-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ละมุดหวานสุก
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ละมุดหวานสุก

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 16/03/2010 2:02 pm    ชื่อกระทู้: ละมุดหวานสุก ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ละมุดมะกอกใหญ่ (หวานสุก)

นงลักษณ์ ทองศรีสมบูรณ์

อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.ดอนไผ่ อ.ดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี แนะทำละมุดนอกฤดูขาย ได้
ราคาดี

ละมุด ผลไม้รสหวานหอม นิยมบริโภคกันทั่วไป พื้นที่ปลูกแหล่งใหญ่อยู่ในเขตอำเภอดำเนิน
สะดวก จังหวัดราชบุรี มีแพร่หลายอยู่ 2 พันธุ์ คือ พันธุ์มะกอกใหญ่ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า พันธุ์
หวานสุก กับอีกพันธุ์หนึ่งคือ "พันธุ์มาเลย์" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "พันธุ์กระสวย" รูปลักษณะ
ทรงผลจะเป็นทรงรีคล้ายไข่ไก่ ส่วนพันธุ์หวานสุกผลจะออกกลมป้อมๆ ละมุดเป็นพืชชอบน้ำ ปลูก
ได้ทั้งในระบบพื้นที่ราบหรือยกร่องสวน

คุณนงลักษณ์ ทองศรีสมบูรณ์ เกษตรกรหญิงคนเก่งแห่งบ้านหมู่ที่ 2 ตำบลดอนไผ่ อำเภอดำเนิน
สะดวก จังหวัดราชบุรี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ที่เพิ่งจะวางมือจากการดูแลลูกบ้านเมื่อไม่นานมานี้
เอง สืบเนื่องจากหมดวาระการดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านมา 5 ปี และอายุเกิน 60 ปี จึงหมดสิทธิ์ต่อ
การเข้ามาแข่งขันเป็นผู้ใหญ่บ้านอีกครั้งหนึ่ง ทุกวันนี้ อดีตผู้ใหญ่นงลักษณ์จึงอยู่กับบ้านช่วยลูก
ชายและหลานๆ ทำสวนในที่สวนของตนเอง เนื้อที่ 14 ไร่เศษ

คุณนงลักษณ์ บอกว่า ปลูกละมุดเต็มพื้นที่ 14 ไร่ มีละมุดอยู่ราว 500 ต้น ส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์
มะกอกใหญ่ หรือพันธ์หวานสุก ละมุดแต่ละต้นอายุราว 12 ปี ปลูกมาแล้วรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 2 ทุกต้น
ให้ผลผลิตดี

"ละมุดที่สวนจะทำให้เก็บผลได้ในช่วงเดือนกันยายน จะได้ราคาดีกว่าละมุดที่ติดตามฤดูกาล เก็บ
ขายในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ซึ่งในช่วงนั้นจะมีละมุดออกมาพร้อมๆ กันมากมาย ส่งผลให้
ราคาตกต่ำ ซึ่ง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ราคาขายหน้าสวนถึงกับขาดทุนเลยทีเดียว"

คุณนงลักษณ์ กล่าวและว่า สำหรับที่สวนจะหนีไม่ให้ผลผลิตออกช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน โดย
ทำให้เก็บผลละมุดได้ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ซึ่งทำได้ไม่ยุ่งยากอะไรเลย

คุณนงลักษณ์ แนะนำต่อไปอีกว่า ก่อนอื่นช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม อากาศกำลังหนาว เป็นช่วง
ที่ละมุดพักต้น ระหว่างนี้ต้องทำให้ต้นเบาก่อน คือเก็บผลละมุดผลเล็กผลน้อยออกให้หมด จากนั้น
ก็บำรุงต้นให้ต้นสะสมอาหารให้เต็มที่ ใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยสูตรเสมอ 16-16-16 ให้แตกใบอ่อนครั้งหนึ่ง

เตรียมต้นให้สมบูรณ์จนกระทั่งเดือนมีนาคมดูว่าต้นสมบูรณ์เต็มที่ ใบเขียวเข้มเป็นมันดีแล้ว งดการ
ให้น้ำ ตากดินให้แห้ง ให้ต้นอดน้ำไม่เกิน 20 วัน ดูใบจะสลดเพราะขาดน้ำ ถึงตอนนั้นให้ใส่ปุ๋ยทาง
ดิน สูตรเสมอ อัตราส่วน 1 ต้น ประมาณครึ่งกิโลฯ ไม่ต้องมาก พอหว่านปุ๋ยเสร็จให้ขึ้นน้ำทันทีจน
ดินชุ่ม แล้วเว้นระยะ 2 วัน ขึ้นน้ำที ใบจะสดใสขึ้นมา ไม่ช้าต้นก็จะแตกใบและติดตาดอกให้เห็น
ก่อนดอกบานฉีดยาป้องกันแมลงหวี่ขาว ยาควบคุมหนอน และป้องกันเชื้อรา ผสมฉีดให้ทั่ว
ประมาณ 2 ครั้ง หลังดอกบานงดการใช้ยา จนกระทั่งละมุดติดผลเล็กๆ คราวนี้ต้องฉีดยาครอบ
จักรวาลคุมหนอนคุมแมลงทุก 7 วัน ไปเรื่อยๆ

จนกระทั่งผลใหญ่ขนาดผลมะยม จึงค่อยๆ ห่างยา แต่ก็ต้องคุมเป็นระยะ ป้องกันไม่ให้หนอนหรือ
แมลงลงเจาะผล จนกระทั่งผลใหญ่ขนาดหัวแม่มือจึงจะปลอดภัย

สำหรับฮอร์โมนบำรุงดอก บำรุงผล ก็ต้องให้ทุกระยะของการเจริญเติบโต ทางดินต้องเปลี่ยนสูตร
ปุ๋ยตามการเจริญเติบโต พอผลโตก็ให้ปุ๋ยหว่านครั้งหรือสองครั้งก่อนเก็บ หากมีฝนตกฉีดฮอร์โมน
ไม่สะดวกก็ให้ปุ๋ยเกล็ดบ้าง

"เกษตรกรดำเนินสะดวก เป็นนักเคมีกันทุกคน มีอะไรๆ ผสมปนเปกันไปหมด หากจะถามว่าต้อง
ใช้ยาสูตรอะไรบ้าง คงบอกไม่ได้ เพราะว่าลูกชายฉันเขาเป็นนักเคมี ผสมโน่นผสมนี่ เอายาสูตรนั้น
สูตรนี้มาผสมปนเปกัน แล้วฉีดป้องกันแมลงศัตรูทำลายทั้งดอก ทั้งผล แถมด้วยฮอร์โมนสูตร
ต่างๆ อีก ก็เลยบอกไม่ได้ว่าเป็นสูตรอะไร เพราะมันผสมปนเปกัน"

คุณนงลักษณ์ กล่าวอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับบอกต่ออีกว่า ลูกชายฉันเขาก็เป็นนักเคมี เที่ยวไปคุย
กับเพื่อนบ้านที่ทำสวนด้วยกัน แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน เกษตรกรย่านนี้ดีหน่อยที่ไม่ปิดบัง
เรื่องของการใช้ยา ใช้ปุ๋ย เราจึงสามารถ่ายทอดความรู้ซึ่งกันและกันนำมาใช้ในสวนได้ อีกทั้งตัว
เองก็ต้องมีการประยุกต์ใช้กับสวนของเราด้วย

สำหรับการปลูกละมุดนั้นไม่ยุ่งยากเลย ใช้กิ่งตอนปลูกจะเหมาะกว่า คุณนงลักษณ์ บอกว่า ขุดหลุม
ให้ใหญ่สักหน่อย รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก เอากิ่งพันธุ์ลงปลูก รดน้ำสม่ำเสมอ พอต้น
แข็งแรงใส่ปุ๋ยทางดินน้อยๆ ใช้สูตรเสมอก็ได้สะดวกดี ให้ปุ๋ย 3 เดือนครั้ง จนกระทั่งต้นเติบโตเต็มที่

ละมุดถ้าได้น้ำสม่ำเสมอ ได้ปุ๋ยบำรุงเต็มที่ ต้นจะโตเร็วมาก เพียงแค่ 3 ปี ก็ให้ผลผลิตแล้ว แต่ยัง
ไม่เต็มที่ เข้าปีที่ 4 ละมุดจะเริ่มติดดกขึ้น จะไปให้ผลผลิตดีก็ช่วงปีที่ 5-6 ถึงคราวนี้ต้องบำรุงต้น
ก่อนติดดอกออกผล หลังเก็บผลผลิตแล้ว ตัดแต่งกิ่งใส่ปุ๋ย พักต้นให้ต้นสะสมอาหารจนเต็มที่จึง
รดน้ำ แล้วก็ขึ้นน้ำอีกที ละมุดก็จะติดดอกออกผลอีกรุ่นหนึ่ง หากจะให้ละมุดติดผลนอกฤดูก็ให้
เตรียมต้นช่วงวันเวลาดังกล่าวข้างต้น

คุณนงลักษณ์ กล่าวต่อไปอีกว่า พอเก็บผลลงมาจากต้น ก็ยังต้องมาผ่านพิธีการล้างผลกันก่อน
โดยการนำผลมาใส่ใน "กร๊อ" ภาชนะทรงกลมทำด้วยตาข่ายหรือไม้ตีแนวขวางโดยรอบ ติดตั้งแช่
ไว้ในน้ำครึ่งหนึ่ง เอาผลละมุดใส่ลงไปในกร๊อ ติดเครื่องมอเตอร์ ให้มอร์เตอร์หมุนกร๊อ ละมุดที่อยู่
ในกร๊อจะกลิ้งหมุนล้างน้ำจนสะอาด ในกร๊อสามารถใส่ละมุดล้างได้ประมาณ 200 กิโลกรัม หมุน
กร๊อในน้ำประมาณ 5 นาที จึงเอาผลละมุดที่ล้างน้ำแล้วออกมา ย้อมสีโดยตักละมุดในกร๊อออกมา
ด้วยสวิงตาข่ายหนาจุ่มในน้ำผสมสีย้อมละมุด แล้วนำลงในรางไม้เพื่อคัดละมุด

จากนั้นก็ใช้มือคัดแยกละมุดใส่ตระกร้าส่งขาย ละมุดที่เก็บออกมานี้ยังสุกไม่เต็มที่ จะต้องบ่มอีก
2 คืน จึงจะใช้ได้

คุณนงลักษณ์ บอกว่า ลูกชายอีกคนหนึ่งมีแผงขายผลไม้ที่กรุงเทพฯ เขามีลูกค้ามารับซื้อต่ออีก
ช่วงหนึ่ง ลูกค้าบางรายก็ต้องการละมุดดิบๆ อย่างนี้ เขาจะเอาไปบ่มเองหรือขาย ก็จะบอกลูกค้าว่า
จะต้องบ่มต่อ หรือบางรายก็ต้องการละมุดบ่มสามารถรับประทานได้เลย เราก็จะแยกเอาไว้บ่ม
ก่อน ขายตรงนี้อยู่ที่ผู้ซื้อว่าต้องการละมุดดิบหรือบ่มสุกแล้ว

ละมุดจากสวนจะส่งขายไปทั่วประเทศ ส่วนเรื่องของราคาละมุดนั้น คุณนงลักษณ์ บอกว่า หากทำ
ให้เก็บผลได้ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ ก็ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไร ปีนี้ราคาพอไปได้ แต่ 2-3
ปี ที่ผ่านมา ละมุดช่วงฤดูกาลคือ เก็บผลตอนเดือน เมษายน-พฤษภาคม ราคาตกถึงกับขาดทุน
ละมุดถ้าขายต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4 บาท จากหน้าสวน ก็ขาดทุนแล้ว ที่ผ่านๆ มาชาวสวนแย่ไปตามๆ
กัน สาเหตุหนึ่งก็คือ ราคาปุ๋ย ราคายาเคมีแพงมาก

คุณนงลักษณ์ บอกว่า ละมุดสามารถปลูกได้ทั่วไป แต่ต้องมีข้อแม้ว่าดินต้องดี มีน้ำอุดมสมบูรณ์
สามารถบังคับน้ำได้ ก็สามารถปลูกละมุดให้ผลดีได้ ปลูกละมุดต้องใกล้แหล่งน้ำ หากปลูกระบบไร่
ผลผลิตที่ออกมาจะต่างไปจากละมุดสวนแถบดำเนินสะดวก ละมุดจากสวนดำเนินฯสะดวกเนื้อจะ
ละเอียดหวานหอม และกรอบ ส่วนละมุดจากพื้นที่ไร่เนื้อจะออกหยาบเป็นเนื้อทราย ทั้งๆ ที่เป็น
ละมุดพันธุ์เดียวกัน แต่พื้นที่ปลูกต่างกัน เนื้อละมุดจะออกมาไม่เหมือนกัน

คุณนงลักษณ์ กล่าวอีกว่า ใครๆ มักถามว่า ทำไม ต้องย้อมสีละมุดด้วย เกษตรกรชาวสวนละมุดก็
สงสัยเหมือนกันว่าผู้บริโภคทำไมไม่ยอมรับละมุดที่ไม่ย้อมสี เกษตรกรเองไม่อยากเสียเงินไปซื้อ
สีย้อมละมุดมาย้อมหรอก ราคาค่าสีย้อมละมุดหนึ่งกิโลฯ ราคาพันกว่าบาทแล้ว ไม่ใช่ถูกๆ

ละมุดที่ไม่ย้อมสีผิวเปลือก ผลจะออกสีน้ำตาลขาว ดูไม่สวย ถ้านำมาวางคู่กับละมุดย้อมสี ผู้คน
ร้อยทั้งร้อยจะเลือกละมุดสวยที่ย้อมสี ในเมื่อผู้บริโภคต้องการละมุดสวย ผู้ขายก็ต้องทำละมุด
สวยๆ ขายเช่นกัน ดังนั้น เกษตรกรจึงต้องผลิตละมุดสวยย้อมสีออกขายด้วยเหตุฉะนี้

สำหรับเกษตรกรรายใดสนใจในเรื่องของละมุด หรือจะซื้อไปขาย ไปดูงาน เชิญโทร. คุยกับ คุณ
นงลักษณ์ ได้ที่ โทร (081) 704-4194 เจ้าตัวบอกยินดีต้อนรับทุกท่าน...เชิญนะ เจ้าคะ


ที่มา : เทคโนโลยีชาวบ้าน
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©