-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 1 NOV
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 1 NOV
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 1 NOV

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 01/11/2011 6:15 am    ชื่อกระทู้: ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 1 NOV ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 1 NOV


**********************************************************

สร้างสรรสังคม....ส่งเสริมคนดี....พัฒนาชีวิต ให้มีคุณภาพ...

กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ทางสถานีวิทยุ พล.ปตอ. เอเอ็ม 594 เวลา 08.10–09.00 และ 20.05-20.30 ทุกวัน

ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ

เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว
ก่อนเริ่มรายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986

*********************************************************


จาก :(085) 698-74xx
ข้อความ : ลุงคิมมีวิธีใดบ้างที่จะช่วยให้ต้นไม้ใหญ่อยู่ทนน้ำท่วมนานๆ ได้บ้างครับ....นครสวรรค์

ตอบ :
หลักการและเหตุผล :
- ระบบรากพืชนอกจากดูดซับสารอาหารจากดินส่งไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆของต้นแล้ว ยังทำหน้าที่หายใจอีกด้วย ช่วงที่น้ำท่วมขังค้างนานและลึกเช่นนี้ เมื่อในดินไม่มีอากาศจึงเป็นเหตุให้ต้นขาดอากาศไปด้วย ..... เคยมีงานวิจัย แก้ปัญหาต้นไม้ขาดอากาศในดินเนื่องจากน้ำท่วมลึก ขังค้างนานแบบนี้ โดยการ "ปั๊มอากาศ" ลงไปในดิน ด้วยการใช้ท่อเหล็กแทงลงไปในเนื้อดินลึก 30-50 ซม. ทุกระยะ 1-2 ม. กระจายทั่วบริเวณทรงพุ่ม ไม้ผล 1 ต้น เส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม 10 ม. ใช้ 5 หัว งานวิจัยครั้งนั้น ทดลองกับไม้ประมาณ 5 ต้น ซึ่งวิธีเติมอากาศลงไปในดินเช่นนี้สามารถรักษาชีวิตของไม้ต้นนั้นให้รอดได้ ..... แต่ในทางปฏิบัติจริง ไม่สามารถทำได้ เพราะแต่ละสวนมีไม้ผลมากกว่า 100 ต้น

- พืชทุกชนิดรับสารอาหารได้ 2 ทาง คือ ปากใบ กับ ปลายราก เมื่อต้นไม่ได้รับสารอาหารจากระบบราก ก็จะรับทางใบแทน (ถ้ามี)

แนวทางปฏิบัคิ :
ให้ทางใบด้วย "แม็กเนเซียม + สังกะสี + น้ำตาลทางด่วน" สลับกับ "แคลเซียม โบรอน + น้ำตาลทางด่วน" แต่ละอย่างห่างกันครั้งละ 3-5 วัน

หมายเหตุ :
เนื่องจากสังกะสี. กับ โบรอน. เป็นสารอาหารที่ส่งเสริมการออกดอกของไม้ผล (รศ.ดร.สุมิตรา ภู่วโรดม/สจล.) ช่วงที่ต้นไม้ผลถูกน้ำท่วมเช่นนี้ ต้นย่อมเกิดอาการเครียด (KENT) พร้อมสำหรับการออกดอก บางทีไม้ผลต้นนั้นอาจจะออกดอกท่ามกลางน้ำท่วม หรือออกหลังน้ำท่วมก็ได้ หรือหลังน้ำลดแล้วได้รับสารอาหารสูตรเปิดตาดอกเพียงเล็กน้อยก็ออกดอกได้

----------------------------------------------------------


จาก : (081) 468-71xx
ข้อความ : ขอเบอร์โทรดาบสุชิน จะคุยเรื่องทุเรียนก้านยาว กก.ละ 500 ทุเรียนไทรโยคจะมีโอกาสไหมค่ะ....จาก ไทรโยกเยกค่ะ

ตอบ :
อย่าโทรไปรบกวนเขาเลย ทุกครั้งที่ออกอากาศเบอร์โทรไป หรือแม้แต่บอกที่นี่ก็ไม่แน่ใจนัก เข้าของเบอร์โทรไม่เป็นอันทำการทำงาน ต้องรับโทรศัพท์กันทั้งวัน หลายๆวัน บางรายโทรไปพูดง่ายเข้าใจง่ายเพราะมีพื้นฐานอยู่บ้าง บางรายพูดยากเข้าใจยากเพราะไม่มีพื้นฐานเลย บางรายหาว่าเป็นหน้าม้า บางรายหาว่าโม้ ก็มี

เคยมีนะ เจ้าของเบอร์โทรที่เพชบูรณ์ ปลูกผักญี่ปุ่นส่งญี่ปุ่นโดยเฉพาะ แต่ละคนโทรไป บอกว่า ไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้ ถ้ามันปลูกได้จริงคงปลูกกันทั่วประเทศไปแล้ว เจ้าของเบอร์โทรก็ว่า ถ้าไม่เชื่อก็มาดู กับอีกสาระพัดคำถาม แหน่มแน้ม-แอ๊บแบ๊ว แต่ลุงคิมว่าเป็นคำถาม "SHUT IN" ซะมากกว่า สุดท้ายเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ต้องทิ้งเบอร์นั้นไปแล้วซื้อใหม่ บอก เสียอารมย์

ถ้าจะเอาวิธีการที่ ดต.ทำ ลุงคิมบอกให้ก็ได้....
ทางใบ : "น้ำ 100 ล.+ ไบโออิ 100-150 ซีซี.+ กลูโคส 100 ซีซี." สลับกับ "น้ำ 100 ล.+ แคลเซียม โบรอน 100-150 ซีซี.+ กลูโคส 100 ซีซี." อย่างละ เว้น 3 วันขึ้นวันที่ 4 ให้ จนกว่าน้ำจะลงสู่ปกติ......เท่านี้แหละ

หมายเหตุ :
- ในไบโออิ.มี แม็กเนเซียม + สังกะสี + ฮิวมิก + ธาตุรอง/ธาตุเสริม ในแคลเซียม โบรอน.มีแคลเซียม. โบรอน. กับ อะมิโนโปรตีน.ทุกตัวนอกจากตรงตามหลักวิชาการแล้ว ยังตรงกับความต้องการจริงตามสภาวะของพืชด้วย
- ถ้ากลูโคสน้ำไม่มี ใช้กลูโคสผงสำหรับคน ยี่ห้อ "กลูโคลิน" แทนก็ได้ อัตราใช้ 100 กรัม/น้ำ 100 ล.

สิ่งหนึ่งที่ ดต.สุชินฯ ประพฤติอยู่เสมอ ตั้งแต่เริ่มฤดูกาลผลิต - เก็บเกี่ยว - จำน่าย รุ่นปีที่แล้ว เก็บเกี่ยวแล้ว ฟื้นฟูสภาพต้นเรียกความสมบูรณ์กลับคืนมา คือ "รายงานผลคืบหน้า + สอบถามการปฏิบัติต่อไป" สม่ำเสมอ ทุกระยะ ไม่เคยขาด

ยิ่งถาม ยิ่งได้คำตอบ...........................ยิ่งได้คำตอบ ยิ่งรู้จักทุเรียน
ยิ่งรู้จักทุเรียน ยิ่งอยากรู้มังคุด.................วันนี้ยิ่งรู้ ยิ่งสะใจ

ยอมรับทฤษฎี "บำรุงทุเรียนตามใจทุเรียน" อย่างไม่มีเงื่อนไข....นัยว่า
ปุ๋ยถูกต้อง + ใช้ไม่ถูกต้อง = ไม่ได้ผล
ปุ๋ยไม่ถูกต้อง + ใช้ถูกต้อง = ไม่ได้ผล

ปุ๋ยไม่ถูกต้อง + ใช้ไม่ถูกต้อง = ไม่ได้ผล (ยกกำลัง 2)
ปู๋ยถูกต้อง + ใช้ถูกต้อง = ได้ผล (ยกกำลัง 2)

ก้านยาวนนทบุรีของ ดต. เคยได้ผลผลิตต้นละ 10-20 ลูก บอกว่า "บุญโข" แล้ว พอเปลี่ยนแนวมาทำตามที่ลุงคิมบอก แค่เริ่มต้นเท่านั้น รุ่นที่แล้ว ก้านยาวให้ผลผลผลิต 102 ลูกต่อต้น

คำแนะนำสำหรับคุณไทรโยกเยก....
ทุเรียน คือ ทุเรียน ต่างกันก็แต่ "ดิน กับ อากาศ" เท่านั้น เรื่องนี้แก้ไขได้...

ปัญหาดิน.....ดินทุเรียนนนทบุรี เป็นดินประเภท "น้ำไหลทรายมูล" อินทรีย์วัตถุสาระพัดมากับน้ำเจ้าพระยา ทับถมต่อกันมานานนับ 100 - 1,000 - 10,000 ปี หรือ 1,000,000 ปี ก็อาจเป็นได้

แก้ไขโดย....
ใส่อินทรีย์วัตถุ เศษซากสารพัดพืช + เศษซากสัตว์ 10 : 1 โดยใส่ลงไปในดินลึก ยิ่งลึกยิ่งดี (อินทรีย์วัตถุในดินนนท์ ลึก 3-5 ม./ลุงคิมเห็นกับตามาแล้ว) เสริมด้วยจุลินทรีย์ประเภทไม่ต้องการอากาศสำหรับดินลึก และจุลินทรีย์ประเภทต้องการอากาศสำหรับดินตื้น

ปัญหาอากาศ....น่าจะหมายถึง "อุณหภูมิ" ที่มีผลต่อพัฒนาการของต้นทุเรียนไทรโยค กับนนทบุรี

แก้ไขโดย....
- ให้สารอาหารครบสูตร (หลัก/รอง/เสริม/ฮอร์โมน/วิตามิน และอื่นๆ) โดยเน้น โปแตสเซียม. สังกะสี. แคลเซียม. อะมิโนโปรตีน. อย่างสม่ำเสมอ ทั้งทางใบและทางราก
- บำรุงต้นแบบ "ความสมบูรณ์สะสม" สลับหรือคู่กับสูตรบำรุงตามระยะ
- สารอาหารกลุ่มที่ทำให้คุณภาพ (รส กลิ่น เนื้อ น้ำหนัก สี) ของผลผลิตดี คือ "ธาตุรอง/ธาตุเสริม" นั่นหมายความว่า ทุเรียนไทรโยค ก็มีโอกาสเหมือนทุเรียนนท์ได้

หมายเหตุ :
เทคนิคการติด "สปริงเกอร์ + หม้อปุ๋ย" แบบประจำเฉพาะต้น ต้นไหนต้นนั้น โดยว่า ทุเรียนต้นนี้ถึงระยะ ต้องบำรุงด้วยปุ๋ยสูตรไหนก็ให้เฉพาะต้นนี้ ก็จะช่วยให้ได้ผลผลิต 100% แต่ละต้น ทุกต้น รวมทั้งสวน คือ 100% เป็นการลงทุนที่คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ติดตั้งครั้งเดียว ใช้งานได้ 10-20 ปี ประหยัดเวลา ประหยัดแรงงาน ประหยัดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ-ประสิทธิผลของเนื้องาน

อย่าลืม ! "..... ของอะไรดีหรือไม่ดี ในยุคนี้ต้องโฆษณา ....." (เพลง สังข์ทอง สีใส..)


------------------------------------------------------------------

จาก : (083) 563-78xx
ข้อความ : ตอนนี้น้ำลงแล้ว คงไม่มาอีกแน่ จะปลูกผักอายุสั้น ถามลุงคิมว่า เราต้องไถดินตากแดดก่อนหรือไม่

ตอบ :
ดีมากๆ ถ้าทำได้ และได้ทำ ดินต้องมาก่อน ดินต้องมาก่อน และดินต้องมาก่อน ดินดีเท่ากับสำเร็จแล้วกว่าครึ่ง ทำเถอะ ไม่ใช่ดีเฉพาะรุ่นนี้ แต่จะดีต่อไปถึงรุ่นหน้า รุ่นต่อๆไป ดียาว ดีอย่างยั่งยืน ดีมั่นคง ดีถาวร ดีอมตะนิรันดร์กาล

1. ไถดินเปล่า ให้ได้ขี้ไถก้อนใหญ่ๆ ตากแดดจัด 10-15 แดด ให้เนื้อดินแห้งสนิท แบบนี้นอกจากช่วยกำจัดเชื้อโรคแล้ว ยังช่วยให้ดินร่วนซุยดีอีกด้วย

2. ไถพรวนครั้งที่ 1 แล้วใส่ "แกลบดิบ-ขี้วัว-ขี้ไก่-ยิบซั่ม-กระดูกป่น" หว่านให้ทั่วแปลง แล้วไถพรวนครั้งที่ 2 คลุกเคล้าบรรดาอินทรีย์วัตถุที่ใส่ลงไปให้คลุกเคล้าเข้ากันดีกับเนื้อดิน

3. คลุมแปลงด้วยหญ้าแห้ง หรือฟาง หนาๆ ให้ทั่วแปลง รดด้วย น้ำ + ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง (3-5 ล./ไร่) + 30-10-10 (3-5 กก./ไร่) ราดรดทับฟางหรือหญ้าคลุมแปลงให้เปียกโชกลงถึงพื้น

4. เสร็จ #3 แล้ว ทิ้งไว้ 10-15 วัน เพื่อเป็นการ "บ่มดิน" เปิดโอกาสให้เวลาจุลินทรีย์จากน้ำหมักระเบิดเถิดเทิงได้ทำงาน ช่วงระหว่างบ่มดินนี้ ถ้ามีการเติมเพิ่ม "จุลินทรีย์หน่อกล้วย" 2-3 ล./ไร่ ซัก 1 ครั้ง ก็จะช่วยทั้งเสริมจุลินทรีย์เดิม กับเพิ่มจุลินทรีย์ใหม่ ส่งผลให้ดินดี มีสารอาหาร พร้อมสำหรับการปลูกพืช

5. เริ่มปลูก

หมายเหตุ (1) :
- ระหว่างเตรียมดินตั้งแต่เริ่มต้น ถ้ามีวัชพืช (เมล็ดมากับขี้วัว) ให้ถอนทิ้ง ไม่ควรใช้ยาฆ่าหญ้าเด็ดขาด

- สารอาหารพืชในน้ำหมักสูตระเบิดเถิดเทิง ประเภทสารอินทรีย์ ได้แก่
*** แม็กเนเซียม.-สังกะสี-แมงกานิส-ทองแดง-โซเดียม-โปรตีน-โอเมก้า-ฟลาโวนอยด์-ควินนอยด์-โพลิตินอล-ท็อกซิก ...... จากปลาทะเล

*** เหล็ก-ไนโตรเจน-ไซโตไคนิน-......จากเลือด
*** แคลเซียม-แม็กเนเซียม-โปรตีน-ฟอสเฟต.......จากนม
*** แคลเซียม-แม็กเนเซียม-ฟอสเฟต-ไซโตไคนิน......จากน้ำมะพร้าว
*** ฟอสเฟต......จากขี้ค้างคาว
*** จุลินทรีย์ กลุ่มต้องการอากาศ และกลุ่มไม่ต้องการอากาศ
*** สารอาหารจากกากน้ำตาล
*** สารอาหารจากฮิวมิก

- สารอาหารพืชในน้ำหมักสูตระเบิดเถิดเทิง ประเภทสารสังเคราะห์ (เคมี) ได้แก่
*** 30-10-10, แม็กเนเซียม, สังกะสี, ธาตุรอง/ธาตุเสริม, บี-1, อะมิโนโปรตีน, เอ็นเอเอ.

หมายเหตุ (2) :
- ในปุ๋ยน้ำชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง มีสารอาหารพืชทั้งอินทรีย์. และเคมี. ครบถ้วน (เน้นย้ำ....ครบถ้วน) จุลินทรีย์ และอื่นๆ สมบูรณ์แบบ เพียงพอต่อพืชอายุสั้น ฤดูกาลเดียว อย่างผักสวนครัวแล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเคมีทางรากอีก

- การให้เสริมทางใบด้วย "ไบโออิ - ยูเรก้า - แคลเซียม โบรอน" ซึ่งเป็นปุ๋ยเคมีชนิดน้ำ ประเภทให้ทางใบ จึงเท่ากับเป็นการให้ปุ๋ยอีกทางหนึ่งแล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเคมีทางรากอีก

----------------------------------------------------------------




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©