-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางวิทยุ 13 SEP * บ่น [1]
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางวิทยุ 13 SEP * บ่น [1]

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 16/09/2019 7:00 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางวิทยุ 13 SEP * บ่น [1] ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 13 SEP
AM 594 เวลา 08.15-09.00 (จันทร์-ศุกร์)
********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม

ผลิตรายการโดย.....
กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

จุดยืนรายการ VISION วิสัยทัศน์รัฐบุรุษ ....
* เกษตรแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม - ตามความเหมาะสม
* หัวใจเกษตร ปุ๋ย - ยา - เทคนิค - เทคโนฯ - โอกาส - ตลาด - ต้นทุน
* ปัจจัยพื้นฐาน ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค
* พร้อมทำเองสอนวิธีทำ พร้อมซื้อสอนวิธีซื้อ

สนับสนุนรายการโดย ....
* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช .... (02) 322-9175-6
http://www.nimut.com/

* ยิบซั่มธรรมชาติ ---- เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์แมกซ์, .... ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ .... (089) 144-1112
http://www.bkgmax.com/kaset/product.html


กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการ

เช่นเคย รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ที่ (081) 913-4986 โทรศัพท์เข้ารายการคุยกันสดๆ ออกอากาศ สร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน (02) 888-0881 และอินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิมดอทคอม เว้บนี้ ถาม 1 บรรทัด ตอบ 1 หน้า ถนัดช่องทางไหนเลือกช่องทางนั้นตามอัธยาศัย นักรบไม่ว่ากัน THANK YOU ....

----------------------------------------------------------------------------------



บ่น :


สูญเสียสารเคมี :
ในการฉีดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชครั้งหนึ่งจำนวน 100 กก. ถูกแมลงเพียง 1 กก. เท่านั้น ส่วนอีก 99 กก. ที่เหลือ ....
.... ปลิวไปในอากาศ 30 กก.
.... ระเหย 10 กก.
.... พลาดแมลงเป้าหมาย 15 กก.
.... ตกค้างอยู่บนพืช ในดิน และน้ำ อีก 41 กก.
จากรายงานการสำรวจขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) พบว่าประเทศไทยมีเนื้อที่ทำการเกษตรมากเป็นอันดับที่ 48 ของโลก แต่ใช้ยาฆ่าแมลงมากเป็นอันดับ 5 ของโลก ใช้ยาฆ่าหญ้าเป็นอันดับ 4 ของโลก และนำเข้าสารเคมีสังเคราะห์ทางการเกษตร เป็นเงิน 30,000 ล้านบาท ต่อปี

https://www.thaihealth.or.th/Content/22316-ไทยนำเข้าสารพิษเกษตรอันดับ%205%20ของโลก%20.html


ข่าว ทีวี.
เมื่อวานนี้ ครั้งแรก (ครั้งแรก จริง ๆ) ที่พูดว่า “ห้ามใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช (พาราควอต ไกรโฟเสต) แล้วใช้สารอะไรแทน” ....กับวันนี้กำลังรอข่าว ห้ามใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชเท่านั้น แล้วไม่ห้ามสารเคมีกำจัดโรคแมลงศัตรูพืช (หนอน แมลง รา แบคทีเรีย) ด้วยหรือ แล้วที่ว่า เกษตรกรมีสารเคมีปนเปื้อนในเลือด นั่นเฉพาะยาฆ่าหญ้าเท่านั้น ไม่มีสารเคมีกำจัดโรคแมลงศัตรูพืชไม่ปนเปื้อนในเลือดเลย ยังงั้นเหรอ ? .... ให้น่าสงสัยว่า เจตนาการนำเสนอข่าวแบบนี้ ต้องการ หรือวัตถุประสงค์ อะไร ?



สารเคมีเกษตร ภัยที่เงียบเชียบ :
จีนสนใจสารสกัดจากพืชถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงขนาดทุ่มวิจัยและพัฒนาในสมุนไพร สะเดา ขิง ข่า ตะไคร้ ดาวเรือง พริก ขมิ้น และมะกรูด เชื่อว่าในอนาคตไม่ไกล โลกจะต้องซื้อสารสกัดอินทรีย์สมุนไพรไล่แมลงจากบริษัทของจีน

หน่วยงานด้านวิชาการเกษตรของ หลายประเทศ ไม่ยอมให้ปราชญ์ชาวบ้านหรือเกษตรกรหัวก้าวหน้าผลิตสารสกัดอินทรีย์สมุนไพรไล่แมลง ถ้าทำใช้เองเล็กน้อย ก็เมตตาอนุญาตให้ทำได้ แต่ถ้าจะทำเป็นปริมาณมากเพื่อจำหน่าย ไม่สามารถทำได้

หน่วยงานด้านวิชาการเกษตรของ บางประเทศ จึงจัด สะเดา ขิง ข่า ตะไคร้ ดาวเรือง พริก ขมิ้น และมะกรูด เป็นวัตถุอันตราย เพื่อให้อยู่ในกำกับของตนเอง ทำให้เกิดความยุ่งยากในการผลิตจำนวนมากเพื่อจำหน่าย

หน่วยงานของรัฐ สร้างมาตรฐานสูงเกินกว่าที่ปราชญ์ชาวบ้านหรือเกษตรกรหัวก้าวหน้าจะปฏิบัติตามได้ เหมือนกับเอามาตรฐานเมอร์ซิเดสเบนซ์มากำกับรถอีแต๋น วิธีการอย่างนี้ทำให้เกษตรกรง่อยเปลี้ยเสียขา ไม่มีการพัฒนาต่อยอดความรู้ด้านสารสกัดอินทรีย์จากพืชท้องถิ่น บั้นปลายท้ายที่สุด ก็ต้องหันกลับไปใช้สารเคมีเหมือนเดิมเพราะซื้อง่ายกว่า และเป็นพื้นฐานเดิมที่เกษตรกรคุ้นเคยอยู่ก่อนแล้ว

การใช้สารเคมีก็ทำให้มีสารพิษตกค้างอยู่ในผลผลิตทางการเกษตร เมื่อส่งไปขายต่างประเทศ ก็ถูกห้ามเข้าประเทศ ผลร้ายกลับมาที่เกษตรกรผู้ผลิตเพราะผลิตได้ แต่ขายไม่ได้

หน่วยงานรัฐ บางประเทศ สร้างตำแหน่ง “เจ้าหน้าที่ตรวจจับเกษตร” ที่มองปราชญ์ชาวบ้านและเกษตรกรหัวก้าวหน้าเป็นผู้ร้าย พวกนี้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างแยบยล เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทเคมียักษ์ใหญ่ ทำหน้าที่ ยึด-จับ-ปรับ เกษตรกรที่เอาพืชพื้นถิ่นมาสกัดเพื่อใช้แทนสารเคมี

เจ้าหน้าที่ตรวจจับเกษตรจะตระเวนไปตามกลุ่มและชมรมเกษตรปลอดสารพิษต่าง ๆ จากนั้นก็จะใช้กฎหมายลงไปจัดการ เช่น ร้านค้าเกษตรจะต้องมีใบครอบครองวัตถุอันตรายที่ต้องต่อใบอนุญาตทุกปี ทั้งที่ขายพวกสมุนไพร สารชีวภัณฑ์ หรือปุ๋ยชีวภาพ กลุ่มปลอดภัย นี่คือความพิกลพิการของกลไกภาครัฐที่เรียก “สารจากพืชสมุนไพรพื้นถิ่น” ว่า “วัตถุอันตราย”

เมื่อเกษตรกรอ่านฉลากข้างกระป๋องสารชีวภัณฑ์ปลอดภัยเจอคำว่า วัตถุอันตราย ก็จะเกิดความสับสน รัฐของ บางประเทศ ยังสร้างความกลัวให้คนที่เกี่ยวข้อง เมื่อพนักงานที่ขายสารปลอดภัยเหล่านี้เจอเจ้าหน้าที่มาตรวจบ่อย ๆ ก็กลัวและลาออก ต้องหาพนักงานขายมาทดแทนอยู่เรื่อย ๆ พนักงานใหม่ยังไม่ได้ผ่านการอบรมก็จะถูกจับซ้ำซากเป็นวัฏจักร

ต่างประเทศ ที่ผมเคยเดินทางไปเยือนพบว่า เจ้าหน้าที่รัฐจับร้านขายสินค้าชีวภัณฑ์ขนาดใหญ่เพื่อเอาผลงานลงสื่อ ส่วนร้านขนาดเล็กก็จะเรียกเงิน บางรายโดนโทษติดคุกตั้งแต่ 1-5 ปี พวกบริษัทเคมีขนาดใหญ่นายทุนชาติจึงใช้วิธีการจัดให้มีการออกกฎหมายที่มัดมือมัดเท้าเกษตรกรรายย่อย ปราชญ์ชาวบ้าน และเกษตรกรหัวก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ

สารเคมียังทำให้เกิดการเจ็บป่วย รัฐต้องเสียงบประมาณสาธารณสุข บางประเทศเป็นชาติรัฐขนาดกลาง ทว่านำเข้าวัตถุอันตรายจากต่างประเทศปีหนึ่งเกือบจะ 2 แสนตัน สินค้าเกษตรก็ขายไม่ได้ ผู้คนก็เจ็บป่วย หันไปทางไหนก็เจอแต่คนเป็นมะเร็ง สภาพแวดล้อมและต้นทุนทางธรรมชาติก็ถูกทำลาย

สารเคมีที่เป็นยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าหนอนแมลงศัตรูพืช ปีละเกือบ 2 แสนตันเหล่านี้ ถูกนำไปอาบชโลมห่มดิน โดยเฉพาะป่าต้นน้ำของประเทศที่ถูกถางจนเหี้ยนเตียนโล่ง แล้วก็หันมาปลูกข้าวโพดและพืชล้มลุกประเภทอื่นแทน เมื่อฝนตกก็ชะล้างเอาสารพิษไหลไปสู่ห้วยหนองคลองบึง กุ้งหอยปูปลากลายพันธุ์ ต้นทุนทางธรรมชาติถูกทำลาย

สารเคมีฆ่าหญ้ามีการปนเปื้อนที่เข้มข้นมาก ปนเปื้อนไปในน้ำดิบจากธรรมชาติเมื่อภายหลังมาทำน้ำประปาที่แม้ผ่านกระบวนการแล้วก็ยังมีสารพิษตกค้าง มีการนำน้ำนมของแม่ลูกอ่อนไปตรวจก็ยังพบสารพิษ ทารกดื่มกินก็เป็นอันตราย

นี่คือสิ่งที่ “บางประเทศ” ต้องแก้ไขโดยด่วนครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย

https://www.thairath.co.th/news/foreign/1494103



ประกาศ ! ! พืชสมุนไพรไทยจัดเป็นวัตถุอันตราย :
วงการสมุนไพรสะเทือน กระทรวงอุตสาหกรรมจัดพริก ขึ้นฉ่าย ตะไคร้ ขมิ้นชัน เป็นวัตถุอันตราย ......
ส่วนกรมวิชาการเกษตรยืนยันคุมสมุนไพรอันตรายเฉพาะแปรรูปเป็นยาฆ่าแมลงเท่านั้น ไม่กระทบกับการบริโภคหรือปลูกแต่อย่างใด....
ทางด้าน เอ็นจีโอ กังขา หวังกีดกันทางการค้า ส่งเสริมสารเคมีมาใช้ในงานเกษตร แนะถ้าให้ดี ยกเลิกไปเลย....

http://www.chemtrack.org/News-Detail.asp?TID=7&ID=296



คิด วิเคราะห์ เปรียบเทียบ :
จากสารสมุนไพร ป้องกัน/กำจัด ศัตรูพืช สู่ ปุ๋ย/ฮอร์โมน ทางใบ ชนิด น้ำ/แห้ง....อีหร็อบเดียวกัน.... นอกจากไม่ส่งเสริมให้ทำเองแล้วยังต่อต้านอีกด้วย.... เพราะอะไร ?

ผญบ.-กำนัน.-นายก อบต.-ปราชญ์ชาวบ้าน.-เกษตรกรดีเด่น.-จิตอาสา ร่วมกัน “ผลิต” ปุ๋ยทางใบ-สารสมุนไพร ใช้ที่ตั้ง สนง.อบต.เป็นสถานที่ผลิต สำหรับเกษตรกรในเขตตำบล โดยมีเกษตรตำบลเป็นหัวแรงใหญ่ .... เป็นไปได้ไหม? ทำได้ไหม? เอาไหม?

---------------------------------------------------------------------------------------





.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©