-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ปลูกผักระบบไร้ดินส่งภัตตาคาร........1 ไร่รวย
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ปลูกผักระบบไร้ดินส่งภัตตาคาร........1 ไร่รวย
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ปลูกผักระบบไร้ดินส่งภัตตาคาร........1 ไร่รวย

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 20/09/2010 9:59 pm    ชื่อกระทู้: ปลูกผักระบบไร้ดินส่งภัตตาคาร........1 ไร่รวย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)







“แม่ริม ไฮโดรฟาร์ม” ปลูกระบบไร้ดินป้อนให้ภัตตาคาร


คมชัดลึก : หลังจากกระแสนิยมในการบริโภคพืชผักปลอดสารพิษกำลังขยายตัวอย่างกว้างขวาง ทำให้การปลูกผักระบบไฮโดรโพนิกส์ หรือระบบไร้ดิน เป็นกิจการที่เกษตรกรให้ความสนใจมากขึ้นเช่นกัน อย่าง พรพงษ์ เลิศทำนองธรรม ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ครอบครัวนิยมบริโภคผักปลอดสารพิษ จึงตัดสินใจทำแปลงปลูกผักไร้ดินเอง ภายใต้ชื่อฟาร์ม “เแม่ริม ไฮโดรฟาร์ม” ที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ป้อนร้านอาหาร ภัตตาคาร และบรรจุแพ็กส่งขายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในราคากิโลกรัมละ 80-120 บาท วันละถึง 40 กิโลกรัม

พรพงษ์ บอกว่า เริ่มปลูกผักระบบไฮโดรโพนิกส์เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากครอบครัวชื่นชอบในการบริโภคผักเป็นอย่างมาก จึงอยากได้ผักที่ปลอดสารพิษเพื่อใช้ในการบริโภค จึงตัดสินใจเข้ารับการฝึกอบรมในการปลูกผักระบบไฮโดรโพนิกส์ หรือปลูกผักระบบไร้ดินที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่ เมื่อได้ศึกษาขั้นตอนและกระบวนการปลูกแล้วพบว่า การปลูกพืชไร้ดินไม่ยากมากนัก จึงทดลองปลูกด้วยการทำเตียงเล็กๆ ขนาดกว้าง 60 ซม. ยาว 1.20 เมตร ทำเป็นรางระบายน้ำและปลูกผักสลัดบนแผ่นโฟม

ช่วงแรกที่ทดลองปลูก พรพงษ์บอกว่า นำผลผลิตที่ได้มาไปบริโภคในครัวเรือนก่อน ที่เหลือนำไปแจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน พอทำไปได้ระยะหนึ่งมีการเพิ่มจำนวนแปลง ทำให้มีปริมาณผักสลัดที่เหลือจำนวนมาก จึงมีแนวความคิดทำการตลาดคือนำไปขายปรากฏว่า ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี จึงตัดสินใจขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มเป็น 200-300 ตารางวา ใช้เงินลงทุนกว่า 3 แสนบาท เป็นการปลูกแบบระบบน้ำลึก มีผักตระกูลสลัด อาทิ เรดคอรัล, กรีนโอ๊ค, เรดโอ๊ค, ไอซ์เบิร์ก, บัตเตอร์เฮด เป็นต้น

“การปลูกผักระบบไฮโดรไพนิกส์ระบบน้ำลึก พบว่าต้องใช้ทรัพยากรบุคคลในการดูแลเป็นจำนวนมาก อย่างของผมต้องมีคนดูแลถึง 8 คน ผมเห็นว่าเป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย จึงตัดสินใจเปลี่ยนระบบใหม่ ใช้น้ำไม่ลึกอย่างในปัจจุบันใช้คนดูแลเพียง 2 คนเท่านั้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างมาก แต่ต้องใช้เงินในการปรับปรุงระบบใหม่เป็นเงินกว่า 4 แสนบาท ซึ่งถ้ามองในระยะยาวถือว่าคุ้มค่าครับ” พรพงษ์ กล่าว

กระนั้น เจ้าของไฮโดรฟาร์ม ยอมรับว่า การปลูกผักระบบไฮโดรไพนิกส์ต้องดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมาก ต้องเข้าใจธรรมชาติของผัก อย่างของแม่ริม ไฮโดรฟาร์ม เป็นโรงเรือนแบบเปิดด้านข้าง เพื่อให้อากาศโล่งผ่านทั่วถึง จะมีผลต่อการเจริญเติบโตของผัก โดยเฉพาะการดูดซึมอาหาร พร้อมกับมีการพ่นละอองน้ำตอนกลางวัน มีการเปิดพัดลมเพื่อให้อากาศหมุนเวียนถ่ายเทได้อย่างสะดวก ซึ่งจะทำให้ผักเจริญเติบโตเป็นอย่างดี กินอาหารได้มาก และทำให้ได้น้ำหนักดีอีกด้วย

“ผักที่ฟาร์มผมปลูกเป็นผักสลัด ใช้เมล็ดพันธุ์นำเข้าจากประเทศเนเธอร์แลนด์ จึงไม่มีปัญหาเรื่องแมลงศัตรูพืชมากนัก มีบ้างเพียงเล็กน้อยแต่จะมีแมลงกินศัตรูพืชกำจัดตามกลไกทางธรรมชาติ แต่เราจะใช้น้ำหมักชีวภาพช่วยอีกทางหนึ่งด้วย จึงเป็นผักที่ปลอดสารพิษ และได้การรับรองมาตรฐานแหล่งผลิตพืชจีเอพี (GAP) จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับการรับรองอาหารปลอดภัย (FOOD SAFETY) จากกระทรวงสาธารณสุขด้วย” เจ้าของไฮโดรฟาร์ม กล่าว

ส่วนแหล่งจำหน่าย ก่อนหน้านี้เคยจำหน่ายในโรงแรมซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่เงื่อนไขการชำระเงินต้องใช้เป็นระบบเครดิต ปัจจุบันจึงไปส่งให้ร้านอาหาร ภัตตาคาร หลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมีการใส่ถุงบรรจุจำหน่ายที่คณะแพทยศาสตร์ และคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 80-120 บาท เฉลี่ยแต่ละวันจะขายวันละ 20-40 กิโลกรัม หรือเดือนละ 600-800 กิโลกรัม

“วรัทยา ไชยลังกา”

http://soclaimon.wordpress.com/category/%e0%b8%84%e0%b8%a1%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%a5%e0%b8%b6%e0%b8%81/%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%a2%e0%b8%b8%e0%b8%84%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88/


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 21/09/2010 4:07 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 20/09/2010 10:49 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)













[ihttp://www.thaimeehydrofarm.com/images/1117793578/1125358948.jpg[/img]


















http://www.google.co.th/imglanding?q=%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%8C&imgurl=http://2.bp.blogspot.com/_hloDuCeOnhM/TDB4XGIL9TI/AAAAAAAAAAM/CIw9rgePNcc/s1600/2.bmp&imgrefurl=http://skyhydrofarm.blogspot.com/&usg=__XNL7oWN3mSp-WvNMNWSvwTUloSU=&h=299&w=449&sz=38&hl=th&zoom=1&um=1&itbs=1&tbnid=DSvX7jVHp4BJAM:&tbnh=85&tbnw=127&prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%25AE%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25AA%25E0%25B9%258C%26start%3D180%26um%3D1%26hl%3Dth%26sa%3DN%26ndsp%3D20%26tbs%3Disch:1&start=185&um=1&sa=N&ndsp=20&tbs=isch:1#tbnid=DSvX7jVHp4BJAM&start=189
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 21/09/2010 7:31 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

การปลูกพืชในระบบ แอโรโพนิกส์ ( Aeroponics )

คำว่า แอโรโพนิกส์ มาจากภาษาละติน โดยคำว่าแอโรหมายถึงอากาศ ส่วนคำว่าโพนิกส์ หมายถึง การเพาะปลูก การปลูกแบบแอโรโพนิกส์ จึงหมายถึงการปลูกให้รากลอยอยู่ในอากาศ ที่มีภาชนะยึดต้นพืชโดยให้ส่วนรากแขวนลอยในอากาศ

กว่าจะมาเป็นระบบแอโรโพนิกส์ของ บริษัท ศูนย์เกษตรกรรมบางไทร จำกัด
การปลูกพืชในระบบ แอโรโพนิกส์ เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีการศึกษาวิจัยและการพัฒนากันอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีรูปแบบและระบบการทำงานที่ทันสมัยและใช้งานได้ง่ายขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับเกษตรกรและรองรับเกษตรกรรมสมัยใหม่ บริษัท ศูนย์เกษตรกรรมบางไทร จำกัด โดยคุณมัฆวาล หอสุวรรณ์ ได้คิดค้น ออกแบบและพัฒนาการปลูกพืชในระบบแอโรโพนิกส์ ให้มีความทันสมัย สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมและปัจจัยในการเจริญเติบโตของพืช เพื่อให้การปลูกพืชในระบบนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จนได้รับรางวัล 1 ใน 10 นวัตกรรมแห่งชาติ ปี 2548

ระบบแอโรโพนิกส์ทำงานได้อย่างไร
ระบบแอโรโพนิกส์เป็นระบบที่มีการหมุนเวียนน้ำและสารละลายธาตุอาหาร โดยการใช้ปั๊มอัดผ่านหัวพ่น ฉีดพ่นน้ำและสารละลายธาตุอาหารให้เป็นฝอยละเอียดเป็นระยะ ๆ บริเวณรากพืชตามระยะเวลาที่กำหนดตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า Timer เป็นตัวกำหนดระยะเวลาและจำนวนครั้งที่พ่นตามความเหมาะสมของพืชแต่ละชนิด

http://www.bangsaiagro.com/aeroponics.asp
www.bangsaiagro.com/ -
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 21/09/2010 7:37 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ก็รวยได้ !

ยังจำผัก "ไฮโดรโปนิกส์" กันได้มั้ย ธุรกิจที่คนตกงานเคย "คลั่ง" กันพักหนึ่ง แต่แล้วก็หายไป วันนี้แม่ทัพ "เอซีเค ไฮโดรฟาร์ม" มาร่วมไขคำตอบว่า ปลูกผักปลอดสารแบบไหนให้กลายเป็นธุรกิจแถวหน้าของประเทศได้

หลายคนบอกปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ "ไม่เวิร์ค" ทำแล้วมีแต่ตาย กับตาย แต่สำหรับ เอซีเค ไฮโดรฟาร์ม จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผักสลัดไฮโดรโปนิกส์ แบรนด์ Super Fresh และ ชุดปลูกระบบไฮโดรโปนิกส์ แบรนด์ Super Green ธุรกิจนี้สดใส จากเพียงพื้นที่ 1 ไร่ วันนี้ "อาณาจักร" แห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 20 ไร่ ในกรุงเทพและแปดริ้ว ด้วยกำลังการผลิตสูงระดับ 600 ตันต่อปี พร้อมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ออกมาไม่หยุดนิ่ง

นี่คือบทพิสูจน์ของความสำเร็จที่เกิดขึ้น หลังจาก "เกษมสันต์ เคียงสิริ" ลองข้ามจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่ม "เอซีเค" ที่เขาคุ้นเคย มาทดลองปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ สนองตลาดคนรักสุขภาพ

"คุณพ่อ (เกษมสันต์ เคียงสิริ) ท่านเป็นคนรักสุขภาพ มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศแล้วได้ทานผักสลัด ก็เกิดความคิดว่าทำไมบ้านเราถึงไม่ทำอย่างเขาบ้าง จึงมาคิดการทำเกษตรรูปแบบใหม่ด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์ ค่อยๆ ทดลองทำ ไปพร้อมกับค้นคว้าหาความรู้ เราเริ่มจากพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ ที่ฟาร์มอ่อนนุช เขตสวนหลวง ในปี 2542 และมาจดเป็นบริษัท เอซีเค ไฮโดรฟาร์ม จำกัด ปี 2544 ที่ผ่านมา" พัณณิดา เคียงสิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด ทายาท เอซีเค ไฮโดรฟาร์ม บอกกับเรา

จากจุดเริ่มต้นแค่ความสนใจส่วนตัว แต่เมื่อการพัฒนาไม่เคยหยุดนิ่ง ในที่สุดก็สามารถส่งผักคุณภาพดีออกสู่ตลาดได้สำเร็จ พวกเขาเริ่มจากส่งผักน้องใหม่เข้าไปอวดโฉมในโมเดิร์นเทรดต่างๆ ด้วยคอนเซปต์ สินค้าเพื่อสุขภาพ ปลูกเองในไทย ทดแทนการนำเข้าได้

คนรักสุขภาพกินผักได้อร่อยขึ้น ทั้งยังมีพัฒนาการจากกินเล่นๆ เป็นผักสลัดมาเป็นมื้ออาหาร ที่สาวๆ รักสวยแสนชื่นชอบ อิ่มเบาๆ ดีกับสุขภาพ ทำให้ผักคนเมืองไฮโซกลายเป็นผักที่แพร่หลายในที่สุด

ถ้าแค่ปลูกผักขายพวกเขาคงเป็นแค่เกษตรกรธรรมดา แต่เพราะไม่หยุดนิ่งทำให้ธุรกิจนี้ "ไม่ตัน"

ด้วยผลิตภัณฑ์หลากหลาย ผักสดพร้อมปรุง ผักสดคู่น้ำสลัด ผักสมุนไพร ภายใต้แบรนด์ Super Fresh ที่มีโรงงานแปรรูปเป็นเรื่องเป็นราว รวมทั้งผลักดันตัวเองให้ได้รับการรับรองมาตรฐานต่างๆ เพื่อรองรับการเติบใหญ่ในโมเดิร์นเทรด และการทำตลาดในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบัน Super Fresh มีจำหน่ายแล้วในเอเชียอย่าง มาเลเซีย และฮ่องกง

การผสมผสานธุรกิจปลูกผัก กับ มาร์เก็ตติ้ง ทำให้พัณณิดา มองไปอีกสเตป นั่นคือ เจาะตลาดกลุ่มคนที่ต้องการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ไว้ทานเองที่บ้าน รวมไปถึงทำเป็นธุรกิจเล็กๆ เสริมรายได้

เอซีเค ไฮโดรฟาร์ม จึงขยายบทบาทตัวเองมาสู่ การรับออกแบบและติดตั้งโรงเรือนปลูกผักด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์ จำหน่ายชุดปลูกขนาดต่างๆ มีทั้งขนาดเล็กสำหรับการปลูกเพื่องานอดิเรก และขนาดใหญ่สำหรับการเริ่มต้นปลูกเพื่อการค้า จำหน่ายอุปกรณ์การปลูกพืชพร้อมทั้งเมล็ดพันธุ์ เหล่านี้เป็นต้น

"เรามีชุดอุปกรณ์ที่ขายเป็นเซตให้กับลูกค้าทั้งชุดเล็กชุดใหญ่แล้วแต่ขนาดพื้นที่ที่ลูกค้ามี อยากปลูกผักไทยหรือผักสลัดแล้วแต่ความต้องการ สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผักไว้รับประทานเองที่บ้าน หรืออย่างร้านอาหารเพื่อสุขภาพปลูกไว้เป็นวัตถุดิบ รวมถึง คนที่ต้องการปลูกในเชิงการค้า โดยเราสามารถไปตั้งโรงเรือนให้ได้ และถ้าปลูกแล้วหาลูกค้าไม่ได้ ก็สามารถมาเป็นฟาร์มลูกข่ายป้อนผลิตผลให้กับเราได้ด้วย"

ความหลากหลายของชุดอุปกรณ์เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคทุกรูปแบบ ในราคาเริ่มต้นที่ชุดละ 4,500 บาท สำหรับผู้ที่จะปลูกเพื่อการค้า สามารถลงทุนที่ ตารางเมตรละ 1,200-1,500 บาท ในพื้นที่ 1 ไร่ ใช้เวลาคืนทุนประมาณ 3-5 ปี ขึ้นกับระบบที่ปลูก ราคาผักที่ขายได้ และประเภทของผักด้วย โดยผักที่ขายดีคือกลุ่มผักสลัด อย่าง กรีนโอ๊ค และเรดโอ๊ค สำหรับระยะเวลาในการปลูกอยู่ที่ 45 วัน

มาถึงตรงนี้คนนอกสนามอาจคิดว่าเพียงพอแล้ว แต่สำหรับพวกเขา ธุรกิจนี้ยังมีอะไรให้พัฒนาต่อไปอีกมาก โดยเฉพาะการมามุ่งสร้างแบรนด์อย่างจริงจัง เพื่อทำให้ Super Fresh กลายเป็นที่จดจำและระลึกถึงเป็นชื่อแรกๆ เมื่อผู้บริโภคต้องการผักไฮโดรโปนิกส์คุณภาพ

นอกจากการเข้าร่วมอบรมการสร้างแบรนด์กับทางสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) แล้ว เอซีเค ไฮโดรฟาร์ม ยังหาช่องทางเปิดตัวเองมากขึ้น ด้วยการร่วมในงานแสดงสินค้าต่างๆ อย่างงานบ้านและสวนที่ผ่านมา การออกบูธในห้างสรรพสินค้า การทำกิจกรรมร่วมกับโมเดิร์นเทรด การพัฒนาผลิตภัณฑ์รับสถานการณ์อย่าง ออกชุดกระเช้าปีใหม่ ชุดผักสำหรับวันเกิด ชุดเยี่ยมไข้ รวมถึงการขยายไปยังงานแต่งงาน งานอีเวนท์ ที่ต้องการฉีกไอเดีย มาใช้ผักสดประดับตกแต่งแทนดอกไม้เป็นต้น ทำให้ธุรกิจยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

พร้อมๆ กับการพยายามผลักดัน "แบรนด์" ให้เป็นที่รู้จัก เมล็ดพันธุ์ที่หยอดหว่านด้วยความมุ่งมั่น ก็สร้างดอกผลเป็นรายได้งามๆ ที่เพิ่มขึ้นทุกปี หลังจากเคยเติบโตแบบก้าวกระโดดมาแล้ว เมื่อครั้งขยายพื้นที่ปลูกจากฟาร์มอ่อนนุชที่กว่า 5 ไร่ ไปยังฟาร์มแปดริ้ว (ฉะเชิงเทรา) บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ เมื่อ 3-4 ปี ที่ผ่านมา เพิ่มกำลังการผลิตสูงถึง 50 ตันต่อเดือน หรือประมาณ 600 ตันต่อปี สำหรับปีหน้า ท่ามกลางกระแส "วัวบ้า" แต่กับ เอซีเค ไฮโดรฟาร์ม พวกเขาบอกเราว่ารายได้จะแตะที่ 100 ล้านบาท แล้ว

ก้าวย่างต่อไปของผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผักปลอดสารพิษระบบไฮโดรโปนิกส์ คือการพัฒนาตราสินค้าเกี่ยวกับผักสลัดเพื่อสุขภาพ พัฒนาสินค้าให้ตอบรับความต้องการของลูกค้า รวมถึงการสร้างและพัฒนาเครือข่ายลูกฟาร์ม บวกกับการทำวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อก้าวที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาต่อไป

นี่คือบทพิสูจน์ว่า ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ก็รวยได้

เรื่องโดย จีราวัฒน์ คงแก้ว

cheerawat @ nationgroup.com

http://www.bangkokbiznews.com/home/news/business/smes/2008/12/08/news_3509.php
www.bangkokbiznews.com/home/news/.../news_3509.php -
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©