-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 3 ส.ค
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 3 ส.ค
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 3 ส.ค

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 03/08/2011 8:11 am    ชื่อกระทู้: ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 3 ส.ค ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 3 ส.ค


***********************************************

สร้างสรรสังคม....ส่งเสริมคนดี....พัฒนาชีวิต ให้มีคุณภาพ....

กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ทางวิทยุ พล.ปตอ. เอเอ็ม 594 เวลา 08.10–09.00 และ 20.05-20.30 ทุกวัน

เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว
ก่อนเริ่มรายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986

***********************************************



จาก : (088)875-76xx
ข้อความ : มะนาวนอกฤดู หลังจากใบร่วง บำรุงต่อไปอย่างไรครับ ....


ตอบ :
ทำไมต้องใบร่วงด้วยล่ะ มะนาวแตกยอดแล้วออกดอกตาม ถ้าใบร่วงแล้วเขาจะออกดอกได้ไง

วันนี้ให้บำรุงต้น "เรียกยอดใหม่" ด้วย "แม็กเนเซียม + สังกะสี + ยูเรีย" (ไบโออิ/สูตรอยู่หน้าเว้บ) แล้วบำรุงต่อตามขั้นตอนต่อไป
การทำนอกฤดูปีนี้น่าจะล้มเหลวซะแล้วแหละนะ



---------------------------------------------------------------------------------------------------

จาก : (084) 881-1321
ข้อความ : ที่อินโดฯ ทุเรียนเนื้อแดง อายุ 400 ปี ยังคงมีผลอยู่ แต่บ้านเราไม่กี่ปีตาย......

ตอบ :
ทุเรียนอายุ 100-200-400 ปี ไม่สงสัย แต่ที่สงสัย คือ ส้มเขียวหวาน รังสิต ธัญญะ หนองเสือ วิหารแดง ฯลฯ ทำไมอายุต้นแค่ 4-6 ปี
ตายซะแล้ว ในขณะที่ส้มเขียวหวานบางมด (พันธุ์เดียวกันกับส้มรังสิตเดิม) ที่ จ.น่าน วันนี้อายุต้น 40-50 ปีแล้ว ยังให้ผลผลิตดีเฉย....
ส้มฟลอริด้า อายุต้น 100 ปี นี่ก็น่าสนใจ

องุ่นก็อีกตัวหนึ่ง อายุต้น 5-10 ปี ตายแล้ว แต่องุ่นออสเตรเลีย ฝรั่งเศส อายุต้นนยืนนานเป็น 100 ปี ถึงวันนี้ยังให้ผลผิตดีเหมือนเดิม หรือ
จะดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ

ฝรั่งแป้นสีทองก็อีกตัวหนึ่ง อายุต้น 5-10 ปี ตายแล้ว ทั้งๆที่แป้นสีทองตามบ้านจัดสรร อายุต้น 20-30 ปี ยังอยู่แล้วก็ยังให้ผลผลิตดี
เหมือนเดิม




อ้างอิง :







ทุเรียนเนื้อสีเลือด ของจริงจากเกาะบอเนียว หรือ ทุเรียนแดง red durian เป็นทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองของรัฐ Sabah กลิ่นไม่รุนแรง
เหมือนทุเรียนทั่วไป

http://blog.eduzones.com/diaw30/22567



ต้นทุเรียนยักษ์ 200 ปี พระราชทานจาก ร.5 รอดดินโคลนถล่ม

คมชัดลึก : พบต้นทุเรียนยักษ์เมืองลับแล จ.อุตรดิตถ์ อายุ 200 ปี สูงใหญ่สง่ารอดจากดินโคลนถล่ม เจ้าของอนุรักษ์มานานกว่า 4 ชั่ว
อายุ เผยรับพระราชทานจากรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันเหลือเพียง 3 ต้น กำชับลูกหลานห้ามตัด ห้ามขาย ห้ามเสียบยอดต่อกิ่งเด็ดขาด



แม้พื้นที่ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ จะประสบภัยดินโคลนพัดถล่มเมื่อปี 2549 สภาพสวนทุเรียนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่ยังมี
ต้นทุเรียนขนาดใหญ่อายุ 200 ปี ที่ยังคงยืนหยัดออกผลให้เจ้าของสวนทุกปี โดยเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม

นายทรงวุฒิ จันทร์ดา เกษตรอำเภอลับแล จ.อุตรดิตถ์ นายฤทัย แก้วทิ นายก อบต.แม่พูล และนายประจวบ สืบจ้อน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4
ต.แม่พูล อ.ลับแล ลงพื้นที่สำรวจต้นไม้เขต อ.ลับแล ที่มีขนาดใหญ่และมีอายุยาวนานหลังจากเกิดดินโคลนถล่ม เพื่อหาแนวทาง
ร่วมอนุรักษ์

จากการสำรวจสวนทุเรียนและลางสาดของนางปิ่น ทองอินทร์ อายุ 83 ปี ราษฎร หมู่ 4 ต.แม่พูล ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ 300
เมตร พบต้นทุเรียนยักษ์ มีขนาดสูงใหญ่จำนวน 3 ต้น ยืนต้นสง่างามอยู่ภายในสวน ท่ามกลางสภาพร่องรอยดินโคลนถล่มที่ยังมีให้เห็น

นายทรงวุฒิ กล่าวว่า ต้นทุเรียนดังกล่าวเป็นพันธุ์พื้นเมือง ที่มีอายุและขนาดที่ใหญ่ที่สุดที่เคยสำรวจในจังหวัดทางภาคเหนือ โดยต้น
ทุเรียนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดมีเส้นรอบวง 2.33 เมตร หรือขนาด 2 คนโอบ สูง 35 เมตร และมีอายุร่วม 200 ปี และบริเวณภายในสวน
เดียวกันยังพบต้นทุเรียนที่มีขนาดใหญ่ และเจ้าของสวนปลูกช่วงเวลาเดียวกันอีก 2 ต้น คือ มีเส้นรอบวง 2.26 เมตร สูง 15 เมตร และ
เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.15 เมตร สูง 41 เมตร ยังสมบูรณ์และให้ผลผลิตกับเจ้าของสวน

พื้นที่ อ.ลับแล มีการปลูกทุเรียนทั้งพันธุ์หมอนทอง พันธุ์หลงลับแล หลินลับแล และพันธุ์พื้นเมือง มากที่สุดของภาคเหนือ จากเดิมมีพื้น
ที่กว่า 5 หมื่นไร่ ให้ผลผลิตปีละ 6-7 หมื่นตัน สร้างรายได้กว่า 1,000 ล้านบาท หลังจากเกิดอุทกภัยดินโคลนถล่มกระแสน้ำกัดเซาะ
ต้นทุเรียนที่ราบริมลำห้วยเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะต้นทุเรียนที่มีขนาดใหญ่ และอายุกว่า 100 ปี ซึ่งปีนี้จากการสำรวจมี
ทุเรียนเหลืออยู่ 3 หมื่นไร่ ผลผลิตที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดประมาณ 3.5 หมื่นตัน ชาวสวนมีรายได้ประมาณ 500-600 ล้านบาท

นายทรงวุฒิ กล่าวอีกว่า จ.อุตรดิตถ์ กำหนดจัดงานมหัศจรรย์ทุเรียนในวันที่ 16-19 กรกฎาคมนี้ ที่ศูนย์จำหน่ายสินค้าโอท็อป เทศบาล
ตำบลหัวดง อ.ลับแล เพื่อประชาสัมพันธ์ทุเรียนที่กำลังออกสู่ตลาดในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนนี้ ซึ่งทุเรียนยักษ์จะกลายเป็น
จุดเด่นของการเปิดตัวงานดังกล่าว พร้อมเสนอให้อำเภอลับแลเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรต่อไป

นางปิ่น ทองอินทร์ อายุ 83 ปี เจ้าของต้นทุเรียนยักษ์ กล่าวว่า ต้นทุเรียนทั้ง 3 ต้นนั้น นายขุนพล แก้วพูลปกรณ์ อดีตกำนันตำบลแม่พูล
ซึ่งมีศักดิ์เป็นทวด เป็นผู้ปลูกไว้ภายในสวนมีเนื้อที่กว่า 10 ไร่ โดยเดินทางไปรับพันธุ์ทุเรียนพื้นเมืองไกลถึงกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นต้นทุเรียน
ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระราชทานให้เกษตรกร หลังจากเสียชีวิตลูกหลานก็รับช่วงดูแลต่อ ตนเป็น
ผู้ดูแลช่วงที่ 4 และกำลังจะมอบให้ลูกสาวดูแลต่อ เนื่องจากอายุมาก ไม่สามารถเดินเข้าไปในสวนได้แล้ว

ทั้งนี้ ในสวนทุเรียนมีการเสียบยอดต่อกิ่ง เพื่อเปลี่ยนพันธุ์จากทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองเป็นพันธุ์ที่ตลาดต้องการ เพราะปลูกทุเรียนในเชิง
พาณิชย์ แต่จะเว้นไว้ 3 ต้น เพื่อความเป็นสิริมงคล และอนุรักษ์ให้อยู่คู่บ้านคู่เมือง สมกับตำนานเมืองลับแล และเป็นสัญลักษณ์ของ
ความเข้มแข็ง ต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคต่างๆ โดยเฉพาะสภาวะเศรษฐกิจ ความขัดแย้งทางการเมืองที่วุ่นวายในปัจจุบัน เพราะต้นทุเรียน
ทั้ง 3 ต้นสามารถอยู่ได้มาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะดินโคลนถล่มก็ยังยืนหยัดและให้ผลผลิตกับเจ้าของสวน

“ยายได้กำชับลูกไว้แล้วว่าอย่าตัด อย่าขาย และอย่าเสียบยอดต่อกิ่งเด็ดขาด ทุเรียนทั้ง 3 ต้นยังคงให้ผล แต่ด้วยอายุมาก จึงให้ผลผลิต
น้อยปัจจุบันเพียงต้นละ 20-30 ผล จากเดิมที่เคยให้ผลผลิตมากถึง 200-250 ผล และสามารถสร้างรายได้จนยายส่งเสียลูก 7 คนเรียน
จบและมีงานทำทั้งหมด ต้นทุเรียนดังกล่าวจึงเปรียบเหมือนผู้มีพระคุณโดยแท้ และยินดีหากจังหวัดจะใช้เป็นจุดเรียนรู้และท่องเที่ยว
เชิงเกษตร” นางปิ่น กล่าว

http://atcloud.com/stories/61227





ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์
เปิดต้อนรับทุกท่านในเทศกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตประจำปี



COMMENT :
ว่ามั้ย เจ้าขององุ่นแปลงนี้ไม่เคยเป็นเกษตรกรสวนองุ่นมาก่อน แต่ออกแบบแปลง
องุ่นแบบของต่างประเทศเป๊ะ ไม่ใช่เห่อของนอก แต่เพื่อประโยชน์จากการใช้พื้นที่
สูงสุด และตรงตามธรรมชาตินิสัยของไม้ยืนต้นอย่างองุ่น ต่างหาก เรียกว่า ปลูก
องุ่นตามใจองุ่น ประมาณนั้น .............. ลุงคิมครับผม



ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ ไร่องุ่นแห่งแรกและแห่งเดียวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แหล่งปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ไทยชั้นนำมอนซูน แวลลีย์
เปิดไร่ต้อนรับเทศกาลการเก็บเกี่ยวองุ่นประจำปี ด้วยการเชิญทุกท่านมาร่วมสัมผัสกับบรรยากาศความสวยงามของไร่องุ่นหัวหิน ฮิลส์
พร้อมชิมไวน์และอาหารอันเลิศรส ภายใต้บรรยากาศของผลผลิตองุ่นที่เต็มไร่อย่างสวยงาม อีกทั้งยังสามารถร่วมกิจกรรมสุดพิเศษ
มากมายที่เตรียมไว้สำหรับการพักผ่อนใน วันสบายๆของท่าน

ภายหลังจากเปิดตัวให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้ชื่นชมความสวยงาม ของไร่องุ่นมาระยะหนึ่งแล้ว ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ ได้
เตรียมพร้อมที่จะนำเสนอกิจกรรมพิเศษ เพื่อต้อนรับช่วงเทศกาลเก็บเกี่ยวองุ่น ซึ่งกำลังออกผลอย่างสวยงามเต็มพื้นที่กว่า 250 ไร่
ในช่วงระหว่างตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ของทุกๆปี โดยในปีนี้ทางสยาม ไวเนอรี่ ได้จัดกิจกรรมพร้อมความพิเศษไว้ใน
เทศกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตประจำปีอย่างมากมาย เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังหัวหิน และยังเป็น
การสนับสนุนการท่องเที่ยวในเชิงเกษตรกรรมพร้อมกระตุ้นให้คนไทย เที่ยวในประเทศไทยให้มากขึ้นด้วย

เทศกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตประจำปีของไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม โดยนัก
ท่องเที่ยวสามารถมาเก็บเกี่ยวองุ่นสดๆจากต้นด้วยตัวท่านเอง โดยจะแบ่งเป็น 2 รอบคือ รอบ11.30 และ รอบ16.00 โดยมีบริการ
รถจิ๊บเพื่อชมและเก็บเกี่ยวผลผลิตอย่างใกล้ชิด นอกจากนั้นทางไร่ฯ ยังได้เตรียมเมนูอาหารสุดพิเศษเฉพาะช่วงเทศกาลเก็บเกี่ยวนี้
ที่ปรุงโดยมีองุ่นเป็นส่วนประกอบ เช่น เป็ดยัดไส้องุ่นกับข้าว ปอเปี๊ยะองุ่น พายองุ่น และอื่นๆอีกมากมาย ที่เตรียมไว้ให้ทุกท่านได้
มาลองลิ้มชิมรสกัน

หรือใครที่อยากทัวร์ชมไร่องุ่นแบบไม่ซ้ำใคร ก็สามารถเลือกใช้บริการทัวร์ไร่องุ่นบนหลังช้างได้ซึ่งมีช้างให้บริการทั้งหมด 2 เชือก
นอกจากนี้สำหรับคนที่รักศิลปะ ทางไร่ฯอยากนำเสนอกิจกรรมออกแบบและเพนท์ฉลากไวน์ด้วยตัวคุณเอง ที่เตรียมไว้เป็นของที่
ระลึกหรือของฝากสำหรับคนพิเศษของคุณ และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรมอย่างครบวงจร ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์
ยังได้จัดมุมนิทรรศการ เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับขั้นตอนของการปลูกและการดูแล รวมถึงการคัดเลือกพันธุ์องุ่นต่างๆ ไว้ให้
นักท่องเที่ยวที่มาได้เก็บเกี่ยวความรู้และสาระพร้อมความเพลิดเพลิน กลับบ้านอย่างครบครัน ปิดท้ายด้วยการเก็บภาพความประทับ
ใจจากวิวสวยๆของไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ในมุม ต่างๆที่มีมากมายให้ท่านได้เต็มอิ่มกับการถ่ายภาพอย่างจุใจ พร้อมทั้งร่วมสนุกกิจกรรม
ประกวดภาพถ่ายของคุณ กับไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ในเทศกาลเก็บเกี่ยวองุ่นนี้ได้อีกเช่นกัน ติดตามรายละเอียดได้ใน www.facebook
.com/huahinhills

และพิเศษสำหรับผู้ที่หลงใหลและชอบในเสียงเพลง แต่ละสุดสัปดาห์ทางไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ยังได้เตรียมกิจกรรม Music in the
Vineyard ไว้เพื่อขับกล่อมเพลงสไตร์อีซซี่ ลิสเซนนิ่ง และแจ๊ส ให้กับท่านเพื่อสร้างบรรยากาศการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบให้กับวัน
หยุดของทุกคน รวมทั้งกิจกรรมการเหยียบองุ่นที่น่าสนใจ ซึ่งพร้อมเตรียมไว้รอทุกท่านมาสัมผัสกัน

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบไวน์ ทางไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ ได้จัด ไวน์ ฮาร์เวส ดินเนอร์ สุดพิเศษขึ้นในวันเสาร์ ที่ 12 มีนาคม 2554 โดยในแพก
เกจประกอบไปด้วย บริการรับส่งจากตัวเมืองหัวหิน (มาร์เก็ต วิลเลจ) ไปยังไร่ฯ กิจกรรมเก็บเกี่ยวองุ่น ความรู้เรื่องไวน์จากไวน์
เมกเกอร์ของสยาม ไวเนอรี่แบบใกล้ชิด โดยดินเนอร์ในแบบบาร์บีคิว พร้อมด้วยเมนูพิเศษเฉพาะช่วงเทศกาลเก็บเกี่ยวเท่านั้น และ
ยังร่วมรับฟังดนตรีเพราะๆระหว่างรับประทานอาหารค่ำ อีกด้วย โดยดินเนอร์จะเริ่มในเวลา 16.00-21.00 น. ราคา 2,000 บาท ต่อหนึ่งท่าน และโปรโมชั่นสุดพิเศษ มา 5 ท่านจ่ายเพียง 4 ท่าน งานนี้คอไวน์ห้าม
พลาดเด็ดขาด

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่ง สามารถติดต่อได้ที่ ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ โทร 081-7018874-5, 081-701-0222, 081-
701-0444 หรือเยี่ยมชม www.huahinhillsvineyard.com หรือร่วมติดตามความเคลื่อนไหวและเป็นแฟนของไร่องุ่นหัวหิน
ฮิลส์ได้ใน Facebook ที่ www.facebook.com/huahinhills


ที่มา: โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
http://www.bsnnews.com/news/index.php?NewsID=5890





องุ่นออสเตรเลีย



http://www.mundoyo.com/Journal/?j=465

COMMENT :
องุ่นทุกสายพันธุ์ที่ปลูกในประเทศไทย ไม่ใช่กำเนิดหรือเป็นไม้พื้นเมืองประจำถิ่นใน
ประเทศไทย ทุกสายพันธุ์มาจากต่างประเทศทั้งนั้น ..... องุ่นที่ปลูกในประเทศไทย
เป็นสายพันธุ์นผลสด ซึ่งจะต้องมีการ "ซอยผล" ในแต่ละช่อให้เหลือในปริมาณที่
พอดีกับขนาดช่อ จึงจะได้ผลขนาดใหญ่ การซอยผลออกทิ้งนี้นอกจากสูญเสียผล
ผลิตไปส่วนหนึ่งแล้ว ยังสิ้นเปลืองแรงงานอย่างมหาศาลอีกด้วย....วันนี้ สวนองุ่น
หลายสวนต้องศาลาองุ่น เพราะสู้ต้นทุนซอยผลไม่ไหว....ในเมื่อรู้ว่า องุ่นเป็นพืช
ต่างประเทศที่สามารถปลูกได้ดีในประเทไทย แล้วทำไมชาวสวนองุ่นจึงไม่เปลี่ยน
สายพันธุ์จากองุ่นสายพันธุ์เดิมที่ต้องซอยผลแต่งช่อ มาเป็นสายพันธุ์กินสดที่ไม่ต้อง
ซอยผลแต่งช่อ







สวนองุ่น ยกร่องน้ำหล่อ...



COMMENT :
สวนยกร่องน้ำหล่อ (ร่องจีน) ที่บรรพบุรุษออกแบบสร้างขึ้นมา ถือว่ามีความเหมาะ
สำหรับยุคสมัยนั้น เช่น ใช้กระบวยต่อด้ามตักน้ำสาดรดที่สันแปลง สำหรับเรือพาย
ลำเลียงผลผลิต ต่อมาได้พัฒนากระบวยต่อด้ามสาดน้ำรดมาเป็นเรือพ่นน้ำและฉีด
พ่นสารเคมียาฆ่าแมลง

ถึงยุคปัจจุบัน ร่องน้ำมีแต่ผลเสีย เช่น เสียเนื้อที่, ลงทุนสูง, รากองุ่นต้องแช่น้ำ
ตลอดอายุขัยทำให้อายุต้นสั้น, ปริมาณน้ำมากเกินทำให้ควบคุม ซี/เอ็น เรโช ก่อน
เปิดตาดอกทำได้ยาก, ต้นอ่อนแอภูมิต้านทานต่ำทำให้เกิดโรคง่าย และไม่สดวกต่อ
การเข้าไปทำงาน เป็นต้น

ถึงวันนี้ ชาวสวนยกร่องน้ำหล่อก็ยังคงยึดติดแนวคิดนี้ แม้ไม่สามารถเติมดินกลบร่อง
ให้เป็นพื้นราบเหมือนเดิมได้ เพียงเอาน้ำในร่องออกทั้งหมดแล้วปรับเป็นยกร่อง
แห้ง ทิ้งไว้ไม่นาน ส่วนที่เคยเป็นร่องน้ำจะค่อยๆตื้นเขินขึ้นมาเองก็ไม่ทำ.....ลุงคิม



http://www.siam2day.com/%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E2%80%8B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E2%80%8B%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E2%80%8B%E0%B8%9A%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%B1.html


-------------------------------------------------------------------------------------------------------



จาก : (089)481-6595
ข้อความ : ผู้พัน ขอเบอร์โทร K.ชัชวาลย์ ท้ายรายการ

ตอบ :
K.ชัชวาลย์ฯ (081) 281-9355


------------------------------------------------------------------------------------------------------



จาก : (085) 649-2362
ข้อความ : ให้ UREGA กับกล้วยอายุ 32 วันแล้ว ให้อีกรอบ 4 วัน และอีกรอบ 4 วัน 3 รอบครับ สังเกตุดู ผลใหญ่ขึ้น กว่าปกติ น่าจะ
20-25% ได้ครับ....จากคนชอบลองกับมือ

ตอบ :
ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะส่วนผสมของยูเรก้า 21-7-14 จี.เกรด, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน. ทั้ง 3 ตัวนี้ ประสิทธิภาพ "ขยาย
ขนาดผล" โดยเฉพาะอยู่แล้ว ใส่เข้าไป 3 ตัวก็เท่ากับใหญ่ 3 เท่านั่นแหละ .... ถ้าจะให้แน่นอนกว่านี้ ลองให้ "ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิด
เถิดเทิง 21-7-14" ทางรากด้วยซักเดือนละครั้ง คราวนี้ไม่ใช่ 20-25% แล้ว แต่จะขนาดไหน อันนี้ไม่รู้ ระวังใหญ่เกิน ขายไม่ออกนะ


---------------------------------------------------------------------------------------------------------



จาก : (089) 481-6595
ข้อความ : ผู้พัน คาราวาน เริ่ม-เลิก กี่โมง จากปทุมธานี.....รองนายก ม.ปทุม ประเสริฐ ฮ้อ (089) 481-6595 จะขอพบ ปรึกษา
ผู้พัน เรื่องนาข้าว.....


ตอบ :
เริ่ม สายๆ วันเสาร์.....เลิก บ่ายๆ วันอาทิตย์


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©