-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 16 ส.ค
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 16 ส.ค
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 16 ส.ค

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 16/08/2011 5:24 am    ชื่อกระทู้: ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 16 ส.ค ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 16 ส.ค


***********************************************

สร้างสรรสังคม....ส่งเสริมคนดี....พัฒนาชีวิต ให้มีคุณภาพ...

กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ทางวิทยุ พล.ปตอ. เอเอ็ม 594 เวลา 08.10–09.00 และ 20.05-20.30 ทุกวัน

เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว
ก่อนเริ่มรายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986

***********************************************

จาก : (084)587-32xx
ข้อความ : สวด.ค่ะคุณลุง วันนี้รบกวนถาม 2 เรื่องนะคะ

1) หนอนเจาะดอกถั่วฝักยาว แก้ไขยังไงคะ ?
2) เผือกเป็นตากบตาเสือ แก้ไขยังไงคะ ?

ขอบคุณมากค่ะ จากหลานคนเล็กแต่ตัวโตค่ะ

ตอบ :
ถั่วฝักยาว......เท่าที่สังเกตุจากประสบการณ์ตรง ลุงคิมว่า ถั่วฝักยาวเป็นพืชสวนครัวที่มีศัตรูมากที่สุด หรือไม่ก็ระบาดง่ายที่สุด รายไหนรายนั้น ไม่เห็นรอดซักราย

ไม่มีพืชใดในโลกนี้ที่ไม่มีศัตรูพืชประจำพันธุ์ วันนี้ยังไม่มีเพราะยังไม่มา พอมาเถอะเอาไม่ทัน.....ไม่มีสารเคมียาฆ่าแมลงตัวใดในโลกนี้ แล้วก็ไม่มีสารสมุนไพรตัวใดในโลกเหมือนกัน ที่สามารถทำให้ส่วนของพืชที่ถูกทำลายไปแล้วกลับสภาพดีคืนอย่างเดิมได้..... เพราะฉนั้นต้อง "กันก่อนแก้" ด้วยวิธีการหลายๆวิธีการ (ไอ.พี.เอ็ม) เท่านั้น

"หนอนเจาะดอก" ตัวมันอยู่ในกลีบดอก เหมือนอยู่ในถ้ำ เป็นที่กำบังอย่างดี ลุงคิมเคยใช้สารสมุนไพรชนิด "ยาน็อค" (กลอย-เมล็ดมันแกว-เมล็ดน้อยหน่า-เปลือกต้นซาก....ซื้อได้ที่กองคาราวาน) ฉีดทั่วต้น เน้นที่ดอก วันต่อวัน อย่างดีก็วันเว้นวัน ฉีดตอนเย็นใกล้ค่ำ หลังจากฉีดไปแล้ว 2-3 รอบ ตรวจสอบ ก็ยังเห็นหนอนกระดื๊บๆได้อยู่ในดอก นั่นคือ ไม่ตาย แต่ไม่ยักกะทำลายดอก เพราะดอกนั้นก็ยังกลายเป็นฝักให้เก็บได้

ถ้าไม่มีสมุนไพรประเภทยาน็อคแบบที่ลุงคิมใช้ ก็ให้ใช้ "หนอนตายหยาก-สะเดา-หางไหล-บอระเพ็ด-ฟ้าทะลายโจร-ยาฉุน" แทนก็ได้

อย่ากังวลถึงหนอนจะไม่ตาย ไม่นานเดี๋ยวมันก็ตายไปเอง สำคัญแต่ว่า อย่าให้มีหนอนรุ่นใหม่เกิดขึ้นมาอีกก็แล้วกัน ฉีดสมุนไพรบ่อยๆ วันเว้นวัน วันต่อวันได้ยิ่งดี

คงไม่ใช่แต่หนอนเจาะดอกอย่างเดียวหรอกนะ ยังเหลือหนอนชอนใบ เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง ราสนิม จะตามมาอีก สมุนไพรตัวเดิมนี้นี่แหละ อายู่ แต่มีข้อแม้ ฉีดบ่อยๆเข้าไว้เดี๋ยวดีเอง

เผือกเป็นตากบตาเสือ.....เชื้อตัวนี้ คือ "รา-ไฟธอปเทอร่า" เกิดในดินที่เป็นกรด หรือดินที่น้ำแฉะ เมื่อเชื้อแก่ขึ้นจะเป็นสปอร์ปลิวตามลมไปทั่ว พอฝนตกเชื้อก็จะไปแฝงอยู่กับน้ำฝน (พีเอช น้ำฝนเหมาะกับเชื้อตัวนี้) พอใบแห้งเชื้อก็จะซึมแทรกเข้าไปอยู่ในเนื้อพืช จากนั้นเกษตรกรก็จะใช้สารเคมีประเภท "ดูดซึม" ซึ่งก็ฆ่าเชื้อได้ (ไม่เถียง) แต่ถามว่า เชื้อตายแล้วได้อะไร เพราะใบเผือกถูกทำลายไปแล้วไม่อาจคืนดีอย่างเก่าได้

แนวทางป้องกัน แบบทำควบคู่กัน คือ....
1. ระวังรักษาดินอย่าให้เป็นกรด (น้ำไม่ขังค้าง เนื้อดินไม่แฉะ ไม่ยาฆ่าหญ้า ไม่สารเคมี ไม่ปุ่ยเคมีมากเกินจนเหลือตกค้างเนื่องจากพืชเอาไปกินไม่หมด)

2. ฉีดพ่นสารสมุนไพรประเภทกำจัดเชื้อรา (สาบเสือ เปลือกมังคุด พริก ขิง ข่า ขมิ้น ว่านน้ำ .ฯลฯ ..... ยิ่งมากอย่างยิ่งดี) ฉีดทางใบให้เปียกทั้งใต้ใบบนใบ ฉีดบ่อยๆ ฉีดหลังฝนตกได้ยิ่งดี แล้วให้ฉีดลงดินด้วย ฉีดโชกๆ ซัก 15-20 วัน/ครั้ง หรือจะถี่กว่านี้ก็ไม่เป็นไร

ว่างๆ คลิกไปอ่านเรื่อง "เผือก" หน่อยก็ดีนะ......เผือก 1 ไร่ ทำเงินได้เท่ากับนาข้าว 7 ไร่....
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=2149

-----------------------------------------------------------------------


จาก : (085)682-78xx
ข้อความ : มีที่ดินอยู่เชียงราย อยากปลูกยางพารา ขอความคิดเห็นจากผู้พันด้วยครับ...ขอบคุณครับ

ตอบ :
กระแสยางพารา ปาล์มน้ำมัน สำปะหลัง กำลังมาแรง ระวังจะหลงกระแส
ไม่มีพืชใดในโลกไม่ต้องการน้ำ แม้แต่ปาล์มน้ำมัน สำปะหลัง พืชไร่ทุกตัว ต้องการน้ำทั้งนั้น เพียงแต่จะมากหรือน้อย ระหว่าง ชื้น-ชุ่ม-โชก-แฉะ-แช่ ต้องจัดการให้พอดีกับความต้องการของเขา

ยางพาราอยู่ภาคใต้ "ฝนแปดแดดสี่" ไม่มีหน้าหนาว.....คุณอยู่เชียงราย นอกจาก "ฝนสี่แดดแปด" แล้ว ลุงคิมว่า เรื่องโซนภูมิศาสตร์ ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางก็อาจมีผลต่อการเจริญเติบโตด้วยนะ

คิดจะทำเกษตรด้านเพาะปลูกพืช "น้ำต้องมาก่อน-น้ำต้องมาก่อน" เคยสงสัยอยู่เหมือนกัน คนซื้อที่ดิน ซื้อแปลงละหลายๆร้อยไร่ ราคาหลายๆล้าน แต่ไม่มีน้ำ มีเงินลงทุนซื้อที่ดินแล้วไม่ลงทุนเรื่องน้ำด้วย แบบนี้ลุงคิมว่า ซื้อที่ดินติดแม่น้ำลำห้วยแค่ 10-20 ไร่ ที่มีน้ำคลอดปีดีกว่านะ

คุณถามเรื่องยางพารา แสดงว่ายังมีข้อมูลเกี่ยวกับยางพาราน้อยมาก จึงอยากให้คุณหา วิชาการ + ประสบการณ์ ให้มากกว่านี้ซักหน่อยก็จะดีนะ

นอกจากยางพาราแล้วลุงคิมแนะนำ "กาแฟอาราบิก้า (ราคาสูงกว่ายางพาราหลาย 10 เท่า). กับมะคาดิเมียร์ (ถั่วที่ราคาแพงที่สุดในโลก)" ไม้ 2 ตัวนี้ เหมาะกับพื้นที่ทางเหนือกว่ายางพารานะ แหล่งข้อมูลดีที่สุด คือ โครงการหลวง

ส่วนเรื่องข้อมูลก็ต้องเสาะหาเหมือนยางพารานั่นแหละ


ปรัชญา...ปลูกอะไรก็ได้ที่ราคาต่อหน่วยแพงๆ ใช้ความรู้ ความสามารถเต็มที่ ย่อมได้มากกว่า ปลูกอะไรก็ได้ที่ราคาต่อหน่วยถูกๆ ทั้งๆที่ใช้ความรู้ ความสามารถ ใช้เวลา เท่าๆกัน




คลิก....มะคาดิเมียร์ (ถั่วราคาแพงที่สุดในโลก) ....
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1952&sid=1f74adc0788e216cd1e388a93a4af96d


คลิก....กาแฟอาราบิก้า (ทำเงินได้มากกว่ายางพาราหลายสิบเท่า) ....
http://it.doa.go.th/vichakan/news.php?newsid=9

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=23

คลิก....กาแฟแก้วละ 500-1,500 ... กก.ละ 1 แสน....
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=17088&sid=4ef9bc63f7727a1bb0128bf778a60e75#17088



อ้างอิง :

กาแฟดอยช้าง

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวไทยภูเขาให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นลดพื้นที่การปลูกฝิ่นและการทำไร่เลื่อนลอย ทรงมีพระราชดำริให้นำกาแฟอราบิก้าและพืชเมืองหนาวมาปลูกทดแทน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของกาแฟบ้านดอยช้างอันเลื่องชื่อ

จากการคัดสรรสายพันธุ์กาแฟอราบิก้า ตามโครงการพระราชดำริทำให้ได้สายพันธุ์กาแฟอราบิก้าพันธุ์ดี เป็นกาแฟเกรดพิเศษ ที่ปลูกเฉพาะบริเวณบ้านดอยช้าง ตำบลวาวี ซึ่งมีความสูง 1,200-1,500 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทำให้ได้กาแฟที่มีรสชาติดียิ่งขึ้น ซึ่งเรียกว่ากาแฟที่ได้นี้ว่า Strictly Hard Bearn ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการทำให้ผลสุกเพิ่มขึ้นจาก 4 เดือน เป็น 8 เดือน

ผลกาแฟอราบิก้าบ้านดอยช้างเมื่อสุกและนำมาผ่านกระบวนการคั่วและบดอย่างประณีต จะได้กาแฟที่มีกลิ่นหอม ชวนให้ดื่มทั้งยังมีรสชาติดี และ มีปริมาณคาเฟอีนต่ำประมาณ 1.3 %

ในบรรดากาแฟสายพันธุ์อราบิก้าทั้งหมดนั้นพบว่า มีกาแฟเกรดพิเศษอยู่ไม่ถึง 10% ซึ่งกาแฟที่มีรสชาติเฉพาะ มีกลิ่นหอมมาก และมีความเป็นกรด (ผลไม้) ที่เหมาะสม ทำให้ดื่มแล้วรู้สึกชุ่มคอ ดื่มได้ตลอดเวลาเพราะมีปริมาณคาเฟอีนต่ำ ช่วยกระตุ้นให้เกิดความกระชุ่มกระชวย

กาแฟเกรดพิเศษนี้มักเกิดขึ้นเฉพาะแหล่ง เป็นความลงตัวของสภาพพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นที่สูงกว่า 1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเล สภาพแวดล้อม ดิน อากาศ น้ำและสายพันธุ์ซึ่งผสมกันอย่างเหมาะสม จึงเกิดเป็น กาแฟบ้านดอยช้าง อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกาแฟอราบิก้าเมืองไทย



http://ดอยช้าง.com



TaiCoffee Roastery

จากแหล่งเพาะปลูกกาแฟบนดอยสูงทางภาคเหนือ เราคัดสรรกาแฟดิบแต่ละแหล่ง พิถีพิถันในการคั่วเพื่อให้ได้คุณสมบัติของกาแฟ อันเป็นแบบฉบับพิเศษของแต่ละชนิดของแหล่งที่มาของกาแฟนั้นๆ เพราะเราทราบว่ารสนิยมการดื่มแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ที่นี่เราจึงมีกาแฟคั่วหลากหลายสูตรให้เลือกชงและเลือกใช้
ที่นี่เราบริการคั่วเข้ม กลาง อ่อนตามความต้องการของลูกค้า

ที่นี่เรามีกาแฟดิบจากทุกแหล่งดอยสูง เช่น จากเชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง น่าน ฯลฯ
และกาแฟโรบัสต้าจากแม่ฮ่องสอน ลำปาง เชียงราย หรือจากชุมพร แหล่งปลูกกาแฟชื่อดังทางภาคใต้




จำหน่ายกาแฟคั่ว

1. กาแฟคั่วบราซิล ราคา 300 บาทต่อกิโลกรัม
กาแฟคั่วเข้มแบบเอสเปรสโซ่ บอดี้หนักแน่นให้กลิ่นและรสชาติที่หนักแน่นขมตามแบบฉบับของกาแฟไทย เหมาะทำกาแฟเย็นรสชาติเข้มขม หวานมัน

2. กาแฟคั่วม็อคค่า ราคา 330 บาทต่อกิโลกรัม
กาแฟคั่วแบบกลางค่อนข้างเข้ม ที่เบรนด์ระหว่างกาแฟโรบัสต้าและอราบิก้า มีรสชาติไปทางช็อคโกแลต เหมาะทำเป็นเมนูกาแฟใส่นม สูตรมาตรฐานเช่นคาปูฯ ลาเต้ ม็อคค่า และกาแฟปั่น

3. กาแฟคั่วสเปเชียลเบลน ราคา 350 บาทต่อกิโลกรัม
ความลงตัวระหว่างความเข้มข้น หนักแน่นของโรบัสต้าและความหอมละมุนของกลิ่นกาแฟอราบิก้าให้รสชาติเต็มๆของกาแฟ 2 สายพันธุ์ ทำได้ทั้งกาแฟร้อนและกาแฟเย็น

4. กาแฟคั่วอราบิก้า ราคา 400 บาทต่อกิโลกรัม
กาแฟสายพันธุ์อราบิก้าจากภาคเหนือ ที่เราคัดสรรจากแหล่งปลูกที่มีชื่อเสียงของดอยช้าง เชียงราย คั่วแบบกลางเข้ม (Full City) ที่ให้ความหอมนุ่มและรสชาติที่ละเมียดละไม เหมาะสำหรับร้านที่ต้องการกาแฟระดับมาตรฐานเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า

5. กาแฟคั่วอราบิก้าพรีเมี่ยม ราคา 470 บาทต่อกิโลกรัม
อราบิก้าเกรดเอจากดอยช้าง เกรดนี้เราคัดสรรตั้งแต่ไร่ที่ปลูกที่ต้องสูงกว่า 1000 เมตรขึ้นไป และต้องเป็นไร่กาแฟในร่ม เพื่อที่ว่าการสุกของกาแฟจะสุกเมื่อต้นฤดูหนาวหรือประมาณปลายเดือนธันวาคมไปแล้ว ซึ่งในเวลานั้นผลกาแฟจะมีเวลาบ่มตัว สะสมสารอาหารได้เต็มที่ รวมถึงกระบวนการ เก็บเกี่ยว โม่หมัก ล้างตากตามมาตรฐาน การตากแดดที่ไม่จัดเกินไป จนได้ความชื้นที่เหมาะสมไม่ต้องเจอละอองฝนปลายฤดู หลังจากนั้นเราจะคัดขนาดและความสมบูรณ์ของเม็ด คัดพิเศษเพื่อให้ได้มาของกาแฟชั้นคุณภาพอย่างดี มีกลิ่นหอมนุ่มนวล รสชาติขมละไม เหมาะทำกาแฟร้อน

6. กาแฟออร์แกนนิค ราคา 750 บาทต่อกิโลกรัม
จากแหล่งกาแฟเก่าแก่ดั้งเดิมของเชียงใหม่ ที่ตำบลป่าเมี่ยง-เทพเสด็จ จากกาแฟสายพันธุ์ดั้งเดิม (Pure Arabica) ที่อ่อนแอต่อโรคราสนิม ให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำ ที่ชาวไร่รุ่นใหม่หมางเมิน แต่เป็นกาแฟสายพันธุ์ที่มีรสชาตินุ่มนวล ละมุนละไม และมีกลิ่นหอมฟุ้งจรุงใจชวนดื่ม ปลูกในร่มที่ความสูงกว่า 1,200 เมตร ผลผลิตจำนวนจำกัดด้วยพื้นที่ สายพันธุ์ และผลจากการไม่ใส่ปุ๋ยเคมีใดๆ ผลผลิตต่อปีผลิตได้ไม่เกิน 3 ตัน



สั่งขั้นต่ำ 5 กิโลกรัม ค่าส่งคิดตามระยะทางและจำหน่ายกาแฟสาร สำหรับโรงคั่วทั่วประเทศ

ขอตัวอย่างเม็ดกาแฟและสอบถามรายละเอียดได้ที่
ภานุ (081) 163-9887; (081) 472-6987

email : panu009@gmail.com อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน

บริการจัดส่งทั่วประเทศ

รับคั่วกาแฟ
ขั้นต่ำ 10 กิโลกรัม
ราคากิโลกรัมละ 70 บาท


http://www.cm-classified.com/index.php/th/other-goods/coffee-roasted-wholesale

----------------------------------------------------------------------



จาก : (085)396-52xx
ข้อความ : ลุงคิมช่วยพูดเรื่องมะละกอหน่อยครับ ทำไมไม่ค่อยติดลูกเลย ทั้งๆที่บำรุงเต็มที่ ปุ๋ย ฮอร์โมน ไม่ได้ขาด น้ำดี

ตอบ :
ในธรรมชาติไม่มีตัวลข และไม่มีสูตรสำเร็จ....
ปลูกมะละกอ ต้องตามใจมะละกอ ไม่ใช่ตามใจคน....

บำรุงเต็มที่-บำรุงเต็มที่.....คุณวัดที่ตัวคุณหรือวัดที่มะละกอ บางทีมันอาจะขาดหรือเกินสำหรับมะละกอก็ได้

ปุ๋ย ฮอร์โมน-ฮอร์โมน ปุ๋ย....ปุ๋ยสูตรไหน ประเภทไหน ฮอร์โมนตัวไหน อัตราใช้เท่าไหร่ ระยะไหนของมะละกอ สภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร ฯลฯ

อย่าคิดว่าให้ ปุ๋ย/ฮอร์โมน แล้ว ทุกอย่างต้องดีตามปุ๋ยตามฮอร์โมนนั้น แม้แต่ปุ๋ยหรือฮอร์โมนที่ลุงคิมทำกับมือ หลายคนเอาไปใช้แล้วได้ผล ก็มีเหมือนกันที่บางคนเอาไปใช้แล้วไม่ได้ผล มีกระทั่งบางคน ในสวนเดียวกัน ต้นติดกัน ต้นหนึ่งได้ผลแต่อีกต้นหนึ่งไม่ได้ผล

อาหาร หรือสารอาหาร หรือธาตุอาหาร ที่พืชต้องใช้เรียกว่า "ปุ๋ย" ประกอบด้วย 14 ธาตุ, 3 ก๊าซ, 10 ฮอร์โมน ผสมกันอย่างมีอัตราส่วน (เรโช) ตามลักษณะโครงสร้างทางเคมี และตามความจำเป็นที่พืชต้องการตามระยะพัฒนาการ ในปุ๋ยทั่วๆไปที่ทำเองหรือมีจำหน่ายตามท้องตลาดนั้น ตราบใดที่มีธาตุอาหาร ครบ/ถูกต้อง เมื่อให้แก่พืชก็ต้องได้ผลตามประสิทธิภาพของธาตุอาหารนั้นๆ กรณีที่ให้แล้วไม่ได้ผล สาเหตุเกิดมาจาก "ปัจจัยเสริม/ปัจจัยต้าน" ทั้งภายในสรีระพืช และสภาพแวดล้อม

ทุกปัญหาเกี่ยวกับพืช รวมกันอยู่ที่ "ปัจจัยพื้นฐาน" (ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค) ทั้งสิ้น จับมาวิเคราะห์ทีละปัจจัยๆ เดี๋ยวก็รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เมื่อรู้สาเหตุแล้วก็แก้ไขตรงนั้น แก้ไขให้ตรงกับธรรมชาติของมะละกอ

ถูกต้อง/พอดี = ดี ..... ผิด/ขาด/เกิน = ไม่ดี

อาการ "ถูกต้อง-พอดี-ขาด-เกิน" วัดที่พืช ภายใต้หลักการ ปัจจัยพื้นฐาน" เช่น...
ดิน...............มีความเหมาะสมต่อมะละกอที่ปลูก
น้ำ...............ชื้น-ชุ่ม-โชก-แฉะ-แช่ เหมาะสมกับมะละกอ
แสงแดด.........มะละกอต้องการแสงแดด 100% ตลอดทั้งวัน
อุณหภูมิ..........ช่วงนี้อาจไม่มีผลนัก
ฤดูกาล...........ช่วงหนี้เป็นหน้าฝน น้ำจากฝนมักสร้างปัญหาแก่ดอกเสมอ
สารอาหาร........(ปุ๋ย/ฮอร์โมน/อื่นๆ) ถูกประเภท ถูกสูตร ถูกอัตรา ถูกช่วง ถูกวิธี
สายพันธุ์..........มะละกอไม่ค่อยมีปัญหา
โรค...............ถ้ามีโรคมาก ต้นไม่สมบูรณ์ ปัญหาอะไรๆก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

ต่อคำถามนี้ ไม่อาจตอบแบบ "ฟันธง" ได้ว่าต้องใช้ปุ๋ยทางใบ-ทางราก สูตรนั้น-สูตรนี้ ใช้ฮอร์โมนตัวนั้น-ตัวนี้

จากประสบการณ์ตรงเรื่องมะละกอที่พานพบมา มะละกอทุกสายพันธุ์ออกดอกติดผลได้ตลอดปี แบบไม่มีฤดูกาล ถ้าบริหารจัดการเรื่องปัจจัยพื้นฐานดีแล้ว สำหรับปุ๋ย/ฮอร์โมน ทางใบใช้สูตรสหประชาชาติ (UN) ทุก 10 วัน กับทางรากใช้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 ทุก 30 วัน แค่นี้ก็ O.K. แล้ว

----------------------------------------------------------------------
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©