... การปลูกคุลมหน้าดิน การปลูกพืชประเภทให้ความชื้นสูงๆ แซม/แทรก ในแปลงปลูกไผ่ ช่วยได้มาก
--------------------------------------------------------------
จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : สะตอไม่มีดอกผล แก้ไขอย่างไร .... ?
ตอบ :
- ข้อแรก ถามก่อนว่าใบมากหรือเปล่า ถ้าใบมากเรียกว่า บ้าใบ แบบนี้ต้นไม่ออกดอกหรอก ธรรมชาติไม้เอาผล ใบมากลูกน้อย-ใบน้อยลูกมาก
- งานนี้ให้ตัดแต่งกิ่ง ประเภทกิ่งกระโดงชี้ขึ้น 90 องศา กิ่งชี้เข้าใน กิ่งชี้ลงล่าง กิ่งไขว้ กิ่งคด กิ่งงอ กิ่งน้ำค้าง กิ่งหางหนู กิ่งเป็นโรค กิ่งในตำแหน่งไม่เหมาะสมต่อการออกดอก ให้ตัดทิ้งทั้งหมด ตัดจนทรงพุ่มโปร่ง แสงแดดส่องทั่วทรงพุ่ม .... จากนั้นบำรุงทั้งทางใบทางรากตามระยะ คือ สะสมตาดอก. ปรับ ซี/เอ็น เรโช. เปิดตาดอก. ตามผปกติ
-------------------------------------------------------------
จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : มะม่วงพันธุ์จินหวงเสียบยอดที่ต้นพันธุ์พื้นเมืองได้หรือไม่...?
ตอบ :
- ตอบว่า ได้ยิ่งกว่าได้ เพราะเป็นมะม่วงเหมือนกัน จะเป็นพันธุ์ไทยหรือพันธุ์ต่างประเทศ ถ้าเป็นมะม่วงเหมือนกัน เสียบยอด ติดตา ทำได้ทั้งสิ้น .... ยอดที่นำมาเสียบเป็นพันธุ์อะไร ผลที่ออกมาก็จะเป็นตามพันธ์นั้น โดยมีต้นตอพันธุ์อะไรก็ได้เหมือนกัน เป็นผู้ส่งอาหารไปเลี้ยง .... เสียบหายๆสายพันธุ์ทำเป็น มะม่วงแฟนซี ซี่ดี
----------------------------------------------------------
จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ดินเป็นกรดแล้วถูกน้ำท่วมเหมือนเมื่อปี 54 น้ำจะชะล้างความเป็นกรดนั้นออกไปด้วยหรือไม่.....?
ตอบ :
- ต้องดูก่อนว่า กรดในดินนั้นเป็นกรดที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ หรือเป็นกรดที่เกิดจากฝีมือธรรมชาติ .... ดินเป็นกรดเกิดจากฝีมือมนุษย์ คือ ยาฆ่าหญ้า สารเคมียาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมีเหลือตกค้าง น้ำที่ท่วมสามารถชะล้างออกไปได้ .... ดินเป็นกรดเกิดจากธรรมชาติ เนื่องจากมีกำมะถันอยู่ไต้ดิน แม้น้ำที่ท่วมจะชะล้างหน้าดินออกไปได้ แต่กรดกำมะถันจากไต้ดินก็ขึ้นมาแทนที่ใหม่ได้ นั่นคือ น้ำชะล้างใม่ได้
อ.องค์รักษ์ นครนายก เป็นศูนย์กลางของดินเป็นกรด (แผ่นดินใหญ่ ยกเว้นป่าพรุ ภาคใต้) ทำไมจึงปลูกทุเรียนอย่างดีได้ (สวนละอองฟ้า ทุเรียนโบราณนับ 100 สายพันธุ์) อายุบางต้นนับ 100 ปี วันนี้ยังอยู่ได้ ยังให้ผลผลิตเหมือนเดิม .... ต.ดงละคร อ.องค์รักษ์ พร้อมพรั่งด้วยมะยงชิด ส้มเขียวหวาน สวนผัก แม้แต่นาข้าว ยังอยู่ได้ ทั้งๆที่ใต้ผืนดินเป็นกรดจัด
อ.วังน้อย อยุธยา ที่หน่วยทหาร ศปภ.1 ทบ. สระน้ำในหน่วย น้ำเป็นกรดจัด ใสอย่างตาตั๊กแตน สัตว์น้ำอะไรก็อยู่ไม่ได้ วัดค่า พีเอช ได้ 4.0-4.5 ไปขอรับปูนมาร์ลจากเหมือง สำหรับโรงงานซิเม็นต์ ที่ อ.บ้านหมอ สระบุรี ใส่ลงไปในบ่อจนจะเต็มบ่ออยู่แล้ว น้ำก็ยังไม่หายกรด เชิญนักวิชาการจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาให้คำปรึกษา ก็ยังให้คำตอบไม่ได้ จึงทำให้สงสัยสัยว่า ปูนมาร์ลแก้ความเป็นกรดได้จริงหรือ
--------------------------------------------------------------
จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : การรักษาความชื้นในดินทำอย่างไร....?
ตอบ :
- ใส่อินทรีย์วัตถุ (เศษซากพืช เศษซากสัตว์ ปุ๋ยคอก สารปรับปรุงบำรุงดิน) และจุลินทรีย์ลงไปมากๆ เพราะสิ่งที่ใส่ลงไปเหล่านี้ จะเป็นตัวช่วยกักเก็บน้ำไว้นาน น้ำก็คือ ความชื้น (ชื้น ชุ่ม โชก แฉะ แช่) ความชื้นช่วยรักษาจุลินทรีย์ เช่น นาข้าว ไถกลบฟาง 2-3 รุ่ นติดต่อกัน ปีที่แห้งแล้งมากๆ จนผิวหน้าดินแตกระแหง ตกลงไปเท้าเคล็ดได้ แต่จะยังมีน้ำอยู่ไต้ผิวดินได้นานนับเดือน ช่วยให้ต้นข้าวยังยืนต้นอยู่ได้ แถมแตกหน่อแตกกอใหม่ดีกว่าเก่าด้วย
- การปลูกพืชคลุมดินนอกจากช่วยรักษาความชื้นในดินได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังได้จุลินทรีย์รักษาสภาพดินอีกด้วย
----------------------------------------------------------------
จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : มังคุดรถเร่ 5 โลร้อย ทำไมราคาถูกจัง....?
ตอบ :
- เท่ากับ กก.ละร้อย หรือ กก.ละ 20 บาท ....หลักเศรษฐศาสตร์บอกว่า ราคาขายในตลาด กก.ละ 20 บาท นั่นคือราคาต้นทุนจากหน้าสวน 5-6 บาท .... ค่าจ้างแรงงานเก็บมังคุดวันนี้อยู่ที่ กก.ละ 5-6 บาท ฉนั้แล้ว ชาวสวนมังคุดได้อะไร ?
- เหตุการณ์ผลผลิตล้นตลาดเยี่ยงนี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้วกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว ทั้งที่เคยเกิดกับตัวเอง เคยเกิดกับคนอื่น .... ทำไมชาวสวนมังคุดไม่รู้ ?
- ผลผลิตทางการเกษตรทุกชนิด ทุกประเทศทั่วโลก ล้นตลาดเพราะสินค้ามากกว่าคนซื้อ (DEMAND SUPPLY) ทางออกคือ ทำให้ได้ เกรด เอ. จัมโบ้. โกอินเตอร์. ขึ้นห้าง. ออกนอกฤดู. คนนิยม เท่านั้น .... ทำไมชาวสวนมังคุดไม่รู้ ?
-------------------------------------------------------------
จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ดินเหนียวมาก แก้ไขอย่างไร....?
ตอบ :
- ดินเหนียวเพราะไม่มีอินทรีย์วัตถุ ทางแก้ คือ ใส่อินทรีย์วัตถุ และจุลินทรีย์เท่านั้น
การใส่อินทรีย์วัตถุมี 2 ทางเลือกปฎิบัติ คือ ....
1) ซื้อด้วยเงิน (ยิบซั่ม. ปุ๋ยอินทรีย์. กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่. แกลบดิบ. จุลินทรีย์, น้ำหมักชีวภาพสูตรที่มั่นใจว่ามีสารอาหาร) ใส่แล้วไถกลบลงคลุกกับเนื้อดินให้ทั่วถึง ทิ้งไว้ 1-2-3 เดือนเพื่อ "บ่มดิน" นั่นคือ ให้เวลาแก่จุลินทรีย์ดำเนินการให้
2) ซื้อด้วยเวลา (ไถดะไถแปรก่อน แล้วหว่านพืชตระกูลถั่ว เมื่อต้นถั่วเริ่มออกดอก(ประมาณ 45 วัน) ให้ไถกลบ ทำซ้ำ 2-3 รอบ ก็จะมีเศษซากพืชเป็นอินทรีย์วัตถุ นอกจากแก้อาการเหนียวของดินได้แล้ว ยังได้ความสมบูรณ์ของดินสำหรับการปลูกพืชอีกด้วย
3) ซื้อด้วยเวลาแต่ได้เงิน ไถดะไถแปรแล้วปลูกถั่วไร่ (ขาว เขียว เหลือง แดง ดำ) เก็บเกี่ยวแล้วไถกลบเศษซากต้นลงดิน ทำซ้ำ 2-3 รอบ
หมายเหตุ :
ดินต้องมาก่อนดินต้องมาก่อนดินต้องมาก่อน ดินดีปลูกอะไรก็ได้ ปลูกแล้วสำเร็จแล้วกว่าครึ่ง ..... การยอมลงทุน (อินทรีย์วัตถุ + เวลา) ปรับปรุงบำรุงดินก่อนจึงลงมือเพาะปลูก นอกจากจะได้ผลผลิตที่ดี คุ้มค่าต่อการลงทุนตั้งแต่รุ่นแรกแล้ว ยังส่งผลไปถึงผลผลิตที่จะได้รับรุ่นหน้า รุ่นต่อๆไป ทั้งๆที่ลงทุนน้อยลงอีกด้วย หรือแม้แต่จะเปลี่ยนพืชปลูกก็ยังได้ผล เพราะพืชทุกชนิดต้องการดินดีๆ เหมือนกัน .... ดินดี คือ ดินที่มีอินทรีย์วัตถุ (เศษซากพืชและสัตว์....แหล่งกำเนิดสารอาหารและจุลินทรีย์) โปร่งร่วนซุยน้ำและอากาศผ่านสะดวก
-------------------------------------------------------------
จาก : (094) 189-37xx
ข้อความ : ลุงคิมครับ นาข้าวในอิสานหอยเชอรี่ระบาดมาก ใช้สารเคมีแล้วฆ่าได้แต่ตัว แต่ไข่ยังอยู่ ไม่นานไข่ก็เป็นตัวหอยขึ้นมาแทน คราวนี้มากกว่าเก่า ขืนใช้สารเคมีอีกคงไม่ได้ผลเพราะเสียเงินแล้วหอยยังอยู่ ลุงคิมมีวิธีแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน ใช้สมุนไพรไหมครับ...ชาวนาอิสาน
ตอบ :
- หอยเชอร์รี่เป็นสัตว์น้ำ มีน้ำหอยอยู่ได้ ไม่มีน้ำหอยอยู่ไม่ได้ .... หอยเชอร์รี่ขยายพันธุ์ด้วยไข่ โดยวางไข่ไว้ที่ต้นพืชส่วนที่อยู่เหนือผิวน้ำ .... สามารถเคลื่อนที่ได้โดยลอยตัวไปกับน้ำไหล หรือเดินด้วยปากไปบนพื้นดิน
ปัจจุบัน หอยเชอร์รี่พันธุ์ต่างประเทศ ผสมกับหอยโข่งไทย บางคนเรียก เชอร์รี่โข่ง หรือ โข่งเชอร์รี่ ก็ว่ากันไป เจ้าพันธุ์ใหม่นี่มีแรงอึด อดทนดีมาก มุดดินทนแล้งอยู่ได้นานเป็นปี กับทั้งมีพลังทำลายต้นข้าวสูงกว่าพันธุ์เดิมมาก
- การป้องกันกำจัด :
** ก่อนเริ่มลงมือทำนา ปล่อยน้ำเข้าลึกแค่ตาตุ่ม เพื่อล่อให้หอยที่ซ่อนตัวอยู่ไต้ดินขึ้นมาแล้วปล่อยเป็ดไล่ทุ่งลงไป หรือแจ้งนกปากห่างให้เข้ามาจัดการให้ แบบนี้จะได้มูลเป็ดมูลนกเป็นปุ๋ยอย่างดี
** ใช้ตาข่ายตาถี่ๆ กั้นทางน้ำไหลเข้านา เพื่อดักจับตัวหอยเชอร์รี่
** เอาน้ำในนาออก ให้หน้าดินแห้ง หอยเชอร์รี่จะหนีไปอยู่แหล่งใหม่ที่มีน้ำเอง
** ล่อหอยเชอร์รี่ลงหลุม โดยขุดหลุม กว้าง 1 ม. ลึก ครึ่ง ม. ที่ปลายนาบริเวณที่ลุ่ม สำหรับเป็นหลุมดักหอยเชอร์รี่ ในหลุมใส่ใบสำปะหลังสด ใบมะละกอสด ใบตำลึงสด ให้เป็นอาหารสำหรับหอยเชอร์รี่ แล้วค่อยๆ ปล่อยน้ำออกจากผืนนา ให้น้ำค่อยๆ ลดระดับน้ำลง หอยเชอร์รี่จะรู้ตัวว่า น้ำในแปลงนานี้ใกล้จะหมด และรู้อีกด้วยด้วยว่า ธรรมชาติของน้ำต้องไหลจากที่สูงไปที่ต่ำ ว่าแล้ว หอยเชอร์รี่ก็ลอยตัวไปกับสายน้ำไหล กระทั่งไปถึงบ่อดักที่ทำไว้ พร้อมกับมีอาหารโปรดด้วย จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของคนจัดการจับออก เอาไปไหนก็เอาไป ทำน้ำหมักหอยเชอร์รี่ก็ได้ แต่อย่าลืมทำให้เป็นน้ำหมัก หอยเชอร์รี่ ซุปเปอร์ ด้วยล่ะ
บดหอยเชอร์รี่สดๆทั้งตัว บดให้ละเอียดทั้งเนื้อและเปลือก บดให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะละเอียดเพื่อไม่ให้มีเปลือกหอยบาดเท้าภายหลัง .... หอยพร้อมเปลือกบดละเอียด 1-2 กก. ผสมน้ำตามความเหมาะสม สาดใส่นาข้าวหรือแปลงพืชไร่พืขสวน 1 ไร่ หรือให้กับต้นไม้ผลยืนต้นโดยขุดหลุมกว้างลึก 1 คืบมือ ใส่หอยพร้อมเปลือกบดละเอียด 1 ทับพี แล้วกลบแน่นเหมือนเดิม.... หอยพร้อมเปลือกบดละเอียดลงไปอยู่ในเนื้อจะถูกจุลินทรีย์ในดินย่อยสลายให้ เรียกว่า หมักในดิน กลายเป็นสารอาหารพืชได้
** การใช้สารเคมีกำจัดหอยเชอร์รี่ แม้จะฆ่าหอยได้ นอกจากหอยตายดินก็ตาย สัตว์น้ำอื่นๆในธรรมชาติตายแล้ว เปลือกหอยอยู่ในนาบาดเท้าแผลเหวอะหวะ เย็บ 4-5-6 เข็ม รักษาตัว 4-5-6 เดือนถึงเดินได้
[size=18]***** เห็นข่าวนี้จาก ทีวี. ว่า ที่ อ.ปลาปราบ จ.นครพนม มีหอยเชอร์รี่ระบาดหนัก จนท.เกษตรเข้าไปให้คำแนะนำป้องกันกำจัดด้วยวิธีสารพัด แล้วทำไม จนท.เกษตร จึงมองไม่เห็นช่องทางเอาหอยเชอร์รี่มาทำ ปุ๋ยอินทรีย์จากซากสัตว์ บ้าง .... ในเมื่อไม่มี จนท.ราชการหรือไม่มีบุคคลกร องค์กรใด มาส่งเสริม แล้วเกษตรกรชาวนาจึงทำเองไม่ได้หรือ เรื่องแบบนี้เกษตรกรไม่รู้หรือไม่สนใจกันแน่
--------------------------------------------------------------
จาก : (082) 545-12xx
ข้อความ : ข้าวญี่ปุ่นรับซื้อเกวียนละ 15,000 บาท มีเท่าไรเอาหมด ลุงช่วยตอบคืนนี้ (ข้อความไม่ครบ) ..... สวัสดีครับลุง กรมการข้าวบอกว่า ข้าวญี่ปุ่นปลูกได้ที่ อ.พาน จ.เชียงราย แต่มีข้อสีย คือ อ่อนแอต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และโรคขอบใบไหม้ ผมเป็นคน อ.พาน พอดีจะปลูกข้าวญี่ปุ่นตามแนวลุง ข้อคำชี้แนะจากลุงด้วย
ตอบ :
- ข้าวญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ลาว เขมร เวียดนาม พม่า บังคลาเทศ อินเดีย มาเลเซีย อินโดเนเซีย บาหลี ติมอร์ ฟิลิปปินส์ ทุกขั้นตอนเหมือนข้าวไทยทุกประการ
- โรคก็ตัวเดียวกันอีก .... เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ใช้สารสมุนไพรขมจัด .... โรคขอบใบไหม้ ใช้สารสมุนไพรเผ็ดจัด
บำรุงข้าวญี่ปุ่น :
@@ สูตรปรุงเอง (ก. ทำกับมือ) :
1. ทำเทือก ..... น้ำหมักชีวภาพสูตรไหนก็ได้ ที่มีทั้งสารอาหารอินทรีย์และสารอาหารสังเคราะห์ (เคมี) ครั้งที่ 1 อัตรา 2-3 ล./ไร่ + 16-8-8 (10 กก.) หรือ 16-16-16 (1 กส.) + 46-0-0 (ครึ่ง กส.) 10 กก. สูตรใดสูตรหนึ่ง ละลายปุ๋ยในน้ำหมัก .... ผสมน้ำเท่าไหร่ก็ได้ตามความเหมาะสม สาดให้ทั่วแปลงแล้วย่ำเทือกประณีต .... ไถกลบฟาง ใส่ยิบซั่ม 1 กส. ปุ๋ยอินทรีย์ 1 กส. กระดูกป่น 10 กก.
2. เตรียมเมล็ดพันธุ์ ..... แช่ น้ำ 100 ล. + ไคโตซาน 100 ซีซี. + สังกะสี 100 ซีซี. นาน 12 ชม. ครบกำหนดแล้ว ห่มต่อ 24-36 ชม. เมล็ดเริ่มโชว์ตุ่มรากจึงนำไปหว่าน
3. บำรุงระยะกล้า (เร่งแตกกอ) .... ช่วงอายุ 20-30-40 วัน ด้วย น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + แม็กเนเซียม 25 กรัม + สังกะสี 25 กรัม + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 25 กรัม + ยูเรีย จี 50 กรัม .... ให้ 3 รอบ ฉีดทางใบได้ครั้งละ 4-5 ไร่
4. ระยะตั้งท้องต้นกลม .... น้ำหมักชีวภาพสูตรไหนก็ได้ที่มีทั้งสารอาหารอินทรีย์และสารอาหารสังเคราะห์ (เคมี) ครั้งที่ 2 อัตรา 2-3 ล./ไร่ + 16-8-8 (10 กก.) หรือ 16-16-16 (1 กส.) + 46-0-0 (ครึ่ง กส.) 10 กก. สูตรใดสูตรหนึ่ง .... ปรับหัวฉีดเม็ดใหญ่ ฉีดแหวกต้นข้าวลงถึงพื้น ผสมน้ำเท่าไหร่ก็ได้ตามความเหมาะสม
5. ระยะออกรวง .... น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + แม็กเนเซียม + 25 กรัม + สังกะสี 25 กรัม + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 25 กรัม + ยูเรีย จี 50 กรัม + 13-0-46 (25 กรัม) + 0-52-34 (25 กรัม) .... ให้ 3 รอบ ฉีดทางใบได้ครั้งละ 4-5 ไร่
6. ระยะน้ำนม .... น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + แม็กเนเซียม 25 กรัม + สังกะสี 25 กรัม + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 25 กรัม + 21-7-14 (25 กรัม) + ไคโตซาน 25 ซีซี. + อะมิโนโปรตีน 25 ซีซี. .... ให้ 3-4 รอบ ฉีดทางใบได้ครั้งละ 4-5 ไร่
@@ สูตรซื้อเอง (ก. จ่ายกับมือ) :
1. ย่ำเทือก .... น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 ครั้งที่ 1 อัตรา 2-3 ล./ไร่ + 16-8-8 (10 กก.) หรือ 16-16-16 (1 กส.) + 46-0-0 (ครึ่ง กส.) 10 กก. ละลายปุ๋ยในน้ำหมัก .... ผสมน้ำเท่าไหร่ก็ได้ตามความเหมาะสม สาดให้ทั่วแปลงแล้วย่ำเทือกประณีต .... ไถกลบฟาง ใส่ยิบซั่ม 1 กส. ปุ๋ยอินทรีย์ 1 กส. กระดูกป่น 10 กก.
2. เตรียมเมล็ดพันธุ์ .... แช่ น้ำ 100 ล. + ไบโออิ 100 ซีซี. + ไคโตซาน 100 ซีซี. นาน 12 ชม. ครบกำหนดแล้ว ห่มต่อ 24-36 ชม. เมล็ดเริ่มโชว์ตุ่มรากจึงนำไปหว่าน
3. บำรุงระยะกล้า (เร่งแตกกอ).... ช่วงอายุ 20-30-40 วัน ด้วย น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + ไบโออิ 200 ซีซี. + 18-38-12 (1 กก.) + ยูเรีย จี 500 กรัม. .... ให้ 3 รอบ .... ฉีดทางใบได้ครั้งละ 4-5 ไร่
4. บำรุงระยะแตกกอต้นกลม .... น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง ครั้งที่ 2 อัตรา 2-3 ล./ไร่ + 16-8-8 (10 กก.) หรือ 16-16-16 (1 กส.) + 46-0-0 (ครึ่ง กส.) 10 กก. สูตรใดสูตรหนึ่ง .... ปรับหัวฉีดเม็ดใหญ่ๆ ฉีดแหวกต้นข้าวลงถึงพื้น ผสมน้ำเท่าไหร่ก็ได้ตามความเหมาะสม
5. บำรุงระยะออกรวง (เพิ่มลมเบ่ง) .... น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + ฮอร์โมนไข่ไทเป 200 ซีซี. + ยูเรีย จี 500 กรัม + 0-52-34 (500 กรัม) .... ให้ 2 รอบ ฉีดทางใบได้ครั้งละ 4-5 ไร่
6. บำรุงระยะน้ำนม .... น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + ไบโออิ 100 ซีซี. + ยูเรก้า 100 ซีซี. .... ให้ 3-4 รอบ ฉีดทางใบได้ครั้งละ 4-5 ไร่
คลิก :
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3550&sid=bf50bfa7928e41a5b76def4accd3423b
ช่วยแนะ วิธีใส่ปุ๋ยนาข้าว แต่ละช่วง...
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3200&postdays=0&postorder=asc&start=100&sid=ed994316fbdcca42dcbce9653d185902
113. ข้าวญี่ปุ่น
--------------------------------------------------------------------
[/size]
.
กลับไปข้างบน
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้ คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้ คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้ คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้ คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group