-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-อินทรีย์นำ เคมีเสริม รุ่น 2
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - อินทรีย์นำ เคมีเสริม รุ่น 2
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

อินทรีย์นำ เคมีเสริม รุ่น 2
ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
songpon03122526
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 22/11/2012
ตอบ: 99

ตอบตอบ: 30/05/2013 11:58 am    ชื่อกระทู้: อินทรีย์นำ เคมีเสริม รุ่น 2 ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม และสมช.ทุกท่าน

มีสมาชิกหลายท่านอยากทราบวิธีทำนาข้าวแบบอีสาน ว่าเขาทำกันอย่างไร ไถนายังไง หว่านข้าวอย่างไร ใส่ปุ๋ยช่วงไหน พอดีช่วงนี้เริ่มหว่านข้าวแล้ว เลยได้ถ่ายรูปนำมาลงในเว็ปให้เพื่อนสมาชิกได้เห็น พอดีเมื่อวานได้ไปดูนาที่หว่านแล้วเลยถ่ายรูปนำมาลง แต่ไม่มากเท่าไหร่ เดี๋ยวจะทยอยนำรูปมาลงเรื่อยๆครับ

ตอนที่ 1



รูปที่ 1 เป็นรูปผืนนาที่ยังไม่ได้ไถนา ทางบ้านผมเขาจะเกี่ยวข้าวประมาณต้นเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม หลังจากเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วก็จะปล่อยผืนนาไว้ ไม่ได้ทำอะไร บางคนก็เก็บฟางไปให้วัว ควายกัน บางคนก็เอารถอัดฟางมาอัดฟางไปขาย ผืนนาก็ร้างว่างเปล่า พอถึงกลางเดือนมกราคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ บางคนก็เผาฟางแล้วก็ไถดะกลบฟางที่เผา แต่มีไม่กี่คนที่ทำแบบนี้ แต่คนที่ไถดะช่วงนี้จะดีบ้าง เพราะว่าหญ้าในนาจะตาย คนที่ไม่ไถในช่วงนี้บอกว่าสิ้นเปลือง ประมาณเดือนมีนาคม คนที่ยังไม่ไถดะก็จะเผาฟาง จากนั้นมาก็รอฝน เมื่อใดที่ฝนตกและดินชื้น ก็จะมีหญ้าเต็มผืนนาดังรูปที่ 1





รูปที่ 2-3 เมื่อฝนตก ฝนในแต่ละปีตกไม่เหมือนกัน บางปีตกเดือนมีนาคมครั้งหนึ่ง ช่วงสงกรานต์ครั้งหนึ่ง ปีนี้ตกตั้งแต่กุมภาพันธ์ มีนาคมก็ตกพอสมควร เมษายน ฝนก็ตก ปีนี้ฝนน่าจะดี แต่ถึงแม้ฝนจะตกอย่างไร ประมาณกลางเดือนเมษายนถึงปลายเดือน ชาวนาต้องได้ไถดะ รูปที่ 2-3 เป็นรูปที่ชาวนาไถดะแล้วหนึ่งครั้ง จะเห็นว่าหญ้าจากรูปที่ 1 ตายไปค่อนข้างมากแล้ว แต่ก็ยังเหลืออยู่บ้าง



รูปที่ 4 ผมไถดะกลบฟางหนึ่งครั้ง ไถแปรอีกสองครั้ง รวมตอนนี้ สามครั้งแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้หญ้าจะไม่หลงเหลืออีกเลย ลุงคิมย่ำเทือก 4 ครั้ง ผมไถนารวมหว่านก็ 4 ครั้ง คนที่ไถดะรอบเดียว แล้วรอหว่าน ไม่ไถแปร พูดว่า สิ้นเปลืองค่าน้ำมันรถ หรือบอกว่า ไม่มีเงินซื้อน้ำมันรถมาไถ ก็แล้วแต่เหตุผลของแต่ละคน แต่ผมกลับคิดว่า ค่าน้ำมันถูกกว่ายาฆ่าหญ้า ผืนนาในรูปนี้ประมาณ 7 ไร่กว่า ใช้ยาฆ่าหญ้า 2 ลิตรลิตรละ สองร้อย รวมสี่ร้อย ค่าแรงงานฉีดลิตรละสามร้อย รวม หกร้อย ค่ายากับฆ่าแรงงานรวม 1,000 บาท ถ้าไถนาค่าน้ำมันรอบละ 350 บาท 2 รอบ 700 บาท 700 บาทกับ 1,000 บาทอันไหนถูกกว่ากัน บางคนไม่มีรถแทรกเตอร์ใหญ่ บอกว่าถ้าจ้างแพง ก็ใช้รถแทรกเตอร์เล็กซิครับ 11 แรง รถเล็กนี้ ค่าน้ำมันไม่เกิน 70 บาทต่อครั้ง 2 ครั้ง ก็ 140 บาท 140 บาท กับค่ายา 1,000 บาทอันไหนแพงกว่ากัน ไถหลายรอบ เกือบไม่มีหญ้าหลงเหลือ ไถรอบเดียวหญ้าเหลือค่อนข้างมาก ฉีดยาฆ่าหญ้าก็ไม่แน่ว่าหญ้าจะตาย





รูปที่ 5-6 นาแปลงนี้ ไถดะกลบตอซังหนึ่งครั้ง ไถแปรอีกหนึ่งครั้ง แล้วไถหว่านอีกครั้งหนึ่ง หว่านข้าวไปเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม วันนี้ข้าวก็ 25 วันสูงประมาณหนึ่งคืบมือ อ่านหนังสือที่ไหนจำไม่ได้ บอกว่าข้าว 20 วันแรก ใช้สารอาหารในเมล็ด หลังจากนั้นรากก็ดูดสารอาหารจากดิน ผมสังเกตหลังจาก 20 วันแล้ว เริ่มก็เริ่มมีใบใหญ่ และเขียวขึ้นกว่าเดิม ดูพื้นดินครับ แสดงให้เห็นว่า ไม่ค่อยมีความชื้น รอฝน แต่ต้นข้าวก็ยังไม่แสดงอาการผิดปกติอะไร





รูปที่ 7 ต้นข้าวบริเวณนี้บาง สังเกต จะมีต้นหญ้าเกิดขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นที่นาของใครก็แล้วแต่ ถ้าตรงไหนมีต้นข้าวขึ้นมาน้อย ตรงนั้นย่อมมีหญ้าเสมอ แถวนี้เขาจึงไม่หว่านข้าวบาง เพราะควบคุมน้ำเหมือนภาคกลางไม่ได้
รูปที่ 8 บริเวณนี้ต้นข้าวขึ้นมาดี สังเกตบริเวณนี้ไม่มีหญ้าขึ้นมาให้เห็นเลย ที่แถวบ้านหว่านข้าวหนาเพราะ เป็นนาดินแห้งควบคุมน้ำไม่ได้ ไม่มีน้ำขัง ไม่มีน้ำขังหญ้าจะขึ้นมา กว่าจะมีน้ำฝนตกแรงๆจนมีน้ำขัง ก็กลางเดือนสิงหาคมโน่นและครับ ดังนั้นวิธีที่นี้ที่ป้องกันหญ้าก็คือหว่านข้าวให้หนาหน่อย เมื่อหนาแล้วหญ้าก็เกิดมาลำบาก





รูปที่ 9 -10 สังเกตในรูปจะมีต้นข้าวตาย บริเวณแดงๆ เกิดเพราะมีแมลงไปกินต้นข้าว มันชอนไชไปกินใต้ดิน บ้านผมเรียกแมลงนี้ว่าซัดดัม เคยมีคนเอายาฆ่าแมลงไปฉีดแล้วแต่ก็เอาไม่อยู่ ไม่รู้จะทำอย่างไร แนะนำด้วยครับ ปีที่ผ่านมาผมปล่อยไว้เฉยๆมันก็หายไปเอง มันระบาดช่วงต้นข้าวเตี้ย ลำต้นอ่อน ถ้าโตหน่อย ลำต้นแข็งแล้ว แมลงตัวนี้ก็ทำอะไรต้นข้าวไม่ได้





รูปที่ 11-12 บริเวณนี้ต้นข้าวขึ้นบางหน่อย ต้นข้าวเริ่มแตกกอแล้ว แต่ก่อนผมเข้าใจผิด คิดว่า ไม่มีน้ำ ต้นข้าวไม่แตกกอ (แต่ก่อนไม่เคยสังเกต) แต่ตอนนี้ทราบแล้วว่า จะมีน้ำหรือไม่มีน้ำต้นข้าวก็แตกกอเหมือนกัน จากการสังเกตพบว่า ตรงไหนดินดี ข้าวแตกกอ ตรงไหนดินไม่ดี ข้าวไม่ค่อยแตกกอ ตอนนี้ได้คำตอบว่าแตกกอไม่แตกกอ ดินมีส่วนสำคัญค่อนข้างมาก แต่ก่อนเคยคิดว่า ข้าวบาง แตกกอ ข้าวถี่ไม่แตกกอ จากการสังเกตเมื่อวาน บางก็แตกกอ ถี่ก็แตกกอ อันนี้ทำให้ทราบว่าดินต่องมาก่อน

สังเกตจากรูปทั้งหมดที่ผมนำมาลงในเว็ป ดินแห้ง ดินมีความชื้นน้อยมาก ดินไม่มีน้ำขัง แต่ต้นข้าว ใบข้าวยังเขียวอยู่เลย

อีกอย่างหนึ่งที่ผมได้จากการสังเกตเมื่อวาน คนแถวบ้านบอกว่า ปุ๋ยมูลสัตว์ใส่แล้วจะดีในปีแรก พอปีที่สองมันจะเสื่อม คือหมดฤทธิ์ปุ๋ย อันนี้ไม่เป็นความจริงครับ ผมเดินดูข้าวเมื่อวาน บริเวณไหนที่ผมใส่ปุ๋ยขี้ไก่เมื่อปีที่แล้ว บริเวณนั้นต้นข้าวงามจริงๆในปีนี้ ปุ๋ยมูลสัตว์ยังคงให้ผลดีในปีที่สองครับ อินทรียวัตถุใส่ลงในแปลงนาแล้วไม่ผิดหวังครับ ปุ๋ยเคมีใส่ลงในแปลงนาตอนดินแห้งไม่ได้ ปุ๋ยไม่ละลายและระเหยไปในอากาศหมด แต่ปุ๋ยมูลสัตว์ ดินจะแห้งอย่างไร รากต้นข้าวก็สามารถดึงปุ๋ยมาใช้งานได้ครับ

รูปที่ผมนำมาลง ถ่ายจากมือถือบ้าง กล้องถ่ายรูปบ้าง tablet บ้าง รูปกว้างยาวไม่เท่ากัน ต้องขออภัยด้วยนะครับ ผมพิมพ์ตัวอักษรผิดถูกอย่าว่ากันนะครับไม่มีเวลาตรวจทาน ตรวจงานเด็กนักเรียนอยู่ครับ

คุณ teeen2005 ผมไม่ได้ตอบใน pm ผมขอตอบในกระทู้นี้เลยนะครับ

ตอนที่ 1 ขอจบก่อนครับ
ขอบคุณครับ


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย songpon03122526 เมื่อ 08/07/2014 1:35 pm, แก้ไขทั้งหมด 2 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
teeen2005
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 19/11/2012
ตอบ: 163

ตอบตอบ: 30/05/2013 3:42 pm    ชื่อกระทู้: Re: ทำนาข้าวแบบอีสาน(บุรีรัมย์) ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

songpon03122526 บันทึก:
สวัสดีครับลุงคิม และสมช.ทุกท่าน

มีสมาชิกหลายท่านอยากทราบวิธีทำนาข้าวแบบอีสาน ว่าเขาทำกันอย่างไร ไถนายังไง หว่านข้าวอย่างไร ใส่ปุ๋ยช่วงไหน พอดีช่วงนี้เริ่มหว่านข้าวแล้ว เลยได้ถ่ายรูปนำมาลงในเว็ปให้เพื่อนสมาชิกได้เห็น พอดีเมื่อวานได้ไปดูนาที่หว่านแล้วเลยถ่ายรูปนำมาลง แต่ไม่มากเท่าไหร่ เดี๋ยวจะทยอยนำรูปมาลงเรื่อยๆครับ
ขอบคุณครับ


ก็คล้ายบ้านผมน่ะครับ ที่หวานข้าวรอน้ำผน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 03/06/2013 12:51 am    ชื่อกระทู้: กระทู้ซ้ำกัน....ต้องนอนดูรูป ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม คุณ songpon03122526

คุณทรงพล ระหว่าง กระทู้ 3520 กับ 3521 จะใช้กระทู้ไหนดีครับ เพราะดูแล้วมันเหมือนกัน ....

และขอความกรูณา กลับมุมมองรูปภาพที่เอียงซักหน่อยนะครับ เพราะต้องตะแคง หรือเอียงคอ หรอไม่ก็นอนดูรูป ....แล้ว ได้อ่านใน PM หรือยัง



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
songpon03122526
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 22/11/2012
ตอบ: 99

ตอบตอบ: 03/06/2013 11:09 am    ชื่อกระทู้: กระทู้ซ้อน ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิมและสมช.ทุกท่าน

ทำไมกระทู้ถึงซ้อนกัน ผมก็ไม่เข้าใจเหือนกันครับ ผมก็ตั้งกระทู้เดียว
รบกวนลุงลบกระทู้ข้างล่างออกเลยครับ


ขอบคุณครับ



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 03/06/2013 11:31 am    ชื่อกระทู้: Re: กระทู้ซ้อน ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

songpon03122526 บันทึก:


สวัสดีครับลุงคิมและสมช.ทุกท่าน

ทำไมกระทู้ถึงซ้อนกัน ผมก็ไม่เข้าใจเหือนกันครับ ผมก็ตั้งกระทู้เดียว
รบกวนลุง ลบกระทู้ข้างล่าง ออกเลยครับ


ขอบคุณครับ




กระทู้ข้างล่างกระทู้ข้างล่าง.....กระทู้ไหนล่ะ ?


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
songpon03122526
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 22/11/2012
ตอบ: 99

ตอบตอบ: 03/06/2013 11:45 am    ชื่อกระทู้: Re: กระทู้ซ้อน ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

kimzagass บันทึก:
songpon03122526 บันทึก:


สวัสดีครับลุงคิมและสมช.ทุกท่าน

ทำไมกระทู้ถึงซ้อนกัน ผมก็ไม่เข้าใจเหือนกันครับ ผมก็ตั้งกระทู้เดียว
รบกวนลุง ลบกระทู้ข้างล่าง ออกเลยครับ


ขอบคุณครับ




กระทู้ข้างล่างกระทู้ข้างล่าง.....กระทู้ไหนล่ะ ?


.


กระทู้ ที่ 3520 ครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 03/06/2013 11:59 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.


http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3520&sid=4102b0efc92af52ede8cac61d592b9c1
กระทู้ 3520


ลบทำไม ขอเหตุผลนี้ดดดนึง...

เนื้อหาสาระ ถือว่า "มี" สำหรับบางคน หรือถือว่า "ไม่มี" ก็สำหรับบางคนอีกนั่นแหละ
มีสาระหรือไม่มีสาระ วัดที่คนอ่าน ไม่ใช่วัดที่เจ้าของกระทู้
นี่แหละ "สังคมแห่งการแบ่งปัน" โดยแท้

ที่นี่ ไม่มีถูกไม่มีผิด ไม่มีดีไม่มีเลว .... ขอให้มีความจริงใจเท่านั้น



ลุงคิมไม่อยากลบ นี่คือ "สีสัน" อีกรูปแบบหนึ่ง .... O.K.

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
songpon03122526
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 22/11/2012
ตอบ: 99

ตอบตอบ: 03/06/2013 12:14 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับ ลุงคิมและสมช.ทุกท่าน

โอ้ลุงคิม ที่ผมให้ลุงคิมช่วยลบกระทู้ที่ 3520 เพราะว่า มันซ้ำกับกระทู้ 3521 ซึ่งมันซ้ำกันอย่างไรผมไม่ทราบ

กระทู้ 3520 กับ 3521 เป็นเรื่องเดียวกันครับ

ลบ 3520 แต่คง 3521 ไว้ครับ

ขอบคุณครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 03/06/2013 1:13 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

songpon03122526 บันทึก:
สวัสดีครับ ลุงคิมและสมช.ทุกท่าน

โอ้ลุงคิม ที่ผมให้ลุงคิมช่วยลบกระทู้ที่ 3520 เพราะว่า มันซ้ำกับกระทู้ 3521 ซึ่งมันซ้ำกันอย่างไรผมไม่ทราบ

กระทู้ 3520 กับ 3521 เป็นเรื่องเดียวกันครับ

ลบ 3520 แต่คง 3521 ไว้ครับ

ขอบคุณครับ



คุณทรงพล....

ชอบ เบิ้ล น่ะซี.... คุณคลิกส่ง สองครั้งหรือเปล่า มันก้เลยออกมาสองเด้ง..

กรุณาแก้ไขรูปที่มันเอียง ต้องเอียงคอดูให้กลับตรงด้วยนะ เอียงดูมาก ๆ เดี๋ยวคอไม่กลับคืนสภาพเดิม กูตั๊ย กูตั๊ย แน่ ๆ เลย

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 03/06/2013 1:25 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

songpon03122526 บันทึก:


สวัสดีครับ ลุงคิมและสมช.ทุกท่าน

โอ้ลุงคิม ที่ผมให้ลุงคิมช่วยลบกระทู้ที่ 3520 เพราะว่า มันซ้ำกับกระทู้ 3521 ซึ่งมันซ้ำกันอย่างไรผมไม่ทราบ

กระทู้ 3520 กับ 3521 เป็นเรื่องเดียวกันครับ

ลบ 3520 แต่คง 3521 ไว้ครับ

ขอบคุณครับ





ลบแล้ว....



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 03/06/2013 9:15 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

to songpon03122526



เท่าที่รู้ๆมา.....

- ข้าวหอมมะลิที่อิสาน ราคาเกวียนละ 18,000 (ราคารัฐบาล)
- ข้าวหอมมะลิที่อิสาน ได้ไร่ละ 35 ถัง (เฉลี่ยทั้งประเทศ)
– นั่นคือ ข้าวหอมมะลิที่อิสาน 3 ไร่ ได้ 1 เกวียน

- ชาวนาข้าวหอมมะลิที่อิสาน ลงทุนไร่ละ 3,000 (ทำเอง + ซื้อเล็กน้อย)
- เท่ากับ 3 ไร่ ลงทุน 9,000 แล้วขายได้ 18,000
– นั่นคือ กำไร 18,000-9,000 = 9,000/3 ไร่ หรือ = ไร่ละ 3,000
– ถ้าชาวนาอิสานทำนา 15 ไร่ จะได้ 15 x 3,000 = 45,000/ปี (ทำนาได้ครั้งเดียว)

– ครอบครัวนั้นมี 4 คน (พ่อ แม่ ลูกลูก) จะมีรายได้คนละ 45,000 หาร 4 = 12,250/ปี
– หรือ ใน 1 ปีมี 12 เดือน จะมีรายได้ 12,250 หาร 12 = 1020 บาท/คน/เดือน
- นั่นคือ ใน 1 เดือนมี 30 วัน ก็มีรายได้ 1020 หาร 30 = 34 บาท/คน/วัน


ตัวเลขนี้.................................ใช่หรือไม่ ?
ถ้าไม่ใช่ ................................ ช่วยหาข้อมูลให้ด้วย
ถ้าใช่ ................................... รายได้ 21 บาท/วัน แล้วเขากินอะไร ?

ท่านใดมีคำตอบ ร่วมด้วยก็ดี




ลุงคิมครับผม


.


กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
sa
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 04/02/2011
ตอบ: 6

ตอบตอบ: 03/06/2013 11:26 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม
ตัวเลขนี้......ใช่ครับ.แต่
ณ.ปัจจุบัน ต้นทุนมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆครับ เนื่องจาก
-- ชาวนาข้าวหอมมะลิที่อิสาน ลงทุนไร่ละ 3,000 (ทำเองน้อยลง + ซื้อทุกอย่างที่ว่าดี)

ปีที่แล้วผมลงทุนทำนาที่ ทุงกุลาร้องให้ประมาณ 6 ไร่
ตัวเลขออกมาแบบนี้เลยครับ..นาเอง

- ลงทุน 21,000 กว่าบาท
- ขายข้าวได้ 30,600 กว่าบาท
- เหลือตังค์ 9,000 กว่าบาท + ข้าวเก็ษไว้กิน 10 กระสอบปุ๋ย

ถ้าถามว่าแล้วพวกเขาพอกินไหม ? .... ไม่พอครับ.

ตอนนี้การทำนาเลยกลายเป็นทำเป็นรายได้เสริมซะงั้น เพราะที่นี้เขาทำนากัน 2 วัน
1 หว่าน 2 เกี่ยว

ผมทดลองทำเพื่อหาคำตอบ ว่าใช่หรื่อไม่ใช่ ? ยังหาคำตอบได้ไม่ชัดเจนนัก
เนื่องจากตัวแปรเยอะมากครับ ทั้งคุมได้และไม่ได้ ตอนนี้ค่อยๆ ปรับปรุงแก้ไข เอาไว้
เข้าที่เข้าทางกว่านี้ จะนำมาอัพเดจครับ. (ปีนี้ไม่ได้ทำ ให้พี่สาวทำแลกกับบางอย่าง อิอิ.)


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
teeen2005
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 19/11/2012
ตอบ: 163

ตอบตอบ: 04/06/2013 2:14 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

sa บันทึก:
สวัสดีครับลุงคิม
ตัวเลขนี้......ใช่ครับ.แต่
ณ.ปัจจุบัน ต้นทุนมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆครับ เนื่องจาก
-- ชาวนาข้าวหอมมะลิที่อิสาน ลงทุนไร่ละ 3,000 (ทำเองน้อยลง + ซื้อทุกอย่างที่ว่าดี)

ปีที่แล้วผมลงทุนทำนาที่ ทุงกุลาร้องให้ประมาณ 6 ไร่
ตัวเลขออกมาแบบนี้เลยครับ..นาเอง
-ลงทุน 21,000 กว่าบาท
-ขายข้าวได้ 30,600 กว่าบาท
-เหลือตังค์ 9,000 กว่าบาท +ข้าวเก็ษไว้กิน 10 กระสอบปุ๋ย
ถ้าถามว่าแล้วพวกเขาพอกินไหม ไม่พอครับ.
ตอนนี้การทำนาเลย กลายเป็นทำเป็นรายได้เสริมซะงั้น เพราะที่นี้เขาทำนากัน 2 วัน
1 หว่าน 2 เกี่ยว
ผมทดลองทำเพื่อหาคำตอบ ว่าใช่หรื่อไม่ใช่ ยังหาคำตอบได้ไม่ชัดเจนนัก
เนื่องจากตัวแปรเยอะมากครับ ทั้งคุมได้และไม่ได้ตอนนี้ค่อยๆปรับปรุงแก้ไข เอาไว้
เข้าที่เข้าทางกว่านี้ จะนำมาอัพเดจครับ.(ปีนี้ไม่ได้ทำ ให้พี่สาวทำแลกกับบางอย่าง อิอิ.)



ผมก็ทำนาภาคอีสานเหมือนกัน เห็นจนชินและชา ตอนนี้ไม่ได้ทำ แต่สักพักจะต้องกลับไปทำให้กับครอบครัว ได้เห็น

- ปัจจัยหลายอย่าง มันควบคุมไม่ได้ ขึ้นอยู่แล้วแต่สถานที่ หลายคน คนข้างบ้านผมด้วยไม่พยามจดจำ บันทึกเรียนรู้ครับ(เห็นมากับตัวเอง)

- ทำนา 2 วันนั้นไม่จริง แต่มันโครตจริง นอกนั้นสั่งทางโทรสับ และแค่ออกไปดู และจัดเลี้ยงข้าวคนงาน(เจ้านายชัดๆ)

- ผู้ใหญ่บ้าน คนใกล้เคียง ก็คือเซลขายของ ยา ปุ๋ย ได้กันเป็นทอดๆ
- อบต หรือสำนักงานต่างๆ ก็ส่งเขาเหล่านั้นไปเรียนรู้ แต่ไม่ได้อะไรกลับมา หรือได้แบบงูๆ ปลาๆ

ครอบครัว แม่ผมเอง แค่เล่าเป็นตัวอย่าง อบตส่งไปเรียนรู้ เรื่องนาโยน และพวกปุ๋ยชวภาพ น้ำหมัก แต่เมื่อกลับมาแล้วไม่มีใครคนไหนลองทำเลย รู้ว่าดีแต่ซื้อเขาดีกว่า เขาก็เล่าให้ผมฟัง

แม่ : ปีหน้าจะทำนาโยน เขาบอกว่าได้ข้าวเยอะดี ลองทำไหม
ผม : แล้วเขาทำกันอย่างไร วิธีการ อยากรู้ว่าไปได้อะไรมา นอกจากไปนั่งฟังและกินข้าว

แม่ : เขาว่าดีน่ะ ต้องซื้อถาาดใส่กล้า (ไม่รู้ซื้อเท่าไร ต่อไร) แล้วก็ซื้อแกลบดำ ดิน เขามีขายหมดที่นั้น สั่งเขามา
ผม : คิดในใจ แล้วไปอบรมมาอย่างไร ? ปัจจัยอะไรก็ไม่รู้ ? ซื้อเขาอย่างเดี่ยว ผมก็ถามว่า แล้วใบปลิวที่เขาให้มาได้อ่านหรือยัง ?

แม่ : ยังเลย ก็เขาแจกมา เดี่ยวทำก็ไปหาเขาซื้อของเขา ใบปลิว คือ ใบขายของ
ผม : แม่จะซื้อเขาอย่างเดี่ยวหรือ ทำไมไม่ลองทำเองบ้างล่ะ หลายสิ่งมันทำได้น่ะ

แม่ : เสียเวลา ต้องการเร็วก็ต้องแบบนี้
ผม : แม่รู้ไหมราคาต่อถาดเท่าไร ? คืนทุนเมื่อไร ?

แม่ : ทำไป เดี๋ยวก็รู้เรียนรู้ไป

ลองสรุปใจความแล้ว คือ "ซื้อ" ไม่พึ่งพาตัวเอง กลัวเหนื่อย เพราะอดีตเหมื่อยมานานแล้วกับการทำนา เจอภาวะปัจจุบันนี้ก็เลย ซื้อ-โทรสั่ง-นั่งดู ก็ต้องลองปรับที่บ้านเราเอาเองครับ ... เรื่องของคนข้างนอกถ้าเขาคิดได้ว่าทุนที่เสียไปนั้นไม่คุ้มกับการลงทุน

ทำนาซื้อนา คงไม่ไกลเกินฝัน


.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย teeen2005 เมื่อ 04/06/2013 2:29 am, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
songpon03122526
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 22/11/2012
ตอบ: 99

ตอบตอบ: 04/06/2013 10:09 am    ชื่อกระทู้: อีสาน ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

kimzagass บันทึก:
to songpon03122526



เท่าที่รู้ๆมา.....

- ข้าวหอมมะลิที่อิสาน ราคาเกวียนละ 18,000 (ราคารัฐบาล)
- ข้าวหอมมะลิที่อิสาน ได้ไร่ละ 35 ถัง (เฉลี่ยทั้งประเทศ)
– นั่นคือ ข้าวหอมมะลิที่อิสาน 3 ไร่ ได้ 1 เกวียน

- ชาวนาข้าวหอมมะลิที่อิสาน ลงทุนไร่ละ 3,000 (ทำเอง + ซื้อเล็กน้อย)
- เท่ากับ 3 ไร่ ลงทุน 9,000 แล้วขายได้ 18,000
– นั่นคือ กำไร 18,000-9,000 = 9,000/3 ไร่ หรือ = ไร่ละ 3,000
– ถ้าชาวนาอิสานทำนา 15 ไร่ จะได้ 15 x 3,000 = 45,000/ปี (ทำนาได้ครั้งเดียว)

– ครอบครัวนั้นมี 4 คน (พ่อ แม่ ลูกลูก) จะมีรายได้คนละ 45,000 หาร 4 = 12,250/ปี
– หรือ ใน 1 ปีมี 12 เดือน จะมีรายได้ 12,250 หาร 12 = 1020 บาท/คน/เดือน
- นั่นคือ ใน 1 เดือนมี 30 วัน ก็มีรายได้ 1020 หาร 30 = 34 บาท/คน/วัน


ตัวเลขนี้.................................ใช่หรือไม่ ?
ถ้าไม่ใช่ ................................ ช่วยหาข้อมูลให้ด้วย
ถ้าใช่ ................................... รายได้ 21 บาท/วัน แล้วเขากินอะไร ?

ท่านใดมีคำตอบ ร่วมด้วยก็ดี




ลุงคิมครับผม


.



สวัสดีครับลุงคิม และสมช.ทุกท่าน

ราคาข้าวหอมมะลิ แบบแห้ง ราคาสูงสุดเกวียนละ 20,000 บาท
แบบเปียก ราคาสูงสุด เกวียนละ 18,000 บาท

ส่วนเกษตรกรจะขายได้เท่าไหร่อยู่ที่เกรดของข้าว ปนไม่ปน หักไม่หักครับ เกษตรกรชอบหาว่าโรงสีรับซื้อข้าวโกงอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่เคยคิดเลยว่า ทำไมข้าวของตัวเองปน และหักง่าย จะหาวิธีแก้อย่างไร รัฐบาลตั้งราคาได้มาตรฐานแล้ว แต่เกษตรกรทำข้าวไม่ได้มาตรฐานตามที่รัฐบาลตั้งไว้ แล้วก็เตรียมตัวโวยอย่างเดียว

ข้าวหอมมะลิแถวบ้านผม มีคนทำได้ 60 - 65 ถังแล้วครับ อันนี้แหละน่าสนใจ ปีนี้ผมจะลองดีฝีมือตัวเองแบบจริงจังบ้าง แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ขออนุญาตบอกเพื่อนสมาชิกเลยครับ ใส่ปุ๋ยเคมีมาก ผลผลิตไม่มากตามหรอกครับ ประสบการณืปีที่ผ่านมา ปวดร้าวเหลือเกิน ดีนะที่มาเจอเว็ปนี้ ได้ฉุดคิดหน่อย ไม่งั้นตามกระแส หลงทาง

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผม สำหรับแถวอีสาน สิ่งที่ดีที่สุดคืออินทรียวัตถุ ปุ๋ยมูลสัตว์ต่างๆ อันนี้สุดยอดเลยครับ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เพราะว่าที่อีสาน เป็นข้าวรอน้ำฝน ไม่มีน้ำใส่ปุ๋ยเคมีไม่ได้ ดินที่จะใส่ปุ๋ยเคมีได้นั้น ตั้งอยู่ในระดับแฉะ ชื้น ชุ่มโชก ยังไส่ไม่ได้ หรือใส่ไปแล้ว ปุ๋ยละลายไม่ดี และก็ระเหยเป็นส่วนมาก แต่ถ้าเป็นปุ๋ยมูลสัตว์ ดินแค่ชื้น รากต้นข้าวก็ดึงเอาสารอาหารมาใช้งานได้แล้ว ที่ผ่านมา ใส่ปุ๋ยมูลสัตว์ 500-600 กิโลกรัมต่อไร่ ข้าวก็สวยงามไม่ต้องพึ่งเคมีเลย ประมาณ 800 บาท

แถวบ้านผม ต้นทุนต่อไร่ 3,000 - 4,000 บาทครับ
ทำเองบ้าง 3,000 บาท จ้างทั้งหมด 4,000 บาทครับ

รายได้ไม่กี่บาทต่อวัน กินอะไร
มีหลายประเภทครับ
บางคนถึงฤดูทำนา ก็กลับบ้านมาทำนา หมดฤดูก็เข้ากรุงเทพหางานทำครับ
บางคนไม่เข้ากรุงเทพ ผู้ชายก็เลี้ยงวัวเลี้ยงควาย ผู้หญิง ก็ทอผ้าขายครับ
คนขยันหน่อยไม่อดงานทำ ไม่อดเงินใช้ครับ คนไม่ขยันก็อย่างว่าครับ

ขอบคุณครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 04/06/2013 8:45 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ร้อยเอ็ด .... หมมะลิ 100 ถัง/ไร่


การปลูกข้าวหอมมะลิ นับว่าเป็นพืชเงินพืชทองเลยทีเดียว สำหรับปัจจุบันนี้ เพราะราคาเกวียนหนึ่งสูงถึง 10,000-12,000 บาท ซึ่งไม่เคยปรากฎมาก่อนในประวัติศาสตร์ของราคาข้าวไทย ปัจจุบันนี้รัฐบาลไม่ต้องมาคอยกังวล กับมาตรการประกันราคา กำหนดราคาข้าวเปลือกอีกแล้ว เพราะขณะนี้ตลาดข้าวหอมมะลิเป็นของผู้ปลูกไปซะแล้ว ดังนั้น การปลูกข้าวหอมมะลิให้ได้ผลผลิตสูง เพื่อจะได้นำเงินดอลลาร์เข้าประเทศซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจนัก แต่เรา สามารถปลูกข้าวหอมมะลิให้ได้ผลผลิตสูงเป็น 100 ถัง เหมือนข้าวนาปรัง มาครับพี่น้องเกษตรกรถ้าสนใจก็เชิญติดตามมานะครับ

มาดูหลักการก่อนอื่น การที่จะปลูกข้าวให้ได้ 100 ถัง หมายความว่า ใน 1 ตารางเมตร ต้องมีต้นข้าว 250 ต้น 250 รวง แต่ละรวงมีเมล็ดดี 100 เมล็ด จึงจะได้ข้าวหนัก 1,000 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนวิธีการมีดังนี้

ต้องไม่ให้ต้นข้าวล้ม ดังนั้น ต้นข้าวจะต้องไม่สูงมาก สามารถทำได้โดยการกำหนดช่วงเวลาปลูกที่เหมาะสม ไม่เร็ว หรือช้าเกินไป คือระหว่าง 1-31 กรกฎาคม โดยถ้าเป็นนาดำ ก็ตกกล้าต้นกรกฎาคม และปักดำต้นเดือนสิงหาคม ถ้าเป็นนาหว่านก็หว่านระหว่าง 15 กรกฎาคม-15 สิงหาคม และในระยะแตกกอไม่ควรให้ระดับน้ำสูง ควรจะทำให้มีน้ำน้อย ประมาณ 10 เซนติเมตร

อัตราเมล็ดพันธุ์ที่ใช้หว่าน ควรใช้ประมาณ 20 กิโลกรัมต่อไร่ แต่ถ้าข้าวมีความงอก 80 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ใช้เมล็ดพันธุ์ 12.5-15 กิโลกรัมต่อไร่ก็พอ เพราะจะได้ต้นข้าว 300-400 ต้นต่อไร่ แต่ถ้าปลูกโดยวิธีปักดำควรใช้ระยะปักดำ 20x20 เซนติเมตร ซึ่งจะได้จำนวนต้นหรือรวงต่อกอ 5-6 รวง จำนวนกอต่อตารางเมตร 25 กอ ควบคุมและกำจัดวัชพืชให้ได้ผล โดยเฉพาะในนาหว่าน แต่ถ้ารักษาระดับน้ำไว้ได้ก็คงไม่มีปัญหาวัชพืชมากนัก

ควบคุมโรคแมลงไม่ให้ระบาด ทำความเสียหายโดยมีการตรวจแปลงนาอย่างสม่ำเสมอ หากพบการระบาดต้องรีบกำจัด โดยเฉพาะในระยะข้าวออกรวง หากมีสภาพอากาศเย็นความชื้นสูง ไม่มีแดด ต้องระวังการระบาดของโรคไหม้ ควรฉีดยากำจัดเชื้อราเพื่อป้องกันไว้ก่อน


การใส่ปุ๋ย ควรมีการใส่ปุ๋ยเคมี 3 ครั้ง ดังนี้
ในระยะแตกกอ ควรแบ่งใส่ 2 ครั้ง เพื่อให้ต้นข้าวเจริญเติบโตสม่ำเสมอทั้งแปลง โดยใช้สูตร 16-16-8 สำหรับดินทราย 16-20-0 สำหรับดินเหนียว ไร่ละ 15-25 กิโลกรัม โดยนาดำให้ใส่หลังปักดำ 5-6 วัน นาหว่าน ใส่เมื่อเอาน้ำเข้านาหลังหว่านข้าว 7-10 วัน ครั้งที่ 2 ใช้สูตรเดียวกัน อัตราๆร่ละ 5-10 กิโลกรัม โดยใส่ในช่วงหลังจากใส่ครั้งแรก 15 วัน

การใส่ปุ๋ยในช่วงเริ่มสร้างดอกอ่อน ก่อนใส่ปุ๋ยควรดูต้นข้าวก่อนว่าแสดงอาการขาดปุ๋ยหรือไม่ ถ้าสีของใบเขียวเข้ม ใบยังตกอยู่ให้เลื่อนการใส่ปุ๋ยออกไปจนกว่าต้นข้าวแสดงอาการขาดปุ๋ย คือ สีของใบซีดลง หรือออกสีเขียวเหลือง ใบค่อนข้างตั้ง ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 ไร่ละ5-10 กิโลกรัม หรือสูตร 21-0-0 ไร่ละ 10-20 กิโลกรัม การใส่ปุ๋ยในระยะนี้ ถ้าข้าวยังไม่แสดงอาการขาดปุ๋ยจะเป็นผลเสียเพราะจะทำให้ต้นข้าวเผื่อใบ เมื่อออกรวงจะได้รวงเล็ก เมล็ดต่อรวงน้อย

การใส่ปุ๋ยในระยะออกดอก ถ้าต้นข้าวไม่แสดงอาการขาดปุ๋ยรุนแรง ไม่สมควรใส่เพราะจะทำให้เมล็ดข้าวสารขุ่นด้านไม่เหลื่อมมัน แต่ถ้าหากข้าวแสดงอาการขาดปุ๋ยรุนแรง ได้แก่ ใบเขียวออกเหลือง ให้ใส่ยูเรีย หรือ 46-0-0 ประมาณ 3 - 5 กิโลกรัมต่อไร่

หลังจากข้าวออกดอกแล้ว ประมาณ 20 วัน ควรระบายน้ำออกจากแปลงนา จะทำให้ต้นข้าวแก่อย่างสม่ำเสมอ และเมื่อข้าวอายุ 25-35 วัน หลังจากออกดอก ทำการเก็บเกี่ยวทันที่ทำให้ได้ปริมาณข้าวเปลือกที่มีคุณภาพดีและผลผลิตสูงแน่นอน

หากเกษตรกรสามารถปฏิบัติให้ได้ตามนี้ โดยยึดหลักการ คือ ไม่ให้ต้นข้าวสูงเกินไป และมีจำนวนรวงต่อกอ หรือต่อหน่วยพื้นที่มาก ไม่น้อยกว่า 250 รวง และเมล็ดมีน้ำหนักดีก็จะทำให้ผลผลิตเพิ่มสูงขึ้น


http://www.roiet.go.th/hormmali101/kkk.html
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 04/06/2013 10:43 pm    ชื่อกระทู้: นาโยน นาโยน ....โยนนา ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

[quote="teeen2005"]
sa บันทึก:


สวัสดีครับลุงคิม
.................

แม่ : ปีหน้าจะทำนาโยน เขาบอกว่าได้ข้าวเยอะดี ลองทำไหม
ผม : แล้วเขาทำกันอย่างไร วิธีการ อยากรู้ว่าไปได้อะไรมา นอกจากไปนั่งฟังและกินข้าว

แม่ : เขาว่าดีน่ะ ต้องซื้อถาาดใส่กล้า (ไม่รู้ซื้อเท่าไร ต่อไร) แล้วก็ซื้อแกลบดำ ดิน เขามีขายหมดที่นั้น สั่งเขามา
ผม : คิดในใจ แล้วไปอบรมมาอย่างไร ? ปัจจัยอะไรก็ไม่รู้ ? ซื้อเขาอย่างเดี่ยว ผมก็ถามว่า แล้วใบปลิวที่เขาให้มาได้อ่านหรือยัง ?

แม่ : ยังเลย ก็เขาแจกมา เดี่ยวทำก็ไปหาเขาซื้อของเขา ใบปลิว คือ ใบขายของ
ผม : แม่จะซื้อเขาอย่างเดี่ยวหรือ ทำไมไม่ลองทำเองบ้างล่ะ หลายสิ่งมันทำได้น่ะ

แม่ : เสียเวลา ต้องการเร็วก็ต้องแบบนี้
ผม : แม่รู้ไหมราคาต่อถาดเท่าไร ? คืนทุนเมื่อไร ?

แม่ : ทำไป เดี๋ยวก็รู้เรียนรู้ไป



ทำนาซื้อนา คงไม่ไกลเกินฝัน


.


สวัสดีครับลุงคิม และเพื่อสมาชิกที่กำลังจะกลับมาเป็นชาวนาทุกท่าน

แม่คุณ teeen2005จะทำนาโยน....จะโยนเมื่อไหร่บอก จะมาช่วยโยน สนุกดี














5 น ต่อไปนี้ที่ชาวนา จะทำนากันได้ยาก

น-1 ......น้ำ...น้อย
น-2 ......นก...มาเหยียบย่ำเก็บกินข้าวทั้งที่หว่านและออกรวง
น-3 ......หนู...คู่กัด กินต้นข้าวให้เสียหาย
น-4 ......หนอน หนอนม้วนใบหรือหนอนขยอกกินใบข้าวเป็นสีขาว
(รวมถึงเพลี้ย...แมลง...)


น-5 เป็น น. แถมท้าย...จะได้มาแบบไม่คาดฝันโดยมิได้นัดหมาย.คือ....หนี้...

พื้นนาอีสาน ถ้ามีน้ำซะอย่างเดียว ข้าวอีสานจะดีกว่าข้าวจากทุกภาคของประเทศไทย

ผมขับรถขึ้นล่องไปทางเหนือ ถ้าออกเส้นแยกจากนครสวรรค์ เลี้ยวซ้ายออกกำแพงเพชร ...ไปถึงตาก จากตากเลยขึ้นมาหน่อยนึง ด้านซ้ายมือจะเป็นไร่อ้อย ไร่มัน ไร่สับปะรด จะมองเห็นท่อเหล็กโตขนาดถังน้ำมัน วางอยู่บนตอม่อ หลังเสาไฟฟ้าข้างทาง... ทอดยาวจากบ้านตากหรือสามเงา จำไม่ถนัด ทอดยาวไปจนถึง สบปราบ เขตจ.ลำปาง

สอบถามชาวบ้านว่ามันเป็นท่ออะไร เค้าบอกว่าเป็นท่อส่งน้ำ ใครสร้าง สร้างเมื่อไหร่ เค้าบอกว่าไม่รู้เพราะเห็นมานานแล้ว ใครจะใช้น้ำก็ต่อท่อลงไปในแปลงที่ดินของตน มีวาล์ว ปิดเปิด จะใช้น้ำก็มาเปิด ไม่ใช้ก็ปิด เสียค่าบริการปีละประมาณ 1,200 บาท

ผมคิดว่า ดีกว่าลำรางระบายน้ำ หรือคลองส่งน้ำของชลประทาน เป็นพันเท่า มันตรงกับที่คุณ ชูวิทย์ พูดตอนหาเสียงว่า จะทำระบบส่งน้ำให้ชาวไร่ชาวนาโดยผ่านทางท่อส่งน้ำ แต่ของเดิมมีอยู่แล้ว ทำไมไม่มีใครสานต่อ

ถ้าอีสานมีท่อส่งน้ำแบบนี้นะ โอ๊ย โลด อีหลี อีหลี เด๊อ (พูดผิดขออภัย เพราะไม่ได้มีเมียอยู่ทางอีสาน)

คนอีสานได้แต่บอกว่า ...บ่มีน้ำ ....รอแต่ชลประทาน ฝันไปเหอะ ทำไมไม่ช่วยตัวเอง ไม่เห็นยากเลย รวมกลุ่มกันซีครับ รวมแล้วทำอะไร....

จะเล่าเรื่อง ญวนปลูกผัก ให้ฟัง
ความจริง น้องสาวเล่าให้ฟังครับ

เมื่อนานมาแล้ว สมัยที่น้องสาวของผมเรียนจบใหม่ ๆ สมัครสอบเป็นครู ก็ถูกบบรจุมาเป็นอาจารย์ที่ วิทยาลัยอาชีวร้อยเอ็ด ปัจจุบันคือ ม.ราชภัฏร้อยเอ็ด อยู่ข้างบึงพลาญชัย (ปูผัดผงกะหรี่ร้านอาหารซอยข้างบึง อร่อยมากเลย)ติดกับ สนง.องค์การโทรศัพท์ ร้อยเอ็ด

[ไปอยู่ใหม่ ๆ โอดครวญว่ากันดาร ลำบาก สารพัด ร้องห่มร้องไห้อยากกลับบ้าน แต่ไม่ทนก็ต้องทน สุดท้ายเกิดแรงบันดาลใจ เพราะไปเห็น ญวนปลูกผัก เลยไม่กลับ และ มีครอบครัวอยู่ที่นั่นจนบัดนี้ ]..ไอ้ผมอยากได้เมียอีสานซักคนกลับไม่ได้ แต่น้องกลับได้ ซะมี เป็นคนอีสานไปซะฉิบ ...ทิดแดงคงต้องขึ้นดอยต่อไปละเน้อ...

กาลต่อมา ก้มีคนญวน(หรือแกวก็ไม่รู้นะ) อพยพมาอยู่ มาทีแรกก็เรียกว่า แบกะดิน เสื่อซักผืน หมอนซักใบก็ไม่มี ก็มาขอเช่าบ้านคนอีสานอยู่ ก็อยู่ใต้ถุนบ้านนั่นแหละ แล้วก็ไปรับจ้างทำงานทั่วไป

ญวนเห็นบริเวณบ้านที่เช่ามีที่ว่าง แต่หญ้าขึ้นสูงท่วมหัว (คงไม่ถึงขนาดนั้นมั๊ง เรื่องเล่าน่ะครับ ต้องละเลงให้มีสีสันหน่อย เพื่อความสมจริง)

ญวนก็บอกเจ้าของบ้านว่า จะถางหญ้าแล้วขอใช้สถานที่บริเวณนี้ปลูกผักปลูกหญ้าเอาไว้กิน (ปลูกแค่ผักเถอะนะน้อง หญ้าไม่ต้องปลูก เดี๋ยวมันก็ขึ้นมาเองแหละ)

เจ้าของบ้านบอกว่า...
..จะปลูกผักก็เอา แต่มันบ่มีน้ำรดผักเด๊อ..
เจ้าญวนบอก..... ดั๋มได๋เด๋ว ด๊อกแด๊กด่องแด่ง..ไม่เป็นไร เรื่องน้ำ ไม่มีปัญหา ...

เมื่อเจ้าของบ้านอนูญาต เจ้าญวนก็จัดแจงถากถางหญ้า รอบบริเวณจนราบเรียบ พร้อมกับ เกลี่ยหญ้าที่ถางตากแดดให้แห้ง ...หญ้าสูงท่วมหัวนี่คงได้หญ้าแห้งแยะเนาะ......

เมื่อหญ้าแห้ง เจ้าของบ้านบอก ..
..เผาไปเลย เก็บเอาไว้ให้รกทำไม...
. ญวนบอกว่า ..ด๊อกแด๊กเด้งดึ๋ง....ไม่เป็นไร เรื่องหญ้า ไม่มีปัญหา...

ต่อไปก็เรื่องน้ำรดผัก เมื่อพูดว่า เรื่องน้ำไม่มีปัญหา ก็ต้องหาน้ำให้ได้ จะหาที่ไหน คิด ๆๆๆ เมื่อหญ้าขึ้นงามได้ ใต้พื้นดินต้องมีน้ำ เจ้าญวนก็ขออนุญาตเจ้าของบ้านขุดบ่อน้ำ(บ่อน้ำนะครับ ไม่ใช่สระน้ำ)....

เนื่องจากข้อความนี้พิมพ์ สด ๆ แล้วตอนนี้ใช้ แอร์การ์ด ความเร็ว ซูเปอร์ 4 G ...อืดเป็นเรือบรรทุกทราย แล้วกลัวเน็ตจะหลุดด้วย ขอส่งก่อนคร๊าบบบ เดี๋ยวมาต่อใหม่....
.

ทีนี้เจ้าญวน ก็เริ่มขุดบ่อ กว้างแค่ไหน น้องเค้าไม่ได้บอก คงไม่เกินสองเมตรละนะ...เจ้าของบ้านก็บอก
...โอ๊ย ขุดไปก็ไม่มีน้ำ เคยขุดลึกถึงสามวายังไม่เจอน้ำเลย ...
เจ้าญวนบอก ....ไม่เป็นไร ไม่มีปัญหา...

น้องบอกว่า เจ้าญวนขุดบ่อลึกถึงลำไม้ไผ่ ถึงได้เจอน้ำ ...ลำไม้ไผ่นี่ ไผ่อะไร ยาวแค่ไหน ไม่บอกแล้วจะรู้มั๊ยเนี่ย เอาเป็นว่า เจอน้ำที่ความลึกสุดลำไม้ไผ่ก็แล้วกัน
...เจ้าญวนก็ได้อาศัยน้ำในบ่อนี่ทั้งใช้อาบกินแและรดน้ำผัก ...ส่วนจะใช้วิธีการอย่างไร ถึงเอาน้ำขึ้นมาได้ ไม่ได้บอกไว้อีก

เจ้าญวนปลูกผัก เหลือกินก็เอาไปขาย ฐานะก็ดีขึ้น ไปๆ มาๆ เจ้าญวนขอเช่าบนบ้าน เจ้าของลงมาอยู่ข้างล่าง

กาลต่อมา เจ้าญวนเห็นว่าที่ตรงนี้ทำมาหากินได้ ก็ชักชวนเพื่อนญวนมาอยู่ สมัยก่อนที่รกร้างว่างเปล่าคงมีแยะ ญซนเลยขอเช่าปลูกผักสบายไป ปัญหาต่อมาคือ น้ำในบ่อที่ขุดมันมีน้อยนิด ไม่พอใช้ จะทำยังไง....ไม่เป็นไร ไม่มีปัญหา....

จากหมู่บ้านที่ญวนเข้ามาอยู่กันนี่ น้องบอกว่าอยู่ห่างจากแม่น้ำ ไกลเป็นกิโล ...ร้อยเอ็ดนี่อยู่ใกล้แม่น้ำอะไรหว่า โขง มูล ชี หรือตาเถร ...เดี๋ยว โทรถามน้องก่อน...

นอนหรือยังหว่า...
....
โหล ๆ หลับยัง พี่นะ บายดีมั๊ย....
...หลับแแล้ว ...มีอาราย ...
...เรื่องญวนปลูกผักที่เคยเล่าให้พี่ฟังน่ะ แม่น้ำอะไร....
...โห โทรมากลางดึก เรื่องแค่นะเหรอ ...น้ำชี...แค่นี้นะ พรึ่งนี้ต้องสอนเช้า ง่วงขอนอนแล้ว...ตู๊ด ๆๆๆ ...

เล่าต่อครับ...

จากหมู่บ้านไปถึงน้ำชี ไกลเป็นกิโล ทำยังไงญวนถึงจะเอาน้ำมาใช้ได้ ...เป็นเรื่องที่คิดไม่ถึงจริง ๆ ครับ

เจ้าญวนใช้วิธี เอาไม้ไผ่ลำใหญ่ ๆ ผ่าลำไม้ไผ่เป็นสองซีก กะเทาะเอาที่กั้นตรงปล้องด้านในออกมันก็กลายเป็นรางน้ำ เจ้าญวน เอารางไม้ไผ่ วางต่อกัน ทำเป็นรางน้ำ วางบนไม้รวกสามขา แบบระบบประปาภูเขา วางไล่ระดับลาดเอียงลดหลั่นเรื่อยมาจากน้ำชี ต่อมาถึงหมู่บ้าน

วิธีการคือ จะมีคนสองหรือสามคน ผลัดเวรกันไปตักน้ำจากแม่น้ำเทใส่ราง ปล่อยให้ไหลมาตามราง เมื่อถึงหมู่บ้านตรงปลายรางก็ทำบ่อเก็บน้ำ กว้างยาวแค่ไหนก็ไม่รู้อีกนั่นแหละ แต่คงพอใช้ ทั้งอาบกินและรดน้ำผัก

ไป ๆ มา ๆ เจ้ากลุ่มญวนปลูกผักขาย อยู่กันจนมีอันจะกิน ขอเช่าที่ดินสร้างเป็นตลาด ...ตลาดตรงไหนไม่ได้ถาม สังเกตได้แต่เพียงว่า ถ้าตลาดไหนเป็นตลาดญวน สุนัข หรือหมา จะไม่มีเดินให้เห็น

เห็นความพยายามของญวน ที่จะหาน้ำมารดผักมั๊ยครับ

นี่คือแรงบันดาลใจที่น้องสาวของผมบอกว่า ...เห็นญวนปลูกผักแล้ว ไม่กลับแล้ว ขอยู่สู้จนถึงที่สุด

ปัจจุบัน เครื่องทุ่นแรงมีตั้งแยะ รวมกลุ่มกัน ช่วยตัวเองครับ รวมกลุ่ม ลงขันกัน ใช้ปั๊มน้ำท่อ 3 นิ้ว ดูดน้ำจากแม่น้ำหรือแหล่งน้ำ ถ้ามันอยู่ไกลนัก ก็ติด แอร์แวร์ หรือ แอร์แวะ ทุก ๆ ระยะ 50 เมตร ใช้ท่อ PE ราคาคงไม่สูงนัก ส่วนว่าท่อจะุเดินผ่านทื่ดินของผู้ใดบ้าง ก็พิจารณาว่ากันไป จับเข่า จับแก้ม คุยกัน

ขอบอก ตุ๊หล่าง - แก่นคำหล้า พิลาน้อย ชาวนาจากกุดชุม ยโสธร จากนาผืนน้อย เวลานี้รวมกลุ่มกัน ผลิตข้าวกล้องอินทรีย์ออกมาขาย ...ข้าวกล้อง 150 สายพันธุ์ กก.ละ 150 บาท ข้าวกล้องหอมนิล กก.ละ 120 บาท เวลานี้ซื้อที่ดินได้ 70 ไร่ เพื่อจะผลิตข้าวพื้นเมืองหลากหลายสายพันธุ์ มีโรงสีเอง ...แต่ ผลิตข้าวไม่พอขาย ถ้าไม่ได้เป็นสมาชิก กินแห้วไปก่อน ...

คุณทรงพล มีนารวมญาติแล้ว 200 กว่าไร่ ปลูกมะลิ 105 อย่างเดียว...ปลูกท๊ำหยัง... ปลูกหลากหลายสายพันธุ์ซีครับ โดยเฉพาะ หอมนิล จากอีสาน กินอร่อยอย่าบอกใคร ถามลุุงคิมดูก็ได้ .....ทำแบบญวนปลูกผัก แแล้วจะมีน้ำใช้โดยไม่ต้องรอฝน...

จาก กระสัง เข้าสุรินทร์ ขึ้นยโสฯ ดิ่งไปกุดชุม เพียงงีบหนึ่งก็ถึงแล้วน้อง ...ไปดูซะให้เห็นกะตาว่า เค้าทำยังไง ..ไปลองคุยดูว่า ถ้าจะเข้ากลุ่มทำตามแบบเค้าจะทำยังไง ...ไปโลด....เด๊อ


.






.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย DangSalaya เมื่อ 04/06/2013 11:58 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
teeen2005
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 19/11/2012
ตอบ: 163

ตอบตอบ: 04/06/2013 11:33 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ทิดแดง และสมช ทุกท่าน


ผมมีนาภาคอีสาน พื้นที่มีน้ำถึง ข้าวที่ได้ก็ ประมาณ 700 กก/ไร่ เป็นนาหว่าน (งบการทำนานั้นไม่ได้จด เพราะจะจดแล้วแม่บอกเสียเวลา จุกจิก) และขอแสดงความเสียใจกับทิดแดงด้วยครับ ที่ไม่ได้มาลงแขกช่วยโยนข้าว แม่ผมก็พูดไปอย่างนั้นแหละครับ ก็ทำอย่างเคยเหมือนทุกปีนาหว่านรอน้ำฝน

และเพื่อนๆ ในหมู่บ้านร่วม 15-20 คน ก็ไปเรียนรู้เรื่องกาโยนกล้าเหมือนกัน ก็ไม่ทำ เสียงบประมาณ น่าจะได้แนวคิดอะไรบ้างน่ะ

ที่มาเล่าไม่ได้มาประจานแม่ตัวเองน่ะครับ แต่จะสะท้อนการเรียนรู้ของ ชาวนาที่พบเจอมาน่ะครับ ยกตัวอย่างที่ใกล้ตัวเลยนี่แหละ จะได้ไม่มีใครว่าได้

ถ้าจะทำข้าวให้ได้ 1 ตัน (ที่ลุงคิมโพส) ต้องทำนาดำ ต้องมีการบริหาร เช่น ขุดบ่อเอง นาผมก็ขุดบ่อ แต่ไม่ได้ทำคลองส่งน้ำ ไปยังที่นาต่าง (คิดว่าจะทำ เพื่อทำการลด เติมน้ำในนา) แค่ใช้การสูบน้ำลงที่นา ไขน้ำต่อๆ กันไปเรื่อย (แบบนี้ที่แม่ผมทำ ทำให้แต่ล่ะที่ได้น้ำไม่เท่ากัน ต้องกะเอง และเอาน้ำออกยาก ควบคุมลำบาก)


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 06/06/2013 9:51 pm    ชื่อกระทู้: นาข้าวไรซ์เบอร์รี่ ปลูกเพื่อขายเมล็ดพันธุ์ ที่สุรินทร์ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม คุณทรงพล และเพื่อน สมช.ทุกท่าน

ผมมีรูปนาข้าวที่สุรินทร์ ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ เพื่อขายเมล็ดพันธุ์ อยู่ไม่ไกลจากบ้านคุณทรงพล จากบ้านคุณมาสุรินทร์ ไม่น่าจะเกิน 30 กม. แต่ผมไม่รู้ว่า นาแปลงนี้อยู่ตรงไหน

ผมถึงได้บอกคุณทรงพลว่า นาของคุณ รวมของพี่ ๆ น้อง ๆ คิดเนื้อที่เป็นสองร้อยไร่ ปลูกมะลิ 105 อย่างเดียว...ถ้าปลูกข้าว 4 ชนิด ...มะลิ105, หอมนิล, ไรซ์เบอร์รี่, มะลิแดงหรือสินเหล็ก อย่างละ 50 ไร่ พยายามทำตามแนวลุงคิม เกี่ยวข้าวแล้วสีเป็นข้าวกล้องขาย หรือไม่ก็ทำข้าวกล้องงอก หรือข้าวฮางก็ได้ น่าจะได้เงินเป็นล้าน ....

ดูรูปแล้วใช้วิจารณญาณว่า คุณมองเห็นอะไร ...ผมดูแล้วบอกว่า ผมเสียดายบางอย่างครับ ที่ดินก็ดี๊ดี น้ำก็ดี แต่...ผมไม่กล้าวิจารณ์ กลัวโดนเค้าด่า....




รูปที่ 1





รูปที่ 2 ข้าวอายุ 10 วัน





รูปที่ 3





รูปที่ 4





รูปที่ 5





รูปที่ 6





.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
teeen2005
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 19/11/2012
ตอบ: 163

ตอบตอบ: 07/06/2013 12:53 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับ ลุงคิม ทิดแดง คุณทรงพลและสมช.ทุกท่าน


ถ้าใช้วิธีการนาดำ แล้วสูตร ข้อมูล ทดลองในพื้นที่ของคนนั้น ตามลุงคิมบอกนี่ สามารถเพิ่มปริมาณข้าวได้มากเลยที่เดี่ยว รอเวลาสักนิด ให้ฝนเทลงมาก่อนหรือดูข้อมูลย้อนหลังของกรมอุตุ ในเขตพื้นที่จังหวันนั้นๆ ก้จะรู้ว่าฝนตกช่วงไหนแรง (ปริมาณน้ำฝน หรือไม่ก็ทดลองเองเลย กระติกน้ำตั้งกลางสายฝน)

สดใสมากครับ การทำเม็ดพันธ์ขาย และทำข้าวกล้อง 3 in 1 ขายตาม FB หรือเปิดเวบขายเอง ลองสร้างเรื่อง (คล้ายเกาหลี หรือญี่ปุ่นดูบ้าง จะขายดีเป็นเทน้ำเลย)

the Expert ปรากฎการณ์ปลุกฝัน ช่อง 5 รายการดีสำหรับคนสร้างธุรกิจ ตามความถนัดความชอบ ผมชอบดูเพราะให้แนวทางของคนที่ประสบความสำเร็จแล้วมาบอก และแนะนำคนที่เพิ่งเริ่ม และเขาก็บอกการออก การทำประกัน การลงกองทุนหุ้น (บำนาณ) น่าสนใจ ชาวนาก็มีระบบประกันตัวเองได้ ถ้าออกแบบชีวิตเป็น


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 07/06/2013 1:56 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

teeen2005 บันทึก:
สวัสดีครับ ลุงคิม ทิดแดง คุณทรงพลและสมช.ทุกท่าน

ถ้าใช้วิธีการนาดำ แล้วสูตร ข้อมูล ทดลองในพื้นที่ของคนนั้น ตามลุงคิมบอกนี่ สามารถเพิ่มปริมาณข้าวได้มากเลยที่เดี่ยว

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ....นาตามรูปที่ผมนำเสนอ อะไร ๆ ก็ดูดีไปเกือบทุกอย่าง... แต่ที่ผมบอกว่าเสียดาย คือ การลูบเทือกหน้าดินไม่ดีเลย หน้าเทือกไม่เรียบเสมอกันเท่าที่ควร เป็นลุ่ม เป็นดอน มีปัญหาในเรื่องการคุมปริมาณน้ำ บางจุดน้ำมาก บางจุดน้ำน้อย บางจุดแห้งเพราะอยู่บนเนินดิน

การหว่านข้าวดินแห้งเพื่อรอน้ำฝน การปรับหน้าดินให้เรียบเสมอกันสำคัญมาก แต่นาแปลงนี้ปรับหน้าดินไม่ดี เมื่อฝนตก น้ำขัง ข้าวส่วนหนึ่งจะลอย ให้คุณสังเกตว่า ริมขอบตรงชาย ๆ แปลง ข้าวขึ้นหนาแน่นมาก งามดีซะด้วย อาจเป็นเพราะข้าวที่ลอยถูกลมพัดเมล็ดข้าวจึงมารวมกันอยู่บริเวณชายหรือริมนาหรือที่เป็นโคกซึ่งดูแล้วไม่น่าจะเป็นคันนา ...(รูปที่ 3, ที่ 5, ที่ 6)



รอเวลาสักนิด ให้ฝนเทลงมาก่อนหรือดูข้อมูลย้อนหลังของกรมอุตุ ในเขตพื้นที่จังหวันนั้นๆ ก้จะรู้ว่าฝนตกช่วงไหนแรง(ปริมาณน้ำฝน หรือไม่ก็ทดลองเองเลย กระติกน้ำตั้งกลางสายฝน)


สดใสมากครับ การทำเม็ดพันธ์(เมล็ดพันธุ์)ขาย และทำข้าวกล้อง 3in1 ขายตาม FBหรือเปิดเวบขายเอง

แปลงนาที่ผมนำเสนอ หว่านข้าวหนาเกินไป การทำนาข้าวเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ ควรทำนาดำ หรือนาหยอด จะให้ปริมาณและคุณภาพของข้าวที่มีลักษณะดี การทำนาหว่านเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ต้องหว่านบาง.....

ข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นพันธุ์ข้าวที่มีการแตกกอมาก 1 เมล็ดอาจจะแตกได้ตั้งแต่ 30 - 60 ต้น ถ้าหว่านแบบในรูปนี้ ข้าวจะขึ้นเบียดกันแน่นตึงเลย

นอกจากนี้ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ จะปลูกได้ 3 ชั่ว เมล็ดจะเปลี่ยนสีไม่ดำสนิท แล้วก็ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ จะมีอายุการเกี่ยวไม่เกิน 120 วัน ถ้าเกิน120 วัน เมล็ดจะร่วงแบบข้าวดีดทันที ส่วนมากจะเกี่ยวในเวลาไม่เกิน 110 - 115 วัน

การจะเปิดขายทาง FB หรือเปิดเว็ปเองน่าจะทำได้ เช่นของ ภูเพียงดอย


ลองสร้างเรื่อง(คล้ายเกาหลี หรือญี่ปุ่นดูบ้าง จะขายดีเป็นเทน้ำเลย)

the Expert ปรากฎการณ์ปลุกฝัน ช่อง 5 รายการดีสำหรับคนสร้างธุรกิจ ตามความถนัดความชอบ ผมชอบดูเพราะให้แนวทางของคนที่ประสบความสำเร็จแล้วมาบอก และแนะนำคนที่เพิ่งเริ่ม และเขาก็บอกการออก การทำประกัน การลงกองทุนหุ้น(บำนาณ - บำนาญ) น่าสนใจ ชาวนาก็มีระบบประกันตัวเองได้ ถ้าออกแบบชีวิตเป็น

ชาวนาทางอีสาน น่าจะรวมกลุ่มกันได้ แต่ภาคอื่น ๆ คงยากส์ ขนาดผมทำให้เจ๊ใหญ่ดูทุกอย่าง แกยังไม่ศรัทธาเล๊ย แต่มาตอนนี้ชักจะคล้อยตามบ้างแล้ว จากการที่ใช้สารเปิดมดลูก ตามด้วยสหประชาชาติ รวงมันโผล่พรวด แน่นตึง ว่าจะซ้ำอีกรอบ ฝนก็ดันมาตกซะอีก ....






....


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย DangSalaya เมื่อ 07/06/2013 8:04 am, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 07/06/2013 8:02 am    ชื่อกระทู้: เรื่องจริงจากเมืองไทย จากคนไทย ไม่ใช่หนังเกาหลี ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

teeen2005 บันทึก:


สวัสดีครับ ลุงคิม ทิดแดง คุณทรงพลและสมช.ทุกท่าน

..............

สดใสมากครับ การทำเม็ดพันธ์(เมล็ดพันธุ์)ขาย และทำข้าวกล้อง 3 in 1 ขายตาม FB หรือเปิดเวบขายเอง ลองสร้างเรื่อง (คล้ายเกาหลี หรือญี่ปุ่นดูบ้าง จะขายดีเป็นเทน้ำเลย)

...............

.


เรื่องจริงโดยคนไทย เราทำได้ ทุกคนทำได้ ...ไม่ต้องสร้างเรื่องแบบเกาหลี



(1) ของจริงครับ อยู่แม่ริม เชียงใหม่





(2) รวงข้าวไรซ์เบอร์รี่ Organic





(3) น่าจะเป็นใช้เมล็ดพันธุ์ปลูกใน Generation # 2 เพราะเมล็ดเริ่มจะมี ดำ ปน แดง ปนขาว





(4) ของจริง ไม่ใช่อิงนิยาย ทุกคนทำได้ ....

....ยัยเฉิ่ม (ถูกทิดแดงหลอกให้)ทดลองทำแล้ว 2 ไร่ ตอนนี้อายุข้าวคงจะประมาณ 90 วันแล้วมั๊ง...

ฮัลโหล ยัยเฉิ่ม เทส รายงานผลด้วย ไปถึงไหนแล้วไอ้น้อง...

เชื่อหรือไม่เชื่อ ตามใจ แล้วคอยดูต่อไป คงงงง เห็นนนนน
เพลงโปรดของลุงคิม..



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
songpon03122526
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 22/11/2012
ตอบ: 99

ตอบตอบ: 07/06/2013 9:44 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม พี่ใหญ่ คุณ teeen2005 และ สมช.ทุกท่าน

พี่ใหญ่ นาข้าวที่พี่ใหญ่ลงรูป อยู่ที่ไหน อ.อะไรครับ มีเบอร์โทรไหมครับ

ผมก็อยากลงข้าวตระกูลอื่นในแปลงนาของผมเหมือนกัน ผมก็มีเป้าหมายแบบนี้ อยากปลูกข้าวหอมนิล ไรซ์เบอรรี่ และอื่นๆ สีเป็นข้าวกล้องขาย และขายเป็นข้าวพันธุ์

ผมขอรวบรวมข้อมูลข้าวสายพันธุ์พวกนี้หน่อยครับ เป็นข้าวที่ัยังไม่เคยปลูก ไม่ค่อยรู้ใจเท่าไหร่

อีกอย่างในปีนี้ต้องการใช้ อินทรีย์นำ เคมีเสริม ในผืนนาของตนเอง ปีนี้คงต้องลองเมล็ดพันธุ์ข้าวที่พี่ส่งมาให้ ปลูกเพื่อขยายพันธุ์ก่อนครับ



ขอบคุณครับ

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
teeen2005
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 19/11/2012
ตอบ: 163

ตอบตอบ: 07/06/2013 10:54 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

DangSalaya บันทึก:

ข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นพันธุ์ข้าวที่มีการแตกกอมาก 1 เมล็ดอาจจะแตกได้ตั้งแต่ 30 - 60 ต้น ถ้าหว่านแบบในรูปนี้ ข้าวจะขึ้นเบียดกันแน่นตึงเลย

นอกจากนี้ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ จะปลูกได้ 3 ชั่ว เมล็ดจะเปลี่ยนสีไม่ดำสนิท แล้วก็ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ จะมีอายุการเกี่ยวไม่เกิน 120 วัน ถ้าเกิน120 วัน เมล็ดจะร่วงแบบข้าวดีดทันที ส่วนมากจะเกี่ยวในเวลาไม่เกิน 110 - 115 วัน





สวัสดีครับ ลุงคิม ทิดแดง คุณทรงพลและสมช.ทุกท่าน


ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ปลูกได้แค่ 3 รุ่นหรือครับ ถ้าปลูกรุ่น 2 แล้วเมล็ดจะมีสีขาวปน เรื่องนี้ไม่รู้จริงๆ แล้วจะมีวิธีไหนที่จะทำให้สีของข้าวไรซ์เบอร์รี่ เมล็ดสีดำตลอดไปต้องทำอย่างไรครับเมื่อเราเอาไปปลูกอีกครั้ง เกิน 3 ครั้ง

เท่าที่ผมรู้ ต้องคัดพันธุ์อีกหรือเปล่าครับ คือ ต้องเอาแกะเม็ดข้าวออกเหลือแต่ข้าวกล้อง แล้วคัดแต่เม็ดดำ แล้วเอาไปปลูกแบบต้นเดียว ถ้าแบบนี้ก็ต้องคัดทุกรุ่นใช่หรือเปล่าครับ

ช่วยแจงแถลงไข ด้วยครับ ทิดแดง ว่ามีวิธีไหนนอกจากที่ผมรู้มา


ขอบคุณครับ


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 07/06/2013 1:49 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ความบริสุทธิ์ทางสายพันธุ์ของข้าว อยู่ได้แค่ 3-4 รุ่นปลูก เพราะ....
- การผสมกันเองจนเกิดอาการ "ด้อย" ทางพันธุ์กรรม
- การผสมข้ามพันธุ์ที่สปเซี่ห่างกันมากๆ
- การปฏิบัติบำรุงที่มีผลต่อ "ความสมบูรณ์" ต่อพัฒนาการทุกระยะ


- ความเป็นจริงในทางปฏิบัติ เมล็ดพันธุ์ที่ได้มาเป็นรอบที่เท่าใด ? รู้หรือไม่ ?
- ต้องการเมล็ดพันธุ์ที่มีความบริสุทธิ์ทางสายพันธุ์สูงจริงๆ ต้องใช้เมล็ดพันธุ์รอบแรกจากศูนย์เมล็ดพันธุ์ที่เชื่อถือได้ (เน้นย้ำ...เชื่อถือได้) เท่านั้น
- ทำเอง .... ชัวร์ 99.99 เศษ 44 ส่วน 100

คลิก :
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3200&postdays=0&postorder=asc&start=250&sid=920029c9fa17ef75af174f35393d925d#top
ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว....


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 07/06/2013 1:49 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ความบริสุทธิ์ทางสายพันธุ์ของข้าว อยู่ได้แค่ 3-4 รุ่นปลูก เพราะ....
- การผสมกันเองจนเกิดอาการ "ด้อย" ทางพันธุ์กรรม
- การผสมข้ามพันธุ์ที่สเปซี่ห่างกันมากๆ
- การปฏิบัติบำรุงที่มีผลต่อ "ความสมบูรณ์" ต่อพัฒนาการทุกระยะ


- ความเป็นจริงในทางปฏิบัติ เมล็ดพันธุ์ที่ได้มาเป็นรอบที่เท่าใด ? รู้หรือไม่ ?
- ต้องการเมล็ดพันธุ์ที่มีความบริสุทธิ์ทางสายพันธุ์สูงจริงๆ ต้องใช้เมล็ดพันธุ์รอบแรกจากศูนย์เมล็ดพันธุ์ที่เชื่อถือได้ (เน้นย้ำ...เชื่อถือได้) เท่านั้น
- ทำเอง .... ชัวร์ 99.99 เศษ 44 ส่วน 100

คลิก :
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3200&postdays=0&postorder=asc&start=250&sid=920029c9fa17ef75af174f35393d925d#top
ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว....


.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 09/06/2013 6:13 am, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ถัดไป
หน้า 1 จากทั้งหมด 4

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©