ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
|
ตอบ: 28/08/2011 4:49 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
จาก : kimzagass
ถึง : ImmortaL
โดยหลักการแล้ว ฮอร์โมนไข่สูตรที่ลุงคิมแนะนำ ไม่น่าจะเหมาะกับยางพารานะ เพราะมันเป็นสูตร "สะสมตาดอก และ เปิดตาดอก" หรือคุณต้องการให้ยางพาราออกดอกล่ะ ก็ไม่แน่ใจอีกนั่นแหละว่า ใช้กับยางพาราแล้วจะออกดอกไหม
ส่วนผสมหลักในฮอร์โมนไข่สูตรไทเป คือ "13-0-46 + 0-52-34 + สาหร่ายทะเล + อื่นๆเสริมการออกดอก" ประมาณนี้
ประสบการณ์ตรง :
- ยางพาราระยะต้นเล็ก ยังไม่เปิดกรีด....น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 + ฯลฯ
- ยางพาราต้นโตเปิดกรีดแล้ว....น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 21-7-14 + ฯลฯ
(..... สูตรอยู่ที่หน้าเว้บ ทำเองซี่ .....)
วันนี้ (28 ส.ค.) คุณนิพันธ์ สัญญารัตน์ ท่าใหม่ จันทบุรี (081) 781-9654 มารับน้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 100 ล. ที่ชมรมสีสันชีวิตไทย สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 ไปใช้กับยางพาราระยะต้นเล็ก มารับครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว...ยางพรารา อายุต้นเท่ากับแปลงข้างบ้าน แต่โตมากกว่า 2-3 เท่า |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
|
ตอบ: 28/08/2011 7:07 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ยาง 10 เดือน ออกดอก
สวนผมอยู่ที่อุตรดิตถ์ เดือนนี้ (มีนา) มีฝนตกมา 2 ครั้ง แปลงที่ปลูกใหม่อายุ 10เดือน พอได้น้ำฝนก็แตกยอดใหม่พุ่งจู๊ดๆตัดแต่งยอดแทบไม่ทันเลย แต่ยอดที่แตกใหม่มีช่อดอกออกมาด้วยอย่างในรูป แต่ไม่ทุกต้นนะครับ ไม่ทราบว่าการออกดอกของยางเล็กๆ มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ผมก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะมีกล้ายางตาสอยปนมาหรือเปล่า (แต่สวนที่ผมซื้อต้นกล้ามา ก็ดูน่าเชื่อถือ มีแปลงกิ่งตาเป็นของตัวเองด้วย) หรือจะเป็นเพราะสภาพอากาศ สวนของท่านอื่นเป็นไงบ้างครับ
เพิ่มข้อมูลอีกนิด แปลงที่อายุ 2 ปี ก็ออกดอกแต่ไม่ทุกต้น แปลงที่อายุ 3 ปี ออกดอกแทบทุกต้น สพรั่งเลยครับ
อาการที่พบคือ ยางจะเริ่มออกดอกเมื่ออายุ 6 เดือน จนถึง 3 ปี อาจจะมาจาก 2สาเหตุ
สาเหตุที่ 1. เป็นกล้ายางตาสอย ที่มาจากการเอาตาจากต้นแก่กิ่งแก่มาติด
สาเหตุที่ 2. อาจเป็นเพราะสภาพอากาศที่ร้อนเลยส่งผลให้ยางเร่งออกดอกเร็วกว่ากำหนด (ซึ่งยังไม่มีข้อยืนยันที่แน่ชัดจาก สกย.)
ความเสียหาย - ยางพาราตาย ยางพาราไม่โต เสี่ยงต่อการเกิดโรค และอาจได้น้ำยางคุณภาพไม่ดี
มึนตึบ....ไปไม่เป็นเลย สวนของท่านใด พบอาการออกดอกบ้างไหมครับ แล้วแก้ไขอย่างไร จะปล่อยให้โตเสียค่าตัดหญ้าใส่ปุ๋ยไปเรื่อยๆแล้วเสี่ยงเอากับอนาคต
หรือโค่นออกให้หมดแล้วหาต้นกล้าตาแท้ๆมาลงปลูกใหม่ดีครับ
ใจเย็นๆครับคุณนพดล เดี๋ยวลองถามพรรคพวกให้แน่อีกที เมื่อ 7 ปีก่อน ก็มีปลูกตาสอยกันเยอะมีญาติบางคนปลูกที่นครพนมโดนไปเยอะเหมือนกัน ต้น 2-3 ปี นี่แหละออกดอกกันใหญ่เลย ตอนนี้เห็นกรีดกันได้แล้วไม่เห้นเสียหายอะไร แต่ถ้าไม่ชอบใจจริงๆจะติดตาพันธุ์ดีๆแทนก็ได้นี่ครับดีกว่าเริ่มต้นใหม่ แต่ถ้าเป็นผมคงไม่ทำอะไร เค้าก็น่าจะโตได้ปกติแหละครับ แถวอุตรดิตถ์ โปแตซเยอะอาจจะไปเร่งดอกได้หรือเปล่าไม่รู้ ลองเทสดินดูครับจะได้ลดปุ๋ยสูตรที่มีโปแตซลงน่าจะช่วยได้ ที่ทองแสนขันผมเทสแล้วโปแตซสูงจริงครับ เวลาแต่งกิ่งก็ควรเอาช่อดอกออกน๊ะครับเดี๋ยวเค้าติดลูกจะดูแล้วปวดหัวใจกว่านี้ ทุกข์เกิดจากความไม่แน่ใจแหละครับผมว่าไม่น่าห่วงยางยังโตปกติสบายใจน๊ะครับ จะลองถามคนที่เค้าเคยเจอให้ชัดๆอีกที รอดูซะ 1 ปี เห็นเค้าโตดีก็จะเลิกกังวลเองแหละครับ มีดอกไม่มีดอกไม่ต้องสนใจ ขอให้มีส่วนลำต้นที่จะกรีดยางได้สูงเกินเมตรแปดสิบ โอ.เค. แล้วครับ กรีดยางได้แน่
ช่วงวันที่ 16-17 มีฝนตกต่อเนื่องและอุณภูมิลดลงถึง 10 องศา ช่วง 2 วันนั้น อากาศหนาวมากกว่าหน้าหนาวปกติ ก็สังเกตุเหมือนกันว่าผลไม้ และไม้ป่ายืนต้นอื่นๆในบริเวณบ้านหรือตามริมถนนมันก็พากันออกดอกสะพรั่งเหมือนกันครับ
ถ้าเป็นความบังเอิญที่ผมซื้อต้นกล้ายางมาจาก 3 แหล่ง ปลูก 3 รุ่น ต่างรุ่นต่างอายุ แล้วต้นกล้ามียางยางตาสอยติดปนมาด้วยทั้ง 3 รุ่น แม้นว่าต้นกล้านั้นซื้อมาจากแปลงที่ดูน่าเชื่อถือ ก็ถือเป็นบทเรียนในการเลือกซื้อกล้ายางในครั้งต่อไปเลยครับ
ขอบคุณคุณหมอนะครับ ผมก็เคยได้ยินโครงการยางล้านไร่ในปี 47-49 ที่มีการปลอมปนกล้ายางตาสอย แต่ไม่ได้มีการติดตามผลว่าต้นยางเหล่านั้นปัจจุบันเป็นอย่างไร เห็นสวนใหญ่ๆของคุณพาราพะเยาก็บอกว่าออกดอกแยอะแต่ไม่เห็นบ่นเดือดร้อนอะไร ถ้างั้นสวนผมก็ถือว่าเป็นเศษส่วนน้อยของปัญหาล่ะครับ สวนผมถ้าไม่นับส่วนที่ยืนต้นตายไปเมื่อปีที่แล้ว ที่รอดมาก็โตปกติดี ลำต้นตามเกณฑ์ กลับไปเริ่มต้นปลูกใหม่ก็ไม่ไหวแล้ว ผมก็จะไม่เอาออกล่ะครับ ดูแลให้โตต่อไป แต่งยอดก็เอาช่องดอกด้วยแล้วครับ แต่ที่รุ่น 2-3 ปี มันก็ออกดอกแยอะอยู่ คุยกับคุณคลูเฮนด์ก็บอกให้ผมสอยออกให้หมด งานนี้บิ๊กจ็อบเลย ดินก็ยังไม่เคยเทสต์เลยคงต้องจัดให้เร็วๆนี้แหละครับ ตอนนี้ก็ใช่ปุ๋ยสูตรตามคุณคลูเฮนด์ 25-7-7 ตัวหลังต่ำๆ
เรื่องการจัดตั้งกลุ่มผู้ปลูกยางภาคเหนือก็น่าสนใจนะครับ ไม่ทราบว่าทางภาคใต้มีการจัดตั้งกลุ่มในรูปแบบใด เผื่อได้เอามาเป็นแนวทาง แล้วกลุ่มที่จัดตั้งมีอำนาจในต่อรองได้จริงๆจังๆไหมครับ
คลิกไปดูรูปดอกยางพารา...
http://www.live-rubber.com/rubberforum/viewtopic.php?f=2&t=1076
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 28/08/2011 8:02 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
|
ตอบ: 28/08/2011 7:14 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ช่วยที...ยางพาราออกดอก
ยางพาราอายุ 2 ปี ใสปุ๋ยสูตร 20-10-5 ออกดอกประมาณเดือน ก.พ 50 จะทำให้มีปัญหา หรือผลเสียอย่างไรบ้าง
ยางออกดอกเขตปลูกยางเดิมในภาคใต้ ส่วนใหญ่เกิดจากความมักง่ายของคนติดตาที่ไม่มีความรับผิดชอบ เน้นแต่ปริมาณ ไม่ได้คำนึงถึงคุณภาพ คือ ไปสอยตาเอามาจากต้นที่ไม่ได้เลี้ยงเป็นต้นแม่พันธุ์ เมื่อปลูกไปแล้วอายุประมาณ หนึ่งปีครึ่ง ถึง สองปี จะออกดอก เรียกว่ายางตาสอย ถ้าปลูกไว้ต่อไปการเจริญเติบโตได้ช้ากว่าต้นอื่นๆ ต้นเล็กเคระแกรนไม่สมบูรณ์ ให้ผลผลิตน้อยทั้งน้ำยางและเนื้อไม้ในอนาคต
แนวทางแก้ไข ควรขุดถอนทิ้งต้นที่เล็กแคระแกรน แล้วหายางชำถุง 2-3 ฉัตรจากแปลงที่มีใบรับรองพันธุ์จากกรมวิชาการเกษตร มาปลูกซ่อมต้นฤดูฝนนี้ ส่วนเขตปลูกยางใหม่แถวภาคเหนือและภาคอีสานยางออกดอกเมื่ออายุ 2-3 ปี น่าจะเกิดจากสภาพทางภูมิศาตร์ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ปริมาณน้ำฝนมีน้อยกว่าทางภาคใต้ ฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานานบวกกับสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ส่วนปุ๋ยยางก่อนเปิดกรีด เขตปลูกยางเดิมสูตร 20-8-20 เขตปลูกยางใหม่สูตร 20-10-12 ครับ
http://www.reothai.co.th/webboard/question.asp?QID=702 |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
|
ตอบ: 29/08/2011 7:10 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ข้อแตกต่างของ ยางตาเขียว กับ ยางตาสอย
ข้อ1.
ถ้าเป็นยาง "ตาเขียว" ตอบได้เลยครับว่า สังเกตุไม่ได้เลย แต่ถ้าเป็นยางชำถุง 1-2 ฉัตร พอจะดูลักษณะต้นได้บ้างแต่ไม่แน่นอนเสมอไป ถ้าต้นยางที่มียอดอวบโต ยอดตั้งตรง แข็งแรง สมบูรณ์ กิ่งพันธุ์มีขนาดโตสม่ำเสมอกันดี แสดงว่า น่าจะบอกได้ว่า เป็นตาที่ได้จากแปลงกิ่งตาพันธุ์ดี แต่ถ้าเป็นต้นที่มีกิ่งที่มีขนาดเล็กไม่อวบโต สมบูรณ์ แข็งแรง ไม่ตั้งตรง น่าจะพอจะสันนิฐานได้ว่าเป็นต้นยางที่มาจากกิ่งยางตาสอย
แต่การสั่งซื้อยางจำนวนมากจากแปลงที่อื่นๆ ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่ถ้าให้ดีควรซื้อจากแหล่งที่มีหนังสือรับรองพันธุ์ยางที่ออกโดยอธิบดีกรมวิชาการเกษตรโดยตรง ไม่ซื้อยางเร่ขายที่มีอยู่ทั่วไปในพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน หรือไปดูแปลงยางก่อนตัดสินใจสั่งซื้อ ก็จะเป็นข้อตัดสินใจได้ระดับหนึ่งครับ
ข้อ2.
ยาง ตาสอย หมายถึง ตายางพาราที่ได้จากการตัดหรือสอยเอามาจากยางต้นใหญ่ แล้วนำไปติดตากับต้นกล้ายางเพื่อผลิตยางชำถุง เนื่องจากกิ่งตายางที่เหมาะสมสำหรับติดตายางซึ่งได้จาก แปลงกิ่งตายาง ไม่มีหรือขาดแคลน
ต้นยางชำถุง ที่เกิดจากยางตาสอย ในช่วงที่เป็นต้นขนาด 12 ฉัตร ยากที่จะบอกความแตกต่างกับต้นยางชำถุง ซึ่งเกิดจากตาที่ได้จากแปลงกิ่งตาได้อย่างชัดเจน จะรู้ก็ต่อเมื่อปลูกไปแล้วประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี
เนื่องจากต้นยางที่ได้จากยางตาสอย ส่วนใหญ่จะเจริญเติบโตช้า โตไม่ทันเพื่อน บางต้นลำต้นจะผอมบางและสูงชะลูด การเจริญเติบโตทางด้านข้างของลำต้นช้า เปลือกยางจะบาง บางต้นอาจออกดอกเมื่อกระทบแล้งนานๆ ทั้งนี้เพราะตาสอยส่วนใหญ่เป็นตาที่อยู่ในสภาพไม่พร้อมที่จะเจริญเติบโตเป็นต้นยาง
- สำหรับกรณีสวนยางของคุณนัน ซึ่งสูงร่วม 3 เมตร แล้วออกดอก อาจมิใช่ต้นยางที่ได้จากยางตาสอยก็ได้ อาจเป็นต้นยางที่ได้จากตาปกติ แต่กระทบแล้งเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าแห้งแล้งผิดปกติ จึงทำให้ต้นยางนั้นผลัดใบและออกดอกก็เป็นได้ (ตามปกติยางอายุ 1-2 ปี จะไม่ผลัดใบและออกดอก) ขอให้หมั่นสังเกตดูว่าอัตราการเจริญเติบโตของต้นยางเหล่านั้น ทั้งทางด้านความสูง และทางด้านความอ้วนของลำต้นใกล้เคียงกับต้นยางที่ไม่ออกดอกหรือไม่ ถ้าโตใกล้เคียงกันและไม่มีอะไรแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ก็น่าจะสบายใจได้ ว่าไม่ใช่ต้นยางที่เกิดจากยางตาสอย
- วิธีการหลีกเลี่ยงยางตาสอย คือ เลือกซื้อต้นพันธุ์ยางจากแหล่งจำหน่ายพันธุ์ยางที่เชื่อถือได้ โดยซื้อเฉพาะต้นพันธุ์ยางที่ได้มาตรฐานเท่านั้น ซึ่งต้นพันธุ์ยางชำถุงที่ได้มาตรฐานมีลักษณะดังนี้
1. เป็นต้นพันธุ์ติดตาที่สมบูรณ์ เจริญเติบโตในถุงพลาสติกที่มีคุณภาพดี ไม่ฉีกขาดหรือหักกลาง มีขนาด 1 ฉัตรขึ้นไป แต่ไม่เกิน 2 ฉัตร ฉัตรยอดแก่เต็มที่
2. ขนาดเส้นรอบวงของยางชำถุง วัดตรงบริเวณรอยติดตา ไม่ต่ำกว่า 4 ซม. แต่ไม่เกิน 8 ซม. หรือเส้นผ่านศูนย์กลาง วัดตรงบริเวณเดียวกันไม่ต่ำกว่า 1.2 ซม. ไม่เกิน 2.5 ซม. ความสูงของต้นยางวัดจากกึ่งกลางรอยติดตาถึงปลายยอด ไม่ต่ำกว่า 25 ซม.
3. สภาพของต้นและใบยาง ต้องสมบูรณ์ และแข็งแรง ปราศจากการขาดธาตุอาหาร หรือการทำลายของโรคและแมลง
4. ดินที่ใช้บรรจุถุง ต้องมีลักษณะค่อนข้างเหนียว บรรจุอยู่เต็มถุงหรือต่ำจากปากถุงไม่เกิน 1 นิ้ว
5. เป็นต้นพันธุ์ยางที่มีลักษณะตรงตามพันธุ์ และเป็นพันธุ์ยางตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร
หมายเหตุ
ข้อ 1. ข้อมูลจากทีมงานสวนยางพาราพังงา
ข้อ 2. ข้อมูลของคุณชวลิต ตอบในเว็บยางพาราดอตคอม
(ต้องขออภัยและขออนุญาติที่นำมาข้อมูลมาประกอบการใช้โดยไม่อนุญาติ แต่เพื่อเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกรและผู้ที่อยากรู้ทุกท่านหวังว่าคงจะไม่ว่าถือโทษนะครับ )
ขอบคุณครับ
http://www.reothai.co.th/webboard/question.asp?QID=136 |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
|
ตอบ: 29/08/2011 7:14 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ยางตาเขียว VS ยางตาสอย
ข้อควรระวังในการสั่งซื้อยางพาราการ ซื้อกล้ายางตาเขียวและยางชำถุงราคาถูก เพื่อที่ชาวสวนต้องการลดต้นทุน แต่ไม่คำนึงถึงว่าต้นกล้าที่ได้รับนั้น บางครั้งเจอ ยางตาสอยที่พบเห็นโดยทั่วไป พอชาวสวนปลูกยางไปแล้ว 6 เดือนถึง 2 ปี ต้นยางก็จะออกดอก ถ้าต้นยางออกดอกแล้ว ส่วนใหญ่ต้นจะไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควร ไม่สมบรูณ์ทั้งต้นตอและตาพันธุ์ โอกาสที่ต้นยางจะไม่โตและไม่สมบูรณ์ จากที่ชาวสวนยางรายใหม่ ประสบพบมาหลายราย แต่ถ้าชาวสวนยางพารามั่นใจเราจะซื้อต้นกล้ายางพาราที่ไหนก็ได้ แต่ถ้าให้มั่นใจและไม่เห็นข้อแตกต่างเฉพาะเรื่องราคาที่นั่นทำไมถูกของที่ นี่ทำไมแพง เพื่อลดต้นของชาวสวนยาง ชาวสวนยางพาราจะรู้ดีว่าผลเสียหายมันมากมายเสียทั่งเวลาเสียทั้งเงิน
โปรดระวัง
ช่วง นี้เป็นช่วงที่กิ่งตาพันธุ์กล้ายางพาราขาดแคลน ไม่พอกับต้นตอที่จะติด และไม่พอกับชาวสวนยางทางภาคเหนือและอีสาน พร้อมทั้งกิ่งตาพันธุ์ไม่พอ จึงเกิดแปลงติดตาพันธุ์ที่ไม่มีคุณภาพเกิดขึ้น ได้ปลูกต้นตอกล้ายาง และก็เอากิ่งตาที่ติดกับต้นตอเดิมเพื่อให้รู้ว่าเป็นการติดตากิ่งพันธุ์ เพื่อให้ได้เป็นยางตาเขียว เพื่อจำหน่ายแก่เกษตรกรชาวสวนยางพารา ซึ่งการกระทำทำให้ ต้นกล้ายางไม่มีคุณภาพ ทำให้การเจริญเติบโตช้าและได้ต้นกล้าที่ไม่มีคุณภาพ โปรดให้ชาวสวนยางโปรดระวังด้วยครับ ควรหาแหล่งที่เชื่อใจได้เท่านั้น
ส่วนการทำกล้ายางตาสอย คือ การไปสอยกิ่งพันธุ์จากต้นยางขนาดใหญ่ โดยเฉพาะต้นยางที่มีการเปิดหน้ายางกรีดแล้วถือว่ายิ่งจะทำให้คุณภาพต่ำลง ผู้ประกอบการมักไม่ค่อยมีแปลงเพาะเป็นของตัวเอง ส่วนใหญ่จะไปขอเช่าสวนยางชาวบ้าน และมีแม้กระทั่งพวกมือใหม่สอยเอาจากที่อื่นๆ ซึ่งมี 4 วิธี ได้แก่
1. ไปเช่าสวนชาวบ้านแล้วเอาต้นยางที่กรีดแล้ว รอนกิ่งให้แตกกิ่งใหม่เพื่อนำไปติดตา จะเห็นว่าต้นยางจะมีขนาดใหญ่และสูงชะลูด
2. ตามข้างสวนชาวบ้านโดยเฉพาะตามแนวเสาไฟฟ้าจะมีการตัดกิ่งยาง ทำกิ่งตาสอย แบบนี้ก็คือไปหาเก็บกิ่งที่แตกใหม่มาติดตา
3. ใช้สวนยางที่มีการกรีดแล้ว ใส่ปุ่ยเร่งให้เกิดการแตกยอดใหม่เพื่อนำไปติดตา และ
4. เพาะต้นกล้ายางจากเมล็ดเพื่อทำเป็นตอสำหรับติดตา เมื่อต้นโตได้ขนาดแล้วก็ตัดเอากิ่งยอดของต้นตอนั้นมาติดตากับต้นตอตัวเอง
ใน ทางวิชาการแล้ววิธีการทำกิ่งตาสอยแบบที่ 4 นั่นหนักหนาสาหัสสุดๆ เพราะแทบไม่ต้องไปลงทุนอะไรเลย ที่ตัดกิ่งของต้นตอแล้วไปทาบกับต้น ตัวเองก็เพื่อให้มีสภาพที่จะพร้อมขายเท่านั้น น้ำยางจากกล้ายางแบบนี้จะได้น้อยมากๆ เลย ขณะที่กล้ายางตาสอยแบบอื่นๆ ยังประมาณการได้ว่าปริมาณน้ำยางที่จะให้น่าจะลดลงเพียงประมาณ 30% เท่านั้น
ยางตาเขียว VS. ยางตาสอย
ถ้าเป็นยางตาเขียว ตอบ ได้เลยครับว่าสังเกตุไม่ได้เลย แต่ถ้าเป็นยางชำถุง 1-2 ฉัตร พอจะดูลักษณะต้นได้บ้างแต่ไม่แน่นอนเสมอไป ถ้าต้นยางที่มียอดอวบโต ยอดตั้งตรงแข็งแรงสมบูรณ์ กิ่งพันธุ์มีขนาดโตสม่ำเสมอกันดี แสดงว่าน่าจะบอกได้ว่า เป็นตาที่ได้จากแปลงกิ่งตาพันธุ์ดี แต่ถ้าเป็นต้นที่มีกิ่งที่มีขนาดเล็กไม่อวบโตสมบูรณ์แข็งแรง ไม่ตั้งตรง น่าจะพอจะสันนิฐานได้ว่าเป็นต้นยางที่มาจากกิ่งยางตาสอย แต่การสั่งซื้อยางจำนวนมากจากแปลงที่อื่นๆ ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่ถ้าให้ดีควรซื้อจากแหล่งที่มีหนังสือรับรองพันธุ์ยางที่ออกโดยอธิบดีกรม วิชาการเกษตรโดยตรง ไม่ซื้อยางเร่ขายที่มีอยู่ทั่วไป หรือไปดูแปลงยางก่อนตัดสินใจสั่งซื้อ ก็จะเป็นข้อตัดสินใจได้ระดับหนึ่งครับ
ตาสอย หมายถึง ตายางพาราที่ได้จากการตัดหรือสอยเอามาจากยางต้นใหญ่ แล้วนำไปติดตากับต้นกล้ายางเพื่อผลิตยางชำถุง เนื่องจากกิ่งตายางที่เหมาะสมสำหรับติดตายางซึ่งได้จาก แปลงกิ่งตายาง ไม่มีหรือขาดแคลน
ต้นยางชำถุง ที่เกิดจากยางตาสอย ในช่วงที่เป็นต้นขนาด 12 ฉัตร ยากที่จะบอกความแตกต่างกับต้นยางชำถุง ซึ่งเกิดจากตาที่ได้จากแปลงกิ่งตาได้อย่างชัดเจน จะรู้ก็ต่อเมื่อปลูกไปแล้วประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี เนื่องจากต้นยางที่ได้จากยางตาสอย ส่วนใหญ่จะเจริญเติบโตช้า โตไม่ทันเพื่อน บางต้นลำต้นจะผอมบางและสูงชะลูด การเจริญเติบโตทางด้านข้างของลำต้นช้า เปลือกยางจะบาง บางต้นอาจออกดอกเมื่อกระทบแล้งนานๆ ทั้งนี้เพราะตาสอยส่วนใหญ่เป็นตาที่อยู่ในสภาพไม่พร้อมที่จะเจริญเติบโตเป็นต้นยาง
- สำหรับกรณีสวนยาง ซึ่งสูงร่วม 3 เมตร แล้วออกดอก อาจมิใช่ต้นยางที่ได้จากยางตาสอยก็ได้ อาจเป็นต้นยางที่ได้จากตาปกติ แต่กระทบแล้งเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าแห้งแล้งผิดปกติ จึงทำให้ต้นยางนั้นผลัดใบและออกดอกก็เป็นได้ (ตามปกติยางอายุ 1-2 ปี จะไม่ผลัดใบและออกดอก) ขอให้หมั่นสังเกตดูว่าอัตราการเจริญเติบโตของต้นยางเหล่านั้น ทั้งทางด้านความสูง และทางด้านความอ้วนของลำต้นใกล้เคียงกับต้นยางที่ไม่ออกดอกหรือไม่ ถ้าโตใกล้เคียงกันและไม่มีอะไรแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ก็น่าจะสบายใจได้ ว่าไม่ใช่ต้นยางที่เกิดจากยางตาสอย
- วิธีการหลีกเลี่ยงยางตาสอย คือเลือกซื้อต้นพันธุ์ยางจากแหล่งจำหน่ายพันธุ์ยางที่เชื่อถือได้ โดยซื้อเฉพาะต้นพันธุ์ยางที่ได้มาตรฐานเท่านั้น ซึ่งต้นพันธุ์ยางชำถุงที่ได้มาตรฐานมีลักษณะดังนี้
1. เป็นต้นพันธุ์ติดตาที่สมบูรณ์ เจริญเติบโตในถุงพลาสติกที่มีคุณภาพดี ไม่ฉีกขาดหรือหักกลาง มีขนาด 1 ฉัตรขึ้นไป แต่ไม่เกิน 2 ฉัตร ฉัตรยอดแก่เต็มที่
2. ขนาดเส้นรอบวงของยางชำถุง วัดตรงบริเวณรอยติดตา ไม่ต่ำกว่า 4 ซม. แต่ไม่เกิน 8 ซม. หรือเส้นผ่านศูนย์กลาง วัดตรงบริเวณเดียวกันไม่ต่ำกว่า 1.2 ซม. ไม่เกิน 2.5 ซม. ความสูงของต้นยางวัดจากกึ่งกลางรอยติดตาถึงปลายยอด ไม่ต่ำกว่า 25 ซม.
3. สภาพของต้นและใบยาง ต้องสมบูรณ์ และแข็งแรง ปราศจากการขาดธาตุอาหาร หรือการทำลายของโรคและแมลง
4. ดินที่ใช้บรรจุถุง ต้องมีลักษณะค่อนข้างเหนียว บรรจุอยู่เต็มถุงหรือต่ำจากปากถุงไม่เกิน 1 นิ้ว
5. เป็นต้นพันธุ์ยางที่มีลักษณะตรงตามพันธุ์ และเป็นพันธุ์ยางตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร
(ขอบขอบคุณข้อมูลจาก กรมวิชาการเกษตร)
http://www.yang-nabon.com/%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7-vs-%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%A2/ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
|
ตอบ: 29/08/2011 7:17 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
แนะกลเม็ดเลือกกล้ายาง เจอออกดอกโตช้า ยางตาสอยชัวร์
เจ้าของสวนเกษตรเพาะพันธุ์กล้ายางพาราหนองคาย แนะเคล็ดเกษตรกรเลือกซื้อกล้ายางต้องขอดูใบอนุญาตจากกรมวิชาการเกษตรเป็นอันดับแรก เผยหากปลูกต้นโตถึงเมตรแล้วออกดอกเติบโตช้าเป็น กล้ายางตาสอย ชัวร์ ได้น้ำยางน้อยกรีดแค่สิบปีหมดแทนที่จะเป็น 25 ปี
นายสมหมาย แก้วมณี เจ้าของสวนเกษตรแจ๊ค บ้านโนนสามัคคี ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย เปิดเผยว่า ในพื้นที่อำเภอโซ่พิสัยมีเกษตรกรเพาะพันธุ์กล้ายางพาราขายให้เกษตรกรโดยได้รับการอนุญาตจากสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง(สกย.)จังหวัดหนองคาย 3 ราย และอำเภอใกล้เคียงก็มีอีกหลายราย ซึ่งสวนเกษตรแจ๊คแห่งนี้ได้เพาะพันธุ์ต้นกล้ายางพารา และติดตายางที่เรียกว่า ตาเขียว หรือพันธุ์ยาง RRIM 600 เท่านั้น
พันธุ์ยางดังกล่าว เป็นพันธุ์ยางที่เหมาะในพื้นที่ภาคอีสานและภาคใต้บางแห่ง เพราะคุณภาพดี น้ำยางมาก ทนทานต่อโรค โดยตนได้นำเมล็ดพันธุ์ยางพาราจาก จ.ระยอง พันธุ์พื้นเมืองมาเป็นตอแม่พันธุ์ในการติดตา เช่น พันธุ์ GT1 เนื่องจากเมื่อนำเมล็ดพันธุ์มาเพาะและชำถุงแล้ว ต้นจะโตเร็ว แข็งแรง คุ้มค่าต่อการลงทุน เกษตรกรนำไปปลูกก็เจริญเติบโตเร็ว หากนำพันธุ์ RRIM 600 กว่า 90% หากนำมาทำต้นตอจะต้องใช้เวลานาน โตช้า ไม่เหมาะในการทำต้นตอ
สำหรับการเพาะพันธุ์นั้นต้องคัดเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์นำไปเพาะ ซึ่งการเพาะพันธุ์กล้ายางพาราขายนั้นนายสมหมาย เล่าว่า จะทำ 2 วิธี วิธีแรกประเภทติดตาเขียวกับต้นยางแล้วขายทันที ราคาอยู่ที่ต้นกล้าละ 7 บาท และวิธีที่สอง คือ การนำกิ่งที่ติดตาเขียวมาปักชำในถุงเพาะชำ ราคาขายถุงละ 15 บาท โดยวิธีการเพาะพันธุ์กล้ายางให้ได้พันธุ์ดีนั้น จะต้องเลือกเมล็ดพันธุ์ยางพาราพื้นเมืองมาหว่านในแปลงที่เตรียมไว้นาน 8 เดือน
จากนั้น นำตาพันธุ์ยาง หรือ ตาเขียว พันธุ์ RRIM 600 มาติด ทิ้งไว้ 1 เดือนหรือ 45 วัน เมื่อครบกำหนดถอนต้นยางออกมาตัดแต่งราก ขายทั้งรากส่วนหนึ่ง และนำไปปักชำในถุงเพาะชำอีกส่วนหนึ่งนานประมาณ 2 เดือน ก็นำออกขายได้ ในช่วงที่รอให้ต้นกล้ายางติดรากนั้นจะต้องคอยดูแล ควบคุมอุณหภูมิ เอาใจใส่อย่างใกล้ชิด จะทำให้กล้ายางมีคุณภาพน้ำยางมาก ทนทานต่อโรค สามารถกรีดยางได้นานถึง 25 ปี
เมื่อต้นยางแก่ก็สามารถตัดต้นยางขายทำเฟอร์นิเจอร์ได้ แต่หากเจ้าของสวนเกษตรบางรายที่ต้องการเพิ่มยอดการชำถุง และติดตายาง บางรายมักง่ายก็จะใช้ ยางตาสอย ไม่เอากิ่งตาจากแปลงขยายพันธุ์โดยตรง แต่ไปเอากิ่งยางจากแปลงกรีดยางมาเพาะชำและติดตา ทำให้เมื่อเกษตรกรนำไปปลูก ไม่นานต้นยางก็จะมีดอก ผลผลิตไม่ดี เปลือกยางจะบางทำให้เวลากรีดยางหากฝีมือไม่ดีจริงจะทำให้กรีดถูกเนื้อไม้ ต้นยางจะเสื่อมคุณภาพเร็ว และน้ำยางไม่มีคุณภาพ
แต่อย่างไรก็ตาม การจะสังเกตว่าอันไหนเป็นยางตาสอยหรือยางพันธุ์ดีเป็นการยาก เพราะราคาขายกล้ายางก็ขายราคาเดียวกันกับยางพันธุ์ดี อยู่ที่ 715 บาท ในช่วงแรกเกษตรกรจะดูไม่ออก จนกว่าจะได้ทดลองปลูก หากนำไปปลูกไม่นาน ขนาดต้นประมาณ 1 เมตรเศษแล้วมีดอกเกิดขึ้น ต้นเจริญเติบโตช้า แสดงว่าเป็นยางตาสอย แทนที่จะกรีดยางได้ 25 ปี ก็เหลือเพียง 10 ปี เท่านั้นน้ำยางก็หมด
นายสมหมาย ยังกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีการใช้ยางตาสอย เพิ่งจะเริ่มมีเมื่อไม่นานมานี้ ในช่วงที่มีโครงการสนับสนุนยาง 1 ล้านไร่จากรัฐบาล อาจจะมีสาเหตุจากการเร่งผลิตเพาะพันธุ์ยางให้ได้ปริมาณมากเพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร หากจะรอต้นตอจากแปลงขยายพันธุ์จากพันธุ์พื้นเมือง ก็จะช้าเกินไป จึงมีการคิดนำกิ่งจากแปลงกรีดมาทำยางตาสอยเพื่อให้ปริมาณมากและรวดเร็ว แต่คุณภาพไม่ดี ทำให้เกิดปัญหาตามมา
หากเกษตรกรจะซื้อกล้ายางพาราเพื่อความมั่นใจว่าได้ยางคุณภาพ อันดับแรก ควรซื้อกับสวนเกษตรที่ไว้วางใจได้ด้วยการขอดูใบอนุญาตที่ทางสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางออกให้เป็นเครื่องรับประกัน หลีกเลี่ยงการซื้อกล้ายางประเภทรถเร่ขาย อย่างไรก็ตามกล้ายางพาราที่สวนเกษตรแจ๊ครับประกันคุณภาพว่าไม่มียางตาสอยสอดแทรกเข้ามาแน่นอน
จาก.. หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
http://www.rubberthai.com/newspaper/late_news/2548/june48/23-06-01.htm |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|