-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 13 NOV.. *งานสัญจรฯ วัดอัมพวัน สพ.(1)
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 13 NOV.. *งานสัญจรฯ วัดอัมพวัน สพ.(1)

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 13/11/2019 5:49 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 13 NOV.. *งานสัญจรฯ วัดอัมพวัน สพ.(1) ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 13 NOV
AM 594 เวลา 08.15-09.00 (จันทร์-ศุกร์)
********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม

ผลิตรายการโดย :
กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ :
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ

สนับสนุนรายการโดย :
*บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช .... (02) 322-9175-6
http://www.nimut.com/

* ยิบซั่มธรรมชาติ ---- เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์แมกซ์, .... ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ .... (089) 144-1112
http://www.bkgmax.com/kaset/product.html


กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ

เช่นเคย รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ที่ (081) 913-4986 โทรศัพท์เข้ารายการคุยกันสดๆ ออกอากาศ สร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน (02) 888-0881 และอินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิมดอทคอม เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

----------------------------------------------------------------------------------

งานสัญจร....
เสาร์แรกของเดือน ไปที่วัดพยัคฆาราม (วัดเสือ) ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี ,
เสาร์ที่ 2 ของเดือน ไปที่วัดอัมพวัน (หลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี,
เสาร์ที่ 3 ของเดือน ไปที่วัดท่าตำหนัก ถ.เพชรเกษม (ขาล่อง) ก่อนถึงแยกนครชัยศรี นครปฐม,
เสาร์ที่ 4 ของเดือน ไปที่วัดส้มเกลี้ยง ใกล้โรงกรองประปามหาสวัสดิ์ ถ.วงแหวนตะวันตก กาญจนาภิเษก .....

งานสัญจรแต่ละครั้งแต่ละที่ สมช.ที่มา มีปัญหาอะไร เอามาคุยกัน พูดคุยถามตอบกันแบบ FACE TO FECT MOUTH TO MOUTH .... ทำ ทำถูก ต่อยอด, ทำ ทำผิด แก้ไข ปรับเปลี่ยน


สังเกต .... วันนี้ สปอนเซอร์ถอนตัวไป 1 งานนี้ใครสนใจก็ติดต่อเข้ามา วิทยุ ปตอ. AM ระยะแพร่คลื่น 100% ได้ 20 จังหวัด แพร่คลื่นแบบกระโดดเป็นหย่อมๆ อีก 20 จังหวัด น่าจะดีกว่า FM ทั้งคลื่นหลัก คลื่นชุมชน ที่แพร่คลื่นไปได้แค่จังหวัดเดียวเท่านั้น ลองซี่ ว่างๆ วิ่งรถเดินทางไป ตจว. ถึง จว.ไหนก็ได้ ยิ่งไกลยิ่งดี เปิดวิทยุในรถระบบ AM คลื่น 594 ก็จะรู้ว่า ว่ารับได้หรือไม่ได้ รับได้ ได้แค่ไหน รับไม่ได้คือรับไม่ได้ แค่นี้ก็รู้ ลองดูซี่ ..... โฆษณาที่นี่ ไม่ใช่ตะบี้ตะบันโฆษณา พูดๆ ๆๆ พูดอย่างเดียว แต่มีกิจกรรมเสริมโฆษณา (เน้นย้ำ....กิจกรรมเสริมโฆษณา) อีก ตอนนี้คิดคร่าวๆได้ราว 20 กิจกรรมเสริม อันนี้ต้องมาคุยกัน วางแผนร่วมกันว่าจะเสริมยังไง....



เก็บตกงานสัญจร 9 NOV วัดอัมพวัน (วัดหลวงพ่อโหน่ง) สองพี่น้อง สุพรรณบุรี (1):

สมช. 1 : อ้อย 100 ไร่ ปีนี้ราคาตก ขาดทุนแน่... ตอบ : สร้างแรงบันดาลใจ วังขนายทำอ้อยได้ 100 ตัน/ไร่ มิตรผลทำอ้อยได้ 50 ตัน/ไร่ ทั้งหมดนี้เราเอาแค่ 25 ตัน/ไร่ น่าเอาไหม ? เท่าที่เราทำได้ ณ วันนี้ อ้อยตอแรกได้ 12 ตัน ตอสองได้ 6 ตัน ตอสามได้ 3 ตัน เท่านั้น ที่ได้แค่นี้เพราะไม่ได้ทำอะไรเลย วันๆ ยืนดู ดูเฉยๆ อยู่ริมแปลงเท่านั้น ที่ไม่ได้ทำอะไรเพราะบุกเข้าไปในดงอ้อยไม่ได้ ใบอ้อยทึบ .... ทางแก้สำหรับอ้อย คือ “ให้น้ำ” เครื่องมือให้น้ำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับอ้อย (เน้นย้ำ....สำหรับอ้อย) คือ สปริงเกอร์โอเวอร์เฮด” เท่านั้น .... สร้างอีต๊อก อีแต๋น บรรทุกแทงค์น้ำขนาดจุ 500 ล. 2 แทงค์ ใช้เครื่องยนต์ต้นกำลัง ยันม่า คูโบต้า อีดีไอ ขนาด 10 แรงม้า ในน้ำใส่ “ระเบิดเถิดเทิง 8-24-24” ฉีดพ่นจากใบลงพื้น ลงพื้นมากๆเหมือนฝนตกไปเลย .... ตลอดอายุ อ้อยต้องการน้ำ 4 รอบ รอบแรกหลังปลูกหรือหลังเจียนตอ รองสองย่างปล้อง รอบสามรอบสี่ โตเต็มที่แบ่งให้ 2 รอบ รอบสุดท้ายให้ก่อนตัด 1 เดือน .... ให้ “น้ำ+ปุ๋ย” แบบนี้แล้ว ไม่ต้องปุ๋ยรองพื้นแต่งหน้า เพราะอ้อยกินแคนี้

สมช. 2 : นาข้าว 20 ไร่ อยากทำข้าวอินทรีย์ ... ตอบ : ตอบโจทย์ อินทรีย์คืออะไร ? ปุ๋ยเคมี-สารเคมี เกี่ยวข้องยังไง บริหารจัดการยังไง....
* ปุ๋ย : ปุ๋ยอินทรีย์ แห้ง/น้ำ-ทางใบ/ทางราก-วัสดุที่ทำ-สารอาหารที่ได้-วิธีทำ-วิธิใช้-ประสิทธิ ภาพ ประสิทธิผล
* ปุ๋ย : ปุ๋ยเคมี แห้ง/น้ำ-ทางใบ/ทางราก-สูตร-อัตราใช้-วิธิใช้-ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล
* ปุ๋ยอินทรีย์เคมี : อินทรีย์นำ เคมีเสริม - เคมีนำ อินทรีย์เสริม ตามความเหมาะสมและจำเป็น
* ปุ๋ยเคมี-สารเคมี : ปุ๋ยเคมี คือ อาหาร - สารเคมี คือ สารพิษ มีคำว่า “เคมี” เหมือนกัน แต่ต่างกัน
* เกษตรอินทรีย์ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี แล้วเอาอะไรให้พืชกิน พืชกินแล้วโตได้แกรด เอ. จัมโบ้
* เกษตรอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี แล้วใช้อะไร ป้องกัน/กำจัด ศัตรูพืช

หมายเหตุ :
ปุ๋ยคือธาตุอาหารพืชประกอบด้วย ...
** ธาตุหลัก : N P K
** ธาตุรอง : Ca Mg S
** ธาตุเสริม : Fe Cu Zn Mn Mo B Si Na
** ฮอร์โมน : AUXIN CYTOKININ GIBBERRELLIN ETHYLENE PACLOBUTRAZOL ABSCISIC ACID
ทั้งในปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี

สารเคมี :
ชื่อสามัญว่าอะไร ชื่อการค้า(ยี่ห้อ) ว่าอะไร ก็ว่ากันไป ในความเป็นสารเคมี คือ กลิ่น-รส-ฤทธิ์ ที่มีผลต่อศัตรูพืช ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ฉันใด ในสารสมุนไพรก็มี กลิ่น-รส-ฤทธิ์ ที่มีผลต่อศัตรูพืช ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม เช่นกัน สิ่งหนึ่งที่หลายคนมองข้าม คือ ภูมิต้านทาน คือ ความสมบูรณ์ของพืชช่วยต้านทานศัตรูพืชได้ด้วย อยากให้ศึกษา ข้อดี-ข้อด้อย ระหว่าง สารเคมี-สารสมุนไพร ให้ดีก่อนแล้วจึงตัดสิน ใจใช้ จะดีไหม ?

CASE STUDY กรณีศึกษา :
ไม่ใช่เฉพาะข้าวอย่างเดียว ผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆก็เช่นกัน นักเศรฐศาสตร์การเกษตร วิจัยพบว่า ประเทศไทยสูญเสียไปกับผลผลิตที่คุณภาพไม่ถึงเกรดพรีเมียมจำนวนมาก หมายความว่า ผลผลิตที่ได้เป็นเกรดฟุตบาธมากกว่าเกรดพีเมียม การแก้ปัญหาของเกษตรกร คือ ขายราคาเท่ากันทุกเกรด (เกรดคละ) ด้วยราคาต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของเกรดพรีเมียม คนรับซื้อรับไปแล้ว สร้างราคาใหม่ เกรดต่ำสุด ขายราคาที่รับซื้อมา เกรดสูงกว่าขายแพงกว่าราคาที่รับซื้อ กระทั่งเกรดดีสุดขายราคาสูงสุด สรุป คนรับซื้อเอาไปขายมีแต่ กำไร +กำไร .... เกมส์นี้เกษตรกรผู้ผลิต ต้องยอมรับ เพราะบำรุงผิด (ผิดธรรมชาติของพืช) ผลผลิตจึงได้แค่นั้น หรือ บำรุงเต็มทีย่อมได้ผลผลิตเต็มที แต่หาก บำรุงเต็มที่ย่อมได้ผลผลิตเต็มที่ เป็นธรรมดา


สมช. 3 : ตัวเองขับรถ 2 แถว ยกที่ดินมรดกให้น้อง น้องทำนาเคมีตกขอบ บอกให้ทำนาแบบสีสันชีวิตไทย ไม่ยอมทำตาม.... ตอบ : ประเพณีไทยว่าด้วยคนในครอบครัวเดียวกัน พ่อ-แม่-พี่-น้อง-ลูก-หลาน-เหลน-โหลน-ภายหน้า มักไม่ค่อยเชื่อกัน ....เคยมีตัวอย่าง คนในบ้านเดียวกัน บอกกัน ไม่ค่อยเชื่อไม่ค่อยฟัง เขาแก้ไขโดยให้คนอื่น พูด-บอก-สอน แทน .... งานนี้ยอม ยอมจริงๆ

สมช. 4 : ทำเกษตรสไตล์สีสันชีวิตไทยตั้งแต่ยุค โฆษณาไบโอคิง, งานสัญจรสวนลุงช้างแม่ลูกดก, โครงการอบรมอาสาป้องกันภัยทางอากาศ ที่ นปอ. ดอนเมือง ... ตอบ : ป่านนี้ยังไม่รวยอีกหรือ ?

สมช. 5 : ลูกมีงานทำ เป็นมนุษย์เงินเดือน ... ตอบ : หากุศโลบาย ให้เขา ทำปุ๋ย-ทำยา สูตรที่ลุงคิมทำนี่แหละ ทำเป็นอาชีพเสริม ทำที่บ้าน ทำตอนกลางคืน ทำวันหยุด ให้ลูกทำแล้วพ่อกับแม่เอาไปขาย ขายในเขตหมู่บ้าน เขตตำบลตัวเองนั่นแหละ ขายได้เงินให้ลูกให้หมด เชื่อว่า แบบบนี้น่าเป็นแรงจูงใจได้นะ เอาเถอะ ลูกน่ะ เราให้ได้แค่ชีวิตเท่านั้น เส้นทางชีวิตเขาเลือกเอง แม้แต่เพศเขายังเลือกเองเลย ว่ามั้ยล่ะ...

สมช. 6 : ทำนาข้าว 12 ไร่ บางที่นาทำนาบัว 2 ไร่... ตอบ : เอานาข้าวก่อน หาตลาดหรือแหล่งรับซื้อก่อนแล้วทำข้าวคนรวยกิน ขายเป็นข้าวเปลือกหรือสีเป็นข้าวสารพร้อมหุง ข้าวคนรวยกิน ข้าวสังข์หยดพัทลุง ข้าวลืมผัว ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมมะลิ ข้าวมะลิดำหนองคาย ทำเป็นข้าวกล้อง ข้าวฮาง คุณภาพซูพรีม พรีเมียม ปลอดสารเคมี .... สำหรับนาบัว ทำนาบัวแจ๊คพ็อตเก็บดอกช่วงเข้าพรรษา ออกพรรษา ตลอดปี ขายดอก-ขายใบ-ขายฝัก-ขายสาย-ขายหัว ได้ง่ายๆ ใช้ ไบโออิ+ไทเป เท่านี้แหละ ก็เหลือแต่ว่าจะ ทำเองหรือซื้อ เท่านั้น

สมช. 7 : รู้ได้ไงว่า ดิน น้ำ ปุ๋ย ตัวไหนเป็นกรด เป็นด่าง ?.. ตอบ : กระดาษวัดค่า พีเอช. ร้านศึกษาภัณฑ์พาณิช มีขาย กล่องนึง 500 บาท 200 อัน ใช้งานได้ 200 ครั้ง ว่าแต่ รู้วิธีใช้งานไหม เท่านั้นแหละ..

สมช. 8 : ให้ปุ๋ยทางน้ำหยด ใช้หม้อปุ๋ยรุ่นไหน ? .. ตอบ : เท่าที่ติดตามข้อมูลเรื่องนี้มา ทั้งดูของจริง ทั้งวิเคราะห์ตามหลักวิชาการแล้ว พอจะสรุปได้เลยว่า ปุ๋ยปล่อยไปกับระบบน้ำหยดไม่ได้ ถ้าปล่อยไปเนื้อปุ๋ยจะตกตะกอนอยู่ที่ต้นทางที่ปล่อย เพราะการทำงานของระบบน้ำหยดไม่มีแรงดันน้ำ ถึงมีก็น้อยมาก น้ำจึงไหลไปช้าๆ ช้ามากๆ ลงท้ายเนื้อปุ๋ยซึ่งมีความถ่วงจำเพาะ (ถพ.) มากกว่าน้ำเนื้อปุ๋ยเลยตกตะกอนอยู่ตรงนั้นนั่นเอง .... ปัญหาเนื้อปุ๋ยตกตะกอนนอนก้นแก้ไขโดยให้น้ำมีแรงดัน แรงดันมากๆ นั่นคือเปลี่ยนระบบสปริงเกอร์แบบน้ำหยดเป็นแบบน้ำพุ่งออกที่หัวสปริงเกอร์เท่านั้น... สปริงเกอร์แบบน้ำหยดเหมาะสำหรับปลูกพืชในภาชนะ (ถุง กระถาง กระบะ) ซึ่งก็ให้ได้แต่น้ำเปล่าๆเท่านั้น ให้ปุ๋ยไปกับน้ำไม่ได้ หากจะให้ปุ๋ยจริงๆ ต้องให้ทางสายยาง ฉีดพ่น น้ำ+ปุ๋ย ลงที่โคนต้นโดยตรงเท่านั้น

สมช. 9 : คนเช่าที่นา ขายข้าวแล้วขาดทุน แก้ไขยังไง ?.. ตอบ : ใช้สูตรนาข้าว “เลยตามเลย ไหนๆก็ไหนๆ” ใบโออิ+ยาน็อค นี่แหละ ฉีดพ่นทางใบไปเลย ทุก 7 วัน หรือห่างหน่อย 10 วันครั้งก็ได้ งานนี้ขอขยันอย่างเดียวเท่านั้นแหละ ลงท้าย ข้าวลีบ-ข้าวป่น-เมล็ดไม่ใส่-เมล็ดไม่แกร่ง-น้ำหนักไม่มี จะหมดไป ถามจริง คนเป็นเจ้าของนาให้เช่า อยากเห็นคนเช่ามีรายได้ดีๆจากการทำนาที่เขาทำไหม.... ผญ.เฉลิมฯ ท่ามะกา กาญจนบุรี ลงทุนซื้อ ไบโออิ. + ยาน็อค. รวม 4 ชุด สำหรับลูกบ้านเช่าที่นาเจ้าละชุด กำชับนักกำชับหนา งานนี้ใช้สูตรเลยตามเลย ขอกล้าขยันอย่างเดียวเท่านั้น ฉีดพ่น ไบโออิ+ยาน็อค ทุก 7 วัน รับรองตัดปัญหา ข้าวลีบ-ข้าวป่น-เมล็ดไม่ใส่-เมล็ดไม่แกร่ง-น้ำหนักไม่มี แน่นอน แถมไม่มีโรคแมลงมาวอแวอีกด้วย

สมช. 10 : สมุนไพรยาน็อค เก็บได้นานเท่าไร ?.. ตอบ : เท่าที่ทำแล้วเก็บตัวอย่าง บันทึกวันทำไว้ เวลาผ่านไป 3 เดือน 6 เดือน สภาพทุกอย่างยังเหมือนเดิม.... เอางี้ซี่ เราได้ไปแล้วเก็บในร่ม อุณหภูมิห้อง เก็บนานแล้วสังเกตุ สี-กลิ่น-กาก-ฝ้า-ฟอง-ตะกอน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นแสดงว่าผิดปกติ ทิ้งไปเถอะ แต่ถ้าทุกอย่างยังปกติเหมือนเดิมที่มาครั้งแรกๆ แสดงว่ายังดีอยู่ ใช้ต่อไปได้.... ว่าจริงๆ คนที่ซื้อไปแต่ละรอบ แต่ละครั้ง ซื้อไปใช้แล้ว 3 เดือน กลับมาซื้อใหม่อีกแล้ว

สมช. 11 : ระเบิดเถิดเทิง ให้ทางใบได้ไหม ?.. ตอบ : ได้ แต่ไม่ได้ผลเพราะสารอาหารในระเบิดเถิดเทิงเป็นแบบโมเลกุลใหญ่ สายยาว ผ่านปากใบไม่ได้ ต้องลงทางดินให้รากดูดเข้าต้นเท่า นั้น.... แนวทางแก้ไข คือ ปรับโมเลกุลใหญ่สายยาว ให้เป็นโมเลกุลเดี่ยวสายสั้น โดยการต้มเดือด 100 องศา ซี. นาน 4 ชม. ต่อด้วยต้มพอร้อน ไอกรุ่นๆ อีก 1 ชม. ปล่อยให้เย็น ได้ “ระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล” พร้อมใช้งาน .... ใช้งานอัตราให้ปกติ 20 ซีซี. / น้ำ 20 ล. ให้ทางใบผ่านต้นลงดินเผื่อให้รากกินได้ด้วย .... ระเบิดเถิดเทิงสูตรปรับโมเลกุลพืชรับได้ทั้งทางใบ และทางราก .... ระเบิดเถิดเทิงสูตรปรับโมเลกุล “ฟาจีก้า” อินทรีย์เพียวๆ ไม่ปุ๋ยเคมี....ระเบิดเถิดเทิงสูตรปรับโมเลกุล “โอไฮโอ” อินทรีย์ + ปุ๋ยเคมี.....

สมช. 12 : ขอความรู้เรื่องสปริงเกอร์.... ตอบ : ปัญหานี้เคยมี สมช.ไปเรียนที่ไร่กล้อมแกล้ม สอนกันแบบ LAERNNING BY DOING สัมผัสได้ จับต้องได้กันเลย ที่ RKK มะม่วง 1 โซน 50 ต้น ทำงานคนเดียวใช้เวลา ให้ทางใบ 3 นาที ให้ทางราก 10 นาที ทั่วไป ถ้าเป็นแปลงผัก 1 โซน 1 ไร่ ทำงานคนเดียวใช้เวลา ให้ทางใบ 3 นาที ให้ทางราก 5 นาที นี่แหละ ประสิทธิภาพประสิทธิผลของเนื้องานจากสปริงเกอร์ .... ขอบอกว่านี่แหละ เทคโนโลยีเครื่องทุ่นแรง สปริงเกอร์-หม้อปุ๋ย เกมส์นี้ สปริงเกอร์/หม้อปุ๋ย คือ ตัวช่วยที่ดีที่สุด .... สปริงเกอร์ก็คือเครื่องมือฉีดพ่นธรรม ดาๆตัวหนึ่ง แต่ที่ไม่ธรรมดาก็เพราะสามารถทำงานได้ทุกเวลาที่ต้องการ...

** เช้ามืด .. น้ำเปล่า หรือ น้ำ+สารสมุนไพร ฉีดล้างน้ำค้างกำจัดราน้ำค้าง
** สาย ..... 10 โมงเช้า ให้ปุ๋ย/ฮอร์โมน +ยาสมุนไพร
** เที่ยง .... น้ำเปล่า หรือ น้ำ+สารสมุนไพร กำจัดเพลี้ยไฟ ไรแดง แมลงปากกัดปากดูด
** บ่าย ..... ฝนตกต่อแดด ล้างน้ำฝนกำจัดแอนแทร็คโนส ให้ปุ๋ยกดใบอ่อนสู้ฝน
** ค่ำ ...... น้ำ+สารสมุนไพร ล้างช่อกำจัดราดำ กำจัดเพลี้ยจั๊กจั่น กำจัดหนอน
** มืด ...... กำจัดแมลง ปากกัดปากดูด วางไข่ พาหะ

*** กลางวันฝนตก : .... ฝนหยุดแดดออก (ฝนต่อแดด) ล้างน้ำฝน ป้องกัน/กำจัด แอ็นแทร็คโนส
*** กลางวันฝนตก : .... ไม้ผลระยะสะสมตาดอก หรือ ปรับ ซี/เอ็น เรโช ก่อนฝนตกหรือหลังฝนหยุด ให้ปุ๋ยทางใบป้องกันการแตกใบอ่อน

**** กรณีสปริงเกอร์หม้อปุ๋ย ฉีดพ่นบ่อยๆ ฉีดประจำๆ ลำพังศัตรูพืชตัวเล็กแค่ปลายไม้จิ้มฟัน จะมีภูมิต้านทานอะไรนักหนา โดนสารออกฤทธิ์ในสมุนไพรเข้าไป 2-3-4 ครั้ง ก็อยู่ไม่ได้แล้ว ปัญหาก็คือ ฉีดบ่อยๆ ฉีดประจำๆ ชนิดวันต่อวันหรือวันเว้น ได้ไหม ? ต้องใช้เครื่องมืออะไร ? แบบไหน ? ....

ลองเปรียบเทียบระหว่าง เครื่องฉีดพ่นที่เป็นสปริงเกอร์ ฉีดพ่นครั้งละ 20-30-50 ต้น กับ เครื่องฉีดพ่นแบบลากสายยาง หรือแบบอื่นๆ ที่ฉีดพ่นทีละต้นๆ อย่างไหนประหยัด (เวลา/แรงงาน/พลังงาน/อารมณ์) ประสิทธิภาพประสิทธิผลมากกว่ากัน

ก็มีนะที่บางคนบอกว่า สปริงเกอร์ฉีดพ่นได้ไม่ทั่วทรงพุ่ม อันนี้อยากบอกว่า ไม่จริง ที่ฉีดพ่นได้ไม่ทั่วทรงพุ่มเพราะ "ติดผิดแบบ" ว่าตั้งแต่ การวางท่อ/แรงอัด-แรงดันน้ำ/หัวสปริงเกอร์...

สปริงเกอร์ที่ไร่กล้อมแกล้ม ไม้ผล 1 ต้น สปริงเกอร์ทางใบ 1 หัว ฉีดพ่นได้พื้นที่กว่า 90% ของพื้นที่ทรงพุ่ม ตอนมีลมพัดละอองน้ำจะปลิวซัดไปทั่วทรงพุ่ม 100% ทุกต้นทั่วทั้งสวน

แม้ว่าสปริงเกอร์จะทำงานได้ระดับนี้ก็ไม่ใช่ได้ผล 100% บางสถานการณ์โรคบางชนิด แมลงศัตรูพืชบางอย่างอาจจะแทรกเข้ามาได้ เพราะฉะนั้นจึงควรใช้วิธี ไอพีเอ็ม. หรือการป้องกันกำจัดแบบผสมผสาน คือ ใช้หลายอย่างร่วมกัน เช่น กับดักกาวเหนียว, แสงไฟล่อ, แสงไฟไล่, กลิ่นล่อ, กลิ่นไล่, รวมไปถึงแมลงธรรมชาติ เช่น มดแดงกำจัดหนอน แมลงตัวห้ำตัวเบียน และบำรุงพืชให้สมบูรณ์แข็งแรง เป็นภูมิต้านทานในตัวของต้นพืชเอง

เปรียบเทียบ สปริงเกอร์ vs ลากสายยาง/สพายเป้-เรือปากเป็ด-แอร์บลาสส์
- อายุใช้งาน 1-10-20-30 ปี
- ต้นทุนแรงงาน (ทำเอง/จ้าง)
- ต้นทุนพลังงาน (ไฟฟ้า/น้ำมัน)
- ต้นทุนเวลาที่ทำงาน
- ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของเนื้องาน
- สุขภาพร่างกาย (คนใช้/คนกิน)
- เครดิตความน่าเชื่อถือ (สังคม/ทั่วโลก)
- กระแสโลก
- ฯลฯ

http://kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=6049#33991

สมช. 13 : วันนี้กระแสต่อต้านสารเคมีแรงมาก ลุงคิมคิดยังไง ? .... ตอบ : ที่นี่ คิดเอง-ทำเอง-ขายเอง-แจกเอง.... คิด-ทำ แบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน-มาตรฐานโรงงาน-มีหลักวิชาการรองรับยืนยัน

เกษตรอินทรีย์ๆ ๆๆ ไม่ใช้สารเคมีๆ ก็ให้น่าสงสัยว่า เมื่อไม่ใช้สารเคมีแล้วใช้สารอะไร ป้องกัน/กำจัด ศัตรูพืช เพราะไม่มีพืชใดในโลกนี้ไม่มีศัตรูพืชประจำตระกูลเผ่าพันธุ์ วันนี้ยังไม่มีเพราะยังไม่มา

พืชกับศัตรูพืช เกิดคู่กันมาตั้งแต่กำเนิดขึ้นมาในโลก เป็นล้านปีแล้ว วันนี้ก็ยังอยู่ ไม่น่าเชื่อ เกษตรกรปลูกพืชเป็นอาชีพหลัก เห็นตัว หนอน/แมลง/โรค แต่ไม่รู้จักชื่อ ไม่รู้วัฏจักรชีวิต เกิด-กิน-แก่-เจ็บ-ตาย-ขยายพันธุ์ ของมัน

งานส่งเสริมสไตล์ไร่กล้อมแกล้ม ....
ไม่ส่งเสริมแบบ "กว้างกว้าง" สอนทุกเรื่อง ทุกหัวข้อ ทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรง ทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยอ้อม สอนแบบโฉบผ่าน ไม่เจาะลึก .....

แต่ที่นี่ส่งเสริมแบบ "ฟันธง" เจาะลึกเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับ ปุ๋ย-ยา-เทคนิค-เทคโนฯ-โอกาส-ตลาด-ต้นทุน- ที่ทุกพืชต้องใช้

เน้น H (HOW TO)
ไม่เน้น W (WHO WHAT WHEN WHERE WHY)

ที่ผู้รับการส่งเสริมสามารถ ปรับ/ประยุกต์/เสริม/เติม/เพิ่ม/บวก/ต่อยอด/ขยายผล ให้ตรงกับพืชของตัวเองได้เลย ....

http://kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=6049#33991


บ่น :
พูดคุย-ถามตอบ-ทักทาย ธรรมดาๆ พูดผิดพูดใหม่ได้ พูดไม่หมดพูดเพิ่มได้ พูดแล้วพูดซ้ำได้ .... ถามผิดถามใหม่ได้ ถามไม่หมดถามเพิ่มได้ ถามแล้วถามซ้ำได้ ....ตอบผิดตอบใหม่ได้ ตอบไม่หมดตอบเพิ่มได้ ตอบแล้วตอบซ้ำได้ .... ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ใช้เวลา-พลังงาน-สมอง-อารมณ์-ฯลฯ เท่าไหร่ ? ประเดี๋ยวเดียว ว่ามั้ย ?

เรื่องเดียวกัน จากคำพูดเปลี่ยนเป็นเขียน ๆๆ ๆๆ เขียนเป็นหนังสือ เอกสาร เขียนให้คนอ่าน อ่านแล้ว รู้เรื่อง-เข้าใจ-เห็นภาพ-ได้อารมณ์-ฯลฯ แต่ละครั้งต้อง ใช้เวลา-พลังงาน-สมอง-อารมณ์-ฯลฯ เท่าไหร่ ? .... อยากรู้ ลองทำซี่ !



----------------------------------------------------------------------------------




กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©