-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 2 MAR... * น.ร. รายงาน "วัชพืชนาข้าว"
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 2 MAR... * น.ร. รายงาน "วัชพืชนาข้าว"

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 02/03/2020 6:27 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 2 MAR... * น.ร. รายงาน "วัชพืชนาข ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 2 MAR
AM 594 เวลา 08.15-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม ..

ผลิตรายการโดย....
กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม “..?..”
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ

สนับสนุนรายการโดย ....
* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช .... (02) 322-9175-6
* ยิบซั่มธรรมชาติ .... เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์แม็กซ์, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ เช่นเคย รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ที่ (081) 913-4986 โทรศัพท์เข้ารายการคุยกันสดๆ ออกอากาศ สร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน (02) 888-0881 และอินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิมดอทคอม เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศรัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

ผู้สนับสนุนรายการ ....
* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช .... ใบมีดจดทะเบียนลิขสิทธิ์ ย่อยเศษพืชตั้งแต่ขนาด เท่าปลายก้อยถึงครึ่งหน้าแข้ง ย่อยฟางใส่ทีละฟ่อน เครื่องจะดูดเข้าไปเอง ไม่ต้องคอยป้อนทีละน้อยๆ .... เครื่องย่อยของที่นี่ส่งออก มาเลเซีย อินโดเนเซีย เป็นว่าเล่น .... ทำปุ๋ยอินทรีย์ ชนิด แห้ง/น้ำ ที่มีส่วนผสมองค์ประกอบ อินทรีย์-เคมี-ฮอร์โมน-วิตามิน-ชีวภาพ-ยา ตามความเหมาะสมของพืช ของปัจจัยพื้นฐาน ของหัวใจเกษตร ..... (02) 322-9175-6

* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส ออร์เดอร์จาก ออสเตรเลีย แคนนาดา อเมริกา +Mg. Zn. เคมี, ออร์เดอร์จากเกาหลี ให้ +Cu เคมี อย่างละ 5% .... เทคโนโลยีการปรับปรุงดินวันนี้ ทั่วโลกยิบซั่มทั้งนั้น .... ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ คุณภาพผลผลิตจะดี สีสวยสด รสจัดจ้านได้ ด้วยธาตุรอง/ธาตุเสริม .... (089) 144-1112

งานสัญจรตามวงรอบ ....
- วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี,
- วันเสาร์ของสัปดาห์สองของเดือน ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
- วันเสาร์ของสัปดาห์สามของเดือน ไปที่วัดท่าตำหนัก ถ.เพชรเกษม (ขาล่อง) ก่อนถึงแยกนครชัยศรี นครปฐม,
- วันเสาร์ของสัปดาห์สี่ของเดือน ไปที่วัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ บางกรวย นนทบุรี ถ.วงแหวนตะวันตก กาญจนาภิเษก

งานสีสันสัญจร :
วันจันทร์ เฉพาะวันจันทร์วันเดียว สมช.สีสันชีวิตไทย “คุณล่า” ออกงานวัดอมรญาติ ดำเนินสะดวก ราชบุรี มีไบโออิ. ยูเรก้า. ไทเป. หัวโต. ระเบิดเถิดเทิง. ยาน็อค. มีหนังสือ “หัวใจเกษตรไท มินิ” ไปโตยยยย ... ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี พบทั้งงานพบทั้งคน ทำเกษตรคนไม่ได้ทำเกษตร มากมาย ทั้งไกล้ทั้งไกล มีทั้งล้มเหลวทั้งสำเร็จ เอาเรื่องพวกนี้มาคุยกัน คุยกันแล้ว คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ แล้วเอาไปทำไปใช้หรือที่เรียกว่า “ต่อยอด ขยายผล” ให้กันและกัน .... (081) 944-8494

- งานสัญจรตามวงรอบ วันเสาร์นี้ วันเสาร์ของสัปดาห์แรกของเดือน ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประ จันต์ สุพรรณบุรี, ลุงคิมเอาปุ๋ยไปขาย ไบโออิ, ไทเป. ยูเรก้า. หัวโต. สมุนไพรยาน็อค, เถ้าแก่ไปเอง ทำเอง ขายเอง ขายตรงคนใช้ ไม่ผ่านเอเย่นต์ตัวแทนจำหน่าย .... งานนี้เอากับดักแมลงวันทอง แจก ! แถม ! สารพัดแบบ สารพัดเวอร์ชั่น เลือกเอา 1อัน 2อัน 4อัน ไม่หวง เอาไปพิสูจน์ด้วยตัวเองว่า ใช้ได้ผล เอาไปให้หลานออกแบบทำกับดักแมลงวันทองรุ่นใหม่ล่าสุดซี่ ดีนะ.... พูดถึงกับดักแมลง เฉพาะแมลงศัตรูพืช

สัญจรแต่ละครั้งแต่ละที่ สมช.ที่มา มีปัญหาอะไร เอามาคุยกัน พูดคุยถามตอบกันแบบ FACE TO FECT MOUTH TO MOUTH .... ได้ทำ ทำถูกต่อยอด-ทำผิด = ไม่ได้อะไร ... ไม่ได้ทำ = ไม่ได้อะไร แก้ไขยังไง....

- ลุงคิมไปโตยย เอาปุ๋ยไปขาย ไบโออิ, ไทเป. ยูเรก้า. หัวโต. สมุนไพรยาน็อค, เถ้าแก่ไปเอง ทำเองขายเอง ลดระเบิดระเบ้อ .... งานนี้เอากับดักแมลงวันทอง แจก ! แถม ! สารพัดแบบ สารพัดเวอร์ชั่น เลือกเอา 1อัน 2อัน 4อัน ไม่หวง เอาไปพิสูจน์ด้วยตัวเองว่า ใช้ได้ผล เอาไปให้หลานออกแบบทำกับดักแมลงวันทองรุ่นใหม่ล่าสุดซี่ ดีนะ .... พูดถึงกับดักแมลง เฉพาะแมลงศัตรูพืช

* แมลงวันทองหลงกลิ่น ไม่หลงสีไม่หลงแสง
* แมลงอย่างอื่น ประเภทมากลางวันหลงสีเหลือง ประเภทมากลางคืนหลงแสง นั่นคือ ....
*** กับดักแมลงประเภทมากลางวันใช้ กับดักสีเหลือง+กาวเหนียว ....
*** กับดักแมลงประเภทมากลางคืนใช้ แสงไฟ + กับดักกาวเหนียว หรือ ติดแสงไฟเหนือผิวน้ำใน กะละมัง ในสระ แมลงมาเล่นแสงไฟแล้วตกน้ำตายเอง ....

* แมลงธรรมชาติ ผึ้ง ชันโรง ผีเสื้อสวยงาม แมลงปอ ไม่หลงสี ไม่หลงแสง .... เตรียมพบกับ “ยาฆ่าหญ้าชีวภาพ” (ยังไม่ได้ตั้งชื่อ) กับ “โอไฮโอ ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ไร้ปุ๋ยเคมี 100% สำหรับพืชสวนครัว”

- หนังสือ หัวใจเกษตรไท มินิ สูตร ปุ๋ย/ฮอร์โมน/ยา/จุลินทรีย์ ทำใช้ ทำขาย ทำแจก ทำเททิ้ง สูตรเดียวก็เกินคุ้ม, .... หนังสือไม้ผลแนวหน้าบอกวิธี บำรุงไม้ผล ตั้งแต่ ก.ไก่ แก้วมังกร ถึง อ.อ่าง องุ่น ว่าตั้งแต่เริ่มต้น เริ่มปลูกถึงเก็บเกี่ยว ทำนอกฤดู เกรด เอ. จัมโบ้

คนเรียนสูงระดับปริญญาเอกแต่ไม่ได้เรียนสาขาเกษตรจึงไม่มีควรมรู้เรื่องเกษตรเป็นธรรมดา ฉันใด คนที่เรียนมาน้อย ที่เรียนก็ไม่ได้เรียนสาขาเกษตรซะอีก จึงไม่มีความรู้เรื่องเกษตรก็เป็นเรื่องธรรมดา ฉันนั้น ....

คนที่เรียนในโรงเรียน มหาลัย สถานศึกษา มีครูผู้สอนพูดอยู่หน้าห้องเรียน คนเรียนจึงมีความรู้ แต่คนที่ไม่ได้เรียนในสถานศึกษา ไม่มีครูมาพูดให้ฟัง แต่อ่านหนังสือเอง อ่านที่บ้าน อ่านในแปลงเกษตร อ่านไปดูของจริงไป ก็สามารถมีความรู้ได้เช่นกัน

มีหนังสือไว้ในบ้านเหมือนเป็น เอกสาร/ตำรา/คัมภีร์/มรดก ใช้ได้ตลอดชีวิต ถ่ายทอดให้ลูก หลานเหลนโหลน อ่านในบ้าน อ่านในแปลงไต้ต้นไม้ อ่านไปดูไป เชื่อเถอะ รุ่นเดียวรอบเดียว ก็เก่งได้ .

ใครมีเล่มเดียว ระวังนะ คนขอยืมแล้วไม่คืน.....

เคยมี คนเดียวซื้อ 1โหล 12ล่ม เอาไปเป็นของขวัญฝากคนที่รัก เขียนลายเซ็นไว้ที่ปก เชื่อเถอะ คนที่ได้รับของขวัญชิ้นนี้แล้ว เขาไม่ทิ้งหรอก ทครั้งที่หยิบขึ้นมาอ่าน เห็นลายเซ็นคนที่มอบให้ เขาจะรู้สึกดีๆ ต่อคนให้ทันที แล้วก็ทุกครั้งด้วย....

- อ.ณัฐ .... สมุนไพรสำหรับคน แปะก๊วย หลินจือ ถังเช่า ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจรกำลังมาแรง ข้อมูลจาก ร.พ.อภัยภูเบศร์ บอกว่า ฟ้าทะลายโจรสู้กับโคโรน่าแคนดิส 19 ได้ .... วันนี้ทั่วโลกยอมรับแล้วว่า ยาสมุนไพร กับยาแผนปัจจุบันจากโรงพยาบาล ใช้ร่วมกันได้ .... (086) 983-1966

เชิญ/รับสมัคร เป็น สมช.สีสันชีวิตไทย เอาสินค้ามาขายในงานสัญจร งานนี้ สมัครฟรีโฆษณาฟรี ! ขายอะไรก็ได้ ยกเว้นยาเสพติด

สังเกต .... วันนี้ สปอนเซอร์วิทยุถอนตัวไป 1 งานนี้ใครสนใจก็ติดต่อเข้ามา วิทยุ ปตอ. AM ระยะแพร่คลื่น 100% ได้ 20 จังหวัด แพร่คลื่นแบบกระโดดเป็นหย่อมๆ อีก 20 จังหวัด น่าจะดีกว่า FM ทั้งคลื่นหลัก คลื่นชุมชน ที่แพร่คลื่นไปได้แค่จังหวัดเดียวเท่านั้น ลองซี่ ว่างๆ วิ่งรถเดินทางไป ตจว. ถึง จว.ไหนก็ได้ ยิ่งไกลยิ่งดี เปิดวิทยุในรถระบบ AM คลื่น 594 ก็จะรู้ว่า ว่ารับได้หรือไม่ได้ รับได้ ได้แค่ไหน รับไม่ได้คือรับไม่ได้ แค่นี้ก็รู้ ลองดูซี่ ..... โฆษณาที่นี่ ไม่ใช่ตะบี้ตะ บันโฆษณา พูดๆ ๆๆ พูดอย่างเดียว แต่มีกิจกรรมเสริมโฆษณา (เน้นย้ำ....กิจกรรมเสริมโฆษณา) อีก ตอนนี้คิดคร่าวๆได้ราว 20 กิจกรรมเสริม อันนี้ต้องมาคุยกัน วางแผนร่วมกันว่าจะเสริมยังไง....

**************************************************************



จาก : (096) 178-35xx
ข้อความ : เรียนคุณตาผู้พัน ขอสูตรกำจัดวัชพืชในนาข้าวด้วยค่ะ จะเอาไปเขียนรายงานส่งครูค่ะ....ขอบคุณคุณตาผู้พันค่ะ หลานปอม อุทัยธานี
ตอบ :
ถามย้อน :
รู้จักคุณตาเพราะพ่อบอกรู้จักคุณตามาบรรยายเกษตรที่อุทัยธานี กับฟังรายการวิทยุคุณตาประจำ....ครูให้ทำรายงานเรื่องการกำจัดวัชพืชในนาข้าว มีรายละเอียด ใช้วิธีธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายต่อดิน น้ำ อากาศ สภาพแวดล้อม ต้นทุนต่ำ ขอรายละเอียดมากๆ ยิ่งมากยิ่งดี ให้บอกแหล่งที่มาของเรื่องเนื้อหาด้วย ครูบอกใครเขียนรายงานยาวที่สุดจะได้คะแนนมากสุดด้วย .... งานนี้ถามตาได้คำตอบสมใจนึกแน่ เพราะคำตอบยาว ถามบรรทัดเดียว ได้คำตอบ 1 หน้า....

สายตรง : (099) 734-25xx
สรุปคำถาม : แล้งนี้ทำนาไม่ได้ หายแล้งคงมีฝน มีฝนคงมีน้ำ มีน้ำคงทำนาได้ หน้ารุ่นหน้าคิดใหม่ทำใหม่ เริ่มจากวิธีกำจัดหญ้าไม่ใช้ยาฆ่าหญ้าด้วย....ขอบคุณครับ
ตอบ :
หลักการและเหตุผล :

วัชพืช คือ พืชชนิดหนึ่งที่เกิดหรือขึ้นในที่ๆไม่ต้องการ มีวัฏจักรชีวิต (เกิด แก่ เจ็บตาย ขยายพันธุ์) และต้องการปัจจัยพื้นฐาน (ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค) เช่นเดียวกับพืชอื่นๆ และพืชที่ถูกเรียกว่าวัชพืชมักเจริญเติบโตดีกว่าพืชหลักที่คนปลูก ในความเป็นจริงนั้น ปัจจุบันยังไม่มียาฆ่าหญ้าหรือ สารกำจัดวัชพืชใดๆ ในโลกนี้ สามารถฆ่าหรือกำจัดวัชพืชให้ตายอย่างเด็ดขาดแน่นอนได้เมื่อใช้ตามอัตราที่ระบุบนฉลาก อาการที่เห็นนั้นเป็นเพียงใบไหม้เท่านั้น ในขณะที่ หัว-เหง้า-เมล็ด ยังอยู่ ซึ่งไม่นานก็จะแตกยอดแทงหน่อขึ้นมาใหม่.....ดังนั้น การโฆษณาว่ายาฆ่าหญ้าหรือสารกำจัดวัชพืชชนิดนี้หรือชนิดนั้นสามารถกำจัดได้ถึงรากและเหง้าจึงเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงโฆษณาชวนเชื่อทั้งสิ้น และผู้ใช้ก็โกหกตัวเองว่าได้ผล

นอกจากนี้ ยาฆ่าหญ้าหรือสารกำจัดวัชพืช (ทุกชนิดหรือทุกยี่ห้อในท้องตลาด) ให้ผลเสียมากกว่าผลดี อาทิ มีสถานะเป็นกรดจัดจึงทำให้ดินเป็นกรด.....เป็นพิษต่อจุลินทรีย์ในดิน......ทำให้เดินเสียสมดุล.....เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคพืช.....สภาพแวดล้อมบริเวณใกล้เคียงเสีย.....ละอองเป็นพิษต่อพืชประธาน

วิธีการกำจัดหญ้าหรือวัชพืชที่ได้ผลที่สุด ซึ่งนอกจากไม่ส่งผลเสียดังกล่าวแล้วยังส่งผลดีแบบยั่งยืนระยะยาวนานอีกด้วย นั่นคือใช้มาตรการปรับเปลี่ยนหรือตัดวงจรปัจจัยพื้นฐานไม่ให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของหญ้าหรือวัชพืชเท่านั้น ได้แก่......

ล่อให้งอกแล้วทำลาย :
หลังเกี่ยวข้าวแล้วเสร็จ ปล่อยฟางทิ้งไว้ตากแดดจัดอย่างน้อย 15 แดดจัด ระหว่างตากแดดจัดนี้ ถ้ามีฝนตกลงมาให้ยกเลิกจำนวนวันที่ตากแดดก่อนทั้งหมดแล้วเริ่มนับ 1 ใหม่จนกว่าจะครบอย่างน้อย 15 วันวัตถุประสงค์ของการตากแดดก็เพื่อ "ทำลายระยะพักตัว" ของเมล็ดวัชพืชและเมล็ดพืชอื่นๆที่อยู่ในแปลง จากนั้นจึงปล่อยน้ำเข้าพอหน้าดินชื้นโดยไม่ต้องไถ จากนั้นบรรดาพืชทุกชนิด (เมล็ดหญ้า เมล็ดข้าว ร่วงและหน่อวัชพืช) จะงอกขึ้นมา ปล่อยให้พืชทุกอย่างงอกอย่างอิสระหรือเปิดโอกาสให้งอกมากๆ มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะเมล็ดวัชพืชบางชนิดงอกเร็ว บางชนิดงอกช้า
หมายเหตุ :
ถ้าไม่ทำลายระยะพักตัวของเมล็ดวัชพืชหรือพืชอื่นๆก่อน โดยหลังเกี่ยวข้าวแล้วเสร็จใส่น้ำเข้าไปเลยนั้น เมล็ดวัชพืชหรือพืชอื่นๆก็จะไม่งอก เพราะยังไม่ใด้ทำลายระยะพักตัว แต่หลังจากนั้น 10-15 วัน เมล็ดเหล่านั้นก็จะเริ่มงอกแล้วเจริญเติบโตคู่กับต้นข้าวต่อไป

การไถดินที่มีเมล็ดพืชต่างๆฝังอยู่ เท่ากับเป็นการเติมอ๊อกซิเจนลงไปในเนื้อดินซึ่งจะส่งเสริมการงอกของเมล็ดพันธุ์ต่างๆให้ดียิ่งขึ้น เพราะฉนั้น จึงไม่ควรไถ แต่ปล่อยเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆวางอยู่บนผิวดินอย่างนั้น รอเวลาหมดระยะพักตัวแล้วจึงปล่อยน้ำเข้า หมักฟาง และไถกลบ
(ข้อมูล : สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง)

ย่ำเพื่อทำลาย :
เมื่อเห็นว่าบรรดาเมล็ดพืชทุกอย่างงอกขึ้นมาแล้ว และบรรดาหน่อวัชพืชต่างๆก็แทงยอดขึ้นมาจากเหง้าหรือไหลทั้งหมดแล้วด้วย ให้ปล่อยน้ำเข้าแล้วลงมือย่ำเทือกครั้งที่ 1 ย่ำเทือกให้ใบและต้นพืช (วัชพืชและข้าว) ทุกอย่างที่ขึ้นมาแหลกสลายลงไปคลุกกับเนื้อดิน เสร็จแล้วไขน้ำออกพอเหลือติดหน้าดิน ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 7-15 วัน จะเห็นว่ายังมีวัชพืชบางส่วนงอกขึ้นมาอีกแต่จะน้อยกว่าครั้งแรกหลายเท่า

ปล่อยน้ำเข้าแล้วย่ำเทือกรอบ 2 ย่ำเพื่อทำลายใบและต้นวัชพืชเหมือนรอบที่ 1 ย่ำเทือกรอบ 2 เสร็จทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วัน ให้พิจารณา ถ้ายังมีวัชพืชขึ้นอีกมากก็ให้ไขน้ำเข้า

ย่ำเทือกรอบ 3 แต่ถ้าเห็นว่าวัชพืชลดลงจนเป็นที่น่าพอใจก็ไม่ต้องย่ำเทือกรอบ 3 ให้เตรียมการลงมือปลูก (หว่าน-ดำ) ได้เลย
หมายเหตุ :
พืชหรือวัชพืชใดๆที่งอกขึ้นมาจากเมล็ด เมื่อ ยอด-ใบ-ต้น ถูกย่ำทำลายไปแล้วจะไม่มีโอกาสงอกหรือเกิดใหม่อีกได้เลยตลอดชีวิต เพราะเมล็ดงอกได้เพียงครั้งเดียว ส่วนหน่อที่งอกขึ้นมาจาก หัว-เหง้า-ไหล ยอดที่งอกขึ้นมานั้นจะพัฒนาเป็น ต้น-ใบ ช่วยสังเคราะห์อาหาร ช่วงที่ยังไม่มีใบช่วยสังเคราะห์อาหารนั้น ต้นวัชพืชจะกินสารอาหารจาก หัว-เหง้า-ไหล ที่สะสมเอาไว้ เมื่อแตกยอดขึ้นมาทีไรเป็นถูกย่ำทำลายทุกครั้ง เพียง 2-3 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วันเท่านั้น สารอาหารในหัว-เหง้า-ไหลที่เคยสะสมไว้หมด หัว-เหง้า-ไหล ก็เน่าสลายหมดโอกาสแตกยอดใหม่อีกตลอดกาล

การใช้จุลินทรีย์โดยเฉพาะหรือจุลินทรีย์ในน้ำหมักชีวภาพ (ได้ทั้งจุลินทรีย์ สารอาหารพืช และสารอาหารสำหรับจุลินทรีย์ประจำถิ่น) เป็นตัวช่วยย่อยสลายเศษ ใบ-ต้น-หัว-เหง้า-ไหล ที่ถูกย่ำให้เปื่อยยุ่ยแล้วกลายเป็นปุ๋ย นอกจากจะไม่ทำลายสภาพโครงสร้างดินแล้วยังปรับปรุงสภาพโครงสร้างดินให้ดีขึ้นอีกด้วย ในขณะที่การใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ใดๆ แม้จะช่วยสลายเศษพืชได้แต่กลับทำให้สภาพโครงสร้างของดินเสียและเสียอย่างถาวรอีกด้วย

สรุป :
1. ทำลายวัชพืชด้วยวิธีการบำรุงให้งอกแล้วย่ำทำลาย โดยการทำเทือกหลายๆรอบแต่ละรอบจำนวนวัชพืชจะลดลงและลดลงเรื่อยๆจนกระทั่งหมดไปนั่นเอง

2. ถอนด้วยมือ หลังจากกำจัดวัชพืชส่วนใหญ่ด้วยวิธีทำเทือกย่ำทำลายแล้ว เมื่อต้นข้าวเจริญเติบโตขึ้นมา วัชพืชประเภทงอกช้าอาจจะยังหลงเหลืออยู่ก็จะงอกขึ้นมาให้เห็นอีก การกำจัดในขั้นตอนนี้ต้องใช้วิธีเดินเข้าไปในแปลงแล้ว "ถอนด้วยมือ" เท่านั้น ซึ่งวิธีถอนด้วยมือนี้นอกจากจะเป็นการกำจัดได้อย่างสิ้นซาก (ไม่มีโอกาสงอกใหม่อีกเลยตลอดชีวิต) แล้ว ยังไม่ทำลายสภาพโครงสร้างดินอีกด้วย ในนาดำช่วยให้การกำจัดวัชพืชด้วยวิธีถอนด้วยมือทำได้ง่ายกว่านาหว่าน

3. ป้องกันกำจัดหญ้าหรือวัชพืชตัวใหม่ เมื่อในแปลงนาข้าวไม่มี "เมล็ด-หัว-เหง้า-ไหล" ของวัชพืชที่จะเกิดใหม่ได้แล้ว เมล็ดแก่จากต้นวัชพืชบนคันนาหรือบริเวณข้างแปลงยังสามารถปลิวตามลมเข้าไปในแปลงแล้วเกิดเป็นต้นใหม่ขึ้นมาได้ กรณีนี้แก้ไขโดยการตัดหรือใช้ไม่เรียวฟาดก้านดอก ขณะที่ยังเป็นดอกอ่อนเพื่อทำลายดอกตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ให้เป็นดอกแก่แล้วมีเมล็ดขยายพันธุ์ได้

การใส่ปุ๋ยคอกมูลสัตว์กินหญ้า (วัว ควาย แพะ) มักมีเมล็ดพันธุ์วัชพืชปนมาด้วยเสมอ กำจัดเมล็ดพันธุ์วัชพืช โดยการหมักนาน 6 เดือน - 1 ปี เพื่ออาศัยจุลินทรีย์ทำลายชีวิตเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นก่อน ถ้าไม่มีเวลาหมักก็ให้ใช้เฉพาะ "น้ำมูลสัตว์" หมักก่อนหรือไม่หมักก็ได้ ราดรดลงบนเศษซากพืช (ฟาง ต้นถั่ว วัชพืช) ในแปลงหลัง หรือก่อนไถกลบก็ได้ หลังจากนั้น นอกจากเศษซากพืชจะกลายสภาพเป็นปุ๋ยคอกมูลสัตว์โดยไม่มีเมล็ดวัชพืชหรือพืชใดๆปนเปื้อนมาด้วยแล้ว ยังได้ทำให้คุณภาพของเนื้อปุ๋ยดีกว่ามูลสัตว์ที่มาจากสัตว์โดยตรงอีกด้วย

4. ข้าววัชพืช คือ วัชพืชชนิดหนึ่งที่เจริญเติบโตได้ดีมากในนาข้าว แต่ในแปลงเกษตรอื่นๆที่แม้จะมีสภาพแวดล้อมที่เป็นปัจจัยพื้นฐานด้านการเกษตรเหมือนนาข้าวกลับไม่เจริญเติบโต มีชื่อตามภาษาท้องถิ่น เช่น ข้าวนก. ข้าวหาง. ข้างเด้ง. ข้าวลายหรือข้าวแดง. ข้าวป่าหรือข้าวละมาน. (คำว่า “ข้าวนก” หมายถึงสายพันธุ์ข้าวที่ใช้เลี้ยงนกเขา หรือ นกสวยงามในกรง.........แต่คำว่า “ข้าววัชพืช” เป็นชื่อที่ทางราชการกำหนด)

ดังกล่าวข้างต้นแล้วว่า ปัจจุบันนี้ยังไม่มีสารเคมีใดในโลกสามารถกำจัดข้าววัชพืชโดยเฉพาะได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์

ลักษณะเด่นของข้าววัชพืชในแปลงนาข้าว :
- งอกหลังต้นข้าว (นาหว่าน) 8-10 วัน แต่เจริญเติบโตเร็วกว่าต้นข้าวแล้วเป็นต้นแก่มีเมล็ดขยายพันธุ์ได้ก่อนต้นข้าว หรือ เกิดทีหลังแต่แก่ก่อน

- สายพันธุ์เดียวกันแต่เมล็ดพันธุ์บางเมล็ดอยู่ได้นาน (1-12 ปี)โดยไม่เสื่อมความงอกในขณะที่บางเมล็ดงอกได้เร็ว หรือ พักตัว/ไม่พักตัว....พักตัวนาน/พักตัวไม่นาน

- ไม่มีโรคและแมลงศัตรูหรือมีน้อยมาก
- เปอร์เซ็นต์ความงอกสูงมาก แม้เมล็ดที่ยังแก่ไม่จัดก็สามารถงอกได้
- ปรับตัวให้ต่ำกว่าหรือสูงเท่ากับต้นข้าวเพื่อให้รอดพ้นจากการถูกกำจัดได้ดี
- จากเมล็ดข้าววัชพืช 1 เมล็ด ในนาข้าวรุ่นที่ 1 ขยายพันธุ์ต่อเนื่องถึงทำนารุ่นที่ 6 จะมีเมล็ดมากถึง 31,250,000,000 เมล็ด

วิธีกำจัดข้าววัชพืช :
- ล่อให้งอกแล้วย่ำทำลายด้วยวิธีย่ำเทือก ย่ำซ้ำหลายๆรอบเพื่อกำจัดวงรอบหรือวัฏจักชีวิต
- เปลี่ยนจากการทำนาหว่านมาเป็นนาดำ ทั้งนี้ นาดำ 1 รุ่น กำจัดข้าววัชพืชได้กว่า 90 % จากนั้นใช้วิธีถอนด้วยมือก็จะทำให้ต้นข้าววัชพืชหมดไปจากแปลงนาได้

- ถอนด้วยมือ (นาดำทำได้ง่ายกว่านาหว่าน)
- ป้องกันเมล็ดพันธุ์รุ่นใหม่จากแหล่งภายนอก เช่น เมล็ดพันธุ์ รถเกี่ยว และจากแปลงข้างเคียง


คนถามใหม่ คำถามเก่า คำตอบเดิม :
จาก : (087) 102-36xx
ข้อความ : ลุงคิมครับ ผมทำนาข้าวหว่านแห้ง มีวัชพืชมาก จะกำจัดโดยไม่ใช้สารเคมี มีวิธีอะไรบ้างครับ เคยมีคนบอกว่า ใช้เกลือหว่าน จะได้ไหมครับ.....
ตอบ :
- ความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธ : ไม่มีวิธีการไถแบบใด ด้วยเครื่องมือใดๆ ที่สามารถกำจัดวัชพืชได้.... วิธีการไถ ไถดะ ไถแปร ไถพรวน ไถพลิก ไถกลบ .... เครื่องมือ ไถสิ่ว (ริปเปอร์-ระเบิดดินดาน) ผานเดี่ยว ผานสอง ผานสาม ผานเจ็ด โรตารี่ ผานจาน ผานหัวหมู คราดฟันเหล็ก คราดฟันไม้ .... ทุกวิธีการไถ และทุกเครื่องมือในการไถ ไถคือไถ ล้วนแต่เป็นการ “พรวนดิน” ทั้งนั้น ฉะนี้แล้ว บรรดาหญ้าวัชพืชจะไม่งามได้อย่างไร ... น้ำท่วมวัชพืชบางอย่างตาย บางอย่างไม่ตายแต่โตงาม ... ยาฆ่าหญ้า ทั้งประเภทดูดซึมลงถึงรากถึงหัว ประเภทสัมผัส ได้แค่ใบไหม้เหมือนๆ กัน

สัจจธรรม ธรรมชาติ : วิธีกำจัดวัชพืชที่ได้ผล 100% .... 1. บังแดด (พลาสติกคลุมแปลง) .... 2. หยุดยอด (ห่านดินกินหญ้า) .... 3. พืชข่ม (ปลูกงา) .... 4. ป้องกันพาหะนำมา (รถเกี่ยว) .... 5. กำจัดแหล่งเมล็ดพันธุ์ (คันนา) .... 6. ข้างบ้านอิจฉา (แอบเอาเมล็ดวัชพืชมาหว่าน)

วิธีกำจัดวัชพืชในนาข้าว แบบยั่งยืนและบูรณาการ :
** ล่อให้งอกแล้วย่ำประณีต (ย่ำ 3 เที่ยวใน 1 กระทง ด้วยอีขลุบใบเหล็ก) .... ปฏิบัติ :
1. เกี่ยวข้าวเสร็จ เกลี่ยฟางให้หนาเท่าๆกัน เพื่อให้ฟางแห้งถึงพื้นดินเสมอกัน .....
2. ตากแดด 10 วัน เพื่อทำลายระยะพักตัวของเมล็ดวัชพืช ....
3. สูบน้ำเข้าลึกครึ่งหน้าแข้ง ทิ้งไว้ 10 วัน เพื่อให้เมล็ดวัชพืชงอก ....
4. สำรวจปริมาณวัชพืชที่งอก ตั้งสมมุติฐานไว้ว่า 100% แล้วลงมือย่ำประณีต (เน้นย้ำ...ย่ำประณีต) รอบที่ 1 ย่ำแล้วทิ้งไว้ 10 วัน เพื่อรอให้ที่เหลืองอกอีก.

5. สำรวจปริมาณวัชพืชที่ยังงอกได้อีกหลังจากย่ำรอบแรกแล้วว่า ยังมีอีกกี่เปอร์เซ็นต์ของก่อนลงมือย่ำรอบแรก สำรวจแล้ว คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ ว่าจำนวนวัชพืชลดลงเพราะอะไร หรือไม่ลดลงเพราะอะไร แล้วปรับแก้ จากนั้นลงมือย่ำประณีตรอบที่ 2 ย่ำแล้วทิ้งไว้ 10 วัน เพื่อนรอให้ที่เหลืองอกอีก

6. สำรวจปริมาณวัชพืชที่ยังงอกได้อีกหลังจากย่ำรอบที่แล้วว่า ยังมีอีกกี่เปอร์เซ็นต์ของก่อนลงมือย่ำรอบแรก สำรวจแล้ว คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ ว่าจำนวนวัชพืชลดลงเพราะอะไร หรือไม่ลดลงเพราะอะไร แล้วปรับแก้ จากนั้นลงมือย่ำประณีตรอบที่ 3 ย่ำแล้วปล่อยทิ้งไว้ 10 วัน เพื่อนรอให้ที่เหลืองอกอีก .

7. สำรวจปริมาณวัชพืชที่ยังงอกได้อีกหลังจากย่ำรอบที่แล้วว่า ยังมีกี่เปอร์เซ็นต์ของก่อนลงมือย่ำรอบที่ 2 สำรวจแล้ว คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ ว่าจำนวนวัชพืชลดลงเพราะอะไร หรือไม่ลดลงเพราะอะไร แล้วปรับแก้ ลงมือย่ำประณีตรอบที่ 4 หรืออาจย่ำต่ออีกเป็นรอบที่ 5 ก็ต้องย่ำ .... ย่ำรอบสุดท้ายแล้วลูบเทือก ทำร่องมะพร้าวระบายน้ำ จึงลงมือดำ (เน้นย้ำ .... ต้องทำนาดำ) ได้เลย
หมายเหตุ :
- วางแผนใช้ระยะเวลาทั้งสิ้น 1 เดือน (30 วัน) โดย....
ย่ำรอบที่ 1 ณ วันที่ 1 ในปฏิทิน,
ย่ำรอบที่ 2 ณ วันที่ 10 ในปฏิทิน,
ย่ำรอบที่ 3 ณ วันที่ 20 ในปฏิทิน,
ย่ำรอบที่ 4 ณ วันที่ 30 ในปฏิทิน เป็นการย่ำรอบสุดท้าย พร้อมกับทำร่องมะพร้าวระบายน้ำ แล้วลงมือดำ

- ระยะเวลา 10 วัน หลังถูกย่ำ ถ้างอกคือยังไม่ตาย ถ้าไม่งอกคือตาย
- ก่อนลงมือย่ำรอบแรก สำรวจปริมาณเปอร์เซ็นต์วัชพืชเพื่อให้รู้ว่ามีเท่าไร หลังจากย่ำรอบแรกแล้ว ก่อนลงมือย่ำรอบสอง รอบสาม และรอบสี่ ให้สำรวจปริมาณเปอร์เซ็นต์วัชพืชก็จะรู้ว่าวัชพืชหายไปเท่าไร หรือยังเหลืออยู่เท่าไร ซึ่งในความเป็นจริงนั้น บรรดาวัชทุกชนิดควรต้องลดลงจนเหลือน้อยที่สุด

- การพิสูจน์ว่ายังมีวัชพืชที่ถูกย่ำไปแล้วจะงอกใหม่ได้อีกหรือไม่ โดยการกำดินพร้อมขี้เทือกขึ้นมาล้างน้ำ ก็จะเห็นลักษณะของเศษซากวัชพืช (สด/เน่า) ว่า ลักษณะแบบที่เห็นนั้นสามารถงอกใหม่ได้หรือไม่

- หลักธรรมชาติ คือ วัชพืชที่เกิดจากเมล็ดงอกขึ้นมาเป็นใบแล้ว ใบและต้นถูกทำลายจะงอกใหม่ไม่ได้ หรืองอกได้ครั้งเดียวตลอดชีวิต .... วัชพืชที่เกิดจาก หัว/ไหล/เหง้า เมื่อแตกยอดใบออกมาแล้วถูกย่ำทำลายไม่สามารถสังเคราะห์อาหารได้ ระหว่างรอสร้างยอดใบใหม่จะกินอาหารที่สะสมไว้ใน หัว/ไหล/เหง้า ไปพลางๆ เมื่อถูกย่ำซ้ำ รอบแล้วรอบเล่า หลายๆรอบ จึงไม่มีโอกาสสร้างยอดใบสังเคราะห์อาหารได้เลย แถมต้องกินอาหารที่สะสมไว้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอีกด้วย กระทั่งอาหารที่สะสมไว้หมดเกลี้ยง หัว/ไหล/เหง้า ก็เน่า หมดโอกาสงอกใหม่ชั่วนิรันดร

** ถอนด้วยมือ .... ทำนาดำ ดำห่างๆ เพื่อให้มีช่องว่างระหว่างต้นข้าวสำหรับคนเดินเข้าไปแล้วถอนด้วยมือ หรือถอนหญ้าด้วยเครื่อย่ำพรวนดินได้ วางแผนลงมือถอนวัชพืชให้ตรงกับระยะเจริญเติบโตของต้นข้าว เพื่อจะถอนทั้งต้นวัชพืช และต้นข้าวปน .... ปริมาณวัชพืชที่ต้องถอนด้วยมือ หรือเครื่องย่ำพรวนดิน มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับผลการย่ำแต่ละรอบที่อาจ ปรับ/แก้ ไม่ถูกวิธี หากเห็นว่าเมื่อย่ำรอบสุดท้ายแล้ว ยังมีวัชพืชหลงเหลือค่อนข้างมาก หรือยังไม่เป็นที่พอใจก็ต้องย่ำซ้ำอีก

** ป้องกันเกิดใหม่ .... ป้องกันเมล็ดวัชพืชบริเวณคันนา หรือพื้นที่ใกล้เคียงปลิวเข้ามาในแปลงนาอีก โดยใช้ไม้เรียวตีก้นเด็กฟาดก้านดอกวัชพืชให้หัก หรือใช้เครื่องตัดหญ้าตัด ซึ่งก้านดอกหญ้าที่หักหรือขาดไปแล้วจะไม่สามารถเจริญเติบโตขยายพันธุ์ต่อไปได้อีก
หมายเหตุ :
- การกำจัดวัชพืชด้วยวิธี “ย่ำเทือกประณีต” แบบนี้ นอกจากกำจัดได้อย่างสิ้นซาก วัชพืชหมดโอกาสงอกใหม่แล้ว ยังได้ปุ๋ยเศษซากพืชอีกด้วย

- ลงทุนย่ำเทือกประณีต ขอให้ประณีตจริงๆ 4 รอบของการทำนารุ่นแรกเรียบร้อยไปแล้ว นาข้าวรุ่นหน้าและรุ่นต่อๆไป ยำเทือกประณีตเพียง 1 หรือ 2 รอบ ก็ลงมือปลูกได้เลย

- ย่ำเทือกประณีตด้วยอีขลุบหรือลูกทุบ “ใบเหล็ก” นอกจากได้ประสิทธิภาพในการกำจัดวัชพืชแล้ว ยังช่วยให้ได้ขี้เทือกลึกดี เหมือนหรือดีกว่าไถก่อนแล้วย่ำเทือก นั่นคือ ตัดต้นทุนค่าไถมาเป็นค่าย่ำ ช่วยให้ประหยัดทั้งเงิน แรงงาน และเวลา .... รถไถ กินน้ำมันมากกว่ารถย่ำ

- รถลากอีขลุบ ที่หน้ารถติดตั้งถังขนาดจุ 50 ล. มีก๊อกที่ก้นถัง 2 อันซ้ายขวา ในถังใส่ “น้ำหมักชีวภาพ 2 ล. + ปุ๋ยเคมีสูตรนาข้าว 10 กก.” คนให้ละลายเข้ากันดี ขณะวิ่งรถลากให้เปิดก๊อก น้ำหมัก+ปุ๋ย ไหลลงพื้นแล้วถูกลูกทุบอีขลุบตี ผลคือ น้ำหมัก/ปุ๋ย กระจายทั่วแปลงทุกตารางนิ้ว ต้นข้าวทุกกอได้รับปุ๋ยเท่ากันทุกต้นทั่วทั้งแปลง....

@@ กรณีนาหว่านข้าวแห้ง เมื่อไม่มีน้ำล่อให้วัชพืชงอกก่อน การย่ำทำลายจึงทำไม่ได้ การไถแม้จะไถหลายๆรอบก็ไม่อาจกำจัดวัชพืชได้ ตรงกันข้าม กลับเร่งและส่งเสริมให้วัชพืชงอกใหม่ เจริญเติบโตดีกว่าเก่าด้วยซ้ำไป

จาก : (092) 793-04xx
ข้อความ : เมื่อเช้าผู้พันพูดเรื่องกำจัดหญ้า ในนาข้าวหว่านแห้งไม่จบ ยอมรับว่าเรื่องยาวแต่เวลามีน้อย ภาคค่ำวันนี้ขอให้ผู้พันพูดต่อให้จบ ผมทำนาหว่านข้าวแห้ง เพราะไม่มีน้ำ อยู่โคราช นา 15 ไร่ ปลูกข้าวหอมมะลิ ปีที่แล้วหญ้าครึ่งข้าวครึ่งจริงๆ ....ขอบคุณครับ
ตอบ :
@@ ควบคุมวัชพืชในนาหว่านข้าวแห้ง โดยไม่ใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช :
จำแนกชนิดวัชพืช :
วัชพืช ในนาหว่านข้าวแห้ง ระยะแรกๆ ของการเจริญเติบโตทางลำต้นหรือ 30 วันหลังข้าวงอก ชนิดวัชพืชที่ขึ้นก่อน ได้แก่ หญ้านกสีชมพู, เซ่งใบมน, และกกต่างๆ .... ระยะ 60 วันหลังข้าวงอก หรือต้นข้าวเริ่มแตกกอจะมีหญ้านกสีชมพู .... ระยะเก็บเกี่ยวจะมีหญ้าแดง และหญ้าไทร ขึ้นตามลำดับ

ระยะแรกของการปลูกจะมีวัชพืชพวกวงศ์หญ้าและวัชพืชใบกว้าง เกิดขึ้นมากกว่าประเภทอื่น .... ระยะเก็บเกี่ยวจะมีวัชพืชพวกประเภทกกขึ้นมาก ทั้งนี้คาดว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของความชื้น และระดับน้ำในนา ตลอดจนการเจริญเติบโตของต้นข้าวทั้งความสูงและพื้นที่ใบ ซึ่งจะมีผลต่อการเปลี่ยน แปลงชนิดและปริมาณวัชพืชด้วยเช่นกัน

พันธุ์ข้าว :
เลือกพันธุ์ข้าวที่มีลักษณะทรงต้นสูง ใบแผ่กว้าง ช่วยปกคลุมพื้นเพื่อบังแสงแดดไม่ให้แสงส่องลงสู่พื้นดินล่าง จะทำให้การงอกของเมล็ดวัชพืชลดลง และชะลอการเจริญเติบโตของต้นวัชพืชได้ .... จากงานวิจัยพบว่า ข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105, และ กข23 ควบคุมการเจริญเติบโตของวัชพืชได้ โดยเฉพาะข้าวขาวดอกมะลิ 105 ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์อื่นๆ เมื่อมีการแข่งขันกับวัชพืชในสภาพนาน้ำฝน

วิธีการเตรียมดิน และการปลูก :
การเตรียมแปลงปลูกที่ดี จะช่วยลดปัญหาจากวัชพืชได้ แต่ในสภาพการทำนาหว่านข้าวแห้งในพื้นที่อาศัยน้ำฝน เมื่อปริมาณและการกระจายตัวของฝนเหมาะสมทำให้เมล็ดข้าวงอก ขณะเดียวกันเมล็ดวัชพืชที่อยู่ดินก็งอกขึ้นมาพร้อมกับต้นข้าวด้วย

การปลูกข้าวแบบนาหว่านข้าวแห้ง มีการปฏิบัติที่หลากหลาย เช่น การหว่านสำรวย การหว่านคราดกลบหรือไถกลบ และหว่านหลังขี้ไถ ทั้ง 3 รูปแบบเป็นการปลูกข้าวที่แตกต่างกันตรงที่วิธีการเตรียมดินและการปลูก โดยการเตรียมดินมีวัตถุประสงค์เพื่อกำจัดวัชพืชดั้งเดิมที่ขึ้นอยู่ในนาก่อนที่จะหว่านข้าว ซึ่งวิธีการเตรียมดินของชาวนาในปัจจุบัน ใช้เครื่องจักรแทนแรงงานสัตว์ เช่น รถไถเดินตาม หรือรถแทรกเตอร์ขนาดใหญ่ และการเตรียมดินจะพิถีพิถันมากหรือน้อยเพียงใดก็ไม่สามารถกำจัดวัชพืชอย่างแน่นอนได้

อัตราเมล็ดพันธุ์ :
นาหว่านข้าวแห้ง ควรใช้เมล็ดพันธุ์ 1-2 ถัง /ไร่ หรือประมาณ 10-20 กก. /ไร่ จะทำให้จำนวนต้นข้าวที่เหมาะสม

ในเรื่องอัตราเมล็ดพันธุ์ข้าวนี้ ชาวนาให้ความสนใจมาก บางพื้นที่ใช้อัตราเมล็ดพันธุ์ 40-50 กก. /ไร่ เพื่อชดเชยการสูญเสียจากการทำลายของสัตว์ศัตรูข้าว เช่น นก หนู และเพิ่มการแข่งขันระหว่างข้าวกับวัชพืชในแปลงนา จากงานวิจัยพบว่า การใช้อัตราที่เหมาะสม 16 กก. /ไร่ จะทำให้จำนวนต้นข้าวที่เกิดขึ้นมาสามารถแข่งขันกับวัชพืชได้

การกำหนดช่วงเวลาปลูก :
พันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105, กข15 และ กข6 เป็นพันธุ์ข้าวไวต่อช่วงแสง เหมาะต่อการปลูกในฤดูนาปี ในเขตอิสานชาวนามักเริ่มไถเตรียมดิน และหว่านข้าวตั้งแต่ปลาย เม.ย. เป็นต้นไป การหว่านข้าวเร็วจะทำให้ต้นข้าวอยู่ในนาเป็นเวลานาน จึงประสบกับสภาพความแห้งแล้งเนื่องจากฝนทิ้งช่วง ในขณะทีวัชพืชทนต่อความแห้งแล้งได้ดีกว่าต้นข้าวจึงเจริญเติบโตได้ แถมมีแมลงศัตรูพืชเข้ามารบกวนอีก จึงอยากแนะนำชาวนาที่จะทำนาหว่านข้าซแห้ง ควรหว่านข้าวระหว่างเดือน มิ.ย. ถึงกลางเดือน ส.ค. แทน ซึ่งเป็นช่วงที่มีฝน ต้นข้าวจะเจริญเติบโตแข่งกับวัชพืชได้ดี

ช่วงเวลาปลูกข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และ พันธุ์ กข6 เริ่มปลูกปลายเดือน พ.ค. จนถึงเดือน ก.ค. พบว่า การปลูกกลางเดือน ก.ค. ให้ผลผลิตสูงสุด และมีปัญหาวัชพืชต่ำ

วิธีการควบคุมวัชพืช ร่วมกับอัตราเมล็ดพันธุ์ :
พันธุ์ข้าวที่แนะนำให้ปลูกในนาหว่านข้าวแห้งในเขตอิสาน ที่เป็นพันธุ์พื้นเมือง เช่น พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105, เหลืองประทิว 123, ขาวตาแห้ง 17, กข15 และ กข6 ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ข้าวลักษณะทรงต้นสูง ใบยาวใหญ่แผ่ โน้มปกคลุม เป็นลักษณะแข่งขันกับวัชพืชได้ดี

พันธุ์ข้าว กข23 ใช้อัตราเมล็ดพันธุ์ 32 กก. /ไร่ ให้ผลผลิตสูงสุด ส่วนพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 เมล็ดพันธุ์ 16 กก. /ไร่ ให้ผลผลิตสูงสุด แต่การใช้เมล็ดพันธุ์สูงถึง 40 กก./ไร่ ไม่สามารถลดจำนวนต้นวัชพืชได้เลย

การช่วยกำจัดวัชพืชโดยถอนด้วยมือ 2 ครั้ง ที่ระยะ 15 วัน และ 30 วัน หลังข้าวงอก จะทำให้ผลผลิตข้าวเพิ่มสูงขึ้นกว่า 80% เมื่อเปรียบเทียบกับไม่มีการควบคุมวัชพืช

กล่าวโดยสรุปการจัดการวัชพืชในนาหว่านข้าวแห้ง ต้องนำวิธีการควบคุม และกำจัดวัชพืชหลายๆ วิธีมาใช้ร่วมกัน โดยที่แต่ละวิธีจะสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งมีผลทำให้ชนิดและจำนวนวัชพืชลดลงถึงไม่มีเลย

COMMENT :
** วิธีการนี้ได้ผลกับวัชพืชทั่วๆไป แต่กับ “ข้าววัชพืช หรือ ข้าวนก” ใช้ไม่ได้ผล เพราะข้าววัชพืชหรือข้าวนกอยู่ร่วมกับ “ข้าวคนกิน” ได้ทุกสภาพแวดล้อมสำหรับต้นข้าวคนกิน พูดง่ายๆก็คือ ข้าวคนกินอยู่ได้ข้าวนกหรือข้าววัชพืชก็อยู่ได้และอยู่ได้ดีกว่าด้วย

** หยุดการปลูกข้าวแห้งแล้วปลูกข้าวมีน้ำ โดยรอให้มีฝนหรือเอาน้ำเข้าแปลงก่อน แล้วกำจัดวัชพืชแบบ “ล่อให้งอกแล้วย่ำทำลาย” ยำประณีต ซึ่งนอกจากสามารถกำจัดวัชพืชได้ทุกชนิดอย่างแน่นอนแล้ว ยังส่งผลไปถึงวัชพืชรุ่นหน้ารอบหน้าที่ไม่มีวัชพืช กับทั้งได้บำรุงดินสำหรับต้นข้าวอีกด้วย

** ทำนาหยอด หรือใช้เครื่องหว่านเมล็ดข้าวแห้ง (ฝันว่า ประเทศไทยมีเครื่องหยอด และ/หรือ เครื่องหยอดเมล็ดข้าวแห้ง ที่ใช้งานได้ผลจริงๆ) แทนนาหว่าน จัดแถวปลูกให้ตรงๆ จัดระยะห่างระหว่างแถวให้ห่างเพียงพอ แล้วใช้เครื่อง “ตัดหญ้าพรวนดิน” แบบเดินตามหรือเครื่องยนต์ ตัดวัชพืชในแปลงนา

- ถามว่า “เคยมีคนบอกว่า ใช้เกลือหว่าน” .... อยากให้ถามย้อนไปที่คนบอกว่า .... 1. ใส่เกลือเพื่อกำจัดวัชพืช ใช่หรือไม่ ? .... 2. ใส่เพื่อเป็นสารอาหารเสริม (ปุ๋ย) แก่ต้นข้าว ใช่หรือไม่ ? ....และ 3. คนบอก เคยใส่หรือไม่ หรือเอาข้อมูลมาจากไหน ? ....
เปิดใจรับข้อมูลใหม่ๆ (ใหม่สำหรับเรา เก่าสำหรับคนอื่น) เยี่ยงนี้ดีแล้ว ทุกครั้งที่ได้รับข้อมูลใหม่ ควรถามย้อนเอารายละเอียดว่า ใช่/ไม่ใช่ มาด้วย บอกแล้วไง วัดกึ๋นคน วัดที่คำถาม.... อย่า ฟังไม่ได้ศัพท์ จับมากระเดียด หรือ โม้ + มั่วนิ่ม

- หว่านเกลือกำจัดวัชพืช .... เรื่องนี้ไม่มีข้อมูล งานวิจัยชิ้นใหม่เหรอ ?
- หว่านเกลือเป็นปุ๋ย .... เรื่องนี้ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะ เกลือเป็นด่างจัด, เกลือ (โซเดียม) เป็นสารอาหารตัวท้ายๆ ระดับรองบ๊วยในจำนวนสารอาหารทั้ง 14 ตัว นั่นหมายความว่า พืชมีความจำเป็นต้องใช้น้อยมากๆ .... ในน้ำหมักระเบิดเถิดเทิง ส่วนผสมที่มาจากทะเลก็มี โซเดียม. อยู่แล้ว แถมด้วยแม็กเนเซียม. สังกะสี. โอเมก้า. อีกต่างหาก อย่างนี้ไม่ชัวร์กว่าเหรอ .... เกลือสมุทรกับเกลือสินธุ์เทา คนละเกลือกันนะ เกลือสมุทรสำหรับ มนุษย์/สัตว์/พืช กิน เกลือสินธุ์เทาสำหรับใช้ในอุตสาหกรรม (ส่งออกอินเดีย)

---------------------------------------------------------------------------------



.

กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©