-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 29 DEC
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 29 DEC
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 29 DEC

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 29/12/2011 5:38 am    ชื่อกระทู้: ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 29 DEC ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 29 DEC



**********************************************************

สร้างสรรสังคม....ส่งเสริมคนดี....พัฒนาชีวิต ให้มีคุณภาพ...

กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ทางสถานีวิทยุ พล.ปตอ. เอเอ็ม 594 เวลา 08.10–09.00 และ 20.05-20.30 ทุกวัน

ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ

เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว
ก่อนเริ่มรายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986

*********************************************************




จาก : (087) 442-09xx
ข้อความ : ประสบการณ์ตรงของลุงคิม คิดว่าสปริงเกอร์แบบ "น้ำหยด กับ หัวหมุน" ในไร่อ้อย 40 ไร่ อย่างไหน
ดีกว่ากัน......ขอบคุณครับ สิงห์บุรี
ตอบ :
- ไม่ดีทั้งคู่.....แบบน้ำหยดมีปัญหาหัวอุดตัน อ้อย 1 ไร่ ใช้หัวน้ำหยดเป็น "ร้อย-ร้อย" หัว เนื้อที่ 40 ไร่ ต้องใช้กี่หัวก็เอา 40 คูน
ช่วงที่อ้อยต้นเล็กยังเดินเข้าไปสำรวจได้ หัวไหนตันก็แยงรู หัวไหนชำรุดก็เปลี่ยน แต่ช่วงที่อ้อยต้นโตสูงท่วมหัวแล้วนี่สิจะเข้าไป
สำรวจได้ไง ...... แบบหัวหมุนก็มีโอกาส ตัน/ชำรุด ได้เหมือนกัน ช่วงที่ต้นอ้อนยังเล็กถึงช่วงที่ต้นโตสูงท่วมหัวแล้ว ก็ปัญหาเดียว
กันกับหัวน้ำหยดนั่นแหละ

สปริงเกอร์ทั้ง 2 แบบ หลังลงมือปลูกเสร็จ การวางระบบคงไม่ยากนัก เพราะยังเดินเข้าไปในแปลงได้ แต่ก่อนตัดคงถอดออกก่อนไม่ได้
เพราะเดินเข้าไปในแปลงไม่ได้ คงต้องตัดให้เสร็จก่อนแล้วจึงค่อยเอาออก นั่นคือ ต้องตัดอ้อยทั้งๆที่ยังมีระบบสปริงเกอร์อยู่ แล้วจะแน่
ใจได้ไงว่า คนงานตัดอ้อยจะไม่เผลอไผลไปตัดเอาระบบสปริงเกอร์จนเสียหาย

เนื้อที่ 40 ไร่ การติดตั้งหรือถอดประกอบต้อง ใช้แรงงานกี่คน ใช้เวลากี่วัน ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่....


- ใช้สปริงเกอร์ OVER HEAD ......
1) แบบรถบันทุกน้ำ ติดตั้งปั๊มแรงดันสูง (ปั๊มดับเพลิง) ดัดแปลงติดหัวฉีดน้ำดับเพลิงให้มั่นคงแข็งแรง ทั้งหมดติดตั้งบนรถ เมื่อจะใช้
งานก็วิ่งรถไปจอดที่ริมแปลงอ้อย ณ บริเวณที่ต้องการให้น้ำ แล้วฉีดพ่นน้ำเข้าไป ส่ายซ้ายขวา 180 องศา น้ำที่พ่นเข้าไปจะตกผ่านจาก
ยอดอ้อยลงสู่พื้นดินโคนอ้อยได้ เป็นการพ่นน้ำจากสูงลงต่ำ ควรเลือกใช้ปั๊มน้ำที่มีแรงดันสูงๆ ใช้หัวฉีดปรับขนาดเม็ดน้ำได้ พ่นน้ำได้
ไกลครั้งละ 50-80 ม. แบบนี้ทำงานคนเดียวรือ 2 คนได้ ........

2) แบบรถบันทุกน้ำ ติดตั้งปั๊มแรงดันสูงบนรถเหมือนแบบแรก ใช้หัวฉีดน้ำดับเพลิงติดตั้งบนขาหยั่ง 3 ขา แข็งแรง วางบนพื้นดินข้างแปลง
อ้อย ใช้สายดับเพลิง (ผ้าใบ) ขนาด 2 นิ้ว ต่อน้ำจากปั๊ม (บนรถ) ไปที่หัวฉีด แล้วฉีดน้ำบนพื้นเข้าสู่แปลงอ้อย เป็นการพ่นน้ำจากต่ำไปสูง
แบบนี้ทำงานคนเดียวหรือ 2 คนก็ได้

3) แบบปล่อยน้ำไหลจากสูงลงต่ำ กรณีที่แปลงปลูกเป็นพื้นที่ลาด โดยวิ่งรถบันทุกน้ำไปจอดข้างแปลงอ้อย แล้วปล่อยน้ำเข้าไปในร่อง
ปลูก ให้น้ำไหลจากด้านลาดสูงไปสู่ด้านลาดต่ำ แล้วค่อยๆเลื่อนรถผ่านไปทีละร่องๆ หรือจะใช้สายยางเข้าช่วย แบบนี้ทำงานคน
เดียวหรือ 2 คนก็ได้



ประสบการณ์ตรง :
- แปลงอ้อยขนาด 300 ไร่ ที่ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี วางท่อเหล็กขนาด 3 นิ้ว เป็นท่อเมน วางขนานกันเป็นทางยาว จากต้นแปลง
ถึงท้ายแปลง แต่ละเส้นท่อห่างกัน 80 ม. ทั่วแปลง ฝังดินลึก 1 ม. เพื่อให้ทนต่อแรงกดของเครื่องจักรขนาดหนักได้ ..... ที่ท่อเมน
นี้ใส่ท่อ พีวีซี ขนาด 2 นิ้ว เป็นตัวท่อตั้งขึ้น สูง 1-1.5 ม. มีขาค้ำยันแข็งแรงมั่นคง ทุกระยะ 80 ม. กระจายทั่วแปลงเหมือนกัน เป้าหมาย
คือ สำหรับสวมหัว OVER HEAD เมื่อพ่นน้ำออกไปแล้วให้ปลายรัศมีพ่นน้ำของแต่ละหัวทับกับปลายรัศมีพ่นน้ำของหัวข้างเคียง ..... ที่
ปลายท่อตัวตั้งมีฝาเกลียว ปิด-เปิด ได้ เมื่อจะให้น้ำอ้อยก็จะเอาหัว OVER HEAD ไปสวม จากนั้นเดินเครืองปั๊ม น้ำก็จะถูกพ่นออกที่
OVER HEAD รัศมีพ่นน้ำ 50-60 ม./หัว ปลายรัศมีพ่นน้ำของหัวที่อยู่เคียงกันจะซ้อนทับกันประมาณ 5 ม. ใช้แรงงาน 1 คน/1 หัว
ส่าย OVER HEAD ซ้ายขวา-หน้าหลัง 360 องศา หรือตามต้องการ.....เนื้อที่ 300 ไร่ เปิด OVER HEAD ทำงานได้ครั้งละ 10 หัว
ใช้แรงงาน 10 คน (1 คน/1 หัว) ใช้เวลา 30 นาที น้ำเต็มร่องระหว่างแถวปลูก ใช้เครื่องรถยนต์ 6 สูบ ใช้ปั๊มแบบสเตจ ส่งน้ำทางราบ
แรงดันสูง ใช้น้ำจากคลองข้างแปลงที่มีน้ำมากตลอดปี ...... แปลงอ้อย300 ไร่แปลงนี้เป็นที่เช่า สัญญาเช่า 10 ปี ผู้เช่าลงทุนทำ OVER
HEAD ตั้งแต่รุ่นแรก ลงอ้อยตอแรกครั้งเดียว แล้วบำรุงเลี้ยงต่อจนถึงตอ 10 โดยผลผลิตเพิ่มขึ้นทุกตอ กระทั่งถึงตอ 10 ได้เฉลี่ย 32 ตัน/
ไร่ ..... เมื่อเลิกเช่าที่ดินแล้ว ผู้เช่าถอดเอาแต่ท่อตัวตั้งสำหรับสวมหัว OVER HEAD กลับไปเท่านั้น ส่วนท่อเมนเหล็ก 3 นิ้วใต้พื้นดิน
ยังคงอยู่ ไม่ได้เอาไป......หลังจากเจ้าของที่ดินได้ที่ดินกลับคืนมาก็ปลูกอ้อยแบบเดิมๆ ของตัวเอง คือ ไม่มีการให้น้ำใดๆทั้งสิ้น ทั้งๆที่เห็น
ตัวอย่างมาแล้วตั้ง 10 รุ่น

- ชาตรี สมช.ชมรมสีสันชีวิตไทย ทำอ้อย 20 ไร่ ที่สวนผึ้ง ราชบุรี ดัดแปลงรถบันทุกน้ำ โดยใช้ 10 ล้อ กะบะลูกกรงสูง เอาผ้าใบใส่ใน
กะบะแล้วใส่น้ำลงไปก็ใช้แทนถังบันทุกน้ำได้เป็นอย่างดี วิ่งไปที่แปลงอ้อย ปล่อยน้ำจากถัง (ผ้าใบ) บนรถมาหาปั๊มที่พื้นดิน จากปั๊มลาก
ท่อผ้าใบไปหัวฉีด (หัวฉีดธรรมดา ไม่ใช่ OVER HEAD) ฉีดน้ำให้อ้อย ..... ให้น้ำเดือนละ 1 ครั้งช่วงแล้งจัดๆ เนื้อที่ 20 ไร่ ทำคนเดียว
วันเดียวเสร็จ ใช้ปุ๋ยเคมีไปกับน้ำที่ให้ 8-24-24 ไม่ถึง 1 กส. บำรุงเลี้ยงอ้อยจนถึงตอ 8 ที่ตอ 8 ได้ผลผลิต 14 ตัน.....

- ในเว้บนี้ สมช. "อั้ยยู้ดดดด" ทำอ้อย 40 ไร่ ที่พยุหคีรี นครสวรรค์ ทำ OVER HEAD ใช้เอง เรื่องราวพร้อมรูปถ่ายอยู่กระทู้ไหน
จำไม่ได้ .... ค้นเอาเอง

- ในเว้บนี้ที่กระทู้ "สปริงเกอร์ OVER HEAD สับปะรด 300 ไร่ .............. ค้นหาเอาเอง
- ในเว้บนี้ที่กระทู้ "สปริงเกอร์ OVER HEAD ไร่ทานตะวัน พุทธมณฑล " .... ค้นหาเอาเอง

ทุกกระทู้เรื่อง OVER HEAD แนะนำให้เอา "หลักการ" ไปประยุกต์


-------------------------------------------------------------------------------------------------





จาก : (086) 560-24xx
ข้อความ : ขอบคุณสุดๆ ที่สอนให้คิด เกษตรกรไทย "ทำเป็น แต่ คิดไม่เป็น" คิดวางแผนไม่เป็น เป็นความจริงค่ะ
เสียดายเพิ่งฟังรายการได้ 1-3 อาทิตย์นี้เอง.....ถั่วฝักยาว ตอนนี้ราคาแพงมาก แต่ดิฉันเพิ่งปลูก กว่าจะเก็บขาย
ได้คาคงลง จึงอยากขอคำแนะนำจากคุณลุงผู้พันด้วยค่ะ จะแก้ปัญหานี้อย่างไร....ขอบคุณนะคะ มโนรมย์ ชัยนาทค่ะ
ตอบ :
- ตลาดน่ะคุมไม่ได้หรอก ขนาดกระทรวงพานิชมีกฏหมายอยู่ในมือยังคุมไม่ได้เลย ในโลกนี้มีเกษตรกรญี่ปุ่นชาติเดียวที่คุมตลาดได้ ......
เทคโนโลยีที่ยากที่สุด คือ เทคโนโลยีการตลาด ว่ามั้ย....เมื่อคุมตลาดไม่ได้ก็ต้องใช้วิธี "คุมตัวเอง" นั่นคือ

**** ยึดหลัก "เรารักถั่วฝักยาว แต่ถั่วฝักยาวไม่รักเรา...." ว่าแล้วให้ลงผักอย่างอื่น เช่น มะเขือ พริก ฯลฯ ที่ตลาดเดียวกัน เมื่อ
อย่างใดอย่างหนึ่งมีปัญหาพราะราคาไม่ดี ก็ยังมีผักตัวอื่นทดแทน เรียกว่า "ตัวตาย ตัวแทน" ประมาณนี้

**** กะเก็งตลาดล่วงหน้าว่าช่วงไหนอะไรราคาแพงแล้วทำให้ขายได้ตรงกับช่วงที่ราคาแพงๆ ที่เรียกว่า "เกษตรแจ๊คพ็อต" ไงล่ะ.....

**** ทำผลผลิตให้ได้ คุณภาพเกรด เอ. ขนาดจัมโบ้. คนนิยม ก็จะรักษาตลาดได้

**** ควบคุมต้นทุนค่า ปุ๋ย-ฮอร์โมน-สารป้องกันกำจัด/ศัตรูพืช-แรงงาน-อื่นๆ แบบ ซื้อครึ่งหนึ่ง-ทำเองครึ่งหนึ่ง หรือทำเองทั้งหมด
ก็ช่วยเรื่องต้นทุนสูงได้


-------------------------------------------------------------------------------------------------




จาก : (089) 667-25xx
ข้อความ : มะม่วงออกดอก อายุต้น 6 ปี 10 ไร่ เขียวเสวยกับน้ำดอกไม้สีทอง สวนอยู่บ้านบึง ตอนนี้เพลี้ยจั๊กจั่นเข้า
กินดอก แก้ไขยังไงคะ แล้วก็มีราดำเข้าทำลายต่ออีก เสียหายมากคราวนี้ แก้ไขยังไงดีล่ะ.....สาวสวนมะม่วงค่ะ
ตอบ :
เพลี่ยจั๊กจั่น เป็นแมลงปากกัดปากดูด เข้ามาดูดกินน้ำเลี้ยงที่ช่อดอกมะม่วง แล้วถ่ายมูลออกมา เรียกว่า "มูลหวาน" (คงมีรสหวาน)
จะมองเห็นใบมะม่วงเป็นมันวาว ราวกับเอาน้ำมันพืชไปฉีดพ่นใส่ เมื่อไปยืนโคนต้นจะรู้สึกเหมือนมีหยดน้ำเล็กๆหยดใส่ หรือถ้าเอารถ
ไปจอดโคนต้น มูลหวานตัวนี้หยดใส่ สีรถจะเสียหาย

การป้องกัน/กำจัด เพลี้ยจั๊กจั่น ทำได้หลายวิธี เช่น ..... 1) สุมควันไฟโคนต้นช่วงค่ำ ที่ควันไฟอาจจะใส่ยาฉุน หรือสุมนไพรอย่างอื่น
เพื่อให้เกิดกลิ่น.....2) ฉีดพ่นสารสมุนไพรสูตรรวมมิตร ตอนค่ำ ทุกวัน หรือวันเว้นวัน

การป้องกัน/กำจัด ราดำ ทำได้หลายวิธี เช่น ...... 1) ใช้น้ำเปล่าฉีดพ่นทั่วทรงพุ่ม ตอนเย็น เพื่อชะล้างมูลหวานไม่ให้เป็นแหล่งอา
หารของเชื้อราดำ (ทำฝนชะช่อมะม่วง)......2) ฉีดพ่นสารสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์กำจัดเชื้อราโดยเฉพาะ ทุกวันเว้นวัน หรือเริ่ม
มีเพลี้ยจั๊กจั่ปรากฏตัวให้เห็น

หมายเหตุ :
- การฉีดพ่นสารใดๆที่เป็นน้ำ ไม่ควรฉีดพ่นตอนกลางวัน เพราะอาจทำให้เกสรเปียกแล้วผสมไม่ติดไม่
- ไม่ควรฉีพ่นสารเคมียาฆ่าแมลงเด็ดขาด เพราะจะทำให้แมลงธรรมชาติไม่เข้าช่วยผสมเกสร

- ช่วงที่มะม่วงออกดอกแล้วมีฝนตก การติดผลของมะม่วงจะดกดี คนโบราณเรียกว่า "ฝนชะช่อมะม่วง" ซึ่งก็คือ น้ำฝนช่วย
ชะล้างมูลหวานเพลี้ยจั๊กจั่น เป็นการทำความสอาดให้ช่อมะม่วง หลักการนี้ การฉีดพ่นน้ำเปล่าใส่ช่อมะม่วงก็คือ ฝนตก นั่นเอง


-------------------------------------------------------------------------------------------------





จาก : (084) 113-96xx
ข้อความ : มะยงชิด 5 ไร่ ตอนนี้เริ่มออกดอก ขอคำแนะนำในการบำรุงให้ติดเป็นลูกมากๆ อยากใช้ผลิตภัณท์ของลุงคิม
ที่สิงห์บุรี หาซื้อได้ที่ไหนครับ......ขอบคุณครับ
ตอบ :
- ช่วงที่ก้านช่อดอกออกมายาวตั้งแต่ 1 ข้อนิ้วมือ ถึง 1-2 คืบมือ บำรุงด้วย "น้ำ 20 ล. (พีเอช 6.0) + 1:3:1 (1 ชต.) +
TE 1 ชช. + NAA (ชนิด 5% ..... ไม่ ควรใช้ NAA ที่ไม่ระบุเปอร์เซ็นต์) 5 ซีซี. + Ca.Br 20 ซีซี." ทุก 5-7 วัน จะช่วย
ให้การติดผลดก และคุณภาพผลดีขึ้น.

- อากาศหนาวๆแบบนี้ แนะนำให้ "ไบโออิ" บ้างซัก 1-2 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 5-7 วัน เพื่ออาศัย สังกะสี อะมิโน คีเลต ช่วยบำรุงต้น
อีกทางหนึ่ง จะดีกว่าไม่ได้ให้เลย

- ผลิตภัณท์ของลุงคิมไม่มีวางตามเอเย่นต์ มีจำหน่ายเฉพาะที่ "ชมรมฯ" กับที่ "กองคาราวาน" เท่านั้น หลุดจากนี้ก็สั่งซื้อ
ตรงกับลุงคิม.....ของเราขายตรงจาก ผู้ผลิต ถึง ผู้ใช้" ทำให้ราคาถูก เพราะไม่ต้องไปแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้เอเย่นต์ แล้วเอเย่นต์ก็
ไปบวกราคาเอากับคนซื้อ



**** ซื้อทำไม ทำไมไม่ทำเอง สูตรก็อยู่ที่หน้าเว้บแล้ว ..... ทำเอง ทำใช้ ทำขาย ทำให้ดีกว่าของลุงคิม *****

-------------------------------------------------------------------------------------------------




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©