-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 29 พ.ย. * ผักอินทรีย์ ไม่ปุ๋ยเคมี ไม่สารเคมี
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 29 พ.ย. * ผักอินทรีย์ ไม่ปุ๋ยเคมี ไม่สารเคมี

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 28/11/2022 4:32 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 29 พ.ย. * ผักอินทรีย์ ไม่ปุ๋ยเค ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรประจำวัน 29 พ.ย.

***********************************************************************
สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง ที่เคารพ
กองทัพบก เพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม “.. ? ..”
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย-ยา-ไฟฟ้า-เวลา-ค่าแรง-ค่าที่-อารมย์-เทคนิค-เทคโนฯ-โอกาส-ตลาด-ต้นทุน
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ
เช่นเคย รายการเรา....
*** 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว-สายตรง ที่ (081) 913-4986, ....
*** FB วีระ ใจหนักแน่น, ....
*** อินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิม ดอทคอม .... เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า
ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

รายการวิทยุ :
*** AM 594 ปตอ. เวลา 0815-0900 จันทร์-ศุกร์ คลื่นนี้ครอบคลุมพื้นที่ 40+ จังหวัด ***

งานสัญจรปกติตามวงรอบ :
* วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน ....... ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สองของเดือน ..... ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สามของเดือน ..... ไปวัดท่าตำหนัก เพชรเกษม แยกนครชัยศรี นครปฐม,
* วันเสาร์ของสัปดาห์ที่สี่ของเดือน ........ ไปวัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปา ถ.วงแหวนตะวันตก
* เดือนที่มี 5 เสาร์ เสาร์ที่ 5 ของเดือน ... ไปวัดทุ่งสะเดา แปลงยาว ฉะเชิงเทรา
** ถึงจุดนี้ เกษตรกรอยากให้งานสัญจรไปลง ที่ไหนก็ได้ ติดต่อมา พูดคุยกันในรายละเอียด

*** วันจันทร์ ทุกวันจันทร์ เฉพาะวันจันทร์ สมช.สีสันชีวิตไทย “คุณล่า” (081) 944-8494 ไปที่ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสะดวก ราชบุรี พร้อมกับ ระเบิดเถิดเทิง. ไบโออิ. ไทเป. ยูเรก้า. ยาน็อค. กับหนังสือหัวใจเกษตรไทย มินิ ไปจำหน่าย....
*** ด้วยประสบการณ์ร่วม 20 ปี พบเห็นทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวมามากมาย ใครสนใจใคร่รู้ก็ไปคุยกัน แล้วจะรู้ว่า อ้อออ เป็นอย่างนี้นี่เอง....

*** งานสีสันสัญจรวันเสาร์ เสาร์นี้วันที่ 3 ธ.ค. ลุงคิม กับ อ.ณัฐ (086) 983-1966 สมุนไพรสำหรับคน
ไปวัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี....
*** งานนี้ ซื้อหนังสือหัวใจเกษตรไท มินิ 1 เล่ม แถม ไม้ผลแนวหน้า 1 เล่ม....


***********************************************************************
***********************************************************************

จาก : 08 471x 398x
ข้อความ : ผักอินทรีย์ ไม่ปุ๋ยเคมี ไม่สารเคมี สูตรผู้พันครับผม

MOTIVATION แรงบันดาลใจ :

รายงานภาคเกษตรอินทรีย์โลกประจำปี 2563 :

ด้วย สื่อออนไลน์ IHS Markit ซึ่งเป็นสื่อชั้นนำของสหภาพยุโรปได้เผยแพร่รายงานสรุปสถานการณ์ภาคเกษตรอินทรีย์โลกประจำปี 2563 เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 โดยรายงานดังกล่าวจัดทำโดยสถาบันวิจัยด้านเกษตรอินทรีย์ (Research Institute on Organics Agriculture : FiBL) สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

- ในปี 2563 ภาคเกษตรอินทรีย์มีอัตราการเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ยังไม่สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ Farm to Fork (F2F) คือการเพิ่มการทำเกษตรอินทรีย์ให้ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกให้ได้ 1 ใน 4 ของพื้นที่การเกษตรทั้งหมดของสหภาพยุโรป ภายในปี 2573

- ตลาดอินทรีย์ของสหภาพยุโรปเติบโตขึ้น 15.1% หรือประมาณมูลค่า 44.8 พันล้านยูโร ซึ่งสหภาพยุโรปเป็นตลาดที่มีความต้องการสินค้าอินทรีย์มากเป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา

- ในปี 2564 เยอรมนีมียอดจำหน่ายอาหารอินทรีย์สูงที่สุดในสหภาพยุโรปโดยเติบโตขึ้น 6% คิดเป็นมูลค่า 15 พันล้านยูโร รองลงมาคือฝรั่งเศส 12.7 พันล้านยูโร และอิตาลี 3.9 พันล้านยูโร ทั้งนี้ พื้นที่เกษตรอินทรีย์ในสหภาพยุโรปยังคงมีการขยายเพิ่มขึ้นเป็น 14.9 ล้านเฮกตาร์ แม้ว่าอัตราการเพิ่มมีแนวโน้มลดลงกว่าในปี 2563 และ 2562 ทั้งนี้ IHS Markit ระบุว่า เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ Farm to Fork (F2F) ในการมีพื้นที่เกษตรกรรมอินทรีย์เท่ากับ 25% ของพื้นที่เกษตรกรรมทั้งหมดในสหภาพยุโรปให้ได้ภายในปี 2573 นั้น สหภาพยุโรปจะต้องมีอัตราการขยายตัวการทำเกษตรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 10% ต่อปี

- เมื่อเดือนมีนาคม 2564 คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศการจัดทำแผนปฏิบัติการอินทรีย์ของสหภาพยุโรป ซึ่งประกอบด้วย 23 มาตรการ เพื่อส่งเสริมภาคอาหารอินทรีย์ อย่างไรก็ตาม ผู้กำหนดนโยบายบางกลุ่มในสหภาพยุโรปยังคงตั้งข้อสังเกตว่าแผนดังกล่าวอาจไม่สามารถส่งเสริมการบริโภคอาหารอินทรีย์ได้เพียงพอ และอาจทำให้เกษตรกรสูญเสียรายได้

- ปัจจุบันไทยสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์อินทรีย์มายังสหภาพยุโรปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าพืช ผัก ผลไม้สดและแปรรูปอินทรีย์ ถือเป็นสินค้าที่มีโอกาสในตลาดสหภาพยุโรป ซึ่งต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานตรวจสอบรับรองเกษตรอินทรีย์ (Control Body) ที่ได้รับการรับรองให้ดำเนินการตรวจสอบรับรองในไทยจากสหภาพยุโรป อาทิ สำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (มกท.) ของไทย Ecocert ของฝรั่งเศส และ CCPB ของอิตาลี และล่าสุดมีหน่วยงานตรวจรับรองภาคเอกชน (Control Body) 3 ราย ที่ได้รับการอนุญาตให้ตรวจสอบรับรองสินค้าเกษตรอินทรีย์จากไทย ได้แก่ (1) Bio.inspecta AG (2) NASAA Certified Organic Pty Ltd และ (3) SRS Certification G



ผักอินทรีย์ PURE-PURE :
หลักการและเหตุผล :

ปุ๋ย-ธาตุอาหาร-สารอาหาร ทั้ง 3 คำนี้คือ สิ่งเดียวกัน หมายถึงสิ่งที่พืชใช้เพื่อการดำรงชีวิต ประกอบด้วย ธาตุหลัก-ธาตุรอง-ธาตุเสริม-ฮอร์โมน และอื่นๆ....แบ่งประเภทหรือชนิดได้เป็น 2 คือ อินทรีย์ (ธรรมชาติ) กับ สังเคราะห์ (เคมี)

การจะ "รับ" หรือ "ปฏิเสธ" อย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียวระหว่าง อินทรีย์ กับ เคมี นั้นสามารถทำได้ แต่เมื่อต้องการให้พืชมีพัฒนาการที่ดีจึงจำเป็นต้องให้และต้องให้ในปริมาณที่พอเพียงด้วย

กรณีที่เราต้องการปฏิเสธ "ปุ๋ยเคมี" อย่างเด็ดขาด ก็ต้องใช้ "ปุ๋ยอินทรีย์" แทน และการแทนก็จะต้องแทนอย่างเหมาะสม ถูกต้อง ตรงตามความต้องการของพืช อย่างแท้จริง มิเช่นนั้น พืชหรือผักที่ปลูกก็จะไม่เจริญเติบโต แคระแกร็น ไม่มีคุณภาพ ไม่เป็นที่ต้องการของตลาดหรือขายไม่ออกเลย ถึงขนาดบางครั้งเจ้าของหรือคนปลูกยังไม่อยากกินด้วยซ้ำ

ทำเล :
ห่างไกลแหล่งมลภาวะ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม, โรงไฟฟ้า, คอกปศุสัตว์ที่ใช้สารสังเคราะห์ (ฮอร์โมน-ยา-ฯลฯ), แปลงเพาะปลูกพืชด้วยระบบเคมี, แปลงปลูกพืชตัดแต่งพันธุกรรม (จีเอ็มโอ).

น้ำ :
เป็นน้ำธรรมชาติที่ปราศจาการเจือปนสารพิษ เช่น น้ำเสียจากครัวเรือน. น้ำจากเหมืองแร่, น้ำจากคอกปศุสัตว์ที่ใช้สารสังเคราะห์, น้ำที่ไหลผ่านมาจากแปลงเกษตรระบบเคมี, น้ำที่ไหลผ่านมาจากกองขยะ,

ปุ๋ยอินทรีย์ :
ปุ๋ยคอก :
ใช้มูลสัตว์ประเภทเลี้ยงปล่อยหากินอิสระ ไม่มีโรคระบาด ไม่กินฮอร์โมนสังเคราะห์ ตากแห้งเก็บนานข้ามปี ใช้มูลสัตว์กินพืช (เพื่อให้ได้ธาตุไนโตรเจน) และมูลสัตว์ปีก (เพื่อให้ได้ธาตุฟอสฟอรัสและโปแตสเซียม) ที่พักสัตว์ต้องไม่มีการใช้โซดาไฟฆ่าเชื้อโรคหรือดับกลิ่น

ปุ๋ยพืชสด : เลือกใช้พืชตระกูลถั่วเพื่อให้ได้ธาตุไนโตรเจนมากๆ เป็นพืชที่ไม่ผ่านการบำรุงด้วยปุ๋ยเคมี ฮอร์โมนสังเคราะห์ และไม่ผ่านการให้สารเคมีฆ่าแมลง แห้งหมักนานข้ามปี เพื่อให้ได้ธาตุอาหารหลากหลายควรใช้ทุกส่วนของพืชต่างๆ เช่น หัว ราก ต้น ใบ ดอก ผลดิบ ผลสุก

หมายเหตุ :
เทคนิคการทำปุ๋ยอินทรีย์เพื่อให้ได้ ชนิดและปริมาณ ธาตุอาหารมากๆ ควรใช้วัสดุส่วนผสม หลายๆประเภท หลายๆอย่าง หลายๆชนิด เช่น

ปุ๋ยคอก : มูลวัว/ควาย/หมู/แพะ. มูลไก่/นกกระทา/เป็ด/ค้างคาว.
เศษซากพืช : ฟาง. ต้นถั่ว. เปลือกถั่ว. ขุยมะพร้าว. แกลบดิบ/ดำ. รำหยาบ/ละเอียด.
อื่นๆ : น้ำมะพร้าว. นมสด. น้ำซาวข้าว. น้ำผักดอง. น้ำล้างชาม. น้ำล้างเขียงทำปลาสด. สาโท. เศษอาหารจากครัวเรือน. มูลวัว/หมู สดใหม่ขณะตั้งท้อง. ขี้เพี้ยในลำไส้เล็กวัว/ควาย.

จุลินทรีย์ :
จุลินทรีย์เพื่อการเกษตรที่ดีที่สุด คือ จุลินทรีย์ประจำถิ่น (ฟูกูโอกะ) เทคนิคการทำกองปุ๋ยอินทรีย์ ณ ใจกลางแปลงเกษตร เพื่อเปิดโอกาสให้จุลินทรีย์ภายในแปลงบริเวณรอบข้างหรือใกล้เคียงกองปุ๋ยอินทรีย์ เข้าไปอยู่ในกองปุ๋ยอินทรีย์แล้วเจริญพัฒนาอยู่ในกองปุ๋ยอินทรีย์นั้น เมื่อนำปุ๋ยอินทรีย์ใส่กองนี้ไปใช้ในแปลง จึงเท่ากับส่งจุลินทรีย์ในกองให้กลับไปอยู่ยังที่เดิม ข้อดีก็คือ จุลินทรีย์กลุ่มนี้ไม่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่อยู่ใหม่ เมื่อลงไปอยู่ในดินแล้วสามารถเจริญพัฒนาต่อได้เลยนั่นเอง

เทคนิคการบำรุงจุลินทรีย์ประจำถิ่น.... ใช้กากน้ำตาลต้มร้อน 70 องศาเซลเซียส นาน 1 ชม. เพื่อขจัดสารปนเปื้อนจากกระบวนการทำน้ำตาลทรายซึ่งติดมากับกาดน้ำตาลนั้น ต้มแล้วปล่อยให้เย็น.... ใช้งาน : กากน้ำตาลต้มแล้ว 40 ซีซี./น้ำ 20 ล. ฉีดพ่นลงดินในแปลง กากน้ำตาลตัวนี้จะไปเป็นอาหารแหล่งพลังงานแก่จุลินทรีย์ดั้งเดิมที่แฝงตัวอยู่ในเนื้อดินให้เจริญพัฒนาขึ้นเองตามธรรมชาติ

จุลินทรีย์ภายนอก หมายถึงจุลินทรีย์ที่มีจำหน่ายตามท้องตลาด หรือจุลินทรีย์ของ พด. ที่เกษตรกรนำมาใช้ ได้แก่ จุลินทรีย์ในกองปุ๋ยหมักอินทรีย์. จุลินทรีย์ในถังหมักน้ำหมักชีวภาพ. การใช้จุลินทรีย์ประเภทนี้ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจมีจุลินทรีย์ชนิดเชื้อโรคแฝงเข้าไปอยู่ในกองหรือในถังได้

การนำจุลินทรีย์ต่างถิ่นมาใช้ แม้จะเป็นจุลินทรีย์ดีมีประโยชน์ เมื่อจุลินทรีย์พวกนี้ลงไปอยู่ในแปลงซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ใหม่แล้ว จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ แต่เนื่องจากจุลินทรีย์เป็นสัตว์เซลล์เดียว มีความแข็งแรงน้อยมาก อาจปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมของแหล่งที่อยู่ใหม่ไม่ได้หรือไม่ทัน จุลินทรีย์พวกนี้ก็ต้องตาย

พันธุ์ :
ไม่ใช่พืชตัดแต่งพันธุกรรม (จีเอ็มโอ), ควรเน้นพืชพื้นเมืองมากว่าพันธุ์ลูกผสม,

น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง :
ส่วนผสม :
กุ้งหอยปูปลาทะเล. กากน้ำตาล(ต้ม).น้ำมะพร้าว. สับปะรด. เลือด. นม. ไข่. ไขกระดูก. ขี้ค้างคาว.

เตรียมดิน :
(1) ไถดิน ขี้ไถขนาดใหญ่ ตากแดดจัด 15 แดด ถ้าฝนตกให้ไถใหม่เริ่มนับ 1 ตากแดดใหม่
(2) ใส่อินทรีย์วัตถุ "ปุ๋ยอินทรีย์ ขี้วัวขี้ไก่. แกลบเก่า. รำละเอียด." ผสมเข้ากันแล้วหว่านทั่วแปลง
(3) ไถพรวน ปรับสันแปลงให้เป็นหลังเต่า
(4) คลุมหน้าแปลงด้วยฟางหรือหญ้าแห้งหนาๆ
(5) รดด้วย "น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง" รอบที่ 1 ทิ้งไว้ 7-10 วัน
(6) รดด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง รอบที่ 2 ก่อนลงกล้า 1-2 วัน
(7) โครงสร้างดินชื้นสม่ำเสมอแต่ต้องไม่อุ้มน้ำ

หมายเหตุ :
- ระยะเวลาให้น้ำหมักระเบิดเถิดเทิงจากรอบที่ 1 ถึงรอบที่ 2 เป็นการบ่มดิน เพื่อให้เวลาแก่จุลินทรีย์เข้าทำการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุและปรับสภาพดิน

- น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิงหมักนานข้าม 1-2-3 ปี ส่วนผสมทุกอย่างเป็น "อินทรีย์" แท้ๆ
- ปุ๋ยอินทรีย์แห้งหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง (ส่วนผสมของน้ำหมักระเบิดเถิดเทิง + อินทรีย์วัตถุ) หมักนานข้ามปี ดีที่สุด

- น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิงสูตรดังกล่าวข้างต้นมีสารอารแต่ละตัวระดับกลางๆ ซึ่งเหมาะสำหรับปรับปรุงบำรุงดินโดยเฉพาะ แต่หากต้องการใช้กับผักกินใบก็ต้องปรับสูตร โดยเพิ่มเลือด. นม. มากขึ้นจากปกติ 25-50% และหากต้องการใช้กับผักกินผลก็ต้องปรับสูตร โดยเพิ่มขี้ค้างคาว. ไข่. 25-50% เช่นกัน

เตรียมเมล็ดพันธุ์ :
- แช่เมล็ดในน้ำหมักชีวภาพระบิดเถิดเทิง 3-6 ชม.
- แช่ครบกำหนดเวลาแล้วนำขึ้นผึ่งลมให้แห้ง เมื่อแห้งแล้วนำไปหว่านในแปลงเพาะกล้าได้เลย

ฮอร์โมน :
- ฮอร์โมนธรรมชาติ ได้แก่ น้ำมะพร้าวแก่+อ่อน, น้ำคั้นไชเท้า+น้ำคั้นเมล็ดเริ่มงอก, น้ำคั้นผักที่ปลูกให้แก่ผักที่ปลูก, น้ำคั้นเมล็ดอ่อนข้าวโพดหวาน, น้ำคั้นข้าวน้ำนม. นมเหลืองแม่วัว,

- ฮอร์โมนธรรมชาติอื่นๆ ได้แก่ น้ำเต้าหู้. น้ำมูลวัว/หมูตั้งท้องสดใหม่. น้ำล้างเขียงทำปลา. เลือดสด. น้ำนึ่งปลาทะเล. น้ำหอยเผา. น้ำคั้นผล/เมล็ดอ่อน.

ฮอร์โมนพืชสด :
วิธีทำและวิธีใช้ :

(1) เลือกผักกินใบ ต้นสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคแมลง ใช้ทั้งต้น เก็บตอน ตี.5
(2) เก็บมาแล้วไม่ต้องล้างน้ำ เพียงสลัดเศษดินออก
(3) นำเข้าเครื่องปั่นแบบแยกกากแยกน้ำ (จุ๊ยเซอร์)ทันที ใช้ส่วนที่เป็นน้ำ
(4) การเก็บและการปั่นในเครื่องปั่นควรทำในที่มืด
(5) น้ำค้นที่ได้เก็บในภาชนะทึบแสง
(6) นำเก็บในตู้เย็น
(7) อัตราใช้ : น้ำคั้นผักสด 100-200 ซีซี./น้ำ 20 ล.ให้ตอนมืดหรือไม่มีแสงแดดเท่านั้น

เหตุผล : เพราะฮอร์โมนธรรมชาติไม่สู้แสง ยูวี. (แสงอาทิตย์)
การบำรุง
- ให้ "น้ำ 100 ล.+ น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 50 ซีซี." ทุกวัน ช่วงหลังค่ำ
- ให้ "ฮอร์โมนธรรมชาติ" ที่เหมาะสมกับผักที่ปลูก 2-3 อย่างแบบสลับกัน ทุกวันเว้นวัน ช่วงหลังค่ำ
- ให้ "น้ำ 100 ล.+ เลือดไก่สดใหม่ 100-200 ซีซี." 2-3 ครั้ง ตลอดอายุผัก (ตั้งแต่ยืนต้นได้ถึงเก็บเกี่ยว) จะช่วยให้ได้น้ำหนักเพิ่มขึ้น 20-25% (อ.สุวรี จันทร์กระจ่าง / สถาบัน เอไอที)

- ให้ "น้ำ 100 ล.+ น้ำเมือกไส้เดือน (ไส้เดือนเป็นๆ แช่น้ำ 1 คืน)10 ล." จะช่วยให้ผักกินใบเขียวสดดี
- ให้ "น้ำ 100 ล.+ น้ำเมือกปลา (ปลาเป็นแช่น้ำ 1 คืน) 10 ล." จะช่วยให้ผักกินใบแตกยอดใหม่ ใบใหญ่ เขียวเข้มดี (น้ำเมือกปลามี N มากกว่ายูเรียเท่าตัว / ดร.สุรยา ศาสนรักกิจ / วว.)

- ให้ "น้ำ 100 ล.+ น้ำตาลสดจากงวงตาลหรือจั่นมะพร้าวหรือน้ำอ้อยคั้น 100-200 ซีซี." จะช่วยให้ผักกินผล ออกดอกดี

------------------------------------------------------------------------------------------------


.



กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©