-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ปุ๋ยข้าวโพด
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 15 FEB
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 15 FEB

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 15/02/2012 7:07 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 15 FEB ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 15 FEB


**********************************************************

สร้างสรรสังคม....ส่งเสริมคนดี....พัฒนาชีวิต ให้มีคุณภาพ...

กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ทางสถานีวิทยุ พล.ปตอ. เอเอ็ม 594 เวลา 08.10–09.00 และ 20.05-20.30 ทุกวัน

ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ

เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว
ก่อนเริ่มรายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986

**********************************************************


จาก : (085) 781-02xx
ข้อความ : เคยฟังลงคิมพูดเรื่อง "การเมืองเกษตร" ถึงวิธีป้องกันน้ำท่วม โดยเอาบึงบอระเพ็ด กว๊านพะเยา
หนองหาน แหล่งน้ำขนาดใหญ่ หรือแม้แต่ต่อเชื่อมแม่น้ำปิง-วัง-น่าน มาให้แม่น้ำยม วันนี้บรรดานักการเมือง
นักวิชาการขานรับแล้ว ในความคิดแบบลุงคิมว่า แก้ปัญหาความยากจนของเกษตรกรในอิสานอย่างไร ผมชอบ
ความคิดแบบ แผลงๆแต่สร้างสัน + คิดนอกกรอบ ครับ......ขอบคุณครับ
ตอบ :
แก้ปัญหาความยากจน คำตอบแรก คำตอบเดียว และคำตอบสุดท้าย คือ "น้ำ" นอกจากแก้ปัญหาความยากจนแล้ว ยังแก้ปัญหา สังคมชนบทล่มสลาย และสังคมเมืองฟอนเฟะ ได้อีกด้วย

น้ำคือชีวิต น้ำต้องมาก่อน.....

ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ประชาชน 80-90% ทำอาชีพเกษตรกรรม ทั้งเกษตรโดยตรงและเกี่ยวเนื่องกับเกษตร
ประเทศเกษตรแท้ๆ มีระบบชลประทานเพื่อการเกษตรเพียง 20-30% นอกนั้นต้องอาศัยน้ำจากฝนตามธรรมชาติเท่านั้น




นานมาแล้วที่ ทีวี ช่อง 9 รายการสัมภาษณ์ผู้ดำเนินรายการหญิงกับ พ่อใหญ่-แม่ใหญ่ คนอิสานที่มารับจ้างแรงงานก่อสร้างใน กทม.

ผู้ดำเนินรายการ : พ่อใหญ่-แม่ใหญ่ มาจากจังหวัดไหนคะ ?
พ่อใหญ่แม่ใหญ่ : กาฬสินธุ์ค่ะ

ผู้ดำเนินรายการ : มารับจ้างทำงานอะไรคะ ?
พ่อใหญ่แม่ใหญ่ : ก่อสร้างค่ะ

ผู้ดำเนินรายการ : ได้ค่าแรงวันละเท่าไหร่คะ ?
พ่อใหญ่แม่ใหญ่ : วันละ 150 บาท

ผู้ดำเนินรายการ : พอกินไหมคะ ?
พ่อใหญ่แม่ใหญ่ : ก็พอกินไปวันๆ หมดงาน กลับบ้านแล้วก็ไม่เหลืออะไร

ผู้ดำเนินรายการ : พ่อใหญ่-แม่ใหญ่ ปลูกมะเชือเป็นไหมคะ ?
พ่อใหญ่แม่ใหญ่ : เป็น

ผู้ดำเนินรายการ : ปลูกหมากพริกเป็นไหมคะ ?
พ่อใหญ่แม่ใหญ่ : เป็น

ผู้ดำเนินรายการ : ปลูกหมากมะละกอเป็นไหมคะ ?
พ่อใหญ่แม่ใหญ่ : เป็น ปลูกเป็นทุกอย่างนั่นแหละ

ผู้ดำเนินรายการ : แล้วทำไม พ่อใหญ่-แม่ใหญ่ ไม่อยู่บ้านปลูกผักกิน ปลูกผักขายละคะ ?
พ่อใหญ่แม่ใหญ่ : มัน บ่อ มี น้ำ

พ่อใหญ่-แม่ใหญ่ แห่งดินแดนน้ำดำตอบด้วยเสียงกระแทกๆ แต่ออกมาจากใจจริง เพราะนั่น คือ ความจริง ..... งานนี้ผู้ดำเนินรายการถึงกับหน้าจ๋อย (ทีวี.จับ) ความรู้สึกครั้งแรกที่คิดว่าคนอิสานเพาะปลูกไม่เป็น เปลี่ยนมาเป็นเห็นใจ เมื่อรู้ว่าสาเหตุที่แท้จริง คือ ไม่มีน้ำ


คงไม่ใช่อิสานภาคเดียวหรอกนะ ทุกภาค เหนือ-ตะวันออก-ตะวันตก-กลาง-ใต้ พื้นที่ใดมีการเพาะปลูก ก็น่าจะจัดระบบชลประทาน ส่งน้ำไปให้ สร้างคลองส่ง เล็ก-กลาง-ใหญ่ ให้โยงเป็นใยแมงมุม บางพื้นที่ส่งน้ำไปบนพื้นดิน บางพื้นที่ส่งไปทางท่อมุดดินไปก็ได้

ริมโขงทุกระยะ 50 กม. มีสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า งานของกระทรวงพลังงาน สูบน้ำด้วยไฟฟ้าดึงน้ำในแม่น้ำโขงเข้ามาในแผ่นดินเป็นระยะทาง 25 กม. เหตุที่ดึงเข้ามาได้เพียงเท่านั้นเนื่องจากข้อจำกัด กม.ระหว่างประเทศเมื่อระดับน้ำในแม่น้ำปกติ แต่หากระดับน้ำในแม่น้ำมากจนท่วมล้นฝั่ง สามารถดึงเข้ามาในแผ่นดินได้ลึกโดยไม่มีข้อจำกัด ..... ประเด็นก็คือ ช่วงที่น้ำโขงท่วมจนล้นฝั่ง ไทยเราน่าจะดึงน้ำเข้าเก็บไว้ในอ่างน้ำ หรือแก้มลิง หรือแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ (สร้าง) สำหรับใช้ในช่วงที่ไม่มีน้ำ ..... แนวคิดนี้เกิดขึ้นเมื่อราว 30 ปีที่แล้ว ครั้งไปทำงานสายลับฝังตัวอยู่ตามแนวชายแดนริมโขง ไทย-ลาว กระทั่งบัดนี้ แนวปฏิบัตินี้ก็ยังไม่เกิดขึ้น ทั้งๆที่ นำโขงท่วม-น้ำโขงแล้ง ..... แล้ง-ท่วม-ท่วม-แล้ง เกิดขึ้นทุกปี





"บึงบอระเพ็ด" กว้างขวางใหญ่โต ครอบคลุมพื้นที่หลาย 100 ตร.กม.หรือจะเป็นหลาย 1,000 ตร.กม. กินอาณาเขตภูเขาชนภูเขาหลาย 10 ลูก ..... วันนี้ระดับความลึกน้ำเฉลี่ยเพียง 2 ม. เท่านั้น

เมื่อ 10 ปีที่แล้วเกิดความคิดขึ้นมาว่า ลอกดินเลนก้นบึงให้ลึก 5-10-20-30-50 ม.ตามความเหมาะสมของแต่ละบริเวณ ลอกดินเลนแล้วเอาถมริมตลิ่งที่เป็นเขตของบึงบอระเพ็ด (ไม่ต้องเวนคืน ส่วนที่ถูกบุกรุกต้องเอาคืน) ถมตลิ่งให้สูงกว่าผิวน้ำ 1-1.5 ม. กว้าง 500-1,000 ม. ทำเขื่อนถาวรป้องกันตลิ่งพังให้เรียบร้อย ..... พื้นทีตลิ่งที่ถมแล้วแบ่งเป็น 2 ส่วน

- ส่วนที่ 1 เนื้อที่ 30% ให้เอกชนเท่าทำธุรกิจ เช่น โรงแรม แหล่งท่องเที่ยว ฯลฯ สัญญาเช่า 99 ปี .... คุณว่า ท้องน้ำขนาดใหญ่อย่างบึงบอระเพ็ดเล่นสกี เรือเร็ว เรือบาบาน่าโบ๊ต ฯลฯ ได้มั้ย....ส่วนนี้รัฐจะลงทุนเอง หรือให้เอกชนลงทุน ภายใต้การส่งเสริมของ BOI ก็ได้

- ส่วนที่ 2 เนื้อที่ 70% ให้เกษตรกรเข้าไปถือครองในลักษณะที่ดิน สปก. ครอบครัวละ 15-20 ไร่ ให้ทำการเกษตร แล้วมีการบริหารแบบ "ระบบเกษตร" ตั้งแต่การผลิต จนถึงส่งออก ..... ส่วนนี้รัฐต้องลงทุนเอง ซึ่งม่ใช่เรื่องยาก กะอีแค่ปรับพื้นที่ สร้างสาธรณูปโภคขั้นพื้นฐาน เท่านั้น ขี้คร้านคน (เกษตรกร ตัวจริง/ตัวปลอม, คนยากจน/คนอยากจน) จะแย่งกันขอเข้าไปอยู่ด้วยซ้ำ .... ว่ามั้ย

ดร.ปลอดประสบฯ จบปริญญาเอกจากอเมริกา เป็น ดร.จริงๆ ไม่ใช่ ดร.กิติมศักดิ์ หรือ ดร.อนุโมทนาบัตร หรือ ดร.จ่ายครบจบแน่ โดยการทำวิทยานิพนธ์เรื่อง "บึงบอระเพ็ด" ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ในวิทยานิพนธ์นั้นมีหัวข้อ "แนวทางพัฒนาบึงบอระเพ็ด แบบยั่งยืน" ด้วยหรือไม่


ดร.ปลอดประสบฯ เอาเรื่องบึงบอระเพ็ด
ดร.อื่นๆ เเอาเรื่อง กว๊านพะเยา, หนองหาน, ลำตะคอง, บึงสีไฟ, จังหวัดละ 2,000 ดร.ยังได้ เพราะประเทศไทยมี ดร.เยอะมาก เกลื่อนบ้านเกลื่อนเมือง เยอะกว่ายาบ้าอีกแน่ะ......ว่ามั้ย


-------------------------------------------------------------------------------------------------



จาก : (084) 109-39xx
ข้อความ : ลุงคิมขา ช่วยด้วยค่ะ มะละกอ 200 ต้น เนื้อที่ 4 ไร่ ออกลูกแล้ว วันนี้เป็น "ใบหงิก-เหลือง-ซีด-ม้วน"
100 กว่าต้น ที่เหลือก็เริ่มเป็นต่ออีก ใช้ยาไปแล้ว 4-5 ยี่ห้อ เอาไม่อยู่ค่ะ จะทำยังไงดีคะ ยังไม่ได้ทุนคืนเลยค่ะ
สงสารมะละกอ สงสารพ่อ สงสารแม่ สงสารลุงคิมด้วยค่ะ.....หลานฉะเชิงเทรา
ตอบ :
เป็นโรค "ใบด่างวงแหวน" โรคนี้เป็นเชื้อ "ไวรัส" ที่แมลงปากกัดปากดูด (ทุกชนิด) เป็นพาหะนำมา.....ปัจจุบันยีงไม่มี "สารสมุนไพร หรือ สารเคมี" ตัวใด ชนิดใด ยี่ห้อใด กำจัดได้ เป็นแล้วเป็นเลยประมาณนั้น

กำจัดไม่ได้แต่ป้องกันได้ คือ.....
- ฉีดพ่นสารสมุนไพร ป้องกัน แมลงปากกัดปากดูดให้ได้อย่างแท้จริง
- บำรุงต้นให้สมบูรณ์อยู่เสมอ เพื่อให้ต้นมีภูมิต้านทานสู้กับเชื้อโรคตัวนี้ได้
- บริหารจัดการ ปัจจัยพื้นฐานฯ ให้เหมาะสมต่อมะละกออย่งแท้จริง

ในอดีตทราบว่า "เพลี้ยไก่แจ้" เป็นแมลงพาหะนำเชื้อโรคนี้โดยฉพาะเท่านั้น ปัจจุบันทราบว่า แมลงปากกัดปากดูด ทั้งชนิดที่มาช่วงกลางวัน และชนิดที่มาช่วงกลางคืน ต่างก็เป็นพาหะนำเชื้อโรคตัวนี้ได้ และยังเป็นพาหะนำเชื้อโรคตัวอื่นๆมาได้อีกด้วย

มะละกอที่รับเชื้อตัวนี้เข้าไปแล้ว โอกาสที่จะฟื้นกลับคืนมาให้ผลผลิตดีเหมือนเดิมค่อนข้างยาก ทางที่ดี โค่นทิ้งไปเถอะ


-------------------------------------------------------------------------------------------------




จาก : (082) 409-51xx
ข้อความ : กะเพรา-โหระพา-แมงลัก ออกดอก ใช้ปุ๋ยตัวไหนถึงจะไม่ออกดอกครับ.....
ตอบ :
N. ครับ....
เตรียมดิน ..... แนะนำ ขี้วัวไล่ทุ่ง-ยิบซั่ม เป็นหลัก
บำรุง.......... แนะนำ ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 + จิ๊บเบอเรลลิน เป็นหลัก

ทางใบ ให้ น้ำมะพร้าวอ่อน + น้ำมะพร้าวแก่ จะช่วยการแตกยอดดี ออกดอกช้า



-------------------------------------------------------------------------------------------------



จาก : (089) 809-76xx
ข้อความ : สวัสดีครับลุงคิม ผมขอรบกวนถามลุงคิมว่า ในนาข้าวอากาศหนาว เน้นสารอาหารสังกะสี แต่ถ้าร้อนจัด
ควรเน้นสารอาหารชนิดใด และอากาศปิดฝนชุก เน้นสารอาหารชนิดใดเพื่อให้ข้าวเจริญเติบโตแข็งแรง....ขอบคุณ
จากผู้ฟัง ปอ 4
ตอบ :
สังกะสี ให้แก่ ทุกพืช-ทุกชนิด-ทุกระยะเติบโต-ทุกสภาพอากาศ รวมทั้งข้าวด้วย ไม่ใช่ให้เฉพาะช่วงหนาวเท่านั้น ร้อน-หนาว-ฝน ต้องให้ทุกฤดูกาล เพราะสังกะสี คือ ธาตุอาหารสร้างแป้ง ไม่งั้นข้าวจะเป็นข้าวลีบ

ต้นข้าว ..... ช่วงอากาศหนาวเย็นจนคนต้องใส่เสื้อกันหนาว ธรรมชาติของระบบรากจะไม่ทำงาน เพราะฉนั้นต้องให้สารอาหารทางใบแทน....กรณีธาตุสังกะสีช่วยให้ต้นข้าวมีภูมิต้านทานสู้กับ หนาว-ร้อน-ฝน ได้ดี เพราะฉนั้นต้องให้ธาตุสังกะสี เทคนิคการให้ที่ดี คือ ให้ก่อนอากาศหนาว 1-2-3 วัน เพื่อต้นจะได้มีความพร้อมล่วงหน้าสู้กับความหนาวได้....ร้อน-ฝน ก็ควรให้ล่วงหน้าด้วย

สรุป : ให้ตลอดอายุขัย ตั้งแต่ "งอก ถึง เก็บเกี่ยว" นั่นแหละ


-------------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : (086) 047-82xx
ข้อความ : สวัสดีลุงคิม ขอถามว่า ข้าวไรซ์เบอร์รี่กับข้าวสินเหล็ก เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่าง ข้าวหอมนิลกับ
ข้าวหอมมะลิ 105 เหมือนกัน แต่ทำไมใช้ชื่อไม่เหมือนกัน จะปลูกที่เชียงรายได้ไหมครับ.....สมบัติ เชียงราย
ตอบ :
คนละชื่อเพราะ คนผสมพันธุ์เป็นคนละคนกันน่ะซี....
ไรซ์เบอร์รี่ ปลูกเชียงราย ดีนะ เพราะไรซ์เบอร์รี่ ชอบอากาศเย็นๆ
ปกติข้าวพันธุ์นี้ ปลูกได้ทั้งนาปรัง-นาปี

ก่อนปลูก ดูตลาดก่อนนะ คนเหนือชอบกินข้าวเหนียวไม่ใช่เหรอ รึว่าเดี๋ยวนี้ กินทั้งข้าวจ้าวข้าวเหนียวล่ะ....



--------------------------------------------------------------------------------------------------



จาก : (1188)
ข้อความ : ให้ผู้พันเอาเรื่องแตงกวามาคุยในตอนเย็น ใบโคนมันเหลืองก่อนกำหนด เรื่องโรคราใช้สมุนไพร
ตัวไหนดี แตงลูกมันสั้น ลูกป้อม จะทำยังไงดีให้เป็นลูกยาวขึ้นมา......
ตอบ :
ต้นพืช พูดด้วยใบ-บอกด้วยราก ลองๆถอนต้นขึ้นมาดูรากซี่ คำตอบอยู่ที่รากนั่นแหละ ดำ-เน่า-กุด-เหี่ยว-หงิก ต้นสาเหตุจริงๆมาจากดิน ดินเป็นกรดจัด ดินเป็นกรดเพราะคนใส่กรดลงไป (ปุ๋ยเคมีเหลือตกค้าง-ยาฆ่าหญ้า-สารเคมีฆ่าแมลง) กับน้ำขังค้างจนดินแฉะ.....ประมาณนี้

ระยะต้นเล็ก มีใบ 4-5 คู่ ให้จิ๊บเบอเรลลิน 1-2 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 5-7 วัน จะช่วยให้เมื่อต้นโตขึ้นการติดผลดีขึ้น

มีผลผลิตแล้ว บำรุงด้วย UN (ไบโออิ-ไทเป-ยูเกร้า) แล้วทุกอย่างจะดีขึ้เอง


--------------------------------------------------------------------------------------------------



จาก :
ข้อความ :
ตอบ :

--------------------------------------------------------------------------------------------------



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©