-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 23 FEB
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 23 FEB
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 23 FEB

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 23/02/2012 6:51 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 23 FEB ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 23 FEB

**********************************************************

สร้างสรรสังคม....ส่งเสริมคนดี....พัฒนาชีวิต ให้มีคุณภาพ...

กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ทางสถานีวิทยุ พล.ปตอ. เอเอ็ม 594 เวลา 08.10–09.00 และ 20.05-20.30 ทุกวัน

ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ

เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว
ก่อนเริ่มรายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986

**********************************************************



จาก : (089) 667-41xx
ข้อความ : อยากปลูกเผือก ซื้อลูกเผือกจากตลาดมาเพาะ นาน 1 เดือน ไม่งอก แถมเน่าอีกต่างหาก ปรึกษา
ผู้พันว่าจะเพาะลูกเผือกยังไงถึงจะงอกและไม่เน่า ..... พนัสนิคม ชลบุรี
ตอบ :
ลูกเผือก หรือ ลูกซอ. ที่วางขายในตลาด เป็นลูกเผือกสำหรับกินไม่ใช่สำหรับขยายพันธุ์.....ลูกเผือกกินแบบนี้เขาจะฉีดพ่นแอลกอฮอร์ (เหล้าขาว) เพื่อป้องกันการงอก เมื่อเอาไปปลูกขยายพันธุ์จึงไม่งอกเป็นธรรมดา

- ลูกซอ ที่เกิดจากด้านข้างของหัวแม่ อยู่บนดิน เรียกว่า "ตะเกียง" เอาเพาะขยายพันธุ์ไม่ดี
- ลูกซอ ที่เกิดอยู่ใต้หัวแม่ อยู่ไต้ดิน หลังจากถอนหัวแม่ออกไปแล้วจะพบลูกซอนอนอยู่ มาก/น้อย แล้วแต่ความสมบูรณ์ของต้นแม่ ลูกซอแบบนี้เหมาะสำหรับเอาไปปลูกขยายพันธุ์

หลังจากตัดหัวแม่ออกไปแล้ว ปล่อยลูกซอไว้ไต้หัวแม่อย่างนั้น หาหญ้าคลุมหนาๆ งดการให้น้ำเด็ดขาด ทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน เพื่อทำลายระยะพักตัว จากนั้นจึงขุดขึ้นมาขยายพันธุ์

การหาลูกซอเผือกมาทำพันธุ์ ต้องไปที่สวนเผือกโดยตรง เจรจากับเจ้าของว่าต้องการซื้อลูกซอเพื่อเอาไปทำพันธุ์ ให้เขาเก็บลูกซอไว้ก่อน จากนั้นก็ว่ากันไป



------------------------------------------------------------------------------------------------------



จาก : (081) 109-52xx
ข้อความ : เมื่อคืนนี้ได้ยินลุงคิมพูดถึง "อามิ-อามิ" กับ "ส่าหล้า" ใส่ดินแล้วดินเสีย ไร่อ้อยของหนู 20 ไร่
ใส่ไปแล้วแต่ไม่มาก จะแก้ไขได้หรือไม่ แก้ไขอย่างไร ขอบคุณทหารของประชาชน ที่ให้ความรู้ ช่วยให้
เกษตรกรหูตาสว่าง ขอบคุณจริงๆค่ะ......สาวสวนแตง สุพรรณบุรี
ตอบ :
"อามิ-อามิ" คือ ของเสียที่ได้จากระบวนการผลิตผงชูรส มีหลายเกรด ชนิดเกรด เอ.ส่งญี่ปุ่นหมด เขาเอาไปทำอาหารให้คนกิน แสดงว่ามีสารอาหารมาก แต่ อามิ-อามิ ในประเทศไทยเป็นเกรดบ๊วย อาจจะมีสารอาหารพืชหลงเหลืออยู่บ้างแต่ไม่มาก ที่แน่ๆ คือ ของเสียจากกระบวนการผลิตผงชูรสเต็มๆ

เคยมีคนเอา อามิ-อามิ ใส่ในแปลงอ้อย ใส่แบบเปิดท้ายถังเทลงไปเลย ปรากฏว่า อ้อยรุ่นแรกดีมาก แต่รุ่นถัดมาเสียหายอย่างหนัก ดินแน่น ดินแข็ง ดินไม่อุ้มน้ำ

ที่จริง อามิ-อามิ เกิดมาจากสำปะหลัง ซึ่งถือว่าเป็นสารอินทรีย์อย่างหนึ่ง แต่ในกระบวนการผลิตมีสารเคมีร่วมด้วย เจ้าตัวสารเคมีนี่แหละที่เป็นตัวส่งผลเสียต่อดิน และสภาพแวดล้อม

ส่วน "ส่าเหล้า" น่าจะมีความเป็น "อินทรีย์สาร" มากกว่า เพราะในกระบวนการผลิตไม่มีสารเคมีใดๆเข้ามาเกี่ยวข้อง

ทั้ง อามิ-อามิ และ ส่าเหล้า คือของเสียที่โรงงานพยายามหาแหล่งเททิ้ง เท่านั้น

เทคนิคการใช้ "อามิ-อามิ และ ส่าหล้า" ที่เหมาะสม คือ อัตรา 2-3 ล./ไร่/รุ่น




------------------------------------------------------------------------------------------------------




จาก : (084) 309-19xx
ข้อความ : ลุงคิมคะ มะเขือเทศเชอรี่ ใช้ผลปุ๋ยรู้งเมเนอร์มิกซ์ ผลใหญ่เกิน ตลาดไม่เอา เราควรเปลี่ยนสูตรใหม่ไหม
ใช้สูตรไหนดีคะ ทำเกษตรแบบ อินทรีย์นำ-เคมีเสริม-ตามความเหมาะสมของมะเขือเทศ ได้ผลจริงๆค่ะ เนื้อที่ 5 ไร่
ใช้ปุ๋ยไปแล้วไม่ถึงครึ่ง กส. เมื่อก่อนใช้ 4-5 กส. ..... จากสังขละ กาญจนบุรี
ตอบ :
ผลผลิตทางการเกษตรที่มีขนาดใหญ่มากๆ ใหญ่จนตลาดไม่ต้องการ ได้แก่ มะเขือเทศเชอร์รี่ กระเจี๊ยบเขียว ข้าวโพดฝักอ่อน

ไม่ควรใช้ ปุ๋ย/ฮอร์โมน สูตรขยายขนาดผลต่อผลผลิตเหล่านี้ เมื่อผลมีขนาดตามที่ตลาดต้องการแล้วให้บำรุงด้วย "สูตรเร่งหวาน หรือ สูตรปรับปรุงคุณภาพผลผลิตก่อนเก็บเกี่ยว" เพราะสูตรนี้จะหยุดขยายขนาด แต่จะบำรุงให้ผลคุณภาพดี รสหวาน เนื้อแน่น กลิ่นดี น้ำหนักดี

การให้แคลเซียม โบรอน. สม่ำเสมอระหว่างบำรุงผล จะไม่ทำให้ผลมีขนาดใหญ่ เกินมาตรฐานสายพันธุ์ แต่จะทำให้ผลมีคุณภาพดี


------------------------------------------------------------------------------------------------------



จาก : (082) 189-52xx
ข้อความ : น้ำหยด คือ น้ำดัดจริต อย่างลุงคิมพูดจริงๆ ผมติดน้ำหยดในไร่อ้อย แค่เริ่มต้น อ้อยยังไม่โต เริ่มมีปัญหา
หัวอุดตัน ต้องตรวจทุกวัน แคะหัวทุกวัน แค่เนื้อที่ 10 ไร่ ยังทำไม่ทัน ถ้าติด 50 ไร่ จะตรวจ จะแคะยังไง ท่าทาง
ไม่ดีซะแล้ว......... ไร่อ้อย กำแพงเพชร
ตอบ :
ความจริง คือ ความจริง....
ความจริงมีเพียง1 เดียวเท่านั้น
ใครที่พูดความจริงจะพูดเหมือนกันทั้งหมด ต่างกันที่ ลีลา วลี

ใครยิ่งหนีความจ่ริง ยิ่งพบแต่ความเท็จ
ใครที่หนีคนพูดตรง ยิ่งพบแต่คนพูดอ้อล้อ ตอแหล

นิสัยถาวรของคนขายสินค้า มักพูดแต่ข้อดีของสินค้า แต่จะไม่พูดถึงข้อเสียหรือข้อจำกัดของสินค้าเลย จึงเป็นหน้าที่ของคนซื้อ เมื่อรู้ข้อดีแล้ว ถามย้อนว่ามข้อเสียหรือไม่

ทำการเกษตรวันนี้ ระวัง ! มีความรู้แค่โฆษณา


------------------------------------------------------------------------------------------------------



จาก : (081) 710-52xx
ข้อความ : ผมซื้อเงาะมา 2 กก. แกะเอาเมล็ดมาเพาะ งอกไม่ถึง 10 ต้น ไม่รู้ว่าทำผิดขั้นตอนตรงไหน ขอคำ
แนะนำด้วยครับ.....เงาะไม่งอก สระบุรี
ตอบ :
เมล็ดเงาะ ทุเรียน มังคุด ลำไย ลิ้นจี่ ลองกอง สละ น้อยหน่า ผักหวาน ฯลฯ ที่เปลือกหุ้มเมล็ด บางๆ เมล็ดพืชเหล่านี้ "ไม่มีระยะพักตัว" หลังจากแกะเนื้อออกจากเมล็ดแล้วต้องนำลงเพาะทันที หากเก็บไว้นานแค่ข้ามคืนเดียว เปอร์เซ็นต์ความงอกก็เสื่อมแล้ว

การแกะเนื้อออกจากเมล็ด ต้องทำเบาๆ (ขยำในน้ำ + ทราย) อย่าให้เมล็ดช้ำ

การเพาะเมล็ดอย่าฝังลึก ฝังลึกแค่ 1/2 ซม. หรือครึ่งหนึ่งของความหนาของเมล็ดก็พอ แล้วใช้ดินปลูกละอียดโรยทับหลวมๆ เพื่อให้อ๊อกซิเจนเข้าไปถึงเมล็ดได้ ก็จะช่วยให้การงอกของเมล็ดดีขึ้น


------------------------------------------------------------------------------------------------------



จาก : (080) 815-41xx
ข้อความ : ผงชูรสมีหน้าที่อย่างไร ถ้าใช้กับพืช.....
ตอบ :
ในผงชูรสมีอะมิโน โปรตีน. เป็นหลัก
นอกนั้นแนะนำให้ค้นคว้าในตำราว่าด้วยโภชนาการ เพราะสารอาหารพืช สารอาหารคน คือ ตัวเดียวกัน ต่างกันที่รูปทางเคมีเท่านั้น

ประสบกาณ์ตรง :
ใช้ "น้ำ (พีเอช 6.0) 20 ล. + ผงชูรส 1 ชช." ให้แก่กล้วยไม้ตระกูลหวาย อาทิตย์ละครั้ง ช่วยให้ออกดอกดีได้


------------------------------------------------------------------------------------------------------



จาก : (089) 190-38xx
ข้อความ : ดูข่าว ทีวี. เรื่องกลุ่มควันภาคเหนือเกิดจากเผาป่า ชาวบ้านออกมาโวย ถ้าเผาใบไม้แห้งในสวน เผาหญ้า
ในไร่ แล้วจะโดนจับปรับ ในทัศนะของลุงคิมจะหาทางออกให้ชาวบ้านแบบนี้ได้ยังไง.....ขอบคุณ ชาวสวนนนทบุรี
ตอบ :
เป็น "ความไม่รู้ + มักง่าย" ของเกษตรกรอง....
เรื่องทำนองนี้ ไม่ใช่ ไม่มีใครสอน ไม่มีใครให้คำแนะนำ ตามคำอ้างของเกษตรกร ซะเมื่อไหร่

เศษซากหญ้า-เศษซากฟาง-เศษซากพืช ทุกชนิด คือ อินทรีย์วัตถุ เมื่อฝังกลบลงดินแล้วจะได้ อินทรีย์สาร นอกจากเป็นสารอาหารสำหรับพืชแล้วยังได้จุลินทรีย์เพื่อการเกษตรอีกด้วย......เรื่องอย่างนี้ เป็นไปได้ยังไงที่เกษตรกรไม่รู้ และไม่มีความคิดที่ใประโยชน์ ถ้าไม่ใช่ "มักง่าย ยึดติด มิจฉาทิฐิ รั้น" แล้วจะเรียกอะไร

ข้ออ้างของเกษตรกรอย่างหนึ่ง คือ ไถยาก พันผาน ว่าแล้วเผาทิ้ง ..... ตราบใดที่เกษตรกรยังเผาปุ๋ยธรรมชาติทิ้ง เผาสิ่งที่จะช่วยบำรุงดินทิ้ง เผาแหล่งจุลินทรีย์เพื่อการเกษตรทิ้ง แล้วไป "ซื้อ" สิ่งทำลายดินมาใส่แทน ฉนี้แล้วเกษตรกรจะได้อะไรจาการทำเกษตรนั้น


แปลงนาข้างบ้านทำ.....
- เกี่ยวข้าวเสร็จ ดินยังแห้ง ใช้รถไถผาน 1-2 (หญ้า-ฟาง ไม่พันผาน) ไถดินทั้งหญ้าและฟาง ให้พลิกลงไปอยู่ข้างล่าง แล้วให้ดินขี้ไถหงายขึ้นอยู่ข้างบน ทิ้งไว้ 1 เดือน รอฤดูกาลทำนางวดหน้า ระหว่างที่ดินขี้ไถตากแดดนานขนาดนี้นอกจากจะทำลายวัชพืชแล้วยังช่วยเร่งการย่อยสลายของฟางและหญ้าให้ผุเปื่อยเร็วขึ้นด้วย

- เมื่อฤดูกาลทำนารุ่นใหม่มาถึง ปล่อยน้ำเข้าให้ท่วมขี้ไถ หมักทิ้งไง้ 7-10 วัน แล้วใช้ "อีขลุบ หรือ ลูกทุบ" ย่ำเทือกได้เลย ย่ำ 2-3 รอบ (หญ้า-ฟาง ไม่พันลูกทุบ) ห่างกันรอบละ 7 วัน นอกจากจะได้ขี้เทือกเหลวเละเหมาะสำหรับนาข้าวแล้ว ยังช่วยกำจัดวัชพืชทุกชนิดได้อีกด้วย.....งานนี้ไม่ต้องไถ ไม่ว่าจะเป็นไถผาน 2-3-4 หรือไถโรตารี่ (ลุงคิมทำมาแล้ว ก.ทำกับมือ ดีกว่าไถซะอีก.....คนงาน ลูกชาวนา บอก.....)

ชาวนาแปลงข้างเคียง รู้ทั้งรู้ เห็นก็เห็น ทำไมไม่ทำตามบ้าง.....ตรงกันข่าม กลับหาว่าเขาซะอีกแน่ะ.....นี่แหละสาเหตุ คนบ้าไม่มีหนี้ คนดีหนี้เต็มบ้าน


เศษซากใบไม้ เศษซากพืช ทุกชนิด เอามาใส่โคนต้นไม้ผล คลุมให้ทั่วบริเวณทรงพุ่ม โรยทับบางๆด้วยปุ๋ยคอก-ยิบซั่ม แล้วราดรดด้วยน้ำหมักชีวภาพ (สูตรไหนก็ได้ หาไม่ได้จริงๆ กากน้ำตาลเปล่าๆก็ใช้ได้) ) หรือจุลินทรีย์หน่อกล้วย ทิ้งไว้ไม่เกิน 3 เดือน เศษซากพวกนั้นจะเปื่อยยุ่ยเป็นผง นั่นคือ สุดยอดของปุ๋ยอินทรีย์ แต่เกษตรไม่คิด ไม่เอา

อาชีพเกษตร เป็นอาชีพที่มีการส่งเสริมมากที่สุด ทั้งราชการและเอกชน (วิทยุ โทรทรรศน์ หนังสือ ศูนย์ส่งเสริม ปราชญ์ชาวบ้าน สวนดีเด่น เกษตรกรดีเด่น จนท.เกษตร โครงการพระราชดำริ ฯลฯ) แต่เกษตรกรก็ยังอ้างว่า ไม่มีใครส่งเสริม-ไม่มีใครสอน-ไม่มีใครมาบอก แต่คนขายปุ๋ยขายสารเคมีพูดคำเดียวล้วงกระเป๋าหยิบเงินซื้อเลย ไม่มีเงินสดก็ลงชื่อซื้อเครดิตก็เอา

เป็นไปได้ยังไง เกษตรกรไม่รู้ว่าที่ตัวทำน่ะ ไม่ได้กำไรน้อยก็ขาดทุน
เป็นไปได้ยังไง เกษตรกรเห็นแล้วว่าของเขาทำแล้วได้กำไร แต่ตัวทำแล้วขาดทุน

เพราะอะไร เกษตรกรเมื่อขายผลผลตได้ คุยลั่นทั่วบ้านทั่วเมือง แต่พอถามว่า ลงทุนเท่าไหร่ กลับทำตาเขียว ไม่พอใจ




ทุกความล้มเหลวของภาคเกษตร เกิดจากตัวเกษตรกรเอง


............. โกหกตัวเอง กระทั่งเชื่อตัวเอง ................


------------------------------------------------------------------------------------------------------



จาก : (085) 619-04xx
ข้อความ : มีที่ 15 ไร่ น้ำดีตลอดปี อยากปลูกมะกอกน้ำ กะว่าจะแปรรูปทำมะกอกน้ำแช่อิ่มขาย ลุงคิมมี
ความคิดเห็นอย่างไร ขอคำแนะนำด้วยครับ ...... ขอบคุณครับ
ตอบ :
คิดถูกทางแล้ว.....มะกอกน้ำสด กก.ละ 5 บาท, มะกอกน้ำดอง กก.ละ 15 บาท, มะกอกน้ำแช่อิ่ม กก.ละ 50 บาท.......มะกอกน้ำดองแล้วยังไม่เปิดไหดองอยู่ได้นานหลายๆปี เปิดไหดองเอามาแช่อิ่มตามออร์เดอร์ก็ได้ แบบนี้ทำให้รอตลาดได้

ว่าแต่ ดองยังไงถึงจะอร่อย กรอบ นุ่ม เดี๋ยวนี้เขามาผงดองเฉพาะผลไม้ขายตามโชห่วยทั่วประเทศ (ยกเว้นบ้านคุณ) ..... เรื่องอย่างนี้ต้องฝึกฝีมือ

ว่าแต่ แช่อิ่มยังไงให้อร่อย แช่อิ่มน้ำผึ้งเซ่ อร่อยนะ .... เรื่องอย่างนี้ต้องฝึกฝีมือ


เลือกพันธุ์ก้นแป้น (ก้นผลมีรอยบุ๋ม) ลูกใหญ่ เนื้อหนา เมล็ดเล็ก บำรุงตามแนวงทางที่แนะนำ "8 ขั้นตอนบำรุงไม้ผล" นั่นแหละ เดี๋ยวดีเอง

มะกอกน้ำไม่ต้องตัดแต่งกิ่ง ไม่ต้องแต่งทรงพุ่ม เพราะถึงเวลาเขาจะทิ้งกิ่งของเขาเอง ไม่ต้องห่อผล ไม่ต้องตัดแต่งช่อผล...... ระวังก็แต่เพลี้ยไฟที่จะเข้าทำลายผิวช่วงผลเล็กเท่านั้น เพราะถ้าผลเล็กถูกเพลี้ยไฟทำลายผิวแล้ว แผลนี้จะติดตัวไปถึงเก็บเกี่ยว.....ติดสปริงเกอร์ซี่ ปล่อยน้ำทุกตอนเที่ยง ช่วยป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟได้

ครั้งแรกปลูกระยะ 1.5 x 1.5 ม. เอาผลผลิตก่อน 3-4 ปี จึงตัดออกต้นเว้นต้นก็จะได้ระยะห่าง 3 x 3 ม. เอาผลผลิตต่ออีก 4-5 ปี จึงตัดออกต้นเว้นต้นก็จะได้ระยะห่าง 6 x 6 ม. ถือว่าพอดีสำหรับมะกอกน้ำ คราวนี้เอาผลผลิตถึง 100 ปี เลยยังได้

มะกอกน้ำเป็นไม้ผลยืนต้นที่น้ำท่วมขังค้างนานแล้วไม่ตาย ขอเพียงน้ำไม่ท่วมยอดเท่านั้น ระบบรากจะแทงทะลุดิน ผ่านน้ำ ขึ้นมารับอากาศเหนือผิวน้ำได้ นอกจากไม่ตายแล้ว ยังแถมออกดอกติดลูกได้ด้วย ทั้งๆที่น้ำท่วมนั่นแหละ


------------------------------------------------------------------------------------------------------




.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 24/02/2012 6:26 pm, แก้ไขทั้งหมด 19 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 23/02/2012 7:49 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

...
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©